คริคริ เสร็จแล้วค่ะ เอาตอนต่อไปมาส่งแล้วนะคะ
เขียนนานมากอีกตามเคย ก็นะ.....บทแบบนี้มันเขียนยากนี่นา

มาอ่านกันเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ และขอบคุณทุกๆคลิกที่เข้ามาอ่านนะคะ

ไม่พูดมากดีกว่า เขิน.....กร้ากกกกกกกกกกกส์
.......................
.......................
ตอนที่๔๕ ก็คิดถึง....
“พี่ฟ้า เลี้ยวผิดแล้ว เข้าเมืองมันทางโน้น”“....................”
เงียบ.....ไม่มีเสียงตอบจากปากของพี่อากาศที่ตอนนี้กลายร่างเป็นจอมเจ้าเล่ห์ไปแล้ว นอกจากสีหน้าระรื่นอารมณ์ดีจนเกินเหตุ
แถมยังเพิ่มระดับความกวนอารมณ์ด้วยการฮัมเพลงหงุงหงิงในคออีกต่างหาก
“พี่ฟ้า?”
“ลักพาตัวคุณแฟนออกมาได้ตามแผนแล้ว ข้ออ้างก็ไม่ต้องคิดเองด้วยสิ หึๆๆ”
“นี่......นี่หมายความว่า....”
โถ......ตัวป่วนเอ๊ย น่าจะชินได้แล้วนะกับความเจ้าเล่ห์และเป็นจอมวางแผนของพี่อากาศแกน่ะ
ดูตาซินั่น เบิกโตได้กว่านี้อีกมั้ย แล้วไอ้อาการจะยิ้มก็ไม่ใช่จะบึ้งก็ไม่เชิงนั่นมันอะไร
พี่อากาศตัวโตเหลือบตามองหน้าไอ้หนูป่วนมันแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบรับไป
“ก็อย่างที่คิดนั่นแหละครับ ดีใจจัง คุณแฟนของพี่ทั้งน่ารักทั้งเข้าอกเข้าใจ ไม่ต้องมาอธิบายอะไรให้มากความ อย่างนี้รักตายเลย”
น้ำเสียงเรียบๆเรื่อยๆนั่นพูดเรื่องแบบนี้ได้อย่างกับเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ ไอ้หนูป่วนมันเลยหมั่นไส้ หมั่นไส้มากด้วย
ตัวป่วนมันตวัดสายตามองไปที่สีหน้าระรื่นกับดวงตาวะวับของคุณแฟนตัวโตที่ทำหน้าที่ขับรถไปแถมอารมณ์ดีจนฮัมเพลงหงุงหงิงในคอไป
แล้วเลยสะบัดหน้าพรืดหันออกไปมองนอกหน้าต่าง
“จะกลับบ้าน”“ฮะ? ตัวป่วนว่าไงนะครับ?”
“ผมบอกว่าจะกลับบ้าน จะเลี้ยวรถกลับดีๆหรือว่าจะต้องให้รู้สึกแย่มากกว่านี้”
ไม่ใช่แค่เสียงแข็งๆ แต่หน้ามันก็หันออกไปทางกระจกด้านข้างไม่ยอมมองมาทางคนขับเลยสักนิด
“โกรธที่พี่หลอกเหรอครับ? พี่ฟ้าขอโทษนะ ก็พี่คิดถึงตัวป่วน อยากกอดอยากจูบ อยากทำอะไรๆอีกตั้งมากมาย แต่อยู่บ้านทำไม่ได้สักอย่างนี่นา”
“...........................”
