คุณเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตมั้ย ?
แล้วรักแรกพบล่ะ ?
ผมเองไม่เคยคิดว่ามันจะมีทางเป็นไปได้ พรหมลิขิตอะไรกัน รักแรกพบอะไรกัน เรื่องอย่างนั้นไม่มีทางเป็นไปได้หรอก
ผมเดินเรื่อยเปื่อยท่ามกลางคนมากมาย ทำไมชีวิตในเมืองหลวงมันถึงได้เร่งรีบและดูสับสนวุ่นวายขนาดนี้นะ ผมเดินมองผู้คนไปพลาง คิดในใจไปพลาง
สายตาผมก็ได้มาหยุดที่คนๆ นึง ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับผมที่สำคัญยังเป็นผู้ชายอีกด้วย แต่โลกทั้งโลกเหมือนอยู่กับที่ ผมรู้สึกเหมือนว่ามีเราเพียงแค่สองคนเท่านั้น พอผมกระพริบตาอีกครั้ง……. เค้าคนนั้นกลับหายไปแล้ว ทั้งๆ ที่ผมน่าจะเลิกสนใจแล้วเดินต่อไป แต่ผมวิ่งตามหาเค้าไปทั่ว แต่กลับไม่เจอ …….
ซันหยุดพักเหนื่อยที่ทางเดินเท้าตรงถนนสี่แยกแห่งหนึ่ง สักพักก็มีมือมาแตะที่บ่าซันเบาๆ ทำให้เค้าหันกลับไปมอง แต่แล้วซันก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“ หาผมอยู่เหรอ “ เค้าคนนั้นถามผมด้วยรอยยิ้ม
“ อะ อื้ม “ซันตอบรับเบาๆ และก้มหน้าลง ใบหน้าของซันต้องแดงมากแน่ๆ เลย
“ ผมอ๊อฟ แล้วคุณล่ะ “
“ ซัน ” …………..
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่นี่….
“ ทำไม มาช้าจังล่ะ “ ซันบ่นทันทีที่เห็นหน้าอ๊อฟ
“ โทษที พอดีว่าแวะไปทำธุระมาน่ะ “อ๊อฟตอบพลางหอบด้วยความเหนื่อยเพราะวิ่งมา
“ เหรอ อืม… งั้นก็รีบไปกันเถอะ “ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ซันได้มาพบกับอ๊อฟ ทุกครั้งที่ทั้งคู่จะพบกันได้ อ๊อฟจะเป็นฝ่ายที่นัดมาเอง ซันเคยอยากจะถามเหตุผล แต่ก็กลัวคำตอบที่จะได้รับก็เลยปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป แต่ไม่ว่ายังไงสักวันซันต้องถามแน่
“ ซัน…. “
“ หืม.. “ซันตอบและลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าของอ๊อฟในระยะประชิด วันนี้ทั้งสองคนไม่ได้ไปไหนกันหรอก อยู่แต่ในห้องของซัน
“ เบื่อมั้ย ที่ต้องมารอผมน่ะ ” อ๊อฟถามและเอาหน้าผากของตนมาชนกับหน้าผากของซันไว้
“ ไม่หรอก ” ซันยิ้มให้
“ แล้วถ้าวันนึง ผมหายไป ซันจะรอผมมั้ย ”
“ อืม…นั่นสินะ ชั้นก็คงจะไม่รอหรอก ”
“ เหรอ ” สีหน้าของอ๊อฟสลดลงเล็กน้อย
“ เพราะชั้นจะออกตามหาอ๊อฟเองไงล่ะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ไม่ว่ายังไงชั้นก็จะตามหาอ๊อฟจนกว่าจะเจออย่างแน่นอน ” ซันตอบและเอียงหน้าไปหอมแก้มอ๊อฟ
“ ขอบคุณนะ ” อ๊อฟตอบและหอมแก้มซันคืน
เรื่องราวดำเนินต่อไป......
