ผู้กำกับ กำลังหาผู้ช่วยผู้กำกับ หรือว่าหานักแสดงคนใหม่
ส่วนนักแสดงอีก 2 ตัว จะเป็นใคร คงต้องรอผู้กำกับสั่งให้ออกมาแสดง
วินเซ็นต์ โดนสั่งให้ออกไปจากเรื่องแต่ดันไม่เล่นตามบท
แล้วพี่นาย จะกำกับให้คชานนท์ เป็นยังไงต่อไป ปวดหัวไหมน้าคุณผู้ชม
+1 เป็นกำลังใจให้พี่นาย ตอนนี้คงกำลังหาบทลงให้วินเซ็นต์อยู่แน่เลย
เขียนตอนจบ The End เสร็จไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ ตอนนี้กำลังแกะลายแทงลายมืออีตาคฑาวุธอยู่ พิมพ์ไปก็หาวนอนไปเลยได้ทีละเล็กละน้อย แล้วตอนนี้ลูกชายกำลังริอ่านจะมีแฟน เลยต้องคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
Awoot Chapter 24
วินเซนต์เดินเข้ามาในร้านอาหารฝรั่งเศสหรูหราแล้วแจ้งต่อพนักงานต้อนรับว่ามาพบคชานนท์ พนักงานนำเขาเดินผ่านร้านอาหารส่วนหน้าเข้าไปยังอีกส่วนซึ่งอยู่ด้านหลัง ส่วนนี้ดูกว้างขวางและประดับตกแต่งสวยหรูกว่า
ในที่สุดเขาก็จะได้พบตัวจริงของคนที่เคยได้ยินแต่เสียง 'สั่งการ'
ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อ 'ขอความช่วยเหลือ' ในการ 'ช่วย' คนที่จมอยู่กับความทุกข์ในอดีตให้พบกับรักใหม่วินเซนต์ไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก แต่เมื่อคชานนท์เสนอสิ่งตอบแทนซึ่งเป็นข้อมูลลับเฉพาะที่เขากำลังต้องการเพื่อเป็นการแลกกับการทำงานซึ่งคิดแล้วว่าไม่ยากลำบากอะไรเขาจึงยอมตกลง แต่ครั้นเมื่อรู้ว่า 'คนที่จมอยู่กับความทุกข์ในอดีต' คนนั้นเป็นใครเขาก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เขาควรจะหายตัวไปเลยและทิ้งให้คชานนท์จัดการเอาเองต่อไป
ถ้าหากเขาไม่เกิดชอบภาณุวัฒน์เข้าไปจริงๆ!
พนักงานเดินนำวินเซนต์มาจนถึงด้านในสุดของร้านอาหารซึ่งตกแต่งเลียนแบบพระราชวังสมัยเก่าของฝรั่งเศส เขาเห็นคชานนท์นั่งจิบไวน์คนเดียวอยู่ที่โต๊ะใกล้มุมห้อง คชานนท์ยังดูเด็กมาก ความจริงเขาตรวจสอบภูมิหลังของคชานนท์มาแล้วและแปลกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มอายุกำลังจะครบสามสิบปีคนนี้มี 'อิทธิพล' ทางด้านการเงินและมีเส้นสายในองค์กรต่างๆ ในระดับที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เขาเห็นรูปภาพของคชานนท์เพียงไม่กี่รูปแต่ส่วนมากไม่ค่อยชัด เมื่อเห็นตัวจริงก็อยากจะบอกว่า คชานนท์นั้นเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยที่แต่งตัวเป็นผู้ใหญ่ด้วยการสวมสูทสีเข้มเพื่อให้ดูแก่เกินอายุ
“คุณวินเซนต์ สายัณต์สวัสดิ์ครับ ยินดีที่ได้เจอกันในที่สุด” คชานนท์เงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทาย “เชิญนั่งครับ จะดื่มอะไรดี”
วินเซนต์ตอบคำเดียวว่าต้องการดื่มน้ำแล้วนั่งลงช้าๆ คชานนท์หันไปพูดกับบริกร
“คุณจบจากฮาร์วาร์ด ทำไมพูดสำเนียงอังกฤษ” วินเซนต์ถาม
“ผมจบจากอ๊อกฟอร์ดด้วย คุณเช็คประวัติผมไม่ละเอียดหรือครับ” คชานนท์ยิ้มบางๆ
วินเซนต์หรี่ตา อยากจะยอมรับกับตัวเองว่าเขาพลาด แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าคชานนท์อาจแกล้งพูด เขามีความรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เจ้าเลห์ไม่ใช่่ย่อย
“ผมไม่ได้คิดว่าคุณเป็นอาชญากร เลยไม่ได้คิดจะตรวจสอบข้อมูลลึกๆ”
“โล่งอก” คชานนท์พูดเป็นภาษาไทย ถอนหายใจแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามวินเซนต์เป็นภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันว่า “เราจะคุยกันเป็นภาษาอะไรดีครับ จะให้ผมพูดสำเนียงอเมริกันก็ได้นะ ผมพูดได้หลายภาษา หลายสำเนียงเหมือนคุณนั่นล่ะ แต่ภาษาญี่ปุ่นพูดไม่ได้ เพราะไม่เห็นความจำเป็นผมเลยไม่ได้เรียน”
“ผมจะไม่อ้อมค้อม ที่ผมนัดคุยกับคุณก็เพราะอยากจะบอกคุณว่าผมไม่ยอมรับข้อเสนอ” วินเซนต์ไม่ตอบคำถามคชานนท์เพราะรู้ว่่าชายหนุ่มจงใจ 'กวน' เขา
“ข้อเสนออันไหน อันแรกหรืออันที่สอง” คชานนท์ตอบกลับเป็นภาษาไทยแม้วินเซนต์จะพูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ
“ถ้าอันแรก คุณอยากยกเลิกก็เชิญ อันที่สอง ผมบอกได้เลยตอนนี้ว่าผมไม่ยอมรับ” วินเซนต์ตอบเป็นภาษาไทย
“ความจริง คุณก็ทำตามข้อตกลงจนเสร็จสมบูรณ์ ข้อเสนออันแรกผมจะไม่ติดใจ ผมจะให้ส่ิงตอบแทนคุณไปเลย แม้ว่าคุณจะไม่ทำตามสัญญาก็ตาม” คชานนท์ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้วินเซนต์
“ผมชอบภาณุวัฒน์” วินเซนต์ยังไม่รับซอง คชานนท์จึงวางลงบนโต๊ะแล้วดันซองไปใกล้วินเซนต์
“ถ้าแค่ชอบ ไม่พอหรอก ต้องรัก” คชานนท์พูดช้าๆ ชัดๆ “ต้องรักเท่านั้นผมถึงจะปล่อยคุณไป”
“ปล่อยผม” วินเซนต์ยิ้มเยาะ “คุณมั่นใจมากเลยยังงั้นสิ”
“ไม่มากผมก็ไม่กล้าพูดกับคุณแบบนี้หรอก” คชานนท์สวนกลับ “ถามจริงๆ คุณชอบภาณุวัฒน์แล้วภาณุวัฒน์ชอบคุณหรือเปล่า”
“ตอนนี้โจ้ย้ายไปอยู่กับผม”
“เพราะเขาอยู่กับพี่วุธของเขาไม่ได้ต่างหาก”
“มันไม่สำคัญ”
“เพื่อนของผมบอกว่าภาณุวัฒน์อยากอยู่กับพี่วุธ นั่นก็หมายความว่า...” คชานนท์เลิกคิ้วข้างเดียว จงใจทิ้งท้ายประโยค
“ผมรู้ว่าโจ้อยากอยู่กับเขา” วินเซนต์ตอบ “ผมถึงบอกว่าไม่สำคัญ”
“ไม่สำคัญยังงั้นหรือ” คชานนท์เลิกคิ้ว
“เป็นคุณจะทำยังไง คุณจะอยู่กับคนที่คุณรัก หรือคนที่รักคุณ” วินเซนต์ถาม
“อ๋อ ตอนนี้คุณยอมรับออกมาแล้วหรือว่ารักภาณุวัฒน์”
“ผมชอบ” วินเซนต์ตอบเสียงเข้ม “ชอบมาก และอีกหน่อยก็คงจะรัก และรักมากขึ้นกว่าเดิม”
“นานเท่าไหร่” คชานนท์เลิกคิ้วอีกครั้ง “นานเท่าที่พี่วุธรักพี่ชายของคุณหรือเปล่า หรือรักมากเท่านั้นหรือเปล่า”
“คุณต้องการอะไรคุณคชานนท์” วินเซนต์ถามเสียงห้วน “ทำไมคุณไม่บอกผมตั้งแต่แรกว่าผู้ชายคนนี้คืออาวุธ แฟนเก่านที”
“มันเป็นแผนของผม คุณไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ก็ไม่สำคัญเพราะพี่วุธเป็นคนไปบอกคุณเองว่าเขาเป็นใคร ที่คุณเกิดมารู้ว่าเขาเป็นใครแล้วเป็นปัญหาอยู่แบบนี้ไม่ใช่ความผิดของผม แต่ข้อตกลงของเราก็คือ คุณเข้ามาจีบภาณุวัฒน์ ทำให้พี่วุธรู้สึกหวง พอคุณเอาภาณุวัฒน์ไปไว้ที่บ้านคุณย่า ภารกิจคุณก็จบ ผมจะดำเนินการต่อเอง คุณทำให้แผนผมปั่นป่วน”
“คุณให้จักราวุธไปยุ่ง” วินเซนต์พูดเสียงเข้ม
“บอกแล้วไงว่าผมจะจัดการต่อเอง” คชานนท์ตอบกลับเสียงเข้มเช่นกัน
“ผมก็บอกแล้วไงว่าผมชอบภาณุวัฒน์”
“ผมจะเอาภาณุวัฒน์ให้พี่วุธ”
“คุณเป็นใครถึงจะมาเล่นกับชีวิตและหัวใจของคน” วินเซนต์เค้นเสียง เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด
“ผมเป็นคนห่วงเพื่อนพี่ชายผม หรือพูดได้ว่าเป็นพี่ชายผมก็ยังได้ พี่วุธติดอยู่ในกรงขังของอดีต ตัดจากนทีไม่เคยขาด ตอนนี้เขามีโอกาสที่จะ...”
“คุณคิดตื้นๆ” วินเซนต์แทรกด้วยเสียงฉุนเฉียว “คุณคิดหรือว่าผู้ชายคนนั้นจะลืมนทีได้ เขาให้โจ้สวมเสื้อกันหนาวตัวโปรดของนที เดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน เหมือนเห็นนทีมีชีวิต เขาต้องการปกป้องดูแลโจ้เพราะเขารู้สึกผิดที่ปกป้องนทีไม่ได้ ทั้งที่โจ้ไม่ได้มีอะไรเหมือนนทีเลย นั่นเพราะเขาต้องการหลอกตัวเองว่าเขาลืมนทีแล้ว ไม่ได้เอาใครมาเป็นตัวแทนของคนที่เขารัก แต่ที่จริงเขายังไม่ลืม เขาสร้างภาพของนทีขึ้นมาอีกแบบหนึ่ง แบบที่ซับซ้อนมาก คุณไม่สงสารโจ้บ้างหรือ คุณให้โจ้ไปหลงรักคนที่ไม่มีหัวใจเหลือไว้ให้ใครอีก ถ้าสารวัตรอาวุธอยากจมอยู่กับอดีตก็ให้เขาอยู่ไป อย่าลากโจ้เข้าไปเกี่ยวด้วย อย่าทรมานโจ้ของผม”
“ภาณุวัฒน์รักพี่วุธ แล้วอีกหน่อยพี่วุธก็จะรักภาณุวัฒน์” คชานนท์ตอบ “ภาณุวัฒน์อยู่กับคนที่เขารักนั่นดีแล้ว”
“โจ้อยู่กับผม อีกหน่อยก็จะรักผม ผมถามอีกครั้ง เป็นคุณจะทำยังไง คุณจะอยู่กับคนที่คุณรัก ทั้งที่เขาไม่รักคุณ บอกผมซิ คุณจะทนรักเขาได้นานแค่ไหน หรือคุณจะอยู่กับคนที่รักคุณ...”
“แล้วรอว่าเมื่อไหร่ คุณจะเปลี่ยนไปรักคนที่รักคุณยังงั้นหรือ” คชานนท์สวนกลับ “ไม่ว่ามองมุมไหน ทฤษฎีของคุณมันก็วนเป็นงูกินหาง ลองมองมุมนี้สิ พี่วุธอาจจะใจอ่อนเพราะภาณุวัฒน์เป็นคนน่่ารัก ในที่สุด ภาณุวัฒน์ก็จะมีความสุข ถ้าภาณุวัฒน์อยู่กับคุณก็อาจจะลืมพี่วุธไม่ได้ เมื่อไหร่คุณจะทำให้ภาณุวัฒน์เปลี่ยนไปรักคุณ คุณก็บอกไม่ได้ ไม่แน่ อาจจะหลังจากที่พี่วุธเจอใครซักคนที่ทำให้เขาลืมนทีได้และมีรักครั้งใหม่ คุณบอกผมซิ ตอนนั้น ใครจะเสียใจบ้าง ที่แน่ๆ ภาณุวัฒน์นั่นล่ะจะเสียดายโอกาสที่เสียไป”
“ถ้าผมรักโจ้ ผมควรจะเสียสละให้โจ้ได้มีโอกาสงั้นหรือ” วินเซนต์ถามเสียงเคร่งเครียด “ถ้าโจ้ต้องทนทุกข์ รักคนที่ไม่รักเขา และผู้ชายคนนั้นไม่ใจอ่อนซักที ผมก็ขอถามคุณเหมือนกัน ถึงตอนนั้นใครบ้างที่จะเสียใจ”
คชานนท์เบือนหน้าออกไปด้านข้าง ถอนหายใจเบาๆ ยอมรับว่าตัวเองพูดไม่ออก ความจริงเขารู้ว่าประเด็นนี้เถียงกันอย่างไรก็ไม่มีฝ่ายใดจะชนะได้
...อยู่กับคนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา...
...บ้าจริงๆ ต่อไปก็เถียงกันเรื่องไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันดีไหมล่ะ...
“ที่แน่ๆ หนึี่งในนั้นคงไม่ใช่คุณหรอก” เสียงของวินเซนต์ดังขึ้น “เพราะคุณเป็นผู้กำกับละคร ไม่ใช่ตัวเแสดงในเรื่อง”
“คุณจะเอายังไง” คชานนท์หันมาพูดกับวินเซนต์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ต้องการข้อสรุปเพราะรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถ 'คุม' การสนทนาให้ไปในทางที่ตัวเองต้องการได้
“บอกไว้ก่อน ผมไม่ยอมเป็นพระเอกผู้เสียสละหรอก” วินเซนต์ลุกขึ้นพร้อมกับดึงธนบัตรใบละหนึ่งเหรียญดอลลาร์สวางไว้ข้างแก้วน้ำของตัวเองแล้วเดินจากไปทันที ปล่อยให้คชานนท์มองตามด้วยสายตาไม่พอใจปนครุ่นคิดก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“งั้นก็เป็นผู้ร้าย”
อาวุธไม่อยากจะเชื่อว่าข้อมูลที่ได้มาจากพันเอกชัยชนะนั้นมีข้อผิดพลาด หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่านาวาอากาศเอกจักราวุธไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองของแก๊งค์ค้ายาเสพติดผิวดำในดีทรอยด์
ความจริงจักราวุธกำลังหาทางหลบออกจากสหรัฐอเมริกา
จุดหมายปลายทางของจักราวุธทำให้เขาแปลกใจยิ่งนัก
เคนยา!
นทีเคยทำงานอยู่ที่เคนยา มีเพื่อนเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเคนยาสองสามคน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาเขตร้อน เคยมาทำวิจัยที่ประเทศไทยและอีกหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเสียชีวิตในมะมิลาเมื่อสองปีที่แล้วเพราะถูกฆ่าชิงทรัพย์
ชัยชนะอึ้งไปชั่วครู่เมื่อเขาโทรศัพท์ไปคุยเกี่ยวกับเรื่องจักราวุธและบอกว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นผิดพลาด แต่ชัยชนะก็ขอแก้ตัวด้วยข่าวกรองชิ้นใหม่
...จักราวุธจะมาโผล่ที่ตึกยูเอ็น ห้องทำงานเก่าของนทีซึ่งตอนนี้เป็นห้องทำงานของล่ามชาวญี่ป่นซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของนทีเอง...
อาวุธก้าวเท้าออกจากลิฟท์และเดินไปตามทางเดินซึ่งนำไปสู่ห้องทำงานของล่ามพิเศษภาคพื้นแอฟริกา เขาอ่านชื่อประเทศหน้าห้องทำงานเล็กๆ แต่ละห้องไปหยุดอยู่ที่
เคนยา
เอเชีย ทัตสึโคชิ
อาวุธสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ตามองป้ายหน้าห้องซึ่งแสดงชื่อประเทศ ชื่อของล่าม และภาษาที่ล่ามแปล
ญี่ปุ่น...สวาฮิลี...ภาษามืออเมริกัน...
อาวุธยกมือขึ้นกำลังจะเคาะประตูแต่ก็ต้องชะงักเพราะประตูเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังจะเดินออกมา เขาเดาว่านี่คือเอเชีย ทัตสึโคชิ ชายหนุ่มลูกครึ่งตาเรียวเล็กคนนี้นัยน์ตาสีเขียว ผิวสีแทน ผมสีน้ำตาลเข้ม
“สวัสดีตอนบ่ายครับ สารวัตรอาวุธใช่ไหมครับ” คนที่เปิดประตูออกมาเลิกคิ้วพร้อมกับยิ้มกว้าง พูดกับอาวุธเป็นภาษาอังกฤษแต่ออกเสียงชื่อของอาวุธเป็นสำเนียงภาษาไทยชัดเจน
“ผมมาหา...”
“สวัสดีครับ ผมคือเอเชีย ทัตสึโคชิครับ” เอเชียตอบเป็นภาษาไทยสำเนียงแปร่งเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ “ผมรู้ว่าคุณจะมา แต่คนที่คุณอยากพบเขากลับไปแล้ว ผมรั้งเขาไว้ไม่ได้”
“นาวาอากาศเอกจักราวุธ”
“แจ๊ค คนรักเก่านที” เอเชียตอบด้วยเสียงราบเรียบ
แต่สำหรับอาวุธ เสมือนเป็นเสียงฟ้าผ่า!
...แจ๊คกับนทีเป็นเรื่องเศร้า...
คำพูดของคุณย่าเวโรนิก้าดังขึ้นมาในหัวของอาวุธ ขณะนี้เขารู้สึกเหมือนถูกสาปให้ยืนนิ่งเป็นหิน
พูดอะไรไม่ออก!
...นทีกับจักราวุธนามสกุลเหมือนกัน...
...แจ๊คเป็นคนรักเก่าของเนท หรือนที...
...แต่คนรักเก่าของนทีคนเดียวที่เขารู้จักคือแอนโทนี่ บราวน์ สารวัตรมือปราบของ NYPD และแอนโทนี่ไม่เคยพูดถึงจักราวุธเลย...
“ผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมนทีรักคุณมาก คุณกับแจ๊คกี้เหมือนกันเหลือเกิน บุคลิก ลักษณะท่าทาง โครงหน้า แววตา เวลาที่คุณมองคนอื่นด้วยสายตาผิดหวัง เห็นคุณแล้วผมมีความรู้สึกว่าเห็นแจ๊คกี้ยืนอยู่ตรงหน้า คุณเป็นเหมือนภาพสะท้อนของแจ๊คกี้” เอเชียเอียงหน้ามองอาวุธอย่างพิจารณา
“ผมเคยเห็นรูปจักราวุธ ผมไม่คิดว่าผมเหมือนเขาหรือเขาเหมือนผม” อาวุธแย้งเสียงแผ่วเบา
“รูปก็คือรูป” เอเชียยักไหล่ “ตัวจริงต่างหากที่สำคัญ แจ๊คกี้ไม่เหมือนรูปถ่าย เขาชอบบ่นว่ารูปเขาไม่เหมือนตัวจริง”
“คุณสนิทกับเขา”
“มากครับ เราทำงานด้วยกันมานาน” เอเชียยิ้มให้บางๆ แวบหนึ่งอาวุธนึกเปรียบกับรอยยิ้มเย็นๆ ของอนุภาพ
“อ้อ สารวัตรเข้าไปรอให้ห้องก่อนนะครับ ผมต้องเอาเอกสารนี่ไปให้หัวหน้า ไม่เกินห้านาทีผมจะกลับมา ผมมีอะไรจะคุยกับคุณเยอะมาก รอผมนะครับ อย่าไปไหน”
อาวุธพยักหน้าแล้วยืนมองเอเชียก้าวเท้ายาวๆ จากไปจนลับตาก่อนจะเข้าไปห้องทำงานของชายหนุ่มและกวาดสายตามองไปรอบๆ ในใจหวังอยู่ลึกๆ ว่าอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้นึกถึงนที
ห้องทำงานของเอเชียโล่งมาก มีเพียงโต๊ะกับเก้าอี้และตู้ใส่หนังสือสีดำซึ่งปิดสนิท บนโต๊ะทำงานมีเพียงโทรศัพท์หนึ่งเครื่องและแฟ้มเอกสารวางอยู่กลางโต๊ะ ข้างโต๊ะมีถังขยะพลาสติกสีเทาและรองเท้ากีฬาสีขาวใหม่เอี่ยมคู่หนึ่ง ต่างจากเมื่อครั้งที่เคยเป็นห้องทำงานของนทีซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดย่อม
…
...ผมรักคุณ...
...เขาบอกรักนทีในห้องนี้ก่อนที่จะพานทีเดินทางกลับไปประเทศไทยและสูญเสียนทีไปตลอดกาล...
...ผมนึกว่าคุณจะไม่พูดซะแล้ว คุณนี่ปากแข็งจริงๆ เลย เก๊กมาดเท่อยู่ได้นานเกินไป...
...คุณรู้จักคำว่าเท่ด้วยหรือ...
...คุณตำรวจครับ ผมรู้ว่าภาษาไทยผมไม่ได้เรื่อง แต่ผมก็มีคำพูดดีๆ ในหัวมากอยู่เหมือนกัน คุณไม่เคยรู้หรอก...
...งั้นบอกอะไรผมดีๆ ให้ผมได้ยินหน่อยซิ...
อาวุธเดินไปยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เหม่อมองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย
...นที ผมคิดถึงคุณมาก...
***end of chapter 24***