บางครั้งคำว่าตัณหาราคะมันก็พาเราไปยังจุดหมายที่เราเองก็ไม่เคยคาดฝันเอาไว้ ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าผมรู้สึกกับไอ้กันต์อย่างไง ผมถึงได้ยอมมันทุกอย่าง แม้แต่ตอนนี้
ตอนที่ผมนอนอยู่ภายใต้อ้อมแขนแข็งแรงของมันครั้งจากที่เรามีอะไรกันไปแล้ว ไอ้กันต์มันก็ไม่ยอมปล่อยผมให้ออกจาอ้อมแขนของมันถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมก็คงเข้าใจว่ามันคงกลัวว่าผมจะหนีมันไป แต่ผมว่าในความเป็นจริงแล้วมันคงแค่กักผมไว้เพื่อบำเรอความสุขเป็นครั้งคราวให้สมกับที่มันทุ่มเงินกับผมไปตั้งมากมาย
แม้เวลาจะผ่านพ้นไปนาทีแล้วนาทีเล่าไอ้กันต์มันก็ยังไม่ปล่อยผม มันยังกอดรัดจนแน่นเหมือนเมื่อหลายนาทีก่อน ปาก จมูก ของมันคอยวนเวียนสูดดมตามเนื้อตัวของผมไปจนทั่วเหมือนกับว่าถ้าผมเป็นขนม มันคงกัดกินจนไม่เหลือไปแล้ว
“ไอ้กันต์ปล่อยเถอะหนัก”
ผมทนนิ่งเฉยจนกลั้นไม่อยู่จนต้องเอยปากออกมา แม้ว่าความจริงผมจะไม่ได้หนักอะไรมากมายเพราะว่าท่าของเราสองคนนั้นนอนตะแคงซ้อนกันอยู่ แต่ผมก็หาเหตุผลที่จะทำให้มันปล่อยผมออกจากไอ้แขนบ้าๆ ของมันไม่ได้
“ขออยู่อย่างนี้ก่อนได้ไหมครับ”
“ไม่เอา...เดี๋ยวใครก็เข้ามาเห็นหรอก”
“ไม่มีใครเข้ามาได้หรอกครับพี่ล็อคไว้อย่างดีแล้ว....เงียบเถอะพี่ขอเวลาอีกนิดนะครับ”
เหมือนกับว่ามันจะรู้ใจผมมากขึ้นทุกวันเช่นเดียวกันที่ผมก็เริ่มรู้จักนิสัยชอบเอาแต่ใจของมันมากขึ้นเช่นกัน ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อไปมันก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อนเลยทำให้ผมต้องเงียบลงไป เพราะผมรู้ว่าถึงผมจะพูดจนปากฉีกถึงรู้หู ถ้ามันไม่อยากปล่อย ทำอย่างไงมันก็ไม่ปล่อยเด็ดขาด
ผมนอนนิ่งๆ จนผมเองก็หลับไปจนมารู้สึกตัวตอนที่มันเรียกผมเบาๆ ที่ข้างหู ผมคงนอนอยู่ในลักษณะเดิมนานเกินไปจนรู้สึกถึงความชาจนเจ็บเหมือนมีใครเอาเข็มเป็นพันๆ เล่มมาทิ่มที่แขนพร้อมๆ กัน
“โอ๊ย.....”
ผมร้องออกมาเบาๆ หลังจากที่ผมขยับตัวขึ้นมานั่งด้วยความยากลำบาก ไอ้กันต์เองพอเห็นว่าผมร้องออกมามันก็มีสีหน้าตกใจแล้วมันก็มานั่งข้างผม
“ขิง...เป็นอะไรครับ แขนเป็นอะไรเหรอ..ไหนมาให้พี่ดูซิ”
พอมันพูดจบผมยังไม่ทันยืนแขนให้มันดูเลยมันก็มาดึงแขนผมไปดูเองซะงั้นใครที่เคยเป็นเหน็บคงรู้ว่ายิ่งมีใครมาจับหรือยุ่งตรงที่เป็นมันจะจี๊ดแค่ไหน แต่ไอ้ควายนี้มันดึงแขนผมไปอย่างแรง ผมที่ออกมาก็คือ ผมแหกปากร้องเสียดังลั่นห้อง
“ไอ้สัด...กันต์มึงปล่อยเลยกูเจ็บ...กูแค่เป็นเหน็บเดี๋ยวมันก็หาย”
ผมด่ามันด้วยความโมโห ไอ้กันต์มันทำหน้างงๆๆ ก่อนที่มันจะหัวเราะออกมา
“อ๊าว...เหรอ พี่ก็นึกว่าที่ทำอะไรรุนแรงไปแขนขิงเลยเจ็บพี่ไม่รู้พี่ขอโทษ”
มันขอโทษพร้อมกับเสียงหัวเราะมันยิ่งทำให้ผมอารมณ์เสียผมเลยส่งมืออีกข้างไปตบที่ปากของมันเพื่อเป็นรางวัล ที่มาหัวเราะซ้ำเติมผมอีกที่ผมเป็นอย่างนี้ก็เพราะมันทั้งนั้น ยังไม่สำนึกอีก
“ไอ้กันต์กูเป็นอย่างนี้เพราะใครห่ะ...ตื่นมาแล้วทำไมไม่เรียกปล่อยกูให้นอนอยู่ได้..อู๊ย...”
พอผมมองมันที่แต่งตัวเต็มยศส่วนผมก็เป็นชีเปลือยอยู่แล้วยิ่งโมโหหนักขึ้น แต่เผลอขยับแขนแรงไปนิดเลยยิ่งเจ็บ
“ก็พี่เห็นว่าขิงหลับอยู่ไงครับพี่เลยไม่กล้าปลุก เดี๋ยวก็อารมณ์เสียอีก”
มันไม่พูดเปล่ามันขยับมานั่งใกล้ๆผมอีกจนผมต้องขึ้นไปนั่งอยู่บนตักมันแล้วตอนนี้เพราะผมไม่มีที่จะขยับหนีแล้ว ส่วนมือมันก็โอบเอวผมไว้ รู้สึกว่าไอ้นี่ไม่เคยพูดเปล่ามันชอบถึงเนื้อถึงตัวผมตลอดเวลา
สัด...เอย...โอบเฉยๆ ก็พอมั้งมันเสือกเอามือมาลูบแถวๆ หน้าท้องผมอีก ทำเอาขนลุกไปทั้งตัวเลย ผมเห็นว่าไม่ดีแน่ถ้าผมยังอยู่อย่างนี้ไม่แคล้วจะต้องเลยตัวอีกแน่นอน ไอ้กันต์มันยิ่งหื่นตัวพ่ออยู่ด้วยในรถ ข้างถนนมันก็ทำทำมาแล้วแค่เบิ้ลสักครั้งสองครั้งมันคงทำได้
ผมจึงเด้งตัวลุกออกมาตอนที่มันเผลอละคิดว่าผมเคลิ้มตามมัน พอหลุดมาได้ผมก็ไปหยิบเสื้อผ้าก่อนที่จะเอามาสวม
“ไอ้กันต์กูกลับแล้วนะ”
ผมบอกกับมันหลังจากที่ผมแต่งตัวเสร็จโดยที่มีสายตาเจ้าเหล์ของมันคอยมองผมอยู่ทุกอิริยาบถ พอมันได้ยินผมบอกอย่างนั้นมันก็ตาโตขึ้นมา
“เอ๊ย...ไม่ได้นะเสียแรงไปตั้งเยอะยังไม่ได้อธิบายให้รู้เรื่องกันเลย”
มันลุกเดินตรงมาหาผม ผมก็ถอยหลังหนี ไอ้กันต์มันยิ่งบ้าอยู่ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับผม
“อธิบายอะไรไม่ต้องหรอก..เรื่องที่กูเห็นมึงก็ทำเป็นลืมๆ ไปเถอะ มึงก็ผู้ชายถ้าจะมีแฟนแล้วมากิ๊กกันในที่ทำงานก็ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรแต่กูแค่อยากเตือนเอาไว้หน่อยว่าเวลาจะทำอะไรกันก็ล็อคห้องหน่อยก็แล้วกันคนอื่นจะได้ไม่เข้ามาเห็น”
พอผมพูดจบไอ้กันต์มันก็หยุดเดินพร้อมกับท่าทางของคนหมดแรง
“ที่ขิงพูดหมายความตามนั้นจริงๆ ใช่ไหมครับ ขิงไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เลยใช่ไหมครับ”
“อืม..ก็ใช่นะซิ..แล้วที่ให้กูรู้สึกนะจะให้รู้สึกอะไรล่ะ กูก็แค่คนที่มึงซื้อมาเพื่อบำเรอมึงก็เท่านั้นเอง”
ผมพูดออกไปเพื่อป้องกันตัวเองใครว่าผมไม่รู้สึกล่ะ ผมรู้จี๊ดในใจลึกๆ ตอนที่ผมเห็นภาพนั้นครั้งแรกจนเปลี่ยนมาน้อยใจจนโกรธ ผมไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกอย่างไงกับมันกันแน่ แต่สิ่งที่ผมควรทำก็คือการป้องกันใจตัวเอง
แต่เพียงที่ผมมองเห็นสายตาตัดพ้อมาจากไอ้กันต์มันก็ทำให้ผมรู้สึกอ่อนไหวไปอีกครั้ง
“งั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำไปให้กับขิง ขิงคิดแค่นั้นใช่ไหมครับ งั้นพี่จะไม่อธิบายมากก็แล้วกันแต่ขอให้ขิงรู้ไว้นะครับว่าผู้หญิงคนนั้นนะเป็นลูกสาวของนายธนาคารที่พี่กู้เงินมาทำห้างสาขาใหม่ไงครับ ห้างที่พี่ต้องการสร้างไว้เพื่อรอให้ขิงเรียนจบแล้วเราก็จะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่อย่างที่ขิงชอบบนกับพี่ไงครับว่าอยากไปอยู่ที่เชียงใหม่เพราะอากาศมันดีกว่าที่กรุงเทพ พี่ต้องยอมให้ผู้หญิงคนนั้นทุกอย่าง พี่ต้องอดทน เพื่อว่าพี่จะได้เงินที่กู้ก้อนใหญ่มาทำตามฝันไงครับ แต่เมื่อขิงคิดได้แค่นี้ พี่ก็จะไม่ว่าอะไรขิงอีกต่อไปครับพี่จะปล่อยขิงไปและพี่จะให้เงินขิงไปตั้งตัวด้วย แต่พี่อยากบอกให้ขิงรู้ว่าพี่รักขิงคนเดียวครับ รักมากที่สุด....”
พอไอ้กันต์มันพูดจบมันก็เดินหันหลังให้ผมไปนั่งที่เก้าอี้ของมันโดยที่ไม่หันมามองผมอีกเลย
“ขิง...ออกไปแล้วก็ปิดประตูห้องแล้วก็บอกเลขาพี่ด้วยว่าวันนี้พี่งดงานทุกอย่างนะครับ”
ผมยังยืนนิ่ง...อยู่กับที่ ทบทวนสิ่งที่ได้ยินมา แล้วก็ยิ่งทำให้ตัวเองตกใจยิ่งขึ้นตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาที่มันทำงานจนหัวหมุนก็เพื่อจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ตามที่ผมเคยบนให้มันฟัง..ไปอย่างนั้นแหละไม่ได้คิดอะไร แต่มันคิดและมันก็ทำตามฝันให้ผม ส่วนผมได้แต่ทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆ คอยดื้อกับมันตลอด
แล้วยิ่งตกใจกับคำว่ารักที่ออกจากปากของมัน การที่ผมมาอยู่กับมัน ทุกคนก็คงรู้ดีว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไง มันไม่ธรรมดา และยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อผมเริ่มรู้ว่าไอ้ความรู้สึกประหลาดที่ผ่านมาของผม มันคือรักแต่ผู้ร้ายอย่างผมมันก็ปากแข็งพอที่จะกดมันไว้ในใจมาตลอด จนผมมาแน่ใจตอนที่มันหันหลังให้ผมนั้นแหละ
“ขิง...ถ้าขิงยังไม่ออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ พี่จะไม่ปล่อยขิงไปแล้วนะ...แล้วอย่าว่าพี่ใจร้ายนะ...ไปซิ แล้วเรื่องทุกอย่างถือว่ามันเป็นฝันก็แล้วกัน คอนโดที่เราอยู่ด้วยกันพี่ยกให้ พรุ่งนี้พี่จะให้นายชัยไปทำเรื่องโอนให้ส่วนเงินในบัญชีพี่จะโอนเข้าให้ทุกเดือนจนว่าขิงจะเรียนจบแล้วมีงานทำที่มั่นคง แล้วข้าวของ ของพี่ ขิงอย่าเพิ่งทิ้งหรือเผามันนะ พี่จะไปเก็บมันด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด แล้วพี่จะให้ชัยมันโทรไปถามขิงเองว่าขิงจะสะดวกตอนไหน พี่จะได้เข้าไปตอนที่ขิงไม่อยู่ เราจะได้ไม่เจอกันอีก”
ตลอดเวลาที่มันพูดมันไม่ยอมหันมามองผมเลย คนที่กำลังจะใจสลายไปพร้อมกับมัน คนที่มารู้ใจตัวเองก็เมื่อสายไปแล้ว ผมเดินหันหลังห่างจากมันมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าประตูพร้อมกับบิดลูกกุญแจ เสียงล็อคของมันดังขึ้นเหมือนกับว่าถาผมผ่านประตูห้องนี้ไปแล้ว ผมก็จะเหมือนทิ้งหัวใจไว้ตรงนี้เหมือนกัน แต่เมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วผมก็จะเดินต่อไป........ผมปิดประตูห้องลงเบาๆ พร้อมกับคำถามในใจว่าผมทำอย่างนี้มันดีแน่ๆใช่ไหม
หลังเสียงปิดประตู......
......ผมได้ยินเสียงผู้ชายสองคนกำลังร้องไห้ ความแตกต่างของเขาทั้งสองก็คือคนหนึ่งมันร้องอยู่ในใจ....ว่าเราจะแก้ไขอะไรได้ไหม....ส่วนอีกคนกำลังร้องสะอึกเหมือนกับกลั่นเอาความอ่อนแอเอาไว้ไม่ให้คนอื่นรู้
ผมก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่ตัดสินแล้วว่าผมเลือกอะไร....?
...แม้ว่า....มัน...จะ.....สาย.....ผมก็จะขอแก้ไขแล้วทำตามหัวใจสักครั้งก็แล้วกัน...ความดี...ของใครที่กำลังหันหลังร้องไห้อยู่ต่อหน้าผมนี้มันทำให้ผู้ร้ายที่ไม่เคยมอบหัวใจให้ใครต้องมายอมแพ้แก่เขา....
ผมโอบกอดไอ้กันต์จากด้านหลังพร้อมกับทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ พูดในสิ่งที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน ไอ้กันต์มีอาการสะดุ้งตกใจก่อนที่มันจะหันมาเจอกับหน้าของผมที่อยู่บนไหล่ของมัน ผมหอมแก้มมันไปหนึ่งครั้ง
“พี่กันต์ผมขอโทษ...ผมก็รักพี่ครับ....แต่ผมไม่เคยรักใครผมเลยป้องกันตัวเอง...ผมไม่อยากเจ็บเพราะรักครับ ผมเห็นใครหลายคนต้องมาตายเพราะรัก ผมไม่อยากเป็นอย่างนั้น พี่กันต์ว่าผมขี้ขลาดหรือเปล่าครับ แล้วพี่กันต์จะยกโทษให้คนขี้ขลาดคนนี้ได้หรือเปล่าครับ”
.......ถ้าไม่อยากตายเพราะรัก..ก็จงอย่ารัก.....ประโยคที่ผมได้ยินมาจากเพื่อนคนหนึ่งก่อนที่มันจะฆ่าตัวตายต่อหน้าผมโดยการยิงตัวตาย สาเหตุเพราะว่ามันผิดหลังจากความรัก ตอนนั้นผมอายุแค่ 15 เท่านั้นเอง และมันก็ฝั่งอยู่ในใจของผมตลอดมา ผมจะปิดกลั้นตัวเองจากคนอื่นตลอดเวลา.....
ไอ้กันต์มันนิ่งจนผมเริ่มใจเสีย...หรือว่าผมช้าไปแล้วจริงๆ ไอ้กันต์ลุกขึ้นช้าๆ แล้วมันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“ถ้าขิงยกโทษให้กับคนที่ทำร้ายขิงได้...พี่ก็ยกโทษให้ขิงได้ครับ”
ผมไม่พูดอะไร ผมเพียงแค่กอดมันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อถ่ายทอดคำว่ารักของผมไปให้มัน ไอ้กันต์ก็เช่นกัน มันก็กอดผมแน่นพร้อมกับจูบหัวเหม็นเหงื่อของผมด้วย....ผมสัญญาว่าครั้งต่อไปจะกอดกับไอ้กันต์ผมจะสระผมก่อนแค่นี้ก็อายมันจะแย่อยู่แล้วววววว.................................