ตอนที่ 27
แสงสลัวน้อยนิดริบหรี่เยี่ยงแสงจากตูดหิ่งห้อยในห้องคหกรรมทำให้ผมยิ่งต้องขยับเข้าหาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในห้องด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..สิ่งมีชีวิตที่ผมพาดพิงถึงเมื่อครู่หลบเลี่ยงการขอความอบอุ่นจากผมด้วยการลุกหนีไปนั่งอีกมุมห้อง มองตามตาละห้อย ถอนหายใจช้า ๆ และนับ 1-10 ในใจ อย่างน้อยเค้าก็ไม่เดินหนีออกจากห้องไป..มันก็ยังถือว่าไม่ได้โกรธเอาโล่ห์มากละว้า เดินตามง้อหัวใจตัวเองให้กลับมาเต้นตึกตักยึกยักยุกยิกเหมือนเดิม..
“ไท..ผมแค่อยากช่วยเพื่อน ไม่เคยคิดเอาใจออกห่างนะครับ สาบานได้” กระพริบตาปริบ ๆ หวังใจให้เด็กญี่ปุ่นเหลือบมามองสักนิด หึหึ นี่ล่ะมั้ง ความรู้สึกของคำว่า..หางตาก็ยังไม่แล!! ผมเข้าใจความรู้สึกไทนะครับ แต่ก็อดเห็นใจตัวเองไม่ได้ ไทไม่สมควรงอนผมหนักขนาดนี้นะ..เรื่องของเรื่องน่ะเหรอครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
.
.
.
“อ้อม..คนที่ 3 จากขวา แถวที่ 2” ยืนปักหลักถือสมุดเล่มเล็ก ใบหน้าขึงขังจริงจังยิ่งกว่าชูวิทย์ตอนหาเสียง..ผมจะโดนฟ้องมั้ยครับ?
“คนสุดท้ายของแถวที่ 5 ด้วย..ทางขวาอ้อม” ส่งเสียงกระซิบบอกเป้าหมายคนต่อไป สายตาสอดส่ายหาน้องหลีดให้ครบแบบฟูลทีม..ใช่ครับ ผมรับหน้าที่ช่วยสาว ๆ หาน้องเชียร์หลีดสำหรับกีฬาสีปีนี้อยู่ครับ โอ๊ะ!! สุดยอดของความขาว แต่หน้าตายังไม่เข้าข่ายความน่ารักในระดับผม อืมมม น้องคนนั้นก็ตัวเล็กไป..แต่หน้าตากับบุคลิกใช้ได้ โว๊ววว ทำไมถึงมองข้ามน้องคนนี้ไปได้นะ..ผิวไม่ค่อยขาวมากเท่าน้องหลีดคนอื่น แต่หน้าตานี่ 10 เต็ม 10 เลยครับ!
“อ้อม..คนที่ยืนอยู่หลังสุดน่ะ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มใหญ่ นั่นแหละ..” จดจ้องกับหน้าตาแบบลูกครึ่ง ตาอย่างสวยเหอะ..อ้อมกระซิบกลับมาว่าให้คัดได้เฉพาะที่อยู่ในกลุ่ม ถ้านอกกลุ่มเป็นของสีอื่น..ต่อมอยากรู้ผมแทบจะถึงจุดระเบิดเมื่อน้องลูกครึ่งไม่ได้อยู่สีเดียวกับผม ผมไม่เคยเห็นน้องเค้ามาก่อนเลยครับ..พลาดไปได้ยังไงเนี่ย?
“..ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ ครบแล้วใช่มั้ยครับอ้อม?”..เสียงประกาศิตจากฟากฟ้าดังผ่ากระหม่อมผม ‘เปรี้ยง’ แรงฝ่ามือที่กระทบไหล่ดังจนน้องหลีดที่ยืนข้างหลังผมตกใจร้อง ‘อุ้ย!’ ไม่รอฟังคำตอบจากริมฝีปากสีส้มอมชมพูแลดูสุขภาพเยี่ยมของผม เด็กญี่ปุ่นออกแรงโอบไหล่และบีบกระชับมือจนแอบนึกว่ามันจงใจบีบให้ปวดแปลบ เมื่อคืนดูพยากรณ์อากาศ..ไม่เห็นบอกซักคำว่าพายุจะเข้า กรมอุตุฯโกหกพกลมขี้จุ๊เบ่เบ๊ะชิบหาย!!
