รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 581167 ครั้ง)

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
 :m15: :m15:
 :L2:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 27 ความจริง [1/2]

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ ขอบคุณที่พี่มายืนอยู่หน้ากรตอนนี้ ขอบคุณ” ผมไม่รู้ว่าผมได้ฟังคำขอบคุณจากคนๆ นี้ไปกี่ครั้ง หรือแม้กระทั่งถูกดึงตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอยู่กี่หนกันแล้ว คำขอบคุณที่ผมควรจะพูดกับเขา กลายเป็นว่าเขากลับพูดคำนั้นกับผมซ้ำไปซ้ำ

ผมบอกไปแล้ว เขารู้แล้ว และเรายังอยู่ด้วยกัน
 .
.
.

“ไหนดูสิ ตาบวมหมดแล้ว เรากลับเข้าบ้านไปนอนดีกว่านะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” กรเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือมาจับมือผม



>> ติ้ง ๆ <<

เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์ของกร เมื่อเรากำลังหันหลังเพื่อเดินกลับเข้าบ้าน คนที่จูงมือผมอยู่จึงใช้มือข้างที่ว่างอยู่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านข้อความ

จากนั้นผมก็รู้สึกถึงแรงบีบกระชับเข้าที่มือข้างที่เราจับกันไว้ ส่วนผมก็ได้แต่หันไปมองคนข้างๆ ที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง


“มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามเมื่อรู้สึกว่าเขาจ้องข้อความที่ถูกส่งมานานผิดปกติ จนผมเริ่มรู้สึกไม่ดี

“นี่มันหมายถึงผมกับพี่หรือเปล่า” กรถามผม หลังจากเงียบไปนาน


ผมก้มลงมองที่หน้าจอโทรศัพท์ที่ถูกส่งมาให้และอ่านข้อความนั้น แล้วผมก็รู้ว่าทำไมคนที่ได้รับมันถึงจ้องข้อความนั้นอยู่นาน เพราะผมเองก็กำลังทำแบบเดียวกัน ผมอ่านข้อความนั้นซ้ำไปซ้ำมา สลับกับการเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ก่อนจะกดหาเบอร์ของคนที่ส่งข้อความนี้มาให้ด้วยมือที่สั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

แล้วเลขสิบหลักที่ผมมองเห็น มันก็ทำให้ผมรู้ว่าใครเป็นคนส่งมา และมันทำให้ผมต้องนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างช้าๆ อีกครั้ง ว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่

ผมกลับมาอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้ง ในขณะที่ยังคงยืนมองผมอยู่อย่างเงียบๆ ผมรู้ว่าตัวเองกำลังสับสน แต่คนตรงหน้าผมล่ะ กำลังคิดอะไร และกำลังรู้สึกแบบไหน


“ถ้าเขายังอยู่กับนาย ดูแลเขาให้ดี เพราะเขาเป็นของนาย... คนเดียว”


“มันหมายความว่ายังไง” ผมได้แต่พึมพำถามกับตัวเอง ผมไม่ได้หมายถึงเนื้อหาในข้อความ เพราะมันบอกอะไรได้ดีอยู่แล้ว แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ เขาทำแบบนั้นไปทำไม แล้วถึงเวลานี้ผมยังจะเชื่ออะไรได้บ้าง

แล้วผมก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรกลับไปหาเจ้าของหมายเลขนั้น แม้มันจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่มันก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าสิ่งที่มันผ่านไปก่อนหน้านี้อีกแล้ว ผมรอสายอยู่นาน แต่ก็ไม่มีคนรับ จนสายโทรศัพท์ถูกตัดไป และเมื่อกำลังจะกดโทรศัพท์อีกครั้ง กลับถูกอีกคนเรียกเอาไว้ก่อน

“พี่กันต์ เข้าบ้านก่อนไหม เข้าบ้านเถอะนะ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว” ตอนนี้เจ้าของเสียงเรียกมายืนอยู่ตรงหน้าผม แล้วหันหลังให้ ก่อนจะย่อตัวลง

“มานี่เร็ว” เสียงเรียกจากคนที่อยู่ข้างหน้าผมดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไปโอบรอบคอเข้าไว้ โดยในมือข้างหนึ่งยังกำโทรศัพท์ของเขาไว้ในมือ จากนั้นกรก็ส่งแขนของตัวเองมาช้อนขาของผมไว้ ก่อนจะยืดตัวขึ้น แล้วเดินออกไปจากจุดที่เรายืนอยู่เมื่อครู่นี่




.................................................................


“ฝันดีนะครับ” เสียงของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงโน้มตัวลงมากระซิบบอกผม

“กรปิดไฟนะ” ผมพยักหน้าตอบ จากนั้นเขาก็ลุกไปปิดไฟ ก่อนจะกลับมาที่เตียง และล้มตัวลงนอนข้างๆ ผม ผมค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปหา แล้วยกแขนขึ้นไปพาดไว้ที่ลำตัวเขาอย่างเคย ส่วนเขาก็ยกมือขึ้นมาจับที่แขนผมเอาไว้ มืออุ่นๆ ของเขาช่วยย้ำให้ผมรู้ว่าผมยังมีเขา   
.
.
.

ในความมืดมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปอย่างช้าๆ มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วที่ผมได้แต่ลืมตาอยู่ในความมืดมิด เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอของใครอีกคน


“ผมนอนไม่หลับ”


แม้ตอนนี้ร่างกายของผมมันทั้งเหนื่อยและล้า แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมีคำถามที่อยากจะหาคำตอบอะไรให้กับตัวเอง ผมไม่รู้ว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกับผม” ทุกอย่างที่มันผ่านเข้ามาในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน มันมีทั้งเรื่องที่ทำจิตใจของผมได้สัมผัสกับความทรมานจนถึงที่สุด ก่อนจะถูกฉุดดึงจากใครอีกคน ให้กลับมายังโลกใบเดิมอีกครั้ง

แต่แล้วเพียงเวลาไม่นาน ก็มีคนมาเฉลยอะไรบางอย่างว่า ผมแค่คิดไปเอง เข้าใจไปเอง คิดไปตามที่เขาอยากให้ผมคิด อยากให้ผมเข้าใจ


สรุปแล้วผมมันก็แค่คนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง

สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้จากช่วงเวลานั้น คือเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ก่อนจะถูกตัดสายทิ้งไป พร้อมกับคำพูดที่สั่งให้ผมลืมคนที่โทรเข้ามา ผมจะได้แค่นั้น ก่อนจะไม่รับรู้อะไรอีก เท่าที่ผมจำได้แค่นั้นจริงๆ

ผมควรคิดทบทวนทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้ง อย่างคนที่กำลังพยายามหาเหตุผลกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น หรือบางทีผมควรจะหยุดคิด หยุดจะหาเหตุผล แล้วเข้าใจง่ายๆ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่บททดสอบหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผม

และถึงเวลานี้ผมควรจะดีใจและมีความสุขที่ผ่านมันมาได้ พร้อมกับการที่ผมยังมีคนๆ หนึ่งอยู่เคียงข้าง เพียงแค่นั้นใช่ไหม

ทั้งหมดมันเป็นความคิดง่ายๆ แต่มันกลับทำได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ถึงแม้จะรู้แบบนั้น ผมก็ต้องทำ มันไม่ใช่เพื่อตัวผมเองกับการปล่อยวางจากเรื่องนี้ แต่มันหมายถึงใครอีกคน เขาไม่ควรจะเจ็บ จะทุกข์ ที่เห็นผมในสภาพแบบนี้อีกแล้ว   


ท้ายที่สุดผมก็วางทุกอย่างไว้เพราะฝืนต่อไปไม่ไหว ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างช้าๆ 



..................................................................


ในเวลาก่อนหน้านี้ขณะที่คนสองคนกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังสับสนกับการเผชิญเรื่องราวอีกหนึ่งเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเขา ก็ยังมีคนอีกคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในความรู้สึกแบบเดียวกัน เขากำลังไม่แน่ใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจทำลงไป ทั้งๆ ที่ผลของการกระทำนั้นมันเพิ่งถูกรายงานมายังเขาเพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

ที่ระเบียงกว้างของห้องพักในโรงแรมชั้นเลิศที่อยู่สูงจนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา หากแต่คนที่ยืนอยู่ที่ริมระเบียงเวลานี้กลับไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อยกับความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า สายตาของชายหนุ่มเวลานี้กลับมองเหม่อออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย และเหมือนว่าเขาคนนี้กำลังคิดถึงใครสักคน ใครคนนั้นที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่เวลานี้เขาคนนั้นไม่มีโอกาสกลับมายืนข้างเขาได้อีกแล้ว ในเวลานี้แม้แต่เสียงโทรศัพท์ที่กำลังดังอยู่ในห้องพัก ก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเจ้าของมันได้เลย

“ปอ มึงว่าที่กูทำมันถูกหรือเปล่าวะ” เสียงที่ได้แต่ดังอยู่ในความคิดของเขา เพราะตอนนี้คนที่เคยรับฟังเขา ไม่ได้อยู่ฟังอีกแล้ว

“กูเคยกลัวว่าน้องกูจะเจอกับสิ่งที่มึงเคยเจอ”


“แต่ตอนนี้กูคงไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะน้องกูมันโชคดีกว่ามึง”

“แต่มันคงเกลียดกู เพราะสิ่งที่กูทำกับมันแล้วว่ะ”

“เอาวะอย่างน้อยกูก็ไม่ต้องห่วงมันแล้วจริงไหมวะ” เขาพูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่ก็ไม่มีเสียงใดสะท้อนกลับมา ถึงจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เขาได้ระบายมันออกมาบ้าง

---------------------------------------------------


ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
อ่านถึงตอนนี้ พอจะเข้าใจสิ่งที่พี่กาวน์ต้องการแล้วครับ

^^

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ้าววววว พี่กาวน์.. ตกลงทำเพื่อทดสอบกรใช่มั้ย
เค้าขอโทษนะ  :m5:
แอบด่าไปซะเยอะเลย  :laugh: (หัวเราะกลบเกลื่อน)

เป็นกำลังใจให้นะคะ

win200

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว

พี่กาวทำเพื่อน้องหรอกเหรอเนี่ย

คนเค้าเข้าใจผิดกานหมดแว้วว :laugh:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว..ไหงเป็นงี้ล่ะ :confuse:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
กันต์คือคนที่น่าสงสารที่สุด
ผู้ร้า่ยกลายเป็นพระเอก!!

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
พี่กาว  ไม่น่าเลยยย


Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
กลายเป็นว่าทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
แต่บางครั้งวิธีการแสดงออกมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับอีกคนมากกว่าที่คิดนะ
ดีนะที่พี่กันต์เข็มแข็ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็น่าสงสารอ่ะ
อยู่ดีๆ ก็ถูกดึงเข้าไปเจอเรื่องอะไรไม่รู้เพราะความกลัวของพี่กาวน์
(ท่าทางจะมีความหลังกะเค้าเหมือนกัน)
ไหนจะกรอีก สุดท้ายน่าสงสารหมดเลยใช่มั้ยเนี้ย

แต่ก็นะเรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็จะกลับมายิ้มกันได้แล้วใช่มั้ยอ่ะ
นะ นะ กลับมายิ้มกันได้แล้วนะ
  :impress2:



ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
เรื่องมันอย่างนี้นี่เอง ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเองล่ะนะ
แต่พี่กาวน์เล่นลองใจแบบนี้ก็แย่สิ
ใจหายใจคว่ำกันหมดแล้ว โดนประนามซะอย่างมากมาย
เค้าเองก็ด่าไปซะเยอะเลย แฮะๆ :m23:
ดูท่าจะมีความหลังเนาะพี่กาวน์เนี่ย  เรื่องอะไรน๊าอยากรู้จัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> ความจริง [2/2] P.19 (up 30-07-10)
« ตอบ #549 เมื่อ: 30-07-2010 23:31:54 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อ้าวววพี่กาวน์ แต่อยากรู้ว่าช่วงเวลาที่พี่กรจำไม่ได้มันเกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
อาาา...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ความทุกข์ของผู้รับบนความหวังดีของผู้กระทำ...


lasom

  • บุคคลทั่วไป
แล้วมันก็ผ่านไป

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
เรื่องมันอย่างนี้นี่เอง ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเองล่ะนะ
แต่พี่กาวน์เล่นลองใจแบบนี้ก็แย่สิ
ใจหายใจคว่ำกันหมดแล้ว โดนประนามซะอย่างมากมาย
เค้าเองก็ด่าไปซะเยอะเลย แฮะๆ :m23:
ดูท่าจะมีความหลังเนาะพี่กาวน์เนี่ย  เรื่องอะไรน๊าอยากรู้จัง



ก็นะโดนไปไม่น้อยนะนั่น ช่วยกันสหบาทาไปหลายยก เจอแรงๆไปหลายดอก ก็เล่นบททดสอบเกินจะรับได้นี่นา :m23: :m23: :m23:
ขออภัย  :m5: :m5: :m5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2010 07:06:32 โดย naiin »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สรุปคือคุณต้องการทดสอบความจริงใจของกร   ด้วยการข่มขืนน้องตัวเองงั้นเหรอ
แล้วถ้ากรทิ้งกันต์ล่ะ  คุณจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่า
หรือว่าเหยียบย่ำซ้ำเติมให้จมดินไปเลย
แล้วที่เรียนเมืองนอกเมืองนาไม่ได้ช่วยให้คุณคิดเลยใช่มั๊ยว่า....
วิธีการพิสูจน์ความรักของคน  มันต้องทำยังงัยบ้าง
หรือชั้นโง่  ตามไม่มันยุคสมัยกันแน่   
...  แต่ก็เอาเถอะ  มันผ่านไปแล้ว  ก็ได้แต่หวังว่าทั้งกรและกันต์จะดูแลกันและกันตลอดไป

bbc52

  • บุคคลทั่วไป
ทั้งหมดคือการ พิสูจน์กรชิมะ

เล่นเอาเราสงสาร กันต์ กับ กร แล้วด่าพี่กาวร์ไปตั้งเยอะ เอิ้กกกกกกกกก

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
รักน้องกรกับพี่กันต์มากขึ้นทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณน้องกวางมากนะคะ กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

......ทำเป็นไม่สนใจความจริงจากพี่กาวน์
จะทำไปเพื่อพิสูจน์หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ ถ้าพี่กันต์กับน้องกรยังอยู่ด้วยกันและจับมือกันไว้ ต่อให้หนักหนาแค่ไหน..ยังไง รักก็คือรัก


(ที่ครึ่งแรกมีคำว่า "ของ" ตัวหนึ่ง ง งู หายไปค่ะ)

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ นอกจากพี่กาวน์สินะ
คิดอะไร ทำอะไร เพื่ออะไร ก็รู้อยู่คนเดียว เฮ้อ!!


แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วคิดไปมันก็เจ็บเปล่าๆ ตอนนี้รักกันก็พอแล้วเนอะ
 :L2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ถึงจะเป็นการทดสอบ ความจริงใจของกร แต่การกระทำอย่างนี้ มันก็สมควรที่จะถูกประนามอยู่ดี
เล่นกับชีวิตคนนะเนี่ย
ส่วนคู่รักคู่นี้ ยังคงหนักแน่ดั่งหินผา โดยเฉพาะกร ถึงจะเจ็บปวดในครั้งแรกที่เห็น แต่ก็ไม่แสดงออก
ถึงความเจ็บปวด อีกทั้งยังพร้อมเป็นกำลังใจให้กับคนเสียขวัญ 
นี่แหละหนา สมชื่อนิยาย " รักคือ ..... รัก "
+ ๑ ให้เป็นกำลังใจครับ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
โห่
ไอ้เ้รารึก็ด่าว่าพี่แกไปซะหมดตูด
อิอิ
แต่ว่า
ทดสอบแบบนี้มันก็ไม่ดีนะเว่ย
น้องมันเจ็บ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> ความจริง [2/2] P.19 (up 30-07-10)
« ตอบ #559 เมื่อ: 31-07-2010 23:47:13 »





ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แล้วตกลงว่า อิตาพี่กาวน์ทำจริง หรือแค่จัดฉาก แต่ถึงจะทำหรือไม่ทำ วิธีการมันก็ทำร้ายความรู้สึกกันดีๆนี่เอง

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
ขอโทษคุณพี่กาวน์
ที่เข้าใจคุณพี่กาวน์ผิดไปเต็มๆเลย
 :m5:

แต่.. วิธีทดสอบแบบอื่นที่ไม่ทำร้ายจิตใจน้องของตัวเองก็มี
ทำไมคุณพี่ไม่เอามาใช้คะ?
:angry2:




 :L2: ให้กำลังใจคนแต่ง

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
บางอย่างมันไม่ต้องทดสอบขนาดนี้ก็ได้ม้าง...

หวังว่าพี่กันต์ กร จะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พอจะเข้าใจเหตุผลของพี่กาวน์แล้ว
แต่ก็ยังไม่ให้อภัยอยู่ดีค่ะ :m31: :angry2: :fire: :beat: :z6:
ไม่รู้ดิมีวิธีอื่นตั้งมากมายไม่เห็นต้องใช้วิธีนี้
พอคนเลวๆทำดี เราเห็นแล้วเหมือนเขาทำดีมาก ทั้งๆที่ความจริงมันก็ไม่มีอะไร
คนเราไม่ว่าจะเป็นห่วงใครแค่ไหน ก็ไม่ควรแสดงความเป็นห่วงออกมาในรูปแบบที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด
การกระทำของพี่กาวน์ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
คุณไม่ควรยกข้ออ้างให้การทำร้ายคนอื่นว่าทำเพราะเป็นห่วงอีกฝ่าย
เพราะสุดท้า่ยแล้วคนที่ทำร้ายตัวเขาก็คือตัวของคุณเอง

ไรท์แต่งเก่งมากเลยค่ะ แบบแสดงสัญชาติญาณดิบ(เขียนถูกปะเนี่ย)ของคนออกมาได้ดีมากเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
มารอๆๆๆๆๆๆๆ  :m13:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
สรุปคือคุณต้องการทดสอบความจริงใจของกร   ด้วยการข่มขืนน้องตัวเองงั้นเหรอ
แล้วถ้ากรทิ้งกันต์ล่ะ  คุณจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่า
หรือว่าเหยียบย่ำซ้ำเติมให้จมดินไปเลย
แล้วที่เรียนเมืองนอกเมืองนาไม่ได้ช่วยให้คุณคิดเลยใช่มั๊ยว่า....
วิธีการพิสูจน์ความรักของคน  มันต้องทำยังงัยบ้าง
หรือชั้นโง่  ตามไม่มันยุคสมัยกันแน่   
...  แต่ก็เอาเถอะ  มันผ่านไปแล้ว  ก็ได้แต่หวังว่าทั้งกรและกันต์จะดูแลกันและกันตลอดไป


อยากบอกว่า อ่านรีของคุณแล้วโดนใจมากๆเลยค่ะ  ไม่เข้าใจความคิดของกาวน์เค้าเหมือนกัน
แล้วน้องกันต์เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด อยู่ๆก็มีคนที่รักและไว้ใจที่สุดคนหนึ่งมาย่ำยี ฝากรอยแผลลึกเอาไว้ให้

 

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 28 เผชิญหน้า [1/2]

“พี่กันต์ พี่กันต์” ผมส่งเสียงเรียกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง หลังจากผมอาบน้ำแต่งตัว ลงไปข้างล่างทำนู่นทำนี้มาได้สักพัก และเมื่อเห็นว่าได้เวลาพอสมควรแล้ว ถึงได้เดินกลับขึ้นมาปลุกเขา

“แปดโมงแล้ว ตื่นเถอะ” ผมส่งเสียงเรียกอีกครั้ง แต่คนขี้เซาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจกับเสียงเรียก กลับควานมือไปข้างตัวเพื่อหวังจะคว้าหมอนอีกขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองไว้ พอเห็นแบบนั้นผมเลยโน้มตัวลงไปจับข้อมือทั้งสองข้างของเข้าไว้ แล้วค่อยๆ ดึงให้ลุกขึ้นมาแทน

“หึๆ” แล้วผมก็ได้แต่ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก็คนที่ผมดึงให้ลุกขึ้นมานั่งยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเลยจนกระทั่งตอนนี้ ได้แต่นั่งคอพับคออ่อนตามที่ผมดึงให้ลุกขึ้นมาเพียงเท่านั้นจริงๆ โดยเปลือกตาทั้งสองข้างยังคงปิดสนิท

ผมเลยนั่งลงตรงหน้าเขา แล้วขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะรั้งตัวพี่เขาให้โน้มลงมาข้างหน้า จนหน้าผากของเขามาซบอยู่กับไหล่ของผม

“ง่วงอยู่หรอ” ผมถาม ก่อนจะได้รับคำตอบกลับมาเป็นการผงกหัวงึกๆ ของคนที่ซบอยู่กับไหล่ของผม

 “ไปวัดกัน เดี๋ยวค่อยกลับมานอนต่อนะ ป้านิ่มรออยู่ด้วย” ผมกระซิบบอกเขา

“หือ ป้านิ่มหรอ” เสียงพูดอู้อี้ดังขึ้นจากคนที่กำลังนั่งงัวเงียอยู่

“ป้านิ่มมาที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้ว พอกรบอกว่าเราจะไปทำบุญกัน แกเลยออกไปซื้อของแล้วก็ทำกับข้าวให้ด้วย นี่กรก็ชวนป้านิ่มไปกับเราด้วยนะ”

“อื้ม” เสียงงึมงำตอบรับคำพูดของผมดังขึ้นในลำคอของคนที่ซบผมอยู่ ก่อนจะขยับตัวและลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
.
.
.

ผมมองตามแผ่นหลังของคนที่ลุกเดินออกไป ก่อนจะหายเข้าไปหลังประตูไม้สีขาว พอเขาพ้นสายตาของผมไปแล้ว ผมก็เอนหลังทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน ในเวลานี้สิ่งที่ผมมองเห็นมีเพียงฝ้าเพดานสีขาวสะอาดตา ผมได้แต่มองมันอยู่แบบนั้น ก่อนจะยกแขนสองข้างขึ้นมาก่ายไว้ที่หน้าผาก หลับตาลง แล้วสูดลมหายใจเข้าให้ลึกๆ จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจนั้นออกมาอย่างช้าๆ ผมทำแบบนั้นอยู่สองสามรอบ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ภาพตรงหน้าที่ผมเห็นยังคงเป็นภาพของฝ้าเพดานสีขาวเช่นเดิม นั่นล่ะสิ่งที่ผมอยากเห็นอีกครั้งเมื่อลืมตาขึ้นมา ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพในปัจจุบัน


เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว


ตอนนี้ผมมีเพียงแค่ปัจจุบัน และผมจะทำมันให้ดีที่สุด  
  




………………………………...............………..


หลังจากที่เราทำบุญและถวายสังฆทานกันเรียบร้อยแล้ว ผมกับพี่กันต์เลยถือโอกาสเดินเล่นไปรอบๆ วัด เพราะป้านิ่มแกขอเวลาไปซื้อกับข้าวที่ตลาดฝั่งตรงข้ามกับวัด ไว้ทำมื้อกลางวันกับมื้อเย็นให้พวกผมสองคน ยิ่งแกมารู้ที่หลังว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม แกเลยบอกว่าจะทำของอร่อยๆ ให้เอง ไม่ต้องออกไปกินกันนอกบ้าน

ในระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินไปรอบๆ บริเวณของวัด จนมาถึงหน้าโบสถ์สีขาวหลังใหญ่ ก็มีผู้ชายที่ดูแล้วน่าจะรุ่นเดียวกันกับผมเดินตรงเข้ามาทักพี่กันต์


“พี่กันต์ หวัดดีครับ พี่กาวน์ไม่เห็นบอกป่านเลยว่า พี่กันต์จะมาด้วย” คนที่เข้ามาเอ่ยทักพี่กันต์ ก่อนจะหันมาทางผมแล้วก้มหน้าให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย ผมเองก็ทำเช่นเดียวกัน ส่วนพี่กันต์พอได้ยินชื่อพี่กาวน์ก็ขยับมายืนใกล้กับผมมากขึ้น

“พี่กาวน์มาด้วยหรอ” พี่กันต์ถามคนที่เข้ามาทัก

“ครับ นี่พี่กับพี่กาวน์ไม่ได้นัดกันไว้หรอ ป่านก็คิดว่าพี่กาวน์ชวนพี่มาด้วยกัน” คนที่ชื่อป่านพูด

“ครบรอบแล้วใช่ไหม” พี่กันต์ถาม

“ครับ พี่กาวน์เลยพาป่านกับแม่มาทำบุญให้พี่ปอที่นี่ เดี๋ยวก็คงตามลงมา” พอป่านพูดจบพี่กันต์เลยหันหน้ามามองผม อย่างคนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ

“อ้าว กันต์” แต่ยังไม่ทันที่ผมกับพี่กันต์จะทำอะไรต่อ ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อพี่กันต์ ก่อนจะเดินเข้ามาทางจุดที่เรายืนอยู่ พร้อมกับผู้ชายอีกคนที่เดินตามหลังมาด้วย    

“สวัสดีครับ น้านาถ” พี่กันต์ยกมือไหว้ผู้หญิงที่เดินเข้ามาหา ผมเลยยกมือขึ้นไหว้ตาม ในขณะที่สายตาก็ไปอยู่ที่ผู้ชายอีกคนที่เดินมาด้วยกัน พอมองไปที่พี่กันต์ก็ยิ่งเห็นว่าเขากำลังเก็บอาการบางอย่างไว้

“มายังไงกันลูก มากับเพื่อนหรอ ไม่เห็นกาวน์บอกน้าว่ากันต์จะมาด้วย” ผู้หญิงคนนั้นพูดกับพี่กันต์

“ครับ กันต์มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้านาถจะมา พอดีกันต์แวะมาทำบุญ แล้วป่านเข้ามาทัก”

“แล้วนี่จะไปไหนกันต่อ ไปทานข้าวกลางวันกับน้านะลูก น้าไม่ได้เจอหน้าเราตั้งนาน” คำชวนของหญิงวัยกลางคนทำให้พี่กันต์ต้องหันหน้ามามองผมอีกครั้ง

“คือ กันต์มากับกร แล้วป้านิ่มก็แวะไปซื้อกับข้าวอยู่ คงไม่สะดวกนะครับน้านาถ เอาไว้โอกาสหน้ากันต์ไปหาที่บ้านแล้วกันนะครับ” พี่กันต์พยายามปฏิเสธคำชวนนั้น

“เอาอย่างนี้กันต์ก็ชวนน้านาถไปที่บ้าน แล้วแวะซื้ออะไรไปกินด้วยกันก็ได้ จะได้คุยกันด้วย” คราวนี้เป็นเสียงจากคนที่ผมกำลังมองหน้าเขาอยู่ เขาพูดและมองไปที่พี่กันต์ ส่วนผมก็พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ไปมีเรื่องกับเขา ในสถานการณ์แบบนี้มันคงทำให้พี่กันต์ลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิมถ้าผมบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป “แล้วมันไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง ถึงตีสีหน้านิ่งได้ขนาดนั้น”

“เอาไว้เราไปเจอกันที่กรุงเทพฯ ก็ได้ลูก”

“เอ่อ ถ้ายังไงน้านาถไปทานข้าวกลางวันที่บ้านกับกันต์แล้วกันนะครับ น้านาถล่วงหน้าไปก่อน เดี๋ยวกันต์ตามป้านิ่มไปซื้อของเพิ่มอีกหน่อย แล้วจะรีบตามไปนะครับ” พี่กันต์บอกออกไป

“เอาอย่างนั้นหรอลูก”

“ครับ เดี๋ยวกันต์ไปซื้อของก่อนนะครับ” พี่กันต์พูดอีกครั้ง ก่อนจะหันมาทางผม แล้วพยักหน้าบอกให้ผมเดินตามเขาออกมา พอเดินพ้นออกมาแล้ว ผมก็ยกมือขึ้นไปบีบไหล่พี่เขาเบาๆ แล้วยิ้มให้น้อยๆ เมื่อพี่เขาหันมาทางผม
.
.
.

“ไม่เป็นไรนะ” ผมถามเขา การที่ผมเลือกที่จะพูดอะไรมากนัก เพราะคิดว่าพี่กันต์คงคิดดีแล้วถึงทำแบบนี้ และมันก็คงดีกว่าถ้าพี่กันต์สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้  

“ไม่เป็นไรหรอก พี่คงหนีเขาตลอดไปไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเจอกันอยู่ดี เราไปหาป้านิ่มกันเถอะ” พี่กันต์พูดด้วยสีหน้าที่ยังไม่สู้ดีนัก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาป้านิ่ม และเดินตามไปที่ตลาด สุดท้ายเราก็ตามป้านิ่มไปซื้ออาหารทะเลเพิ่มมาอีกสามสี่อย่าง สำหรับมื้อกลางวันและเย็น ก่อนจะตรงกลับไปที่บ้าน

………………………………………………………….
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2010 23:43:44 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
พี่กันต์...เข้มแข็งเยอะๆนะ มีกรอยู่ด้วยข้างๆเป็นกำลังใจ... :กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อึดอัด  ไม่มีอะไรจะกล่าว  ขอรอตอนต่อไปก่อน
จะดูซิว่าพี่กาวน์จะทำอะไร

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
พี่กันต์น้องกร ก้าวไปด้วยกันแล้วก็จับมือกันไว้ แค่นี้ก็พอแล้วเนอะ
เดาว่าอุปสรรคยังจะตามมาอีกหลายระลอกแหงๆ :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด