Fate : พรหมขีดลิขิตรัก
เสียงออดดังเตือนให้เด็กนักเรียนรู้เวลาเข้าแถวดังก้องรั้วโรงเรียนเอกชน เป็นเสียงที่ชวนให้อ้วกแตกสำหรับคนที่มาเข้าแถวช้าอย่างผมมากครับ หันเหปลายเท้าจากที่ตรงไปหน้าโรงเรียนเป็นหลังโรงเรียนอย่างจำใจ โยนกระเป๋านำทางก่อนจะโหนโดดข้ามกำแพงรวดเร็ว..สมกับเป็นนักกีฬาปิงปองตัวเต็งเหรียญทองระดับเขต ความยืดหยุ่นของร่างกายและไหวพริบที่เป็นเลิศทำให้ผมชะล่าใจ..และไม่ทันระวังตัว
“เฮ้ย!!!!” เสียงสบถตกใจดังยาวกว่าออดโรงเรียนจากปากเด็ก ม.ต้น ที่อยู่ตรงพื้นที่ที่ผมต้องทิ้งน้ำหนักตัวและ..ส้นตีน อยู่ตรงนั้นพอดี อยู่แบบตรงเผง แล้วไอ้ท่าทางที่มันเองก็วิ่งมาเต็มสปีดนั่นมันก็คงเอี้ยวตัวหลบตีนผมไม่ทันแน่ Target lock on! ..กูจะหลบยังไงเล่า!
‘โครม’ กลางฝ่าเท้าผมกระแทกไหล่น้องร่วมโรงเรียนเข้าแบบเต็มข้อ เสียศูนย์ทับน้องไปเต็มตัว ยันหลังเด็กนั่นแล้วพยุงตัวลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าแล้วโกยอ้าว..ไม่มีเหลียวหลังไปมอง อย่าหาว่าเป็นคนไม่มีมารยาทเลยนะน้อง ถ้าพี่ถูกบันทึกในบัญชีมรณะของห้องปกครองอีกครั้งเดียว วงศาคณาญาติพี่ต้องตบเท้าเข้าร่วมรับรู้ความอัปยศที่พี่ก่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอโทษนะน้อง!
“ไอ้ตาร์วิ่งหน้าหมาตื่นมาเลยนะ แวะดูลูกหมาอีกล่ะสิ55+” หึ! ก็อย่างที่เพื่อนมันแซวล่ะครับ ผมแอบชอบน้องคนขายหมาหน้าปากซอย ชอบมาเป็นปีแล้วครับ แต่ผมมันเป็นประเภทอยากได้..แต่ไม่ต้องการ! ก็แค่คิดว่าหน้าตาน่ารักน่ากดชิบหายยยย ปาดเหงื่อและเนียนเข้าแถว คุยกับเพื่อนเพลินจนลืมสังเกตว่าน้องร่วมโรงเรียนที่ผมโดดเข้าใส่อยู่ชั้นไหน แล้วมาเข้าแถวรึเปล่า..
“ต้าร์มึงแดกข้าวมายัง? โดดไปแดกข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อย” เสียงกระซิบจากไอ้หนุ่มชวนผมโดดเรียน ผมพยักหน้าตอบไม่มีลังเลทันที หลังเลิกแถวผมกับมันก็ออกไปหาอะไรกระแทกปากในแคนทีน ปากดูดน้ำอัดลม ตาสอดส่องน้อง ม.1 ที่เดินผ่านไปมาอย่างสำราญใจ เด็กผู้หญิง ม.ต้น 2 คนหันมายิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบแบบไม่คิดอะไร หน้าตาผมก็มีแรงดึงดูดนะครับ..แต่เลือกจะดูดเฉพาะผู้ชาย ผมไม่ได้หล่อมากแต่ก็ไม่ขี้เหร่นะครับ มีสาว ๆ มาหลงผิด ชอบผมก็เยอะ..เสียดายที่ชอบตอบไม่ได้ ไม่มีแฟนครับ ผมบอกแล้วว่าผมเป็นประเภทอยากได้แต่ไม่ต้องการ ทุกครั้งที่ผมรู้สึกดี ๆ กับใคร ผมก็มักจะหยุดความสัมพันธ์ด้วยมือตัวเองไปซะทุกครั้ง มันฝังใจกับใครซักคนที่ผมเองก็นึกไม่ออก มันนานจนความทรงจำเรื่องเด็กคนนั้นเลือนราง..แต่ไม่มากพอจะจางหาย เป็นความทรงจำวัยเด็กที่..ดีมั้งครับ ทุกครั้งที่พยายามปะติดปะต่อความทรงจำขาดวิ่นอันนั้น ความรู้สึกมีความสุขมันก็โผล่มาพร้อมกับความรู้สึก..แย่ด้วยทุกครั้ง ผมถูกหลอกให้รอ..ถูกใครบางคนหลอกให้นั่งรออยู่ที่สนามเด็กเล่นรวมของหมู่บ้าน รอจนฝนตก..ผมก็นั่งรออยู่จนผมแทบจะเป็นปอดบวม ในมือมีสมุดระบายสีที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกหลายชั้นกันฝนและกันฝุ่น เด็กคนนั้นไม่มา..และหายไปจากชีวิตผมโดยที่ไม่ล่ำลา หายไปเฉย ๆ ..มันทำให้ผมกลายเป็นคนเกลียดการสัญญา ไม่ชอบการรอคอย นึกถึงเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกมันอึดอัดหายใจไม่ออกทุกที เฮ้ออออ
