“เนท คุณคิดยังไงกับการขายไข่” ซาเฟลผู้ช่วยของผม ถามผมขณะเราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน แน่นอนเธอมีน้ำหนึ่งลิตกับบุหรี่อีกสามตัวเป็นมื้อเที่ยงส่วนผมมีแซนวิชสุดหรูที่มีคาเวียร์ล้นออกมาจากแผ่นขนมปังโฮลวีส นั่นน่ะเป็นฝีมือการทำอาหารของโอลิเวอร์ เขาตื่นนอนก่อนผมและทำแซนวิชให้ผมสำหรับมื้อเที่ยงวันนี้
“อะไร? คุณว่าไงนะ ขายไข่งั้นเหรอ เอาล่ะบอกผมทีมันคืออะไร” เธอจ้องผมกลับเหมือนว่าผมโง่ซะเต็มประดา ผมผิดงั้นหรือไงที่ไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร
“คืองี้นะเนท มีประกาศบนหนังสือพิมพ์ว่าสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไม่สามารถมีลูกได้ พวกเขาพร้อมจะรับซื้อไข่ ใช่!อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ ไข่จริงๆจากผู้หญิงไงล่ะ” ผมคิดว่าตอนนี้ผมคงตาโตจนทะลักออกมา ผมยักไหล่และโบกมือให้เธอเล่าต่อแล้วนั่งดูดจัมบ้าจู๊ซตั้งใจฟังเธอ
“พวกเขาต้องการผู้หญิงผมสีบลอนด์ สูง ผิวขาว ผอมและดู เอ่อ ฉลาด ใช่! ฉันอาจจะไม่ได้ฉลาดมากพอแต่คิดว่าคงได้น่ะนะ” เธอยักไหล่เหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ
“เธอทำแบบนี้ทำไม ผมหมายถึงพวกเขาจ่ายคุณเท่าไหร่” ผมว่าคำถามหลังน่าจะเหมาะที่จะถามกับซาเฟลมากกว่า
“อาจจะแสนนึง” เธอหยิบบุหรี่มวนที่สี่ขึ้นมาจุดสูบ ผมว่าเธอคงลืมไปว่าเธอสูบมันไปแล้วสามมวนนั่นหมายถึงมันควรจะจบมื้อเที่ยงของเธอเพียงแค่นี้
“แสนนึง!! โอวพระเจ้า มันเยอะจริงๆ เธอจะเอาเงินไปทำอะไร” ผมใช้นิ้วปาดคาเวียร์ที่ไหลออกมาจนติดกล่องกระดาษแล้วส่งมันเข้าปาก ซาเฟลมองผมแหวะๆ แต่ใครจะสน ผมไม่มีทางปล่อยคาเวียร์เม็ดดำๆลงถังขยะแน่นอน มันน่าเสียดายออกถ้าเราจะทิ้งมันไป จะเรียกให้ถูกผมเสียดายมันทุกอย่างล่ะแม้กระทั้งไอศครีมที่ติดอยู่ข้างฝา ผมมักจะเลียมันจนเกลี้ยงก่อนจะตักไอศครีมในกล่อง
“ฉันรักเบอกิ้น(*)แต่ฉันรู้ฉันไม่มีวันได้มันหรอก จนกระทั่งฉันเห็นคุณใช้กระเป๋าหนังเคลลี่ มันดูสวยหรูมากๆ มันทำให้ฉันคลั่งและมันต้องเป็นของฉัน” เธอยิ้มเพ้อถึงกระเป๋าจนไม่ได้สังเกตว่ารอยยิ้มผมตอนนี้มันพิลึกแค่ไหน ‘ให้ตายสิผมมีผู้ช่วยที่ยอมขายไข่เพื่อแลกกับกระเป๋าใบเดียวเนี่ยนะ’ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินหรืออะไรก็ตามที่เธอต้องการมัน
“ผมไปทำงานล่ะซาเฟล คุณก็ด้วย” ผมไม่มีบทสนทนาใดๆจะพูดกับเธอ จะเรียกให้ถูกคือผมกลัวว่าจะหลุดปากโวยแม่สาวผมบลอนด์คนนี้เข้าให้
