"................." คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้คนฟังต้องนิ่งเงียบ ในชั่วอึดใจนั้นแม้ความร้อนของแอลกอฮอลล์ก็ไม่ได้ช่วยให้หัวใจของเขาเจ็บน้อยลง
"เจือ....จะไปอยู่กับเจนซิ่นะ"
"ไม่ใช่นะ! คือ..เจือคิดเรื่องนี้มาพักหนึ่งแล้วล่ะฮะ .. พี่ก็รู้ว่าเจือไม่ชอบงานวิศวะเท่าไหร่..ดูตอนฝึกงานซี่ ไปทางนี้ยังไงก็ไม่ไหวหรอก เนอะ~ " เด็กหนุ่มพยายามให้เหตุผลอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจนสุดา จุนเจือรีบลุกไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ เขารู้สึกได้ว่าชายหนุ่มกำลังเจ็บปวดกับอะไรก็ตามที่เขาพูดออกมา ไม่หมือนเมื่อครู่ที่เพิ่งจะมีความสุขกันขนาดนั้น
" พี่ก็รู้ว่า เจือชอบอะไร .. เจือน่ะ ยังไม่เจอสิ่งที่อยากทำจริงจังเลยนะ บางที..ถ้าไปที่โน่น อาจจะเจอก็ได้ " เขาพยายามให้เหตุผลโดยที่ต้องไม่มีเจนสุดาเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างน้อยก็ต้องไม่พูดเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับพี่สาวตัวเองออกไปให้ทินกฤตและตัวเองต้องเสียใจอีก จุนเจือตั้งใจเอาไว้แบบนั้นจริงๆ
"...พี่รู้.."ทินกฤตตอบ เขาพยายามที่จะสงบอารมณ์เอาไว้ ทั้งๆที่รู้สึกเหมือนเพิ่งจะได้อีกฝ่ายมาอยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกับว่านกแสนสวยแสนรักที่ตัวเองพยายามจะให้อยู่ในกรง...ติดปลอกขาล้อมเพชรเอาไว้....กำลังจะบินหนีตัวเองไปเสียอย่างนั้น
"ญี่ปุ่นเองนะฮะ..เจืออยู่ทางโน้นก็จะพยายามทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน .. อีกหน่อยถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงไงว่าผมจะดูแลตัวเอง ดูแลพี่ได้ไหม" ดวงตาคู่สวยสบตาอีกฝ่าย พยายามยิ้มให้ ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย
".........ถ้ามันเป็นสิ่งที่เจือต้องการ....เจือก็ไปเถอะนะ" ทินกฤตว่าพลางมองหน้าของเด็กหนุ่ม พิศมองใบหน้าสวยที่ดูนวลตาจากแสงไฟที่สาดส่องลงมาจากบ้าน
จุนเจือสบตาอีกฝ่ายมือเรียวแตะใบหน้าเย็นเพราะลมที่พัดมานั้น เบาๆ ..มือเรียวสั่นเล็กๆกับความเจ็บปวดในอกนี้
" แต่พี่ไม่อยากให้เจือไปใช่ไหม?..เพราะพี่ไม่ยอมยิ้มให้เจือเลย "
"พี่..." ทินกฤตยิ้มน้อยๆ เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า เขาหาได้ปั้นยิ้มให้เด็กหนุ่มไม่
"ไม่อยากให้เราไป แต่...มันเป็นสิ่งที่เราต้องการ
ถ้าพี่ห้ามก็เท่ากับทำร้ายเจือไม่ใช่เหรอ" มือแกร่งที่สั่นน้อยๆนั้นกระชับปลายนิ้วกับมือของอีกฝ่าย
"เจือรักพี่เทียนนะ....ถึงจะไป เจือก็จะรอพี่ ..