สายตาผมสะดุดแผ่นหลังเด็กผู้ชาย ม.ต้นคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้แคนทีนคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อน สะดุดตากับรอยเท้าที่กลางหลังและรอยเปื้อนทั่วไปอีกนิดหน่อย..ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลยครับ ลุกพรวดและหันไปบอกเพื่อนให้ไปรอที่ห้องได้เลย สองเท้าก้าวเข้าไปหาน้องคู่กรณี..
“..กูไม่ทันเห็นว่ะว่ามันเป็นใคร? รู้แต่แม่ง ม.ปลายแล้วแน่ ๆ” ปลายเท้าหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่เบาของเด็กเคราะห์ร้ายใต้ส้นตีนผม
“..ถ้ากูเจอ..กูจะกระทืบคืน.. 2 เท่า!” หน้าตาดุดันและรูปร่างที่ดูไม่น่าจะเป็นแค่เด็ก ม.1 ของเพื่อนคู่กรณีผมส่งสายตาเจ็บแค้นแทนและพร้อมจะร่วมหอลงขันเข้ากระทืบผมจนเละแน่นอน มันก็น่าอยู่หรอก..ถอนหายใจกับความแย่ของนิสัยผมที่ทำให้น้องมันโมโห ถ้าเป็นผมโดนแบบนี้ผมก็คงทำแบบน้องมันล่ะครับ
“น้อง..เมื่อเช้าพี่ขอโทษ ไปห้องพยาบาลมั้ย?” ผมเดินเข้าไปในระยะที่น้องกับเพื่อนสามารถสนทนากับผมในระยะใกล้ได้ยิน และมันก็ห่างพอหากผมจะวิ่งหนีจากคอนเวิร์ส 12 ข้าง สายตาทุกคู่ของเพื่อนคู่กรณีจ้องผมเขม็ง ในท้องผมบิดเกลียว แผ่นหลังเปื้อนฝุ่นของน้อง ม.ต้นหันมาช้า ๆ..
คิ้วเรียวค่อย ๆ ขมวดบนใบหน้าใส ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหรี่มอง หันมามองผมเต็มตัว ไล่ระดับสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า ยกยิ้มมุมปาก เฮ้ยยยย ปรี่เข้ามาหาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว!
“..พี่..” เอี้ยวตัวหลบกำปั้นหลุนเล็งที่โหนกแก้มขวาไปทางซ้าย
“..ไม่ได้..” ก้มต่ำโยกตัวไปทางขวาหลบหมัดที่เล็งแก้มข้างซ้าย
“..ตั้งใจ..” ความเร็วระดับนี้ผมหลบอีกหมัดไม่ทันแน่ รวบเอวแล้วยกขึ้นพาดบ่า โอ้โหหหหห ‘อั้ก!’ และเสียงทุบนั้นยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แม่งทุบหลังอย่างดังและอย่างแรงอ่ะ ตัดสินใจปล่อยลงพื้นมันก็ถีบผมลงไปนั่งจุกอยู่บนพื้นคอนกรีต เร็วชิบหาย555+
“พอแล้วไอ้วิน! พี่มันบอกว่าไม่ได้ตั้งใจมึงก็หยุดเหอะ!” เพื่อนคนตัวสูงเข้ามากอดเด็กคนนั้นไว้แน่นและเอ่ยปากห้าม...ห้ามได้แล้วเหรอวะ? เด็กที่ชื่อ ‘วิน’ ยืนหอบในวงแขนของเพื่อน..เพื่อนหน้าตาดีทุกคนเลยครับ ตัวมันก็..ก็ดี ก็พอดูได้ครับ
“ไอ้ต้าร์มีเรื่องอะไรกันวะ? ก้อง! มีเรื่องอะไรกับเพื่อนพี่?” หันมองไอ้หนุ่มที่พยุงผมลุกขึ้น ขมวดคิ้วมุ่นมองไอ้เติ้ลเพื่อนรักที่เข้ามาทีหลัง..รู้จักกันเหรอวะ? คนชื่อก้องยิ้มมุมปากกวนตีนผมก่อนจะเล่าเข้าข้างเพื่อนมันเต็มที่ เสียงเพื่อนน้องวินที่ชื่อก้องดังสลับในหูผมไปมา ไอ้เติ้ลหันมาถามผมผมก็พยักหน้ารับที่มันถาม..เชื่อมั้ยครับว่าผมไม่รู้เรื่องและไม่ได้จับใจความสำคัญแต่ละประโยคที่ผมพยักหน้ารับเลยแม้แต่คำเดียว..
