-- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557  (อ่าน 332874 ครั้ง)

artit

  • บุคคลทั่วไป
เย้ กลับมาแล้ว หายไปนานมาก มาให้กำลังใจ  :L1: และรออ่านต่อ  o13

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีต้อนรับกลับเล้าค่ะ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
มาให้กำลังใจน้องโอห์ม :L2:
รบกวนแก้คำผิดด้วยครับ
ควรเป็น..สงกรานต์...โคตร...อาเพศ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 o22
นานแค่ไหน..ก็รักมรึง
ไม่จบ ไม่สิ้น

..จำเลยความรัก..


 :กอด1: กอดโอห์ม
Live&Learn

cascada

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่โอมกลับมาซะที

ออฟไลน์ August_lovers

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
รอต่อไปครับ XD

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
กลับมาจนได้

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ดีใจทุกครั้งที่โอห์มมาต่อเรื่องราว 

ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ 

ขอแค่โอห์มยังไม่ลืมที่นี่ก็พอ

อิอิ


ปล คิดถึงจังเลย ดีใจจังที่กลับมา

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่กลับมาค่ะ

ช่วงที่รองานดีๆเข้ามาเป็นโอกาสดีที่จะได้ปรับความรู้สึก
กับทำความเข้าใจตัวเองค่ะ

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ :L2:

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...โอมห์ มิกซ์ โน๊ต เอิท และปลื้ม หมดหรือยังวะ ลืมใครไปหรือเปล่า คงทำเวร ทำกรรมร่วมกันไว้แหงๆๆ
...ชาตินี้มาเจอกัน มาร่วมกรรม กันอีกไม่เห็นมีใครมีความสุขที่แท้จริงซักคน คนนี้รักคนนั้น แต่คนนั้นไม่รักคนนี้
...ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนแล้วกัน ยังจะติดตาม...รักสุดท้ายของนายโอมห์ ต่อไป ว่าจะเป็นผู้ใดเอาแบบใจตรงกันเป๊ะๆๆ
...ไม่เอาแบบต้องรัก...เพราะจำเป็นต้องรัก มันไม่ใช่เนื้อคู่กันวุ้ย แต่อย่างว่าบางคนเจอคนแรกก็เป็นเนื้อคู่กันเลย
...บางคนเจอเป็นสิบเป็นร้อยก็ยังมิใช่....คู่ เพราะฉนั้นก็หาต่อไป...เนื้อคู่ฉันอยู่ที่ใด
  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เป็นมิกหรือเปล่าที่โทร.มา  แล้วเอิทโทร.มาหาโอห์มทำไมอีกล่ะ 
รู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เอิทเข้ามาหาโอห์ม  โอห์มจะต้องมีเรื่องทุกที
ตอนนี้อยากรู้เรื่องปลื้มกับผู้หญิงคนนั้น  อดรู้สึกไม่ได้ว่าปลื้มชอบโอห์ม
ไม่รู้สิ  อยากให้โอห์มมีความสุขซักที

squirry

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งตามอ่านจนทันจนได้ อ่านไปก้รู้สึกเศร้าไป ไม่นึกว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นจิงๆ
ชีวิตพี่โอห์มนี่ก้เจออะไรมามากมายจิงๆ ทั้งเรื่องชกต่อย รัก เศร้า แถมคนที่รักต้องมาจากไปอีก
แต่ชีวิตพี่ก้น่าอิจฉามากๆ ที่มีคนหลายคนที่รักพี่อย่างจริงใจ ถึงบางคนจะทำตัวไม่ดีไปบ้างก้เถอะ
ถึงจะมีตัวละครคนอื่นมาเยอะขนาดไหน แต่ก้เชียร์พี่มิกซ์อยู่ดี o13
ที่จริงผมก้ไม่ชอบมาเขียนความในใจอย่างนี้หรอกนะคับ เขียนไปก้รุสึกแปลกๆ เขินๆไป  :-[
แต่เรื่องนี้สุดยอดจิงๆ ไม่เม้นไม่ได้ แล้วจะมาช่วยอัพให้ตลอดเลยนะคับ
เอาใจช่วยพี่โอห์มนะคับ จะติดตามตลอดไปคับ  :o12:

Bavari@n

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆนะเว้ยโอห์ม  ผ่านมาตั้งหลายเรื่องแล้ว

อีกสักเรื่องจะเป็นไรไป  มีอะไรที่พอจะช่วยได้ก็บอกๆกันได้นะเว้ย

สู้ๆๆ

squirry

  • บุคคลทั่วไป
มาช่วยดันครับ ตกไปไหนไม่รู้แล้ว :sad4:

ขอมาทำหน้าที่แฟนคลับที่ดีหน่อย :-[

squirry

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอพี่โอห์มต่อคับ คิดถึงมากๆๆ

กอดหน่อย :กอด1: อิอิ

LoFT

  • บุคคลทั่วไป
รอๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เข้ามา +1 ให้ squirry ที่ช่วยดันเรื่องนี้

แล้วก็
รอๆๆๆ โอห์มให้กลับมา
อีกครั้ง

ยังรออยู่เหมือนเดิมนะ..คนดี

ออฟไลน์ Forever_Love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
สวัสดีค่ะ โอห์ม  :L2: ตามอ่านมาสองวันแล้วในที่สุดก็ถึงตอนปัจจุบัน

ความรู้สึกตอนนี้บรรยายไม่ถูกเลย บางตอนอ่านไปกลั้นน้ำตาแทบไม่ไหว

มันบีบหัวใจจริง ๆ ค่ะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

อดีตมันผ่านไปแล้ว และไม่ว่าปัจจุบันจะเป็นยังไง อนาคตมันจะเป็นแบบไหน

ขอให้โอห์มผ่านมันไปได้ด้วยดีค่ะ


รออ่านตอนต่อไปน้า

squirry

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่โอห์ม หายไปนานมากกก :sad4:

แต่ก้จะรอต่อไปคับ  เอาใจช่วยคับ  o13

ปล.มีเรื่องอยากจะถามตั้งนานและแต่ลืม :o8:

ทำไมที่พิโลกมีพวกนักเลงเยอะหรอคับ เห็นพี่โอห์ม กะ พี่มิกซ์กลับไปทีไรต้องได้แผลมาทุกทีเลยอ่าา

กะว่าจะไปเที่ยวซักหน่อย อิอิ

 :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
 :กอด1:กอดโอห์ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1

Rubaiyat

  • บุคคลทั่วไป
ไล่อ่านจนทันได้ในคืนเดียว สุดๆไปเลยอ่ะเรื่องนี้ เรียกน้ำตาไปหลายบ่อทีเดียว ยังไงก็รอลุ้นตัวจริงอยู่นะครับ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
เบื่อๆจริงๆเลยนะครับ จากที่เคยมีงานการทำ ตอนนี้ต้องมานั่งตกงาน ใครมีงานให้ทำ หลังไมค์มาหน่อยนะครับ (หากันแบบนี้เลย) หลักจากที่ผมพยายามตามหาสิ่งที่พ่อแม่อยากให้ทำจนทั่วภาคเหนือสุดท้ายก็ต้องมานั่งจมกับความผิดหวังอีกแล้ว แต่ใช่ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเหนื่อยป่าว จริงไหมครับ ถ้าได้อ่านสิ่งนี้อยู่คงต้องยิ้มอยู่แน่ๆเพราะว่า คุณ คุณ แล้วก็คุณได้มีตัวตนในสิ่งที่ผมเล่าผ่านจากความคิดของผม ตอนนี้ผมเหนื่อยจนต้องกลับมายืนอยู่ในที่ของผมเงียบๆ ก่อนที่จะเริ่มเดินต่อไป ไม่ขออะไรที่มั่นคง ขอแค่ได้อยุ่อย่างมีความสุขแบบนี้ก็พอ พิษณุโลกเป็นเมืองใหญ่แล้ว อย่างน้อยๆก็ในสายตาผม การที่จะมีวัยรุ่น คนแก่ที่ทำตัวไม่แก่ตามอายุ มาทำตัวเป็นนักเลง คนใหญ่โตก็ไม่แปลก แล้วก็ไม่แปลกที่การตี การทะเลาะจะมีให้เห็นบ่อยไป คนเก่งเข้าไปอยู่ในคุกหมดแล้วครับ ที่มีอยู่ข้างนอกมีแต่พวกอยากเก่ง แล้วเด็กในเมืองเองก็ไม่ค่อยเป็นกันหรอกนะครับ ส่วนมากจะเป็นพวกมาจากต่างอำเภอ ถึงบ้านผมจะเถื่อน แต่ผมก็รักบ้านผมนะครับ เพราะทุกครั้งที่ผมมองเห็นคนพวกนี้ ก็จะเห็นตัวผมเองตอนอายุเท่าเขาเสมอ เหมือนว่าผมจะแก่ แต่จริงๆผมยังไม่เบญจเพศเลยนะครับ ถ้ายังตกงานอยู่สงสัยคงต้องบวชจริงๆแล้วละมั้งครับ ผมชอบเนื้อหาตอนนี้มากที่สุด เพราะผมยิ้มทุกครั้งที่นึกถึง  


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“เมื่อวานพี่ทำอะไรโง่ๆลงไป พี่ขอโทษนะครับ” ผมเชื่อวานน้องหลายคนคงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะว่ามีแค่ผมกับเนสแล้วก็เพื่อนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
“น้องเนสเดินออกมาข้างนอกหน่อยครับ” เกือบจะทุกคนที่ยังสงสัยกับสิ่งที่ผมกำลังจะทำอยู่นี้ น้องเนสค่อยๆลุกแล้วเดินออกมาอย่างช้าๆ แล้วตรงมาหาผม ทุกก้าวมันช่างดูเหมือนผู้ชายในฝัน โน้ตนั้นละครับ แทบจะไม่แตกต่างกันเลย ผมอย่างจะเดินเข้าไปสวมกอดแล้วบอกว่าขอโทษในสิ่งที่ผมสมครวจะทำแต่ก็ไม่ได้ทำ แต่มันคนละคนกัน น้องเขาได้บอกผมแล้วว่าเขาไม่ใช่โน้ต
“เมื่อคืนพอออกจากมหาลัยได้ไปต่อที่ไหนรึเปล่า”
“ไปครับ”
“ใครไปบ้างชี้มันออกมา” เนสไม่ได้ชี้ใครยังยืนนิ่งๆไม่ได้พูดอะไร
“ได้ น้องไม่ชี้ว่าใครไปกับน้องบ้างไม่เป็นไร นี้คือคำสั่ง”
“อะไรครับพี่”
“ชกหน้า อ้ายเดี๋ยวนี้”      “เฮ้ย อะไรว่ะโอมห์” เพื่อนผมรีบเดินเข้ามาถาม
“เมื่อวานกรูชกหน้ามันทั้งที่มันมาถามกรูดีๆ แล้วก็เป็นเรื่องที่กรูเข้าใจผิด ”
“ไม่เอาพี่ เข้าใจผิดมันเป็นอุบัติเหตุ”
“ไม่ได้โว้ย เมิงบอกแล้วว่าจะชกกรุวันนี้”
“เฮ้ยพี่ ผมไม่ได้พูด” ผมยิ้มกับคำโกหกของคู่สนทนา
“เมิงชกกรู แล้วเรายังเป็นพี่น้องกัน ถ้าเมิงไม่ชกต่อไปนี้ไม่ต้องมาเรียกกรูว่าพี่”
“เห้ยไอ้โอมห์ กรูว่ามันมากไปแล้วนะเมิง” เพื่อนๆเข้ามาห้ามผม
“ไม่ใช่หรอก เมิง มันไม่ใช่แค่เรื่องชก เชื่อเหอะ ให้มันทำแล้วกรุจะสบายใจ” เนสยังคงยืนนิ่งไม่แสดงอาการอะไร ผมจนปัญญาจนต้องใช่มวนชนมาบังคับ
“ว่าที่    ลุก....” น้องปีหนึ่งลุกขึ้นยืนกันอย่างพร้อมเพียง
“ผู้หญิงแยกออกมาครับ” หลังจากการแยกตัวของน้องผู้หญิง คำสั่งลงทาเพื่อบังคับมวลชนก็ได้เริ่มขึ้น
“ซีรีย์ ”
“ซีรีย์” น้องทวนคำคำสั่งตามที่รุ่นพี่ได้สอนกันมารุ่นต่อรุ่น
“เท่ารุ่น”
“เท่ารุ่น ......................”
“คูณ สิบ”
“คูณสิบ”
“เสียงไปไหนหมด กรุสั่งพวกเมิงไม่ได้รึยังไง”
“เท่ารุ่น”
“เท่ารุ่น..................”
“ทำไปจนกว่าไอ้เนสเพื่อนเมิงจะชกหน้ากรู ปฏิบัติ ” ไม่มีใครจะมาห้ามผมได้ ผมคิดเสมอว่าถ้าตอนนี้มิ๊กอยู่กับผมก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน เราตกลงกันไว้แล้วว่ารุ่นพี่จะไม่ทะเลาะกันต่อหน้ารุ่นน้อง จึงไม่มีเพื่อนคนไหนออกปากห้ามผม ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ตาม  เนสยังคงยืนมองหน้าผมด้วยสีหน้าเกียจชัง มันก็ไม่แปลกเพราะนี้คือสิ่งที่ผมตั้งใจ
“แล้วแต่นะน้องอยากให้เพื่อนหมดแรง รึว่าเป็นลมก็แล้วแต่เรา” ผมยิ้มเยาะเย้ย
“ทำไป ทำไป เพื่อนเมิงมันไม่กล้า กรุอยากรู้ระหว่างพี่ กับเพื่อนมันจะรักใครมากกว่ากัน”







ผ่านไปกว่า ห้านาที ผมยังคงยืนเฉยๆไม่ได้พูดอะไร รอดูปฏิกิริยาทั้งจากน้องแล้วก็เพื่อน ในใจผมคิดเสมอว่าถ้าเป็นมิ๊กจะทำยังไง แล้วถ้าเนสเปลี่ยนเป็นโน้ตจะกล้าทำไหมในครั้งแรกที่เจอกัน
“พี่ครับผมขอโทษนะครับ” แล้วหมัดของเนสก็ตรงเข้ามาที่หน้าผมเต็มโดยที่ผมไม่คิดจะหลบมัน ความแรงมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ผมได้กลิ่นคาวเลือดที่มุมปาก ไม่มีรอยเขียวซำ มีเพียงเลือดเล็กน้อยที่ไหลออกมาจากมุมปาก ผมยังคงยิ้มให้เพราะว่าผมสบายใจแล้วมันไม่มีอะไรต้องติดค้างกันอีกแล้ว
“หยุด”
“ไอ้โอมห์เป็นอะไรรึเปล่าว่ะ”
“ไม่เป็นไร”
“แต่เมิงเพิ่ง”
“แค่หมัดเดียวไม่ตายหรอกเมิง”
“เมิงไปนั่งพักเหอะเดียวกรุจัดการเอง” รุ่นน้องเดินเขามาประคองผมให้ไปนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนไม่ใกล้จากตรงนั้นมากนัก หลักจากที่นั่งพักได้ไม่นาน พวกเราก็ต้องเข้าห้องเรียนเพื่อหาอาจารย์ที่ปรึกษา