“โอเคเนท คุณคงไม่ว่าอะไรถ้าเราจะใช้กระเป๋าแบบเดียวกันนะ” ผมยิ้มให้เธอแล้วรีบเดินออกมาให้เร็วที่สุด
หลังจากเลิกงานผมโทรบอกโอลิเวอร์ว่าผมคงไปค้างกับเขาไม่ได้ เขาดูไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ต้องกลับไปทำงานต่อเพราะเมลิสาเรียกเขาไว้ หวังว่าเมลิสาคงไม่เหมือนซาเฟลผู้ช่วยของผมหรอกนะ ผมโบกแท็กซี่สีเหลืองคันโตให้ไปส่งที่อพาร์ทเม้นท์ ผมอยากกลับไปนอนบนที่นอนประจำของผม ผมคิดถึงห้องเล็กๆของผมจริงๆ
“เฮ้เนท คุณอ่านหน้าหกวันนี้หรือยัง” แม่ดาราหนังโป๊เกรดบีห้องใกล้ๆผมทักผมตอนที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้อง
“ไง...ยังเลยครับ วันนี้ผมยุ่งมาก” ผมจำชื่อเธอไม่ได้จริงๆและคงไม่สุภาพมากแน่ๆหากผมเรียกเธอว่าดาราหนังโป๊เกรดบี
“ฉันให้คุณยืมได้นะ พี่ชายคุณฮอตจริงๆ ฉันอยากรู้จักเขานะ” เธอขยิบตาให้ผมพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ให้ผม ผมรับมันไว้พร้อมบอกขอบคุณและขอโทษที่อยู่คุยกับเธอไม่ได้ ผมบอกเธอไปว่าผมเหนื่อยและอยากพักผ่อนมากๆ เธอยิ้มให้ผมและย้ำกับผมว่าเธออยากรู้จักแบรต
ผมวางหนังสือพิมพ์และกระเป๋าบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น จัดการถอดเสื้อผ้าจนเหลือแค่บ็อกเซอร์แอร์เมสลายสก็อตที่โอลิเวอร์ซื้อให้ แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที แต่ก็ต้องสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูแล้วปิดตาหลับต่อไป แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านแผดเสียงดังลั่น ผมยกมือขึ้นอุดหูปล่อยมันทิ้งไว้จนได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติที่ผมอัดไว้เอง
’ผมเนทครับ ตอนนี้ผมอาจจะไม่อยู่หรืออาจจะยุ่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ กรุณาทิ้งข้อความไว้นะครับ’ หลังเสียงสัญญาณ ผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดีตอบกลับมา
‘เฮ้ ฉันรู้ว่านายอยู่ ลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องให้ฉันเดี๋ยวนี้ นายควรจะได้รู้ว่าแฟนของนายทำอะไรกับฉันเอาไว้ เฮ้ๆ ไอ้บัดซบนั่นมันเล่นงานพี่ชายของนายรู้ไว้ซะ..’ แบรตกำลังจะพูดต่ออีกยาวเหยียดแต่ผมรีบยกหูโทรศัพท์แล้วบอกให้เขารอ ผมจะออกไปเปิดประตูให้เขาเข้ามา ผมหยิบเสื้อยืดสีขาวตัวเก่งที่มีรูตรงแขนสามหรือสี่รูจากตู้เสื้อผ้ามาใส่ แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูให้แบรตก่อนที่เขาจะพังมันภายในห้านาที—แน่นอนเขาเคยโมโหจนพังประตูห้องของผมสองครั้งตอนที่ผมอยู่ที่บ้านในอัพเปอร์อีสไซด์และหนึ่งครั้งที่อพาร์ทเม้นท์ของผม
ทันทีที่ผมเปิดประตู แบรตโยนหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกับที่แม่ดาราหนังโป๊เกรดบีห้องข้างๆให้ผมมา เขาลากผมมานั่งที่โซฟาและบอกให้ผมเปิดอ่านหน้าหก
‘แมคเทอเนอร์ผู้พี่สนุกกับเกมส์ล่ากวางสองปีที่แล้ว แม้ว่ามันจะผ่านมาแล้วสองปีแต่ดูเหมือนฉันจะทำให้ข่าวนี้ฮอตได้นะคะ มีใครอยากรู้ไหมคะว่าเกมส์ล่ากวางมันคืออะไร มันคือการที่ผู้ชายรวมตัวกันในป่าเพื่อตามล่าพวกผู้หญิงเปลือยกายล่อนจ้อนแล้วยิงเธอด้วยเพนต์บอล นั่นน่ะฟังดูไร้ศีลธรรมสุดๆเลยล่ะ’
แน่นอนคอลัมน์นี้ถูกเขียนโดยเคที่ มันมีรูปกรอบเล็กๆในนั้นมีผู้หญิงผมบลอนด์ยืนเรียงกันเป็นแถว สวมชุดชั้นในแสนเซกซี่กับหูกระต่ายเห่ยๆบนหัวของเธอ แต่ใครจะสนหูกระต่ายกันล่ะ หน้าอกคัพซีของพวกเธอต่างหากที่ใครๆก็สนกัน และยังมีชายหนุ่มอีกหกหรือเจ็ดคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นมีแบรตที่สวมชุดลายทหารถือปืนเพนต์บอลยืนจ้องนมสาวๆพวกนั้นอยู่
“โอวพระเจ้า นายทำมันจริงๆเหรอ” ผมจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ใช่! ฉันเลิกนิสัยอุบาทว์พวกนั้นไปแล้ว” เขานั่งกุมขมับ ตัวเขาสั่นเหมือนกำลังร้องไห้ ผมจึงลุกไปนั่งข้างๆเขาพร้อมกับกอดปลอบเขา
“ฉันกำลังไปได้ดีกับวิค แต่ข่าวนี่ มันทำให้เธอไม่คุยกับฉัน” เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกผม มันทำให้ผมรู้ว่าที่เขาสั่นน่ะเขาไม่ได้ร้องไห้ แต่นั่นเพราะเขากำลังโกรธมากกว่า
“นายเลิกนิสัยพวกนี้แล้ว เธอน่าจะให้อภัยนาย”
“มันไม่ง่ายน่ะสิ ฉันรู้เนทว่าใครเป็นคนส่งข่าวนี้ให้เคที่” เขากำลังจะบอกว่าโอลิเวอร์ใช่ไหม ไม่นะ!
“โอลิเวอร์ไงล่ะ หมอนั่นมันรู้ว่าฉันจ้างไอหนุ่มนั่นและปาปารัซซี่ให้ตามถ่ายรูปเขา มันรู้ว่าฉันอยากให้นายเลิกกับมัน แล้วมันก็รู้ด้วยว่าฉันเคยเล่นเกมส์พวกนั้น แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะมีรูปถ่ายพวกนั้น ให้ตายสิฉันจะทำยังไงกับมันดี” ตอนนี้ผมคิดว่าผมอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกว่าจะอยู่ข้างใครระหว่างแฟนและพี่ชาย ผมควรทำอย่างไรให้มันยุติลงนะ...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งานยุ่งมากเลยไม่ว่างพิมพ์เลย ขอโทษที่ให้รอนะคะ
(*)Birkin คือกระเป๋าของแอร์เมสที่ต้องรอคิวเป็นปีๆกว่าจะได้มันมาครอง
อิมเมจพี่แบรต wentworth miller
edit คำผิดขอบคุณมากคะนุ่น