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องผมอย่างเอาเรื่อง ริมฝีปากเม้มแน่น กำหมัดจนเส้นเลือดปูดโปนที่หลังมือ ถ้าเพื่อนน้องวินปล่อยน้องวิน..ผมคงตายอยู่ข้างถนน ตายอย่างคนไม่มีศักดิ์ศรี ตายอย่างอนาถ
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองไอ้เด็กเปรี้ยวที่ชื่อวินว่ายังไง แต่ผมบอกได้ว่า ไอ้เด็กคนนี้หน้าตาน่ารัก ยิ่งมองยิ่งน่ารัก..น่ารักจนนิสัยห่ามถูกมองข้ามไปจนหมด ดูเหมือนผอม แต่ตอนผมอุ้มพาดบ่า..เนื้อนิ้มนิ่มครับ สงสัยอยู่เหมือนกันว่า..แก้มใส ๆ จะนิ่มเหมือนตัวรึเปล่า? แอบฮากับความคิดพิลึกที่เกิดแบบปัจจุบันทันด่วนของตัวเอง สะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อตัวเองดังคับถนน..เรียกซะดังเลยไอ้เติ้ล
“ไอ้ต้าร์! ไม่ฟังกูเลยสัตว์ มึงผิดแต่มึงขอโทษน้องมันแล้วใช่มั้ย? วินเองก็ถีบเพื่อนพี่ไปแล้ว งั้นก็ขอให้แล้วกันไปนะ แล้วก็..
พวกมึงเป็นรุ่นน้อง อย่ามาปีนเกลียวกับรุ่นพี่!” ไอ้เติ้ลตวาดลั่น เด็กกลุ่มนี้เงียบแต่จ้องหน้าพวกผมไม่วางตาเลยครับ หึหึ..
“..พวกผมไปได้ยังพี่เติ้ล? หวัดดีพี่” ไอ้น้องก้องเอ่ยปากถามไอ้เติ้ลแล้วยกมือไหว้พวกผมแบบส่ง ๆ น้องวินมองผมด้วยหางตาก่อนจะยกมือไหว้ไอ้หนุ่มกับไอ้เติ้ล ยกเว้นผมครับ555+ งามอย่างมีคุณค่า..