“ ซันเคยดูเรื่อง The Letter มั้ย ” อยู่ดีๆ อ๊อฟก็พูดขึ้นมาระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งเล่นกันอยู่ภายในห้องของผม
“ อืม ไมเหรอ ” ซันพยักหน้าก่อนจะถามกลับด้วยสีหน้างงๆ และพลางนึกถึงหนังเรื่อง The Letter
“ แล้วถ้าวันนึง ซันต้องเป็นอย่างนางเอกในเรื่องล่ะ ซันจะทำยังไง ” อ๊อฟถามซันต่อและมองด้วยแววตาบางอย่างที่ซันก็เดาไม่ถูก
“ นั่นสินะ ถ้าเป็นชั้นจะทำยังไง อืม……ถ้าชั้นเป็นอย่างนางเอกในเรื่องก็คงเหมือนกันนั่นแหละ คงทนอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะไม่เหลือใครอีกแล้ว แล้วชั้นจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่อใครล่ะ เอ๊ะ แล้วอ๊อฟถามไมเหรอ ”
“ ป่าวหรอก อยู่ดีๆ ผมก็นึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาอะ แต่ผมว่านะอย่างซันต้องดูไปร้องไห้ไปแน่ๆ เลย ก็ออกจะขี้แยซะขนาดนี้ ” อ๊อฟพูดพลางเอามือขยี้ซันของผมเล่น
“ ป่าวนะ ชั้นไม่ได้ขี้แยซักหน่อย อ๊อฟมั่วแล้ว ” ซันพยายามปัดมือของอออกแล้วหันกลับไปขยี้ผมอ๊อฟบ้าง
“ ฮ่าๆๆ จริงเหรอ ” อ๊อฟทำสีหน้าล้อเลียนซัน
“ ไม่เชื่อก็ตามใจ ” ซันแกล้งงอนอ๊อฟ
“ ไม่ได้หรอกนะ ซัน ถ้าเกิดผมเป็นอย่างในหนัง ซันก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เข้าใจมั้ย” อ๊อฟพูดขึ้น ซันหันมามองอ๊อฟ แววตาของอ๊อฟแสดงความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ซันไม่เข้าใจ
“ พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ อ๊อฟ ไม่เอาไม่พูดแล้ว ไปกินข้าวกันดีกว่า ” ซันลุกขึ้นแต่ว่าอ๊อฟก็ดึงซันมานั่งตัก อ๊อฟก้มหน้าลงซบที่ไหล่ของซัน
“ เป็นไรเหรอ อ๊อฟ ” ซันสงสัยกับท่าทีของอ๊อฟมากๆ
“ ป่าวหรอก ผมก็แค่อยากจะอ้อนแฟนมั่งอะ มีไรรึป่าว ” ซันหน้าแดงกับคำว่าแฟนที่อ๊อฟพูดออกมาเพราะ เราไม่เคยพูดออกมาว่าเป็นแฟนกัน แต่วันนี้อ๊อฟพูดออกมา มันทำให้ซันรู้สึกดีใจมากๆ
“ ก็ไม่มีไรหรอก ป่ะ ไปกินข้าวกันดีกว่า ” ซันลุกขึ้นจากตักของอ๊อฟและเดินนำมาที่ห้องครัว
………………….
หลังจากทานข้าวเสร็จทั้งสองคนก็พากันไปรับลมที่ระเบียง
“ อ๊อฟจะค้างวันนี้อีกคืนใช่มะ ”
“ อืม… พรุ่งนี้เช้าก็จะกลับแล้ว ”
“ แล้วจะมาอีกเมื่อไหร่อะ ”
“ ก็ยังไม่รู้เลย ”
“ แล้วจะมาทันสัปดาห์หน้าปะ ”
“ อืม…นั่นสินะ ไม่รู้เหมือนกัน ” อ๊อฟตอบพลางครุ่นคิด
“ เหรอ งั้นก็ช่างมันเถอะ ” พอได้ยินคำตอบ สีหน้าซันก็เศร้าลงทันที
“ ช่างมันได้ยังไงล่ะ แสดงว่าซันลืมไปแล้วใช่มะว่าเป็นวันสำคัญของเราน่ะ ” อ๊อฟทำหน้างอนๆแต่ก็ยิ้มไปด้วย
“ เอ๋ อ๊อฟจำได้ด้วยเหรอ ” ซันประหลาดใจ
“ จำได้สิ ใครจะไปลืมลงล่ะ วันที่เราเจอกันครั้งแรกอะ ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ยังไงผมก็ต้องมาอย่างแน่นอน ”
“ จริงนะ ถือว่าสัญญาแล้วนะ ” ซันมองหน้าอ๊อฟเพื่อต้องการคำตอบที่แน่นอน
“ ครับผม ” อ๊อฟตอบพลางดึงซันเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ซันเองก็กอดตอบด้วยความเต็มใจและทั้งสองก็ยืนมองดาวที่ระเบียงกันต่อ
เรื่องราวดำเนินไปด้วยดี ……………
วันนี้ซันตื่นแต่เช้าเนื่องจากต้องการมาจัดห้องให้พร้อมสำหรับการฉลองวันครบรอบของทั้สอง เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ จนใกล้เวลาที่อ๊อฟจะมา ซันก็จัดห้องและของต่างๆ เสร็จพอดี
“ อืม….เสร็จซะที ” ซันนั่งลงที่โซฟาด้วยความเหนื่อย พลางหยิบถุงผ้าเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“ รีบมานะ อ๊อฟ ” สิ่งที่อยู่ในมือซันนั้นเป็นแหวนทองคำขาวที่วงนึงสลักคำว่า Aof และอีกวงสลักคำว่า Sun ไว้ ซันนั่งมองแหวนด้วยความสุข จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ เวลาที่อ๊อฟมักจะมาก็ผ่านไปแล้ว แต่ทำไมยังไม่มาอีก น่าแปลกจริงๆ ซันรอจนกระทั่งทนไม่ไหวเลยออกจากห้อง เผื่อว่าจะเจอกับอ๊อฟ ซันเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสี่แยก แต่ว่า คนตรงหน้าซันที่กำลังยืนรอไฟแดงอยู่เป็นคนที่ซันคิดถึงอยู่ ซันกำลังจะเรียกแต่ว่า กลับมีคนที่อยู่ข้างๆ อ๊อฟเป็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ16-17 ที่หน้าตาน่ารัก ดูบอบบางและน่าทะนุถนอม
“ พี่อ๊อฟ อย่าไปเลยนะ ผมขอร้อง ” เด็กผู้ชายคนนั้นเกาะแขนอ๊อฟและร้องไห้อ้อนวอน
“ ไม่เอาน่า ก้าม อย่าทำอย่างนี้สิ พี่ต้องไปนะ ไม่ว่ายังไงก็ต้องไป ”
“ พี่อ๊อฟไม่รักก้ามแล้วเหรอ ”
“ รักสิ พี่รักก้ามที่สุด แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องไปหาเค้าคนนั้น แค่วันนี้เท่านั้น ” เด็กผู้ชายที่ชื่อก้ามคนนั้นทรุดตัวลงร้องไห้ อ๊อฟก้มลงประคอง และพูดด้วยสายตาที่จริงจัง และมั่นใจ และเตรียมตัวจะเดินจากมา…..
“ ยังงี้นี่เอง มิน่าล่ะ นายถึงไม่บอกอะไรชั้นเลย ” ผมมองอ๊อฟด้วยสายตาว่างเปล่า
“ ซัน อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ” อ๊อฟเดินเข้ามาหาผมพร้อมทั้งจับแขนผมไว้
“นายไปสัญญาไว้กี่คนล่ะ ทั้ง ๆ ที่ชั้นเชื่อนาย ไว้ใจนายทุกอย่าง สุดท้ายก็...”
“ ซันต้องฟังผมนะซัน ฟังผมก่อน” อ๊อฟดึงผมเข้ามากอดแต่ผมก็ผลักออก
“ หึ ๆ น่าขำนะ เราเจอกันที่นี่ แล้วเราก็จะจบกันที่นี่ด้วย” ผมนิ่งไปพลางถอนหายใจ อ๊อฟเอาแต่ส่ายหัว น้ำตาไหลอาบแก้ม มือจับแน่นที่หน้าอก
“ อ๊อฟ...พวกเราจบกันแค่นี้เถอะ” สิ้นเสียงของซัน อ๊อฟก็ถึงกับเซถอยหลังไป ก้ามวิ่งมาประคองไว้
“ ขอให้มีความสุขนะ อ๊อฟ ” ซันมองภาพนี้ด้วยสายตาที่เจ็บปวด ก่อนที่จะตัดใจเดินหันหลังกลับไป
“ คำถามที่ชั้นอยากจะถามนายมานานแล้ว วันนี้ชั้นเพิ่งจะได้คำตอบ ขอบคุณนะ “ ….
“ ซัน ไม่นะซัน กลับมาฟังผมก่อน...” เสียงแหบเบาของอ๊อฟลอยมาให้ได้ยิน ซันปิดหู ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่เสียงกรีดร้องแหลมของใครบางคนทำให้เขาต้องหันกลับไปมอง
“ พี่อ๊อฟ ไม่นะ พี่อ๊อฟ ฟื้นสิ ทำใจดี ๆ ไว้ ฮือออ ต้องไม่เป็นแบบนี้นะ พูดตอบก้ามสิพี่อ๊อฟ ” ก้ามกำลังเขย่าตัวอ๊อฟที่นอนคุดคู้อยู่กับพื้นถนน
“ อ๊อฟ.?... อ๊อฟ!!” …………..
เรื่องราวเริ่มถึงจุดหักเห……….
“ พี่อ๊อฟ เค้าเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว หมอบอกว่าอยู่ได้ถึง 20 นี่ก็แทบจะเป็นปาฏิหารย์แล้ว แล้วทำไมล่ะ ทั้งๆ ที่ พี่อ๊อฟก็เพิ่งจะอายุ 22 ปีแล้ว ทำไม ต้องมาเจอเหตุการณ์อย่างนี้ด้วย ” ซันนั่งฟังก้ามพูดไปเรื่อยๆ
“ คุณรู้มั้ย พี่อ๊อฟตั้งแต่เสียพ่อกับแม่ไป เค้าพูดอยู่เสมอว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว ไม่อยากอยู่เป็นภาระของใครอีกแล้ว จนกระทั่งวันนี้ของปีที่แล้วพี่อ๊อฟหนีออกจากโรงพยาบาล ทุกๆ คนคิดว่าพี่อ๊อฟต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ แต่วันรุ่งขึ้นพี่อ๊อฟก็กลับมาด้วยรอยยิ้มและพูดอีกว่า เจอแล้ว กำลังใจที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เจอแล้วแสงสว่างในชีวิตของเค้า ” ซันนั่งฟังนิ่ง
“ พี่อ๊อฟกลับมาเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังเสมอ เค้ามักจะเล่าเรื่องของคุณด้วยรอยยิ้มและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ผมรู้...ผมรู้ว่าข้างในของพี่อ๊อฟเจ็บปวด ระยะหลัง ๆ ร่างกายของพี่อ๊อฟอ่อนแอลงทุกที แต่พี่อ๊อฟไม่อยากให้คุณรู้ ไม่อยากให้คุณต้องกลุ้มใจไปกับเค้าด้วย เพราะว่าวันหนึ่งพี่อ๊อฟอาจจะต้อง...” ก้ามสะดุดเงียบไป เขาไม่อาจเอ่ยคำ ๆ นี้ออกมาได้
“ ไม่ ชั้นไม่เคยรู้เลย ทุกๆ ครั้งที่ได้เจอมักจะได้รับแต่รอยยิ้ม และความสดใส ชั้นไม่เคยรู้เลยว่าอ๊อฟจะแบกรับสภาพร่างกายตัวเองไว้ โดยไม่พูดอะไรเลย ชั้น …ชั้น “ ซันพูดอะไรไม่ออกทรุดตัวลงร้องไห้
“ เค้าไม่อยากให้คุณรับรู้เรื่องนี้ พี่อ๊อฟบอกว่าเค้าอยากให้คุณเก็บแต่ภาพใบหน้าที่มีรอยยิ้มของเค้าเอาไว้เท่านั้น เก็บแต่เวลาแห่งความสุขที่มีด้วยกัน ”
“...ชั้น... ไม่รู้อะไรเลย....อ๊อฟ...ยิ้มตลอด....หัวเราะตลอด......” ซันพูดขึ้นอย่างเหม่อลอย น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ก้ามเดินมาตรงหน้าซันพลางยื่นของสิ่งหนึ่งให้
“ วันนี้เค้าต้องเดินหาของขวัญให้คุณทั้งวัน ทั้งๆ ที่ร่างกายก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ทำไม…ทำไม คุณต้องทำร้ายพี่อ๊อฟด้วย ” ก้ามเดินเข้ามาเขย่าตัวซัน ซันมองของที่อยู่ในมือ เป็นสร้อยทองคำขาวพร้อมจี้กางเขนอย่างที่เค้าอยากได้มานาน
“ ก้าม ” เสียงเรียกที่มาพร้อมกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาหาก้าม
“ ฮือ………แอม พี่อ๊อฟเค้า…เค้า โฮ…. ” ก้ามลุกขึ้นจากที่นั่งและโผเข้าไปกอดเด็กผู้ชายที่ชื่อแอมทันทีที่ได้ยินเสียง ก่อนจะปล่อยโฮออกมา
“ พี่อ๊อฟ ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ เชื่อชั้นนะก้าม พี่เค้าอุตส่าห์อดทนมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่อ๊อฟก็แค่เหนื่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นมายิ้มให้ก้ามอย่างแน่นอน ” แอมพูดไปพลางลูบหัวก้ามเพื่อปลอบโยนไปพลาง
“ ฮึก… ”
“ ไม่เอาน่า คนเก่งอย่าร้องไห้สิครับ ดูสิตาแดงหมดแล้ว เดี๋ยวพี่อ๊อฟตื่นมาตกใจหน้าก้ามนะ ” แอมค่อยๆ จับใบหน้าของก้ามเงยขึ้นและเช็ดน้ำตาอย่างแผ่วเบา ซันมองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ ซันค่อยๆ เดินเข้าไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียงที่มีสายระโยงระยางอยู่ ที่ปากมีเครื่องช่วยหายใจครอบอยู่
“ ทำไมล่ะ อ๊อฟ เห็นชั้นพึ่งไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ ถึงไม่ยอมบอกอะไรกันเลย ชั้นมันงี่เง่ามากใช่มั้ยที่ไม่รู้อะไรเลย ” ซันก้มลงพูดกับอ๊อฟทั้งๆ ที่รู้ว่า อาจจะไม่ได้ยินก็ได้ น้ำตาของซันร่วงลงมากระทบที่ใบหน้าของอ๊อฟ
“ ทำไมไม่ให้ชั้นต่อสู้ร่วมไปกับนายล่ะ อ๊อฟ ทำไมนายถึงต่อสู้เพียงคนเดียว ทำไมไม่ให้ชั้นอยู่เคียงข้างนายเวลาที่นายเจ็บ คอยซับน้ำตาให้เวลาที่ทุกข์ใจล่ะ อ๊อฟ นายรู้มั้ยว่าชั้นเจ็บ มันเจ็บตรงนี้นะอ๊อฟ ” ซันจับมืออ๊อฟมาทาบที่หน้าอกตัวเอง น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ ชั้นรู้ว่านายกำลังพยายามอยู่ ชั้นจะรอนายนะ จะรออยู่ที่ห้องของเรา นายต้องกลับไปหาชั้นให้ได้นะอ๊อฟ ” ซันหยิบแหวนขึ้นมาและใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายทั้งของอ๊อฟ
“ สุขสันต์วันครบรอบของเรานะ อ๊อฟ อีกวงชั้นจะรอให้นายเป็นคนใส่ให้ชั้น ต้องกลับมาให้ได้นะ ” ซันคลายมือของอ๊อฟออกและวางแหวนไว้ หลังจากที่พูดจบซันค่อยๆ ก้มลงจูบหน้าผากอ๊อฟอย่างแผ่วเบา และเดินออกจากห้องไป
“ ซั ….. น….. ” เสียงเรียกแผ่วเบา… ถ้าเพียงแต่เวลาเดินช้าลงกว่านี้อีกนิด…….
เรื่องราวเริ่มเข้าสู่จุดจบ……..
“ แอม เค้าไปไหนแล้ว ทำไมเค้าถึงทิ้งพี่อ๊อฟไปล่ะ พี่อ๊อฟแย่แล้วนะ นี่จะทำยังไงดี จะทำยังไง ๆ” ก้ามที่กระวนกระวายหลังจากที่อาการของอ๊อฟทรุดหนักจนแพทย์ต้องนำเข้าห้องผ่าตัด
“ไม่เป็นไรหรอกก้าม ใจเย็น ๆ กำหนดการผ่าตัดมีมาอยู่แล้ว นี่ก็แค่เร่งให้เร็วขึ้นเท่านั้น พี่อ๊อฟจะได้หายเร็วขึ้นไง ไม่ดีใจเหรอ” แอมพูดปลอบทั้ง ๆ ที่ในใจก็ร้อนรนไม่แพ้กัน
“ชั้นจะไปโทรหาเค้า เค้าต้องมา เค้าจะต้องมาอยู่ข้าง ๆ พี่อ๊อฟในเวลาที่พี่อ๊อฟต้องการเค้าที่สุด” ก้ามลนลานหาเศษกระดาษที่อ๊อฟเคยจดให้ไว้ แต่ก็ย้ำไว้อีกเช่นกันว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริง ๆ ห้ามโทรไปโดยเด็ดขาดระหว่างที่เขาใช้เวลาอยู่กับซัน
“อ๊ะ เจอแล้ว แอม ยืมโทรศัพท์หน่อย” ก้ามคว้าโทรศัพท์ไปกดมือสั่น
“ทำอะไรอยู่ พี่อ๊อฟจะแย่แล้วนะ รับสิ รับ...”
///ตรื้ดดดด...ตรื้ดดดดด......ตรื้ดดดดดด............///
ซันนั่งเหม่อลอยด้วยสายตาที่ว่างเปล่า สภาพในห้องยังเหมือนเดิมทุกอย่าง อาหารมื้อค่ำที่เตรียมไว้ เทียน ไวน์ ตั๋วเที่ยวทะเล 3 คืน 4 วัน ที่กะว่าจะชวนไปเที่ยวค้างคืนด้วยกันเป็นครั้งแรก ทุกอย่างยังคงวางนิ่งไว้ที่เดิม
“…อ่ะ ใช่แล้ว มันถึงเวลาแล้วนี่เนอะ ชั้นจะไม่รอนายอยู่ที่นี่หรอก ชั้นจะต้องไปตามหานาย นายผิดสัญญาแล้วนี่นา ใช่แล้ว ๆ ชั้นเตือนนายแล้วนะอ๊อฟ อย่าเพิ่งหนีไปไหนล่ะ ชั้นจะไปลากตัวนายมาแล้ว” ซันลุกลี้ลุกลนวิ่งออกไปจากห้อง พร้อมกับที่เสียงโทรศัพท์ตัดไป
“ ก้าม...แอม...อ๊อฟเค้า...” ก้ามหันมามองแม่ที่เดินมาพร้อมกับน้ำตาก็ออกวิ่งไปทันที พอไปถึงก็เห็นว่าหมอกำลังยืนคุยกับพ่อของตนอยู่หน้าห้อง พ่อหันมาสบตากับก้ามพลางส่ายหน้า ก้ามเปิดประตูห้องเข้าไปช้า ๆ เสียงคลื่นกราฟหัวใจที่ดังเว้นระยะห่างบ่งบอกถึงสภาพของคนที่อยู่บนเตียงดี
“...พี่อ๊อฟ ได้ยินผมมั้ย” ก้ามทรุดตัวลงข้าง ๆ เตียง โดยมีแอมคอยยืนอยู่เคียงข้าง
“ พี่อ๊อฟ จะตายไม่ได้นะ แล้วนายคนนั้นล่ะ จะปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียวเหรอ พี่อ๊อฟจะต้องมีชีวิตอยู่สิ จะต้องมีชีวิตอยู่นะ ห้ามตายนะ...” ก้ามเอื้อมมือไปจับมืออ๊อฟ แหวนทองคำขาวกลิ้งตกออกมา ก้ามหยิบขึ้นมาพลางมองนิ้วของอ๊อฟที่มีแหวนสวมไว้อยู่
“อ่ะ เจ้านั่น...” ก้ามเริ่มร้องไห้ เขาค่อย ๆ วางแหวนกลับลงไปบนฝ่ามือพลางกุมมือของอ๊อฟให้กำไว้
“ พี่อ๊อฟรู้มั้ย นายนั่นซื้อแหวนให้พี่อ๊อฟนะ คนที่พี่อ๊อฟพูดว่าไม่ไม่ใส่ใจกับของอะไรแบบนี้ เขาซื้อแหวนให้พี่อ๊อฟด้วยนะ พี่อ๊อฟตื่นมามองสิ เอาอีกวงไปให้เค้าด้วย เค้ากำลังรอพี่อ๊อฟอยู่...”