เจือจะทำให้ตัวเองดีพอที่จะอยู่ข้างๆพี่ในซักวัน " เด็กหนุ่มกระชับอ้อมแขนตัวเองแน่น
"เจือรู้..ว่า เจือกำลังเห็นแก่ตัว
แต่ว่าเจืออยากให้พี่เทียนรอ จะได้ไหม? " ข้อมือซ้ายของเด็กหนุ่มสะท้อนแสงเพชรกับไฟที่ระเบียงเป็นประกาย
"พี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอเราไม่ใช่หรือไง " ทินกฤตเอ่ยไปตามตรง ตอนนี้เขาไม่คิดจะมองใครคนอื่นแล้วนอกจากเด็กหนุ่มคนนี้ เจือเองก็กำลังพยายามอย่างมากเพื่อเขาเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ไม่ควรจะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้เพียงเพราะความกลัวว่าจะเปล่าเปลี่ยวใจหากจะต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง
"เจือก็จะรอพี่..สัญญาเลยล่ะ " มือเรียวเลื่อนจากโอบเอวอีกฝ่ายเป็นโอบรอบคอแกร่งนั้น ก่อนจะยิ้มให้ แล้วแตะริมฝีปากหวานๆด้วยรสไวน์นั้นเบาๆ ดวงตาเป็นประกายเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมา
ทินกฤตตอบรับสัมผัสนั้นด้วยการขยับตัวแขนหนึ่งเท้าไปด้านหลังล้อมกรอบอีกฝ่ายให้อิงกับพนักของเก้าอี้ที่ทั้งสองคนนั่งเคียงข้างกันอยู่ ริมฝีปากได้รูปประทับจูบตอบปลายลิ้นไล้เล็มริมฝีปากของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน หากแต่แฝงไปด้วยความปรารถนา
มือเรียวของเด็กหนุ่มลูบผิวหน้าของคนรักไปมา ก่อนจะเพิ่มรสชาติเร่าร้อนของจูบนั้นมากขึ้นอีก ไวน์ขวดที่สองเพิ่งจะพร่องไปไม่ถึงครึ่งแต่ดูท่าจะเมาอย่างอื่นมากกว่าเสียแล้ว
" หนาว..แล้ว " เสียงจุนเจือกระซิบติดริมฝีปากได้รูป ก่อนจะกัดเบาๆอย่างยั่วเย้า ดวงตาคู่คมดูยั่วยวนอย่างบอกไม่ถูก
"หนาวแล้วจะเข้าไปข้างในกับพี่ไหม...." ทินกฤตว่า ชายหนุ่มแน่ใจแล้วว่าถ่านในเตาปิ้งดับหมดแล้ว...ดังนั้นคงไม่มีอะไรข้างนอกให้ต้องห่วงอีกว่าพลางก็ดึงรั้งให้เด็กหนุ่มเดินตามเขาเข้าไปด้านใน
แต่ทันใดนั้น ไหล่บางก็ขืนตัวออกเบาๆ
"เดี๋ยวก่อน .. ขอไปหยิบไวน์ก่อนซี่ ยังกินไม่หมดเลย "
"นี่กะจะมอมพี่ให้น็อคเลยเหรอครับ....ระวังตัวเองจะน็อคเองนะ" เสียงทินกฤตเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะกลั้วอย่างอารมณ์ดี
"ฉลองต่างหาก" จุนเจือตอบกลับมา ประตูห้องนอนถูกปิดลง ความเย็นปกคลุมห้องนอนโดยทั่วแต่เหมือนกับว่าทั้งสองคนจะไม่ได้สนใจ จุนเจือบรรจงรินไวน์แดงลงแก้วชั้นดีสองใบ
"ฉลองที่เราจะไปน่ะเหรอ....ก็ดีนะ โสดชั่วคราว" ทินกฤตไม่วายจะแซวเรื่องการตัดสินใจของอีกฝ่าย
"โสด..แต่เป็นตาแก่แล้ว ระวังเด็กๆจะมารูดทรัพย์เอานะ ยิ่งชอบเด็กๆอยู่ด้วย " คนอ่อนวัยกว่าต่อปากต่อคำ ก่อนจะยื่นแก้วไวน์ให้ แล้วยื่นแก้วของตัวเองไปชนกับอีกฝ่ายเบาๆ
"ฉลองให้..อนาคตของเรา "
"โธ่ คนอุตส่าห์คิดบวกนะครับ...เป็นกำลังใจกันหน่อยก็ไม่ได้" ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่ก็ชนแก้วกับอีกฝ่ายแล้วจิบไวน์สีเข้มนั้นรสชาติของมันดีไม่น้อยเขากลัวใจจริงว่า คนตรงหน้าจะเมาฟุบหลับไปเสียก่อน มือแกร่งดึง แก้วไวน์ออกมาจากมือของเด็กหนุ่ม ไปวางไว้ที่โต๊ะใกล้ๆกับชุดโซฟาเล็กๆที่เจ้าของบ้านตกแต่งไว้เป็นอย่างดี มืออีกข้างก็ยกแก้วไวน์กระดกจนหมดแล้ววางลงเคียงกัน ก่อนจะวางสองมือที่เอวบางของเด็กหนุ่ม
"ฉลองพอแล้วมั้ง....." ประกายในดวงตาของทินกฤตนั้นฉายเด่นชัด
"มาใช้เวลาที่เหลือตอนนี้ให้คุ้มกันดีกว่า”ว่าพลางรั้งมือทียังถือแก้วไวน์ของเด็กหนุ่มให้วางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ
"ดื่มไวน์แล้ว..ก็จะกินเด็กต่อใช่ไหมล่ะ?..ตาแก่ลามก ฮะ ฮะ " นิ้วเรียวแตะจมูกโด่งของคนรักอย่างรู้ทันก่อนจะยื่นหน้าไปจูบอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถอนริมฝีปากออกมา ดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำเพราะฤทธิ์ของไวน์แดงชั้นดี
"ใครว่าตาแก่กัน...."ทินกฤตดึงมือของอีกฝ่ายออกก่อนจะประทับริมฝีปากจูบอีกฝ่ายอย่างร้อนแรง มือแกร่งที่โอบร่างของอีกฝ่ายเข้ามานั้นออกแรงในขณะที่โน้มตัวไปจนแผ่นหลังบางของจุนเจือชนกับประตูห้องที่ปิดสนิทอยู่เบื้องหลัง มืออีกข้างไล้ยั่วยวนที่สีข้างของเด็กหนุ่มผ่านผิวผ้าลื่นมือ แต่มันคงลื่นมือมากกว่านี้หากได้สอดเข้าไปสัมผัสผิวกายขายเนียนของจุนเจือ
.
.
.
.
[Warning : NC-18..โปรดนำทิชชู่มาประกอบการอ่าน..หากไม่ทันเชิญรับทิชชู่ได้ที่พีจังค่ะ..]
.
.
.
"อืม " เสียงครางเบาๆ กับสัมผัสร้อนแรงนั้น แผ่นหลังที่ชินกับประตูไม้นั้นทำให้เขาอุทานเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวให้ชายหนุ่มร่างสูงเป็นฝ่ายพิงประตุไม้นั้นแทน ดวงตาสวยเย้ายวน และท้าทายนั้นสบตาคนรักก่อนจะเป็นฝ่ายจูบปลายคางที่มีตอหนวดเล็กๆนั่น ลงมายังลำคอแกร่งที่แดงเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ริมฝีปากบางแดงจัดนั้นจูบกับลำคอนั้น พยายามที่จะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ใครได้จับผิด ปลายลิ้นร้อนลากไล้กับลำคอของคนรักอย่างยั่วเย้า พร้อมกับมือเย็นๆที่สัมผัสเรื่อยเข้าไปในเสื้อผ่านเอวกางเกงยีนส์ตัวเก่งนั้น
"อืม..เจือ..." มือแกร่งข้างหนึ่งยังไล้กับสีข้างของเด็กหนุ่มในขณะที่อีกมือนั้นเหมือนจะพยายามนำทางให้จุนเจือ ช่วยทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือการปลดเปลื้องพันธนาการออกไปให้พ้นร่างของเขาเสียที
มือเรียวขยับตามที่ชายหนุ่มนำทางไป รู้สึกได้ถึงความเย็นของโลหะของหัวเข็มขัดที่มือของเขาปลดออก ขณะที่ยังคงฝังริมฝีปากอยู่ตรงที่อกเสื้อนั้นโผล่พ้นออกมา มืออีกข้างล้วงลึกเข้าไปสัมผัสกล้ามเนื้ออกแน่นอย่างหลงใหลก่อนจะเคล้นคลึงกับยอดอกของอีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า จุนเจือเงยหน้ามองคนรักของตนอีกครั้งพร้อมทั้งรอยยิ้มราวกับเด็กซุกซน แล้วจึงดึงเสื้อยืดคอโปโลสีน้ำเงินเข้มนั้นขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายถอดมันออก
ทินกฤตตลบชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแผ่นอกขาวมีกล้ามเนื้อได้รูปสวยงามแบบคนสุขภาพดี ผิวกายนั้นเริ่มมีเลือดวิ่งให้เห็นเป็นสีแดงระเรือ มือแกร่งนั้นจับมือของเด็กหนุ่มให้มาแตะที่หัวเข็มขัดของตัวเองอีกครั้ง
"ถอดให้พี่ซิ่ จุนเจือ" น้ำเสียงแหบพร่าปนหอบหายใจเบา...ๆนั้นดังขึ้นเป็นคำสั่งที่เขารู้ดีว่าเด็กซุกซนตรงหน้าคนนี้จะปฏิบัติตามเป็นอย่างดี
" อื้ม..ครับผม " เด็กหนุ่มกระซิบติดยอดอกของคนรักก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ แล้วขยับไปทำแบบเดียวกันอีกข้าง มือทั้งสองข้างเริ่มวุ่นวายกับหัวเข็มขัดนั้นแล้วปลดมันออก ตามมาด้วยกระดุมและรูดซิปลง ก่อนจะค่อยๆดึงขอบกางเกงลงให้อยู่ที่ต้นขา ทินกฤตรู้สึกได้ถึงแรงเม้มของริมฝีปากบางที่ยอดอก ก่อนจะกระตุกกับฟันคมๆที่กัดผิวเนื้อเขาเบาๆ และมือที่ลูบไล้ความเร่าร้อนผ่านผ้าสีดำเนื้อดีที่แนบส่วนที่อุ่นร้อนอย่างยั่วเย้า
"นี่เจือ...ถ้าแหย่พี่มากๆ...แล้วพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะทำยังไงครับ" เสียงของทินกฤตแหบพร่าก่อนจะดึงให้ใบหน้าสวยของจุนเจือเงยหน้าขึ้นมารับจูบร้อนของตัวเอง ปลายลิ้นสอดไล้สัมผัสอุ่นในปากของอีกฝ่าย มือที่รั้งไว้ที่ช่วงเอวดึงเด็กหนุ่มเข้าชิดให้รู้สึกได้ถึงความต้องการของตัวเอง ช่วงตัวท่อนบนเอนไปด้านหน้าเบียดแผ่นอกแกร่งของตัวเองเข้าหาอกของจุนเจือ พยายามหลีกหนีให้พ้นจากบานประตูเย็นเยียบมันไม่ใช่เรื่องที่จะทนได้ง่ายๆเลยหากจะต้องมายืนเกือบจะเปลือยในอากาศเย็นเช่นนี้ นอกเสียจากว่าจะมีใครบางคนมาทำให้เร่าร้อนมากขึ้นไปอีก มือแกร่งอีกข้างจับมือของเด็กหนุ่มให้จับลงมาที่ความต้องการของตนเองภายใต้เนื้อผ้าบางสีดำ
"ตรงนี้หนาวมากก็ไม่ดีนะ"
"งั้น..ไปที่อุ่นๆ..ดีไหม? "เสียงนั้นขาดห้วงเพราะความเร่าร้อนจากกายอีกฝ่าย ที่เขาสัมผัสได้แม้จะผ่านเสื้อผ้าที่ยังคงอยู่ครบ ร่างเพรียวพาทินกฤตมาที่เตียงกลางห้อง โดยที่ยังไม่หยุดแลกปลายลิ้นของกันและกัน เพียงแค่ดันเบาๆ ชายหนุ่มก็เอนตัวลงนอนบนเตียงกว้างแล้ว จุนเจือยิ้มยั่วเย้าอีกฝ่าย แล้วขยับมือไปดึงกางเกงยีนส์ออกจากตัวของคนรัก ตามมาด้วยกางเกงชั้นในสีดำตัดกับผิวขาวที่เริ่มจะเปลี่ยนสีด้วยแรงอารมณ์นั้น มือเรียวลากจากต้นขาก่อนจะไล้นิ้วกับความต้องการของชายหนุ่มเบาๆ มืออีกข้างก็ใช้ศอกยันที่นอนเอาไว้
"อืม...เจือ...." เสียงครางเครือดังจากร่างสูง ปลายนิ้วสอดไล้เส้นผมนุ่มมือนั้นอย่างเหลือจะกลั้น
"เลิกแหย่พี่ได้แล้ว....."
"โอ..เค ไม่แหย่แล้ว " จุนเจือยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่าย เขาชอบเสียจริงๆท่าทางของทินกฤตที่เป็นรองเขาแบบนี้ ใบหน้าสวยแดงเล็กๆเมื่อก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ มันแสดงออกถึงอารมณ์ของเจ้าของที่เขาบรรจงปลุกเร้า เด็กหนุ่มแตะริมฝีปากกับชายหนุ่มเบาๆ ก่อนจะลากปลายลิ้นกับแผ่นอกกว้างอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ เขาเลื่อนตัวลงมา ขบเม้มที่หน้าท้องแกร่ง จนทินกฤตต้องเกร็งหน้าท้อง ก่อนจะแตะปลายลิ้นกับส่วนปลายที่แข็งขืนอย่างกล้าๆกลัวๆ .. ถึงจะทำใจกล้า แต่ก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย..
ได้ยินเสียงครางในคอของชายหนุ่ม เพียงแค่แตะต้องแผ่วก็ทำให้จุนเจือรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะถูกใจในสิ่งที่เขาทำให้เป็นแน่ คิดได้อย่างนั้นจึงทำใจกล้าขึ้นอีกนิด แล้วก้มลงจัดการกับความเร่าร้อนนั้นด้วยปลายลิ้นและริมฝีปากร้อนอย่างยั่วเย้า รสหวานกลิ่นหอมหวานของไวน์ที่ยังหลงเหลืออยูในปาก เรียกความใจกล้าให้กับคนที่มักจะเขินอายในเวลาแบบนี้ได้อย่างน่าประหลาด
"อื้ม เจือ...ทำอะไร...."เหมือนจะรู้ด้วยสัมผัสอุ่นร้อนอ่อนนุ่มที่คงไม่ใช่ฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายเป็นแน่แท้ แต่กระนั้นแล้วกลับอยากเห็นด้วยสายตาของตัวเอง ทินกฤตสูดลมหายใจเข้าลึก สัมผัสของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องทำเช่นนั้นเมื่อขยับตัวใช้ศอกสองข้างยันตัวเองขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะทุกครั้งที่เด็กหนุ่มสัมผัสโอบรัดเข้าหานั้นก็ทำให้เขาแทบอยากจะเอนกายลงไปนอนปล่อยให้อีกฝ่ายกระทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ เสียงลมหายใจสูดเข้าลึกอีกครั้ง ทินกฤตปรือตามองดูอย่างยากลำบาก พลันเห็นใบหน้าสวยมีเส้นผมสีน้ำตาลแดงปรกลงมาของคนรักนั้นขยับเบาๆอยู่ตรงหน้า
หัวใจของชายหนุ่มร่างสูงแทบหลุดกระโดดออกมานอกอก ภาพที่ไม่เคยเห็น เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำ แต่ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ดูเก้อเขินไปบ้าง แต่ใบหน้าสวยที่กำลังพยายามมอบความสุขให้เขาอยู่นั้นชวนมองเหลือเกิน
