Begin [2]
ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น คงเพราะเมื่อวานได้เอาน้ำออก..นั่งมองแผ่นหลังเล็กที่ขยับเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บอกถึงการหลับสนิทของเจ้าตัว ลุกไปช้า ๆ เดินลงมาล้างหน้าล้างตา
“พี่..เมื่อวานชั้นไปส่งมันมาแล้ว แต่มันน่าสงสาร..ชั้นเลยพามันกลับมาด้วย พี่~~” เบื่อจะฟังคำแก้ตัวไอ้ช้าง หันหลังให้แล้วเดินดูนา ปีนี้เพลี้ยลงเยอะ ข้าวดูจะไม่ค่อยงาม สั่งคนงานให้ฉีดยาและคุมให้ดี
“เอ็งไม่ต้องตามมา” สั่งไอ้ช้างและตัดชายทุ่งไปดูไก่ชนที่พนันไว้เมื่อวาน
“พี่โยมาแต่เช้าเลยนะจ๊ะ รับเงินแล้วจะไปไหนรึเปล่า?” มองปลายนิ้วที่ลากช้า ๆ ตั้งแต่หัวไหล่ลงมาสอดจับมือ เหลือบไปส่งยิ้มและดึงมือออกมากอดอก สงสารอาพร้อมเจ้าของบ่อนจริง ๆ มีลูกสาวกับเค้าทั้งคนก็มาวิ่งไล่จับผู้ชายอยู่ได้..อันที่จริงน้องก็ไม่ได้ให้ท่าใครนอกจากผมนะ
“พ่อไปไหนล่ะชมพู่” ถามและสอดสายตามองหาอาพร้อม
“อยู่ในเรือนจ๊ะ..เข้าไปหามั้ยจ๊ะ” อกแข็งเบียดแขนทำให้น้องชายในกางเกงเริ่มมีปฏิกิริยา สบตานิ่ง
“ไว้พี่จะมาใหม่” หันหลังเดินกลับ..อยากก็อยาก แต่กลัวจะมีปัญหาทีหลัง อาพร้อมเป็นคนดี และแกก็เอ็นดูผมมาก ไม่อยากให้ต้องมาขัดใจกันเพราะเรื่องแบบนี้..ผู้หญิงน่ะผมหาเมื่อไหร่ก็ได้
“โยไปดูไอ้หนูนั่นซิ ทำไมยังไม่ลงมากินข้าว..นอนกันกี่โมงกี่ยามล่ะเมื่อคืน” มาถึงบ้านพ่อก็ถามถึงไอ้เด็กนั่นทันที พยักหน้ารับคำแล้วเดินเข้าครัว แต่ดันไปเจอไอ้แสนเข้า..มันพาลกินไม่ลง หมุนตัวเดินกลับ..
“โย..กินข้าวด้วยกันสิ” พระพายเรียกให้กินข้าว หยุดเดิน แต่หันหลังตอบพระพาย
“..ฉันจะไปตามไอ้เด็กนั่นลงมากินข้าว พี่กินไปก่อนเลย คนท้องมันต้องบำรุงตัวดี ๆ” พูดจบก็เดินออกมาจากครัว สายโด่งขนาดนี้ไอ้เด็กนั่นคงกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับกรุงเทพ เดินลงส้นเท้าให้มันรู้ว่ามีคนขึ้นไป ไม่อยากเคาะประตูห้องตัวเอง เปิดเข้าไปเห็นแผ่นหลังนั้นนิ่งอยู่ท่าเดิม เดินเข้าไปเขย่าปลุก..
“..เอ็งมีไข้นี่” จับมันพลิกตัวแล้วแตะมือที่หน้าผาก ดึงผ้าห่มคลุมให้และออกมาตามพระพายให้มาช่วยดู ไอ้ช้างรีบขึ้นมาดูแล้วกระซิบกระซาบ
“พี่มันระบมตีนพี่แน่เลย มันจะช้ำในตายรึเปล่าพี่?” ส่ายหน้าตอบและมองพระพายเช็ดตัวให้เด็กนั่น
“โยกับช้างช่วยดูน้องมันด้วยนะ คอยเช็ดตัวให้ไข้ลด..ไม่ต้องออกไปไหนกันนะ” พระพายสั่งและสอนไอ้ช้างให้เช็ดตัว คล้อยหลังพระพายผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้า
“พี่โยพี่พระพายเพิ่งขอให้เราช่วยกันดูมันนะ พี่จะปล่อยให้ชั้นทำคนเดียวเหรอ? ชั้นทำไม่เป็นนะพี่” มองมันด้วยหางตาและเดินออกจากห้อง
“โย” สะดุ้งสุดตัว หันไปเจอพระพายยืนแอบหลังประตู
“ถ้าพี่สบายดีพี่ก็อยากดูไอ้หนูนั่นเองนะโย แต่พี่ท้องอ่อน ๆ พี่ไม่อยากติดไข้จากน้องมัน กลัวลูกจะไม่แข็งแรงไปด้วย..โยช่วยดูแทนหน่อยไม่ได้เชียวเหรอ?” มองท้องพระพายและถอนหายใจยาว
“ไปพักเถอะ..” ตอบพระพายแล้วเดินกลับเข้าห้อง ถอดเสื้อโยนใส่หน้าไอ้ช้าง ลากเก้าอี้มานั่งเฝ้าไข้เป็นเพื่อนมัน มองคนป่วยหัวจรดเท้า สะดุดตาตรงข้อเท้ามัน..ที่มันล้มเมื่อวานตอนนี้บวมเขียว แต่ทายาแล้วนวดดี ๆ วันเดียวก็เดินได้ปกติ ไอ้เด็กนั่นลืมตาขึ้นมาพอดี
“..ผมเวียนหัว หิวข้าวด้วยครับพี่ช้าง” มันบอกไอ้ช้าง
“..มึงลงไปเอาข้าวกับยาให้มันหน่อยช้าง ขอยานวดจากพระพายมาด้วยนะ” บอกไอ้ช้างและหันไปมองหน้ามัน รอยเขียวที่ใต้ตาจางลงจนเกือบจะมองไม่เห็น รอยแดงที่มุมปากหายสนิทแล้ว
“ผมจะรีบหายแล้วรีบกลับครับ” สบตาและเหยียดยิ้ม เด็กนั่นก้มหน้าต่ำ ปล่อยให้ความเงียบอยู่เป็นเพื่อนจนกระทั่งไอ้ช้างเดินเข้ามา
“กินข้าวก่อนไอ้หนู” ไอ้ช้างยื่นจานข้าวและส่งยาให้มัน แต่ยื่นยานวดมาให้ผม ..ส่งสายตาไปที่ข้อเท้าไอ้เด็กนั่น ไอ้ช้างมองตามและพยักหน้าเข้าใจ
“เอายานี่นวดนะ..ไปทำอะไรมาล่ะ เขียวเลย” เด็กนั่นส่ายหน้าและก้มหน้าก้มตากินข้าว กินยาเสร็จมันก็ชันเข่า บีบยา และลงมือนวดข้อเท้า ผ้าห่มร่นขึ้นมาเห็นเรียวขา ใบหน้าเหยเกจากการบีบนวดข้อเท้า..ในท้องผมบิดเกลียว หน้าร้อนวูบวาบ ลุกพรวดพราดเดินออกจากห้อง
“พี่โยจะไปไหน?” ไม่ได้หันไปตอบไอ้ช้าง เข้าห้องน้ำวักน้ำใส่หน้าและเช็ดแรง ๆ ลดมือจับน้องชายที่รู้สึกกึ่ม ๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายกันแน่ เดินออกจากบ้านก็ถูกพ่อสั่งห้ามไม่ให้ไปไหน ไปหาพระพายก็เจอไอ้แสน สุดท้ายก็ต้องเดินกลับเข้าห้อง..ที่มีไอ้เด็กนั่นอยู่
“พี่ชั้นจะไปโทรศัพท์ในเมืองนะ ไอ้หนูมันให้โทรบอกที่บ้านมันน่ะพี่..เดี๋ยวชั้นจะรีบมา” มองผ่านไหล่ไอ้ช้างสบตากับเด็กนั่นก็ถอนหายใจ พยักหน้ารับรู้และมองตามหลังไอ้ช้าง เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ไอ้เด็กนั่นหลับไปแล้ว หยิบกระดาษขึ้นมาจรดปลายดินสอวาดแบบรถไถ เขียนส่วนประกอบ ลงรายละเอียดที่คิดว่ามันควรจะเอามาทำประโยชน์ได้ เงยหน้าขึ้นมามองเด็กนั่นและวางกระดาษกับดินสอ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในชามมาบิดและเช็ดตัวให้มัน เปลือกตาขยับยุกยิก เด็กนั่นพลิกตัวหนีผ้า ตามไปล้วงผ้าเช็ดในเสื้อตามหน้าอก หน้าท้อง เลยมาที่หลัง จากผ้าเปียกน้ำเย็น ๆ พอโดนตัวเด็กนั่นกลายเป็นผ้าอุ่นไปเลย ปลุกมันให้ลุกมากินยาอีกรอบ เดินลงมากินข้าวเช้า เข็นมอไซค์ออกมาล้าง นั่งลงขัดล้อรถก็เห็นดวงตาจับผิดของไอ้ช้างมองผ่านซี่ล้อรถ
“..ไอ้หนูมันอยู่กับใครพี่?” ..ขัดต่อและฉีดน้ำล้าง
“เที่ยงแล้วนะพี่..ไอ้หนูมันได้กินข้าวกินยารึยัง?” เดินเอาฟองน้ำกับถังมาเก็บ
“ชั้นเจอพวกไอ้ไม้มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้านเมื่อกี้” หันขวับไปมองหน้าบ้าน หยิบท่อนไม้ขนาดพอดีมือขึ้นมาถือ สาวเท้าไปที่รั้วบ้าน
“มันไปแล้วพี่ พอเห็นรถชั้นมันก็เผ่นแนบไปเลย..มันไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องในบ้านหรอกพี่” ไอ้ไม้มันมีเรื่องกับผมประจำ มันไม่ถูกชะตากับผม ผมเกลียดขี้หน้ามัน ต่อยตีกันเป็นเรื่องปกติ ทุกซอกทุกมุม หรือแม้แต่ในสวนผมจะมีไม้แบบนี้วางซ่อนเผื่อไว้..ไม้มันเจ็บน้อยกว่าปืน ไม่ตายแต่ก็เจ็บไม่น้อย..
“มึงไปหาข้าวกินไป พี่จะไปดูไอ้เด็กนั่นเอง” โยนไม้ไปในพงดอกเข็มแล้วคดข้าว ตักไข่เจียวโปะ หยิบยาแก้ไข้กับผ้าก็อซยืด 3 ม้วน ติดมือขึ้นไป ปลุกมันกินข้าว สีหน้ามันดีขึ้น เลิกผ้าห่มดึงขามันมาดู
“หยิบยามา..” มันมองผมก่อนจะหยิบหลอดยาส่งให้ บีบยาละเลงข้อเท้า นวดให้ยาซึม
“ผมชื่อ ‘เผ่า’ ปีนี้ก็ 17 แล้ว..” เงยหน้ามองและก้มไปพันผ้าก็อซให้แน่น เอื้อมไปหยิบหนังยางรัดแผงยาเข้ากับหลอดยา
“ลองเดินดู” ลุกขึ้นยืนและสั่งให้มันเดิน มันหย่อนเท้าลงพื้น และค่อย ๆ ยันเท้าเดินไปรอบห้อง
“ดีขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณครับพี่โย” เด็กเผ่ายิ้มขอบคุณและเดินเข้ามาหาผม
“ขอบคุณที่ช่วยผม..แล้วที่พี่กระทืบผมผมก็ไม่โกรธแล้วนะครับ” กอดอกมองรอยยิ้มเดียงสา อ่อนกว่าผมแค่ 3 ปี แต่ดูแล้วยังเหมือนเด็กเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม
“เอ็งกัดคอไปแล้วมันก็ถือว่าหายกัน..พักซะ ถ้าพรุ่งนี้ดีขึ้นจะให้ช้างไปส่งที่ บขส.” เดินผ่านมันมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม หยิบกระดาษที่วาดค้างไว้และลงมือเขียนต่อ เหลือบมองไอ้หนู สบตาที่จ้องผมอยู่ตลอด
“..ไม่อยากให้ที่บ้านเอ็งเป็นห่วง บ้านนี้เอ็งจะมาอีกเมื่อไหร่ก็มาเถอะ พี่ไม่ได้ว่าอะไร” มันยิ้มให้
“ผมชื่อเผ่า..พี่โย” ถอนหายใจและยิ้มตอบมัน ก้มหน้าลงมือขีดเขียนต่อไป..ไม่ได้สังเกตว่า
เผ่าหน้าแดงเพราะไข้ หรือเพราะ..อะไร
ตกเย็นไข้ก็ลดลง มันอ้อนให้ไอ้ช้างพามันลงไปเดินเล่นดูนา ดูสวนบ้าง ไอ้ช้างก็ตามใจพามันขี่หลังเดินดูจนทั่ว มันหันมามองหน้าผม
“พี่ช้างเมื่อยยัง?” ปากถามช้างแต่ตามองผม ไอ้ช้างยิ้มแล้วให้มันนั่งลงกับพื้นหญ้า
“อย่าหวังไอ้เผ่า หลังพี่โยเค้าเก็บไว้ให้สาว ๆ เท่านั้นโว้ย55” ไอ้ช้างยีหัวมันเล่น มันมองผมและอมยิ้ม
“อยากขี่หลังพี่โย พี่โยให้เผ่าขี่หน่อย” มันบอกผมและยื่นมือมาแตะขา มองตามัน..มันยิ้มจนตาหยี
“..ไอ้ช้าง” ไอ้ช้างระเบิดเสียงหัวเราะ เด็กเผ่าหุบยิ้มฉับ ผมจ้องตามันกลับ..คราวนี้มันไม่ยอมแพ้
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว..ให้เผ่าขี่หลังนะ” เบือนหน้าไปมองไอ้ช้าง ถอนหายใจ..
ผมแบกมันเข้าบ้านท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน ไอ้ช้างกับเด็กเผ่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พามันมาส่งที่โต๊ะกินข้าว นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับมัน
“เห็นว่าวานให้ช้างมันโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านเหรอไอ้หนู” พ่อถามมัน มันยิ้มและเล่าให้ฟังว่ามันเป็นลูกคนเดียว ผมมองปากสีชมพูและเลื่อนสายตาขึ้นไปมองสบตาสีดำ ดวงตาของเด็กเผ่าเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่ผมเผลอมอง บทสนทนาบนโต๊ะกินข้าวถูกผูกขาดด้วยเรื่องของเด็กเผ่า กินข้าวเย็นเสร็จผมกับไอ้ช้างนั่งรับลมอยู่หลังบ้าน
“พี่..พรุ่งนี้ไปส่งเผ่าด้วยกันมั้ย” ..ผมไม่ตอบอะไร เหม่อมองดวงไฟส่องแสงปลายนา ไอ้ช้างไม่ได้ถามซอกแซกอะไร เรานั่งกันอยู่เงียบ ๆ ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง หันไปเจอเด็กเผ่าเดินกะเผลกเข้ามาหา ไอ้ช้างลุกไปประคองน้องมันให้นั่งตรงกลาง
“ไม่บอกล่ะว่าจะมานั่งด้วย พี่จะได้ให้เราขี่หลัง” ช้างถามมัน มันยิ้มตอบและหันมามองผม ผมไม่ใช่คนคุยเก่งเลยได้แต่มองกันอยู่อย่างนั้น ไอ้ช้างขอตัวไปอาบน้ำนอนเพราะวันนี้มันเหนื่อยมาก ฝากเด็กเผ่าให้ผมพาเข้านอน พยักหน้ามองส่งช้างจนลับตา
“พี่โย..อายุเท่าไหร่ครับ” ผมตอบมันไปว่าปีนี้เต็ม 20 ..มันไม่ได้ชวนผมคุยต่อ ปลายจมูกรับกลิ่นของเย็นชื้นของฝน อีกไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะลงเม็ด ผมกับมันนั่งมองท้องฟ้าสีดำและปล่อยให้ลมเย็นกับความเงียบของค่ำคืนอยู่เป็นเพื่อน
“พี่โย” เผ่าเรียกผมให้หันไปมอง..มีคนเคยบอกว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ บอกทุกอย่างได้แทนคำพูด ตาสีดำมองผมอย่างค้นหา ในขณะที่เผ่าสะท้อนความรู้สึกของตัวเองผ่านดวงตาคู่นั้นเช่นกัน ผมลดลงมามองที่ริมฝีปาก ก้มหน้าลง เผ่าขยับเข้ามา ริมฝีปากผมจรดลงที่แก้มเนียน ผละออกมาสบตาเคลิ้มฝัน แตะริมฝีปากที่กลีบปากเล็กสีชมพูเบา ๆ
“เคยจูบมั้ย?” ถามเจ้าของริมฝีปาก..ไม่มีคำตอบกลับมา ไล่สายตาที่จับจ้องริมฝีปากขึ้นมาสบตา เผ่าหลับตาลงช้า ๆ และตอบเสียงเบา..ไม่เคย
ผมถอนหายใจ หลับตาอย่างคนที่ต้องตัดสินใจ..ผมไม่ควรปล่อยให้มันเลยเถิดมากกว่านี้
“..ไปอาบน้ำ แล้วนอนซะ พรุ่งนี้จะไปส่ง” ลุกขึ้นยืนและจับต้นแขนเผ่าให้ลุกตาม เผ่าลืมตามองผม ก่อนจะยิ้มบาง
“ผมเดินเองได้แล้วครับ พี่โยขึ้นไปก่อนเถอะ” สบตาเผ่านิ่งนาน ปล่อยแขน และเดินเข้าบ้าน อาบน้ำ จัดที่นอน มองไปนอกหน้าต่าง ฝนลงเม็ดพอดี..นั่งบนเตียงมองสายฝนสาดกระจกหน้าต่าง..เหงา เหงาจับใจ ถอนหายใจและเดินลงไปตามเผ่าให้ขึ้นมาอาบน้ำ เดินหาจนทั่วบ้านก็ไม่เจอ เข้าไปดูที่ห้องไอ้ช้างก็ไม่มี ช้างอาสาจะเดินไปหาหน้าบ้าน ผมจะหาด้านหลัง สั่งให้ช้างอย่าโหวกเหวกเสียงดัง กลัวคนในบ้านจะแตกตื่น ฝนยิ่งตกแรงเท่าไหร่ผมก็นึกห่วงมันขึ้นมากเท่านั้น ลุยฝนและพงหญ้าเข้าไปหาเจอปลายผ้าก็อซที่ผมพันให้เผ่า มองตามปลายผ้าที่หายเข้าไปในดงหญ้าแล้วรีบพุ่งตัวเข้าไป
“ไอ้ไม้!!” ไอ้ก้อนจับมือเผ่ามัดและกดไว้เหนือหัว ไอ้ไม้ปิดปากเผ่าไว้มือหนึ่ง อีกมือพยายามแก้กางเกง ผมโดดเข้าไปดึงไหล่ไอ้ไม้และชกหน้าเต็มแรง ไอ้ก้อนเห็นลุกพี่โดนชกมันก็ปล่อยเผ่าและหันมาหมาหมู่กับผม ไอ้ไม้สะบัดหน้าเรียกสติ ผมเสยผมด้านหน้าขึ้นและจ้องไอ้สองคนสลับกันไปมา
“รีบมาช่วยเมียเหรอวะ!” มองไอ้ไม้ที่แสยะยิ้ม ไอ้ก้อนหัวเราะรับคำลูกพี่มัน
“กูเห็นแล้วว่าพวกมึงจูบกัน..กูลองบ้างสิวะ555” ..เลือดขึ้นหน้า เข้าไปคว้าคอไอ้ไม้ โดนไอ้ก้อนเตะเข้าที่สีข้าง เซไปพิงต้นหูกวาง พอตั้งหลักได้ก็ถีบอกไอ้ก้อนและพุ่งเข้าชกปากไอ้ไม้ คร่อมไอ้ไม้ได้ก็ชกไม่ยั้ง..จนมันแน่นิ่งไป หันไปมองหาเผ่า..นั่งพับกับพื้น ในมือมีไม้ท่อนเขื่องถืออยู่ ไอ้ก้อนนอนเลือดไหลโชกอยู่ตรงหน้า
“..พี่โย” ผมเดินเข้าไปจับไม้ในมือเผ่าปาทิ้ง ดึงแขนให้ลุกขึ้น
“กลับกรุงเทพไปตอนนี้เลย ..เข้าบ้านไปอาบน้ำ เก็บเสื้อผ้าแล้วไปรอพี่ที่รถ ไป!!” สั่งเผ่าและลากไอ้ไม้ไปไว้ใต้ต้นหูกวาง แตะปลายนิ้วที่ปลายจมูกมัน..ยังมีลมร้อนออกมา เลื่อนมาแตะที่ข้อมือ..ชีพจรยังเต้นอยู่ แต่ไอ้ก้อน..ผมไม่แน่ใจว่ามันตายรึเปล่า..สัญญาณการมีชีวิตของมันริบหรี่เหลือเกิน รีบหันหลังกลับเข้าบ้านแล้วสั่งช้างให้พาไอ้สองคนนั่นไปหาหมอ ผมแบกไอ้ไม้ ช้างแบกไอ้ก้อนขึ้นรถและควักเงินให้ช้างติดตัวไป 3,000 เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา รีบเดินขึ้นเรือนไปตามเผ่า เข้าไปก็เจอมันนั่งน้ำตาไหล.. เสื้อผ้า ข้าวของมันก็ยังไม่ได้เก็บ
“พี่โย..” ผมแตะมือที่ไหล่ เผ่าสะดุ้ง หันมาเรียกผมและ..โผเข้ามากอด
“มันจะตายรึเปล่าพี่โย? เผ่าฆ่ามันรึเปล่า?..” ผมกอดเผ่าและลูบหลังปลอบ
“ไม่หรอก ช้างพาไปหาหมอแล้ว..มันไม่ตายหรอก” แรงสะอื้นจากตัวเผ่าทำให้ผมยิ่งกอดให้แน่นขึ้น เสื้อผมที่เกือบจะแห้งจากหยาดฝนกลับชื้นเพราะน้ำตาของเผ่าอีกครั้ง
“ผมไม่มีสิทธิ์กลับมาที่นี่อีกแล้วใช่มั้ยพี่โย?” เสียงอู้อี้ที่ไหล่ผมดังขึ้น ผมไม่สามารถหลอกเผ่าได้ว่า..เผ่าจะมาที่นี่ได้เมื่อเผ่าอยากมา เรื่องคราวนี้มันใหญ่นัก ผมทะเลาะกันประจำ..แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะหนักหนาเท่าครั้งนี้
“..อย่าติดต่อกลับมาอีก หายไปเลยได้ยิ่งดี” เผ่าผละจากไหล่ผมออกมามองหน้า ใบหน้าที่ซีดเซียวจากการตากฝน ดวงตาสีดำที่มีหยดน้ำตารื้นที่บอกความเสียใจ เสียดาย และความอาลัย ..ได้กลิ่นดิบที่ลอยมาแตะจมูกผม..กลิ่นของความใคร่
ข่มใจให้ผลักไหล่เล็กนั่นออก เก็บเสื้อผ้าและข้าวของเผ่าเข้ากระเป๋า คว้าแขนได้ก็ลากออกมา
“พี่โยเผ่าเจ็บ” หยุดเดินและหันกลับมามอง ใบหน้านิ่วแสดงถึงความเจ็บ ข้อเท้าที่ยังไม่หายดี..เงยหน้าขึ้นมาเจอหยดน้ำตาที่กำลังไหล.. ผมพ่ายแพ้ต่อความปั่นป่วนที่ก่อตัวอยู่ในจิตใจ ยอมแพ้ต่อจิตใต้สำนึกด้านดี..
ผมโยนกระเป๋าใบย่อมทิ้ง ดึงเผ่าเข้ามาประกบจูบ แทรกลิ้นเข้าไปควานหาลิ้นอีกฝ่าย ดูดความหวานจากเผ่าเหมือนคนหิวน้ำ ก้าวเท้าไปข้างหน้าดันเผ่าให้ติดผนังห้อง ดึงเสื้อพ้นตัว มองตากันอีกครั้ง..เผ่าหลับตาลงเหมือนยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น จูบทั่วหน้า กัดเบา ๆ ที่ซอกคอ ดูดแรงจนปลายลิ้นรับรสเค็มของเลือด..เลื่อนริมฝีปากลงมาจูบที่ยอดอก เผ่าแอ่นตัวรับปลายลิ้น ผมกัดตุ่มเล็กนั่นเต็มเขี้ยว
“อึ๊” ความแข็งขืนของร่างกายเผ่าเสียดสีกับต้นขาผม เลื่อนมือสอดเข้าไปจับเบา ๆ และเพิ่มความแรงขึ้น ปลายลิ้นลากไล้ขึ้นมาตวัดรัดลิ้นอีกฝ่าย ขยับข้อมือรัวเร็ว ความลื่นจากส่วนปลายบอกผมว่าเผ่าใกล้จะเสร็จเต็มทีแล้ว ทรุดตัวลงนั่งดึงกางเกงเผ่าลง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าแดงก่ำ หยิบหนังยางจากแผงยาขึ้นมารัดที่ส่วนปลาย
“ไม่เอานะพี่โย” จับหันหลัง ดึงหน้ามาจูบและสอดนิ้วกวาดน้ำลายออกมาจากปากเล็ก ปลายลิ้นที่เกี่ยวพันสัมผัสเข้ากับปลายนิ้ว..เสียวจนผมส่งเสียงคราง จรดปลายนิ้วเข้าไปสำรวจภายในช่องทางด้านหลัง..เพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว มืออีกข้างดึงรูดรั้งความแข็งขืนของเผ่า
“อื้อ..” ดึงนิ้วออกและแทนที่ด้วยแท่งร้อนของตัวเอง ซี้ด..ผละริมฝีปากออกมากัดที่ต้นคอ ดันเข้าไปจนสุดและขยับเข้าออกช้า ๆ ถ่มน้ำลายใส่อุ้งมือและทารอบโคนเพิ่มความหล่อลื่น
“อ่ะ..พี่โย” เสียงที่ขาด ๆ หาย ๆ ของเผ่ายิ่งทำให้ผมยิ่งอยาก.. จิกเล็บเข้าที่ยอดอก ฝ่ามือร้อนบีบความแข็งขืนของเผ่า ขยับเอวเข้าออกเร็วแรงจนเสียงดัง ปากกัดแผ่นหลังขาวจนเกิดรอยฟันไปทั่ว ดึงหนังยางที่รัดส่วนปลายของเผ่าออก ดันสะโพกเข้าสุดแรงและปลดปล่อยความสุขพร้อมกัน ดึงหน้ามาเลียน้ำตาที่ไหลเป็นทางตั้งแต่คางจนถึงแก้ม สอดลิ้นเข้าไปดูดความหวานและจูบเบาบางที่ริมฝีปากเนิ่นนาน ถอนจูบพร้อมกับดึงความร้อนออกมา
“อือ/อ๊ะ ซืด” ครางออกมาพร้อม ๆ กัน สบตากันทันที เผ่ายิ้มบาง ๆ และกอดผมแน่น
“ผมจะไม่ลืม..ไม่ลืมพี่โย” ..เท่านี้ก็พอแล้ว หยิบกระดาษชำระมาทำความสะอาดตรงนั้นและดูว่าเผ่าจะเดินไหวรึเปล่า เจ้าตัวยิ้มและยืนยันว่าไปไหว ก้มหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมให้กัน ทายานวดข้อเท้าและพันผ้าให้เผ่า สวมกอดช้า ๆ
“ดูแลตัวเองด้วย” ก้มกระซิบ เผ่าหลับตา..ผมจูบหน้าผากแล้วจูงมือเผ่าเดินออกมาจากห้อง
“พ่อ!!” พ่อยืนรออยู่หน้าห้อง น้ำตานองหน้า
“มึงจะมีเรื่องมีราวกี่ครั้งพ่อไม่เคยโกรธ ไม่เคยถือ..แต่มึงมาทำแบบนี้ ทำบัดสีแบบนี้ในบ้าน..พ่อรับไม่ไหวจริง ๆ ..” ผมเดินเข้าไปหาพ่อ คว้ามือพ่อมากุม
“พ่อ..โย..” พ่อขืนมือหนี ตรงเข้าไปหาเผ่า..เผ่าหน้าสะบัดไปตามแรงมือ เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังชัดในหัวผม วิ่งเข้าไปกันพ่อออกมา
“อย่าทำเผ่านะพ่อ..โยเริ่มเองไม่เกี่ยวกับน้อง” พ่อหันมาจับหน้าผม..ดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางตามอายุมองผม พ่อมองผม..
“โยเป็นผู้ชายนะลูก..เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาตั้งหลายคน บอกพ่อสิ..ว่ากับไอ้เด็กคนนั้น โยแค่อยากลอง..โยเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อนะโย..” ผมสบตาพ่อและหันไปมองเผ่าช้า ๆ ใช่..ผมรักกับผู้หญิงมาหลายคน แต่กับเผ่า..ผมมีความรู้สึก มีสติตอนรักเผ่า ผมรักเผ่าได้ทั้ง ๆ ที่เผ่าเป็นผู้ชาย..และตอนนี้ความรู้สึกของผม มันเริ่มจะมากกว่าเดิม..มากจนผมเองยังคิดไม่ถึง ถ้าเผ่าไปแล้ว..ผมคงไม่ได้เจอกันอีก ผมจะทนอยู่ได้อีกเหรอ จมดิ่งกับห้วงความคิดของตัวเอง ไม่ได้หันกลับไปตอบพ่อ
“กลับไปซะ” พ่อบอกเผ่าเสียงเบา เผ่าหลับตา..ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
“ขอบคุณที่ให้ผมได้อาศัย ผมขอโทษ..ครับ” เผ่ายกมือไหว้พ่อแล้วดึงกระเป๋าในมือผมไปถือ ยิ้มของเผ่ามันทำให้ผมปวดในอก..ขาผมมันขยับก้าวตามเผ่าไปอย่างห้ามไม่ได้
“มึงจะไปไหนโย ถ้ามึงก้าวขาตามมันไปอีกก้าวเดียว มึงกับพ่อขาดกัน!!” เผ่าหยุดหันมามอง..ผมมองพ่อสลับกับเผ่า ผมรักพ่อ..แต่ผมปล่อยเผ่าไปแบบนี้ไม่ได้
“โย!! ..ถ้ามึงตัดสินใจแบบนี้มึงก็ไม่ต้องกลับมาเหยียบบ้านนี้อีก ไอ้ลูกชั่ว!!” เสียงตะโกนของพ่อดังลั่นบ้าน ผมไม่ได้หันกลับไปมองพ่อ เผ่าส่ายหน้าห้ามผม เดินเข้าไปกุมมือเล็ก..คว้ากระเป๋าเผ่ามาถือเอง แล้วรีบเดินออกจากบ้าน พระพายวิ่งตามออกมาและห้ามผมไม่ให้ไป
“โยอย่าเพิ่งใจร้อนนะ พ่อเค้าแค่โมโห..เดี๋ยวก็หาย โยไปอยู่ที่เรือนหลังเล็กรอก่อนก็ได้..นะ” มองพี่สาวคนเดียว
“ฉันรู้จักพ่อดี..แล้วจะติดต่อมา ดูแลตัวเองกับหลานด้วยนะ..ฝากดูพ่อด้วยนะพี่” เสียงตึงตังที่ดังจากข้างหลัง..ผมรู้ว่าพ่อโมโหรุนแรงแค่ไหน ถ้าไม่รีบพาเผ่าออกมา..ทั้งพ่อและผมอาจจะไม่เหลือเยื่อใยต่อกันมากกว่านี้ ให้คนงานมาส่งที่ท่ารถ ตีตั๋วออกมาจากบ้าน เผ่ากระชับมือผมแน่น
“พี่โยอยู่กับเผ่านะ..อยู่ด้วยกันนะ” มองทิวทัศน์สองข้างทาง
ได้แต่หวังว่าสักวัน..
ผมคงมีโอกาสได้กลับมาหา..มาขอโทษพ่ออีกครั้ง
คงมีสักวัน
END.
...............................
แถม
.
.
.
“พี่โยเลิกกินเหล้าเถอะนะ..เผ่าขอร้อง” ผมนอนกอดพี่โยที่เมาไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง หลังจากที่ผมเป็นต้นเหตุให้พี่โยต้องออกจากบ้านมาอยู่กับผมที่นี่ กลางวันพี่โยทำงานแทนพ่อผม พ่อให้พี่โยช่วยคุมไซด์งานก่อสร้าง แม่ผมท่านแก่มากแล้ว พ่อกับแม่อายุห่างกันร่วม 10 ปี ด้วยความห่างของอายุทำให้ญาติพี่น้องของทั้งพ่อกับแม่ผมไม่เห็นด้วย ท่านหนีตามกัน..แต่ท่านก็อยู่ด้วยกันมา ดิ้นรนทำงาน จนเริ่มสบายก็วางแผนเพื่อจะมีผม พ่อกับแม่ผมท่านรู้ว่าผมไม่เคยชอบผู้หญิงและรับได้ ครั้งแรกที่พ่อแม่เห็นพี่โยท่านก็รู้ว่าผมกับพี่โยเป็นอะไรกัน พ่อฝากผมไว้กับพี่โย..พี่โยถึงได้ยอมอยู่ข้าง ๆ ผม
ผมรู้ว่าพี่โยเขียนจดหมายถึงพ่อ ..ไม่เคยมีจดหมายจากพ่อกลับมาถึงพี่โยแม้แต่ฉบับเดียว พี่โยเริ่มดื่มเหล้าทุกครั้งที่เครียด จดหมายฉบับแรกที่พี่โยได้รับคือจดหมายของพี่พระพาย หลังจากนั้นพี่โยก็ติดต่อกับพี่พระพายเรื่อยมา มีช่วงหนึ่งที่พี่โยบ่นว่าพี่พระพายหายไป ผมเลยให้ลองเขียนถึงพี่ช้างดู พี่ช้างเขียนมาบอกให้พี่โยทำใจเพราะพี่พระพายเสียแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวดีให้ได้ชื่นใจ..พี่โยได้หลานชาย ส่วนไอ้ไม้กับไอ้ก้อนยังไม่ตายทั้งคู่ มันไม่กล้าเอาเรื่องเพราะมันเข้าไปหาเรื่องในบ้านพี่โยเอง แต่ถัดจากนั้นมา 2 เดือน พี่โยกลับได้จดหมายจากพี่พระพายอีกครั้ง พี่โยยิ้มและกอดผมแน่น
“พ่อเขียนจดหมายมาหาพี่แล้ว..พ่อเขียนมาหาพี่แล้วเผ่า” ผมดีใจกับพี่โยมาก พ่อกับพี่พระพายลายมือคล้ายกันมาก พี่พระพายเขียนแบบไม่มีหัวแต่พ่อมี พี่โยกับพ่อในนามของพี่พระพายเขียนถึงกันเรื่อยมา พี่โยเคยเขียนไปถามว่าพ่อหายโกรธหรือยัง..พ่อพี่เค้ากลับไม่พูดถึงเลย ผมเคยถามว่าทำไมพี่โยไม่ยอมกลับบ้านไปเยี่ยมหลาน ไปหาพ่อบ้าง พี่โยตอบผมว่า ‘.. พี่เลือกเดินนออกมากับเผ่าทั้งที่พ่อห้ามแล้ว ตราบใดที่พี่ยังอยู่กับเผ่า พี่ก็ไม่มีหน้าจะกลับไปหาพ่อหรอก..’ เป็นคำตอบที่.. เจ็บปวดจริง ๆ
พี่โยดื่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ เจ็บจนเข้า รพ. ก็หลายครั้ง แต่พี่โยก็เลิกไม่ได้ ครั้งสุดท้าย คือ กระเพาะพี่โยทะลุ ให้เลือดก็อ้วกออก ถ่ายออกมาหมด จดหมายฉบับสุดท้าย..ผมเขียนแทนพี่โย
ผมรู้ครับว่าถึงผมจะใช้ประโยคขอร้องแบบเดิม ๆ ขอให้พี่โยเลิกเหล้า..พี่โยก็ทำให้ไม่ได้แล้ว อ้อมแขนแข็งแรงที่เคยปกป้องและดูแลผม..ไม่มีแรงแม้แต่จะโอบกอดผมกลับ มีเพียงสายตาที่ผมยังรับรู้ว่า..พี่โยรักผม
“ดูแลตัวเองนะ” พี่โยก็ยังเป็นพี่โย..คำสั่งสุดท้าย พี่โยก็ยังนึกถึงผม..ยกมือขึ้นมาปิดตา กอด..ให้พี่โยหลับสบาย
“เผ่ารักพี่โย..” กระซิบสุดท้ายส่งพี่โยเข้านอน..หลับให้สบาย
หลังจากงานศพพี่โย ผมส่งอัฐิให้พ่อพี่โย..ติดต่อผ่านพี่ช้าง พ่อพี่โยดูสบายดี และอโหสิให้ผมกับพี่โยแล้ว ผมกราบเท้าขอโทษแทนพี่โย และขอโทษที่ผมพรากพ่อกับลูกมานานหลายสิบปี ผมทำหน้าที่ในฐานะลูกและในฐานะหัวหน้าครอบครัวมาได้อย่างดี และเมื่อถึงเวลา..ผมก็จะได้เจอพี่โยอีกครั้ง
พี่โยจะยืนรอรับผมด้วยรอยยิ้ม..ผมจะกอด และบอกพี่โย..
‘เผ่ารักพี่โย’
หลับตาลง..หวังว่าวันนั้นจะมาถึง
ในอีกไม่ช้า..
................................
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
แนะนำได้นะคะ