-- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557  (อ่าน 334116 ครั้ง)

LoFT

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าอีกแล้ว

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
ทำไมชีวิต คนเราต้อง วุ่นวาย แบบนี้ด้วย เนอะ....บางครั้งก้อคิดว่า ตายๆไปได้ ซ่ะก้อดี เฮ้อออออออ :n1:

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
มันดราม่าทั้งเรื่องเลยวุ้ย :monkeysad: :monkeysad:

 :กอด1:กอดโอมห์

artit

  • บุคคลทั่วไป
โอย เศร้า  :m15:

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
จะให้เศร้าสักแค่ไหน แต่เราก็ยังยิ้มออกเสมอ กายเจ็บไม่เท่ากับใจเจ็บ
ผมชอบประโยคหนึ่งของคนที่ คอมเม้นไว้จังเลยครับ

ทำไมชีวิต คนเราต้อง วุ่นวาย แบบนี้ด้วย เนอะ....บางครั้งก้อคิดว่า ตายๆไปได้ ซ่ะก้อดี

แต่ถ้าเราตายไปแล้ว เราก็คงไม่รู้ว่าตอนจบ รึว่าปัจจุบันนี้เป็นยังไง แล้วก็นั่งถอดใจอีกครั้งกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าชีวิตของคนมีแต่เรื่องรัก เรื่องกิน เรื่องเที่ยวก็คงดี
มันดันไม่เป็นแบบนั้น อนาคตมันโดนปูทาง เหมือนโปรแกรมหนังที่ระบุบวันเวลาในการเข้าฉายไว้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเลื่อนแต่ยังไงมันก็ยังต้องฉาย
ผมสงสัยจังว่า ต่อจากนี้ไปอีก ครึ่งปี ชีวิตของผมและเขาคนนั้นจะเป็นยังไง ระยะทางที่เป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง ความรักกับความเหงามาพร้อมกันเสมอ
1 คืออนาคต 1 คือความหวังของครอบครัว 1 คือชีวิตที่เหลืออยู่ บ้างที่ผมว่า ผมอยากเป็นเด็กที่ไม่ต้องโตสะมากกว่า ถึงมันจะเห็นแก่ตัว แต่ได้เป็นสักวันก็คงจะดี


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าหากว่านี้คือฝนที่สุดท้ายวันปิดเทรอมของผม วันนี้ก็ช่างเป็นวันที่ดูเศร้าเลยเกิน ทุกคนที่มีคู่เขาต่างเดินกางร่ม แอบอิงซึ่งกันละกันในร่มไม่ว่าจะคันน้อยรึใหญ่ จากมุมที่ผมอยู่มองเห็นทุกอย่างได้ดี บ้างทีตอนนี้อาจจะเป็นช่วงที่ผมทรมารใจที่สุดก็ได้ ถึงรู้ว่าเขาคนนั้นไม่ตาย แต่ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าเขาเป็นยังไง แล้วเพราะอะไรเขาถึงไม่ติดต่อกลับมาหาผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหตุการณ์หลังจากวันนั้นมันค่อยเขามาทำร้ายผมเสมอ ทุกวันๆนในตอนเช้าผมมั้งคิดเสมอว่ายังมีเขานอนอยู่ข้างๆกายผม แล้วก่อนหลับตาผมก็คิดไปเองอีกเหมือนกันว่าเขายังคงอยู่ข้างๆผม
“เข้าไปในห้องกันนะพี่โอมห์ ฝนจะตกแล้ว”  ปลื้มเดินเข้ามาจับที่ไหล่ผมเบาๆ
“อืม” ปลื้มค่อยๆประคองตัวผมลุกขึ้น แล้วเอามาทิ้งไว้ที่เกาอี้ภายในห้อง
“ลมแรงจังเลยนะพี่ วันนี้เราจะกินอะไรกันดีครับ”
“ปลื้มอยากกินอะไรก็กินเลย พี่ไม่ค่อยหิวว่ะ” ผมละสายตาจากหน้าของปลื้มแล้วไปจ้องที่ทีวีแทน
“ไม่ได้นะพี่ ถ้าไม่กินพี่ก็ไม่หาย”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนิ”
“พี่โอมห์”
“ไปหาอะไรกินเถอะไม่ต้องห่วงพี่หรอก” 
“ผมกลับดึกน่ะพี่ จะไปจัดซุ้มเตรียมรับน้อง”
“อืม ขับรถดีๆนะปลื้ม”
“พี่โอมห์”
“ฮืม”
“ปลื้มเป็นห่วงพี่นะครับ อย่าคิดมากนะครับ” ปลื้มเดินเข้ามาประทับจมูกลงบนแก้มผม แล้วเดินออกไปอย่างเศร้าๆ ผมคิดถึงมิ๊กเหลือเกิน น้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาอาบแก้ม จากแค่นั่งคิดกลายเป็นบทร้องไห้อย่างจริงจัง
.....................ป๊อก ป๊อก.......................  เสียงคนเคาะประตูหน้าห้อง
“มีคนอยู่รึเปล่าครับ”
“อืม” ผมตอบรับ พร้อมค่อยๆเดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ฉิบหายแล้ว..................ตาผมบวมมาก ผมรีบเอาน้ำมาล้างหน้าล้างตา แล้วไปเปิดปรตูก่อนที่คนที่มาหาผมจะพังประตูเข้ามาสะก่อน
“ไอ้โอมห์” เพื่อนๆในห้องนับด้วยสายตาคงเกินสิบคนแน่ๆที่มายื่นเรียงรายกันหน้าห้อง
“เห้ย”
“เห้ยอะไรว่ะ ไปรับน้องกัน”
“ไปยังไงสภาพกรูเป็นแบบนี้”
“โอมห์เมิงอย่ามาแสดงเถอะว่าขอร้อง กรูรู้ว่าตัวเมิงไม่เป็นอะไรแล้ว มีแต่ใจเมิงเท่านั้นละที่ป่วย ไปกลับพวกกรู สาวๆจัดการพาไอ้หล่อไม่เสร็จนี้ไปเสร็จสะ”
“เห้ย”
“เมิงเลิกเห้ย แล้วไปๆสักทีเถอะว่ะ” คุณชาติเพื่อนผมเร่ง ผมถูกลากเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งโดยบรรดาสาวๆที่มีไม่กี่คนในคณะของผม
“โอมห์เมิงดูโทรมไปรึเปล่าว่ะ” สาวสาวมองหน้าผมแล้วค่อยๆพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไม่รู้ดิ พวกเมิงคิดว่าไง”
“พวกกรูโหวตว่าโทรม” เพื่อนๆผมสาละวนกับการเลือกเสื้อผ้าให้ผมใส่ไปมหาลัย ผมไม่รู้หรอกครับว่าเขามีกิจกรรมอะไร แต่ผมก็ปล่อยให้เพื่อนๆลากตัวผมไป นี้มันก็คงจะดีกว่าต้องมาอยู่คนเดียวในห้อง แล้วคิดอะไรบ้าๆบ้อๆคนเดียว ระยะเวลากว่าสามเดือนที่ผมไม่ได้มีโอกาสเข้ามาเหยียบมหาลัยแม้แต่ครั้งเดียว ลมที่ยังทำหน้าที่เป็นตัวบอกถึงการมาของฝน เมตที่ลอยอยู่เหนือพระธาตุดอยสุเทพ ทำให้พระธาตุในยามใกล้ค้ำดูสวยแปลตาไปอีกแบบเมื่อแสงไฟไปกระทบกระเมฆที่ลอยอยู่ใกล้ๆ ลมเย็นรวมไปถึงกลิ่นของธรรมชาติเข้ามาตอนรับผมทันทีที่ลงจากรถ ผมไม่ได้คิดไปเองว่าผมกำลังแอบหวังว่าจะเจอเขาคนนั้นที่นี้
“เมิงมองหาใครรึเปล่าว่ะโอมห์” ใช่ครับผมมองหามิ๊ก
“ถ้าเป็นไอ้มิ๊ก กรูไม่เห็นมันเลยนะโว้ย ” คงไม่ต้องถามพวกมันแล้วละครับตอบกันมาหมดแล้ว ลานด้านหลังยังคงเป็นที่ที่เพื่อนๆเลือกใช้เป้นที่รับน้อง วันนี้ผมกลายเป็นรุ่นทวดจริงๆแล้วสินะ

