ตอนที่ 44 รัก คือ ... [2/2]
“แล้วไอ้ที่บอกว่าโคตรหวานนี่มันยังไง ดูออกขนาดนั้นเลย” ผมถาม นี่ผมกับกรแสดงออกกันชัดขนาดนั้นเลย ชักสงสัยแล้วครับ เรื่องบางเรื่อง เราทำอะไรไปมักจะรู้สึกหรือคิดไม่ตรงกับคนที่มองมาหรอกครับ ว่าแล้วก็ลองถามมันดู
“ก็ไม่หรอก แต่พี่ดูมีความสุข พี่กันต์รู้หรือเปล่าว่าพี่เปลี่ยนไปมากขนาดไหน” ป่านมันตอบผมกลับมา แต่แทนที่ผมจะได้คำตอบที่ทำให้ความสงสัยของผมมันกระจ่าง มันกลับทำให้ผมไม่เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม
“เมื่อก่อนพี่กันต์เอาแต่ทำงาน พอเลิกงานก็เที่ยว ป่านเห็นมีอยู่สองอย่างแค่นั้น” ป่านพูด แล้วรับจานที่ผมส่งให้ไปเก็บในที่คว่ำจาน ที่ป่านพูดมันก็จริง เมื่อก่อนชีวิตผมมันก็มีแค่สองอย่าง กลางวันทำงาน ตกกลางคืนก็อยู่กับเพื่อน ออกเที่ยวกันเกือบทุกคืน หรือไม่ก็อยู่กับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย
“อยู่ตัวคนเดียว จะให้ทำอะไรวะ” ผมตอบ อยู่ตัวคนเดียว เลิกงานกลับมามันก็ไม่มีใคร ไม่มีใครจะให้ดูแล หรือใช้เวลาด้วย หมายถึงคนอื่นนอกเหนือจากพ่อแม่นะครับ ในส่วนนั้นผมว่าผมทำหน้าที่ของลูกได้ดีในระดับที่ผมพอใจแล้ว แต่ใครที่จะให้ผมดูแล หรือใครที่ผมต้องการจะใช้เวลาด้วยนอกเหนือจากนั้นแล้ว “ไม่มีครับ”
“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วว่างั้น กรมันจะมาขอเมื่อไหร่อ่ะ จะได้เรียกสินสอดแพงๆ สักสิบล้านน้อยไปไหม หรือเอามากกว่านั้นดี” ป่านมันพูดกับผม ตอนนี้มันกำลังก้มๆ เงยๆ มองหาของกินในตู้เย็น แล้วก็ได้องุ่นที่ผมล้างใส่จานก่อนแช่ไว้ในตู้เย็นออกมา พอมันพูดจบก็เด็ดเอาองุ่นจากจานที่ถืออยู่ในมือเข้าปาก
“ไม่คิดว่าพี่ต้องเป็นฝ่ายไปขอบ้างหรือไง” ถามมันไปก็แอบระแวงตัวเองไป นี่กูไปทำตัวนุ่มนิ่มหรือไงวะ ตอนนี้รู้สึกได้ว่าคิ้วตัวเองผูกกันเป็นปมแล้วครับ
“ไม่อ่ะ” มันพูดด้วยความมั่นใจก่อนจะเด็ดองุ่นเข้าปากไปอีกลูก แล้วเดินนำผมออกจากครัว ไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์
แล้วผมเป็นยังไงบ้างหรอครับตอนนี้ บอกตามตรงว่า เสียความมั่นใจไปเยอะครับ
”เป็นไรพี่ทำหน้าเครียด” ป่านถามเมื่อผมเดินตามมานั่งลงที่โซฟาอีกตัว
“เฮ้ย!! ป่านไม่ได้ว่าพี่ดูเป็นสาวนะ แต่ดูตากรมันมองพี่ดิ โคตรหวง โคตรรักอ่ะ สายตาพี่ก็ด้วย” ป่านมันนิ่งคิดไปไม่นาน ก่อนจะรีบแก้ในสิ่งที่คิดว่าผมกำลังเข้าใจผิด
ส่วนเรื่องของสายตาเจ้าปัญหานี่ เดี๋ยวผมค่อยไปดูครับว่ามันเป็นยังไง แล้วป่านก็ไม่ใช่คนแรกครับที่พูดแบบนี้ อย่างแม่ผมก็รู้เรื่องผมกับกรเพราะสายตาเจ้าปัญหานี่เหมือนกัน ผมเองก็ไม่เคยไปสังเกตดูจริงจังสักที สงสัยวันนี้ต้องไปดูเสียที
“แต่จะว่าไป พี่กันต์น่ารักขึ้นนะ ฮาๆๆ” มันพูด แล้วหัวเราะ ผมเลยหยิบหมอนอิงที่อยู่บนโซฟาปาใส่หน้ามัน มันเลยหัวเราะหนักขึ้นกว่าเดิม พูดออกมาได้ว่า “น่ารัก” น่าดีใจเหลือเกินล่ะ
“แล้วทำไมวันนี้ถึงอยากมาค้างที่นี่ มีอะไรอยากคุยกับพี่หรือเปล่า” ผมถามมัน คราวนี้มันเลยเป็นฝ่ายเงียบบ้าง แล้วจังหวะนั้นผมเห็นกรเปิดประตูห้องนอนออกมา แต่พอเห็นผมกับป่านคุยกันอยู่ เขาเลยพูดแบบไม่มีเสียงให้ผมอ่านปากเอา แล้วทำมือบอกประมาณว่า “เขาอยู่ในห้องนะ ไม่ออกมาข้างนอกแล้ว” ผมก็พยักหน้าตอบเขาไป
“เมื่อก่อนมาออกบ่อยไม่เห็นถาม เดี๋ยวนี้มาต้องถามด้วย” มันพูดเลี่ยงเฉไฉไปทางอื่นไม่ยอมตอบคำถามผม
“บอกพี่กาวน์หรือเปล่าว่ามาค้างกับพี่” ผมถาม
“ปะ บอก บอกแล้ว” มันตอบ ตกลงมันบอกหรือไม่บอกวะ ที่ถามเพราะผมรู้ครับว่าพี่กาวน์ก็ห่วงมันไม่น้อยกว่าที่ผมห่วง
“ทำไมไม่รับ แล้วคุยกันให้รู้เรื่อง” ผมหมายถึงโทรศัพท์มันที่สั่นอยู่บนโต๊ะด้านหน้า มันสั่นอยู่ไม่รู้กี่สิบรอบแล้วตั้งแต่มันเอาออกมาวางไว้ ยังไม่รวมที่ดังก่อนหน้าที่มันจะปิดเสียงอีก แต่มันก็ไม่ยอมรับ จนมันสั่นสั้นๆ ขึ้นมาอีกที คงเป็นข้อความ จนครั้งนี้มันถึงได้หยิบโทรศัพท์มาดู
พอมันอ่านข้อความแล้ว มันก็ลุกออกไปที่ระเบียง ผมเห็นมันคุยโทรศัพท์อยู่ไม่นานก็กลับมา แล้วใครโทรมาวะ ถึงทำน้องกูหน้าซีด ตาแดงเดินกลับมา
“เป็นอะไร” ผมถามมันตอนกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิมแล้ว
“เปล่าพี่กันต์ เออ บ้านนั่น บ้านพี่กันต์กับกรหรอ” มันมองเลยไปที่โต๊ะเขียนแบบ ก่อนจะถามขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“อื้ม แบบเสร็จแล้ว กำลังสร้าง” ผมบอกมัน
“จะเสร็จเมื่อไหร่”
“ไม่เกินหกเดือน กลางปีหน้าคงเข้าอยู่ได้”
“มันรักกันได้จริงหรอพี่กันต์” ป่านมันถามขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกมาจากโต๊ะเขียนแบบของผม ที่วางอยู่อีกด้านของห้อง น้ำเสียงมันเหมือนถามขึ้นมาลอยๆ แต่ผมจับความรู้สึกบางอย่างที่เจืออยู่ในน้ำเสียงนั้นได้ ผมรู้ว่ามันจริงจัง กับคำถามที่มันถามออกมา
“แล้วทำไมจะรักกันไม่ได้” ผมถามมันกลับ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายมันยังไงนะครับ เลยย้อนถามให้มันคิดตามผมแทน
“รักกันได้ หรือรักกันไม่ได้ สำหรับพี่มันไม่มีนะป่าน” ผมพูด แล้วหยุดเว้นวรรค ป่านมันเลยหันหน้ากลับมามองผม
“มันมีแค่รัก หรือไม่รัก” ผมพูด แล้วจะให้คนอย่างผมมาคุยเรื่องความรัก มันจะรอดไหมครับเนี่ย แล้วตอนที่ผมกับจะกรคบกัน ผมก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องที่ว่าจะรักกันได้ หรือไม่ได้ ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ครับ
อยากรัก... ก็รัก
ตอนนั้นคิดแค่ว่า ผมควรจะให้โอกาสตัวเอง ควรจะเชื่อความรู้สึกของตัวเอง มันอาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิด แล้วอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นและเป็นไปของมันเอง จนมาถึงวันนี้แหละครับ นึกย้อนไปแล้วยังงงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ใครเนียนกว่ากัน ระหว่างผมกับกร พอรู้ตัวอีกทีก็มีเขาเข้ามาในชีวิตแล้ว
มีคนอยู่ข้างๆ ยามหลับ เมื่อตื่นขึ้นมาก็ยังมีเขาอยู่ข้างๆ
มีเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
อาจจะดูแล้วน้ำเน่าไป แต่สำหรับผม มันคือ ความสุขครับ
เอ่อ กลับไปเรื่องไอ้น้องชายผมต่อดีกว่า
“แต่...” มันทำท่าเหมือนจะค้านในสิ่งที่ผมพูด แต่เหมือนจะพูดไม่ออก เลยค้างไว้แค่นั้น
เอ่อ... เดี๋ยวนะแล้วมันจะมาสนใจอะไรกับเรื่องแบบนี้ ไอ้ป่าน... อย่าบอกนะว่า... คงไม่ใช่หรอก มันคงถามเพราะอยากรู้มากกว่า คงไม่ได้ถามเพราะเป็นเรื่องที่มันกำลังกลุ้มใจอยู่
“แล้วพ่อแม่พี่รู้เรื่องยัง”
“รู้แล้ว” ผมตอบ
“แล้วพี่กาวน์” มันถามถึงพี่ชายผม
“ก็รู้” ผมตอบ รู้ เรียกได้ว่ารู้ดีเลยล่ะ
“ป่านรู้คนสุดท้าย” มันพูดแล้วทำหน้าประมาณว่าน้อยใจผมเสียเต็มประดา
“แล้วจะให้ทำไง ให้พี่โทรไปหาแล้วบอก ป่านจำกรได้ไหม ที่เคยเจอกันที่หัวหิน เขาเป็นแฟนพี่” ผมพูด ก็นะเรื่องแบบนี้ อย่างกับจะพูดกันได้ง่ายๆ
“อะฮะ” มันรับคำ แล้วพยักหน้าตอบประมาณว่า “ใช่เลยพี่ แบบนั้นแหละ”
“เออ เดี๋ยวรอเป็นป่านบ้างแล้วกัน อย่าให้มีอะไรแล้วพี่ไม่รู้” ผมพูดแซวมัน
“รอให้มีวันนั้นก่อนเหอะพี่” มันพูด
“จะห้าทุ่มแล้ว ไปนอนเหอะ” ผมบอก เพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานกัน แล้วที่สำคัญผมยังมีเรื่องที่คาใจอยู่ และต้องการไปดูให้เห็นกับตา
“อื้อ ฝันดีพี่กันต์”
“อื้ม” ผมตอบรับมัน ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง
.
.
.
พอกลับเข้ามาในห้องนอนแล้ว เห็นกรนอนอ่านการ์ตูนอยู่ ข้างตัวยังมีอีกสองสามเล่มที่ยังไม่ได้แกะถุงพลาสติกออก ไฟดวงหลักในห้องถูกปิดไปแล้ว เหลือแต่โคมไฟตรงหัวเตียง แต่ก็สว่างพอที่จะอ่านหนังสือได้ เพราะผมเองก็ชอบทำแบบเดียวกัน
“เรื่องอะไร” ผมถาม ผมเองก็กลับมาอ่านการ์ตูนอีกครั้ง เพราะกรนี่แหละ หลังจากเรียนจบผมก็เลิกอ่านการ์ตูนไป เรื่องของเรื่องขี้เกียจไปตามซื้อ พอมีคนซื้อเลยได้กลับมาอ่านอีก
“หัตถ์เทวดา เทรุ” กรวางหนังสือในมือลง แล้วขยับตัวลุกขึ้นมาตอบผม ที่กำลังจะเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
“อย่าเพิ่งหลับนะ เดี๋ยวออกมาคุยด้วย” ผมบอกกรไว้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เขาก็พยักหน้าตอบ
ผมใช้เวลาไม่นานมากในการอาบน้ำ ก่อนจะออกมาแต่งตัว ก้าวขึ้นไปอยู่บนเตียง แล้วขยับตัวไปนั่งอยู่ข้างกร โดยหันหน้าไปหาเขา กรพอเห็นผมขยับตัวมานั่งอยู่ใกล้เขา เลยเก็บหนังสือที่วางอยู่บนที่นอนออก แล้วเอาไปวางไว้ที่โต๊ะด้านข้างแทน และขยับตัวลุกขึ้นมามองผมตอบ
“มีอะไรครับ มามองหน้ากรทำไม” เขาถาม เมื่อผมไม่พูดอะไร เอาแต่นั่งมองเขา
“มองกันต์หน่อย” ผมบอกให้เขามองมาที่ผม
“มีอะไรหรือเปล่า” เขาถาม พร้อมกับส่งรอยยิ้มแบบขำเล็กๆ มาที่ผม คงงงว่าผมจะทำอะไร
“อยากรู้ว่ากรมองกันต์ยังไง” ผมตอบ ส่วนตาก็ยังมองอยู่ที่ตาของกร
“อยากเห็นชัดๆ ไหมว่ามองยังไง” กรถามผม
“มันต้องมองแบบนี้” กรพูดก่อนที่ผมจะถูกพลิกตัวให้ไปอยู่ใต้ร่างเขาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!!”
ผมพลาดอีกแล้ว ไม่น่าหาเรื่องเลย ตอนนี้เห็นชัดแล้วครับ ว่าเขามองผมแบบไหน ก็มันใกล้กันเสียขนาดนี้
มันชัดเจนทั้งสายตา ชัดเจนทั้งการกระทำ
.
.
.
ตอนนี้ผมจะวิ่งออกไปตอบป่านมันได้ไหมว่า มันไม่ต้องมานั่งคิดอะไรมากมายกับเรื่องความรักหรอก
เพราะทุกคำตอบที่อยากได้
มันจะมา... เมื่อเจอคนๆ นั้นแล้ว
--------------------------------------------------------------
หายไปนานเลย กลับมาแล้วนะค่ะ >_<