หลังจากกลับจากเชียงใหม่ ผมก็ตัดสินใจกลับไปเรียนอีกครั้ง พวกไอ้ปิงมันดีใจใหญ่ครับ มันนึกวาผมโดนลากไปฆ่าเสียแล้ว ผมเลยตอบแทนมันด้วยฝ่ามือไปหนึ่งที ข้อหาปากไม่เป็นมงคลเท่าไร และมีอีกอย่างที่ผมยังไม่ได้ทำและผมควรจะต้องทำอย่างยิ่ง แต่ผมก็ลังเลมันอยู่ว่าผมจะเริ่มต้นอย่างไง
“เป็นอะไรไปครับขิง ทำไมเงียบๆ ไปล่ะวันนี้ ไม่มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังบ้างเหรอ”
เสียงไอ้กันต์มันทักผม มันคงสงสัยนะครับว่าวันนี้ผมเป็นอะไรไป พอขึ้นมาบนรถได้ก็ไม่พูดไม่จาหรือกัดมันเหมือนทุกวัน ผมหันไปมองมันครับ มันเองก็มีโน็ตบุ๊ควางไว้ที่ตักเหมือนกัน มันคงเล่นเฟชบุ๊ค หรือไม่ก็อ่านเมล์งานของมันนั้นแหละครับ
“ไอ้กันต์ ถ้ามึงทำผิดกับใครสักคนหนึ่ง มึงว่ามึงควรไปขอโทษเขาหรือเปล่าว่ะ”
ไอ้กันต์มันพับจอโน๊คบุ๊คเก็บทันที
“มันก็แล้วแต่นะขิงว่า คนที่พี่ทำผิดด้วยเป็นใคร แล้วพี่ทำผิดกับเขาแค่ไหน”
“แต่ถ้ามันเป็นความผิดมากละมึง ผิดที่เรียกว่าถ้าเขาฆ่ามึงได้เขาคงทำไปแล้ว”
“555555 ขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไม่ตลกนะมึง เอาจริงซิ คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่๐”
“เอาจริงก็ได้ พี่จะไปขอโทษเขา แม้ว่าเขาจะเมินใส่หรือว่าจะฆ่าพี่ พี่ก็จะไปขอโทษเขา ถ้ามันทำให้พี่สบายใจขึ้นและไม่เป็นกังวลอย่างนี้ไง”
คิดไม่ผิดที่มาปรึกษามัน ถึงมันจะเลว แค่ความคิดบางอย่างมันก็พอใช้ได้
“ขอบคุณนะที่ให้คำตอบกับกูอ่ะ”
“อะไรนะขิงว่าไงนะ พี่ฟังไม่ได้ยิน”
กูว่าแล้วคุยกับมันดีๆ ไม่ได้เกิน 10 นาทีมันก็เริ่มกวนตีนอีกแล้ว ผมว่ามันได้ยินนั้นแหละแต่มันทำเป็นไม่ได้ยินชิ....
“กูบอกว่าขอบคุณ”
มันยิ้มครับ แล้วมึงจะยิ้มเพื่อ...?
“ยิ้มอะไรไอ้กันต์”
“เปล๊า....”
เสียงสูงได้อีกนะมึง จากนั้นผมก็กลับไปคิดหาวิธีในการที่จะไปขอโทษใครคนนั้น
แล้วผมก็คิดได้วิธีสุดเจ๋ง...ไม่มีอะไรหรอกครับก็เดินไปหาเขาตรงๆ นั้นแหละวิธีของผมชนมันตรงๆ นี่แหละ ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไงก็ว่ากันไปเลย วันนี้ทั้งวันผมคอยตามเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา แต่เป้าหมายก็ไม่เคยได้อยู่คนเดียวสักที เขาจะมีเพื่อนๆ ของเขาประกบอยู่ตลอด และโอกาสของผมก็เดินมาถึง เมื่อเป้าหมายของผมเดินออกมาจากกลุ่มเพียงลำพัง ผมจึงรีบเดินไปดักเขาเสียก่อน ที่เขาจะหายไปอีก
“บีม....ผมขอพูดอะไรหน่อยได้หรือเปล่าไม่นานหรอก”
บีมเขาอึ้งเหมือนกับว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็เข้าใจว่าถ้ามีใครไปทำร้ายเขาขนาดนั้นเป็นผม ผมก็ไม่อยากพูดหรือเจอหน้าเขาอีกแน่ๆ ผมแทบกลั้นหายใจเพื่อลุ้นกับคำตอบที่บีมจะให้ผม
“ก็ได้...ขิงมีเรื่องอะไรจะพูดกับบีมล่ะ ว่ามาซิ ขิงมีเวลาไม่มากนักหรอกนะ บีมมีเรียนอีก”
ถึงแม้น้ำเสียงของบีมจะไม่เหมือนเดิม เหมือนตอนที่เราเป็นแฟนกัน แต่ยังดีที่เขายังยอมฟังคำพูดของคนเลวๆ อย่างผม
“คือ...ผมจะมาขอโทษบีมกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด ผมรู้ว่าผมขอมากไปที่จะให้บีมยกโทษให้ผม เพราะผมรู้ว่าเรื่องที่ผมทำกับบีมมันร้ายแรงมาก แต่ผมอยากขอโทษด้วยใจจริง ไม่ว่าบีมจะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมทำให้ทั้งหมด ถ้ามันจะเป็นการลบความผิดที่ติดอยู่ในใจของผมลงได้บ้าง”
ผมยืนนิ่งเพื่อรอคำตอบที่บีมจะตอบผมกลับมา
“แค่นี้ใช่ไหมขิง”
น้ำเสียงของบีมเย็นชามาก
“อืม...ใช่”
“งั้นขิงเดินมาใกล้ๆ บีมหน่อยได้ไหม”
ผมไม่รู้ว่าบีมต้องการอะไร แต่ผมก้เดินไปหาบีม ตามที่บีมต้องการ พอผมเดินไปถึงบีมก็เขย่งตัวขึ้นมาจุ๊บที่ปากผมเบาๆ
“นี่สำหรับการลาจากของเรานะขิง ขิงรู้ไหมว่าบีมรักขิงมากแค่ไหน...รักมากขนาดที่ว่าขิงทำร้ายบีมมากขนาดนี้ บีมก็โกรรธ ก็เกลียดขิงไม่ลง ดังนั้นบีมจะไม่ยกโทษให้ขิงหรอกนะ เพราะขิงไม่เคยโกรธขิงเลย”
พอพูดจบขิงก็ต่อยหน้าผมอีกครั้งจนผมหน้าหันไปตามแรงหมัดของบีม
“และนี่สำหรับความจริงใจที่ขิงไม่เคยมีให้บีมเลย”
ขิงพูดไปพร้อมกับน้ำตา ภาพนั้นมันยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้กับผมเป็นอย่างมาก ถ้าผมไม่เลว ไม่คิดหาเงินด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยการไปเล่นพนันบอล ผมกับบีมอาจจะไม่จบด้วยกันอย่างนี้
“และนี่สำหรับคำว่าเพื่อนนะขิง”
แล้วบีมก็ยื่นมือมาจับกับมือของผม ทำไมคนเรามันถึงได้ดีขนาดนี้ ผมมองข้ามบีมไปได้อย่างไงกัน แต่ถ้าให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมมันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้วล่ะ ผมได้แต่สัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายบีมได้อีกไม่ว่ามันคนนั้นจะเป็นใคร ผมจะปกป้องบีมให้ถึงที่สุด
“ขอบใจนะบีม...สำหรับทุกอย่าง”
“แล้วเจอกันนะขิง บีมไปเข้าห้องน้ำก่อน มีเวลาว่างก็โทรมานัดไปกินข้าว ดูหนังบ้างก็ได้ บีมยังใช้เบอร์เดิมนะ”
แล้วบีมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ สำหรับผมมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยที่เดียว ต่อไปผมก็แค่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองให้ได้ก็แล้วกัน
“เป็นไง...วันนี้ยิ้มมาเชียว ไปขอโทษเขาคนนั้นมาแล้วซิ”
ไอ้กันต์มันทักทันที ที่ผมก้าวขึ้นไปนั่งคู่กับมันที่ด้านหลังของรถโดยที่มีนายชัยนั่งประจำอยู่ที่พวงมาลัย
“อืม...ใช่ ไอ้กันต์มึงรู้ป่ะ กูสบายใจมากเลยวันนี้”
“ครับ...รู้แล้วเห็นหน้าก็พอเดาได้แล้วล่ะ”
จากนั้นมาผมก็ใช้ชีวิตที่สงบสุขอย่างที่ควรจะเป็นจนสอบเสร็จนั้นแหละครับ เครียดเกือบตาย ก็ผมไม่ได้ไปเรียนตั้งนาน ดีที่ไอ้ปิงมันช่วยติวให้ก็เลยรอดตัวไปได้ ส่วนความสัมพันธ์ของผมกับบีมก็ดีขึ้นครับ เราเคยแอบไปกินข้าวด้วยกันครั้งหนึ่ง ใช่...แล้วครับต้องใช้คำว่าแอบเพราะว่าขืนไอ้กันต์มันรู้ว่าผมไปกินข้าวกับคนอื่นผมจะต้องเดือดร้อนอีกแน่ๆ แต่อะไรที่มันห้ามผมชอบทำครับ
“ไอ้กันต์วันนี้กูจะไปเที่ยวกับเพื่อนกูนะ”
“เฮ๊ย...ไม่ได้ ถ้าขิงอยากไปรอไปพร้อมพี่ซิครับ”
ผมโทรไปบอกมันหลังจากต้องทนอยู่ในห้องมาหลายวันหลังจากสอบเสร็จ พอดีพวกไอ้ปิงมันโทรมาชวนพอดี ก็เลยหวานเลยผม
“ไม่เอา...ขี้เกียจรอ เพื่อนกูรออยู่ ที่โทรมาบอกเพราะไม่อยากให้เป็นหวงเฉยๆ ไม่ได้ต้องการคนไปด้วย ถ้าวันไหนอยากได้เจ้ามือจะบอกนะ แค่นี้แหละจะไปแล้วห้ามโทรมากวนด้วยรู้ไหม และไม่ต้องเป็นหวง กูเอานายชัยไปด้วย”
ผมร่ายยาวเลยครับเพราะรู้ว่าถ้าผมปล่อยให้มันพุด ผมก็อด และผมก็รีบเอานายชัยมากันมันไว้อีกชั้นหนึ่ง แล้วผมก็ออกไปท่องราตรีกับนายชัยและพวกไอ้ปิงครับ ก็ตามผับเหมือนเดิมนั้นแหละครับ
“ไอ้ขิงน้องคนนั้นเขาอยากรู้จักมึงว่ะ”
“คนไหนว่ะ”
หลังจากมานั่งกันได้หลายชั่วโมง ไอ้ปิงมันก็มาสะกิดให้ผมหันไปมองน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่มันไปคุยกับเพื่อนของเธอเมื่อสักครู่
“ก็เสื้อแดงสายเดี่ยวไง เขาสนใจมึงว่ะ มึงไม่ลองหรือว่ะ เพื่อว่าคืนนี้จะได้มีอะไรทำแก้เหงา กูว่าพักนี้มึงเขี้ยวเล็บหายไปเยอะเลยนะ”
ผมมองเด็กคนนั้น มันก็น่าสนอยู่เหมือนกัน ผมก็อยากรู้ว่าผมยังมีอะไรกับผู้หญิงได้หรือเปล่า และอีกอย่างไอ้กันต์มันก็บอกว่าผมจะมีอะไรกับผู้หญิงก็ได้มันไม่ว่า
ผมตัดสินใจไม่นานผมก็เดินไปหาน้องเขาเลย เพียงแค่พูดกันไม่นานน้องเขาก็ยินยอมที่จะไปกับผมแล้วคืนนี้
“นายชัยเอากุญแจรถมาซิผมจะไปข้างนอกกับน้องเขา”
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อเอากุญแจรถกับเขา
“แต่คุณขิงครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกนายชัยไอ้กันต์มันไม่วาอะไรหรอก”
“งั้นก็ได้ครับ แต่ผมต้องไปด้วยนะครับ ผมจะไปรออยู่ที่หน้าโรงแรม”
ผมตอบตกลงกับนายชัยก่อนที่ผมจะพาน้องเขาขึ้นรถมากับผม นายชัยพาผมมาที่โรงแรมระดับกลางๆ ครับ แต่ผมไม่สนใจหรอก ว่ามันจะดีหรือแย่ขนาดไหน ข้างถนนยังเคยมาแล้ว ผมก็แค่หาทางระบายบ้างเท่านั้น
ผมพาน้องเขาไปเปิดห้อง ไม่ต้องบอกหรอกครับระหว่างทางที่ขึ้นห้องน้องเขาก็ทั้งจับทั้งดึงจนน้องชายผมตื่นตัวไปหมด ไม่รู้ว่าจะใจร้อนอะไรขนาดนี้ พอเข้าห้องได้ก็ไม่พูดอะไรมากครับไฟมันถูกจุดให้ติดมาตั้งนานแล้ว แล้วผมจะรออะไรล่ะ