“อ้าว ยุงเยอะไหมพวกเรา กางมุมกันแล้วยุงยังกัดอยู่รึเปล่า” เสียงรุ่นน้องที่ถามน้องใหม่ได้กวนตีนดีชะมัด ผมค่อยเดินเข้ามาตามกลุ่มของเพื่อนๆ
“สวัสดีครับพี่ โอมห์” ผมยกมือรับไหว้
“เอาพวกเราลุกขึ้น สวัสดีรุ่นทวด” ทุกๆครั้งที่ผมมารับน้อง ผมคิดเสมอว่าเมื่อไรกิจกรรมแบบนี้มันจะหมดไปสักที มันน่าเบื่อ ตั้งแต่ปีหนึ่ง วันแรกที่ผมเข้ามาเรียนที่คณะแห่งนี้ การรับน้องที่เรียกว่าหนักหนาสาหัญของคณะผม มันเรียกว่าไม่ใช่เรื่องตลกเลย เรายืนถอดเสือตากแดดให้ร้อนเพลงกันเป็นวันๆ หลังที่ลอกออกมาเป็นคราบเพราะแดดเผา รุ่นพี่บอกเสมอว่ามันเป็นการฝึกวินัย การร้องเพลงก็เหมือนกัน มันเป็น................................................... คำพูดพวกนี้ถูกกรอกหูจากรุ่นสู่รุ่น ผมเองว่ามันไร้สาระแล้วก็พยายามจะฉีกกฎนี้ทิ้งทุกครั้งเมื่อมีโอกาส วันนี้พอผมมายืนอยู่จุดที่สูงที่สุดแล้วมองมันลงมา ก็เข้าใจว่าเรื่องบ้างเรื่องจริงๆมันก็สมควรคงไว้เพราะอะไรผมก็ไม่รู้
“น้องครับนี้ พี่โอมห์” .................................สวัสดีคราฟพี่โอมห์ สวัสดีคราฟพี่โอมห์
“เอาใหม่พี่เขาไม่ได้ยิน”...................................สวัสดีคราฟพี่โอมห์ สวัสดีคราฟพี่โอมห์
“เอาอีก ไหว้จนกว่าพี่โอมห์จะได้ยิน”......................สวัสดีคราฟพี่โอมห์......................

“ไอ้โอมห์ เมิงจะแกล้งน้องรึไงว่ะ น้องมันไหว้”
“ห่ะ  สวัสดีครับ พอแล้ว”
“กรูคิดอะไรเยอะไปหน่อยว่ะ”
“คิดอะไรหนักหนาว่ะ เดี๋ยวรุ่นน้องจะให้เมิงไปคุยกับน้องใหม่ เมิง OK รึเปล่าว่ะ”
“ไม่ไหวมั้ง”
“เดี๋ยวรุ่นทวดมีอะไรจะคุยกับพวกเรา”  ผมถูกดันออกมายืนข้างหน้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ หมายถึงว่าผมไม่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะได้มาเป็นคนพูด
“พี่ขอโทษพวกเราจริงๆ ที่ไม่ได้ยินที่พวกเราพูดเหมือนตะกี้ พอดีว่าพี่เพิ่งผ่านเรื่องไม่ดีมา พรุ่งนี้พวกเราก็จะรอดซุ้มแล้วก็ถือว่าเป็นน้องใหม่จริงๆแล้ว พี่ยินดีจริงๆที่จะมีพวกเราเป็นน้องใหม่ จริงๆแล้วทุกๆปีจะมีเพื่อนพี่อีกคนที่จะมายืนพูดกับพี่”
“ขอโทษครับ แล้วพี่คนนั้นเขาไปไหนแล้วละครับ” เสียงใครไม่รู้แต่มันมาจากในกลุ่มนั้น
“เราไม่เห็นใช่ไหม พี่ก็ไม่เห็นแสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว วันหนึ่งถ้าเขาพร้อมก็คงมาเป็นรุ่นทวดพวกเราเองละครับ พรุ่งนี้พวกเราต้องรอดซุ้ม พี่อยากจะขอ ว่าก่อนที่เราจะรอดซุ้มให้คิดแต่เรื่องดีๆนะครับ อะไรที่มันไม่ดีขอให้เราทิ้งมันไว้ข้างหลัง แล้วสำคัญจะมีการเปิดสายรหัสพรุ่งนี้ ขอให้เจอกันตอนตี 5 ที่ตรงนี้นะครับ ขอให้มาพร้อมๆกัน เพราะว่าที่ที่เรานั่งอยู่ตรงนี้เจ้าที่แรงมาก ถ้าไม่เชื่อให้ถามพวกรุ่นพี่พวกเราดู ” จบคำพูดผมลมก็พัดมาแรงเสริมบรรยากาศได้ดีจริงๆ ต้นไม้ใหญ่ดีสั่นและแรงอย่างไม่น่าเชื่อ สีหน้าของเด็กใหม่ทำให้ผมยิ้มออกมาได้แบบไม่ต้องคิดอะไร หน้าที่การนัดหมายเป็นของรุ่นน้องปีสอง เพราะปีนี้คือปีหลักที่จะได้รับน้อง
“โอมห์ จะกลับรึยังว่ะเดี๋ยวกรูไปส่ง” ไนท์ถามผม ขนาดที่เพื่อนๆคนอื่นกำลังคุยกันถึงกิจกรรมพรุ่งนี้
“ไม่เป็นไร ไอ้ปลื้มมันบอกว่ามันทำซุ้มอยู่ที่ตึกข้างหน้านี้เอง เดี๋ยวกรูเดินไปหามันเอง”
“ก็ได้ มีอะไรโทรหากรูนะเมิง” ผมเดินไปหาปลื้มด้วยหวังว่ามันจะแปลกใจที่ได้เห็นผมมาอยู่ที่นี้ แต่ใครจะรู้ว่าผมต้องแปลกใจกว่า





ป้ายผ้าสีขาวที่มัดติดกับกำแพง มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่คอยดูแลผม กำลังจับมือผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้า ค่อยๆระบายสีสันลงไป สีหน้าที่ดูมีความสุขอย่างประหลาดของปลื้มมันตอบทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ใจมันรู้สึกเจ็บจนแทบยืนไม่อยู่ ขาของผมเริ่มสั่นมันรวมไปถึงมือด้วยเช่นกัน ผมค่อยๆหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อโทรหาปลื้ม เพื่อว่าภาพที่เห็นจะเป็นแค่คนที่หน้าตาคล้ายกัน
“.............................................” ปลื้มหยิบโทรสับขึ้นมาดูแล้วก็เก็บมันใส่ลงในกระเป๋ากางเกงเช่นเดิม ผมคงไม่ละความพยายมง่ายๆแน่ๆ ผมกดสายไปใหม่อีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นเอาสีที่เปื้อนมือมาป้ายหน้าปลื้ม เป็นการหยอกล้อที่ดูน่ารักแต่แสนเจ็บปวดของผม  บ้างทีผมเองก็ได้ที่อาจจะผิดเพราะว่าทุกครั้งที่ผมมองปลื้มผมกลับเห็นแต่เงาของโน้ต ทุกครั้งที่ผมหลับและตื่นผมก็คิดว่าปลื้มคือมิ๊ก ตลอดเวลาช่วงที่ผ่านมาผมคงทำให้ใครต่อใครอึดอัดไม่น้อย แต่ในเมื่อมันเป็นของของผมแล้วนิ ทำไมต้องยอม

ผมเดินเข้าไปกระชากปลื้มออกจากผู้หญิงคนนั้น แล้วหยิบกระถังสีขึ้นมาสาดใส่ทั้งคู่    ................... - * - มันแค่ความคิด

ผมหยิบมือถือของผมขึ้นมาอีกครั้ง ถ่ายรูปที่ผมเห็นแล้วส่ง ข้อความไปยังปลายทางที่มันสมควรจะไป ผมนับ 1 ไม่ถึง10ด้วยซ้ำ ทั้งคู่แยกห่างออกจากกันแล้ว ปลื้มก็กดโทรสับหาผมพร้อมกับมองหาผมทันที นี้ละนะนิสัยผู้ชาย ผมไม่ได้รับสายแต่เดินกลับไปหาเพื่อนของผมแทน ผมถามตัวเองว่าจะร้องไห้ดีไหม คงไม่แล้วละความรักมันทำให้ผมเจ็บเหลือเกิน บ้างทีผมเองก็เจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วทั้งเพื่อนรัก คนรัก น้องรัก มันเหนื่อย เหนื่อยจนตอนนี้ผมแทบจะไม่ไหวแล้ว ผมทิ้งตัวลงนั่งบนม้าหินอ่อนบริเวณใกล้ๆกับลานจอดรถของคณะ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“เปล่าครับ”
“มานั่งคนเดียวทำไมตรงนี้ละครับพี่”
“กรูจะนั่ง ใครว่ะ” ผมเก็บน้ำตาไว้ในร่างกายแล้วหันมาสนใจหน้าตาของคู่สนทนา
“เนสครับ ปีหนึ่ง” มันคงยังไม่ทันที่น้องเขาจะพูดจบ ผมเอามือไปต่อยหน้าน้องเขาสะแล้ว
“เมิงคิดว่ามันตลกรึไงว่ะไอ้โน๊ตที่มาเล่นแบบนี้กับกรู” เสียงของดั่งลั่นแผนก แน่นอนว่าเพื่อนๆผมที่อยู่ในคณะต้องออกมาดูแน่ๆ
“พี่มันเรื่องอะไรครับ” ลงจากที่ผมต่อยหน้ามันไป มันก็ยังทำหน้างงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอผมกำลังจะเริ่มต่อยมันต่อ ไอ้ไนท์ก็เข้ามาห้ามสะแล้ว เพื่อนกลุ่มที่ไปรับผมมาจากห้องรีบเดินเข้ามาล๊อกตัวผม
“เรื่องเหียอะไรเมิงหลอกกรูไอ้สัด เมิงรู้ไหมว่ากรูเสียใจแค่ไหน ปล่อยกรูไอ้ไนท์กรูจะต๋อยมัน”
“เห้ยค่อยๆคุยกันสิว่ะไอ้โอมห์ น้องมันรู้เรื่องอะไรที่ไหนว่ะ”
“ไอ้เกี๋ยมาเอาน้องไปไกลๆ ก่อนไอ้โอมห์มันบ้า” น้องคนนั้นยังเอามือจับแก้มข้างที่โดนผมซัดเข้าไปอยู่
“พี่ผมแค่หวังดี”
“เมิงไปให้ไกลเลยนะ หวังดี ไอ้เหียหลอกกรูมาเป็นปีๆ”
“มันอะไรกันครับพี่ไนท์”ปลื้มวิ่งหน้าตื่นเข้ามาพอดี
“ไม่รู้สิว่ะ ไอ้โอมห์อยู่ดีๆก็ต่อยไอ้น้องนี้”
“มันอะไรว่ะพี่โอมห์”
“เมิงดูแล้วกัน พี่เมิง ไอ้เหีย”ผมชี้หน้าไปที่ไอ้น้องคนนั้น ปลื้มเองก็ชะงักเหมือนกันที่ได้เห็นหน้าของคู่ชกของผม
“พี่โน้ต ” ปลื้มเดินเข้าหาพี่คนนั้น
“อะไรครับพี่ ใครคือโน้ต ผมชื่อเนสครับ”
“ไม่จริงอะ เหมือนมากๆ” ปลื้มยืนพินิจหน้าตาของเนสอยู่ใกล้
“แต่พี่โอมห์ วันนั้นพี่ก็เห็นหน้าพี่โน้ตนี้ แล้วมันจะใช่ได้ยังไง” คำพูดของปลื้มทำให้ผมคิดได้ขึ้นมา
“มันเรื่องอะไรว่ะโอมห์”ไอ้ไนท์ถามผม
“เมิงจำ ไอ้โน้ตที่เรียนอยู่โยธาได้ไหม ที่เราเคยมีเรื่องกัน แล้วพวกมันมาเครียส์ไง”
“เอ๋อๆ”
“เหมือนใช่ไหม”
“กรูว่าละ ว่าไอ้ละอ่อนนี้หน้าคุ้นๆ เมิงใช่คนเดียวกันรึป่าวว่ะไอ้น้อง”
“พวกพี่หมายถึงใครกันครับ”
“เห้ย นายคนที่ไหนว่ะ” ปลื้มถาม
“น่าน ครับ”
“เมิงไม่ได้อำพวกพี่แน่นะ”
“ครับ”
“งั้นพรุ่งนี้ค่อยว่ากันแล้วกันนะ ฝนจะตกละ”ผมไม่ได้เอ๋ยคำขอโทษ แต่ด้วยทรงผมที่ถูกบังคับให้ตัดสั้น ทำให้หน้ายิ่งเหมือนโน้ตเข้าไปใหญ่ถึงจะใช่รึว่าไม่ใช่ แต่คนอะไรจะหน้าเหมือนกันขนาดนั้น ถึงผมจะติดใจเรื่องนี้แต่ผมเองก็ไม่ได้ลืมเรื่องที่ปลื้มได้ทำไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“พี่โอมห์กลับห้อง”
“ไม่ เดี่ยวกรูไปนอนกับเพื่อน” เพื่อนผมพากันทำหน้างงกัน
“เห้ย ถามพวกกรูรึยัง”
“ไอ้เหียกรูไปนอนด้วยคนเดียวพวกเมิงจะเปลืองสักเท่าไรว่ะ”
“ไม่ ห้องเมิงก็มี ไอ้ปลื้มพาพี่เมิงกลับไปด้วย”
“ครับ พี่โอมห์กลับห้องกันเหอะ”


 สมุดวี
สวัสดี วันนี้ไอ้โอมห์ไปขุดหนังเก่ามาเรื่องหนัง จริงๆเรียกมันว่าเป็นตอนสั้นๆของหนังเรื่องใหญ่ดีกว่า จำได้ว่าเคยดูผ่านๆครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว วันนี้พอดีมันเสือกมานั่งดูที่ทีวี กรุเลยไม่มีทีวีดู มันเป็นเรื่องของ ชายหญิงคู่หนึ่ง หนังดูคล้ายกับว่าจะเป็นหนังผี แต่จริงๆแล้วลึกๆมันแฝงอะไรที่ไม่น่าเชื่อเอาไว้ในตอนจบของหนังเรื่องนี้ ผู้หญิงที่ป่วยจนไม่รู้สึก ประหนึ่งว่าตายไปแล้ว แต่เล็บ เส้นผมยังยาวอยู่ ร่างกายไม่ได้บวมอืด หรือว่ามีกลิ่น มีผู้ชายคนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นสามีค่อยดูแล ปรนนิบัติเมื่อวานเธอยังมีชีวิตอยู่ เรื่องก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเพราะชายคนนี้ก็ดูแลผู้หญิงคนนี้มาเป็นปีๆแล้ว จนมีเพื่อนบ้านสอดรู้มาเห็นเข้า เรื่องมันเลยกลายเป็นว่าผู้ชายคนนี้บ้ามานั่งอาบน้ำหวีผม กินข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ให้ศพฟัง จะว่าไปมันก็ดูแปลก แต่มันคงไม่ถึงที่สุด ถ้าตอนจบปรากฏว่าศพนั้นกลับกำลังจะมีชีวิตจริงๆ ในขนาดที่ผู้ชายถูกจับในฐานะบ้า มีวีดีโอบันทึกไว้ว่า สองผัวเมียนั้นตกลงว่าจะรักษาโรคประจำตัวของตนด้วยวิธีของตนเอง โดยให้สัญญาว่าอีก 4 ปีจะกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิม โดยที่ผู้ชายเริ่มการรักษาก่อนในสองปีแรก โดยมีผู้หญิงที่คิดว่าเป็นศพเนี่ยค่อยดูแล พอหนังจบ เข้าใจเลยนี้ละที่เรียกว่าความรักแล้วก็การรอคอย หันกลับไปดูไอ้โอมห์ มันก็คงจะคิดได้เหมือนๆกัน เพลงใครสักคนในตอนท้ายเรื่องมันช่างเหมาะสมจริง ถ้าวันหนึ่งเป็นแบบนี้บ้าง จะมีใครดูแลไหมว่ะเนี่ย

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
อย่าบอกนะว่าโน๊ตมีฝาแฝด!!

รอฟังคำอธิบายจากปากปลื้ม แต่คิดว่า ยังไงซะปลื้มก็เหมือนกับว่าทำหน้าที่แทนโน๊ต มาตลอดอยู่แล้ว

ไม่ได้รู้สึกโกรธปลื้มหรือรู้สึกว่าปลื้มผิดเลยอ่ะถ้าหากปลื้มจะมีใครจริง

เป็นกำลังใจให้น้องโอมห์คับ :กอด1:

ออฟไลน์ BossZa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
    ชีวิตจิรงยิ่งกว่านิยาย

     :กอด1: เป็นกำลังใจให้เสมอ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้โอห์ม
+1

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
ก็จิง อย่างที่พี่ว่า นะ ถ้าผมคิดผิด ที่จะตาย ในตอนนั้น ผมคงไม่มีวันนี้ วันที่ผมยังรู้ว่ามีคนรักผมอยู่ ถึงแม้ไอ้คนนั้นมันจะไม่ ใส่จัยอะไรผมเลย  ทั้งๆๆที่มันทำลายชีวิต ผมแท้ๆๆ   ไงผมก้อจะจะเข็มแข็งให้ได้เหมือนพี่นะ

ยิ่งช่วงนี้ต้อง หา ม.  เรียนต่อ  ยิ่งคิดมาก สุดๆ  เหนื่อยใจ มากๆๆ ตอนนี้ :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
แล้วมิ๊กช์หายไปไหน  สรุปว่า น้องโอมห์คบกับปลื้มจริงๆเหรอ

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
วุ่นวายไปใหญ่ เนส โน๊ต เป็นไรกัน
ปลื้ม ทำตัวไม่น่าปลื้มซะแล้ว
เรื่องราวมากมายจริงๆ เป็นกำลังใจให้โอห์มนะคะ

มิ๊กหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ มีเบื้องหน้า เบื้องหลังอีกแน่ๆ
เฮ้อ ........ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป จริงๆ

Bavari@n

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงมรสุมชีวิตจริงๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จะต้องเจอกับเรื้่องแบบนี้อีกมากซักแค่ไหนกัน

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...ก็ปลื้มเค้าบอกตั้งแต่แรกแล้วนี่ว่าเค้าไม่ได้เป็นเกย์
...แต่ที่เค้าต้องทำทุกอย่างก็เพราะว่าทำตามหน้าที่ ที่โน๊ตฝากเอาไว้ และคงต้องการให้โอมห์มีความสุข
...มันทางของใครก็ทางของมันนะ เพราะปลื้มก็รู้ตลอดนี่ว่าโอมห์ก็ลืมมิกซ์ไม่ได้ ส่วนไอ้น้องที่หน้าเหมือนก็ไม่แปลกหรอก
...คนเราหน้าเหมือนกันเยอะแยะ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน เค้าเรียกว่า...หน้าโหล น่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนละกัน
...แล้วมิกซ์มันหายไปไหนเนี่ย แปลกเนอะ นี่หายไปทีนึงนานๆๆ หลายเดือนเลยคราวนี้ไปโมฯ หน้าใหม่อีกหรือเปล่าวะ
:laugh:

ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
โน๊ต  เนส  ปลื้ม  มิ๊ก  โอห์ม


ออฟไลน์ arty136

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อ่านที่ไร เศร้าจับใจทุกที สู้ๆคับ โอห์ม เป็นกำลังใจให้นะครับ

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เข้าใจการกระทำของแต่ละคน ปลื้มทำแบบนี้เพื่ออะไร
โน็ตขอไว้งั้นหรอ แล้วที่ผ่านมา ความใจดี ความห่วงใย มันเป็นเรื่องโกหกหรอ

พอดีกลับมาอ่านอีกครั้งแล้วมันแน่นในอกน่ะ คิดว่าถ้าเป็นแบบที่เราคิดจริงๆนี่สุดทนเลยค่ะ :m15:

เป็นกำลังใจให้โอห์มนะคะ :L2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มืดมิด

อับทึบ

หาทางออก..ไม่มี

..เหมือนเทียน ที่รอเปลวไฟ จากก้านไม้ขีดเปียกๆ..

ขอบคุณครับ โอมห์

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
ขอให้กำลลังใจครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gtower

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้สอบเพลิน แวะมาช่วยดันว่ายังติดตามอยุ่นะครับ

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
พี่โอห์มครับ.....คิดถึงว่ะ  พี่ๆๆๆ

มาเป็นกำลังจัยหั้ยผมต่อน่ะๆๆๆ :กอด1:

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
โอมห์หายไปไหนคะ
เข้ามทักทาย บอกข่าวบ้างก็ได้เน้อ
คนรอข่าวเป็นห่วงจ้า :L2:

LoFT

  • บุคคลทั่วไป

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
มาแอบดู

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
หายไปนาน..มาก
น่ะโอห์ม

ชีวิตช่วงนี้เป็นไงมั่ง
เข้ามาส่งข่าวหน่อย เด๊

I'm still.......

ออฟไลน์ August_lovers

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
รออยู่นะครับ >_<

Bavari@n

  • บุคคลทั่วไป
โอห์มมมมมมมม  หายไปไหนนานๆอีกแล้วเนี่ยยยยยยย

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
ต่อจากนี้ไปผมขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่หายไปนานแบบนี้อีกแล้ว จริงๆนะครับ ทั้งสงการตร์ ทั้งช่วงเปลี่ยนของชีวิต ตอนนี้มันยุ่งไปหมด ไม่มีอะไรลงตัวสักอย่าง กลับมาเป็นคนตกงาน เดินเตะฝุ่นหายใจทิ้งไปวันๆ ถามว่าเหนื่อยไหม ตอบได้เลยว่าเหนื่อย อยากมีคนคอยเดินข้างๆ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะวันนี้ทุกๆก็ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผมขอโทษที่หายไปนาน



๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘


“พี่โกรธผม” ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่นั่งคิดถึงใบหน้าที่ผมเพิ่งชกไปเมื่อสักครู่นี้
“พี่โอมห์” ก่อนที่เสียงของปลื้มจะดึงสติผมให้กลับมาในรถอีกครั้ง
“ป่าว ไม่ได้โกรธหรอก”
“แต่ที่พี่เห็น” ผมยกมือขึ้นมาแตะที่ปากปลื้ม
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกปลื้ม พี่เข้าใจว่ะ ว่าอะไรคืออะไร ที่เราทำมาทันก็มากพอแล้ว”
“พี่มันไม่ใช่แบบที่พี่คิด” ผมยิ้ม
“ช่างมันเถอะ ไม่ต้องคิดมาก”
“ไม่คิดได้ไงอะพี่ ผมทำพี่เสียใจ” สายตาที่สำนึกผิดถูกส่งมาหาผมอย่างไม่ขาดสาย
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดอะไร ขับรถไปเหอะ ไปกินอะไรกันดี”
“ไปกินที่ร้านดีกว่าพี่ วันนี้พี่ไปฟังผมร้องเพลงนะ”
“ก็ติดรถมาแล้วนี้ว้า จะเดินกลับก็คงไม่ไหวว่ะ”
“ครับ”
“ผมขอโทษนะครับพี่” ปลื้มหันมาขอโทษผมอีกครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่สบตาแล้วยิ้มให้ ก่อนที่จะหลับตาให้ปล่อยให้ความคิดหลุดลอยไปกับเสียงเพลง  ไม่นานรถก็หยุดอยู่กับที่ เสียงเพลงดับลงไปพร้อมๆกับคนขับที่ลงไปหยิบอาวุธหากินที่หลังรถ

“ปลื้มไม่ต้องสั่งอะไรนะ ”
“พี่ไม่หิวรึไงครับ”
“ไม่เอา เดี๋ยวไปหาไรกินข้างนอกดีกว่า รอได้” ปลื้มพยักหน้าแล้วรีบเดินไปหลังเวที ผมได้ยินเสียงดังโว้ยวายที่คุ้นหู ทันทีที่เดินเข้าไปในร้าน เด็กเสริฟ หยิบน้ำอัดลม มาให้โดยที่ไม่ต้องเอ๋ยปากสั่งเหมือนทุกครั้งที่ผมมาที่นี้

“เห้ย วันนี้เมิงมีอะไรกับรุ่นอ้ายคนนั้นว่ะ” ผมได้ยินไม่ถนัดก้มันก็ดังพอที่ข้างๆจะได้ยิน
“ไม่รู้ว่ะ แม๋งบ้ากรูเดินเข้าไปถามดีๆแม๋งชกกรู ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นอ้ายน๋า ฮ๋าชกมันหน้าแหกไปละ”
“ฮาว่าคิงบ่กล้าเตอะน๋า”
“คิงค่อยผ๋อ วันพรุ่งฮาจะชกมันให้คิงดู”
“เอาว่ะถ้าคิงชกอ้ายนั้นได้ พวกฮ๋านิจะก้มกราบตีนคิงงามๆเลย”
....โหล.....โหล...... 1... 2 ... 3 ... 4 ..... ใช้ได้ เสียงผมยังดีเหมือนเดิม เหมือนน่าตา เสียอย่างเดียวที่นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไร .. ปลื้มขึ้นเวทีเดียวมุขเสี๋ยวๆแบบนี้เสมอ สำหรับผมมันกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับ คนที่เพิ่งมา รึว่าผู้หญิงทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ต่างรู้สึกว่าไอ้นักร้องคนนี้ดูหลงตัวเองเสียเหลือเกิน
“วันนี้น้องปลื้มทำอะไรไม่ดีมาละค่ะ” เสียงพี่ผู้หญิงที่ร้องเพลงก่อนหน้าปลื้มเปิดคำถาม
“ไม่รุ้สิครับ ผมแค่รู้สึกว่าตัวผมผิด แต่คนที่ผมรู้สึกผิดด้วยเข้าบอกว่าไม่เป็นไร”
“อ้าว อย่าบอกนะค่ะว่าน้องปลื้มมีแฟนแล้ว แบบนี้พี่ แล้วก็คนแถวนี้คงอกหักแย่” เสียงโต๊ะขาประจำหลายต้องส่งเสียงปรบมือรับกับคำถาม
“ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ ไม่ใช่แฟนหรอกครับ ผมว่าผมรู้สึกไปคนเดี๋ยว โห่พี่ดูดิในร้านเงียบกันหมดแล้ว”
“น้องปลื้ม ก่อนน้องปลื้มจะมาก็มีเพื่อนพี่มานั่งบ่นแบบน้องปลื้มนี้ละ”
“มันไม่เหมือนกันหรอกครับพี่ ฟังเพลงกันดีกว่าเดี๋ยวผมโดนหักเงิน” ปลื้มเริ่มเกากีตาร์เบาๆ
“รู้ดีแก่ใจว่า ฉันเป็นใครไม่เคยคิดไกล แค่เพียงตอนนี้เห็นเธอทุกข์ใจ น้ำตาไหลริน...................................... ” บทเพลงมันเบรกความรู้สึกของคนฟังทุกคน ดึงอารมณ์สนุกสนานออกจากร่างกายอย่างหมดสิ้น เสียงดังโวยวายหายไป เพราะเนื้อเพลง ที่มันดูไม่เหมาะกับผู้ชายคนนี้ สำหรับผมความเงียบมันเป็นเรื่องธรรมดา เพลงเศร้าก้อยู่กับผมมาเป็นเดือนๆเช่นกัน ปลื้มยังคงร้องเพลงต่อไปจนจบ วันนี้ดอกไม้ที่เด็กๆเอามาขายเป็นของปลื้มเกือบจะทั้งหมด ขาประจำของปลื้มต่างหยิบยื่นความเห็นใจอย่างเต็มที่ ผมที่นั่งอยู่ในมุมที่ไม่ได้มีใครสนใจ รึว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเองก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกปลื้มเหมือนกัน
“วันนี้มีอีกเพลงที่มีคนขอมา ผมเองก็อยากจะร้องเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเหมือนกัน คนที่ขอมา ฝากบอกผมไว้ว่าห้ามบอกว่าให้น้องปลื้มร้องให้จิ๊บ จากพี่ ฟลุ้ด  อ้าวเห้ย สู่มาเต๊อะอ้ายฟลุ้ด” เสียงหัวเราะ แล้วก้โห่ร้องมาแทนที่ความรู้สึกเมื่อสักครู่นี้แล้ว

“ผมลืมบอกไปว่า ผมเองก็มอบให้อีกคนที่อยุ่ในร้านนี้ และอีกหลายๆคนด้วยนะครับ”
“ขอบคุณจริงๆที่เธอยังรัก ไม่เคยเปลี่ยน ถึงฉันจะดีจะเลวขนาดไหน และคนอย่างฉันก็คงจะข อรักเธอตลอดไป ให้คุ้มที่เธอไว้ใจ ตอบแทนวันนี้ที่ฉันมีเธอ” เสียงปรบมือที่มันดังลั่นร้าน ชายเจ้าของชื่อปรากฏตัวขึ้นทันที เพราะเสียงโห่ร้องของเพื่อนในโต๊ะ ผมเองก็มีความสุขไม่น้อยที่ได้ฟังเพลงนี้ 

“หิวรึเปล่าพี่” ปลื้มเดินหอบกีตาร์ สภาพเหงื่อท่วมตัว ผมเปียก ผมชอบสภาพแบบนี้มากกว่าตอนที่แต่งตัวเนี๊ยบๆ
“แล้วเราหิวรึเปล่าละ”
“ยิ้มอะไรละพี่”
“ป่าว แล้วหิวรึเปล่า”
“ครับ”
“งั้นขึ้นรถ เดี๋ยวพี่พาไป” ปลื้มรีบส่ายหัว
“เป็นอะไร”
“ไม่เอาอะ พี่เพิ่งจะหาย นานนะพี่กว่าจะกลับมาเป็นแบบนี้ได้ ผมไม่เอาอีกแล้ว”
“ไม่เอาอะไรว่ะ”
“ก้ไม่อยากให้พี่กลับมาเป็นแบบนั้นอีกแล้วไง” คำพูดนี้มันเหมือนจะไม่มีความหมายอะไร แต่เลือดสูบฉีดขึ้นไปเลี้ยงใบหน้าผมจนแดงไปหมดผมไม่ได้ตอบอะไรแต่เดินอ้อมมาขึ้นรถ แล้วเก็บยิ้มไว้คนเดียว
“งั้นเดี๋ยวผมพาไปนะพี่โอมห์” ผมยิ้มแทนคำตอบแล้วเอามือไปเปิดวิทยุ ไม่ทันที่จะได้หาคลื่น ปลื้มก็มาดึงมือผมไว้ก่อน
“พี่เพลงนี้โดนผมโครตชอบเลยตอนเด็ก” ผมดึงมือออก แล้วทิ้งหลังลงไปที่เบาะนั่ง รอฟังว่ามันคือเพลงอะไร
..........ฉันรู้ตัวดี ว่าฉันไม่มีความหมาย ให้เธอสนใจ ไปเทียบอะไรกับเขา..............
“ยังไม่เหนื่อยรึไงว่ะ ร้องมาเป็นสิบเพลงละ”
“ไม่หรอกพี่ ยิ่งเพลงนี้โครตชอบ ค่อยฟังนะ”
“ที่หนึ่งไม่ไหว ฉันเต็มใจขอเป็นแค่ที่สอง ยอมเป็นตัวสำรองตลอดไป” ปลื้มร้องจนสุดเสียง เพ้อไอออกมาแทนเนื้อร้อง
“มันขนาดนั้นเลยรึไงเพลงนี้”
“ผมชอบอะพี่ ตอนนั้นอยุ่ประถมได้มั้ง แต่รู้ว่ามันดังมากๆ ”
“ประถมเลยรึไง”
“ไม่รู้ดิ ประถมรึมัธยมนี้ละ”
“หน้าตาแบบนี้ต้องเป็นตัวสำรองกับเขาด้วยรึไงว่ะ”
“พี่ไม่รู้อะไรตอนนี้ก็เป็นอยุ่”
“ยังไง หมายความว่าอะไร” ผมจ้องหน้ามัน แสงไฟจากถนนตกกระทบลงบนหน้า ถึงจะไม่สว่างแต่ผมเองก็พอจะมองออก
“ปลื้ม เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมว่ะ”
“ไม่รู้ดิพี่ ผมสบสนไปหมด ผมคิดอะไรไม่ออก” ปลื้มเบรกรถที่แยกไฟแดง อีกนานกว่าไฟจะเขียว แล้วปล่อยให้เราผ่านไป ผมโน้มหัวปลื้มมาหาผม
“ค่อยๆคิดนะปลื้ม มันไม่มีอะไรที่ใหญ่เกินความคิดของคนเรา รู้รึเปล่า”
“ครับพี่” เสียงสูดน้ำมุกดึงลั่นจนผมแอบยิ้ม
“พี่โอมห์ยิ้มอะไร”
“ก็ยิ้มที่เห็นเราพูดอะไรบ้าๆบ้อๆในร้านวันนี้อะดิ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อจริงๆ” ผมส่ายหัวพร้อมกับคำพูด รถทะยานออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จนมาหยุดที่กาดหลวง
“กาดหลวงตอนนี้จะมีอะไรกินว่ะปลื้ม”
“ไม่รู้ดิพี่เราก็ดูไปเรื่อยๆ ถ้ามีอะไรที่เราพอจะกินได้ก็ซื้อ ทำไมครับพี่อยากกลับห้องแล้วรึไง”
“เปล่า”
“มาจับมือผม”
“ไม่อายรึไง”
“คนหน้าตาดีทำอะไรไม่น่าเกลียดอยู่แล้ว คนอื่นเข้าคงจะคิดว่าปลื้มพาลุงแก่ๆที่เดินไม่ค่อยไหวเดินเที่ยว” ปลื้มหันมายิ้มแล้วยื่นมือมาให้ผม เอาก็เอาในเมื่อคนพวกนี้ไม่ได้ให้อะไรผมกิน อีกอย่างเขาก็ไม่ได้รู้จักผมสักก่ะหน่อย แล้วผู้ชายสองคนก็เดินจับมือกันโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาใครเลยสักคน


เมื่อคืนนี้ผมฝัน ผมฝันไปอีกแล้วว่าโน้ตกำลังยืนรออะไรสักอย่าง ที่มหาลัยบอกอะไรไม่ได้เลยสำหรับความฝันของผม เพราะพอผมเดินเข้าไปใกล้ โน้ตก็เดินนี้ไป ไม่มีคำพูดเหมือนทุกครั้ง สีหน้าที่เหมือนคนไม่รู่จักกัน แต่ผมจำได้ว่านี้คือโน้ตไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ผมคุ้นหน้า
“พี่โอมห์ โทรสับครับ” ปลื้มสะกิดผมให้ตื่น ผมเหลือบตาดูนาฬิกา ตอนนี้เกือบตีสามแล้ว หมายเลขไม่ปารกฏบนจอโทรสับ
ผมรับมือถือจากมือปลื้ม
“สวัสดีครับ” ไม่ได้ยินเสียงอะไร ผมลองเงียบเสียงแล้วเป็นผู้ฟัง มันเป็นเพียงเสียงแผ่วๆที่ดังออกมาจากปลายสาย คล้ายกับคนกำลังเรียกชื่อผมอยู่ สักพักหนึ่งสายก็หลุดไป   ผมเกือบคิดว่ามันเป็นฝันที่ซ้อนขึ้นมาจากเรื่องของโน๊ตถามปลื้มไม่เอ๋ยถึง ผมเล่าเรื่องนี้ให้ปลื้มฟัง ไม่ได้คำตอบจากปลื้มแต่ที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าที่ดูไม่เชื่อ สงสัยจะคิดว่าผมโกหกเป็นแน่แท้
“โอมห์จะไปพร้อมปลื้มรึเปล่า”
“เรียกสะสนิทกันเลยนะเมิงไอ้ปลื้ม”
“โทษครับพี่ลืมตัว”
“ไปดิ เดี๋ยวขอแต่งตัวแป๊บหนึ่ง” ปลื้มเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลังซึ่งมันเป็นพฤติกรรมที่แปลกมากๆนับจากเรื่องการกระทำเมื่อคืน
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับแค่อยากกอด”
“เห้ย กับพี่กอดทิ้งกอดขว้างไม่ได้นะโว้ย”
“ใครว่าผมจะทิ้งขว้าง”
“อ้าว พูดงี้ให้แม่มาขอเลยดีกว่าไหม”
“ผมบอกแล้ว แต่แม่บอกว่ากลัวอาเพส”
“ไอ้ทะลึ่ง กวนตีนละเมิง ลงไปรอข้างล่างไป เดี๋ยวเก็บของแป๊บหนึ่ง”
“เร็วๆนะพี่ เอ่อโทรสับดังให้รับรึเปล่า”
“ไม่ต้องส่งมานี้เลย”
“แอบคุยกับชู้รึเปล่า”
“ชู้ที่ไหน แฟนยังไม่มีเลย”
“อ้าวทำไมพูดงี้ละพี่”
“จริงไหมละ จะมีชู้ได้มันต้องมีตัวจริงก่อน”
“แล้วผมละ”
“ยังไม่ได้กันเลย เลยไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน” ผมเงียบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ รับโทรสับจากมือของปลื้ม
“ระวังตัวไว้นะพี่พูดแบบนี้อ่ะ เร็วๆละครับอย่าให้ได้ต้องขึ้นมาตามนะ” ปลื้มดึงตัวผมเข้ามาเอาจมูกมาทำท่าดมแก้ม
“เร็วๆละครับ ว่าที่ที่รัก” ปลื้มเดินออกไปจากห้องพร้อมๆกับสายที่หลุดไป ผมหันมาสนใจแต่งตัวแล้วก็ของที่ต้องใช้ โดยที่ไม่ได้สนใจกับโทรสับจนมีสายเข้าอีกครั้ง
“พี่โอมห์”
“ใครว่ะ เสียงคุ้นๆ”
“เอิทครับ”
“อ้อเอิท เป็นยังไงบ้าง”
“ดีขึ้นเยอะแล้วครับพี่”
“แป๊บหนึ่งนะเอิทพี่ของปิดประตุห้องแป็บหนึ่ง” ผมจัดการล๊อกห้องแล้วเดินลงมาหาปลื้มที่รถ
“อืม”
“พี่โอมห์ครับ พี่มิ๊กได้ติดต่อมาบ้างรึเปล่า”
“ไม่เลย ทำไมรึเราเจอรึไง”
“ไม่เลยครับ”
“แล้วนี้อยู่ที่ไหนละเรา”
“มหาลัยครับ”
“หายดีแล้วรึไง”
“ครับผม”
“งั้นไว้ค่อยคุยกันที่มหาลัยแล้วกันนะ”
“ครับ สวัสดีครับ”

“ใครโทรมาครับพี่” ปลื้มถามขนาดที่ผมก้าวเท้าขึ้นรถ
“เอิท”
“เอิท ที่”
“นั้นละ ” ผมตัดบทก่อนที่ปลื้มจะพูดอะไรยืดยาว
“ ไปกันได้ละ ” ปลื้มไม่ได้พูดอะไร คงจะเป็นเพราะจับความรู้สึกของผมได้ ที่ตอนนี้ทั้งงง แล้วก็สับสนไม่น้อย ทั้งจากสายแปลกๆเมื่อคืน แล้วก็การติดต่อมาของเอิท ไม่กี่นาทีปลื้มก็วนรถมาส่งผมที่คณะ
“โอมห์”
“หืม” ผมเปิดประตูแล้วหยิบของที่วางไว้ด้านหลัง
“วันนี้ปลื้มรอกินข้าวเย็นนะ”
“จ๊ะ” ปลื้มมีรอยยิ้มขึ้นบนหน้า

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
  :z13:
รอนานแต่ก็รอ ดีใจที่มาต่อสักที :m15:
เมื่อไหร่จะถึงเวลาที่โอมจะมีความสุขกับเขาบ้างนะ
แต่ปัจจุบันดีแล้วใช่มั้ย?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2011 17:44:18 โดย nara555 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด