ตอนที่47
ผมรีบลืมตาตื่นขึ้นมาดูทันที ที่รู้สึกว่ามีคนมาแอบลักจูบผม แต่คนที่ผมเห็นกลับเป็นต้อมครับ ต้อมมันกลับมาได้ยังไง หรือว่าผมจะฝันไปเพราะคิดถึงมันมากเกินไป ผมขยี้ตาตั้งหลายรอบแต่ก็ยังเห็นเป็นต้อมนั่งยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิม
“พี่นัท ผมกลับมาแล้ว พี่ไม่ได้ฝันไปหรอกเลิกขยี้ตาได้แล้ว” ต้อมเอามือมาจับมือผมที่กำลังขยี้ตาออก
ตอนนี้กลับเป็นผมที่ยิ้มออกมาแล้ว ผมลุกขึ้นดึงมันเข้ามากอดทันที มันกอดผมตอบ
“จะกลับมาทำไมไม่บอกพี่ละ” ผมมองหน้าต้อม เพราะผมอยากเห็นหน้ามันชัดตอนนี้
“ก็ผมจะทำให้พี่ตกใจไง แต่ทำไมดูพี่เหมือนไม่ค่อยจะดีใจเลยที่เห็นผม” ต้อมทำหน้าสงสัย
“ทำไมพี่จะไม่ดีใจละ พี่ดีใจมากที่สุดเลยรู้ไหม แล้วจะให้พี่ทำยังไงละ หรือว่าแบบนี้ดี” ผมก็ดึงหน้ามันมาจูบ
หลังจากที่เราจูบกันสักพัก “พี่นัทยังไม่ได้ล้างหน้าเลยนะ” ต้อมบอก
“อะไรไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ รังเกรียจแล้วหรอ เมื่อก่อนไม่เห็นพูด” ผมแกล้งงอนมัน
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ” แล้วต้อมก็ดึงผมเข้าไปจูบใหม่
“ไม่ว่าตอนไหนพี่ก็หอมเสมอและสำหรับผม” แล้วก็หอมแก้มผมอีกที ก่อนที่จะดึงให้ผมลุกไปอาบน้ำ บอกว่าต้องไปทำงาน
ผมอาบน้ำแต่งตัวโดยที่ต้อมนั่งมองผมอยู่ตลอดเวลา วันนี้ต้อมพาผมมาทำงานผมเดินเข้ามาคนเดียวก่อน เพราะต้อมไปหาที่จอดรถ ผมเดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่เบิกบานเป็นที่สุด ก็แฟนผมกลับมาแล้วนี่ครับ
“นัทวันนี้อารมณ์ดีอะไรมา ยิ้มมาแต่ไกลเลย” พี่น้ำทักทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามา
“นั่นสิไม่เห็นพี่นัทยิ้มแบบนี้มานานแล้วนะ” วุฒิถามต่อ
“ไม่มีอะไรหรอกครับก็แค่...” ตอนที่ผมกำลังจะบอกว่าต้อมกลับมาแล้ว ต้อมก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
ทุกคนทำหน้าตกใจนิดๆก่อนที่จะยกมือรับไหว้ต้อมกันใหญ่
“ยังว่าอยู่อะไรทำให้นัทมันอารมณ์ดีได้ขนาดนี้ ต้อมกลับมานี่เองแล้วกลับมาเมื่อไหร่ละเรา” พี่น้ำถามต้อม
“ผมเพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เองแหละครับ ถึงปุ๊บก็ตรงมาหาพี่นัทเลยครับ” ต้อมตอบยิ้มเขินๆ
ต้อมมานั่งข้างผมตลอดเวลาตอนทำงาน จนคนอื่นแซวพวกผมกันใหญ่เลย วันนี้พี่น้ำเลยให้ผมกลับบ้านเร็วกว่าปกติได้ ผมเลยได้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ
“พี่นัทวันนี้ทำกับข้าวให้กินหน่อยนะคร้าบ ผมไม่ได้กินกับข้าวฝีมือพี่นัทนานแล้วนะ อยากกินจังเลย” ต้อมเริ่มอ้อนผมแล้วครับ ถึงมันไม่อ้อนผมก็ทำให้อยู่แล้ว
“ได้สิ แต่ว่าเราอยากกินอะไรละ จะได้แวะซื้อของกันก่อน” ผมหันไปมองหน้าต้อมที่กำลังขับรถอยู่
“อืม.. แพนงหมู ผัดเห็ดรวม ต้มจืดเต้าหู้ จริงๆผมอยากกินอักเยอะเลยนะ แต่เอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวแฟนผมจะเหนื่อยเปล่าๆ” ดูมันยังไม่วายยอดคำหวานอีก
เราแวะคาร์ฟูร์กันต้อมเดินจับมือผมตลอดเลย จนคนที่นั่นมองกันใหญ่เลยแต่ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ ความดีใจมันเยอะมากกว่าตอนนี้ เราเดินเลือกซื้อของกันบ้างครั้งผมยังกอดเอวต้อมเลย ทำไงได้ละครับก็ผมคิดถึงของผมนี่ครับ เราเดินเลือกของกันหลายอย่างมาก คนก็มองพวกเราตลอดเวลาแต่ตอนนี้เราสองคนเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวแล้วครับ
“ต้อมอยากกินอะไรอีกเปล่า จะได้ซื้อไปเผื่อเลยที่เดียว” ผมหันไปถามมันขณะที่กำลังเลือกเนื้อสัตว์อยู่
“อืม.. ที่ผมอยากกินก็เหลือแต่...” ต้อมทำเงียบไม่ยอมบอก
“อยากกินอะไรละ บอกมาสิจะได้ซื้อถูก” ผมถามย้ำ
“ให้ผมพูดจริงๆหรอ” อะไรของมันนักนะแค่ของกิน ผมเลยพยักหน้า
ต้อมยื่นหน้ามาใกล้ๆหูผม “ก็พี่ไงครับที่ผมอยากกิน” ต้อมกระซิบ ผมหน้าแดงเลยตอนนี้ ผมเลยหันไปหยิกพุงมัน จนมันร้องโอ๊ยออกมา คนมองผมกันใหญ่เลย
“ไปอยู่เมืองนอกแปบเดียวกลับมาทะลึ่งเชียวนะ ไปอยู่นั่นแอบไปทำอะไรกับใครหรือเปล่า” ผมทำหน้าจริงจัง
“โห พี่คิดไปได้เนอะ ผมจะไปมีใครละเลิกเรียนก็กลับบ้านมาคุยกับพี่เลยทุกวัน” ต้อมพูดไปลูบท้องตัวเองไป
“กลับบ้านกันเถอะ ผมหิวข้าวแล้ว” ต้อมชวน
กลับมาบ้านต้อมก็เข้ามาช่วยผมทำกับข้าว ผมตั้งใจทำอย่างเต็มทีเลยวันนี้ เพราะต้อมไม่ได้กินรสมือผมนานแล้ว เรานั่งกินข้าวไปคุยกันไปมีความสุขมากเลยตอนนี้ มันไม่รู้จะพูดยังไงดีมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยครับ รู้แต่ว่ามันมีความสุขมากๆจนผมต้องยิ้มเกือบตลอดเวลาเลย
“แล้วนี่กลับมากี่วันละ แล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง” ผมถามต้อมหลังจากที่เราเก็บของกันเสร็จแล้ว มานั่งที่โซฟา
“สองอาทิตย์นะพี่ เขาหยุดยาวช่วงสิ้นปีนะครับ” ต้อมนอนตักผมนอนมองหน้าผมแล้วยิ้มตลอด
“แล้วพ่อกับแม่รู้หรือยัง” ผมเอามือลูบหัวต้อมเล่นตอนนี้
“รู้แล้วครับ ผมขอมาหาพี่ก่อนแล้ว เดี๋ยววันเสาร์อาทิตย์นี้เราค่อยไปหาด้วยกันนะครับ” ต้อมทำเสียงอ้อน
“อืมได้สิพี่ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านตั้งนานแล้วเหมือนกัน” ผมยิ้ม
“พี่นัทคิดถึงผมไหมครับ” ต้อมลุกขึ้นมานั่งมองหน้าผม
“คิดถึงสิ ทำไมจะไม่คิดถึงละ”
“คิดถึงแค่นั้นหรอครับ” เอ มันจะมาลูกอ้อนไหนของมันอีกละคราวนี้
“อ่าว คิดถึงแล้วจะให้พี่ทำยังไงละ” ผมสงสัย
“ก็นี่ไง” ต้อมมันทำปากจู๋ใส่ผม ผมก็เข้าใจทันที
ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปจูบมัน มันก็จูบตอบแล้วเอามือมาโอบคอผมไว้ไม่ให้ผมเลิกจูบมันได้
“ถึงเวลากินของที่ผมอยากกินที่สุดแล้วตอนนี้” ต้อมเงยหน้ามาทำหน้าหื่นใส่ผม
“ไม่เอาอะ จะกินตรงนี้เลยหรอ ไม่ให้กินหรอกน้ำก็ยังไม่ได้อาบเลย” ผมดันตัวต้อมไว้เพราะมันทำท่าหื่นออกมามากๆ
“ยังไงพี่ก็ไม่รอดผมหรอก อย่าถ่วงเวลาเลย ผมคิดถึงพี่มาเป็นปีแล้ว ได้แต่มองผ่านกล้องตอนที่จับต้องได้แล้ว ผมจะยอมให้เสียเวลาทำไม อดใจตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” ว่าแล้วต้อมก็จับมือผมที่ดันมันไว้ออก
ต้อมกดตัวผมให้นอนลงไปบนโซฟาทันที มือทั้งสองข้างกดมือผมไว้กับโซฟาเหมือนกลัวว่าผมจะขัดขืน จริงๆไม่ต้องกดก็ได้ผมยอมอยู่แล้วแหละครับ เล่นตัวไปงั้นแหละ อิอิ ต้อมกก้มลงมาจูบปากผมทันทีก่อนที่จะเลื่อนไปที่ส่วนอื่นๆชองร่างกาย การกลับมาครั้งนี้ของต้อมดูเหมือนจะหื่นมากเลยทีเดียวกับเรื่องนี้ เพราะต้อมเล่นซะผมเข่าอ่อนไปเลยที่เดียวคืนนั้น กว่ามันจะเลิกได้ก็ปาเข้าไปตี 3 ไม่รู้มันเอาเรียวแรงมาจากไหนของมันสิ
วันนี้ผมหมดแรงไปทำงานไม่ไหวแล้ว ผมเลยโทรไปขอลาหยุดกับพี่น้ำ แกก็ไม่ได้ว่าอะไรอีกอย่างวันนี้วันศุกร์ด้วยงานไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว หลังจากผมโทรไปลางานตอนเช้าเสร็จผมก็หลับต่อ จนมารู้สึกว่ามีอะไรเย็นที่แก้ม ผมเลยลืมตาขึ้นมาดูก็เห็นต้อมมันเอาปากคาบน้ำแข็งมาถูแก้มผมอยู่ ดูมันสิครับคิดวิธีปลุกแต่ละอย่าง
“อืม อะไรอีกละ พี่ยังไม่หายง่วงนอนเลย” ผมบอก
“ไม่เอาวันนี้พี่นัทหยุดงานทั้งที ไปเที่ยวกันเถอะนะนี่ก็สายมากแล้วด้วย” ต้อมเขย่าแขนผม
“อยู่บ้านที่แหละดีที่สุดแล้ว พี่ยังเพลียอยู่เลย”
“ถ้าอยู่บ้านระวังจะเพลียกว่าเดิมนะ ว่าไงเลือกเอา” ดูมันข่มขู่ผมสิครับ นึกว่าผมจะกลัวหรือไง ก็ผมอยากนอนนี่ครับตอนนี้
“ไม่ไปจริงๆใช่ไหม” ว่าแล้วต้อมมันก็จับผมพลิกตัวให้งายหน้ามองมัน มันขึ้นมานั่งบนตัวผมแล้วตอนนี้ หน้ามันหื่นไม่ต่างจากเมื่อคืนเลย ถ้าเป็นแบบเมื่อคืนอีกผมตายแน่ๆ
“ยอมแล้วๆ พี่ไปเที่ยวด้วยก็ได้ ลุกจากพี่ก่อนนะๆ” ผมอ้อนมันแทนแล้วตอนนี้
“จริงๆนะพี่จะไปเที่ยวกับผมจริงๆนะ” ต้อมยิ้มออกมาแทนแล้วตอนนี้ มันรีบลุกขึ้นแล้วดึงตัวผมให้เข้าไปอาบน้ำทันที
ผมแต่งตัวเสร็จลงมาหาต้อมที่นั่งรออยู่ข้างล่าง พอมันเห็นผมลงมามันก็รับดึงมือผมไปขึ้นรถทันที พอขึ้นรถได้ต้อมก็ขับรถออกไปทันที แล้วตกลงนี่มันจะพาผมไปไหนกันนี่
“ต้อมตกลงเราจะไปไหนกัน ยังไม่ได้บอกพี่เลย” ผมหันไปถาม ต้อมมันก็ยิ้มแต่ไม่ยอมบอก
ผมเห็นมันไม่บอกผมก็ไม่ถามต่อ รู้แต่ว่ามันกำลังขับรถออกไปตจวแน่ๆ
“เออ แล้วนี่หนุ่ยรู้หรือยังว่าเรากลับมาแล้ว” ผมถามเรื่องอื่นแทน
“ยังหรอก ผมไม่ได้บอกใครเลย มีแต่พอกับแม่ผมที่รู้” มันหันมามองหน้าผมแปบหนึ่งก่อนจะพูดต่อ
“อะไรผมไม่อยู่แค่นี้ เป็นห่วงกันมากเลยหรอ” ดูมันกวนผมสิ
“อ่านะ หาเรื่องอีกแหละ ก็รู้อยู่นี่นาว่าพี่คิดกับมันแค่น้อง หาเรื่องแบบนี้อยากให้พี่อารมณ์เสียใช่เปล่า” ผมแกล้งทำหน้าไม่พอใจ
“พี่นัทผมล้อเล่นครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ไม่คิดอะไร พี่อย่างอนนะเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก” มันมาง้อผมแล้วทีนี้ คิดจะแกล้งใครให้มันรู้ซะบ้าง เหอๆๆ
“รู้แล้วพูดทำไมละ” ผมยังแกล้งต่อ
“โอ๋ๆๆ พี่นัทหายงอนนะนะนะ” มันเอามือมาจับมือผมไว้
“ฮ่า ฮ่า” ผมเผลอหัวเราะออกมาจากท่าทางของต้อมที่มันคิดว่าผมโกรธจริง จนมันหันมามองหน้าผม
“ล้อเล่น ฮ่า ฮ่า อยากมาแกล้งพี่ก่อนทำไมละ” ผมยังขำค้างอยุ่เลย
“ร้ายนะพี่นัท ฝากไว้ก่อนเดี๋ยวคืนนี้จะเอาคืน” พอได้ยินคำนี้ผมเริ่มจะขำไม่ออกแล้ว ถ้ามันทำแบบเมื่อคืนอีก ผมคงตายคาอกมันแน่ๆคืนนี้
“ไม่เอาแล้วนะ แบบเมื่อคืนนะพี่ไม่ไหวแล้วนะ” กลายเป็นฝ่านอ้อนมันแล้วตอนนี้
“ไม่มีทางอยากมาอำผมก่อนทำไม คืนนี้ไม่รอดแน่” ต้อมยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้วคราวนี้
ผมสิครับแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ขับรถมาสักพักผมก็พอจะเดาออกแล้วว่าต้อมพาผมมาที่ไหน ก็ตลาดน้ำที่ผมชอบมานี่เอง ตลาดน้ำอัมพวาผมจะชอบมาบ่อยมากๆ เพราะใกล้กรุงเทพฯแถมยังเป็นบ้านยายผมด้วย แล้วที่ตลาดน้ำยังมีของกินโบราณๆที่ผมชอบมากมายอีกด้วย
ผมคงยังไม่เคบบอกสินะครับว่าผมนะชอบกินขนมโบราณมากที่สุดเลย คงเพราะผมอยู่กับปู่ย่าตายายมาตั้งแต่เล็กนะครับ แต่มันก็อร่อยนะครับแต่กินเยอะแล้วอ้วนนะครับระวังกันด้วย
เราเดินเลือกซื้อของกินของฝากเยอะมาก เพราะว่าจะเอาไปฝากพ่อกับแม่ต้อมพรุ่งนี้ด้วย เราเดินกันจนคนเริ่มเยอะเราก็กลับกัน เพราะเรามาเดินกันตั้งแต่ช่วงบ่ายๆแล้ว
“เย็นนี้ไปกินข้าวที่ไหนดีละ” ผมถามต้อมเพราะเย็นมากแล้วกลับไปทำคงไม่ทันกินแน่ๆ
“ไปกินร้านไอ้หนุ่ยกันดีกว่า ผมอยากเจอมันด้วยวันนี้มันน่าจะอยู่ร้านนะ” ต้อมบอกมันคงคิดถึงเพื่อนรักมันเหมือนกัน
“อืมก็ดีเหมือนกัน พี่มีเรื่องเคลียกับที่นั่นเหมือนกัน” ผมนึกถึงเรื่องที่พนักงานว่าผมเป็นแฟนกับหนุ่ย
“เรื่องอะไรหรอพี่ แล้วทำไมไม่บอกไอ้หนุ่ยมันจัดการให้ละ” ต้อมทำหน้าสงสัย
ผมก็เล่าเรื่องพนักงานที่ร้านนั้นให้ต้อมมันฟัง ต้อมก็หัวเราะใหญ่เลย แถมยังบอกว่าผมใจร้าย แค่ยอมเป็นแฟนเพื่อนมันเฉพาะในร้านก็ไม่ได้ ผมเลยบอกว่าจะให้เป็นไหมละ พอเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ยอม โธ่แล้วทำเป็นมาปากดีทีแรก ผมโทรถามหนุ่ยก่อนว่าอยู่ร้านหรือเปล่า บอกว่าจะเข้าไปกินข้าวแต่ไม่ได้บอกว่าต้อมมาด้วย
ผมเดินเข้าไปในร้านคนเดียวก่อนเพราะอยากทำให้หนุ่ยแปลกใจ พอพนักงานเห็นผมเดินเข้ามาก็รีบวิ่งมาต้อนรับเอาหน้ากันใหญ่เลย มันคงคิดว่าแฟนเจ้าของร้านมาแล้วต้องรีบเอาใจหน่อยละมั้ง
พนักงานพาผมมานั่งโต๊ะที่ผมนั่งประจำกับหนุ่ย ผมนั่งสักพักหนุ่ยก็เดินออกมาหา คงเพราะมีคนไปบอกมันแน่ๆ พอมันเดินมาถึงโต๊ะ ผมก็บอกว่ามีคนอยากเจอหนุ่ย แต่เขาอายไม่กล้าเข้ามาเดี๋ยวขอโทรไปตามแปบ หนุ่ยทำหน้างงผมก็โทรไปบอกให้ต้อมเข้ามา
ตอนนั้นหนุ่ยไม่ได้สนใจคนอื่นเท่าไหร่ ชวนผมคุยเรื่องอื่นไปทั่ว จนต้อมเดินมาถึงหนุ่ยยังไม่รู้ตัว ต้อมเลยตบหัวมันไปทีหนึ่ง หนุ่ยตกใจรีบหันไปมองทันที
“เฮ้ย ไอ้ต้อมมาได้ไงวะ” ว่าแล้วหนุ่ยลุกขึ้นไปกอดต้อมทันที พนักงานในร้านมองมาที่โต๊ะผมกันใหญ่เลย พนักงานร้านหนุ่ยหน้าจะไปทำงานนักสบเนอะ ช่างสนใจเรื่องชาวบ้านดีจริงๆ
“เออ กูเอง ได้ข่าวว่าจะตีท้ายครัวกูหรอไงมึงนะ” ดูมันทักเพื่อนมันดิครับ กวนซะไม่มีเลย
“กูแค่ช่วยมึงดูแลเท่านั้นเอง กลับมาก็ปากหมาเลยนะ อีกอย่างทำอย่างกับพี่นัทเขายอมกูยังงั้นแหละ” หนุ่ยบอกมันกลับ
“เออ แล้วเป็นไงบ้าง ร้านใกล้เจ้งหรือยัง” ดูมันยังไม่วาย
หนุ่ยตบหัวมันทันที “ปากหมาจริงนะมึงนะ ตกลงไปเรียนวิชาปากหมากลับมาใช่มะ”
“กูล้อเล่น แต่มึงสบายดีนะ หน้าตาแจ่มใสเชียว”
“เออ สบายดีแต่มึงกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกันบ้างว่ะ” หนุ่ยถาม
ต้อมคุยกับหนุ่ยสักพักหนุ่ยก็ขอกลับไปเคลียบัญชีก่อนเพราะจะสิ้นเดือนแล้ว อีกอย่างมันคงอยากให้ผมได้อยู่กับต้อมสองคนแน่ๆ
เราสั่งกับข้าวมาสองสามอย่าง ระหว่างนั่งกินต้อมมันคอยตักข้าวมาป้อนผมบ่อยๆ บางครั้งผมก็ป้อนมันเหมือนกัน พนักงานในร้านเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกแล้ว คงคิดว่าผมพาแฟนใหม่มาเยาะเย้ยเจ้านานมันหรือไง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ นานหนุ่ยก็จะเดินมาคุยกับผมแหละต้อมที จนกินข้าวเสร็จผมก็ไปเข้าห้องน้ำล้างมือเหมือนเดิม
“พี่ตกลงพี่เลิกกับคุณหนุ่ยแล้วหรอ” พนักงานสองคนเจ้าเก่าเดินเข้ามาถามผม
“ผมบอกตอนไหนว่าเป็นเป็นแฟนหนุ่ย ผมว่าเคยบอกไปแล้วนะ” ผมตอบเรียบๆ สงสัยมันสองคนจะชอบหนุ่ยอยู่แน่ๆ ถึงได้เดือดร้อนกันนัก
“แล้วพี่ก็มีแฟนคนเดียวก็คือคนนี้แหละ จำใหม่ด้วยนะ” แล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ มันสองคนนี่อะไรกันก็ไม่รู้ เดี๋ยวบอกให้หนุ่ยไล่ออกเลยดีมั้ยนะ แต่ก็อดสงสารไม่ได้อีกผม
หลังจากกินเสร็จผมก็กลับมาบ้านก่อนกลับไม่ลืมเอาของฝากให้หนุ่ย หนุ่ยยังบ่นๆว่าไปเที่ยวไหนไม่ชวนกันบ้าง ต้อมก็บอกว่าคนเขาจะสวีทกัน ผมเริ่มสงสัยเหมือนหนุ่ยแหละ ว่าตกลงมันไปเรียนวิชาปากหมากลับมาใช่เปล่าเนี่ย
พอกลับมาถึงบ้านผมอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เพราะพรุ่งนี้จะไปหาพอ่กับแม่ต้อมกัน ตอนที่ผมกำลังจะปิดไฟนั่นเอง ต้อมก็ขึ้นมาทับตัวผมไว้ทันที
“ผมยังไม่ลืมเรื่องเมื่อกลางวันนะ ถึงเวลาเอาคืนแล้วตอนนี้” พอต้อมมันพูดแค่นั้นแหละ มันก็กดมือผมไว้กับที่นอนทันที
“ไม่นะต้อม เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปบ้านพ่อกับแม่ไม่ไหว” ผมบอกเพื่อให้มันเลิกหื่น
“ไม่มีทาง พี่ไม่มีแรงผมก็อุ้มพี่ไปได้ อย่าคิดว่าจะรอดเลยคืนนี้” แล้มมันก็ไม่ได้ผลจริงๆ
........................................
ไปเวียนเทียนกันนะครับวันนี้