"อื้ม เจือ....พี่....." ทินกฤตกลืนน้ำลายลงไป เขาทนไม่ไหวแล้ว อยากสัมผัสอีกฝ่ายเหลือเกิน มือแกร่งเอื้อมไปรั้งท้ายทอยของอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นมาจูบตัวเอง รสชาตเมื่อปลายลิ้นสัมผัสริมฝีปากฉ่ำชื้นนั้นยากจะบรรยาย หากแต่ส่งความเร่าร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ร่างแกร่งผลิกกลับให้เด็กหนุ่มลงไปนอนอยู่กับเตียง ดวงตาคมพิจารณาร่างบางที่ยังไม่เสียอาภรณ์ไปซักชิ้น ทินกฤตยืดตัวขึ้นสูงเหนือร่างงบางนั้น
"ขี้โกงชัดๆ....ทำพี่เป็นขนาดนี้แล้วเรายังไม่ถอดเลย"
" อือ..เจือ..ไม่เป็น..นี่ " น้ำเสียงขาดห้วงเมื่อถูกดึงออกมาจากความร้อนนั้น เขาเถียงหลังจากที่ทินกฤตละริมฝีปากออกจากตัวเอง และได้เสียตำแหน่งคนรุกเร้านั้นให้กับชายหนุ่มไปเสียแล้ว
"ใฝ่รู้จริง...ใครสอนมากันนะ" ทินกฤตก้มลงกระซิบข้างใบหูของเด็กหนุ่ม ปลายลิ้นร้อนสัมผัสกับผิวแก้มที่เริ่มมีเม็ดเหงื่อซึมให้เห็น
"ได้เมียดีแบบนี้พี่ค่อยชื่นใจหน่อย" คำพูดหยอกเย้าทะลึ่งตึงตังดังเพียงกระซิบ ทินกฤตฝังปลายจมูกและริมฝีปากลงบนซอกคอขาว ดูดเม้มทิ้งรอยรักเอาไว้ด้วยยากจะห้ามใจเอาไว้ได้ ในขณะที่มือแกร่งสอดเข้าลึกไปในอกเสื้อ ปลายนิ้วหยอกเอินกับยอดอกของเด็กหนุ่มจนร่างบางนั้นบิดกายเร่า ยินเสียงครางเครือหวานหู จุนเจือไม่ได้เก็บเสียงร้องเอาไว้เลย แน่นอนว่ากลางป่ากลางเขาเช่นนี้จะมีใครมาได้ยิน คิดได้แบบนั้น ทินกฤตรีบปลดกางเกงยีนส์ของอีกฝ่าย ดึงรูดออกไปพร้อมกับชั้นในของเด็กหนุ่ม
" ใคร..ทำให้ดู..ก่อน..ล่ะ? " เสียงหอบหายใจ ปนครางเครือเมื่อทินกฤตรุกเร้าเขาเสียรวดเร็ว มือทั้งสองข้างกอดคออีกฝ่าย ขยับสะโพกให้คนรักจัดการกับเสื้อผ้าเขาออกโดยไว ก่อนที่ความร้อนในกายจะแผดเผาเสื้อผ้าให้ไหม้ไปเสียก่อน
หันกลับมาเห็นเรือนร่างงามที่เขาเฝ้าตระคองกอดมาหลายต่อหลายคืน กระนั้นแล้วกลับไม่เคยรู้สึกอิ่มในร่างกายนี้เลย มิหนำซ้ำยิ่งรู้สึกกระหายอยากมากขึ้นไปอีกจนในใจรู้สึกหวั่นว่าหากอีกฝ่ายไม่อยู่แล้ว เขาจะเฝ้าบอกรักใคร จะดูแลใคร และจะ ทำรักให้กับใคร...ในยามค่ำคืน
"เจือไม่อยู่พี่ต้องบ้าแน่ๆ....." ทินกฤตเอ่ย ก่อนจะใช้มือแกร่งสัมผัสกับความต้องการของเด็กหนุ่มอย่างยั่วเย้า ร้อนแรง หากแต่ช่ำชองชำนิชำนาญผิดแผกกับสัมผัสที่อีกฝ่ายมอบให้เมื่อครู่นัก แต่สิ่งที่ไม่ต่างกันคือ ความรู้สึกหวามไหวที่ส่งผ่านไปจนเด็กหนุ่มบิดกาย สูดลมหายใจเข้าลึกไม่ต่างจากที่เขาเป็นเมื่อครู่เลย
" อ๊า..ดีแล้ว..พี่จะได้..ไม่มีใคร..ตอนที่เจือไม่อยู่กับพี่.. " ร่างบางขยับสะโพกรับสัมผัสของมือร้อน ริมฝีปากบางครวญคราง เรียกร้อง
"พี่เทียน..จูบเจือสิ..อึก..แรงๆ! " เพราะไม่ต้องพะวงว่าจะมีใครที่ไหนมาได้ยินถ้อยคำน่าอายเหล่านี้ เจ้าของร่างสวยจึงได้เรียกร้องออกไปแบบนั้น
ทินกฤตลากปลายลิ้นไปบนผิวกายเรียบเนียนของคนรัก เรื่อยมาจนยอดอกสีสวยที่เขาเพิ่งให้ความสนใจไปเมื่อครู่ จูบเม้มจนเกิดเสียงดังชวนให้รู้สึกสั่นสะท้านก่อนขบฟันลงเบาๆเรียกเสียงครางเครือจากอีกฝ่ายได้ไม่น้อย ทินกฤตเหลือบมองใบหน้าสวยของจุนเจือที่สะบัดไปมาราวกับว่าจิตใจของเด็กหนุ่มได้กระจัดกระจายหายไปในความเย็นของอากาศโดยรอบ
"รอพี่แป๊บนะคนดี...." ชายหนุ่มว่ายกตัวขึ้นจูบเบาๆที่ริมฝีปากทีถูกกัดเม้มจนแดงช้ำ ก่อนผละออกจากร่างบางนั้นแล้วลุกไปหยิบสิ่งที่จำเป็นจะต้องใช้ จุนเจือต้องผงกหัวขึ้นมองตามอีกฝ่ายไปอย่างช่วยไม่ได้ ร่างบางหอบหายใจถี่ พยายามที่จะสะกดกลั้นความต้องการที่กำลังประทุในตัวของตนเองให้ลดทอนความร้อนให้น้อยลงบ้าง
ร่างสูงเดินกลับมาพร้อมกับขวดพลาสติกเล็กๆในมือ เขาเตรียมร่างกายของตนเองจนเรียบร้อย ก่อนจะต้องหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมมองร่างของคนรัก คิ้วทั้งสองเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ
" เจือ...นั่นท่าอะไรน่ะ " ชายหนุ่มเห็นคนรักของตน ใช้สองแขนเท้าลงบนเตียง ร่างเพรียวยืดตัวขึ้นสูง ในขณะที่ สะโพกมนบิดเร่าไปมาด้วยอารมณ์ ณ เวลานั้น ทินกฤตหันไปมองขวดไวน์ที่อยู่บนโต๊ะ เขาอยากรู้นักว่าไวน์ขวดนี้มีส่วนผสมอะไรที่ทำให้คนรักของเขากลายสภาพเป็นแบบนี้
"เจือ...เป็นอะไรมากรึเปล่า" ชายหนุ่มเดินเช้าไปใกล้ เขานั่งลงที่ข้างเตียง
"เมาขนาดนั้นเลยเหรอ"ทินกฤตถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็น และต้องการอะไร
"เมา..อะไรเล่า!!..เจือ ไม่ไหว แล้วนะ " เด็กหนุ่ม หอบหายใจยิ่งขยับตัวก็ยิ่งรู้สึกเร่าร้อน ทั้งๆที่คนรักไม่ได้แตะตัวเองด้วยซ้ำ คำตอบที่ได้รับทำให้ริมฝีปากของร่างสูงเหยียดยิ้มอย่างพึงใจ
"รอบนี้ไม่ขอนะ ทำเลยก็แล้วกัน"ร่างสูงเข้าประชิดตัวของเด็กหนุ่มทันที จุนเจือรู้สึกได้ถึงปลายนิ้วที่เลื่อนไล้ตามร่องสะโพกบางพร้อมกับเจลเย็นๆที่ช่วยหล่อลื่น และเตรียมรับสิ่งเกิดขึ้น ริมฝีปางบางครางเครือออกมาอย่าช่วยไม่ได้ สะโพกบางขยับรับปลายนิ้วอย่างรู้งาน
ร่างสูงถอนปลายนิ้วออก แทนที่ตัวเองด้วยความต้องการของตนเอง ร่างแกร่งเสือกกายเข้าหาเด็กหนุ่ม ใบหน้าคมสะบัดขึ้นสูงด้วยความอุ่นร้อนจากร่างนั้นโอบรัดเขาแน่นเหลือเกิน มือแกร่งทังสองข้างยึดสะโพกบางเอาไว้แน่น ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างพึงใจจากร่างบางที่ยังคงใช้มือยันกายเอาไว้อยู่บนเตียงนอนสี่เสา ผ้าม่านที่ใช่แต่งเตียงอยู่นั้นขยับไหวเบาๆ เมื่อร่างของชายหนุ่มเริ่มขยับกายเข้าหาเด็กหนุ่ม
" อ๊า พี่เทียน พี่เทียน!! " เสียงร้องครวญครางเป็นชื่อของชายหนุ่มนั้นดังลั่นห้อง ราวกับว่ากรีดร้องในส่วนที่ตนเองไม่อาจส่งเสียงออกไปได้ช่วงเวลาที่ผ่านมา สะโพกบางขยับรับความร้อนที่แทรกเข้ามาภายในอย่างยั่วเย้า
"อ่ะ เจือ...อื้ม..." ทินกฤตเองก็พึมพำเป็นชื่อของเด็กหนุ่ม ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันเมื่อขยับกายเข้าหาอย่างเร่าร้อน ชายหนุ่มมองแผ่นหลังขาวเนียนที่มันปลาบเพราะเหงื่อกาฬที่ซึมออกมาจากผิวกายด้วยสายตาประหนึ่งคนละเมอ ก่อนเลื่อนมือไล้ไปบนแผ่นเนื้อเรียบลื่นนั้นอย่างหลงใหล สอดแขนเข้าใต้วงแขนของเด็กหนุ่มก่อนรั้งให้ร่างนั้นยกขึ้นจนแผ่นหลังติดกับอกของตนเองทั้งที่เบื้องล่างยังแทรกกายเข้าหาเหมือนไม่รู้จักพอ ทินกฤตจูบข้างแก้มของเด็กหนุ่มที่ยิ่งครางเครือออกมาเป็นชื่อเขาอย่างหลงใหล อีกฝ่ายเหมือนจะขาดใจให้ได้ที่เขาทำเช่นนี้
ทั้งสองคนขยับกายเข้าหากันถี่รัวและรุนแรงมากขึ้น ความต้องการร้อนรุ่มนั้น ร้อนจนแทบระเบิด จุนเจือละมือที่เท้าร่างตนเองกับที่นอนก่อนจะรูดไล้ความต้องการของตนเองอย่างสุดกลั้น รับความร้อนแรงจากคนรักให้ถนัดถนี่กว่าเดิม เสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังเกินจะทน สุดสุดท้ายก็ต้องกรีดร้องประหนึ่งจะสิ้นใจ เมื่อตนเองปลดปล่อยออกมา พร้อมๆกับคนที่รุกรานอยู่เบื้องหลังเองก็เช่นกัน ทินกฤตครางเครือออกมาเป็นชื่อของเด็กหนุ่มอย่างสุดกลั้นเมื่อไปถึงปลายทาง ริมฝีปากร้อนจูบไซ้กับแผ่นหลังเนียนไปเรื่อยเมื่อกระตุกในร่างนั้น
ชายหนุ่มค่อยๆวางร่างบางนั้นนอนลงกับเตียงนุ่ม ริมฝีปากร้อนพร่ำคำรักซ้ำๆก่อนจะถอนกายออกแล้วผละออกไปจัดการกับสิ่งที่สวมอยู่ เพียงไม่นานก็กลับมาดึงร่างบางนั้นเข้ามานอนกอดแล้วห่มผ้าให้ก่อนจะพล่อยหลับกันไปอย่างเหนื่อยอ่อน
+++++++++++++++++
talk: จัดเต็มค่ะ อิ อิ