อะกาลิโก..รักไร้กาล
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อะกาลิโก..รักไร้กาล  (อ่าน 64615 ครั้ง)

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ว้ายยยย :z13: ทะลวงแทงคุณเมศอย่างรุนแรงอ่ะ555+
ปล.คุณเมศขู่เฉย ๆ ใช่มั้ยคะ  ไม่ดองจริง ๆ ใช่มั้ยคะ  :monkeysad:


อย่าจิ้มเเรง สะเทือนนนใจ ฮ่าๆๆ
ไม่ได้ขู่ค่ะ ฮ่าๆๆๆ หมดสตอคเมื่อไหร่ก็ดองเมื่อนั้นล่ะค่ะ เเหะๆ

คนผลุบโผล่ มาเมื่อไหร่จำไม่ได้เหมือนกันเเฮะ  Coming soonเเล้วกันค่ะ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
^
^
จิ้มบวกซ้ำระยะประชิด และขอไปหายาดมก่อนนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2010 19:41:22 โดย JJHJJH »

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
บางครั้ง ความอดทน ก็ต้องมีจุด peak สุดของมัน

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
รูมเมตคนใหม่ใครเอ่ย ใช่คนๆ นั้นหรือเปล่า

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอน ๕.๒


โลกของไตติลาหลังตื่นนอนเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยทุกอย่างกลับเข้าสู่ความปรกติราวกับฝันร้ายได้ผ่านไปแล้ว ไตติลาไปทำงานตามกำหนดเดิม เมื่อใกล้เวลาเลิกงาน กลับเห็นชายหน้าตาคุ้นเคยคนหนึ่งยืนยิ้มเผล่อยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์

“ ครับ รับอะไรดีครับคุณคริษฐ์”

“รับไตติลา” คนตอบ ตอบยิ้มๆ ไตติลาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะตอบ

“ผมมีขา ไปไหนมาไหนเองได้นะครับ”

“พี่รู้ แต่สุดสัปดาห์ทั้งที พาคนแก่ไปเปิดหูเปิดตาหน่อยไม่ได้หรือ?”

“ผมนึกว่าคุณคริษฐ์จะอยากให้ผมแวะไปเฉยๆเสียอีก”

“พี่อยากรู้ว่าเรายังรุ่นๆเดียวกันหรือเปล่า น่า...พาคนแก่ไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อยจะเป็นไร”

“ไหนคุณคริษฐ์บอกว่าอยากรู้ว่าเรายังรุ่นเดียวกันไหม แต่ทำไมถึงเรียกตัวเองว่าคนแก่” ไตติลาทำท่าคิด เมื่อเห็นคริษฐ์ทำท่ารบเร้ามากๆเข้า

“แต่ช่วงนี้ผม.....”

“พี่จะออกให้”

“จริงหรือคะ” เพื่อนสาวพอได้ยินถึงอะไรเข้าทำนองของฟรีละจะหูดีขึ้นมาทันที

“ไปเลยติลาไปเลย ไปเที่ยวเสียมั่ง เดี๋ยวเราบอกเจ๊ให้” เพื่อนสาวรีบคะยั้นคะยอ

“ไอ้แหม่ม” ไตติลาหันไปทำเสียงหนักกับเพื่อน

“ไปกับพี่หน่อยไม่ได้หรือ?” คริษฐ์ถามด้วยเสียงนุ่มนวลที่ติดจะเว้าวอนนั้น ไตติลาเม้มปากอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอก

“ก็ได้ครับ แต่ต้องรอเก็บร้านก่อนนะครับ” ใบหน้าของคริษฐ์ยิ้มกว้างขวาง แต่คงไม่เท่าหน้าของแหม่มที่ยิ้มหน้าบานกว่าใครเพื่อน


ไตติลานึกต่อว่าความใจอ่อนของตัวเอง ขณะนั่งรถไปตามทางสายยาวผ่านตัวเมืองที่แข่งกันสูงเสียดท้องฟ้า แสงสีแห่งความคึกคักของเมืองค่อยผ่านสายตาไตติลาไป ขณะที่เจ้าของรถยนต์คันนี้กำลังฮัมเพลงหงุงหงิงในคออย่างอารมณ์ดีนัก

“นี่ ไปไหนกันดีล่ะ?”

“คุณคริษฐ์ชอบแบบไหนล่ะครับ?” คนถามจงใจถาม

“แบบไหน แล้วแต่ติลาแล้วกัน เอาที่ติลาไปบ่อยๆก็ได้ พี่อยากเห็น” คนพูด หันมามอง ดวงตาหลังกรอบแว่นเป็นประกายขบขัน อย่างที่ไตติลาเห็นแล้วนึกหมั่นไส้นัก

“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นไปที่นี่” ไตติลาหยิบ GPS ที่สู้อุตส่าห์เก็บหอบรอบริบมาหลายเดือนกว่าจะได้มา กดที่หมายปลายทางก่อนจะจัดการติดเครื่องที่กระจกแสดงเส้นทางให้ดูไว้ตรงหน้าคนขับให้มองสะดวก

คริษฐ์และไตติลามาถึงบริเวณอีกฟากหนึ่งของเมือง ส่วนที่อาจเรียกได้ว่ามีสีสันที่สุด แสงไฟจากริมทางไม่ใช่แค่ไฟถนนสีเหลืองส้ม แต่เป็นแสงไฟจากป้ายนีออนต่างๆ เสียงเพลงอึกทึกดังลอดเข้ามาให้ได้ยินแผ่วเบา สองข้างทางมีหนุ่มสาวแต่งกายกันเต็มที่เพื่อแสวงหาความสำราญยามค่ำคืน เมื่อหาที่จอดรถแล้วเรียบร้อย ไตติลาเดินนำไปเงียบๆ เดินไปตามบาทวิถีที่คลาคล่ำด้วยผู้คน ตามร้านรวงต่างๆปักธงสีรุ้งแทบจะทุกร้าน คลับที่ไตติลาพาไปนั้นก็เช่นกัน เป็นคลับขนาดกลางที่มีระเบียงยื่นออกมาด้านนอก หนุ่มสาวออกมายืนคุยกัน บ้างก็สูบบุหรี่ การ์ดของคลับเป็นชายตัวใหญ่ยักษ์ เมื่อทั้งคู่แสดงใบขับขี่ให้ดูจึงติดสายรัดข้อมือเข้าไปชำระเงิน

“ผมชอบแบบนี้คุณคริษฐ์ละชอบแบบไหน?”ไตติลาพูดพลางยิ้มร้ายๆ อย่างที่คริษฐ์เห็นแล้วรู้สึกเอ็นดู

“พี่ชอบตามติลา” คริษฐ์ยิ้มหยิบโหย่งอย่างหนุ่มเจ้าชู้ ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มสำหรับสองคน

เสียงเพลงดังอึกทึก บนฟลอเต้นรำมีผู้คนมากมายกำลังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงอันเร้าใจ ไตติลาพาเดินไปที่มุมหนึ่งของร้าน ถอดฮู้ดดี้ตัวโปรดออกพาดกันฉากกั้นทางเดิน ก่อนจะช่วยจับเสื้อตัวนอกของคริษฐ์ให้ชายหนุ่มถอดมันออก เพราะถึงข้างนอกจะหนาว แต่พอเข้าไม่แคล้วจะเต้นระบำกันจนเหงื่อตก ที่มุมหนึ่งของร้าน ชายหนุ่มร่างกายงดงามด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์กำลังดี เต้นอยู่บนยกพื้นด้วยเครื่องแต่งกายที่ค่อยๆน้อยชิ้นลงเรื่อยๆ ตามเวลา ไตติลาสะกิดให้คริษฐ์มองตาม ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะบอกที่ริมหู

“สู้พี่ไม่ได้หรอก”

“ทะลึ่ง”

“อ้าวก็เราทะลึ่งก่อน โอ๊ะ ระวัง!!” มือแข็งแรงนั้นรีบคว้าแขนไตติลาไว้ ไม่ให้ล้มไปเพราะ ชายคนหนึ่งท่าทางเมามายเดินมาชนเข้าอย่างแรง

“เจ็บหรือเปล่า?” แม้เสียงจะดังจนหูอื้อ แต่ไตติลาจับกระแสความอาทรได้ เขาส่ายหน้าเบาๆ

“มาเถอะ ไปเต้นกัน” ไตติลายอมให้ มือแข็งแรงคู่นั้น จับจูงไปที่ฟลอร์

“มาที่นี้บ่อยหรือ?” คริษฐ์ตะโกนถามขณะขยับไปตามจังหวะเสียงเพลง คนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาและไตติลาอยู่ใกล้กันมาก มากเสียงจนสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อน

“สองสามเดือนมาสักหนครับ ต้องว่างก่อนถึงจะมา” ไตติลาตอบ ขณะชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนกำลังพยายามจะเดินฝ่าฝูงชนผ่านหน้าไตติลาออกไป มือนวลบางของไตติลา ยกขึ้นลูบแผ่นหลังชายหนุ่มสองคนนั้นที่เดินผ่านไปอย่างฉาบฉวย

“แน๊ เป็นเด็กเป็นเล็ก” คริษฐ์ส่งเสียคล้ายจะดุ

“ก็ไม่เด็กไม่เล็กแล้วล่ะครับ” ไตติลาตอบหน้าตาเฉย

ความสนุกผ่านไปรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาคลับปิด แสงไฟที่เคยมีเพียงสลัวกลับสว่างจ้า บางคนที่ปาร์ตี้หนักไปหน่อย ก็เดินซวนเซแทบล้มทั้งยืนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ไตติลาออกมายืนรอคริษฐ์ที่เดินไปหยิบเสื้อมาให้ที่หน้าประตูด้วยอารมณ์ครื้นเครงที่ยังตกค้างเช่นเดียวกันแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไป พลันสายตาเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งที่เคยคุ้นใจอย่างยิ่ง ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลานั้นไตติลายังจำได้แม่นนัก ครั้งนี้เขามากับคนใหม่ อย่างที่เรียกได้ว่าไม่เคยซ้ำหน้า ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นจากคู่ใหม่ของเขา หลังจากแสดงความรักกันพอแล้ว มองมาที่ไตติลาเพียงครู่เดียวราวกับเขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ที่ตรงนั้น ไตติลาอดไม่ได้ ที่จะรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกของคนโดนทิ้งอย่างไร้ค่าที่สุด

“ติลา” เสียงเรียกนั้นช่วยให้ไตติลาหลุดจากห้วงภวังค์นั้น ไตติลาละสายตาจากร่างนั้นโดยทันที

“ผู้ชายคนนั้น ทำไมหรือ?” อีกครั้งที่ไตติลาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคริษฐ์ โดยไม่รู้ว่าดวงตาของตนแดงก่ำอย่างคนร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยสักหยด คริษฐ์คลี่เสื้อตัวเก่งให้ไตติลาสวม ก่อนจะกอดร่างนั้นไว้นิ่งๆ ริมฝีปากอุ่นๆ สัมผัสลงแถมขมับ แผ่วผิวจนไตติลาแทบไม่รู้สึก

“ ติลา พี่อยู่ตรงนี้” อ้อมกอดนั้นกระชับแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย ราวกับจะยืนยันเป็นดั่งคำมั่น ไตติลาแหงนมองท้องฟ้าที่ไร้ดาว แสงไฟจากเครื่องบินกระพริบอยู่ไกลๆ ก่อนจะหายไป น่าเสียดาย...ไตติลาคิด เสียดาย ที่แสงไฟเครื่องบินไม่ใช่ดาวตก แม้จะหลอกตนเองก็ยังไม่ใช่ หัวใจไตติลาจึงไม่อาจอธิษฐาน

“ติลาเคยมีแฟนไหม?” คริษฐ์ถามขึ้นเมื่อเดินทางกลับถึงบ้านหลังจากคนทั้งคู่ต่างเงียบงัน จมอยู่ในคิดตนเองอยู่พักใหญ่ คนถามพลางมองตรงไปข้างหน้า ทว่าคนตอบเงียบอยู่นาน

“หือม์ ว่ายังไง?”

“ถ้าคนรักแปลว่าทั้งสองคนต้องรักกัน ผมคงจะไม่เคยหรอกครับคุณคริษฐ์”

“ทำไมล่ะ?”

“บางทีผมอาจอาภัพ พอมีคนมารัก ผมกลับไม่เคยนึกรักเขา พอผมเกิดรักใครขึ้นมา เขาก็ไม่เคยรักผมตอบ” คนพูดพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“พี่เคยมีคนที่รัก รักมากจนต่างสูญเสียตัวตน แล้วสุดท้ายก็เลยต้องจบ ทั้งที่ยังรัก” คริษฐ์พูดขึ้นแล้วหัวเราะ ทว่าไม่ใช่เสียงหัวเราะอย่างตลกขบขัน หากเป็นหัวเราะ ราวกับเย้ยหยัน

“ตลกดีว่าไหม ไอ้ความรักเนี่ย”

คนฟังไม่ได้ตอบความ ไตติลาเพียงแต่รับฟังเงียบๆ ยกน้ำเกลือแร่กลิ่นบลูเบอร์รี่ขึ้นจิบ กลิ่นบลูเบอร์รี่นั้นจึงลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ คริษฐ์มองริมฝีปากบางนั้น ที่มักเม้มเข้าเสมอทั้งในยามใช้ความคิด หรือขัดใจ อาจเพราะฤทธิ์ความเมามายของแอลกอฮอล์ยังคงตกค้าง ชายหนุ่มร่างสูงชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะลองลิ้มชิมรสนั้น คริษฐ์รับรสบลูเบอร์รี่อ่อนจางนั้นได้ถนัดเมื่อเจ้าของริมฝีปากบางยอมให้เขาชิมรสหวานบนริมฝีปากคู่นั้น คริษฐ์ค่อนข้างแน่ใจด้วยสัญชาติญาณ....กลิ่นของมันช่างคล้าย ….คล้ายกับ ‘เซ็กส์’






ไตติลาได้ยินเสียง เสียงหอบหายใจของคนสองคน เสียงโอดครวญจากความรัญจวนใจของความต้องการทางกายที่กำลังได้รับการตอบสนอง ไตติลารู้สึกได้ ถึงความรุ่มร้อนทางผิวเนื้อที่มากมายมหาศาล รู้สึกได้ถึงความรู้สึกวาบหวามเร่าร้อนของร่างกายที่ตอบสนองกัน เช่นเดียวกับที่คริษฐ์เห็น เขาเห็นเรือนกายโปร่งบาง ที่กระดูกสันหลังบนแผ่นหลังเนียนสะอาดบิดโค้งเมื่อมาถึงจุดที่ร่างกายเริ่มจะทนไม่ไหวจากการกระทำของเขา คริษฐ์สัมผัสได้ถึงความเรียบลื่นของผิวกายที่อาบไล้ด้วยเหงื่อทั้งที่ข้างนอกอากาศหนาวเย็น และแน่นอนที่สุด เขาพอใจอย่างยิ่งกับสัมผัสอุ่นร้อนที่โอบล้อมเขาไว้พร้อมกับการบีบแน่นผ่อนคลายสลับกันนั้นที่พากระแสไฟฟ้าอ่อนๆวิ่งผ่านร่างเขาไป

“นั่น...ใครหรือ?” ไตติลาถามถึงรูปที่หัวเตียงของใครคนหนึ่งที่ไม่ใช่เจ้าของห้อง ข้างๆกันนั้นเป็นของขวัญที่คริษฐ์มอบให้เขา เป็นเพียงปากกาหลากสีที่ขณะนี้ไม่มีใครสนใจ ดวงตาคู่สวยนั้นปรือปรอยด้วยเงาของแรงปรารถนาบดบัง

“นิทเช..” เสียงแหบพร่านั้นตอบ นับแต่นี้ไร้บทสนทนาอีกสืบไป



๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕



หวังว่าจะยังไม่เบื่อกันนะคะ 

จริง NCกะเมศเนี่ยไปกันไม่ค่อยได้ รู้สึกมันเขียนย๊ากยาก  ได้เท่านี้ล่ะค่ะ  ฮือๆๆ

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะคะ :กอด1:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
และแล้ว...

ทั้งๆที่ทุกอย่างก้อดูดี.. แต่เรากลับปวดใจ

ไม่เคยเบื่อเรื่องนี้เลยค่ะ ถึงแม้ว่าอ่านทีไรจะรู้สึกเศร้าๆ(เกือบทุกครั้ง) ก็ตาม  o7

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ตอนนี้โดยรวมค่อนข้างโอเค มีติดๆประโยคนึงอ่านแล้วมันแปลกๆในความรู้สึก
“พี่เคยมีคนที่รัก รักมากจนต่างสูญเสียตัวตน แล้วสุดท้ายก็เลยต้องจบ ทั้งที่ยังรัก”

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
เฮ้อ อ่านแล้วสงสารทั้งคู่เลยนะเนี่ย
แล้วคริษฐ์จะบิกตาลิเรื่องรูปว่ายังไงถ้าติลาถามต่ออ่ะนะ

NC ใสๆแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะคุณเมศ
เหมาะกับเรื่องดี อิิอิ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ไปผับกันอยู่ดีดี...ทำไมมาจบที่เตียงได้ล่ะคะติ  :serius2: เพราะรู้สึกแย่กับผู้ชายหน้าผับคนนั้น...เลยมีอะไรกับคริษฐ์เหรอ
คุณเมศไม่ต้องเขียน nc คู่นี้บ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ 
มันปวดตับ!!!!!
คุณดิสอยู่ไหนเนี่ย...ติลาติดบ่วงคุณคริษฐ์ไปแล้วนะ  :m15:
ภาวนาให้นิชเชรู้แล้วก็กลับมาหาคริษฐ์เหมือนเดิม  สาธุ๊...
+1ขอบคุณค่ะคุณเมศ
 :pig4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แต่งได้ประมาณนี้ก็โอเคนะคะ อ่านแล้วแอบหยิวๆๆ  :-[
ว่าแต่เพราะบรรยากาศผสมกับอารมณ์เป็นตัวพาไปจนเกินเลยใช่ปะเนี่ยติลา  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Ramika

  • บุคคลทั่วไป
สยิววววววววววววววววววว

จะจบแบบไหนอีกเนี่ย

ทำไมมีปวดท้องด้วย

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอน ๖.๑
   
   ไตติลามองนาฬิกาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเผ่นขึ้นห้องเรียนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้  เพราะเผลองีบหลับไปตอนรุ่งเช้า หลังจากทำรายงานมาทั้งคืน เขายกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นส่องดูเงาสะท้อนเพียงสลัวๆนั้น พลางจัดแต่งทรงผมให้ดูเป็นเสียบ้าง ก่อนแทรกกายเข้าไปในห้องเรียน เลือกเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุด ฉิวเฉียดกับที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้อง  ไตติลายกมือถือขึ้นแอบส่องอีกครั้ง ใต้กรอบแว่นหนา มีรอยเคล้าใต้ดวงตาเด่นชัด  ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือนั้น หย่อนลงไปนอนนิ่งที่ก้นกระเป๋า กางสมุดเตรียมตัวเรียน

“เฮ้ นาย ชื่ออะไรน่ะ” ไตติลาไม่ได้สนใจเสียงถามนั้น สมาธิทั้งหมด มุ่งตรงไปที่ริมฝีปากอาจารย์ ราวกับจะจดจำทุกคำ  จนคนถามต้องถามใหม่พลางสะกิด

“ขอโทษนะ นายช่วยเงียบก่อนได้ไหม” ไตติลาพูดโดยไม่มองหน้าใครนอกจากอาจารย์ จดบันทึกข้อความต่างๆลงไปในสมุดด้วยปากกาหลากสี ด้วยตัวอักษรเล็กจิ๋ว

“นายชื่ออะไรหรือ?” เพื่อร่วมชั้นขี้สงสัยยังคงเซ้าซี้ต่อไป ไตติลาหันขวับไปมองหน้า ดวงตารั้นๆนั้น มองไปที่คนถามอย่างชักไม่สบอารมณ์

“ผมชื่อ สมิท ไทสัน” ดวงหน้ามีเค้าเอเชีย กระซิบกระซาบพร้อมรอยยิ้ม ไตติลามองจ้องนิ่งๆอยู่อึดใจ ก่อนจะเมินเสียเฉยๆ   เช้านี้นอกจากตื่นสายจนรีบร้อนลนลานไปหมดแบบนี้แล้ว ยังต้องเจอเพื่อนร่วมชั้นขี้สงสัยอีก ช่างเป็นเช้าที่ไม่น่าสบอารมณ์เอาเสียเลย

“อ้าว เมินเสียแล้ว” ไตติลาไม่สนใจ จนใกล้เวลาเลิกชั้นเรียน อาจารย์แบ่งกลุ่มสั่งงาน ไตติลาจับพลัดจับผลูมาอยู่กลุ่มเดียวกันกับ ‘มนุษย์ขี้สงสัย’ เข้าจนได้

“คุณจะไม่บอกชื่อผมจริงๆหรือ?”

“ไตติลา คุณจะเรียกอะไรก็ตามใจคุณ มิสเตอร์ไทสัน”  กริ่งหมดชั่วโมงเรียนดังขึ้น ทุกคนต่างเก็บของเตรียมแยกย้าย  ไตติลาก็เช่นกัน เขาก้มลงหยิบกระเป๋าที่วางไว้กับพื้นขึ้นสะพาย

“เดี๋ยวสิ ขอผมถามการบ้านหน่อย เมื่อครู่อาจารย์สั่งการบ้านตรงไหนบ้างนะ”  ไตติลาที่กำลังพยายามยัดสมุดของตนใส่กระเป๋าจึงชะงัก  สูดหายใจเข้าลึกอย่างพยายามข่มใจ ก่อนจะหยิบสมุดออกมาอีกครั้ง แล้วบอกการบ้านตามที่จดไว้

“ขอบใจ.....ไตติลา” ทว่าคำขอบใจไปไม่ถึงเจ้าของชื่อที่เดินหายไปท่ามกลางกลุ่มนักเรียนที่คุยกันจ๊อกแจ๊กไปทั่วทั้งทางเดิน

๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖

   ไตติลาคลานขึ้นนอนบนเตียง พลางดูสมุดเล่มเล็กบางในมือ สมุดคู่ชีพที่จดว่า วันไหนเมื่อไหร่เขาจะต้องไปทำอะไรที่ไหนบ้าง  ก่อนจะหยิบสมุดเลคเชอร์ของเมื่อเช้าขึ้นมาพลิกๆดูอย่างเกียจคล้าน  พลางขยับตัวไปมาอยู่บนที่นอนนุ่ม เพื่อหยิบเท็กบุกซ์เล่มหนาที่นอนทับอยู่ออกมา มือนวลๆนั้นพลิกหน้ากระดาษ พลางเท้าคาง พยายามเพ่งมองตัวหนังสืออย่างตั้งใจ ดูเหมือนว่าคืนนี้หัวสมองของไตติลาจะไม่รับอะไรเข้าหัวหัวอีกต่อไปแล้ว เจ้าของตัวจึงเปลี่ยนเป็นกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแทน ก่อนจะตกตุ๊บลงมาข้างเตียง  ทำให้เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้

“แย่ล่ะ” ไตติลารีบคว้าหนังสือเรียนกับสมุดมาเทียบกัน

“บอกหน้าผิด” ไตติลาคลำหาโทรศัพท์มือถือของตนบนเตียง ก่อนจะโทรหาเพื่อนสาว

“ไอ้แหม่ม แกรู้จักคนชื่อ สมิท ๆมั่งไหม ที่โรงเรียนอ่ะ”

“บอกมาแค่นี้จะรู้ไหมเนี่ย”ปลายสายหัวเราะเสียงใส เพื่อนสาวเรียนโรงเรียนเดียวกัน เพียงแต่คนละสาขากันเท่านั้น บางวิชาจึงเรียนด้วยกัน

“ชื่อ สมิทๆ ไทสันอะไรไม่รู้ คือบอกการบ้านไปผิดหน้าอ่ะ ไม่สนิทด้วยไม่มีเบอร์อีก การบ้านจะส่งอยู่วันมะรืนแล้ว”

“เฮ้ยเอาจริง!” เพื่อนสาวทำเสียงสูง

“จริง”ไตติลาทำเสียงล้อเลียน

“แกรู้ไหมคนนี้นะ...”

“หยุดเลย ไม่เอาไม่ฟัง  แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”

“ไม่ ฉันจะเล่า”

“อะเล่าไป เดี๋ยวอาบน้ำ เล่าเสร็จแล้วค่อยโทรกลับมาใหม่” เพื่อนสาวโวยวายมาตามสายจนไตติลาต้องรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหู

“แกรู้ไหมคนนี้เขาฮอตจะตาย เห็นเขาลือกันว่าเป็นพวกเด็กอัจฉริยะไรเงี้ย  แต่ไม่ยอมเรียนพาสชั้น  หน้าตาก็ดี หัวก็ดีอีก”

“แล้วไง” ไตติลาทำเสียงปลงๆ

“ไม่สนใจจะเลี้ยงเด็กหรอ  หรือว่าเลี้ยงผู้ใหญ่ดีกว่า” ไตติลาขำที่เพื่อนสาวแซว เพราะรู้เจตนา

“อยากรู้อะไร ว่ามาเลยดีกว่า?”

“กะคุณคริษฐ์ ไปถึงไหนแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ต่อไปจะถึงไหนอีก” มือนวลนั้นยกแตะใบหูตนเองอย่างเขินๆโดยไม่รู้ตัว

“ก็ไม่ถึงไหน” ไตติลาตอบรวมๆ เพราะอันที่จริงแล้ว ได้ข้ามบางขั้นไปแล้ว 

“ตกลงจะไม่ยอมบอกใช่ไหมว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”

“อย่าเซ้าซี้เลยไอ้แหม่ม” เพื่อนสาวตัดพ้ออีกเล็กน้อยก่อนจะวางสาย   ไตติลาปีนกลับขึ้นไปบนเตียงพลางนอนหงายมองเพดานอย่างครุ่นคิด   แล้วไตติลาคนนี้ เป็นอะไรกับคุณคริษฐ์??


๖๖๖๖ TBC๖๖๖๖

ลืมมาอัพ ไม่มีใครตามเลย ฮ่าๆๆ

ปล.คนที่คุณก็รู้ว่าใคร กำลังจะมามามามามา~ (/*เเอคโค่ด้วย)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
^
^
จิ้มค่า

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
มีคนมาเพิ่มอีกคนแล้ว น่าลุ้น~~

เป็นกำลังใจให้นะคะ

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
ก็กำลังตามอยู่นี่ไง แต่ช่วงนี้ก็งานยุ่งนิดหน่อย 2 - 3 วันถึงได้เข้ามาอ่านที

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
แค่คุณคริษฐ์ดิชั้นก็ปวดตับพออยู่แล้ว...คุณเมศจะเอา สมิท  ไทสัน มาเพิ่มอีกทำไมคะ  :z3:
คุณดิสของดิชั้นกำลังจะมา...แต่ติถูกคุณคริษฐ์งาบไปแล้ว   ทำใจไม่ได้กันเลยทีเดียว :m15:
จะรอการมาของคุณดิสในตอนที่  6.2  ค่ะคุณเมศศศศ (แอ็คโค่ตาม555+)
 :o12:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
สงสัยดวงความรักติลา กำลังพุ่งหรืออย่างไง แบบดาวศุกร์ทับราหูหรือเปล่า  :laugh:
แต่อย่างไงเราก็ยังรอ "เขาคนนั้น"

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
เบาบางดุจอากาศธาตุ คิดถึงผู้ชายนายคริษฐ์ จัง

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอบ ๖.๒


ไตติลาเผลอหลับไปจนสะดุ้งตื่นอีกทีตอนนาฬิกาบอกเวลาดึกสงัด  ไม่มีเสียงรบกวนใดๆจากภายนอก แต่จะให้กลับไปนอนอีกที ก็คงจะไม่หลับแล้ว ไตติลาจึงตัดสินใจลุกขึ้นอ่านหนังสือทำการบ้านอย่างจริงจัง เขาเอื้อมมือไปหรี่ฮีตเตอร์ที่ปลายเตียงลงอีกนิด  ก่อนจะคว้าแก้วน้ำใบโปรด เดินไปตามทางเดินในบ้านที่ปูด้วยพรมหยาบๆด้วยเท้าเปล่า ห้องติดๆกันนี้รูมเมตของเขาน่าจะหลับไปแล้ว หรืออาจจะยังไม่กลับจากการท่องราตรี  แต่ไตติลาคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า  เจ้าของห้องเดินฝ่าความมืดตรงทางเดินออกไป ครัวที่เปิดโล่งติดกับห้องนั่งเล่น กลับมีแสงไฟสลัว  เขานึกแปลกใจพลางรินน้ำใส่แก้ว ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เพราะสายตาเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเป็นเพียงเงาตะคุ่มที่ยืนอยู่ข้างเคาท์เตอร์ครัว พลางดึงกระดาษเช็ดมืดออกจากม้วน

“โอ้ย ตกใจหมด!” ไตติลาที่ตกใจจนกระโดดเหยง แก้วน้ำไปทางหนึ่ง เจ้าของไปเสียอีกทางหนึ่ง ยกมือลูบอกตะครุบสร้อยพระแทบไม่ทัน

“คุณ เป็นคนไทยหรือ?” ร่างในเงามืดนั้นถาม ไตติลาพอเริ่มได้สติจึงถามบ้าง

“คุณนั่นแหล่ะ คนหรือผี?”  หรือโจร...?  สายตาเริ่มกวาดหาอาวุธใกล้มือ  แก้วน้ำ? กา? กล่องคอนเฟลค  อะไรก็ได้ใกล้ๆมือ

“ตอบคำถามผมก่อนสิครับ?” น้ำเสียงน้ำ กล่าวอย่างขบขันโดยไม่ปิดบัง

“คุณนั่นแหล่ะ ตอบผมก่อน” ไตติลายังทำเสียงแข็ง

“แต่ผมถามก่อน”

“เอางี้ งั้นเราจะเริ่มจากที่ผมเปิดไฟก่อน” ไตติลาพยายามหาทางหนีทีไล่  ที่ใต้สวิทช์ไฟมีถังใส่ข้าวสาร  ยกทั้งถังเห็นจะไม่ไหว เอาฝาก็ยังดี

“ตกลง”ร่างเงานั้นตอบ น้ำเสียงยังเจือแววขบขันเช่นเคย  มือนวลนั้นคลำเจอสวิทช์ไฟ เช่นเดียวกับที่อีกมือคลำเจอฝาถังข้าวสาร

   แสงไฟจากหลอดนีออนกระพริบอยู่สองสามครั้งก่อนจะส่องสว่าง  ร่างนั้นไม่เป็นเพียงเงาอีกต่อไป กลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตารกรุงรังด้วยหนวดเครา  ที่กำลังยิ้มยิงฟันผ่านเหล่าหนวดเครายุ่งเหยิงนั้น จมูกโด่งเป็นสัน รับกับคิ้วเข้ม  และดวงตายาวที่มีขนตายาวรายล้อม แต่ที่ไตติลาเห็นแล้วขัดตาที่สุด เห็นจะเป็นประกายตายิบๆที่มองตรงมาอย่างมีเค้าล้อเลียน

“ผมเป็นคนไทยแล้วยังไง? คุณต้องการอะไร?” ไตติลาถามด้วยใจระทึก พลางจับของในมือไว้แน่น

“ก่อนอื่น ผมต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่ขโมย เพราะฉะนั้นช่วยวาง อะไรก็ตามที่คุณถืออยู่ลงก่อนเถอะครับ” เจ้าของห้องมองของในมือตัวเองที่จับยึดไว้แน่น

“คุณเป็นเพื่อนรูมเมตผมหรอ?”คนโดนถามทำท่าคิด

“ว่าไงล่ะ ฮวนหรือวิตโตลิโอ้”

“วิตโตลิโอ้ก็ได้เอา”

“เขาคงกลับดึก” ไตติลายอมวางของในมือกลับคืนที่ ก่อนจะเดินมาดึงกระดาษเช็ดมือ ใกล้ๆกับที่ชายหนุ่มผู้มีหนวดเครายืนอยู่   ดวงตาคม มองใบหน้าคมสันนั้นครู่หนึ่ง อดนึกชังริมฝีปากหยักสวยที่กำลังยิ้มขันไม่ได้

“ยิ้มอะไร!” ไตติลาดึงกระดาษเช็ดมือออกจากม้วนอย่างแค้นๆ ก่อนจะเช็ดน้ำที่หกบนพื้นแล้วโยนทิ้งไป

“เปล่าครับ เอ้า” คนตอบยังคงยิ้มกว้างขวาง ทั้งที่บอกว่าเปล่า   ก่อนจะช่วยส่งทิชชูอีกชิ้นให้   คนรับมองหน้าก่อนทีหนึ่ง จึงรับไป

“นี่คุณ ชื่ออะไรหรือ?” ไตติลาเงยหน้าขึ้นมองคนถาม เมื่อสบดวงตายิบๆนั้นแล้วมันรู้สึกคันๆอย่างบอกไม่ถูก เจ้าของห้องเม้มปากอย่างที่มักทำโดยไม่รู้ตัว

“นี่คุณ   ไม่ใช่พวกแขกอาหรับมาหลอกจับตัวเรียกค่าไถ่แน่นะ” คนฟังระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหว

“นี่คุณเบาหน่อย เดี๋ยวห้องอื่นด่า!”

“ทำไมหรือ? ผมพูดภาษาไทยไม่ชัดอย่างนั้นเชียว  หรือว่าหน้าตาผมมันน่ากลัวนัก”  ไตติลาหลุบสายตาลงต่ำ

“ก็ทำนองนั้นละ”

“ตกลง คุณจะไม่ยอมบอกจริงๆหรือว่าคุณชื่ออะไร”

“ทำไมผมต้องบอก เราไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย”

“ก็ผมกำลังพยายามรู้จักอยู่นี่ไง  เอาน่า เร็วเข้า คุณชื่ออะไร?” คนอยากรู้พยายามทั้งปลุกทั้งปลอบ

“แล้วทำไมคุณไม่ยอมบอกชื่อตัวเองก่อน” คนโดนต้อนยังไม่ยอมจนมุม

“เอาเถอะๆ ผมชื่อกษิดิส คราวนี้จะบอกชื่อคุณได้หรือยัง?” ไตติลาเม้มปาก ดวงตาคมนั้นมองอย่างขัดใจ

“ไตติลา” เจ้าของชื่อบอกเสียงเบา

“เอาใหม่อีกทีสิ?”

“ไตติลา”  คราวนี้เจ้าของชื่อแทบจะตะโกน

“คนอะไรชื่อไต” ไตติลามองตาเขียว

“ครับๆ” กษิดิสรีบหุบยิ้ม

“ไตติลา แปลว่าเทพเจ้า แม่เรียกติลา เพราะไม่อยากเรียกไต” ทั้งคู่เงียบเสียงลงต่างไม่รู้จะพูดสิ่งใดต่อไป

“คุณอยู่ที่นี่หรือ?” คนโดนถามกรอกตาเบาๆ

“แน่สิ” ไตติลาตอบก่อนจะรินน้ำใส่แก้ว แล้วดื่ม แสร้งทำเป็นไม่รับรู้ กับสายตากระยิบๆ ที่จับจ้องตลอดเวลานั้น

“คุณก็รอไปแล้วกัน” ไตติลารินน้ำใส่แก้วอีกครั้ง ก่อนจะเดินถือแก้วนั้นออกจากห้องครัวกลับไปที่ห้องตน โดยตบสวิทช์ไฟในครัวให้มืดลงอย่างนึกอยากเอาคืน 

“เดี๋ยวคุณ!…” ไตติลาไม่ฟัง เดินกลับเข้าห้องตัวเอง แถมล๊อคประตูอีกต่างหาก

“ราตรีสวัสดิ์ครับ ไตติลา” น้ำเสียงในความมืดนั้นกล่าว แผ่วเบาราวกับจะฝากฝังราตรีกาล

   ไตติลาวางแก้วน้ำลงที่พรมข้างเตียง ก่อนจะกระโดดลงไปนอนคุลมโปงแทน ทั้งที่ความตั้งใจเดิมจะทำการบ้านอ่านหนังสือ   เวลาค่อยล่วงเลยผ่านไปช้าๆ อย่างไม่ทันรู้ตัว และไม่มีใครห้ามได้   ไม่นาน ไตติลาผู้มีแผนจะขยัน ก็กลับสู่ห้วงนิททราโดยไม่รู้ตัว

๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖

   เช้าวันนี้ ไตติลาต้องวิ่งไปทำงานอาสาสมัครที่โรงพยาบาลก่อนจะบึ่งรถกลับมาเรียนในชั้นเรียนตอนเย็น แล้วเลิกเรียนตอนค่ำๆ แค่นี้ก็หมดเรี่ยวแรงเรียบร้อยแล้ว  ไตติลาขับรถกลับมาบ้านหาววอดใหญ่ ก่อนจะล๊อครถตัวเองให้เรียบร้อย  ข้อความถูกส่งเข้ามาที่มือถือ  เมื่อไตติลาอ่านจบก็อดยิ้มไม่ได้ กับคำเชิญชวนให้ไปทานอาหารเย็นที่อพาร์ทเม้นต์พี

“มาแล้วหรือ? นึกว่าจะใช้เวลากว่านี้อีกสักหน่อย” คริษฐ์เปิดประตูรับหนุ่มน้อยไตติลาเข้าไปภายในห้อง

“ไข่เจียวหมูสับ” กลิ่นมันหอมยวนยั่วเสียขนาดนี้ ไตติลาจึงไม่พลาด

“ทานเลยสิ  หิวใช่ไหมล่ะ” ไตติลายิ้มรับ คริษฐ์จัดแจงตักข้าวใส่จานให้

“น้ำท่วมหรือครับ?”

“หือม์”

“แฉะมาเลย” คนถามเอาส้อมเขี่ยข้าวในจาน

“เอาน่า มือใหม่หัดทำ” ไตติลาตัดชิมกับข้าวสองสามอย่างดู

“ปรกติซื้อเค้ากินตลอด ก็อย่างนี้” ไตติลาว่า พลางหัวเราะ

“แน่ะ แซวพี่”

“แล้วเป็นยังไงบ้าง งานอาสาสมัครวันนี้?”

“ก็เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกดี”

“อืม ดีแล้ว” 

   ไตติลารวบรวมจานชามต่างๆไปล้างที่อ่างหลังจัดการอาหารของกุ๊กมือใหม่แล้วเรียบร้อย  ทั้งที่เจ้าของห้องตอนแรกอิดออดไม่ยอมให้ทำ แต่สุดท้าย ไตติลาก็ได้ล้างจานจนได้  เพราะบ้านไตติลานั้น คนทำไม่ต้องเก็บ คนเก็บคือคนช่วยกิน จะได้แบ่งกันรับผิดชอบ  ไตติลาล้างขัดถูจานชามต่างๆไป แขนแข็งแรงคู่หนึ่งเข้ามาโอบเอวจากด้านหลัง  แผ่นหลังไตติลาอิงซบกับอก

“ล้างจานลำบากนะครับ” ไตติลาเงยหน้าขึ้นถามเจ้าของวงแขน

“ล้างเร็วๆสิ”

“ทำไมหรือครับ?” คริษฐ์ไม่ตอบ วงแขนนั้นคลายออก ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของร่างที่เคยอยู่ในวงแขนแทน

“คุณคริษฐ์! ห....หาอะไรครับ!” ไตติลาแทบจะทิ้งจาน ดวงหน้าซับสีเรื่อๆชวนมอง

“แล้วติลาว่าพี่หาอะไร”  ลมหายใจอุ่นๆนั้นเป่ารดที่ริวหูจนไตติลาต้องย่นคอ

“ไม่รู้สิครับ”

“ไม่อยากเดาหรือ?”

“คงไม่ต้องมั้งครับ” ไตติลาตอน ก่อนจะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตดื่มด่ำรุ่มร้อนจากใครอีกคนอย่างลืมตน


TBC


มาเเว้วววว  :กอด1:

heavenly**yaoi

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วๆ รีบมาต่อนะคะ^^
รูมเมทคนใหม่ ทำไมดูน่ากลัว ชอบติลาแน่ๆเลย
ติลา กับ คริษฐ์ หวานกันจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
รูมเมทใหม่มาแรงอีกแล้วสิ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
โคตรน่ากลัว!!

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ในที่สุด คนที่รออยู่เขาก็ปรากฎตัวออกมาแล้ว  เกือบโดนฝาถังข้าวสารแล้วนะนั่น  :laugh:
แต่ว่า ติลา อะ ไงงั้นอะ ไปกินข้าวแล้วแถมขนมหวานด้วยเหรอ  :z3:

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
รับข้าวเหนียวถั่วดำเพิ่ม ไหมคะ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
คุณดิส...ประหนึ่งพระเอกจากแดนภารตะ  คุณเมศทำไมให้คุณดิสของดิชั้นโทรมแบบนี้ล่ะคะ
แล้วเมื่อไหร่จะเลิกอยู่ในช่วงข้าวใหม่  ปลามัน  ดิชั้นเครียดดดดดด
+1ขอบคุณค่ะคุณเมศ
 :pig4:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อืม... หวานกันน่าดู คุณคริษฐ์ก็อ้อนซะ  :z1:
คุณดิสนี่ ใช่คนเดียวกับคนที่แอบๆซุ่มในห้องในหลายๆตอนก่อนหน้านี้รึป่าว
รอลุ้นต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
 

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอน ๗.๑

   ไตติลาอ่านสูตรอาหารไทยที่อยากกินสำหรับอาทิตย์นี้  เป็นสูตรที่ดัดแปลงมาแล้ว พอให้สามารถหาวัตถุดิบให้สามารถหาได้ง่ายและไม่แพงนัก  ไตติลาปริ้นท์สูตรออกมาแปะสก๊อตเทปใส วันนี้พอมีเวลาอยู่บ้าง วัตถุดิบต่างๆก็พร้อมแล้ว ไตติลาเดินเท้าเปล่าไปตามพื้นพรมในอพาร์ทเม้นต์  เขาชอบความรู้สึกของผืนพรมใต้ฝ่าเท้าจนบางที เขายังหยุดยืนจิกเล็บลงไป ไตติลาแอบหัวเราะกับความชอบส่วนตัวของตัวเองที่ออกจะเพี้ยนๆสักหน่อย  ไตติลา ติดแผ่นสูตรไว้กับตู้เก็บจานในครัว ก่อนจะเปิดตู้หาอุปกรณ์ เมื่อปิดประตูตู้อีกครั้ง  ชายหนุ่มหนวดเครารุงรังยืนยิ้มรออยู่แล้ว

“คุณนี่ชอบทำให้ผมตกใจ” ไตติลามองค้อน ก่อนจะอ่านทวนสูตรที่แปะไว้อีกครั้ง

“นี่คุณยังไม่เจอเพื่อนคุณอีกหรือ?”

“ยังเลย ผมยังติดต่อเขาไม่ได้”คนตอบว่า พลางอ่านกระดาษที่ไตติลาติดไว้บ้าง

“หือม์ แกงส้ม ชะอมไข่”กษิดิสพูดพลางใช้มือจับปลายเคราของตัวเองเล่น

“ช่วยหยิบกระทะให้หน่อยครับ ตู้ใต้ซิงค์”  กษิดิสดูมือนวลที่ตีไข่หั่นผักคล่องแคล่ว อย่างนึกชม เมื่อไข่ข้างนึงสุกแล้ว  ไตติลาก็ใช้ตาหลิวพลิกกลับด้าน พร้อมกับส่งเสียง ‘ฮึบ’ เบาๆ  กษิดิสหัวเราะ หนุ่มน้อยไตติลา ช่างน่ารักเสียจริง

“ขำอีก ไม่เคยเห็นคนทอดไข่หรือ?”

“คุณกับวิตโตลิโอ้เป็นแฟนกันหรอ? ผมไม่ได้อยากจะซอกแซกอะไรหรอก เพียงแต่อยากรู้ว่าเขาให้กุญแจคุณไว้หรือยังไง?” จากสิ่งที่ไตติลารู้และ พอจะรู้คือ รูมเมตคนใหม่นี้เป็นนักศึกษาเหมือนกัน แต่เรียนกันคนละที่ และไตติลามองออกว่า เป็นคนประเภทขั้วเดียวกัน

“ก็ประมาณนั้นละครับ แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนเขา”กษิดิสรีบออกตัว

“มาผมช่วย” ชายหนุ่มผู้มีหนวดเครารุงรัง รับไข่ชะอมชุบไข่วางบนเขียง หันอย่างประณีต ก่อนจะอดใจไม่ไหว ใช้นิ้วคีบชิ้นหนึ่งเตรียมจะใส่ปาก จึงถูกมือนวลตีเข้าให้

“รอหน่อยสิคุณ” ไตติลาหันกลับไปง่วนอยู่กับหม้ออีกครั้ง กษิดิสทึ่งกับเหล่าพริกแกง มะขามที่บรรจุใส่กระปุกมาแล้วเรียบร้อย ลดขั้นตอนยุ่งยากมากมายไปได้

“คุณทานเปรี้ยวมากไหม?” ไตติลาถาม

“คุณจะทำเผื่อผมหรือ?”

“แน่สิ”ไตติลาใส่เครื่องปรุง ต่างๆก่อนจะชิมรส ก่อนจะขมวดคิ้วเอียงศีรษะ 

“ไหนชิมหน่อย” ไตติลาตักส่งให้ ด้วยความสูงที่ต่างกันมือแข็งแรงนั้นจึงต้องกุมมือนวลไว้ให้นิ่ง ก่อนจะชิมรสชาติน้ำแกง  ตอนนี้น้ำแกงรสชาติคล้ายยาถ่ายหน่อยๆ

“เติมน้ำมะขามเปียกอีกหน่อยสิ  อ้าว...ขอโทษทีเถอะครับ”มือนั้นรีบปล่อยออกทว่าดวงตาคมนั้นเป็นประกายระยับจนไตติลาเผลอเม้มปากโดยไม่รู้ตัว

“ไม่เป็นไรครับ” ไตติลาบอกเบาๆ ก่อนจะพยายามปรุงรสต่อไป แต่ก็ยังไม่เข้าท่า

“คุณหุงข้าวได้ไหม?”

“ไหนหม้อ?” ไตติลาหันไปมองคนถาม ก่อนจะชี้ไปที่โถแก้วทนความร้อน ที่ใส่ข้าวสารรอไว้แล้ว

“ซาวข้าวแล้วเอาเข้าไมโครเวฟได้เลยครับ”

“เอาเข้าอะไรนะ?” ไตติลาถอนหายใจ

“ผมว่าเราเปลี่ยนกันดีกว่า” กษิดิสหัวเราะ ก่อนจะรับหน้าที่ปรุงรสเอง ไม่นานเขาก็ยื่นปลายช้อนให้ไตติลา

“ผมจับเองดีกว่า”

“ชิมเถอะน่าว่าใช้ได้หรือยัง คุณจะได้เริ่มเก็บครัว” หนุ่มน้อยถอนหายใจทีหนึ่งแล้วชิมรส ก่อนจะอุทาน

“คุณนี่เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”

“แน่ซี..ผมทำได้ยิ่งกว่านี้อีก” คนพูดยักคิ้วให้เสียทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปแอบทึ่งกับตู้เล็กๆที่มีไฟ เห็นโถแก้วหมุนอยู่ข้างใน



   ในที่สุดไตติลาก็ได้กินอาหารจานโปรด โดยไม่ลืมแบ่งไว้ให้คริษฐ์ส่วนหนึ่ง  แถมวันนี้มีเพื่อนร่วมมื้ออาหาร  แม้หนวดเคราจะรกตาไปบ้าง แต่ช่วยให้มื้ออาหารนี้ลุล่วงลงได้ โดยไม่เงียบเหงาเท่าใดนัก  ไตติลาลอบมองนิ้วเรียวยาว เล็บตัดสั้นดูมีระเบียบจับช้อนส้อม ชายหนุ่มยอมรับว่า เป็นมือที่สวยดี ไม่ได้อ่อนบางอย่างมือของผู้หญิง แต่เป็นมือที่แลดูแข็งแรง สมส่วน  ไตติลาย้อนกลับมามองหน้าพลางจินตนาการไปว่า ถ้าหน้าตาไร้หนวดเคราเสียแล้วจะเป็นอย่างไรหนอ

“เวลาคุณกินอะไร ไม่ลำบากหรอครับ” ไตติลาทำมือวนๆรอบริมฝีปาก

“ก็ไม่นะ”

“คุณเชื่อไหม ตอนผมเด็กๆ ผมอยากมีหนวดมีเคราอย่างนี้บ้างผมว่ามันเท่ห์ดี   แต่รอแล้วรอเล่ามันก็ไม่มี   พอโตมาเลยถูกลงโทษ กลายเป็นว่า หนวดไม่ค่อยยอมจะขึ้น” คนฟังหัวเราะ

“ผมต้องโกนทุกเช้า จนชักขี้เกียจเลยไว้มันเสียยาวๆ นานๆจะโกนหนวดสักที”

“นานนี่เมื่อไหร่ครับ” ไตติลาถามอย่างชักตื่นเต้น

“เอ....ไม่รู้เหมือนกัน”

“เปล่า ผมหมายถึงว่า เมื่อไหร่คุณจะโกนออก” คนถูกถามเกาหนวด ทำหน้ายุ่งยากใจ

“อืม ไม่รู้สิ”   


๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗

   ไตติลาออกจากอพาร์ทเม้นต์ของตัวเองเมื่อบ่ายคล้อย โดยทิ้งชายหนุ่มผู้มีหนวดเครารุงรังไว้ในห้อง ก่อนจะออกไปทำงานและกลับอีกทีเมื่อฟ้ามืดไปนานแล้ว คริษฐ์ยังคงต้อนรับเขาอย่างดีด้วยอ้อมกอดอุ่นๆนั้นเช่นเคย อากาศภายนอก ไม่ได้หนาวเย็นเยือกอีกต่อไปแล้ว ด้วยเพราะฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือนอย่างเงียบเชียบแล้ว  หลังพายุแห่งห้วงอารมณ์ร้อนแรงของคนทั้งคู่ได้ผ่านไปแล้ว  ไตติลากลับมาพร้อมกลิ่นสบูทรุดกายลงนั่งกับพื้นพรมข้างเตียง  บนเตียงนั้นร่างสูงใหญ่นอนคว่ำหน้าเกยกับหมอน  แผ่นหลังที่พ้นจากผ้าห่มนั้นมีมัดกล้ามเนื้อสมส่วน  มันสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเจ้าตัว

“คุณคริษฐ์” ไตติลายื่นหน้าเข้าไปเรียกเบาๆ เจ้าของชื่อครางรับเบาๆ

“คุณคริษฐ์จำห้องสมุดที่ถนน N ที่ผมเล่าให้ฟังได้ไหม? พรุ่งนี้ผมจะไปยืมคืนหนังสือ เห็นบ่นว่าอยากหาหนังสือเล่มหนึ่งไม่ใช่หรือครับ?”

“เอาสิ พรุ่งนี้ติลาว่างกี่โมงล่ะ” คริษฐ์ตอบด้วยเสียงอู้อี้

“สักเที่ยงๆนะครับ” ไตติลาไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบรูปต่างๆที่วางเรียงรายไว้ตรงหน้า

“รูปนี้ใครถ่ายให้หรือครับ สวยดีจัง” เจ้าของภาพลืมตาขึ้นมา  นานช้าจึงจะตอบ

“นิทเช” คำตอบที่ได้รับ ทำให้ไตติลานึกถึงภาพอีกใบที่เขาเคยเห็น  บัดนี้ มันกลับถูกคว่ำหน้าไว้กับโต๊ะหัวเตียง ไตติลาจำได้เลือนลางว่าคนในภาพมีเค้าโครงหน้าและประกายจากดวงตาที่ดูอ่อนโยนนัก

“เขาเป็นช่างภาพหรือครับ?”

“ใช่”

“แล้วภาพสิงห์สาลาสัตว์ในห้องทั้งหมดนี่เขาถ่ายหรือครับ?” คริษฐ์พลิกกายนอนตะแคงพลางเท้าแขนกับศีรษะ

“ทำไมวันนี้ช่างสงสัยจัง”

“ถ้าคุณคริษฐ์ไม่อยากตอบ ก็ได้ครับ ผมจะได้ไม่ถาม” ไตติลาไล่มองภาพต่างๆใหญ่น้อยที่วางบนโต๊ะหัวเตียง

“ถามเถอะ” ไตติลายิ้ม เขาเห็นรูปในกรอบเหล็กลวดลายอ่อนช้อย เป็นรูปขนาดเล็กมากหากเทียบกับกรอบอื่นๆ วางอยู่หลังรูปอื่นๆ เหมือนจงใจจะซ่อน  ภาพของคู่รักโดยแท้

“คุณคริษฐ์เคยเป็นคนรักกับคุณนิทเชสินะครับ” ไตติลาหัวเราะเบาๆ   เสียงหัวเราะนั้นแผ่วเบาจนหากฟังไม่ดีอาจนึกว่าเป็นเสียงของการเย้ยหยันตนเอง

“ใช่”คนตอบ ตอบด้วยเสียงเบาราวกระซิบ

“แล้วคุณคริษฐ์ยังรักเขาอยู่ไหม?” เจ้าของคำถามถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแห้งแล้ง ดวงตาที่คริษฐ์นึกชมคู่นั้น มองสบตาเขาแดงก่ำ ทว่าไม่มีน้ำตาเอ่อล้น คริษฐ์รู้ ว่าดวงตาคู่นั้นกำลังค้นหาบางอย่างจากจิตใจเขา จึงเลือกจะหลบตาเสีย ไตติลาห่อไหล่ตัวเองเล็กน้อยพลางสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหันกลับมายิ้มอ่อนจาง

“คุณคริษฐ์นอนเถอะครับ ผมจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ผมจะรอที่ห้องสมุดนะครับ”

   ไตติลาแต่งกายเรียบร้อย เขาไม่เคยค้างคืนในห้องนี้  ไม่เคยแม้แต่หนเดียว ด้วยเพราะบางอย่างมันรบกวนจิตใจ ให้ไตติลารู้ตัวว่า ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ของเขาเช่นเดียวกับคืนนี้ ที่ความรู้สึกนั้นรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ไตติลากวาดสายตามองภาพเล็กภาพน้อย ที่ตกแต่งในห้องรับแขกอพาร์ทเม้นต์พีอีกครั้ง  ก่อนจะเปิดประตู  หน้าประตูนั้น มีชายร่างเตี้ยกว่าไตติลาเล็กน้อย ดวงหน้านั้นเงยขึ้นย้ำเตือนความจำของไตติลาอีกครั้ง

“คุณนิทเช....”


๗๗๗๗ โปรติดตามตอนต่อไป ๗๗๗๗๗๗


อยากกินเเกงส้มชะอมไข่ :z3:

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะคะ :L1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อรั้ยยยย นิทเชมาจนได้ สงสารติลาอ่าาาาาาาาาา

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดด
ฉากกุ๊กกิ๊กเล็ก ๆ ของพระเอกแดนภารตะของดิชั้นกับติลา
ทำแกงส้มเผื่อด้วยสิคะคุณดิส  ดิชั้นอยากชิมน้ำแกงจากช้อนในมือคุณบ้าง  :-[
นิทเช...มาเอาผู้ชายของคุณไปเดี๋ยวนี้ค่ะ
คุณคริษฐ์เองก็เลิกห่วงติลาเถอะนะคะ  คุณดิสเค้ามาแล้ว  :laugh:
ขอบคุณค่ะคุณเมศ
 :pig4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อะ นิทเช มาจริงอะ  :a5:
ไม่เป็นไรนะ ติลา เดี๋ยวเพื่อนคนใหม่คนนั้น ก็ทำให้อบอุ่นใจขึ้น  :m1:

ปล. อยากกินแกงส้มชะอมไข่กะปลาสลิดทอดอะ หิวววววววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด