##ฮันนีมูน...ชุดนอน##
เรื่องมันมีอยู่ว่า..หมอปุ่นเกิดนึกสนุกขึ้นมาในวันว่าง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาน้องชาย..แต่ด้วยความที่ไม่มีคนรับ..ก็เลยส่งข้อความไปว่า
'ตัวเล็ก..พี่ปุ่นแต่งงานแล้วนะ' ไม่มีการตอบกลับจากเบอร์น้องชายตัวป่วน หมอปุ่นที่คิดว่าจะแหย่น้องให้สนุกก็เลยถอดใจ เลิกกวนดีกว่า ตั้งแต่ไอ้เพื่อนเนสมันย้ายกลับไปอยู่บ้านที่กรุงเทพก็เลยไม่มีใครให้แกล้ง ตอนนี้ก็เลยย้ายข้าวของออกจากบ้านพัก ไปเป็นหมอประจำอยู่ที่รีสอร์ทเป็นที่เรียบร้อย
แล้ว.....หลังจากนั้นอีกประมาณสองอาทิตย์...ในเช้าวันที่สดใส น่าจะได้นอนกอดหมอนข้างตัวแสบแบบ non stop แล้วประตูห้องก็ถูกทุบ...เออ!! เคาะอย่างแรงนั่นแหละ
"หมอปุ่นๆ" เสียงเรียกคุ้นหูที่แค่ได้ยินก็เดาได้ว่าเป็นใคร แทนที่ลูกบ้านคนเล็กจะเดินไปเปิดประตูห้องต้อนรับคนเรียก มันกลับขยับตัวออกเหมือนจะหลบให้ ลืมตามามองค้อนแล้วนอนหลับต่อ...ซะงั้น ก็เลยลงโทษด้วยการยื่นหน้าเข้าไปฟัดแก้มนุ่มแรงๆ จนได้ยืนเสียงครางขู่ของไอ้เสือนั่นแหละถึงได้พอใจหยุด
"ครับพี่เต้.." สภาพที่เพิ่งจะลุกขึ้นมาจากที่นอนของน้องเขยที่เห็นจนชินตา นายเต้ส่ายหน้ากับตัวเองอย่างเห็นใจ เพราะน้องเขยคุณหมอเพิ่งจะออกเวรกลับมานอนบ้านเมื่อตอนใกล้สว่าง
"มีแขกมาหานะ"
"แขก..? ของผมเหรอ...!!?" พี่เต้ที่อยู่ในชุดเตรียมพานักท่องเที่ยวออกเรือไปที่เกาะส่งยิ้มให้ และพยักหน้ายืนยันอีกที เล่นเอาคุณหมอที่เพิ่งตื่นไม่เต็มสติกลอกตาไปมาอย่างมึนจัด พลางคิดไปว่าคงจะเป็นไอ้คุณเพื่อนที่บินลงมาเที่ยวพักผ่อนตามประสา แต่..ไม่ยักกะโทรมาบอก แล้ว..โผล่มาตั้งแต่เช้าแบบนี้มัน..
“เฮ้ย!! นั่น...ฟ้า แล้วก็..ตัวเล็ก!!” บุรุษที่ยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ใครแต่เป็นไอ้คุณน้องเขยกับน้องชายตัวป่วนที่กำลังยืนทำหน้าบูดอยู่เคียงข้าง ..รึเราจะฝันไป..ไอ้หมอปุ่น!!!?
.
.
.
.
.
“จ๊ากกกกก เจ็บๆ ตัวเล็กมาหยิกพี่ทำไม!!” ตัวจริงยิ่งกว่านิยายซะอีกครับท่าน ตัวป่วนกะเขยฟ้าตัวเป็นๆ เท่านั้นยังไม่พอไอ้ตัวเล็กมันยังโผเข้ามา ไอ้เราก็นึกว่าจะเข้ามากอด ที่ไหนได้ยื่นมือมาหยิกแขนซะเจ็บไปหมด จากที่คิดว่าตัวเองฝันก็ตื่นทันตาเห็นด้วยเวลาไม่กี่วินาที
“คุณนายฝากมา เรื่องข้อความที่ส่งไปหาป่วนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” ข้อความ..? อาทิตย์ที่แล้ว...มัน...
“เวรกรรม!! อย่าบอกนะว่าเรามาด้วยเรื่องแค่นั้น โอ๊ย!!” ดูเอาเถอะท่านผู้ชม ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นน้องชาย หรือว่าร่างอวาตาร์ของคุณนายแม่กันแน่ ฟาดเอาๆ พี่มันไม่ใช่กระสอบทรายนะ
“เรื่องแค่นั้นที่ไหน แถมย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วด้วย ไม่เห็นบอกกันซักคำ คุณนายบ่นจนหูชา บอกให้พาพี่สะใภ้ขึ้นไปกราบให้ได้ ป่วนก็เลยเสียสละมาเองเนี้ยะ!!” พอได้ยินคำบ่นเป็นชุดของน้องชาย หมอปุ่นก็เลยอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจับหัวแล้วโยกไปมาอย่างหมั่นไส้จัด
“ครับๆ คุณน้องชาย กระผมผิดไปแล้วครับ” ตัวป่วนหันมาทำหน้าย่นใส่เหมือนไม่พอใจ แล้วก็ก้มลงไปควานหาอะไรบางอย่างในเป้ที่เพิ่งปลดจากหลัง
“อันนี้คุณผู้ชายฝากมา ไม่ได้ให้พี่ปุ่นนะ” หมอปุ่นยื่นมือไปรับกล่องกำมะหยี่ที่ตัวเล็กยื่นมาให้ด้วยสีหน้างงจัด แต่พอเปิดมันออกมาดู ของที่อยู่ข้างในทำเอาอึ้ง ถ้าท่านทั้งสองมาอยู่ตรงหน้าคงได้คลานเข้าไปกราบที่ตัก
“พี่ว่าใกล้ได้เวลาแล้วนะครับตัวป่วน” เขยฟ้าที่นั่งกริบมานานก็ได้โอกาสเปิดปากพูด พร้อมกับดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“จริงซิ!! พี่ปุ่นไปเตรียมตัวเร็วอีกครึ่งชั่วโมงเรือจะออกแล้ว”
“เรือ..!!?”
ตัวป่วน!!! มันป่วนได้สมชื่อจริงๆ (ไม่รู้ว่าน้องชายใคร!!)นัดแนะกับพี่เต้ไว้เรียบร้อย พร้อมติดต่อที่พักบนเกาะเสร็จสรรพ พอลากพี่มันออกมาคุยได้ อีกทางก็ให้พี่เจ้าของรีสอร์ทไปลากไอ้เสือออกมาจากห้อง สรุปว่าวันนั้น ต้องสะพายเป้ออกเรือไปกลางทะเลทั้งที่น้ำยังไม่ได้อาบหน้ายังไม่ได้ล้าง ใส่กางเกงชุดนอน ลากแตะ และที่สำคัญ....ไอ้เสือตัวแสบมันยังไม่ตื่น!!
“ชีต้าห์..ถ้าไม่ตื่นพี่หมอจะหอมแก้ม”
“อืม...” มันจะรู้ตัวไหมว่าตอนนี้ตัวเองกำลังลอยอยู่กลางทะเล ใครเค้าจูงขึ้นเรือมาก็ยังไม่รู้เลยมั้ง ไม่คิดว่าละเมอก็คงคิดว่าตัวเองกำลังฝันไปแหงๆ
“งั้นจะเปลี่ยนมาจูบล่ะนะ”
“อืม..” ทีนี้ล่ะว่าง่ายจริงๆ ไอ้ตอนที่ยังไม่ตื่น มันน่าจัดโชว์ซักชุดใหญ่ซะดีมั้ง ลองให้มีสติครบ มันคงได้หาทางเอาคืนแน่ ส่วนแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน ตอนนี้กำลังนั่งสวีทกันอยู่โน่น ไม่สนใจเลยว่าพี่มันต้องมาคอยดูแลเด็กแสบอยู่ตรงนี้...ทั้งที่เป็นวันหยุดธรรมดาแท้ๆ
“พี่หมอ..ปิดม่านที แสบตา...” เสียงครางละเมอของคนหลับ ทำเอาหมอปุ่นระเบิดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ จะไปเอาที่ไหนมาล่ะผ้าม่าน นี่มันใช่ห้องนอนที่ไหน แล้วที่สำคัญหมอนที่ตัวเองหนุนและกำลังซุกๆหลบแสงอยู่นั่น มันตักคุณหมอไม่ใช่หมอนใบเก่งที่ห้อง เพราะมันน่ารักแบบนี่ไงเล่า ถึงได้ถอนตัวไม่ขึ้นเสียที
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอนั่นน่ะ” พี่เต้เดินเข้ามานั่งข้างๆ ตอนที่ตรวจดูลูกเรือเรียบร้อยแล้ว ยกมือขยี้ผมน้องชายตัวแสบที่ยังหลับเนียนอย่างไม่กลัว
“เดี๋ยวถึงเกาะ ว่าจะจับโยนลงทะเลซักรอบสองรอบ” เรื่องแสบที่ล่ะที่หนึ่ง ขี้เซานี่ก็ไม่เป็นสองรองใคร ยิ่งเมื่อเช้ามืดตอนออกเวรมาโดนกวนให้ตื่นอีก คงทั้งง่วงทั้งเพลีย น่ารักแบบนี้ต้องให้พักจนพอใจจะได้มีแรงเก็บไว้คืนนี้ หึหึ
“อืม..เกาะ..?..ทะเลเหรอ!!?” ด้วยความที่โดนพี่ชายตัวเองจับโยกหัวไปมา หรืออาจจะได้ยินเสียงเครื่องเรือ ไอ้เสือขี้เซามันก็เลยตื่นลืมตาขึ้นมาในที่สุด ลุกขึ้นมานั่งทำตาโตเพราะบรรยากาศโดยรอบไม่ใช่ห้องตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นเรือ..และทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา
“เพิ่งจะรู้ตัวรึไง ดีนะไม่โดนพาไปขายที่สะพานปลา” พี่เต้หันมาแซวน้องชายพร้อมกับเสียงหัวเราะ สภาพคนที่เพิ่งตื่นยังไม่มีสติเปิดปากเถียง ยังคงนั่งขมวดคิ้วหรี่ตามองไปรอบๆตัวอย่างมึนจัด ยิ่งเห็นหน้าผู้โดยสารสองคนบนเรือที่หน้าตาคุ้นๆ ก็ยิ่งคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่นดี
“ตัวป่วน!? พี่ฟ้า!? มาได้ไง!!?” ชีต้าห์ขยี้ตาตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำเอาสองคนที่โดนทักหันไปมองหน้ากันแล้วเปิดปากหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะตอนจะขึ้นเรือก็ทักทายกันไปแล้วรอบหนึ่ง (ตอนที่ไอ้เสือมันยังยืนสัปหงก) คำทักทายที่เล่นเอาหัวเราะกันท้องแข็ง
แล้วไอ้เสือมันก็โดนแซวตั้งแต่กลางทะเลจนมาถึงเกาะ ทำเอาเจ้าตัวหน้าบูดเลยโดนเหวี่ยงกันเป็นแถวๆล่ะงานนี้ พี่เต้ก็เล่นเอาตัวรอดบอกว่าไปดูแลนักท่องเที่ยว
“พี่ปุ่นก็ไปง้อเองซิ ผมกับพี่ฟ้าไม่เกี่ยวเนอะๆ” เวรกรรม!! แล้วไอ้หมอปุ่นมันผิดตรงไหนล่ะครับเนี้ยะ น้องชายตัวป่วนพูดจบมันก็วิ่งแผล็วไปทำตัวเนียนเป็นนักท่องเที่ยวอยู่โน่น
“โชคดีนะปุ่น ถือซะว่ามาฮันนีมูน เหมือนคู่เรา”ขอบใจมากเขยฟ้า..มาฮันนีมูน..ในชุดนอน ที่รีสอร์ทของทางบ้าน!! เยี่ยมจริงๆ
.
.
.
ชีต้าห์ก้าวฉับๆ เดินแยกตัวจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ลัดเลาะไปยังบ้านพักหลังเล็กที่อยู่ท้ายสุด บ้านหลังที่มานอนประจำยามที่อยากมาค้างที่เกาะ ..แต่ตอนนี้กำลังหงุดหงิด เรื่องที่เสียหน้ากลางวงเมื่อกี้ อับอายจริงๆ มีตัวป่วนกับพี่ฟ้าอยู่ด้วยอีก จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะงานนี้ ไม่รู้ว่านอนน้ำลายยืดรึป่าวนะซิ...โอ๊ย!! อายเหอะ!!
“ตัวแสบคร้าบบบ พี่หมอก็ไม่รู้ โดนลากมาเหมือนกันอย่าเคืองกันเลยนะ...” เสียงของใครบางคนที่วิ่งตามหลังมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ ดูจากสภาพพี่หมอก็ไม่น่าจะรู้ตัวอย่างที่บอกนั่นแหละ เพราะยังอยู่ในชุดนอนเหมือนกัน ผมเผ้าก็ยังชี้ไปคนละทางเหมือนคนเพิ่งตื่น...ไม่ต่าง!! แต่มันหงุดหงิดไปแล้วอ่ะ!!
“ไม่ได้เคือง!! ผมก็แค่...อาย” ยิ่งพูดออกไปก็ยิ่งอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย เพราะมันทำให้ยิ่งอายหนักกว่าเก่าซะอีก ทำได้แค่แกล้งกลบเกลื่อนด้วยการหันหลังกลับไปไขกุญแจเดินเข้าไปในบ้านแทน
“ไม่เห็นจะต้องอายอะไร คนกันเองทั้งนั้น” พอวางสัมภาระไว้บนโต๊ะได้ หมอปุ่นก็รีบวิ่งมากอดอ้อนเอาใจไอ้เสือทันที ยังมีอาการฟึดฟัด ฮึดฮัดเหมือนยังออกเคืองอยู่บ้างเล็กน้อยพอเป็นพิธี
“คนกันเองที่ไหน นักท่องเที่ยวเยอะแยะ แล้วดูสภาพผมดิ” หัวฟู หน้ายังไม่ได้ล้าง เสื้อยืดตัวย้วย กางเกงนอนขายาวของไอ้พี่หมอที่หลับหูหลับตาคว้ามาใส่เมื่อตอนจบศึกเช้ามืด ยังดีนะที่มีน้องกุงเกงลิงอยู่ข้างในอีกชั้น ไม่งั้นล่ะก็...ได้อับอายสายตาประชาชียิ่งกว่านี้แน่
“ทำไม?..ตัวแสบของพี่หมอตอนนี้ก็น่ารักจะตาย น่ารัก น่ากอด น่าฟัดไปหมด” ไม่พูดเปล่า ไอ้พี่หมอยังก้มลงมาฟัดจริงๆตามที่พูด ..ก็แหงล่ะสภาพไม่ใช่จะต่างกัน แล้วพี่หมอของผมก็ใช่ว่าจะดูดีน้อยลง แต่..ผมก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเห็นสภาพนี้หรอกนะ!!
“แล้ว..สองคนนั่นมาได้ไง พี่ฟ้ากับตัวป่วนนะ?” ยอมให้กอดแต่ก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุย มิเช่นนั้นได้โดนลากไปคุยอีกห้องก่อนจะรู้ความแน่
“มาฮันนีมูน..” คำตอบที่ได้ยินทำเอาชีต้าห์หันมามองทำตาโตเหมือนไม่อยากจะเชื่อที่ได้ยิน
“พี่หมอมั่วแล้ว!! ผมไปถามตัวป่วนเองดีกว่า...ปล่อยก่อนซิ!!” ชีต้าห์เริ่มทนอยู่เฉยไมได้ เพราะมือไม้ของไอ้พี่หมอเริ่มอยู่ไม่สุข เริ่มซุกซนจับโน่นแตะนี่ แถมไอ้ชุดนอนขอบยางยืดแบบนี้มันก็เหมือนจะเป็นใจซะเหลือเกิน
“จะออกไปแบบนี้ได้ไง ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า’ด้วยกัน’ก่อน” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำเอาขนลุกไปทั้งตัว เข้าใจอยู่หรอกว่าพี่หมอเจตนาดี แต่ไอ้คำว่า’ด้วยกัน’ มัน...ไม่ช่ายยยยย ขืนไปหลงคารมด้วยกันกับไอ้พี่หมอล่ะก็ วันนี้ก็ไม่ได้ออกไปจากห้องชัวร์!!
“พี่หมอก็ปล่อยก่อนซิ ผมจะไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า..อื้อ~~” ข้างล่างก็จะหลุด ข้างบนก็เหมือนจะไม่รอด เอาไงดีว่ะไอ้เสือ
“ไปซิ..พี่หมอก็จะเปลี่ยนเหมือนกัน เริ่มด้วย..อาบน้ำด้วยกันก่อนเลยดีไหม!!?”
“เหวออออ...ไม่เอา ไม่ดี ผมจะเปลี่ยนเอง ไอ้พี่หมอ!!!!”
ว้ากกกก ใครก็ได้ช่วยที เพิ่งจะมาถึงไม่นาน น้องชายเจ้าของรีสอร์ทก็กำลังโดนไอ้พี่หมอหื่นมันลอกคราบ ไม่เหลือแล้วทั้งตัว แถมโดนยังโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วยการจับยัดเข้ามาในห้องน้ำคับแคบ ในสภาพ...เปลือยเปล่า และ..สว่างจนเห็นทุกซอกทุกมุม ถึงจะผ่านมาหลายศึก..แต่ผมก็ยังอายเป็นนะ!!!
“มะ..เมื่อเช้าก็ทำไปแล้วนะ ไม่เบื่อมั่งรึไง!!?” ถามทั้งๆที่ไม่กล้าหันกลับไปมองคนที่เดินตามเข้ามาทีหลัง หัวใจมันเต้นโครมครามเหมือนจะตายให้ได้
“ต่อให้สามเวลาก่อนและหลังอาหารยังไม่เบื่อ...”
“อึก!!” อยากจะอ้าปากเถียงว่าขืนเป็นแบบนั้นคงได้ขาดใจตายกันพอดี แต่ริมฝีปากร้อนที่จงใจกดลงบนไหล่ พร้อมกับฝ่ามือที่สอดกอดมาจากข้างหลัง ชีต้าห์เผลอกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความเคยชิน สายน้ำอุ่นที่ร่วงลงมาจากฝักบัวทำเอาสะดุ้ง ก่อนที่จะถูกจับบังคับให้หันหน้ากลับไปหาคนข้างหลัง สายตาหวานเชื่อมที่มองมาทำเอานึกคำพูดไม่ออก ได้แต่เหลือบตามองตามฝ่ามือหนาที่เอื้อมไปกดสบู่เหลว แล้วเอามาลูบไล้ลงบนตัวให้อย่างแผ่วเบา
“ทำให้พี่ด้วยซิ ไม่งั้นก็ไม่ได้ออกจากห้องน้ำกันพอดี...” เสียงกระซิบต่อมาทำเอาสติที่กำลังกระเจิงกลับมารวมตัวกันอีกรอบ ..เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ไอ้เสือก็เลยหน้าร้อนผ่าวเพราะดันไปคิด...ว่าจะมีอะไร พอเหลือบไปเห็นสายตากึ่งล้อเลียนของอีกฝ่ายเข้า ถึงได้รู้ว่าตัวเอง...โดนหยอกอีกแล้ว!!
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก เหลือบมองไอ้พี่หมอที่กำลังยืนรอให้ฟอกสบู่ให้อย่างไม่อายฟ้าดิน... ใคร..มันจะไปยอมให้โดนแกล้งอยู่ฝ่ายเดียวกันเล่า! ยื่นมือไปกดของเหลวที่อยู่ในขวดมาเต็มฝ่ามือทั้งสองข้าง ก่อนจะโป๊ะลงไปบนเส้นผมของไอ้คนขี้แกล้งแล้วยีให้เป็นฟองอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!!! เล่นอะไรนะ ชีต้าห์!!”
“ฮ่าๆ ก็เห็นพี่หมอไม่มีเวลา ผมก็เลยสระผมให้ไง นี่ๆ เอาไปอีกจะได้หอมๆ” ชีต้าห์กดทั้งแชมพูทั้งสบู่ป้ายมั่วไปหมดทั้งตัวทั้งหน้า แทบจะต้องยกขวดเทกันเลยทีเดียว
“ตัวแสบ!! อย่าให้จับได้เชียวนะ” เพราะแชมพูเข้าตา และพื้นห้องก็ลื่นมากจนไม่กล้าปล่อยมือจากผนังห้อง แต่ยังไงก็ตาม การยึดฝักบัวเอาไว้ก็เหมือนเป็นตัวประกันอย่างดี เพราะถึงยังไงไอ้เสือตัวแสบมันก็ออกไปไหนไม่ได้ถ้าไม่ล้างตัวเสียก่อน...ฮึ่ม!!!
"เอาสบู่ไปด้วย ต่อด้วยครีมนวด ฮ่าๆ" บรรดาแชมพู ครีมนวดและครีมอาบน้ำถูกละเลงเต็มตัวไปหมด พร้อมด้วยเสียงหัวเราะของไอ้เด็กแสบ
หมอปุ่นต้องหลับหูหลับตาคว้าตัวไอ้เสือตัวแสบที่กำลังกดแชมพูในขวดมาป้ายใส่ แสบตาก็แสบ ลื่นอีกต่างหาก แต่ด้วยความที่ห้องมันพื้นที่จำกัดถึงได้คว้ามากอดได้ก่อนที่มันจะยกขวดมาเทใส่ เล่นมวยปล้ำกันอยู่นานกว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ ก็เล่นเอาตัวซีดด้วยกันทั้งคู่ สบู่และแชมพูคงต้องไปขอมาใหม่จากบ้านใหญ่ เพราะเล่นกันจนถึงขั้นล้างขวด!!
.
.
.
.
.
พอตื่นเต็มตามีแรง ก็ได้เวลากินทั้งตัวแสบตัวป่วน แทบจะรวบทุกสิ่งอย่างตรงหน้ายัดลงกระเพาะ ไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ตัวก็เล็กขนาดนั้น กินแล้วเสียของไม่มีการเจริญเติบโตซักนิด
“เออ..ทำไมมาไม่บอกกันก่อนล่ะตัวป่วน” ชีต้าห์หันไปถาม
“อยากมาเซอร์ไพรส์ไง คิดถึงพี่ปุ่นกับชีต้าห์ด้วย ทั้งสองคนเลย” ไอ้เสือเหลือบมองไปทางพี่ฟ้าที่กำลังตั้งใจแกะ กุ้ง แกะปูมาให้ เห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ เพราะแพ้อาหารทะเลก็เลยไม่ต้องหาคนมาแกะ แต่พอเหลือบมองไปทางคนที่นั่งข้าง ก็ยิ้มออกมาได้ เพราะ...พอเห็นว่ากินไม่ได้ ไอ้พี่หมอก็เลยไม่แตะของทะเลตาม
“อย่าซน!!” แล้วก็อย่างที่คาด เพราะพี่หมอยื่นมาตีมือทันทีที่หยิบกุ้งมาวางในจาน ทำตาดุใส่อีกต่างหาก
“รู้แล้วนะ ผมไม่ได้กินเองหรอก!!” พอแกะเสร็จก็ตักไปวางบนจานคนข้างๆพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง ...กินไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแกะให้กินไม่ได้ซักหน่อยนี่..
“ขอบคุณครับ!!” หมอปุ่นเอือมมือไปโยกหัวไอ้เสืออย่างหมั่นเขี้ยว ทั้งที่เพิ่งจะตีกันมาหยกๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง ในเมื่อไอ้เสือมันทำตัวน่ารักน่าหลงขนาดนี้
“อะแฮ่มๆ แถวนี้ยังมีคนอยู่อีกสองคนนะคร้าบบบ” ตัวป่วนเงยหน้าขึ้นมาแซวพี่ชาย แต่คนโดนแซวกำลังอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุด ก็เลยแค่ยิ้มตอบกลับมา แล้วตักของที่ไอ้เสือกินได้มาวางไว้ในจาน แต่ด้วยความที่เจ้าตัวยังขะมักเขม้นกับการแกะกุ้งกับปูเลียนแบบพี่ฟ้า แทนที่จะวางในจานก็เลยต้องจัดส่งกันถึงปากแทน
“ทีตัวเล็กกับฟ้ายังหวานกันน้ำทะเลแทบจืด พี่จะน้อยหน้าได้ไง” พอปากว่างหมอปุ่นก็หันไปค่อนขอดเอาคืนน้องชายตัวเอง เจ้าตัวหันมาทำหน้าย่นใส่ประมาณว่าไม่สน
“แล้วจะอยู่กันกี่วันเหรอ อยู่นานๆนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” น้องชายเจ้าของรีสอร์ททำเป็นยืดอกทำท่าเป็นเสี่ยใหญ่ใจกว้าง และกระเป๋าหนัก เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนที่ร่วมโต๊ะได้เป็นอย่างดี
ตอนเย็นที่รีสอร์ทมีงานเลี้ยงมื้อค่ำเล็กๆ มีกิจกรรมบันเทิงที่จัดให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมเล่น ปล่อยให้นักท่องเที่ยวอย่างน้องชายและเขยฟ้าที่กำลังเพลินเข้าร่วมเล่นเกมไป ส่วนหมอปุ่นก็จูงมือน้องชายเจ้าของรีสอร์ทออกมาอีกทาง ล้วงมือลงไปหาของบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเพื่อความมั่นใจ ว่าไม่ได้ลืมหยิบติดมือมา
“จะพาไปเก็บเปลือกหอยเหมือนคราวที่แล้วรึไง พี่หมอ!” ไอ้เสือที่เดินตามหลังมาเอ่ยถามปนเสียงหัวเราะ
“จุ๊ๆ มันเชยไปแล้ว มุขนั้นเล่นได้ครั้งเดียว” ชีต้าห์หัวเราะคิก ปล่อยให้คุณหมอเจ้าแผนการพาเดินลัดเลาะไปจนถึงหน้าบ้านพัก ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะตกอยู่ในความเงียบสงบ ได้ยินแค่เสียงเพลงแว่วๆ จากห้องอาหารที่กำลังจัดกิจกรรม
“ทำตัวมีลับลมคมในซะจริง คุณพี่หมอ!!” พากันหายออกมาจากงานสองคนแบบนี้ รับรองว่าได้มีโดนแซวตอนเช้าอีกแน่
หมอปุ่นหันกลับมามองเด็กแสบตรงหน้า ที่กำลังทำตาแวววาวเหมือนกำลังรอฟังเรื่องสนุก คนที่กำลังจะเริ่มโรแมนติกก็เลยเริ่มเข้าเรื่องไม่ถูก แกล้งเค้าไว้เสียเยอะบทจะหาคำมาหวานก็เลยไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
“ที่จริง..แม่กับพ่อฝากของมาให้เราน่ะ” ชีต้าห์ยื่นมือไปรับกล่องกำมะหยี่เล็กที่ยื่นมาให้ตรงหน้า พอเปิดขึ้นมาดูก็พบว่าข้างในเป็นแหวนสีทองวงหนึ่ง สลักเป็นอักษร ไม่ใช่ข้อความบอกรัก หรือแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เป็นอักษรต่อท้ายชื่อของคนให้ ...นามสกุลของคุณหมอปุ่น
“พี่หมอ..นี่มัน...มันมากเกินไป..” มือไม้คนรับเริ่มสั่น ทำท่าจะยื่นกล่องที่รับไปส่งกลับคืนมาให้เจ้าของ
หมอปุ่นรับเอาไว้เพราะเกรงว่ามันจะร่วงลงบนพื้นเสียก่อน แต่ก็เปิดกล่องแล้วหยิบของข้างในออกมาเสียเอง แหวนนามสกุลพ่อเตรียมไว้สองวง กะจะให้สะใภ้สองคนที่จะแต่งเข้าตระกูล น่าแปลกทั้งที่เตรียมไว้สำหรับนิ้วผู้หญิงแต่พอมองใกล้ๆแบบนี้ก็ไม่ได้เล็กเกินไปสำหรับไอ้เสือตัวแสบ ออกจะพอดีเสียด้วยซ้ำ ยังกับเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
“ไม่มีอะไรมาก หรือน้อยเกินไป ที่ชีต้าห์กับครอบครัวให้พี่มา ก็มากพอแล้วครับ” หมอปุ่นคว้าข้อมือของคนตรงหน้ามาถือไว้ บรรจงสวมแหวนสลักนามสกุลของตัวเองบนนิ้วเรียว ก่อนจะยกฝ่ามือนั้นขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน ทำเอาตัวแสบตรงหน้าทำได้แค่ยืนนิ่ง
“พี่หมอ..แต่ว่าผม..” อยากจะบอกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับการได้รับมัน แหวนที่สลักนามสกุลเอาไว้ ทางครอบครัวของหมอปุ่นน่าจะเอาไว้ให้สะใภ้ที่สามารถผลิตทายาทได้มากกว่า ไม่ใช่..สะใภ้ที่เป็นผู้ชายแบบนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบก็โดนรั้งเข้าไปในอ้อมแขน
“เป็นของพี่แล้วนะตัวแสบ ใครเข้ามาจีบจะได้มีหลักฐานยืนยันเสียที” หมอปุ่นกดจมูกลงไปแถวขมับแล้วกระซิบบอกพร้อมกับแกล้งถอนหายใจรดต้นคอไอ้เสืออีกที จนโดนหมัดเล็กสอยเข้าให้กลางพุงไม่แรงนัก เจ้าตัวคงทำแก้เขิน
ชีต้าห์ซบหน้าลงไปกับแผ่นอกกว้าง เอื้อมแขนไปกอดตอบเหมือนจะบอกความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดที่มี ครั้งที่แล้วขนาดเป็นแค่เปลือกหอยที่หาได้แถวนั้น ยังมีความสุขจนแทบจะลอยได้ แล้วครั้งนี้เป็นของจริง ถ้าไม่กอดไว้แน่นๆ ตัวอาจจะลอยไปจริงๆก็ได้
“ให้แล้ว..ห้ามเอาคืนนะ ผมไม่ยอมจริงๆด้วย” ความเอาแต่ใจของไอ้เสือยังคงเสมอต้นเสมอปลาย หมอปุ่นคลี่ยิ้มกับตัวเองก่อนจะออกแรงยกคนเอาแต่ใจขึ้นมาจากพื้น น่าแปลกที่ไม่ได้ยินเสียงโวยวาย แถมยังเอาขามาเกี่ยวรอบเอวเป็นลูกลิงอีกต่างหาก
“เอาคืนซิ..ไม่ใช่แหวนหรอกนะ ..แต่เป็น...!!” คำที่กระซิบที่ข้างหูทำเอาไอ้เสือยิ่งกดหน้าลงไปกับไหล่แน่น เพราะของที่จะโดนเอาคืน ..รู้ดีอยู่แก่ใจว่าคืออะไรตั้งแต่แรก เล่นเอาร้อนวูบไปทั้งตัว เมื่อตอนกลางวันรอดมาได้ คืนนี้..คงไม่น่ารอด แต่ก็นั่นแหละครั้งนี้จะยกให้ เพราะได้ของถูกใจมาหรอกนะ
“งั้น..ครั้งนี้..เป็นผมที่ให้คืนพี่หมอ...ได้รึป่าว..?” ประโยคคำถามที่ได้หลุดออกมาจากปากไอ้เสือ แทบไม่ต้องรอให้ได้ยินคำตอบ หมอปุ่นก็แทบจะหิ้วคนพูดตัวปลิวเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว เพราะกลัว...ว่าไอ้เสือมันจะเปลี่ยนใจ แล้วจะไม่ได้ของตอบแทนคืนเพียงพอนะซิ!!
หึหึ...คืนนี้ยังอีกยาวไกล
==================
แวะมาแปะตอนพิเศษแบบเนียน ๆ จะมีใครรู้บ้างนะ คริ คริ
แบบว่าฉลองให้คุณนายที่ได้รับรางวัล
และคิดถึงผู้อ่านทุกท่าน
เร็ว ๆ นี้จะแวะมาแปะเรื่องใหม่...ขอบพระคุณทุกคนที่ติดตาม ปอลอ.ลิง...ลืมบอกไปว่าตอนนี้ทะเลกำลังจะจืดตามที่พี่หมอว่า..เพราะตัวป่วน+พี่ฟ้า ใกล้จะ Coming soon แล้ว
อย่าลืมไปเกาะขอบจอรอกันนะ คริ คริ