“ไหนบอกจะยอมตามใจพี่ไงครับ พี่ไม่ง้อแล้วนะ เห็นอย่างนี้พี่ฟ้าก็น้อยใจเป็นนะ”เอาแล้วไง เสียงอ่อนๆอ่อยๆเมื่อกี้นี้เริ่มจะไม่อ่อนเสียแล้ว แถมยังบอกกันโต้งๆเลยด้วยว่าคราวนี้จะไม่ยอมง้อ
ไอ้หนูป่วนที่กะจะแกล้งคนแก่อีกสักครั้งเลยหมดสนุก หันกลับมาหาคนตัวโตแต่ใจน้อยที่หักรถเข้าจอดแอบข้างทางมันดื้อๆ
แล้วก้มหน้ามองมือตัวเอง ที่ประสานกันอยู่บนตัก แสดงท่าว่ากำลังน้อยใจจนคนมองใจอ่อน
ก็นะ ไอ้หนูป่วนมันกะจะแกล้งคนแก่เล่นตั้งแต่แรก ไม่ได้โกรธจริงจังอะไรสักหน่อย ก็แค่....หมั่นไส้ไอ้อาการลั้ลลาออกนอกหน้าของคุณแฟนก็เท่านั้นเอง
“โอ๋ๆๆ พี่ฟ้าคนดี หัวก็ไม่ล้านสักหน่อย ทำไมใจน้อยอย่างนี้ล่ะ.....”
แน่ะ ทำเงียบ จะยิ้มก็ยิ้มออกมาเลยน่าพี่อากาศ ปั้นหน้านิ่งต่อไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ เมื่อยแก้มเปล่าๆ
“......ก็พี่คิดถึง......” ก้มหน้าซ่อนยิ้ม แล้วคิดเหรอพี่อากาศว่าไอ้หนูป่วนมันจะไม่รู้ทัน
แล้วดูสิ ดูตัวป่วนมันทำมันปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองแล้วเลื้อยข้ามฝั่งไปวางศีรษะลงกับตักของคนขับรถ
แถมพอเห็นท่าคนขับรถจะเงยหน้าหนีมันยังเอื้อมมือทั้งสองข้างขึ้นโอบไว้รอบคอไม่ยอมให้ขยับหนีอีก
“ฮึๆๆยิ้มแล้วนี่นา ยิ้มแล้วจริงๆด้วย แกล้งทำงอนเรียกร้องความเห็นใจงั้นสิ?”
“เฮ้อ.....ถูกจับได้ซะแล้ว”
พี่อากาศไม่ฝืนตัวเองไว้ต่อไปแล้ว ถนนข้ามอำเภอสองข้างทางมีแต่ต้นไม้รกๆครึ้มๆ ไม่ต้องกังวลถึงสายตาคนรอบข้างแบบนี้
พี่แกเลยจัดการก้มลงไปแตะปากลงกับปากแดงๆที่เผยอยิ้มล้อเลียนนั่นแรงๆเสียหนึ่งครั้ง
“อืม.....ครั้งนี้ออกเสมอ.....”
“หมายความว่าไงครับ?”
“ก็ พี่ฟ้าแกล้งน้อยใจ ผมก็แกล้งไม่พอใจไง”
นั่นไง คนแกล้งไม่พอใจเลยได้รางวัลเป็นการจูบแบบดูดวิญญาณอีกหนึ่งครั้ง
พี่อากาศแกเล่นก้มหน้าลงประกบปาก แล้วทำเหมือนจะสูบลมออกจากปอดตัวป่วนมันจนหมด
จนไอ้ตัวเล็กมันจิกเล็บลงกับหลังคอนั่นแหละ พี่อากาศถึงยอมปล่อยให้ปากแดงๆนั่นเป็นอิสระ
ไอ้หนูป่วนอ้าปากสูดอากาศที่อยู่ในสถานะก๊าซไม่ใช่อากาศตัวโตๆจับต้องได้ตรงหน้าเข้าไปเฮือกใหญ่
แล้วใช้เวลาตั้งสติอีกสามวินาทีก่อนจะปล่อยคำพูดออกจากปากได้
“ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เพิ่งจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้แฟนผมกินลมเป็นอาหาร.....”“ใครบอกว่ากินลม เมื่อกี้พี่สูบวิญญาณตัวป่วนตะหาก”
“เหรอ....งั้นป่วนก็ไม่มีแรงแล้วสิ ทำไงดีล่ะ ลุกไม่ไหว คงต้องนอนอยู่อย่างนี้แล้วล่ะ.....”
ไม่ใช่แค่พูด แต่ไอ้หนูป่วนมันทำท่าไร้เรี่ยวแรงได้เหมือนจริงจนน่าขัน มือที่โอบอยู่รอบคอพี่อากาศถูกปล่อยทิ้งลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
น้ำหนักตัวที่ตอนแรกเกร็งหน้าท้องไว้ไม่ทับลงกับตักคนขับรถเต็มๆก็ไม่มีการยั้งอีกต่อไปแล้ว แถมยังหลับตาแน่นิ่งไปเลยอีกต่างหาก
“หึๆๆ”
หัวเราะกับท่าทางของคุณแฟนตัวเล็กได้หน่อยพี่อากาศก็จัดการก้มหน้าลงไปอีกครั้ง คราวนี้เลยทำการถ่ายวิญญาณคืนให้เจ้าของร่างเสียเต็มที่
เริ่มด้วยการแตะจูบลงไปเบาๆซ้ำๆจนไอ้ตัวที่นอนหนุนตักมันเผยอริมฝีปากออกจากกัน
แล้วค่อยสอดลิ้นเข้าไปทักทายกับลิ้นของมันอีกนิด พอไอ้หนูป่วนมันเริ่มเคลิ้มตามปล่อยให้เสียงครางเบาๆเล็ดลอดออกมา
พี่อากาศก็จัดการเลื่อนมืออีกข้างที่ไม่ได้ประคองแก้มตัวป่วนมันอยู่มาบีบเข้าที่ปลายจมูกไอ้ตัวขี้แกล้งซะ
“อื้อ!?”
ตกใจเลยสิ เปลือกตาที่หลับพริ้มถึงได้เบิกกว้างขึ้นทันทีแบบนั้น แต่ก่อนที่มันจะได้โวยวายเพราะขาดอากาศ
พี่อากาศตัวโตก็จัดการป้อนอากาศเข้าไปทางปากของไอ้หนูป่วนมันแทน
ป้อนอากาศให้เสร็จพอจะผละออก ก็ถูกไอ้ตัวดีรั้งไว้ด้วยการยกตัวตามขึ้นมาแล้วตาของมันก็จ้องเป๋งอยู่ที่ริมฝีปากพี่เขาแทน
พี่อากาศแกเห็นสายตาแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าคุณแฟนตัวเล็กยังไม่อิ่มจูบ ก็เลยตามใจ
ดันตัวมันให้กลับไปอยู่บนเบาะคนนั่งเหมือนเดิมแล้วตัวเองก็โน้มตัวตามไปมือหนึ่งประคองที่ท้ายทอย อีกมือเอื้อมไปดันปุ่มที่ใช้ปรับเบาะให้เอนลงไปอีก
จูบไปจูบมามือใหญ่ๆก็เริ่มเลื้อยลูบไล้ไปตามแผ่นอกของไอ้ตัวเล็กๆบางๆนั่น อีกมือก็จัดการละจากท้ายทอยเลื่อนลงไปเลิกเสื้อยืดเนื้อนุ่มขึ้น
ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อเนียนๆโดยตรง
“อา.......พี่ฟ้า อื้ม....”
“หืม?”
“พอ พอก่อน......อะ อา.....”
เมื่อปากเป็นอิสระ ไอ้หนูป่วนมันก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่ควรไปกวนอารมณ์เสือหิว ก็ตอนนี้พี่ฟ้าของมันไม่ยอมละทั้งปากทั้งลิ้นออกจากตัวมันเลย
ทั้งดูดทั้งเลียระเรื่อยไปตามซอกคอ
ฝ่ามือที่เมื่อแรกยังเย็นด้วยละไอแอร์ในรถก็กลับกลายเป็นฝ่ามืออุ่นจัดที่พุ่งเข้าใส่เป้าหมายทั้งด้านบนด้านล่าง
ไอ้หนูป่วนมันก็รู้ตัวว่าถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ต้องไปถึงไหนกันแล้ว คงได้จบลงบนรถทั้งอย่างนี้แน่ๆ
แต่จะถดตัวถอยหนีก็ไม่มีที่ให้ถอย ขยับถอยฝังตัวลงกับเบาะรถไปก็ไม่ได้เพิ่มความลำบากในการรุกรานเนื้อตัวของมันจากพี่อากาศขึ้นเลยสักนิด
“พี่....ฟ้า........หยุดก่อน อืม....”
“พี่ไม่อยากหยุดนี่นา หอมจังเลย......จะตรงไหนก็หอมไปหมด พี่อยากหอมตัวป่วนทั้งตัวเลยนะครับ”ดูสิ พี่อากาศแกหยุดที่ไหน ปากพูดก็จริง แต่ไปกระซิบอยู่ตรงริมหู คางสากๆนั่นก็ขยับถูไถอยู่ตรงลาดไหล่ของตัวป่วนมัน
ตัวป่วนมันรวบรวมสติ สูดลมหายใจเข้ายาวๆผ่อนคลายอาการหอบ แล้วยกมือที่เป็นอิสระแต่กลับไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาปิดปากคุณแฟนตัวโตเอาไว้
“งั้น.....พอก่อน นะพี่ฟ้า”
“ไออ๊ายยยยยยย”
พี่อากาศหลับตาปี๋ลงแวบหนึ่ง แล้วพอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเจ้าแววตาที่เมื่อกี้ยังปกคลุมไปด้วยอารมณ์พิศวาสก็เลือนไปเกือบหมดแล้ว
ตัวป่วนมันเห็นอย่างนั้นก็ค่อยยิ้มออก ยิ้มเขินๆอายๆของมันไปตามเรื่องแหละ
ก็รู้ตัวนี่ว่าเมื่อกี้เป็นฝ่ายไปกระตุ้นต่อมหื่นของคุณแฟนก่อน พี่อากาศแกดีแค่ไหนแล้วที่หยุดตัวเองได้ทุกครั้งที่มันขอร้อง
“ง่า......ผมไม่ได้ใจร้ายสักหน่อย”
ตัวป่วนมันจัดการปล่อยมือที่ปิดปากคุณแฟนออก แล้วออกแรงดันให้คนที่โน้มมาคร่อมไว้แทบจะทั้งตัวกลับไปประจำที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
“ไม่ร้ายได้ยังไง อย่างนี้แหละเขาเรียกหลอกให้อยากแล้วจากไป คนทำแบบนี้ได้....ใจร้ายทุกคน”
“ก็ ก็เห็นบอกว่าอยากหอมทั้งตัวไม่ใช่เหรอ..... แล้ว....แล้ว ในรถมันก็แคบจะตาย.....แล้ว.....”
“แล้ว?”
“ก็ แคบๆอย่างนี้ จะหอมทั้งตัวได้ยังไง.....”
พูดเองก็เขินเองนะนั่น ขนาดอยู่ในรถมีฟิล์มกันแสงขนาดนี้ยังเห็นเลยว่าหน้าไอ้ตัวคนพูดมันแดงไปถึงหู
จากที่แดงเพราะกิจกรรมเมื่อครู่ ตอนนี้พอหยุดกิจกรรมไว้ได้
แทนที่หัวใจจะได้พัก กลับจะต้องมาเหนื่อยต่อเนื่องเพราะบทสนทนาหัวข้อแคบไม่แคบนี่อีก
ว่าแล้วก็นะ เขินทั้งทีก็เขินให้มันสุดๆไปเลยแล้วกัน ไอ้หนูป่วนจัดการคว้าข้อมือซ้ายคนขับรถที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆมาพลิกดูเวลาแก้เขิน
นาฬิกาดิจิตอลที่หน้ารถมีก็ลืมไป เพราะความเขินมันบังตา มัวแต่ก้มหน้างุดๆไม่กล้ามองไปที่อื่น เพราะกลัวจะต้องสบตากับคุณแฟน
“จะสิบโมงแล้ว บอกแผนให้บอกแม่จะกลับก่อนพ่อถึงบ้านไม่ใช่เหรอ.....มีเวลาเหลืออีกหกชั่วโมง จะไปไหนก็ไปสิ”“หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
พี่อากาศทนเฉยกับความน่ารักของคุณแฟนไม่ไหว ก็เอามือข้างที่ตัวป่วนมันเพิ่งวางคืนมาให้บนหน้าตักนั่นแหละ คว้ามือไอ้ตัวเล็กมันได้ก็จับมาจูบหนักๆลงไปที่กลางฝ่ามือ
อยากจะมองหน้าสบตาให้หวานซึ้งบ้างก็รู้ว่าไอ้ตัวเล็กที่ก้มหน้างุดๆอยู่มันอายจนเข้าโหมดเป็นใบ้ไปอีกแล้ว
เลยจับมือน้อยๆชื้นเหงื่อนั่นวางบนเกียร์แล้วตัวเองก็กุมทับไว้อีกชั้น ปลดเบรกแล้วเคลื่อนรถต่อไปทันที
.........................................
.........................................
พี่อากาศน่ะ แกเตรียมพร้อมวางแผนหลอกล่อไอ้หนูป่วนมันออกจากบ้านจริงๆนะ แกเล่นขับรถย้อนไปตามทางที่มาจากกรุงเทพ ออกจากอำเภอที่บ้านพ่อกับแม่ตั้งอยู่มาเกือบๆยี่สิบนาที แกก็เลี้ยวรถกลับ แล้วอีกแค่สองร้อยเมตรก็เห็นป้ายข้างทางเป็นลูกศรใหญ่เบ้อเริ่มบอกทางไปไร่ลุงอินรีสอร์ท
“พี่รู้หรอกว่าพ่อกับแม่ตัวป่วนกว้างขวางแค่ไหน ดีไม่ดีเราเข้าไปโรงแรมใหญ่ๆจะมีคนโทรรายงานพ่อตาพี่ ว่าเห็นลูกชายถูกลุงที่ไหนไม่รู้ล่อลวงมาเข้าโรงแรม”
“รอบคอบจริงนะ เรื่องแบบเนี้ย”
“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ หึๆๆๆ”
“แล้วถ้าเจ้าของไร่ลุงอินรู้จักพ่อล่ะ พี่ฟ้าจะทำไง?”
“ไม่เห็นจะยาก พี่ฟ้าก็จะทำหน้าง่วง แล้วแกล้งบ่นพอให้พนักงานเขาได้ยิน ว่า เฮ้อ....พี่เหนื่อยจังเลย ขับรถมาตั้งแต่ชุมพรรวดเดียว ตาจะปิดแล้ว ยังไงขอนอนก่อนนะ ไม่งั้นพาตัวป่วนไปไม่ถึงบ้านแน่ๆ”
“เจ้าเล่ห์แสนกล แถมยังเจ้ามารยาอีก ฮ่าๆๆๆ”
“โห......ขับรวดเดียวมาจากชุมพรเลยหรือคะ ดีแล้วค่ะที่แวะพักก่อน”
“ขอบ้านหลังที่เตียงใหญ่ๆนะครับ ผมนอนดิ้น แล้วยิ่งอดนอนมาอย่างนี้ด้วย หลับลึกแล้วเดี๋ยวดิ้นตกเตียงเจ็บตัวอีก”“งั้นคงต้องเปิดบ้านเตียงคู่ให้ แล้วน้องชายล่ะคะ? จะสะดวกรึเปล่า?”
“ตัวเล็กนี่ไม่ต้องห่วงครับ คงจะนั่งดูหนังรอผมตื่นแหละ หลับมาเกือบจะตลอดทางอยู่แล้ว”
“งั้นตามมาทางนี้เลยค่ะ สัมภาระไม่ต้องเอาลงเนอะ เพราะกะนอนพักแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะไปต่อใช่มั้ยคะ?”
“ครับ ตื่นเดียวก็พอ แต่คิดราคาแบบเต็มวันไปเลยนะครับ ไม่ต้องคิดรายชั่วโมง หึๆๆ”
“ไร่เราไม่มีแบบรายชั่วโมงอยู่แล้วล่ะค่ะ แล้วน้องตัวเล็กล่ะคะ หิวมั้ย จะสั่งอาหารอะไรมั้ยคะ?”
ลูกสาวคนโตไร่ลุงอินที่ทำหน้าที่ทั้งพนักงานต้อนรับทั้งผู้จัดการทั่วไป แถมพนักงานบัญชีในคนเดียวที่เดินนำไปตามทางที่ปูด้วยหินขัดเหลียวหน้ากลับมาถาม
ทันได้เห็นท่าทางแปลกๆของสองคนข้างหลังที่เหมือนคนตัวโตจะถูกทำร้ายร่างกายด้วยวิธีอะไรสักอย่างจากคนตัวเล็กจนต้องงอตัวพร้อมสูดปากแบบไร้เสียง
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดแต่ว่า พี่น้องคู่นี้หน้าไม่เหมือนกันก็จริง แต่สนิทกัน เล่นกันน่ารักน่าเอ็นดู
“เอ่อ.....ไม่ครับ พี่มีน้ำเปล่าอยู่ในบ้านแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ค่ะ มีน้ำเปล่าอยู่ในตู้เย็นสองขวดนะคะ อ้ะ....นี่ค่ะบ้านหลังนี้แหละ”
เดินนำไปถึงเรือนปีกไม้หลังเล็กกะทัดรัดยกพื้นขึ้นไปด้วยความสูงบันไดสามขั้น ก็จัดการส่งกุญแจให้กับคนที่บอกว่าเป็นพี่ทันที
“พักผ่อนให้สบายนะคะ น้องตัวเล็ก ถ้าต้องการอะไรใช้โทรศัพท์ในบ้านกดศูนย์เรียกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ตัวป่วนมันส่งยิ้มให้พี่สาวใจดีไปหนึ่งครั้ง แล้วถึงค่อยๆก้าวตามคนตัวโตที่ทำท่าปิดปากหาวแล้วก้าวพรวดๆแค่สองก้าวเข้าไปในบ้านเรียบร้อย
พอล่วงผ่านประตูเข้าไปเท่านั้นแหละคนที่เข้ามารออยู่ก่อนก็จัดการดันประตูปิดแล้วกดล็อคทันที
“อ๊ะ!!”ไม่ปล่อยให้ตั้งตัว พี่อากาศก็จัดการจับไอ้ตัวบางๆนั่นพาดบ่าพาเดินเข้าไปลึกถึงส่วนของห้องนอนทันที
มือก็ฟาดไม่เบานักลงไปบนสะโพกงอนๆที่ขยับล่อตาอยู่ตามจังหวะก้าวเดินของพี่แกเอง
“อ๊อยยยย เจ็บนะ ตีทำไมอ้ะ?”
จัดการวางไอ้หนูป่วนลงกับเตียงนุ่มๆที่มีผ้าปูที่นอนสีชมพูอ่อนสะอาดตาได้พี่แกก็เริ่มถอดเสื้อผ้าทั้งท่อนบนท่อนล่างของตัวเองออกทันที
“ก็เมื่อกี้ตัวป่วนหยิกพุงพี่ก่อนนี่ พี่ตีก้นเบาๆเอง จะได้หายกันไง?”
“เบาที่ไหน มือพี่ฟ้าใหญ่เบ้อเริ่ม แถมยังมือหนักอีก แดงแหงๆ”
ปากก็บ่นไป แล้วไหงมือแกถึงเริ่มปลดเสื้อผ้าตัวเองแบบนั้นล่ะไอ้หนูป่วน เอ้า....นั่น หน้าแดงแบบนั้นมันเขินนี่หว่า
เขินจนต้องหันหลังให้พี่เขา แต่มือก็ยังไม่หยุดเนอะ
ดูมันทำ ถอดเสื้อออกเสร็จก็เริ่มลดมือลงปลดกระดุมกางเกงขาสั้นของตัวเองต่ออีกด้วย
“ว้า......ชักช้าไม่ทันใจ มานี่มา พี่ถอดให้เอง”
พี่อากาศจัดการจับไอ้ตัวที่คุกเข่าหันหลังให้อยู่ดึงทั้งชั้นนอกชั้นในลงในคราวเดียว
พอกางเกงทั้งสองชิ้นมาค้างคาอยู่ตรงข้อพับเข่า พี่แกก็จัดการกดไหล่ไอ้ตัวเล็กลงไปอยู่ในท่าคลาน
ให้มันใช้มือทั้งสองข้างพยุงตัวไว้ แล้วจึงดึงกางเกงที่เกะกะขวางทางพรวดเดียวหลุดออกมาจนหมด
“แดงจริงๆด้วย เจ็บมั้ยครับ พี่ขอโทษนะ.....เห็นแล้วมันหมั่นเขี้ยว อดใจไม่ไหวนี่นา”
พี่อากาศแกไม่ถามเฉยๆ แกยังแตะจูบเบาๆลงตรงสะโพกขาวๆที่มีรอยแดงเป็นปื้นนั่นด้วย
อีกมือก็ลูบอ้อมไปด้านหน้าไล้เบาๆสลับหนักไปตามหน้าท้องที่เกร็งไม่เป็นจังหวะตามอารมณ์หวั่นไหวของเจ้าของ แล้วมือซุกซนเลยระเรื่อยลงมาถึงส่วนที่ต่ำกว่า
“อื้อ.......พี่ฟ้า......”
ตัวป่วนมันคงไม่รู้ตัวหรอกว่าท่าทางที่มือไม้สั่นจนต้องฟุบตัวลงกับเตียงปล่อยให้สะโพกขาวๆลอยเด่นแบบนั้น แล้วยังการขยับไปมาหนีมือที่รุกรานนั่น
ยิ่งทำให้คนมองแทบอดใจไว้ไม่ไหว
พี่อากาศยอมห่างจากร่างเล็กๆที่กำลังสั่นไหวไปทั้งตัวเพียงเสี้ยวนาทีเพื่อหยิบเจลจากเป้ที่สะพายติดมาพร้อมเท่านั้น
เมื่อกลับมาอีกครั้งก็เห็นว่าไอ้ตัวเล็กมันทั้งๆที่ยังอยู่ในท่าเดิมแต่พลิกหน้ากลับมามองหา
“อือ......พี่ฟ้า อื้อ.....”
“พี่อยู่นี่.....แยกขาออกอีกนิดนะครับ”
พระโอบน้องประคองนวลจนเกินกลั้น แรงกระสันสวาทหวังไม่อาจฝืน
จึ่งถอนทั้งองคุลีออกกลับคืน แล้วค่อยกลืนเขฬะทั้งกลั้นใจ
สอดประสานแทรกกายรวมเป็นหนึ่ง ค่อยขยับโยกคลึงยิ่งหวั่นไหว
เจ้าน้องน้อยก็สะท้านทุกคราวไป ไม่ทันไรถึงจุดหมายทั้งสองรา
พลิกกายลงกอดนวลไว้แนบอก แล้วจึงยกหัตถ์น้อยแนบนาสา
พร่ำซ้ำซ้ำย้ำว่ารักอีกหลายครา เจ้าเมตตาพี่บ้างเป็นอย่างไร
เจ้าตัวจ้อยสะเทิ้นอายว่าไม่กล้า ซุกพักตราแนบอุระไม่ขานไข
พระแย้มยิ้มพริ้มอยู่ด้วยชอบใจ ลุกขึ้นนั่งทันใดตามใจตน
รั้งกรน้อยค่อยขยับให้ซ้อนตัก น้องประท้วงขอพักก็ไร้ผล
ต้องยอมอ่อนตามใจคนแสนกล เปลี่ยนคำบ่นเป็นคำรักไม่เว้นวาย..........................
..........................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..
แอบมาแปะภาคผนวกคำแปลเล็กน้อยค่ะ กลัวเด็กน้อยไม่เข้าใจจะเสียอรรถรส
องคุลี....นิ้ว(ชี้)
เขฬะ....น้ำลาย
นาสา.....จมูก
อุระ.....อก
กร.....แขน
ปล.กลอนบทนี้ เรทมากๆ เรทมากมาย แว้กกกกกกกกกกกก