กลับเข้ามาในห้องส่งดีกว่าครับ ไอ้คำที่บอกต่อหน้าเพื่อนว่าให้ไปกินข้าวน่ะ..เฟคให้ผมตายใจต่างหาก ไทลากผมเข้ามาในห้องคหกรรมที่อากาศด้านในเบาบางมาก เรียกได้ว่าความกดอากาศต่ำกำลังแรงพัดผ่านเข้ามาสู่ประเทศไทยฝั่งตะวันตก(ชะตาชีวิตผมกำลังตกครับ) มรสุมตะวันตกเฉียงใต้(อารมณ์ไทตอนนี้ครับ แล้วหมู่บ้านไทอยู่ทางทิศนั้นด้วย)ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนกระจายและตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ขอให้เด็กหนุ่มนัยน์ตาสวยอย่างผมระมัดระวังอันตรายในการคัดน้องหลีดในระยะนี้
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศญี่ปุ่นจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยช่วงล่างตั้งแต่บัดนี้จนถึงปิดเทอม ทำให้ช่วงล่างของผมอาจได้รับความกระทบกระเทือนถึงขั้นสะโพกครากในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่าน จึงขอให้เด็กหนุ่มหน้าตาดีอย่างผมระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในช่วงนี้ไว้ด้วย...กูทำนายเองยังจะแม่นกว่าว่ะ55+
กลืนน้ำลายเหนียวลงคอก่อนจะยิ้มเอาใจด้วยรอยยิ้มที่ใช้ได้ผลกับคนนับแสนมาแล้ว ดวงหน้าหล่อใสสะบัดพรืด อ่า..ประกายความสดใสคงยังไม่เข้าตา ยื่นนิ้วก้อยไปแตะไล้แถวนิ้วเด็กญี่ปุ่น สะกิดนิดหน่อยพอน่ารัก ผลลัพธ์ที่ได้กลับมายิ่งทำให้ผมอยากจิกทึ้งหัวตัวเองแล้วโขกกับมุมโต๊ะเอาให้เลือดอาบเรียกร้องความสนใจจากแอนตาซินชิบหาย..ไทสะบัดมือหนี แถมยังมองผมด้วยสายตาเจ็บปวด ผมยังไม่ได้ไปมีอะไรกับใครซักหน่อย..กล่าวหาผมด้วยสายตาแบบนี้ด่าผมออกมาตรง ๆ เถอะ!! มันเจ็บนะ!!
“ผมเคยบอกพิไปแล้ว..ถ้าพิอยากจะมีใครนอกจากผม หรือชอบใครนอกจากผม ขอแค่บอก แค่พิบอกผมถอยให้ได้เสมอ..แต่ไม่ใช่แอบทำแบบนี้ พิชอบน้องคนไหนล่ะ?” ..เหมือนถูกถีบแสกหน้าแล้วเอาตีนมาลูบละเลง คิดไปไกลแบบนั้นเลยเรอะ!?
“..ผมไม่เคยคิดอะไรแบบที่ไทกำลังคิดเลยนะ ไม่เคยชอบใครนอกจากไทเลยจริง ๆ ผมแค่ไปช่วยอ้อมคัดน้องหลีด..โอเค ผมไม่โกหกว่าเป็นคนเข้าไปขออ้อมคัดหลีดเอง” มือที่ผมดึงมากุมชักออกช้า ๆ สายตาเจ็บปวดเมื่อครู่เพิ่มกำลังความเสียใจหนักขึ้นร้อยเท่าพันทวี..ไม่รีรอที่จะเอื้อมมือคว้าเอวหนาเข้ามาในวงแขน หน้าชิดติดใบหู..อย่าได้คิดกันเชียวว่าผมจะเข้าไปทำอนาจารกับไท นี่มันในโรงเรียนครับ ถึงจะอยู่ในที่รโหฐาน เด็กคนอื่นสิงอยู่ในแคนทีนแย่งข้าว แย่งอากาศกันหายใจอยู่ในนั้นจนเกือบจะทั้งโรงเรียนเลยก็เหอะ!!
“ผมไม่มีเจตนาหาใครมาแทนไทครับ ไม่ได้ชอบใครนอกจากไท แต่ที่ไปคัดน้องหลีดอ่ะ..ผมแค่อยากช่วยอ้อม จริง ๆ นะ แล้วก็อยากดูสาว ๆ น่ารัก ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปนั่งจีบใคร..ไม่มีใครมานั่งจีบผมด้วย ไท..ไม่มีใครมาชอบผมหรอกน่า” เด็กญี่ปุ่นหันมามองผมเต็มตา ถอนหายใจยาว..
“ทำไมไทไม่อยากดูสาว ๆ ล่ะ แล้วไทก็ไม่อยากยิ้มให้คนโน้นคนนี้ด้วย..ถ้ายังรักไทอยู่ ขอนะพิ..อย่าทำแบบนี้อีก อย่าเที่ยวให้ความหวังคนอื่น อย่ายิ้มให้ใคร อย่าสนใจใคร..นอก จาก ผม!!” สบตาจริงจังคู่นั้น พยักหน้าตอบทันควันแล้วกอดเด็กญี่ปุ่นแน่น..ไทไม่เคยเชื่อว่าผมรัก รักผู้ชายได้อย่างเต็มหัวใจ เวลาแค่นี้มันคงยังไม่พอสินะ..คงต้องให้เวลาช่วยด้วยสินะครับ
“อืม..ไม่ทำแล้ว ไม่ไปคัดหลีดแล้ว” นั่งกอดโยกตัวไปมาได้พักใหญ่ กระบวนการหลั่งกรด ไฮโดรคอริก แอซิด ในกระเพาะอาหารผม เรียกความสนใจจากไทจนได้..ในที่สุดเวลาให้อาหารสัตว์ก็เริ่มต้นขึ้น ก็มันจวนจะบ่ายอยู่แล้ว ข้าวซักเม็ดยังไม่ตกกระทบกระแทกพื้นผิวหลุมดำ(กระเพาะอาหาร)ผมเลยครับ
“ไปกินข้าวกัน..ไทถือว่าพิสัญญาแล้วนะครับ” ยิ้มให้ก่อนจะจับมือไท ยกมาหอมเน้นที่นิ้วก้อย..
“สัญญา” เด็กญี่ปุ่นยิ้มกว้างตอบกลับมา ดึงมือตัวเองอออกจากการเกาะกุมเหนียวเป็นยางตุ๊กแกของผม จูบคืนที่ริมฝีปากบางเบา..
“รักษาสัญญาด้วยนะครับ” ..คำพูดอ่อนหวานออกจากริมฝีปากอ่อนโยน แต่แววตาดุดันที่ขัดกันอย่างเปลือกทุเรียนกับสำลี ทำผมหายใจไม่ทั่วท้อง..ใครจะกล้าผิดคำพูดวะ!! เดินออกมากินข้าวพร้อมกันแบบไม่แคร์สื่อ เย็นก็ซ้อมบาส ปีนี้ผมลงเป็นตัวจริงครับ นั่งชิวอยู่ข้างสนามบาส มองพี่ ม.ปลายคัดนักบาสลงเตรียมทีมกีฬาสี พี่โป้งกับเต๋านั่งอยู่ข้างหลังผมครับ แกล้งหยิบไอพอดของไทขึ้นมา เอาหูฟังยัดใส่หูทั้งสองข้าง ทำทีกดยุกยิกแล้วฮัมเพลงเบา ๆ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า..บรรยากาศของเต๋ากับพี่โป้งดูซอฟท์ลงเยอะเลยครับ
เมื่อก่อนแทบจะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ..แต่เดี๋ยวนี้...
“ไปดูซ้อมวิ่งมั้ย?..พี่โป้ง” น้ำเสียงไม่แข็งกระด้างโพล่งออกจากปากเต๋า..กระเถิบก้นเข้าไปใกล้อีกนิด จะได้ยินแบบชัดขึ้นอีกหน่อย
“อืม..แต่เย็นหน่อยนะ ต้องซ้อมบาสก่อน..รอกลับพร้อมกันนะ” อมยิ้มมุมปาก..อยากซักเต๋าเหลือเกินว่าเสื้อที่มึงซื้อมาใส่คู่น่ะ..อีกตัวอยู่กับพี่โป้งรึเปล่า?55+ การสื่อสารและการกระทำของมึงมันส่อให้กูคิดจริง ๆ ล้มตัวลงนอนบนตักเต๋าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย กอดอก หลับตานิ่ง..รอว่าคู่นี้จะทำยังไง?
“..มึงไปนอนดี ๆ พิ” หรี่ตามองข้างหนึ่งเห็นเต๋าลนลานดันหัวผมออกจากตัก ตามองพี่โป้งขอความเห็นใจ..พี่โป้งยิ้มบางตอบ..เต๋ายิ้มหล่อและหยุดเสือกไสผม ฮู้ยยยยย ไอ้เต๋าสตรอว์เบอร์รี่ ลุกนั่งพรวดพราด ถอดหูฟังออกจ้องหน้าเต๋า
“เต๋าไม่รักพิแล้วเหรอ?.. เมื่อก่อนยังขอนอนกอดอยู่เลย เดี๋ยวนี้แค่นอนตักยังผลักไสไล่ส่ง..เจ็บช้ำตรอมตรมที่สุดอ่ะ” กระแดะแค่พอให้ไม่ทุเรศตัวเอง กระเถิบเข้าไปหาพี่โป้งกอดไหล่ใส่มารยา..แล้วหันไปยิ้มหวานให้..
“พี่โป้งก็ไม่ค่อยสนใจพิเลยนะ ไม่มีมากอด ไม่มาเล่นเหมือนเมื่อก่อน..กลัวใครจะเข้าใจผิดรึไง?..รึพี่โป้งมีใครแล้ว?” พี่โป้งกระอักกระอ่วน..ทำยังกะที่ผมพูดมันเรื่องจริงงั้นล่ะ55+ ขำก๊ากเสียงดัง กระโดดลงมาช่วยพี่อ้นคัดบาส แบ่งทีมเป็น 2 ทีมแล้วเริ่มเล่น..หันไปอีกทีสองคนนั่นหายไปไหนแล้วไม่รู้ สงสัยว่าคงไปเคลียร์กันแหง ปีนี้บาสสีผมน่ากลัวครับ..น่ากลัวจะไม่ได้เหรียญอะไรเลย ไม่มีตัวจี๊ดให้อุ่นใจเลยซักตัว แต่ก็ไม่แน่ครับถ้าซ้อมหนักและเข้าขากันดี ๆ เหรียญทองแดงคงไม่ไกลเกินฝัน..นี่ผมหวังน้อยนะครับ555
“พรุ่งนี้เจอกันพี่..” ร่ำลาพี่ ๆ แล้วโบกมือส่งน้อง ๆ ทีมบาสในฝัน กดโทรหาไทออดอ้อนอธิบายว่าติดภารกิจระดับชาติที่ต้องเอามาตีแผ่ให้ประชากรวายได้เสพภายในวันนี้แล้วนัดเจอกันที่บ้าน ผมจะกลับพร้อมเต๋าครับ..ฮี่ฮี่
“มึงอยู่ไหนไอ้เต๋า..กูรอที่รถมึงเนี่ย” กดโทรตามมัน..ทำไมผมจะไม่รู้ว่าไอ้เต่านัดกับพี่โป้งไว้ว่าจะกลับบ้านพร้อมกัน..รึจะเสือกมันต้องให้สุดครับ! หน้าบูดบึ้งผึ้งรุมโทรมของเต๋ากับรอยยิ้มลดโลกร้อนของพี่โป้งทำผมอดอมยิ้มไม่ได้..เก็บอาการไม่อยู่เลยนะไอ้เหี้ยยยยยยยยย
“พิ..มึงไม่กลับพร้อมไอ้ไทเหรอ?” เสียงแข็ง สั้น ห้วนของเต๋าไม่ทำให้ผมเกิดอารมณ์โกรธ ตรงกันข้าม..มันทำให้ผมลั้ลลาที่สุดในรอบปี
“กูอยากกลับกับมึงเหมือนเมื่อก่อน..ไม่ได้รึไงเต๋า?” มันถอนหายใจแล้วหยิบหมวกกันน็อคออกมาสวม..ให้ผมอันหนึ่ง สวมให้พี่โป้งอันหนึ่ง..ทีกับกูไม่เห็นจะมองเชื่อม ยัดเข้ามาซะหูถลอก!! กำลังจะก้าวขาคร่อม เต๋าก็เอ่ยปากร้องขอให้พี่โป้งนั่งหน้า..รักษาพรหมจรรย์ข้างหลังพี่โป้งไม่ให้เกิดมลทินรึไงไอ้เต๋า? หึหึ.. พอถึงหน้าประตูรั้วผมไอ้เต๋าก็บึ่งจากไม่ร่ำไม่ลา เดี๋ยวสวยไอ้เต๋า..กดโทรศัพท์หาแม่เต๋า ถามว่าเต๋าพาเพื่อนมาค้างบ้างรึเปล่า.. ‘ไม่มีนี่คะะน้องพิ..หนูไม่เห็นเข้ามากินข้าวเป็นเพื่อนแม่เลยนะคะ น้องชายกับน้องวินก็ไม่เข้ามากันเลย..เรียนหนัก การบ้านเยอะเหรอคะลูก?’ ตอบคำถามแม่เต๋าให้พ้นตัวแล้ววางโทรศัพท์..มันไม่ได้พาใครมาค้าง อืมมม แสดงว่ามันต้องไปค้างบ้านพี่โป้งแน่ ๆ จะโทรย้อนกลับไปซอกแซกกับแม่เต๋าก็กระไร..ดูจะอยากเสือกเกินปกติไปสักนิด ถอนหายใจกับภารกิจเสือกกู้ชาติแล้วดอลลี่ตัวเองเข้าไปหาไทในบ้าน..ชวนตากินข้าวเย็น ตาถามผมในขณะที่ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปาก..
“ปิดเทอมนี้พิอยากไปอยู่กับพ่อรึเปล่าลูก?..เมื่อกลางวันพ่อเค้าเข้ามาหาตา เค้าอยากให้พิไปดูบ้านใหม่เค้าน่ะลูก..” ..ผมไม่สนิทกับพ่อ จำหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นยังไง..ถอนหายใจและตอบตาด้วยสายตาว่างเปล่า..
“งั้นตาจะบอกพ่อให้นะ..ว่าพิต้องดูแลตา คงไปไหนไม่ได้” ตายิ้มและคิดคำตอบให้เสร็จสรรพ ก้มหน้าลงมองจานข้าว..ผมกินไม่ลงครับ ใจหนึ่งก็คิดว่าพ่อคงอยากทำหน้าที่ของพ่อกับผมบ้าง..แต่อีกใจ..
ทำไมไม่ดูแลผมมาตั้งแต่แรก..ทิ้งผมไปกับคนอื่นได้ยังไง!! ตาสอนผมอยู่เสมอว่า..พ่อยังไงก็คือพ่อ..ต่อให้เป็นฆาตกรติดคุก..ก็คือพ่อ ห้ามคิดไม่ดีกับพ่อ เราเป็นลูกต้องนึกถึงพระคุณที่เค้าสร้างเรามา..
ผมกำลังจะเป็นลูกอกตัญญูรึเปล่าครับ..ผมคิดว่าพ่อไม่รักผม ที่พ่อมาหาตาเมื่อกลางวัน พ่อหวังอะไรจากผมรึเปล่า? แรงบีบมือจากเด็กญี่ปุ่นใต้โต๊ะทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง..ยิ้มส่งกำลังใจของไททำให้ความหม่นในใจผมมันละลายไปได้ครับ ยิ้มบางตอบและลงมือตักทอดมันให้ตา ยิ้มยิงฟันให้ตาสบายใจ กินข้าวเสร็จก็ส่งตาเข้านอน..
“วันนี้นอนที่ห้องคนแก่มั้ยหนุ่ม ๆ" ไทยิ้มให้ตาและหันมาพยักหน้ากับผมแรง ๆ ยิ้มตอบเด็กญี่ปุ่นก่อนจะขอตัวมาอาบน้ำ แล้วจะขนที่นอนกับหมอนมานอนห้องตา
“พิอย่ากังวลเรื่องพ่อเลยนะ...ไม่มีอะไรหรอก พิยังมีผมนะ” ทันทีที่ประตูห้องผมปิดลง ไทก็เดินเข้ามาประคองหน้าผมแล้วส่งคำพูดปลุกปลอบเข้ามาในหัวใจ..ยิ้มบาง หลับตารับจูบจากเด็กญี่ปุ่น
ริมฝีปากชื้นจูบแผ่วที่ริมฝีปากผมอ้อยอิ่ง เนิ่นนานกว่าจะผละออก จูบระเรื่อยไปทั่วทั้งหน้า พร่ำกระซิบว่ารักผมแค่ไหน..และไม่มีวันจะทิ้งผมไปไหนเด็ดขาด..รวมถึงปิดเทอมนี้ด้วย ขนที่หูผมลุกซู่อย่างไม่ได้นัดหมาย นึกถึงพยากรณ์ฉบับรวบรัดของตัวเองเมื่อกลางวันยิ่งส่งให้ขนที่หัวลุกชูชันแข่งกันกับขนที่หู อูยยย..หนาวแฮะ
ผละออกจากริมฝีปากหวานปานน้ำผึ้งสวนลุงสะอาด วิ่งเข้าส้วมอาบน้ำรวดเร็วทำเวลาก่อนจะมานอนกกกอดกันกักตุนไว้เผื่อคืนนี้..
เข้าห้องตาได้ก็นอนประกบตากันคนละฝั่ง..
ตาหลับก็แอบเอื้อมมือมาแตะกันเบา ๆ ส่งกันและกันให้หลับฝันดี..
ถึงจะไม่ได้นอนกอดกันผมกับไทก็ฝันดีได้ครับ..
เชื่อผมเถอะ55+
.....................................
แถม
.
.
.
“ปิดเทอมนี้ผมมารับน้องพิไปอยู่บ้านผมนะครับพ่อ” ผู้มีอายุเหลือบมอง ก่อนจะเอ่ยคำเชือดเฉือนจิตใจ..
“พ่อกลัวพิมันจะตกใจน่ะพ่อแสน นี่มันผ่านมาตั้ง 15 ปีแล้วนะ..หลานมันคงไม่นึกอยากเจอหน้าพ่อแล้วล่ะ..” ชายวัยกลางคน ใบหน้าสะกดกลั้นอารมณ์ เข่นเขี้ยวตอบผู้สูงวัยไปอย่างลุแก่โทสะ
“ทำไมลูกจะไม่อยากเจอผม พ่อต่างหากที่กีดกันผมออกจากลูก เด็กมันขาดความอบอุ่นก็เพราะพ่อนั่นล่ะ..ถ้าพระพายอยู่ต้องเสียใจว่าพ่อกับลูกไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแน่ ๆ” ผู้สูงวัยเหยียดยิ้ม..
“คราวนี้พ่อจะให้พ่อแสนเอาไว้ใช้..ติดตัวไปสัก 3 แสน แล้วอย่าย่างเท้าเข้าบ้านนี้มาอีก..นี่เป็นก้อนสุดท้ายที่พ่อจะให้พ่อแสน รับแล้วออกจากชีวิตพิมันไปซะเถอะนะพ่อ..ถ้ายังนับว่าพิมันเป็นลูกเหมือนที่บอกพ่อจริง ๆ” ชายสูงวัยหยิบห่อกระดาษจากมือของลูกน้องคนสนิทยื่นให้แสน ยื่นมือออกไปรับอย่างไม่ลังเล พร้อมสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่กลับมายุ่มย่ามอีก ผู้สูงวัยยืนส่งชายวัยกลางคน พอพ้นประตูบ้านก็ทรุดลงนั่งลงบนเก้าอี้..
“ถ้าโยมันอยู่..ไอ้แสนคงไม่กล้าเข้ามาทำแบบนี้กับลุง ขอบใจมากนะช้าง กลับไปเถอะ..ลุงขอนั่งคนเดียว” ลูกน้องคนสนิทเดินเข้าโอบกอดชายสูงวัยด้วยความรัก..
“พี่โยเค้าไปสบายแล้วจ๊ะ ลุงก็เหมือนพ่อชั้นคนหนึ่งนะ..มีอะไรก็เรียกชั้นนะลุง” ลูบหลังมือตอบเบา ๆ และหลับตาลง..ในยามแก่เฒ่าก็ยังมีคนที่คอยพึ่งพาได้
นึกกระหวัดไปถึงลูกชายคนเดียวแล้วสะท้อนในหัวอก หากยอมฟัง และยอมรับการตัดสินใจของวาโย..ลูกชายคนเดียวบ้าง คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น..
สัญญากับตัวเอง..ว่าจะมีสติ มีเหตุผลมากกว่าเดิม..
แต่เหนือสิ่งอื่นใด..ขออย่ามีเหตุซ้ำรอยเหมือนลูกชายคนเดียวเลย..ไม่อยากสูญเสียอีกแล้ว
ขออย่าให้มีเลย..
...........................................................
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
นั่งจิ้มบวกขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามนะคะ
ปล.ขอยกยอดไปตอบเม้นท์พรุ่งนี้นะคะ
ปล.2 จิเหนื่อยมากเลยค่ะ เมื่อกลางวันกลับจากทำบุญก็มานั่งปั่นนิยาย เสร็จก็ไปทำงานต่อ..ขอนอนก่อนนะคะ จุ๊บุๆๆๆๆ ฝันดีทุกคนนะคะ