ตอนที่ 24
แสงไฟนวลจากโคมไฟหัวเตียงในห้องนอนผมเผยภาพเด็กหนุ่มร่างกายกำยำสมส่วน นอนตะแคงท้าวคางมองผม ผมสอดมือสองข้างเข้าที่แก้มนอนตะแคงมองกลับ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยนไล่สำรวจทุกส่วนของใบหน้าผมอย่างช้า ๆ ปลายนิ้วเรียวยาวลูบแขนผมเบา ๆ ผมหลับตารับสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มที่เปลือกตา ปลายจมูก ริมฝีปาก..และปลายลิ้น
เราวนเวียนจูบกันแบบนี้ตั้งแต่ตี 4 แล้วครับ ไทไม่นอนแล้วผมจะนอนได้ยังไงล่ะ ผมไม่รู้ว่าทำไมไทถึงชอบกอด ชอบหอม ชอบจูบผมนัก..ขออย่าให้ไทนึกเบื่อผมเลยครับ
“ทาแป้งก่อนนอนรึเปล่า?..หอมจัง” ผมยิ้มตอบไท เด็กญี่ปุ่นกดปลายจมูกลงทั่วทั้งหน้าผม..อุ่นจัง ยื่นมือโอบเอวแล้วซบหน้ากับแก้มไท ฝ่ามืออุ่นลูบหลังผม ริมฝีปากชื้นประทับจูบหน้าผากและขมับแผ่วเบา ถ้าฝนตกจะโรแมนติกมาก..
“จูบหน่อย..แล้วจะให้นอน” เหอออ บอกตอนไหนว่าอยากนอน กูไม่ง่วงนะ ไม่ได้อยากนอนด้วย..แต่..มันหมายถึงถ้าไม่ง่วงก็จะไม่จูบเหรอ? งั้นผมง่วง!! -//- ผมยื่นริมฝีปากล่างให้ไทจูบ นึกเอาเหอะ..ยิ่งกว่าปังคุงอ่ะ ไทอมยิ้มและงับริมฝีปากล่างผมเบา ๆ ..จะพูดไงดี ระทวย เคลิ้ม หรืออะไรที่มันใกล้เคียงกับคำพวกนี้ก็ได้ครับ..ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่ เนิ่นนานกว่าไทจะถอนจูบ..อ้อมกอดที่ผมมีสิทธิอย่างเต็มที่โอบกอดผมแน่น ริมฝีปากที่สัมผัสร่างกายทุกส่วนของผมบอกรักให้ผมเต็มตื้นในหัวใจทุกครั้ง ก้อนเนื้อที่เต้นตึกตักอยู่ข้างในอกหนาก็เป็นของผมคนเดียว..อยากอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ จังครับ...
ต่อให้ปวดขี้..ปวดเยี่ยว ม้ามระบม ไส้ติ่งแตก ผมก็ทนได้~ นอนกกกันจนพระอาทิตย์ขึ้นก็ผลัดกันอาบน้ำ เข้าไปชวนตามากินข้าว ตาบ่นว่าขาไม่ค่อยมีแรงผมเลยจะพาตาไปตรวจร่างกายที่ รพ.ไอ้อ๋องครับ พี่ช้างได้ยินเข้าก็อาสาพาไปเอง ผมจะได้ไม่ต้องขาดเรียน..พี่ช้างครับ ทุกวันนี้ผมไปเรียนก็เหมือนไม่ได้ไป เพื่อนคอยเก็บความรู้ ต้มให้เดือด หย่อนโปรตีนเกษตรลงไปสองสามเม็ดให้พอมีรสชาติ แล้วฉีดเข้าเส้นให้อยู่ทุกวัน
“ไป รพ.ตรงนั้นดีมั้ยครับ ผมว่ามันไม่ไกลแล้วก็ไม่แพงด้วย..ให้ไทพาไปมั้ยครับตา” ...น่ารักจริง ๆ น่ารักที่สุด น่ารักเท่าโลก555 ผมอมยิ้มนั่งท้าวคางมองเด็กญี่ปุ่นคุกเข่าขอความรักจากตา เอ้ย!!คุกเข่าข้างตา มือแตะแขน แล้วอาสาพาไปหาหมอเอง..ถ้าผมเป็นสาว ๆ ผมจะวิ่งเข้าไปกระชากคอไทมาดูดปาก แล้วกรี๊ดใส่หน้าข้อหาทำตัวน่ารักจนทำให้ผมเสียจริต..อย่านึกภาพตามกันนักเลยครับ เท่านี้ผมก็สมเพชเวทนาตัวเองพออยู่แล้ว สุดท้ายตาก็ให้พี่ช้างพาไปหาหมอที่ รพ.ไอ้อ๋องครับ เราก็ไปโรงเรียนกันตามปกติ
“เต๋ามึงเป็นไรของมึง..มองกูนานแล้วนะ” ผมถามไอ้เต๋ากลางวงล้อมของเพื่อนพ้องหน้าห้องพยาบาล อึดอัดกับสายตาของมันจริง ๆ ครับ มีอะไรก็พูดสิวะ
“..ทำไมช่วงนี้หน้ามึงใส ตาวิบวับ แล้วมึงก็สูงขึ้นด้วย..ไปทำอะไรมา?” ทุกสายตาหน้าห้องพยาบาลจับจ้องมาที่ผมคนเดียว หันไปคุยกันเรื่องบอลกันเข้าสิวะ..จะให้กูพูดตรง ๆ รึไงว่า
‘ตั้งแต่กูเสียตูดให้ไททิ่ม ผิวพรรณกูก็เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลเหมือนดวดบลิ้งค์ไป 2 โหลแบบที่พวกมึงพิศเนี่ยแหละ’ อื้อหือ..จีบปากจีบคอ สาวจริง ๆ..บอกแล้วนะครับว่าอย่านึกภาพตาม
“กูเปลี่ยนโฟมล้างหน้าน่ะ ว่าแต่..กูสูงขึ้นจริง ๆ เหรอวะ?” ไม่เคยสังเกตตัวเองซักที หันไปมองไทขอความเห็นไทก็เอาแต่นั่งยิ้มให้..ไร้ประโยชน์กับชีวิตจริง ๆ
“เมียรักมาวัดความสูงกันหน่อยเร็ว” วินทำปากบู่ แต่ก็เดินมากอดผม
“สูงขึ้นมั้ยล่ะผัวเฮงซวย” ผมเอามือวางบนหัววินแล้วเทียบดูจากคราวที่แล้ว เออ..สูงขึ้นนิดหนึ่งแฮะ นิดเดียวจริง ๆ นะครับ หันไปมองเต๋าแบบงงงวย มันสังเกตผมขนาดนี้เลยเหรอ?
“อยากเป็นเมียกูอีกคนมั้ยเต๋า แขนข้างขวากูว่างนะ” เต๋าหันไปมองไทยิ้ม ๆ
“กูว่ามันเต็มแล้วนะ..จริงมั้ย?” ไทยิ้มบางตอบเต๋า แล้วยกกำปั้นขึ้นมาชกกันเบา ๆ แถมบอกจะเลี้ยงโออิชิบุฟเฟต์หนึ่งมื้อใหญ่โทษฐานปากดีโดนใจ วินกอดผมไม่เลิกผมเลยปล่อยให้มันกอด..นั่งลงมันก็เกาะเป็นลูกลิงหิวนม วิน..กูไม่มีต่อมผลิตน้ำนมให้มึงได้ดูดดื่มนะ ปล่อยกูเถอะ..
“วินเสื้อกูยับ..ปล่อยก่อนเสื้อกูยับ” มันเงยหน้ามามองก่อนจะยอมคลายแรงกอดลง แล้วไอ้หน้าเป็นตูดแบบนี้มันอะไรกันวะ? มีเรื่องเดียวซะล่ะม้างงงงงง
“พี่ต้าร์ทำอะไรให้อีก?” โว้ววว ปากบู่ของวินอัพตัวเองขึ้นมาชิดจมูกแล้วครับ555 แต่ถ้าวินไม่เล่าผมก็ไม่คาดคั้นนะครับ
“ไม่อยากเล่าก็ตามใจ..แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะสน” หันหลังให้มันแล้วชวนอ๋องคุยเรื่องหมอกระดูกโรงบาลมันว่าลงวันไหน โอ้ย! หันกลับไปถลึงตาใส่วินให้เลิกทุบหลังผมซะที โหหห หน้าเป็นตูดเลย ขำหน้าบูด ๆ ของมันครับ555
“ไปส้วมกับกูหน่อย” วินไม่ได้ฟังว่าผมอยากไปหาอะไรกินในส้วมกับมันรึเปล่า คว้าคอเสื้อและลากผมออกมาจากโต๊ะ.. อึ้!! หน้าหงายกันไป
“เมื่อคืนกูติดต่อมันไม่ได้ ไอ้ต้าร์มันปิดโทรศัพท์..เช้านี้กูก็ยังต้องคุยกับคอลเซ็นเตอร์แทนตัวมันอยู่ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้กูไม่ยอมเป็นแฟนแม่งหรอก!!” วินแยกเขี้ยวพ่นไฟใส่ผมทันทีเมื่อถึงหน้าห้องน้ำ
“แบตพี่ต้าร์หมดรึเปล่า..แล้วมันก็แค่ไม่กี่ ชม.เองนะไอ้วิน มึงจะเครียดอะไรนักวะ” กอดอกมองปากยื่น ๆ ตาแดง ๆ ของวิน..สภาพนี้คงโทรหาพี่ต้าร์ทั้งคืนแน่ ๆ
“กินข้าวเที่ยงแล้วค่อยโทรอีกทีก็ได้นี่หว่า เดี่ยวกูโทรให้..ป่ะไปเข้าแถว” โอบไหล่ให้เดินไปเข้าแถว..พี่ต้าร์มันจะรู้รึเปล่าว่าไอ้วินมันเป็นเอามาก เฮ้อออออ ผมเรียนแบบตั้งใจมากครับเพราะวินมันเอาแต่กดโทรศัพท์หาพี่ต้าร์ ไอ้เต๋าหลับ ผมเพิ่งเข้าใจว่าเรียนและคอยติวให้เพื่อนมันเหนื่อยยังไง
“พอแล้ววิน กินข้าวแล้วค่อยโทร” ผมเตือนวินเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ววะ? วินหายใจแรง จ้องโทรศัพท์ในมือ และยัดไว้ในกระเป๋ากางเกง ผมเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวให้วินแล้วตบไหล่มันเบา ๆ เมีย(?)ผมถอนหายใจและจับตะเกียบขึ้นมาสาวเส้น สูดเข้าไปในคำเดียว..ยัดห่าชัด ๆ !! พอกินเสร็จผมยื่นมือไปขอโทรศัพท์จกมันและกดโทรออก..รอสายไม่นานเลยครับ
“วินแบตโทรศัพท์พี่หมดแล้วพี่ก็ไม่ได้สังเกตมัวแต่เร่งทำโปรเจกต์ส่งอาจารย์ เพิ่งเอามาชาร์ตนี่แหละ อย่าโกรธนะครับ” พี่ต้าร์มึงเป็นพลแม่นปืนรึไงวะ..สาดกระสุนใส่หูกูโดนทุกนัดอ่ะ
“ผมเองพี่ พิ..ไม่ใช่ไอ้วิน มันโทรหาพี่เป็นร้อยรอบได้แล้วมั้ง” วินคว้าโทรศัพท์ในมือผมไป และแยกเขี้ยวขู่ผมอีกที555 เดินหนีไปคุยใต้ต้นหางนกยูงแล้วครับ หายโกรธแล้วเหรอวะ..ใจง่ายไปป่าว555 หันกลับมามองเพื่อน เต๋ามันหลับหัวพิงไหล่ชายอยู่ครับ..ง่วงอะไรขนาดนั้น กลางคืนมันทำอะไรมาวะ? เก็บความสงสัยให้ลึกสุดใจ เดินตรงเข้าไปแล้วกระซิบข้างหูเต๋า
“เมื่อคืนมึงทำเหี้ยอะไรทำไมถึงไม่นอน!!!” เต๋าสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงกระซิบฟ้าผ่าของผม ลูบหู ลูบหน้าป้อย ๆ พวกผมขำก๊าก เต๋าชี้หน้าคาดโทษผมแล้วตะโกนสั่งว่าจะโดดช่วงบ่ายไปงีบห้องสมุด..กูจะตามไปสุดโลกหล้าไอ้เต๋า5555 แต่เอาเข้าจริงผมก็ไปไหนไม่ได้ครับ โครงการกวนตีนเพื่อนอย่างต่อเนื่องเป็นอันพับเก็บเข้าหลืบตู้ไป วินยิ้มอารมณ์ดีผิดกับเมื่อเช้าหน้ามือหลังตีน ไอ้เต๋ารักษาสัญญาจนวาระสุดท้ายของวัน..ผมจะส่งมันเข้าทีมชาติชุดนอนยาวครับ กีฬาประเภทใหม่ พวกคุณยังไม่รู้จักหรอก..แต่ดังมากในฝรั่งเศส555 เย็นนี้ไทไม่เข้ามากินข้าวที่บ้าน มาส่งผมและกลับเลย คราวนี้มันกลับจริงครับ..ไม่อ้อยอิ่งเหมือนเคย เด็กญี่ปุ่นบอกผมว่าคืนนี้จะโทรหา ผมนั่งคุยกับตา พี่ช้างเรื่องอาการขาไม่มีแรงของตา ได้ความว่า..เป็นโรคคนแก่ หมอก็จัดยามาตามอาการเท่านั้นครับ แต่ให้ตรวจสุขภาพทุกปี
กินข้าว อาบน้ำเสร็จผมก็นั่งจ้องโทรศัพท์..เปิดแลบทอปออนคุยกับเพื่อนในห้อง เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ ลดระดับสายตามองเวลาข้างล่างสุดหน้าจอ ห้าทุ่มครึ่ง..ชักเข้าใจอารมณ์เหวี่ยงของไอ้วินขึ้นมาแล้วครับ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก เอาแล้วไงกู..รอสายจนตัด กดโทรใหม่ ทำซ้ำอยู่ประมาณ 6 ครั้งไทก็รับ..
“..ปล่อยผมรอโทรศัพท์..ผมโทรหาก็ไม่รับ ทำอะไรไท” ถามเสียงเย็นทั้งที่ในใจผมมันร้อนยิ่งกว่าไฟเผากระทะทองแดง
“ผมช่วยพี่เรย์แต่งชุดลำโพงครับ เพลินจนลืมเวลาเลย ไทยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยครับ..หิวจัง” ไม่อยากจะเชื่อ..ว่าคำพูดของไทไม่กี่คำมันจะทำให้ไฟร้อนเผากระทะทองแดงของผมมอด กลายเป็นอารมณ์ของคนที่อยู่ในโหมดเลิฟ ๆ ไปในทันตา
“ไปหาอะไรกินก่อนไป กินเสร็จค่อยโทรหาผมใหม่..ผมยังไม่นอนหรอก” ..ผมใจง่ายกว่าไอ้วินหลายเท่านัก > < เด็กญี่ปุ่นไม่วางครับ แต่พาผมไปกินข้าวพร้อมมัน อาบน้ำพร้อมมัน และเข้านอนพร้อมกันด้วย
เช้าวันนี้ผมก็ออกไปโรงเรียนแต่เช้า มีนัดกับแฟนกินข้าวเช้าในแคนทีนด้วยกันน่ะครับ555 เด็กญี่ปุ่นนั่งตัวขาว ปากแดงอยู่ที่โต๊ะ มีเกาเหลา ข้าวปล่า ผัดผัก ไข่เจียว และน้ำเปล่าอีก 2 ขวดวางอยู่บนโต๊ะรอผมด้วย
“หิวแล้วอ่ะ..กินเลยนะครับ” ผมยิ้มและลงมือกินอย่างคนมีสกุล555 รับโทรศัพท์ก้องบอกให้พวกมันตามมาแคนทีน รวมพลกันที่โต๊ะจนครบไอ้เต๋าก็ถามหาน้องครีม กับน้องมิ้นท์ ไทบอกว่าน้องครีมอยู่เป็นเพื่อนน้องมิ้น น้องมิ้นท์ไม่สบาย..น่าจะติดหวัดจากน้านันท์ ตอนนี้ป่วยกันเยอะ พวกคุณก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ..ฝนตกก็อย่าทะลึ่งไปเดินตากฝน ไม่เท่ห์หรอก ไข้แดก น้ำมูกย้อยอีกต่างหาก..ผมเป็นห่วงจริงจังนะครับ
“พี่ไทครับ..ผมขอเบอร์น้องปูนหน่อยครับ” ชายเกาะแขนไทและขอเบอร์น้องปูน ไทยิ้มให้และหยิบโทรศัพท์ออกมาให้ชาย
“หาเอาเองนะ” ผมตาฝาดหูเฝื่อนเกลื้อนขึ้นหลังรึเปล่าครับ ชายรับโทรศัพท์ในมือไทไปกดและยิ้มแก้มปริ ในขณะที่ผมกับพวกที่เหลืออ้าปากค้างอย่างไม่เข้าใจกับภาพตรงหน้า..มึงไม่หวงน้องมึงแล้วเรอะ!!
เรียน ๆ เล่น ๆ ไปแป๊บเดียวก็หมดวันแล้วครับ เดินผ่านสนามบอลจะไปเอารถเพื่อนในห้องก็ตะโกนชวนเตะบอล มองแล้วน่าสนุกดีเหมือนกัน หันไปถามเพื่อนแล้ววางกระเป๋ากองรวมกันไว้โต๊ะหินอ่อน ดึงชายเสื้อออกและลงสนามฟุตบอลที่มีผู้เล่นวิ่งพล่านในสนามร่วม 40 คน ยื้อแย่งเตะลูกกลม ๆ ที่มีแค่ลูกเดียว..มันส์ชิบหาย5555 ผมเบียดอกแนบหลังเด็กญี่ปุ่นแย่งบอลที่อยู่ในเท้ามัน
“555ขี้โกง” เด็กญี่ปุ่นบ่นไม่ใส่ใจนัก ประหนึ่งอยากเรียกร้องความสนใจไปงั้น ผมจี๋เอวไทแล้วอาศัยจังหวะมันขำ เลี้ยงบอลสะดุดแย่งเอาลูกบอลมาได้ ลากเลื้อยผ่านผู้เล่นฝั่งตรงข้ามและซัลโวเข้าไปอย่างงดงาม...ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมทีม
“ไอ้เหี้ยพิ มึงอยู่ฝั่งนี้โว้ย” ..ผมยิงเข้าประตูตัวเองครับ ถึงว่าประตูมันทำหน้าเอ๋อใส่ตอนผมเลี้ยงจี้ไปที่มัน เฮอะ!! เอาใหม่ก็ได้ ตั้งทีมกันใหม่และถอดเสื้อแยกความแตกต่างของสองทีม เอ่อ..มันต้องแบ่งให้เท่ากันก่อนครับ ทีมไทถอดเสื้อ ผมโลมเลียร่างกายมันด้วยสายตา เด็กญี่ปุ่นขำแล้วเดินมาล็อคคอผมเหวี่ยงไปมา..ต่อหน้าธารกำนัลมันยังกล้าหวีทกับผมอ่ะ55+ เริ่มเกมส์ใหม่ยังไม่ถึง 5 นาทีก็มีเรื่องครับ เด็กห้อง 11 มันเล่นแรงพุ่งเข้าชาร์จไทจากด้านหลัง เห็นชัด ๆ ว่ามันไม่ได้เล่นบอลแต่จงใจเล่นคน
“ไอ้สัตว์!! ขอโทษเพื่อนกูเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนลั่นสนามหลังจากกระชากคอเสื้อเด็กห้อง 11 จนกระดุมขาดออกมาจากคนของผม เงื้อหมัดขึ้นก็ถูกวินกับก้องดึงไว้ พี่โป้งที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนยืนขวางตรงกลางผมกับเด็กเหี้ยห้อง 11
“พิใจเย็น..ไอ้แคนมึงขอโทษไทซะ” พี่โป้งหันไปบอกไอ้ห้อง 11 ที่ชื่อแคน แต่ไอ้แคนมันหันไปยิ้มเหยียดกับเพื่อนมันสลับกับมองผมกวน ๆ ลอยหน้าลอยตาและเดินไปเตะบอลอีกสนามกับพวกเพื่อนมัน
“ไอ้เหี้ย!!” ผมสบถและดิ้นออกจากแขนเพื่อน แต่คนที่ถึงตัวไอ้แคนและเรียกเลือดจากมุมปากมันออกมาก่อนคือคนของผมเองครับ
“อย่าเสือก!! ไม่ใช่เรื่องของพวกมึง” ไทชี้หน้าเพื่อนไอ้แคนที่ตั้งท่าจะเข้ามาแจม พวกเรารีบเข้าไปล้อมและยืนกดดันเพื่อนมันและพยายามห้ามใจไม่ให้เข้าไปร่วมกระทืบซึ่งกันและกันไปด้วย ไทที่ได้เปรียบทั้งรูปร่างและกำลังก็เอาชนะเด็กเหี้ยได้ในหมัดที่สอง ส่งให้ไอ้แคนลงไปนอนพังพาบกับพื้นสนาม เดือดร้อนเพื่อนมันหิ้วกลับไป ผมเข้าไปดูความเสียหายของไท มีรอยเลือดซิบที่ข้อเท้า กางเกงเปื้อนนิดหน่อย หลังเป็นรอยแดงช้ำ น่าจะมาจากการล้มตอนถูกพุ่งเสียบ..อยากกระทืบแม่งอีกซักที!!
“ผมไม่เป็นไรครับ..ขอบใจนะก้อง วิน เจอกันพรุ่งนี้นะ” ไทเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนกับเสื้อ ลากผมออกมาและโบกมือลาเพื่อนไปด้วย
“พิ..เล่นบอลแบบนี้มันก็ต้องมีกระแทกกันบ้าง ทำไมพิต้องทำให้เป็นเรื่องด้วย?” ผมอ้าปากจะเถียงมัน..
“แต่ไอ้เหี้ยแคนมันไม่น่ารีบล้มนะ ไทยังไม่สะใจเลย” ..ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้วล่ะครับ555 ไทเดินคุยกับผมเรื่องไอ้แคนจนถึงรถ วันนี้ไทค้างครับ เพราะเอื้อมทายาที่หลังไม่ถึงก็เลยต้องวานผมให้ช่วยทา กลับถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปล้างตัวก่อนครับ ตาเห็นจะเป็นเรื่อง
เดินเนียนลงมาช่วยป้าอรในครัว ออดอ้อน ออเซาะ ฉอเลาะ ปะเหลาะแดกกันไปพอสมควรก็เดินออกมาให้อาหารปลา กินข้าวเย็นเสร็จก็ชวนตาสวดมนต์ ส่งตาเข้านอนและดอลลี่ตัวเองมาให้ไทนอนกอด จนเคลิ้มจะหลับถึงนึกขึ้นได้..ว่ายังไม่ได้ทายา ผมนี่ขี้ลืมมากเลยครับ
“ลุกมาก่อนจะทายาให้” ไทลุกมานั่ง ถอดเสื้อ หันหลังให้ผมละเลงยาที่หลัง แผลที่ข้อเท้าตกสะเก็ดแล้วครับ..เลือดไทแข็งตัวไวจริง ๆ หยิบสมุดบนโต๊ะมาพัดให้ยาแห้งเร็ว ๆ
“ใส่เสื้อ” ผมบอกและลุกเอายาไปเก็บ ค้นยาแก้อักเสบมาให้เด็กญี่ปุ่นกินและล้มตัวลงนอน ดึงไทเข้ามากอด หอมหน้าผากและเอาขาก่ายไว้ วันนี้มึงจงมาเป็นหมอนข้างของกู!! คิดในใจน่ะครับ555
ก่อนจะเคลิ้มหลับไปอีกครั้ง..ผมได้ยินเสียงกระซิบข้างหู..
“ขอบคุณครับ”..อมยิ้มตอบคำขอบคุณนั้น
กระชับอ้อมกอดให้แน่นและชวนเด็กญี่ปุ่นไปวิ่งเล่นในฝันของผมด้วยกัน..
อีกคืน
....................................
แถม
.
.
“มินท์..นอนรึยังลูก?” เสียงเคาะประตูดัง 2-3 ครั้ง ดังขึ้นหน้าประตูห้องสีขาว เด็กสาวดวงหน้าสดใส เปิดประตูต้อนรับผู้เป็นแม่ให้เข้ามาด้านใน
“ทำอะไรอยู่ลูก..แม่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” เด็กสาวยิ้มตอบและเดินไปปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเดินมานั่งบนเตียง หยิบหมอนใบโตมากอดรอฟังเรื่องที่แม่ตั้งใจจะมาคุยด้วย
“หนูคิดยังไงกับความรักของผู้ชายด้วยกันลูก..แม่อยากรู้” เด็กสาวสูบลมเข้าปาก กลอกตาไปมา ยิ้มหวานและตอบแม่ไปตามความรู้สึก
“มิ้นท์ว่าเค้าคงรักกันมากกว่าคู่ผู้หญิงกับผู้ชายค่ะ” แม่ยิ้มให้และถามต่อ..ว่าทำไม?
“หนูว่าเค้าคงต้องกล้า แล้วก็ต้องรักกันมาก ๆ ถึงจะเป็นคนรักกันได้..แล้วยิ่งรักแบบนี้คงต้องใช้ความกล้ามากกว่าคู่ผู้หญิงกับผู้ชายด้วย” อดพึมพำเบา ๆ ต่อไม่ได้ว่า ‘ขนาดหนูแอบชอบใครซักคนยังไม่กล้าบอกเค้าเลย’ แม่ยิ้มให้เด็กสาวอย่างอ่อนโยนและกล่าวต่อไป
“แล้วถ้าคนที่หนูรักเค้ามีความรักแบบนั้นบ้าง..หนูยังจะรักเค้ามั้ย?” เด็กสาวพยักหน้าเร็ว
“รักสิคะ..หนูรักอยู่แล้ว เค้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ” ได้ยินคำตอบแล้วผู้เป็นแม่ก็ใจชื้นขึ้น
“แล้ว..คนนั้นเป็นถ้าพี่ไทล่ะ หนูยังจะรักพี่ไทมั้ย?” รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเด็กสาวค่อย ๆ จางหายไป
“..กับใครคะ? พี่ไท..รักกับใครคะแม่?” เสียงที่เปล่งออกมาจากปากสีชมพูแผ่วเบา ดวงตาบ่งบอกความเจ็บปวด..ร้อนถึงผู้เป็นแม่ต้องดึงเข้ามากอด
“พี่พิ..พี่พิไงลูก” เด็กสาวฟังคำบอกเล่าของแม่ด้วยใจปวดร้าว แต่ในเมื่อคนที่รักทั้งคู่รักกัน..เด็กสาวก็ต้องดีใจและยินดีไปด้วย
“พี่ไทกลุ้มใจ ไม่สบายใจมานานแล้วนะมิ้นท์ เมื่อหัวค่ำพี่ไทจะเข้ามาคุยกับหนู แต่แม่บอกพี่ไทให้กลับไปก่อน..แม่จะคุยกับมิ้นท์เอง” ไหล่เล็กไหวสะท้าน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งไหลออกมาจากดวงตาที่เคยสดใส กลั้นใจตอบผู้เป็นแม่ว่า
“มิ้นท์รับได้อยู่แล้วค่ะแม่..พี่พิเป็นคนดี รับรองไม่ทำให้พี่ไทช้ำใจแน่ ๆ แล้วหนูก็รักพี่ไทกับพี่พิมาก..ไม่มีทางรังเกียจหรอก” ฝืนยิ้มให้แม่คลายกังวล
“แม่..ขอมินท์อยู่คนเดียวได้มั้ยคะ?” ..หลังจากเสียงประตูปิดลง เด็กสาวนอนคุดคู้ สองมือกอดตัวเอง น้ำตาหลั่งริน..แต่ไม่มีแม้หนึ่งเสียงสะอื้นไห้ ปลุกปลอบใจตัวเองและหยิบโทรศัพท์กดเบอร์คุ้นเคย..
“ปูนเหรอ..ชั้นมีเรื่องจะบอก..” คืนนั้น ภายใต้แผ่นฟ้ามืดมน หยิงสาวสองคนร่วมหลั่งน้ำตาให้กับความรักที่ไม่สมหวัง..
แต่กระนั้น..
ก็ยังยินดีที่ความรักของคนคู่หนึ่งได้เจิดแสงดั่งพระจันทร์บนฟ้าต่อไป
.................
ไว้จิจะมาไล่ตอบเม้นท์ทีหลังนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