“ อ๊อฟชั้นกำลังจะไปแล้วนะ ไปตามนายกลับมา นายจะต้องกลับมา รอชั้นก่อนนะ” ซันพึมพำไปวิ่งไป เขาวิ่งมาถึงสี่แยกแล้วขากลับหยุดชะงัก ที่นี่คือที่ ๆ เขาเจอกับอ๊อฟครั้งแรก ความทรงจำครั้งนั้นย้อนหวนคืนกลับมา เค้ายังคงจำเสียงหัวเราะและสัมผัสของอ๊อฟในวันนั้นได้ดี วันนั้นพอมองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นว่านายยืนอยู่ตรงนั้น...ใช่แล้วนั่นไง นายยืนอยู่ที่นั่น รอชั้นอยู่ตรงนั้น กำลังส่งยิ้มให้ชั้นแบบที่เคยเป็น รอยยิ้มที่ชั้นชอบ...
“ พี่อ๊อฟ...ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ต้องสู้นะ ฟื้นสิ คราวนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเองแล้ว แต่เพื่อซัน...ซัน
ของพี่อ๊อฟ พี่อ๊อฟต้องสู้เพื่อซันนะ” ก้ามก้มหน้าร้องไห้ เสียงกราฟหัวใจเหมือนจะกระเตื้องมากขึ้น ก้ามเงยหน้าขึ้นสบตากับแอม
“พี่อ๊อฟ! ได้ยินแล้วใช่มั้ย พี่อ๊อฟต้องสู้นะ พยายามเข้า! แอมไปตามหมอเร็ว เร็วสิ ไปกัน” ก้ามรีบฉุดกระชากแอมแล้ววิ่งออกไปตามหมอด้วยกัน
นิ้วมือเรียวของอ๊อฟขยับ กำแหวนที่อยู่ในมือแน่น…
“ชั้นกำลังจะไปหานายแล้วอ๊อฟ รออยู่ตรงนั้นแหละ” ซันพูดพึมพำ มือข้างหนึ่งจับจี้กางเขนลูบไปมา
“หมอ เร็ว ๆ ฮะ พี่อ๊อฟเค้า...” ก้ามวิ่งนำหมอเปิดประตูเข้ามา
ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...........
ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนน..................โครม!!!!!!
เรื่องราวสิ้นสุดลงที่นี่.........
“ ซันเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย ”
“ เชื่อและไม่เชื่อ ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ ก็เพราะพรหมลิขิต ทำให้เรามาเจอกัน แต่ถ้ากำหนดให้เราต้องแยกกันชั้นก็ไม่เชื่อหรอกนะ ” ซันหันไปตอบคนที่ให้เค้านั่งตัก
“ นั่นสินะ แต่ยังงัยก็ต้องขอบคุณพรหมลิขิตสินะที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ” อ๊อฟพูดพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น
“ คนที่ชั้นตามหามาตลออดคือนายนะ อ๊อฟ “
“ แล้วรู้ได้ยังไงว่าคนที่ซันตามหาอะเป็นผม ”
“ ก็เพราะว่าชั้นไม่ได้ใช้เพียงตา แต่ชั้นใช้ใจตามหาด้วยไงล่ะ ”
“ ผมก็เหมือนกัน ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ต้องตามหาซันให้เจออย่างแน่นอน “
“ อืม….ขอบคุณนะ อ๊อฟ ”
“ ผมรักซันนะ ”
“ ชั้นก็รักอ๊อฟเหมือนกัน ” …………………
เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต.............
แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว ..........