“ไอ้เหี้ยต้าร์ มึงมาสายกี่ครั้งแล้วเดือนนี้? ดีนะว่าเป็นเพื่อนกลุ่มไอ้ก้อง ถ้าเป็นคนอื่นกูไม่อยากยุ่งด้วยหรอก น้องวินดุอย่างกับเสือ พ่อน้องเป็นพี่ชายผู้การ... เป็นลูกคนเดียวแถมเป็นหลานคนโปรดของอาทุกคนก็เลยตามใจ บ้านรวยแบบไม่ต้องทำมาหากินก็อยู่ได้สบาย ๆ เป็นผู้ชายแท้ ๆ หน้าตาน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนซะอีก หน้าตายังกะลูกแมวน้อย..กูว่าน้องวินน่ารักดีว่ะ” พยักหน้าเห็นด้วยกับมัน หือ? น่ารักงั้นเหรอ? หรี่ตามองมันก็ปฏิเสธเลิกลั่ก
“กูไม่ได้เป็นเกย์แบบมึงกับไอ้ตั้นนะเว้ย กูแค่พูดไปตามเนื้อผ้า หน้าตามันน่ารักกูก็ชม..แค่นั้น! อย่ามายัดเยียดความเป็นเกย์ให้กู กูไม่ต้องการ!” ยิ้มแซวมัน ผมไม่เห็นว่าการเป็นเกย์ของผมมันจะทำให้ไอ้พวกนี้เลิกคบนะครับ แล้วตัวผมก็ไม่ได้ปิดบังใครว่าผมมีรสนิยมแบบนี้ รับได้ก็คบ..รับไม่ได้ ก็ต้องได้555 น้องชายไอ้เติ้ลมี 2 คนครับ ไอ้ตั้นกับไอ้ต้น พ่อแม่มันส่งมาเรียนที่เดียวกันหมด มาโรงเรียนก็มาพร้อมกัน กลับบ้านก็ต้องกลับพร้อมกัน ถ้าเข้าบ้านไม่พร้อมกันแม่มันไม่ให้กินข้าวครับ ยืนมองส่งกลุ่มน้องวินจนลับตาก่อนจะหันมาหัวเราะขำกันเอง กอดคอเพื่อนไปเข้าเรียน จะว่าไป..ดวงตาเอารื่องแบบนี้เหมือนผมเคยเจอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เหมือนของใครบางคนที่ผมเคยได้เจอ แต่..คงไม่ใช่หรอก คงไม่ใช่คนเดียวกัน
วันนี้ทั้งวันกลุ่มผมบังเอิญเจอกลุ่มน้องวินตลอด ตาสีน้ำตาลเขม้นมองผมหัวจรดเท้า ริมฝีปากแสยะยิ้มทักทายผมแทนที่จะเป็นการยกมือไหว้ตามมารยาท และสองมือนุ่มที่ควรจะยกมือไหว้กลับล้วงเข้ากระเป๋าอย่างคนกวน..อารมณ์
นับเป็นภาพและเหตุการณ์ที่ผมต้องเจอทุกครั้ง ทุกวันจนชินตา ชินจน..ถ้าวันไหนไม่เห็นหน้ากวนรมณ์นั่น ผม..ผมจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป
ไม่รู้ว่า..สายตาผมเฝ้ามองตามแผ่นหลังน้องวินตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่แน่ใจว่าทำไม..สองเท้าของผมมุ่งตรงเข้าไปหากลุ่มน้องทุกครั้งที่เจอ?
แล้วพอน้องมันเริ่มสนิทใจที่จะคุยกับกลุ่มผม..ผมกลับพูดไม่ออก เอาแต่จ้องหน้าใส ๆ ตาสวย ๆ นั่นอย่างเดียว วินเองก็น่าจะสังเกตเห็นความประหลาดของผม แต่ก็ไม่ถามว่าผมเป็นอะไร..เมื่อก่อนผมมองน้องก็ทำหน้ากวนรมณ์ใส่ได้ตลอด แต่พอผ่านไปเกือบ 2 เดือน..ผมมองน้องก็หลบตา เดินเข้าหาก็ไม่หนีไม่หลบ..ยืนนิ่งให้ผมมองจนพอใจ จนบางครั้ง..มันทำให้ผมอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า..วินเองก็น่าจะชอบผมอยู่บ้าง แต่เหมือนมีเส้นใยหนาและเหนียวที่มัดน้องวินไว้ ไม่ใช่ครับ..ผมใช้คำพูดผิด เส้นที่น้องวินพยายามเอามาพันและรัดตัวเองไว้ต่างหาก เส้นที่มัดไม่ให้วินยอมรับว่าชอบผม เส้นที่ชื่อ ‘พิ’
ผมสะดุดตาน้องพิตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ไม่ใช่เพราะหน้าหล่อ ไม่ใช่เพราะนิสัยดี ไม่ใช่เพราะใครเห็นใครก็รู้สึกอยากเข้าใกล้ เด็กคนนี้มีแรงดึงดูดที่ตามองไม่เห็นครับ ผมสะดุดตาที่..น้องวินมองน้องพิไม่เหมือนมองเพื่อนคนอื่น สายตามันฟ้องทุกอย่าง..สายตาที่น้องวินมองน้องพิ มันเหมือนภาพสะท้อนตัวผมที่มองน้องวิน..เหมือนจนใจหาย ผมได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ ทุกครั้งที่น้องวินเป็นฝ่ายเข้าไปกอดน้องพิขอวัดความสูง บางทีก็เข้าไปกอดอ้อนให้ปลอบเรื่องการบ้าน..วินทำการบ้านให้พิตลอด ทำรายงาน ทำให้ทุกอย่าง..ผมรู้ว่าที่ผมกำลังรู้สึกมันคือความริษยา เป็นกริยาช่อง 2 ของ ‘แพศยา’ ..ขอโทษที่ตลกครับ ผมติดนิสัยของน้องพิมาแบบไม่รู้ตัว นิสัยแบบที่น้องวินชอบ..เจ็บดีชิบหาย! อดทนมองน้องวินแอบชอบเพื่อนมาจนหมดเทอม เข้าเทอม 2 ความหวังที่เลือนรางเรื่องน้องวินของผมก็เจิดแสงจ้า..
พักเที่ยงผมเดินมาเข้าห้องน้ำหลังตึกคหกรรม กะมาแอบสูบบุหรี่ก่อนเข้าเรียนช่วงบ่ายซัก 2 – 3 มวน ก็เจอน้องเต๋ากับน้องพิที่เดินสวนมาพอดี น้องพิบอกให้น้องเต๋าเดินกลับไปก่อน..
“พี่ต้าร์ชอบเพื่อนผมเหรอ?” เข้ามาฉี่ที่โถน้องพิก็ถามผม ผมขมวดคิ้ว นิ่ง คิดทบทวนที่น้องพิถาม สูดลมเข้าปอดและหันไปพยักหน้าตอบหน้าด้านข้างของน้องพิ
“ผมชอบพี่นะ เฮ้ย! ผมหมายถึงพี่นิสัยดีแล้วก็เป็นคนใช้ได้ ถ้าพี่จะจีบไอ้วิน..ผมเชียร์พี่ว่ะ” น้องพิมองผมและตอบกลับด้วยสายตาพร้อมคำพูดที่จริงใจที่สุดที่ผมเคยได้ยินมา น้องยืนยันคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้ม ตบไหล่ปีนเกลียวใส่ผมอีก 2 ครั้ง แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกัน ก่อนจะแยกกันเข้าเรียนน้องพิก็มีข้อแลกเปลี่ยนที่ทำให้ผม..ดีใจ
“..ถ้าผมเชียร์พี่ พี่ต้องช่วยผมด้วยนะ ผมชอบพี่ต้อมห้อง 3 อ่ะพี่ ผมเห็นพี่คุยกันบ่อย ๆ พี่แนะนำให้ผมหน่อยดิ ที่เหลือผมจัดเองได้ ถ้าพี่ตกลง..พรุ่งนี้ผมเปิดทางให้พี่จีบไอ้วินได้ทันที” เป็นข้อตกลงที่ยิงปืนนัดเดียวนกดับแดดิ้นถึง 2 ตัว..
แดดิ้นที่ 1 น้องพิได้เป็นแฟนต้อม คนสวยห้อง 3 น้องวินก็ต้องตัดอกตัดใจ หันไปมองคนอื่นได้ซะที
แดดิ้นที่ 2 คนที่จะเข้ามาดูแลกายและใจของน้องวินก็ไม่ใช่ใคร ต้องเป็นผม..คนที่เพื่อนน้องวินเชียร์ คิดบวกลบผลของการลงทุนครั้งนี้แล้วจับมือเซ็นต์สัญญาระดับชาติที่มองมุมไหนคนได้กำไรมหาศาลก็คือ..ผม!
ตกเย็นก็เดินมาโรงรถพร้อมไอ้เติ้ลและน้องชายอีก 2 คนของมัน ยืนคุยกันรอเวลาภารโรงมาไขกุญแจโรงรถก็เจอกลุ่มน้องวิน ทักและแนะนำน้องไอ้เติ้ลให้รู้จักกับกลุ่มน้องวิน ไอ้ต้นน้องชายคนเล็กของไอ้เติ้ลอยู่ ม. เดียวกันกับน้องวินแต่อยู่กันคนละห้อง ยืนฟังเด็ก ๆ คุยกันน้องพิก็เดินเข้ามายืนใกล้ ๆ ผม ทำให้น้องวินที่ตัวติดกับน้องพิเดินเข้ามาหาผมอย่างเป็นธรรมชาติไปด้วย พิมันชวนผมคุยและชวนวินคุยไปด้วย พอคุยเรื่องเดียวกันการสนทนามันก็ไหลลื่น เป็นการคุยกันโดยที่มีพิเป็นแกนกลาง พอคุยกันถูกคอขึ้นพิก็ค่อย ๆ ถอยห่างออกมาทีละนิด ก่อนจะบอกเนียน ๆ ให้ผมช่วยไปส่งไอ้วินที่บ้านแทน
“พี่ต้าร์ผ่านตรงถนน..ป่าวพี่? เย็นนี้ผมต้องรีบพาตาไปหาหมอ วินมึงกลับพร้อมพี่ต้าร์นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปรับ..นะ” น้องวินอ้าปากค้างกับคำบอกเล่าของพิ และพยักหน้ารับคำกับแผ่นหลังที่เผ่นแน่บไปลิบลิ่ว ค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองผม ก้มหน้าแล้วบอกเสียงเบา..
“พี่ต้าร์..ไปส่งวินหน้าปากซอยก็ได้ครับ วินเดินเข้าไปเองได้” ยืนมองขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งรั้น แก้มใสขึ้นสีชมพูจาง ๆ กัดฟันข่มใจไม่ให้โดดเข้าฟัดแก้มใส ๆ นั่น เอากระเป๋าน้องวินมาถือไว้ซะเอง
“บอกทางด้วยนะ” น้องวินพยักหน้าเบา ๆ และเดินตามผมไปขึ้นมอไซค์ ยื่นกระเป๋าตัวเองกับของวินไปให้คนแก้มใสถือ น่า..ฟัด!!
“พี่ต้าร์ไปทางนี้ครับ..พี่เลี้ยวกลับเข้าทางนี่สิ!” ทำงงกับทางเข้าบ้านวินก่อนจงใจขี่วนไปวนมาจนใกล้จะค่ำ ถึงหน้าบ้านวินก็หัวเราะขำที่ผมพาขี่วน
“พี่ต้าร์ไม่ใช่คนที่นี่เหรอ? วินบอกให้ไปทางนี้ก็ขี่ไปอีกซอย พี่ต้าร์มึน5555” นั่งมองหน้าใส ๆ กับรอยยิ้มของวิน..นึกว่าจะด่าที่พาวนซะอีก ยิ้มให้วินแล้วมองหน้าที่ไอ้เติ้ลบอกว่าเหมือนลูกแมวน้อย น่ารัก..กว่าลูกแมวว่ะไอ้เติ้ล เผลอยิ้มใส่จนวินหลบตา ตบยุงที่แขนก่อนจะขอตัวกลับ ยื่นมือรับกระเป๋าก็แอบแตะมือนิ่มนิดหน่อยให้เป็นกำลังใจขี่รถกลับบ้าน ทันทีที่แตะโดนผิวน้อง..วินก็รีบชักมือกลับ มองหน้าผมอึ้ง ๆ แล้วค่อย ๆ จับมือตัวเองลูบเบา ๆ ริมฝีปากเม้มแน่น เบือนหน้าหลบตาผมเสมองเข้าไปในบ้าน
“ทำไมไม่เปิดไฟหน้าบ้านนะ? มืดแล้วนะเนี่ย?” บ่นหงุงหงิงก่อนจะหันมาบอกผม
“วินเข้าบ้านก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่งครับ” ยิ้มให้น้องวินก่อนจะสตาร์ทรถ เปิดไฟหน้าพร้อม ๆ กับไฟหน้าบ้านน้องวินสว่างขึ้นมาพอดี น้องวินหันไปมองในบ้านและเบี่ยงตัวหลบให้รถผม ขี่เข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยถาม
“พรุ่งนี้พี่มารับนะ ทางผ่านพี่น่ะ” น้องวินเงยหน้ามองผมก่อนจะหลบตาอีกครั้ง มือที่ลูบหลังมือเมื่อครู่ย้ายขึ้นลูบแขนตัวเอง
“พรุ่งนี้ไอ้พิจะมารับวิน พี่ต้าร์ไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ” ปฏิเสธแบบยังเหลือที่ให้ถางต่อได้แบบนี้..ลอบยิ้มกับตัวเอง
“วินโทรหาพิสิว่าพรุ่งนี้พี่มารับ พิจะได้ไม่ต้องวนมารับวินไง” น้องวินเงียบไปนาน..นานจนยุงเริ่มเข้ามากวนก่อนจะพยักหน้าออกมาเบา ๆ แต่ผมยังไม่ทันจะออกตัวเร่งเครื่องไปไหนประตูรั้วบ้านน้องก็เปิดออก
“วิน..พาเพื่อนเข้ามาก่อนสิ” น้องวินดูตกใจที่ผู้ชายคนนั้นให้ชวนเพื่อนเข้าบ้าน ถ้าผมเดาไม่ผิด..พ่อน้องวินแน่ ๆ ครับ ยกมือไหว้และบิดกุญแจ จูงมอไซค์เดินตามน้องวินกับพ่อเข้าบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่มีสวนสวยอยู่ตรงกลาง ขวามือมีรถยนต์จอดเรียงรายอยู่หลายคัน ห้องนั่งเล่นบ้านน้องวินกว้างครับ กว้างเกินไปจนผมรู้สึกเกร็ง พ่อน้องวินชวนคุย ถามผมว่าลูกใครเหล่าเต้า ซักซะละเอียดยิบ ซักจนขาวสะอาดโอโม่ไวท์คริสตอลยังอาย น้องวินก็นั่งกอดอกมองพ่อตลอดเวลา นาฬิกาแขวนผนังบ้านน้องวินบอกเวลา 2 ทุ่ม พ่อน้องวินก็ปล่อยตัวผมให้กลับบ้านได้
“ขอโทษที่พ่อถามพี่ต้าร์ซอกแซกนะครับ ไม่มีใครมาส่งวินนอกจากเพื่อนน่ะ พ่อเลยสนใจ พรุ่งนี้พี่ต้าร์ไม่ต้องมารับวินนะครับ วินจะไปกับพิ หวัดดีครับ” อ่า..พูดจบก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปเลย มัน..อะไรกันครับ เดินจูงมอไซค์ออกมาจากรั้วหันหลังไปจับรั้วก็ตกใจ
“พ่อ! ผมตกใจหมดเลยครับ เดี๋ยวผมปิดรั้วให้..” พ่อน้องวินเดินตามผมออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ พ่อน้องวินยืนขวางมอไซค์แล้วมองผมผ่านแสงจากหลอดนีออนหน้าบ้าน
สายตาเอาเรื่องที่น้องวินถอดออกมาจากพ่อแบบสำเนาถูกต้อง..จ้องผม ไม่มีเอ่ยปากซักอะไรเหมือนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ผมสบตาพ่อน้องวินตลอดเหมือนกันครับ ปกติผมไม่ชอบจ้องใครและไม่ชอบถูกใครจ้อง แต่อาการจ้องแบบนี้ มันเหมือนพ่อน้องวินตั้งใจจะอ่านอะไรซักอย่างที่แอบเห็นจากผม ซึ่งผมก็ไม่คิดจะปกปิด
“..ขี่กลับดี ๆ ล่ะ ..ไอ้หนู..” ศึกจ้องตา 15 นาทีหมดลงพร้อมกับคำอวยพรให้ผมขับขี่ปลอดภัย ยกมือไหว้และออกจากบ้านน้องวินมาด้วยความโล่งอก
ผม ม.6 แล้วครับ ไม่กี่เดือนก็ต้องผ่านสนามสอบที่จะตัดสินอนาคตของผม และมีเวลาในรั้วโรงเรียนนี้อีกแค่ไม่กี่เดือน ออกไปเจอสังคมกว้าง เจอคนอีกมาก น้องวินเองก็เหมือนกัน แต่ก่อนจะหมดเวลาจากที่นี่..ผมอยากมีความทรงจำดี ๆ กับน้องวินครับ ถึงน้องวินจะไม่อยากสร้างมันร่วมกับผม แต่น้องก็ไม่เคยปฏิเสธออกมาตรง ๆ ซักครั้ง..
พรุ่งนี้ผมจะมารับน้องวินไปโรงเรียนพร้อมกัน เวลามันเหลืออีกไม่มากเท่าไหร่แล้ว ผมต้องรุกแบบจริงจังซักที!
เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ!
…………………………….
แถม
.
.
“พ่อทำไมต้องซอกแซกเพื่อนวินแบบนั้นด้วย!” หนุ่มน้อยหน้าสวยเอ่ยเสียงขุ่นถามพ่อเรื่องซักถามเพื่อนหน้าใหม่ที่มาส่งเมื่อเย็น พ่อมองลูกชายนิ่งและยกยิ้มให้ก่อนจะเดินผิวปากเดินออกไปเกือบถึงประตู
“พ่อ!....พ่อว่าพี่ต้าร์เป็นไง? สู้..เพื่อนวินได้มั้ยพ่อ?” คนขึ้นชื่อว่าพ่อ ทุกคนย่อมรู้ใจลูก หากเพื่อนหน้าใหม่ของลูกชายจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่น พ่อก็จะไม่สงสัยและยังเดินออกไปดูให้เห็นให้รู้ว่า..เพื่อนคนไหนที่ลูกชายคนเก่งไม่กล้าพาเข้าบ้านมาเจอ และยังยอมให้มาส่งถึงหน้าบ้าน
“น้องพิมาส่งไม่ได้ทำไมวินไม่โทรให้ที่บ้านไปรับ..ให้ต้าร์มาส่งทำไม?” พ่อย้อนถามน้องวินที่ทำท่าอึกอัก ก่อนน้องวินจะวกเข้าเรื่องที่ตนถามก่อนหน้า
“พ่อยังไม่ตอบวินเลยนะ..พ่อว่าพี่ต้าร์เป็นไง?” ผู้เป็นพ่อถอนหายกอดอกมองลูกชายที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา
“หน้าตาท่าทางผ่าน ส่วนนิสัย..คงต้องดูไปเรื่อย ๆ” หนุ่มหน้าสวยเงยหน้ามายิ้มสดใสที่พ่อเห็นตรงกันกับตัวเอง
“..วิน ถ้าจะชอบคนนี้หรือคนไหนพ่อก็ไม่ว่า แต่พ่ออยากให้วินเคลียร์ความรู้สึกให้สะอาดก่อนที่จะคบใครซักคน ตราบใดที่วินยังเอาคนโน้นคนนี้มาเปรียบเทียบกับน้องพิ หรือคนที่วินรออีกคนหนึ่ง..ผู้ชายคนนั้นคงโชคร้ายที่สุดและน่าสงสารที่สุดด้วย ถ้าวินเลิกชอบน้องพิกับใครอีกคนได้เมื่อไหร่ค่อยคิดจะคบใครเป็นแฟนนะวิน” สบสายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของพ่อและถอนหายใจยาว เสียงปิดประตูห้องนอนดังแผ่ว หนุ่มน้อยนั่งลงบนเตียงนุ่ม คว้าหมอนมากอดและนึกตามคำพ่อ
เลิกชอบพิน่ะไม่ง่ายนะพ่อ..แต่ไม่ยากถ้าวินจะเลิก
แล้วกับใครอีกคน..ใครอีกคนที่ยังอยากเจอ ยังอยากขอโทษ วินไม่มั่นใจว่าจะเลิกได้จริง ๆ พ่อ..
ใครสักคนคนที่วินเคยสัญญาว่าจะไประบายสีด้วย..ให้เค้ารอวินที่สนามเด็กเล่น บังคับให้เค้ามารอ แล้ววินก็ลืมว่า..เค้ามารอระบายสีกับวิน นึกขึ้นได้เมื่อเช้าวันใหม่มาถึงและพ่อให้ไปอยู่บ้านป้าที่เขาใหญ่ จนกระทั่งเปิดเรียน ไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร รู้แต่ทุกครั้งที่หนีเพื่อนมาเล่นที่สนามก็ต้องได้เจอ ได้เล่นกับเค้าทุกครั้ง
“พี่โต..” ถามชื่อแล้วไม่บอกหนุ่มน้อยเลยตั้งชื่อให้เด็กชายคนนั้นเอาเอง เด็กชายโต(นามสมมุติ)เลยเรียกหนุ่มน้อยว่า ‘ตัวเล็ก’ ที่หนุ่มน้อยไปเล่นที่สนามนั่นเป็นประจำเพราะใกล้บ้านเพื่อนสนิทที่ชื่ออ๋อง แต่พอเพื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองก็เลิกไปที่นั่น นานวันเข้าสนามเด็กเล่นตรงนั้นก็ถูกรื้อถอนกลายสภาพเป็นบ้านจัดสรร พร้อมกับใบหน้าพี่โตที่จางลงเรื่อย ๆ ลุกขึ้นไปเปิดลิ้นชักออกมาหยิบสีไม้ในกล่องเก่า ลูบและนึกถึงคำสัญญาที่บังคับพี่โตให้มารอ.. ‘ต้องมารอตัวเล็กนะ! ถ้าตัวเล็กมาแล้วไม่เจอตัวเล็กจะโป้งพี่โตด้วย สัญญาเร็ว..’ พี่
โตพยักหน้ารับคำและเอ่ยคำสัญญาเพียงสั้น ๆ ‘สัญญา..’
น้ำตารื้นเพราะความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจ
มองกล่องสีไม้แล้วฝากผ่านคำขอโทษไปถึงพี่โต..
‘ตัวเล็กขอโทษครับ..ขอโทษครับพี่โต’
..........................
สองหนุ่มเค้าแอบมีซัมทิงค์กันค่ะ
ตอนหน้าเหมือนเดิมนะคะ ไม่เกิน 7 วัน -///-
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ปล.จิอยากเขียนฉากจูบของคู่นี้อ่ะ > <
ปล.2 คิดถึงน้องพิอ่ะ ..กระซิก..