เดี๋ยวจะทำสารบัญให้ในหน้าแรกทุกครั้งที่แปะตอนใหม่นะคะ จะได้อ่านได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตาม และคอมเมนต์ให้ค่ะ

(บทที่ 3 ครึ่งหลัง) ตกเย็นผู้หมวดหนุ่มออกมานั่งกินอาหารที่ร้านค้าภายในบ้านพัก เขาสั่งข้าวผัดปูง่าย พร้อมกับต้มยำกุ้ง และไข่เจียวหอยนางรม มากินในมื้อนั้น ทีแรกชายหนุ่มก็ตั้งใจจะกินในบ้านพัก แต่คิดไปคิดมา มานั่งรับลมทะเลกินบรรยากาศด้านนอก น่าจะดีกว่าไปนั่งแกร่วกินในบ้านลำพัง
“สวัสดีครับ คุณกานต์ ขอนั่งด้วยจะได้ไหมครับ”
เสียงคุ้นเคยเอ่ยทักขึ้น ทำให้คนที่กำลังดื่มเบียร์จากแก้วชะงักกึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนทัก พร้อมกับยิ้มรับอย่างเป็นมิตร
“เชิญครับ คุณโทนี่ ทานอะไรหรือยังล่ะครับ ทานด้วยกันเลยไหม?”
โทนี่ยิ้มน้อย ๆ เขาสั่นศีรษะปฏิเสธ แล้วเลือกนั่งลงฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรครับ ผมทานมื้อเย็นค่อนข้างช้าน่ะครับ”
จากนั้นเจ้าตัวจึงหันไปสั่งกาแฟเด็กเสิร์ฟแถวนั้น แล้วจึงชวนกานต์คุยต่อ สายตาก็เหลือบมองไปยังฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่นั่งโต๊ะห่างออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีสีหน้าหงุดหงิด ผิดหวัง เมื่อเห็นเขามานั่งร่วมโต๊ะกับผู้หมวดหนุ่ม
“ดูท่าผมจะมาขัดจังหวะใครบางคนเสียแล้วล่ะครับ แต่ก็เชื่อแล้วล่ะว่าคุณกานต์นี่เสน่ห์แรงจริง ๆ”
“อะ เอ๋? หมายความว่าไงหรือครับ”
กานต์ถามด้วยความสงสัย เพราะเขาก็นั่งกินข้าวอยู่ดี ๆ มองไปรอบ ๆ ก็เห็นมีอีกสองสามโต๊ะที่นั่งกินข้าวกันอยู่เช่นกัน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ … หือ? ดื่มเบียร์ด้วยหรือครับ”
“ครับ ก็นาน ๆ ดื่มที”
กานต์ตอบไปตามตรง เพราะปกติเขาก็พยายามเลี่ยงของมึนเมา แต่วันนี้เป็นวันพักผ่อน เขาจึงนึกครึ้มอยากหาอะไรมาดื่มแกล้มบรรยากาศบ้าง
“ได้ข่าวว่าคออ่อนไม่ใช่หรือครับ”
คำถามตรง ๆ ของโทนี่ ทำเอากานต์ชะงักกึก แล้วมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“คุณรู้ได้ยังไง?”
โทนี่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินสัญญาณเสียงมือถือจากกระเป๋าเสื้อของตนดังขึ้น
“ขอโทษนะครับ ขอไปรับโทรศัพท์สักแป๊บ”
โทนี่พูดขึ้นหลังจากดูเบอร์โชว์ที่หน้าจอ เขายิ้มน้อย ๆ ให้กานต์แล้วเดินเลี่ยงออกไป ผู้หมวดหนุ่มมองตามไล่หลังอีกฝ่ายไปด้วยความสงสัย ทว่าสักพัก โทนี่ก็กลับมา แล้วเอ่ยขอโทษกับคนที่นั่งรออยู่
“ขอโทษนะครับ เห็นทีผมคงต้องขอตัวเสียแล้ว พอดีต้องไปรับเพื่อนน่ะครับ คุณกานต์เองก็อย่าดื่มหนักนักนะครับ ผมเป็นห่วง”
ท้ายประโยคเจ้าตัวลูบแก้มของผู้หมวดหนุ่มแผ่วเบา ทำเอากานต์หน้าแดงวาบ แล้วขยับถอยจนเก้าอี้นั่งเกือบล้ม โทนี่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้ววางธนบัตรใบละพันไว้ใต้ถ้วยกาแฟของตน
“ฝากจ่ายด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”
กานต์ยังคงไม่หายตกใจ แต่พอเหลือบไปเห็นสีแบงค์เขาก็ชะงัก แต่พอจะเรียกโทนี่ให้หยุด เจ้าตัวก็เดินแวบหายไปเสียแล้ว กานต์จึงตัดสินใจเก็บเงินค่ากาแฟของเจ้าตัวเอาไว้คืนภายหลัง แล้วนั่งดื่มต่อเรื่อย ๆ ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของหนุ่มลูกครึ่ง ที่ดูเหมือนจะรู้จักคุ้นเคยในตัวเขาผิดจากคนที่เคยรู้จักหน้าค่าตากันในวันแรกทั่วไป
ดื่มไปดื่มมา กานต์ก็มองขวดเบียร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจึงสั่นศีรษะไปมา กับความลืมตัวของตน หลังจากที่ตัดสินใจจ่ายค่าอาหารและค่าเบียร์เรียบร้อย ผู้หมวดหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินโซเซ ตรงไปเดินเล่นที่ชายหาด แทนที่จะกลับไปนอนพักที่บ้านพักของตัวเอง เพื่อต้องการจะสร่างเมา โดยไม่รู้ว่า การกระทำเช่นนั้นทำให้ฝรั่งกลุ่มที่ยังคงนั่งกินนั่งดื่มอยู่ห่าง ๆ กระหยิ่มยิ้มย่อง และต่างพากันจ่ายเงินค่าอาหารทันที หลังจากที่กานต์ลุกจากไป
ชายหาดยามค่ำคืนไร้ผู้คนนั้นดูน่ากลัวจนไม่น่าออกมาเดิน แต่สำหรับคนเมาซึ่งเป็นตำรวจอย่างกานต์ กลับไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย เขาเดินเรื่อย ๆ ไป ๆ มา ๆ ตามชายหาด แม้จะมีเซบ้าง สะดุดบ้าง แต่ลมบกที่พัดเย็นสบาย ก็ช่วยให้เขารู้สึกสร่างเมาขึ้นมากพอสมควร
“สวัสดีครับคุณ ให้พวกผมเดินเป็นเพื่อนด้วยได้ไหมครับ”
เสียงทักทายเป็นภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง ดังขึ้นจากร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง ของกลุ่มชายฉกรรจ์ราวสี่ห้าคน ที่ดักล้อมหน้าล้อมหลังของตนเอาไว้ กานต์เงยหน้าขึ้นมองคนทัก แล้วหรี่ตาลงอย่างรู้สึกไม่เป็นมิตร ก่อนจะกล่าวปฏิเสธอย่างสุภาพ
“ขอโทษนะครับ ผมคิดจะกลับไปพักที่ห้องพอดี คงอยู่เป็นเพื่อนพวกคุณไม่ได้หรอก”
จากนั้นผู้หมวดหนุ่มก็เดินเซ หมายจะฝ่าวงล้อมของฝรั่งกลุ่มนั้นออกไป ทว่า กลับถูกคนที่ทักตน ดึงข้อมือเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิคุณ ก็แค่เดินเล่นสนุก ๆ กันนิดหน่อยเอง”
“ขอโทษ ผมบอกว่าอยากพัก กรุณาปล่อยมือด้วย!”
กานต์บอกเสียงเข้ม แล้วสะบัดมือออก เตรียมจะเดินจากไป แต่ก็ถูกชายคนอื่นล้อมเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิ ทีกับไอ้หนุ่มหน้าตี๋นั่น ทำเป็นหัวเราะต่อกระซิกกันได้ แต่กับพวกเราเดินหนีหรือไง เห็นแบบนี้ พวกเราก็มีเงินจ่ายแกเหมือนกันนะ”
หนึ่งในนั้นเอ่ยกับกานต์ด้วยภาษาอังกฤษอย่างหยาบคายและจาบจ้วง จนคนฟังเลือดขึ้นหน้า เขาเดินตรงกระแทกเบียดร่างตัวเองไปให้พ้นคนกลุ่มนั้น เพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ฝรั่งที่ถูกกระแทกก็เพียงแค่เซไปเล็กน้อย เพราะความเมาและรูปร่างที่แตกต่างกันอยู่มากของผู้หมวดหนุ่ม
“จับแม่งกดตรงนี้เลยแล้วกัน เสือกเล่นตัวนัก!”
ฝรั่งหนึ่งในกลุ่มบอก พร้อมกับกระชากร่างของกานต์เหวี่ยงลงไปนอนกับพื้นทราย ผู้หมวดหนุ่มกัดฟันกรอด ก่อนจะตีเข่าใส่คนที่หมายจะคร่อมลงมาล่วงเกินตน แล้วรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่บ้านพัก แต่ก็ไม่ทันอีกสองคนที่มาดักหน้า กานต์เอี้ยวตัวหลบหมัดของคนหนึ่ง แล้วสวนหมัดกลับไปที่ปลายคาง จนไอ้ยักษ์ใหญ่นั่นเซแซด ๆ ล้มลงก้นกระแทก หนุ่มไทยเหยียดยิ้มอย่างสะใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก ที่พวกของฝรั่งกลุ่มนั้นอีกคน ตรงเข้าล็อกแขนเขาจากด้านหลัง และคนที่ว่างอยู่ ก็ชกเข้าที่ท้องของกานต์แรง ๆ จนผู้หมวดหนุ่มจุกตัวงอ ร้องแทบไม่ออก
“ฤทธิ์มากนักไอ้หมอนี่ เอาไงวะสตีฟ ลากไปบ้านพักพวกเรา หรือจัดการกับมันตรงหาดนี่เลย”
ชายร่างยักษ์คนหนึ่งหันไปถามคนที่ถูกชกลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้า ชายคนนั้นสะบัดศีรษะอย่างมึนงง ก่อนจะจับจ้องมาที่ร่างอ่อนแรงปวกเปียกในอ้อมแขนเพื่อนของตน ด้วยแววตาที่โกรธเกรี้ยว เขาตบหน้ากานต์แรง ๆ จนชายหนุ่มหน้าหันไปตามแรงตบ มีเลือดไหลออกมาน้อย ๆ ที่มุมปาก ก่อนจะฟุบคอพับคออ่อนอยู่อย่างนั้น สตีฟมองคนตรงหน้าอีกครั้ง แล้วจึงแลบลิ้นเลียฝีปากช้า ๆ ด้วยความหื่นกระหาย
“เอาแม่งตรงนี้ล่ะ อยากรู้นักว่าลีลาเรื่องนั้น มันจะเด็ดเหมือนฝีมือของมันหรือเปล่า!”
จากนั้นร่างของผู้หมวดหนุ่ม ก็ถูกฝรั่งกลุ่มนั้นจับขึงไปบนพื้นทราย กานต์นั้นมองภาพตรงหน้าที่กำลังลางเลือนลงทุกขณะ แต่เขาก็พอจะรู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องอะไรกับตัวเองในตอนนี้
“เควิน…ช่วยฉันด้วย”
หนุ่มไทยพึมพำกับตัวเอง ด้วยสติอันลางเลือน เขาเห็นใบหน้าแสยะยิ้มของผู้ชายที่ชื่อสตีฟเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนที่สติของตัวเองจะดับวูบลงไป พร้อมกับเสียงตะโกนด้วยความเจ็บปวดของใครบางคนดังแว่วผ่านเข้ามา
....TBC....