“อ้าว หายไปไหนคนหนึ่งละเนี่ย” คำถามของครูที่ปรึกษาถามกับเพื่อนๆหลังจากเช็ดชื่อเสร็จ
“เขาไม่สบายครับครู” ผมตอบแทน
“ปีที่แล้วก็”
“ครับคล้ายๆกัน แต่คราวนี้เอารถไปชนครับ”
“ไอ้คันใหม่ใช่รึเปล่า”
“ครับ”
“เธอคนบ้านเดียวกันนิ”
“ใช่ครับไปด้วยกันด้วยละครับ”
“แล้วเธอเป็นอะไรรึเปล่า”
“ก็ดีขึ้นเยอะแล้วละครับ นอนเดี้ยงเป็นเดือนเหมือนกัน”
“แล้วรถ ”
“พังครับ ประกันชั้นหนึ่งแต่ผมเป็นคนขับ แต่มันไม่ใช่ความผิดผมครับ พอดีว่ามีรถผ่าไฟแดงมา”
“อืม ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว เข้ามาเท่าไรผมอยากให้จบออกไปเท่ากัน”
“ครับครู”  เป็นที่รู้กันว่าอาทิตย์นี้โดยส่วนมากจะไม่มีการเช็คชื่อ แล้วโดยมากไม่ไปจบอยู่ที่สวนหลวงก็ร้านคาราโอเกะ มันเป็นธรรมดาของรุ่นพี่ ส่วนรุ่นน้องก็ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวถูกรุ่นพี่ที่เมากลับมา แกล้ง ไม่แปลกเพราะระบบของสังคมมันมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ผมเข้าใจว่าวันนี้ปากผมคงจะยังไม่เป็นอะไรพรุ่งนี้คงต้องเป็นร้อนในแน่ๆ ผมเลือกที่จะตามเพื่อนๆไปร้านเหล้าที่ส่วนหลวงเพราะดูแล้วปลื้มคงต้องทำอะไรที่มีสาระกับรุ่นน้องในคณะแน่นอนกว่าปลีกตัวออกมาหาผมได้ ถึงจะรวมสาขาเดียวกันแต่การรับน้องของสองคณะก็ต่างกันเสียเหลือเกิน

สวนหลวงก็ยังคงเป็นสวนหลวงไม่เคยเปลี่ยน ทุกครั้งที่ก้าวเท้าลงไปบนแพที่น้ำไม่ไหลไปไหน กลิ่นคาวของน้ำที่คลุ้งขึ้นมาเตะจมูกเสมอ ที่บริเวณนี้มีเจ้าถิ่นหน้าไม่เปลี่ยนเพียงแค่ไม่กี่สถาบันที่เห็นจะยากคือกลุ่มสีม่วงขาวที่ไม่ค่อยจะได้พบเจอ เราคิดเสมอว่าเด็กเทคโนเป็นพวกติดดิน เมาแล้วระร่านผู้คน มันก็เป็นแบบนี้แถบจะทุกครั้ง แต่การระร่านในทุกๆครั้งมักจะได้เพื่อน เมีย รึว่าเรื่องแย่ๆกลับมาเสมอ
“นั่งคิดอะไรว่ะโอมห์” ชาติ เพื่อนตัวสูงกว่าผมเกือบสิบเซนมาจากโรงเรียน รั้วตรงไม้เครือของโรงเรียนกระโปรงแดง ผิวขาวหน้าลูกครึ่งแต่ทำตัวรั่วมากที่สุดในกลุ่มยิ่งเวลาได้เมาแล้วมักจะพูดไม่รุ้เรื่องทำอะไรบ้าๆเสมอ
“เปล่า กรูแค่ไม่รู้จะพูดอะไรว่ะ”
“เมิงคิด พวกกรุรู้ จริงไหมว่ะไอ้ไนท์” ไอ้ไนท์นี้ก็อีกคน ผมเอ๋ยชื่อมาตั้งแต่ต้นเรื่องเห็นจะได้ เป็นผู้ชายหน้าตี๋ๆ จมูกแบนๆ ตัวก็สูงประมาณผมแต่จะอวบกว่า เป็นคนค่อนข้างขี้อวดว่าบ้านตัวเองมีโน้นนี้มากมาย ทุกครั้งที่เฮี๋ยได้มือถือหรือว่าของเล่นมาใหม่เป็นต้องเอามาอวดให้คนอื่นเข้าเหม็นขี้หน้าบ่ยอ เวลาเมาแล้วชอบร้องไห้เป็นที่สุด ที่ติดมาด้วยวันนี้เป็นเพราะผมมาหรอกนะครับเพื่อนถึงยอมให้มา
“ไอ้โอมห์ กรูถามจริงๆเถอะว่ะ เป็นเหียอะไรอยุ่ดีๆไปให้น้องมันชกหน้า”
“ไม่รุ้ว่ะ กรูแค่รู้สึกผิด”
“เมิงอย่ามาพระเอกหน่อยเลยว่ะ นี้มันชีวิตจริงนะสาด”
“ก็ชีวิตจริงเนี่ยละเมิงยิ่งสมควรทำ ”
“พี่ ผมขอโทษ”
“นั้นไงน้องมันมาขอโทษเมิงละ”
“ชิหายละเมิง พวกเมิงบอกมันรึไงว่าจะมา”
“กรุบอกที่ไหนกันไอ้โอมห์ โน้นทั้งโต๊ะ” ผมเหลือบตามองตานิ้วของไอ้ชาติเพื่อนผม ในขนาดที่เนสส่งแก้วเบียร์ให้ผม
“เอาไอ้โอมห์ยกหน่อย นานๆที” เพื่อนๆช่วยกันเชียร์ให้ผมยกแก้วที่เนสส่งให้
“หมดแก้ว หมดแก้ว หมดแก้ว” ผมทำตามเสียนงเรียกร้อง แปลกดีที่ทุกครั้งลิ้นผมจะบอกว่ามันข่ม แต่วันนี้มันหวาน หวานเหมือนน้ำอัดลมแต่รู้สึกว่ามันอิ่มท้อง  
“มาๆนั่งลงเลยไอ้น้อง”  ผมขเยิบเล้กน้อยเพื่อให้มีที่ไอ้เนสนั่ง
“เมิงว่าหน้ามันเหมือนกันรึเปล่าว่ะไอ้ไนท์” ผมชี้หน้าให้ไนท์สังเกตหน้าของเนส
“เหมือนว่ะ เหมือนไอ้เด็กโยธานั้นฉิบหาย รึว่าคนเดียวกันว่ะ”
“ใครกันครับพี่ ผมว่าจะถามตั้งแต่เหมือนคืนแล้ว”
“แฟนไอ้โอมห์มัน ชื่อโน้ตเรียนอยู่โยธา หน้าตาแบบเอ๊งเด๊อะเลย”
“ว่าไปพี่ผมหน้าเหมือนผู้หญิงขนาดนั้นเลย
“เมิงจะบ้ารึไงว่ะ กรูพูดถึงผู้ชาย”
“ห่ะ พี่โอมห์เป็น”
“เมิงจะมองอะไรขนาดนั้นว่ะไอ้เนส กรุเป็นเกย์ ไม่ใช่ผี”
“ป่าวๆครับพี่”
“มันขนาดนั้นเลยอ๋อครับ คงจะหล่อหน้าดูเลยนะครับ” ผมเอามือไปตบหัวมันเบาๆ
“ได้ทีเลยนะเมิงไอ้เนส” น้องยิ้มแล้วเอามือลูบหัว
“ดูเอาเองดิว่ะ” ผมหยิบมือถือแล้วกดไปที่เบอร์ของโน้ตที่เคยใช้ตอนยังมีชีวิตอยู่
“เห้ยยังกับผมเลย” เนสดูสีหน้าตกใจไม่น้อย
“เหมือนใช่ไหมละ กรูยังคิดว่าพวกเมิงเป็นแฝดกันเลย”
“ไม่แน่นะพี่”
“ไม่อะไรว่ะ” คำพูดของน้องทำให้ผมสนใจเรื่องที่กำลังจะคุยกันขึ้นมาทันทีถ้าไม่ติดว่า
“พวกเมิงจะมาจีบกันอะไรในวงเหล้าว่ะ เดี๋ยวกรูโทรบอกไอ้ปลื้มให้มาจัดการเลย มาๆชกต่อไอ้เนสเมิงจำคำพูดพี่ไว้น่ะ ต่อไปนี้เมิงเป็นน้องรหัสของไอ้โอมห์ เป็นน้องนะไม่ใช่หลาน พวกพี่ยกให้ มาชกแก้ว จัดเต็มสิน้อง” เบียร์ถูกเติมจนเต็มแก้วอีกครั้งเพื่อนกว่าสิบคนรับรู้คำพุดของไอ้ชาติไม่มีใครคัดค้าน ตัวผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสทแต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยเพราะไม่รู้ว่าเนสเองจะคิดยังไง ที่ผมเป็นแบบนี้จะรังเกียจรึว่าเฉยๆ
“เอาชก แด่พี่ แด่น้อง แด่มิตรภาพ ” ผมยอมแพ้จริงๆเพราะไม่สามารถเอามันเข้าปากได้จนหมดคงต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นคนคออ่อน ผมกลับเพื่อนนั่งกันจนบ่ายสามเห็นจะได้เพราะวันนี้เรามีภารกิจเรียกน้องปีหนึ่งรวมที่คณะอีกครั้งตอนสี่โมงเย็น
“โอมห์ กรุแบ่งน้องรหัสให้เมิงแล้ว พวกเมิงกลับด้วยกันเลยนะ”
“อ้าวไอ้เหีย เอากรูมาแล้วเอากรุมาทิ้ง” เนสเหมือนจะไม่อยากไปส่งแต่ก็คงจะปฏิเสทอะไรไม่ได้ ผมเองก็มึน ส่วนไอ้เนสเรียกว่าเมาเลยก็คงไม่ผิด เพื่อนๆทยอยกลับกันไปหมดแล้วเพราะต้องไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเตรียมตัวพาน้องๆมาเตะบอน แบบที่เราเคยๆทำกัน เนสขี่เวสป้าซึ่งครั้งแรกที่ผมรู้ก็ใจหายไม่น้อยเพราะอะไรๆมันก็ดูเหมือนกันไปสะหมด
“พี่เป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีดเลย”
“เปล่า ไม่มีอะไรว่ะ แค่ตกใจที่คนสองคนอะไรจะมีอะไรเหมือนกันขนาดนี้”
“อะไร อะไรหมายความว่าอะไรว่ะพี่”
“ไว้ว่างๆกรูจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้เอาไปส่งหอให้ได้ก่อน ขอแบบครบๆนะเนส”
“ได้ครับเจ้านาย เห้ยไม่ใช่พี่ชาย”
“เยี่ยมมาไอ้น้องรัก ”ผมเอามือลูขหัวเนสขนาดที่รถออกตัว
“พี่ คนชื่อโตนี้เป็นคนยังไง แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนละครับ ผมชักอยากเจอแล้วสิ”
“ไม่อยู่แล้ว ”
“เรียนจบแล้วรึไงครับ”
“ป่าวไม่อยู่ที่ว่าคือ ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว”
“ว่าไปนั้น พี่ก็พุดไปเรื่อย”
“จริงๆ เดี๋ยวไว้พี่จะเล่าให้ฟังแล้วกัน ”
“สัญญาแล้วนะพี่”
“กรุไปสัญญากับเมิงตอนไหนครับไอ้เนส ขี่รถดีๆแล้วกัน เย็นๆเจอกัน”
“ให้มารับรึเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก เตรียมชุดเตะบอนไปด้วยละ เย็นนี้สนุกแน่” ผมยิ้มให้เพราะว่าผมรู้ว่าผลลัทพ์ที่ได้จากการเตะบอนคืออะไร ผมเดินขึ้นมาที่ห้องกำลังจะไขประตู ก็รู้สึกว่ามีคนเดินตามมาด้านหลังพอดี
“ดูมีความสุขจังเลยนะครับ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“อ้าวปลื้ม”
“ก็ปลื้มอะดิคิดว่าเป็นใคร”
“ก็ไม่คิดว่าเป็นใครหรอก ทำไหมมาสะเสียงเข้มเลย” หน้าก็ดูเครียดๆด้วย
“ป่าวๆ”
“พี่ไปกินเหล้า เคล้าผู้บ่าวที่ไหนมาละ” ผมหัวเราะกับคำประชดของมัน
“เคล้าผู้ชายเลยรึ ทะลึ่งละ”
“ดูทำตัวดิ เมื่อก่อนร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะไป”
“หึงรึไง”
“ป่าว”
“ไม่หึงแน่นะ”
“อืม”
“งั้นคืนนี้พี่ไปอีกนะ”
“ไม่ได้ พี่ต้องไปกินข้างเย็นกับผม ผมไม่ปล่อยให้พี่ไปนั่งกินข้าวกินเหล้ากับผู้ชายที่ไหนอีกละ”
“เมิงเวอร์ไปละปลื้ม ไปกินสนุกๆกับเพื่อน จะหึงไปทำไมว่ะ คนที่จะเคล้าด้วย ก็อยู่ตรงหน้านี้ละไง” ผมเอามือมาจิ้มที่พุงของปลื้ม
“พี่ทะลึ่งว่ะ”
“อ้าว แล้วใครเริ่มก่อน”
“ไปอาบน้ำเหม็นๆ เหล้า ยังกับละมุดเน่า”
“เน่าแล้วกินไหม”
“กินไม่เป็น ต้องสอน”
“สอนอะไร”
“สอนกิน” แล้วปลื้มก็เงียบแต่ยิ้มแบบมีแผนการอะไรในใจ
“เมิงคิดหื่นอยู่แน่ๆเลย“
“ป่าว บ้ารึ เร็วๆนะพี่ หิวข้าว”






“ปลื้มไปส่งพี่ที่หนองฮ่อได้ป่ะ”
“ทำไมพี่ไม่ไปเองละครับ เดี๋ยวผมต้องไปร้องเพลงอีก”
“ก็อยากให้ไปด้วยได้ไหมละ” จริงๆผมมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้เนสฟัง แต่ถ้าให้ผมเป็นคนพูดก็คงไม่ดีเท่าให้ปลื้มพูด ผมอยู่กับโน้ตเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเป็นปลื้ม ผมเข้าใจว่าจะเล่าเรื่องของโน้ตได้ดีกว่าผม ทำไมอากาศวันนี้มันช่างเหมือนวันแรกที่ผมเริ่มเขียนไดอารี่เล่มนี้ก็ไม่รู้ เหมือนทุกๆอย่างกำลังจะกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง หนองฮ่อยังเป็นสถานที่ลับที่เดิมที่ผมและก็น้องๆพากันมาอบรมฝึกวินัย หรือจะเรียกว่าสนองตัญหาของตัวเอง ก็น่าจะถูกต้องที่สุด
“โอมห์ มันมีคนรึ มืดแบบนี้” ปลื้มจะถามแบบนี้ก็ไม่แปลกอะไรเพราะปลื้มยังไม่เคยมาที่นี้
“เข้าไปเถอะ จอดตรงสนามบอลเลยนะ”
“มันมีที่ไหนพี่”
“ขับไปเรื่อยๆ ช้าๆนะ” ไฟหน้ารถสาดเข้าไปจนเห็นกลุ่มคนจำนวนนึ่ง ต้องเรียกว่าสองจำนวนเกือบจะเท่าๆกันดีกว่า มีทั้งที่ยืน และนอนคว่ำหน้าอยู่ ปลื้มจอดรถแล้วปิดไฟหน้าทันที
“พี่ผมไม่ลงไปได้รึเปล่า อาย” ปลื้มขมวดคิ้วใส่ผม
“อายอะไร ทีตอนร้องเพลงไม่เห็นอาย”
“ก็ที่ร้านมีแต่คนชอบ อันนี้มันจะมาไล่กระทืบผมรึเปล่าไม่รู้”
“ลงมาเหอะ เด็กป๋า ป๋าดูแลเองไอ้น้อง” ผมเปิดประตูแล้วค่อยๆก้าวเท้าลงมา ฉากนี้มันดูอลังการจริงๆในขนาดที่เกือบจะทุกคนพยายามมองว่าผมคือใครผ่านแสงจันทร์
“ใครว่ะ” เสียงใครไม่รู้ตะโกนถาม ตอนนั้นผมไม่รู้นะครับว่าเสียงใคร
“เซเลอร์มูลมั้ง ไอ้เหีย ใครถามว่ะถามแปลกฉิบหาย” ผมตะโกนกลับไป มีเสียงหัวเราะเบาๆดังออกมา
“อ้าวพวกเมิงหัวเราะอะไรกัน ขำรึไง ดี ขำนักก็นอนหงายจะได้มองเห็นหน้าเซเลอร์มูลถนัดๆ” กลายเป็นเสียงบ่นงึมงำออกมาแทนเสียแล้ว จังหวะเดี๋ยวกับที่ผมพอจะเห็นหน้าพอดีว่าใครเป็นใครกันบ้าง
“ใครถามกรูว่าไอ้ไนท์”
“จะใครละว่ะ ก็ไอ้ชาตินั้นละ เมิงไม่อยู่ใครจะกวนตีน”
“ไอ้โอมห์” ไอ้ชาติยิ้มแบบมีแผน
“Kอะไรละครับ”
“พ่อเมิงดิ เซเลอร์มูลของสักทีดีไหมเนี่ย”
“อ้าวๆเล่นเมิง จะขอก็ขอกันดีๆดิว่ะ ไปพาพ่อพาแม่มาหากรูก่อนเลย”
“ไอ้เหีย พูดเหียไรเนี่ย”
“ก่อนเมิงขอกรูอะ กรูไม่ใช่พวกเสียตัวก่อนแต่ง” ไม่รู้ว่าผมพูดดังรึว่าตรงนั้นมันเงียบ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนในที่นั้นจะอดขำไม่ได้
“ขำๆ พวกเมิงขำ”
“เหียละเมิง ไอ้ชาติมันบ้าละดิ” ไอ้ไนท์อุทานขึ้นมาก่อนที่จะลากแขนผมออกมา
“มากันนานรึยังว่ะ”
“ก็ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินแล้วแทนด้วยพระจันทร์”
“โอ้ย พวกเมิงแด๊กเหล้าผิดขวดกันรึว่ะ ดูคำพูดพวกเมิงดิ”
“กรูก็อยากจะพูดเท่ๆบ้าง ไม่ได้ไงว่ะ”
“พอๆเก็บไว้ใช้ก่ะเด็กหมอเมิงนู้น ไม่ต้องมาซ้อมแถวนี้ มันตลกว่ะไม่ไปกับหน้า”
“แรงว่ะ เมิงด่ากรูแรงมาก”
“ใจเย็นครับพี่” ปลื้มเดินเข้ามาขัดบทสนทนา
“อ้าว เมิงเอาคุยชายมาด้วยรึไงว่ะ”
“ใครคุณชายครับพี่ไนท์”
“มึงนั้นละครับ คุณปลื้ม วันนี้ไม่ร้องเพลงรึไงครับ”
“ร้องครับ แต่”
“แต่วันนี้กรูเหมาแล้ว ให้มาร้องให้กรูฟังคนเดียวในห้อง”
“จะเกินไปละไอ้โอมห์ เมิงเลียนยิ่งกว่ากรูอีก”
“หง่ะ กรูไม่เห็นรู้สึก”
“พวกพี่นี้ คุยกันที่ไรก็กัดกันตลอดเลยนะครับ”
“ไอ้คุณปลื้มครับ กัดกันใช้กับหมาครับ แบบนี้ต้องเรียกว่าทะเลาะกันนะครับ คุณชาย”
“เปลี่ยนเป้าหมาย ไอ้สาด แล้วพวกเมิงจะปล่อยน้องกี่โมงว่ะ”
“ไม่รู้ แล้วแต่เมิง”
“กรู” ผมเอามือชี้มาที่ตัวเอง
“เอา ก็มิ๊กมันไม่อยู่ก็หน้าที่เมิงแล้วไอ้โอมห์”
“เกี่ยวอะไรกันว่ะ”
“งั้นเลิกเลยป่ะ ดีป่ะกรูกลัวพี่”
“แล้วแต่เมิง” ผมเดินเข้าไปจับบ่าไอ้ชาติที่กำลังสั่งลงโทษอย่างเมามัน
“ชาติ พอละ เดี๋ยวเมิงไปเรียกแถวตรงหนองบอน แล้วสั่งนิดๆหน่อยๆ แล้วก็เลิกแถวได้ละ เดี๋ยวไปหาอะไรกินร้านไอ้ปลื้มกัน”
“ก็ได้ว่ะ กรุเจ็บคอละเหมือนกัน” ผมเดินออกมาคุยกับเพื่อนๆ ในระหว่างที่ชาติเพื่อนผมวิ่งนำไปที่หนองน้ำ เบื้องล่างมีตอนบอนยืนตอนอยู่มากมาย ผมใช้เวลาคุยกับเพื่อนอยู่ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ น้องๆก็ทยอยกลับมาเข้าแถวกันบริเวณที่ผมยืนอยู่
“ขอบคุณครับรุ่นทวด ขอบคุณครับรุ่นทวด” เสียงที่เปล่งพร้อมๆกัน  แต่เพื่อนผมดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจรึว่าได้ยิน น้องยังคงส่งเสียงขอบคุณกันอยู่แบบนี้ จนผมรำคาญเลยต้องเป็นคนปล่อยแถวเสียงเอง
“ขอบคุณครับ”
“พวกเมิงทำไมไม่รับน้องเขาสักทีว่ะ น้ำใจอ่ะ”
“ก็หน้าที่เมิง ” โยนเรื่องให้ผมอีกแล้ว
“พี่ครับ” เนสเดินตรงเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว
“ว่า”
“คันดิ”
“คันก็กลับไปอาบน้ำดิ มายืนเกาอยู่นี้มันไม่หายหรอก ไปๆ เดี่ยวคุยมาคุยกัน ”
“คุยที่ไหนพี่”
“ร้านที่พวกเอ๊งไปซ่ากันเมื่อคืนนั้นละ”





enhumto

  • บุคคลทั่วไป




“โอมห์ ปลื้มไปหาเงินก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วไปกินข้าวกัน” ปลื้มพูดเหมือนเหนื่อยๆ แต่ก็ทำ
“ไปเหอะ อยู่ได้”  วันนี้ปลื้มไม่ได้ร้องเพลงแนวเดิมกับเมื่อวาน กลายเป็นเพลงสนุกๆแทนเพลงรักเศร้าๆ คงเพราะมีความสุข รึว่าไม่มีอารมณ์จะมาเศร้าก็ไม่รู้ จะด้วยความตั้งใจรึไม่ตั้งใจก็ตามแต่ปลื้มก็ลืมโทรสับไว้กับผมทุกครั้งผมไม่เคยคิดที่จะยุ่งโทรสับของปลื้มเลยเพราะเคารพความเป็นส่วนตัวแต่ คราญนี้ต้องเรียกว่าเรื่องมันมาให้เห็นเองจนได้สะมากกว่า
@ยุ้ยตัวยุ่ง--------------------------------- ทำอ่าร่ายอยู่คร่ะพี่ปลื้ม
ก็อยากที่บอกนั้นละครับว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะยุ่ง ได้แต่อ่านแล้วปล่อยให้หน้าจอดับไป ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็น
@ยุ้ยตัวยุ่ง----------------------------------พรุ่งนี้เจอกันที่ตึกนะคร่ะพี่ ยุ้ยรอกินข้าวเช้า

“พี่โอมห์ ทำอะไรอยู่ครับ” เนสเดินเข้ามาในร้านแล้วตรงเข้ามาหาผมทันที
“อ้าว นั่งก่อนดิ มากับใคร”
“คนเดียวครับพี่ แล้วเพื่อนพี่คนที่มาด้วยกัน”
“บนเวที”
“ใช่จริงด้วย เท่ว่ะเป็นหนักร้องด้วย”
“กินเบียร์รึเปล่า”
“ไม่เอาดีกว่าพี่ งั้นจะกินอะไรก็สั่งเลยนะ”
“ครับ”
“แดงทั้งตัวเลยว่ะ สนุกป่ะเตะบอน”
“สนุกบ้าไรว่ะพี่ ดูดิคันทั้งตัวไปหมดแล้ว”
“เอ๋อสมัยพี่แก้ผ้าล้างน้ำกันไม่อายใครเลยรู้รึเปล่า แถมปีถัดมาพี่โดนรุ่นพี่แกล้งอีกจนต้องเข้าโรงบาลเลย”
“พี่อ่อนแอว่ะไม่แข็งแรงเลย”
“เนสพี่ถามเราจริงๆเถอะว่ะ เรามีพี่น้องรึเปล่า”
“ไม่นิครับ เท่าที่รู้ไม่มีนะครับ พี่ถามทำไมครับ”
“ทำไมต้องเท่าที่รู้”
“ก็ผมยังไม่รู้เลยว่าพ่อแม่แท้จริงตัวเป็นๆของผมเป็นใคร” ประโยคคำตอบประโยคนี้เล่นเอาผมหน้ามืด ความคิดต่างๆย้อนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็วเหมือนว่าคนที่นั่งอยุ่ตรงหน้าคือเขาคนนั้นอีกแล้ว
“พี่ เป็นอะไรรึเปล่าเงียบไปทำไหมครับ”
“ป่าวๆ เราว่าเราเป็นคนที่ไหนนะ”
“น่านครับ” เนสจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตาไปจ้องกัน
“เห้ยมาจ้องหน้าทำไม ”
“ก็ผมรอว่าพี่จะพูดอะไรต่อ”
“แล้วเราอยู่กับใครตอนนี้”
“ก็พ่อแม่ที่เขาเลี้ยงผมแต่เด็กนั้นละครับ”
“อืมๆ”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆ ไปเที่ยวบ้านเพื่อนพี่กัน ”
“เห้ยไม่เอาอะพี่ เกรงใจ”
“ไปเหอะ มันจำเป็นต้องไป”
“ไม่เอา”
“นี้คือคำสั่งกรู เข้าใจ”
“ไปก็ได้ครับ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับคนในรูป ถามเพื่อนพี่น่ะ”
“แล้วพี่จะไปไหน”
“คุยโทรสับ” ผมลุกออกจากเก้าอี้ในขนาดที่ปลื้มลงจากเวทีพอดี ดูเหมือนว่าปลื้มกำลังได้คุยกับเพื่อนเก่า เพราะสนิทสนมคุยกันถูกคออย่างรวกเร็ว ในขนาดที่ผมกำลังร้อนใจกับเรื่องที่สงสัยอยู่
“สวัสดีค่ะ”
“แม่ครับ โอมห์นะครับ”
“ว่าไงลูก”
“ผมมีเรื่องจะรบกวน พรุ่งนี้ผมเข้าไปหาที่บ้านได้ไหมครับ”
“ได้สิลูก”
“แล้วมากับใคร”
“กับปลื้มครับ แล้วก็เพื่อนอีกคนหนึ่ง”
“ได้จ๊ะลูก”
“งั้นผมรบกวนแค่นี้ละครับ”  หลังจากวางหูผมก็คิดทบทวนดูว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำมันมีข้อดีรึข้อเสียมากกว่ากัน ถ้ามิ๊กอยู่มิ๊กคิดจะทำอะไรแบบนี้รึเปล่า รึว่าเรื่องนี้ผมไม่สมควรเข้าไปยุ่งเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม
“พี่โอมห์ ไอ้เนสนี้เหมือนพี่โน๊ตจริงๆเลยนะครับ”
“อืม”
“ปลื้มพรุ่งนี้ลาเขาไว้นี้ละ”
“ไปไหนพี่”
“บ้านโน๊ต”
“พี่คิดดีแล้ว”
“อืม” ผมพยักหน้าเงียบๆ  ถ้าเนสเป็นพี่รึว่าน้องของโน้ตจริงๆเขาเองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าพี่น้องเขาเป็นใคร ในขนาดที่เนสเองอาจจะเป็นยาใจให้กับลุงกับป้าก็ได้  เราแยกย้ายกันกลับห้องระหว่างทางปลื้มไม่ได้คุยอะไรกับผมเลยสักคำเดียวจนถึงห้อง
“พี่ทำไมต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นด้วย”
“คนอื่นยังไงกันปลื้ม”
“ก็เรื่องเนสไงครับ”
“เขาจะเป็นใครก็เรื่องของเขาสิครับ”
“เอ๋อพี่ยุ่ง ถ้าเราไม่อยากไปพี่นั่งรถไปกันเองก็ได้ ลำปางแค่นี้ ถ้าอยากจะอยู่เที่ยวกับน้องยุ้ย”
“พี่” ปลื้มยกมือขึ้นมากำ
“เอ๋อ กรูเสือก จะด่าก็ด่ามาเลยว่ะ”
“พี่โอมห์” อาการโกรธกับน้อยใจอะไรมันน่ากลัวกว่ากัน ผมไม่รู้ครับ แต่เวลาที่สองอาการมันมารวมกันมันทำให้ผมร้องไหลได้ง่ายจนน่าประหลาดใจ ผมยกมือปาดน้ำตาเม็ดโต ปลื้มยังคงยืนดูผมอยู่ห่างๆ  
“พี่คงยุ่งกับเรามาไปจริงๆ มันคงถึงเวลาจริงๆแล้วละมั้งปลื้ม”
“เวลาอะไรครับพี่”
“เวลาที่เราต้องแยกกันสักทีไงพี่เองก็หายแล้ว”
“อ๋อใช่สินะ เจอคนใหม่แล้วก็เลยจะหอบเสื้อผ้าไปอยู่กับเขา”
“ไอ้ปลื้ม” มันช่างเป็นคำดูถูกที่ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน มันจ้องหน้ามันทั้งน้ำตา เนี่ยคือคนคนเดียวกันที่ผมรู้จักรึเปล่า แววตาของปลื้มเองก็ดูหน้ากลัวไม่ต่างจากมิ๊กเวลาที่กำลังโกรธใครสักคน
“ไม่ต้องเรียกผมหรอกพี่ ตอนแรกผมก็หลงคิดว่าพี่เป็นคนที่หนักแน่น ที่ไม่เรียกผมว่าแฟนสักทีก็คิดว่ากำลังลองใจ แต่ที่ไหนพี่มันก็แค่คนใจง่ายมีใครเอาใจหน่อยก็หลง”
“เมิงมองกรูเป็นคนแบบนี้จริงรึไงว่ะ”
“รึไม่จริง  ทำเป็นรุ่นพี่ที่แสนดีให้รุ่นน้องชกหน้า จริงๆก็อยากได้เขาจนตัวสั่น”
“ปลื้ม” ผมเดินเข้าไปใกล้พอที่จะได้ยินเสียงลมหายใจที่กำลังเข้าออกอย่างรุนแรงเพราะความโมโห
“ทำไม พี่จะทำไมผม”
“เปล่า กรูจะทำอะไรเมิงได้ ก็แค่อยากเห็นหน้าชัดๆ”
“ดูทำไม ผมก็แค่ผู้ชายอีกคนที่พี่มีไว้แก้เหงา ”
“พอๆ เมิงคิดเองเอ๋อเองทั้งนั้น อยู่เถียงกับเมิงก็เท่านั้น” ผมเหวี่ยงประตูปิดตามหลัง จะโกรธรึว่าน้อยใจมันแยกกันไม่ออกจริงๆ ผมเริ่มต้นออกเดินอย่างช้าๆ  เหมือนในมิวสิกวีดีโอเพลงรักที่ไม่สมหวัง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบฟังเพลงเวลาใช้ความคิด ผมเดินมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ แล้วก็เรื่อยๆ จนตัวเองมาหยุดที่หน้าห้องที่ผมรู้จัก มันนมีสองคำถามที่เกิดขึ้นในใจว่าควรหรือไม่ควร


“น้อง ......................  น้อง มาหาใครครับ”
“ครับ  ครับ” ผมถูกปลุกขึ้นมาจากคำถามที่ย้ำคิดย้ำทำอยู่นาน เพราะเสียงของใครบ้างคนที่กำลังเอ๋ยปากทักทาย
“มาหาใครครับ พี่เห็นน้องมายืนอยู่ตั้งนาน” เจ้าของเสียงน่าจะเป็นยามประจำตึกนี้แน่นอน คงจะมีใครคิดว่าผมเป็นภัยแน่ๆ สำหรับตึกนี้
“มาหาเพื่อนนะครับ แต่เขาไม่อยุ่ ผมเลยยืนนึกว่าเขาไปไหน”
“แน่นะ”
“แน่สิครับพี่ หน้าตาผมเหมือนโจรรึเปล่าครับ”
“ถ้าไม่อยู่ก็ลงไปได้แล้ว นี้ไม่ใช่ที่ที่คนนอกจะมาเดินเล่น” ผมเหลือบตามองหน้ายามทันที เริ่มจะไม่จบกับผม
“พี่ครับ ผมเคยอยู่ห้องนี้มาก่อนนะครับพี่”
“ไม่ได้ครับมันเป็นหน้าที่”
“ครับ” ผมลวงกุญแจห้องที่ผมเคยมีอยู่มาเปิดประตูห้องเข้าไป เพื่อตัดปัญหาที่ต้องมายืนเถียงกับยามคนนี้
“พอใจรึยังครับ ผมเข้าห้องได้แล้ว”
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่” ผมยิ้มให้แล้วผลักประตูให้เปิดออก

............................ ตอนผมเข้าเรียนตอนปีหนึ่ง มีวิชาหนึ่งที่ผมไม่เคยเรียนมาก่อน นั้นคือวิชาเคมี สำหรับสาย ปวช. มันคือเรื่องแปลกประหลาดมากๆ แต่กับมิ๊กมันดูเป็นเรื่องธรรมดาเพร่าทานชายคนนั้นคงผ่านมาบ้าง ในคาบแรกที่ผมได้เรียน  ดร. ที่รับบทเป็นคุณครูวันนั้นตั้งคำถามง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณ โดยเล่าเหตุการณ์ง่ายๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ทดลองกัน โดยมีการเข็นผู้ป่วยกำลังจะตายคนหนึ่งเข้ามาในห้องกระจกห้องหนึ่ง ซึ่งในห้องได้ถูกฉาบด้วยน้ำยาชนิดหนึ่งไว้ ผู้ป่วยถูกเข็นไปไว้ในห้องกระจกนั้นโดยที่ห้องนั้นถูกปิดไม่ให้มีทางออก ภายหลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้ป่วยคนนั้นก็สิ้นใจ ไม่กี่นาทีต่อมา ศพถูกนำออกมาจากห้อง พร้อมๆกับการฉาบน้ำยาอีกชนิดลงไป ผลที่ได้คือรอยมือรอยเท้าที่ปรากฏขึ้นทั่วห้องแม้แต่บนเพดาน ที่ที่ไม่สมควรมีรอบเท้าปรากฏอยู่  คำถามง่ายๆถูกตั้งขึ้นหลังจากเรื่องนี้จบ คือร่องรอยที่เกิดขึ้นคืออะไร  ทุกคนต่างตอบกันว่าเป็นผีบ้าง วิญญาณบ้าง ถึงจะยกเหตุผลมาร้อยแปดล้านอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรที่ถูกต้องเพราะไม่มีใครบอกได้ว่าผีมีจริง เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังแผนกไฟฟ้า แล้วผมสมควรที่จะอยู่ในห้องนี้รึเปล่าละครับ ผมสมควรกลัวโน๊ตรึเปล่าในความเป็นจริงๆ ห้องนี้ไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยของที่สมควรอยู่ก็ยังอยู่ที่เดิม พ่อกับแม่ได้เข้ามายุ่งเลย เรียกได้ว่าไม่ได้มาเหยียบที่นี้เลยดีกว่า เสื้อผ้าที่โน้ตเคยใส่ยังถูกวางเรียงรายอยู่ในตู้เสื้อผ้า ขวดน้ำ แก้วน้ำ สิ่งที่เข้ามาอยู่แทนที่นี้ก็เห็นมีแต่ผงฝุ่นสีขาว เต็มห้องไปหมด ผมเองไม่ได้ออกเดินสำรวจอะไรในห้องนี้เพราะใจลึกก็ยังกลัว ถึงจะบอกว่ารัก รู้สึกผิดที่ไม่ได้มาดูแลก็เถอะ จนผมไปสดุดตากับม้วนกระดาษม้วนหนึ่ง มันคล้ายกับที่ผมเคยได้ แต่มิ๊กเอาไปทิ้งสะก่อนที่ผมจะได้เห็นมันเต็มๆตา กระดาษไขที่เขียนกลอนที่ดูไม่ค่อยจะคล้องจองกันสักเท่าไร

ฉันเดินข้ามผ่านแผ่นดินรกร้างว่างเปล่านี้
ฉันรู้จักถนนหนทางแถบนี้ราวกับรู้จักหลังมือของฉัน
ฉันรับรู้ผืนธรณี เบื้องใต้เท้าทั้งคู่ของฉัน
ทรุดตัวลงนั่งอยู่ริมสายธาร ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา
โอ ความเรียบง่ายทั้งหลายเอย เจ้าหายไปไหนหมดหนอ?
ฉันแก่ตัวลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ยึดเหนี่ยว
เพราะอย่างนั้น ช่วยบอกฉันที เมื่อไหร่เธอจะเปิดรับฉันไว้?
ฉันเหนื่อยลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ที่จะเริ่มต้นใหม่
ฉันเดินมาพบกับซากต้นไม้ต้นหนึ่ง
ฉันรู้สึกราวกิ่งก้านสาขาของมันจ้องมองฉันอยู่
นี่ใช่สถานที่ที่พวกเราต่างรักจริงๆ หรือ?
นี่คือสถานที่ที่ฉันเคยวาดฝันถึงจริงๆ หรือ?

โอ ความเรียบง่ายทั้งหลายเอย เจ้าหายไปไหนหมดหนอ?
ฉันแก่ตัวลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ยึดเหนี่ยว
เพราะอย่างนั้น ช่วยบอกฉันที เมื่อไหร่เธอจะเปิดรับฉันไว้?
ฉันเหนื่อยลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ที่จะเริ่มต้นใหม่

ถ้าเกิดเธอจะมีเวลาสักหนึ่งนาที ทำไมพวกเราไม่ไป
พูดคุยเรื่องนี้ ในสถานที่ที่มีแต่พวกเราที่รู้จักกันสักหน่อย?
ครั้งนี้อาจจะเป็นจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็ได้
เพราะอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองไป
สถานที่ที่มีแต่พวกเราที่รู้จักกันล่ะ?

โอ ความเรียบง่ายทั้งหลายเอย เจ้าหายไปไหนหมดหนอ?
ฉันแก่ตัวลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ยึดเหนี่ยว
เพราะอย่างนั้น ช่วยบอกฉันที เมื่อไหร่เธอจะเปิดรับฉันไว้?
ฉันเหนื่อยลงไปทุกที และฉันก็ต้องการที่ที่จะเริ่มต้นใหม่

ถ้าเกิดเธอจะมีเวลาสักหนึ่งนาที ทำไมพวกเราไม่ไป
พูดคุยเรื่องนี้ ในสถานที่ที่มีแต่พวกเราที่รู้จักกันสักหน่อย?
ครั้งนี้อาจจะเป็นจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็ได้
เพราะอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองไป
สถานที่ที่มีแต่พวกเราที่รู้จักกันล่ะ?

ครั้งนี้อาจจะเป็นจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
เพราะอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองไป
สถานที่ที่มีแต่พวกเราที่รู้จักกัน?


  น้ำตามันไหลลงบนกระดาษจนหมึกเริ่มเลอะไปหมด ผมวางมันลงยังที่ที่มันสมควรอยู่ ก่อนที่ตาจะไปสังเกตสิ่งใหม่ที่มันเปลี่ยนความรู้สึกผมไปอย่างสิ้นเชิง รอยเท้าที่ปรากฏขึ้นบริเวณหน้าผมทอดยาวไปจนถึงระเบียง ผมแน่ใจว่าผมยังไม่ได้เดินไปบริเวณนั้นแน่นอน ความเย็นถูกพัดผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าในตอนที่ผมเข้ามาสังเกตแน่แล้วว่าไม่มีอะไรผิดปรกติ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทุกคนสมควรทำคือสวดมนต์ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ผมจะทำทำไมละครับ ไม่ใช่เรื่องเลย ถ้าเป็นโน้ตจริง ผมเองสมควรที่จะดีใจสิครับที่รู้ว่าเรายังอยู่ใกล้ๆกัน อยู่ดีๆเครื่องเล่นซีดีพร้อมๆกับทีวีก็เปิดขึ้นเอง เรื่องนี้สิครับที่ทำให้ผมตกใจมากกว่า ผมไม่ได้เดินไปปิดได้แต่ยืนตัวแข็งมองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ปล่อยให้มันดำเนินไปในสิ่งที่มันอยากจะเป็น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าบนทีวีเป็นภาพโน้ตกำลังยืนอยุ่บนเวทีที่ไหนสักแห่ง
“เห้ยเมิงได้ถ่ายรึเปล่าว่ะ” เสียงโน้ตตะโกนถามตากล้อง
“ถ่ายๆ”
“กรูหล่อรึเปล่า”
“เมิงเคยหล่อด้วยรึไงว่ะ ไอ้ลาว”
“สัดใครลาว เมิงดูๆ ซูมมาเลย ข้างๆกรูหล่ออย่างมาริโอ้” กล้องก็พยายามซูมเข้าไปตามที่โน้ตขอ ผมเองเปลี่ยนจากอารมณ์กลัวมายิ้มแทน
“เหียแม๋ง มาริโอ้ ”
“จริงด้วยว่ะโน๊ต”
“กรูบอกพวกเมิงแล้ว เอาอีกมุมไหม”
“พอละมึง ร้องเพลงดีกว่า”
“เอ๋อๆ ก่อนร้องเขาต้องมีการแนะนำเพลงก่อนสิว่ะ”
“ตามสบายเลยบักโน้ต ”
“เพลงนี้ผมตั้งใจร้องให้ใครบ้างคน เพราะผมเห็นเขายิ้มทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้  ผมใช้เวลานานมากกว่าจะโน้นน้าวไอ้พวกเหียนี้ให้ยอมแกะเพลงนี้แล้วเล่นให้ผมร้อง ผมเพิ่งรู้ว่าความหมายมันดีมากๆจนกระทั่งผมได้มานั่งแกะเพลงนี้ แล้วก็เพิ่งได้รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณถึงยิ้มทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้  Somewhere only we know ผมอยากให้คุณได้ยิ้มมากกว่าทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ เพราะว่าผมเป็นคนร้องเพลงนี้ ”  ขนที่แขนลุกขึ้นกันอย่างพร้อมเพียง เสียงลำโพงถูกเร่งขึ้นดังจนลั่นห้องแต่ผมกับเหมือนโดนสะกดให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ จ้องหน้าทีวีโดยไม่ขยับไปไหน กระดาษที่ผมเพิ่งอ่านเมื่อตะกี้ถูกลมพัดตกลงมาที่จากโต๊ะที่ผมวางไว้มากองอยู่ที่เท้าผม แต่ละประโยคผมเพิ่งสังเกตว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่กลอนแต่มันเป็นเนื้อเพลงที่ถูกแปลให้เป็นภาษาไทย ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะเศร้าอีกแล้ว ตอนนี้ผมกับอิ่มใจที่ได้ฟังเพลงนี้ รอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนหน้าน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด โน้ตร้องเพลงด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุข รอยยิ้มท่าทางที่ผมคิดถึงมันเหลือเกิน  
“เห้ย เมิงร้องไห้รึไงว่ะไอ้โน๊ต”
“ป่าว ใครร้อง”
“มึงนั้นละ ตาแดงเลยสัด”
“อืม กรูดีใจว่ะที่ได้ร้องเพลงนี้ ขอบคุณพวกเมิงว่ะ”
“เห้ย โน๊ตมึงลือดออกว่ะ ”
“ตรงไหนว่ะ”
“จมูกๆ”
“เห้ยไอ้โน๊ต” แล้วภาพก็ถูกเบนไปทางอื่นมีแต่เสียงคนตะโกนกันวุ่นวายไปหมด แล้วจอก็มืดไป ตอนนี้ผมกำลังสงสัยตัวเองว่าต้องรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆผมดีใจที่ผมได้เห็นสิ่งนี้ ผมเชื่อว่าโน้ตเองก็ดีใจเหมือนกันที่ผมได้เห็นสิ่งนี้ อยู่ดีๆก็มีมือมาวางที่ไหล่ผม

“กลับห้องกับเหอะพี่โอมห์ ผมรู้แล้ว” ปลื้มเดินเข้ามาจับไหล่ผม ผมไม่ได้พูดอะไรถึงจะสมควรโกรธก็เถอะแต่ผมลืมมันไปหมดแล้ว
“ผมเห็นทุกอย่างแล้วพี่ ”
“เห็นอะไร”
“ก็ทุกอย่างที่พี่เห็นนั้นละครับ พี่โน้ตเขาขอให้ผมเอามาไว้ที่ห้อง”
“ปลื้มรู้”
“ครับ แต่ผมไม่เคยเปิดดู จนวันนี้ละครับ”
“กลับห้องกันนะครับพี่ เดี๋ยวเราไปพร้อมกัน บ้างที่มันอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่พี่โน๊ตอยากจะรู้ก็ได้”

LadyOneStar

  • บุคคลทั่วไป
คนเรายังเจออะไรอีกเยอะค่ะ ^^

cascada

  • บุคคลทั่วไป
ยังติดตามอยู่ครับ

ออฟไลน์ Forever_Love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
จะเป็นหนึ่งในกำลังใจให้น้องโอห์มค่ะ :กอด1:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้เรื่องราวปัจจุบันบ้างอะไรบ้างค่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเราแต่ก็เศร้าทุกครั้งที่อ่าน

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
มาดันนนนนนนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด