มาแล้วค่ะ มาต่อแล้ว อิอิ
พยายามจะให้คนอ่านเห็นภาพตาม แต่ไม่รู้จะสำเร็จไหม ยังไงอย่าลืมเมนท์บอกคนเขียนนะคะ
น้องกระต่ายน้อย คุณMercy มามะ ไม่ต้องนอนรอค่ะ มาอ่านต่อได้แล้ว

คุณtvemmyxq ฟ้ากับชมพู น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก คริคริ
.......................
.......................
ตอนที่๙ เรื่องของคุณพี่อากาศ“ค่ะ พี่ภพชื่อชมพูหรือคะ?”
ไอ้คุณนุ่น ตรงไปตรงมาน่ะดี แต่ขอหน่อยได้มั้ย สังเกตอารมณ์คนถูกถามเสียบ้าง พี่ภพหน้าเข้มตาคมเริ่มจะออกอาการไปไม่เป็นเสียแล้ว
คำตอบบางอย่างใช้การสังเกตเอาก็พอ ไม่ต้องรอเจ้าตัวเขายืนยันหรอก
“ไอ้นุ่นพอเลย คือพวกผมอยากถามเกี่ยวกับพี่ชายของพี่ภพอะพี่” เออ มันต้องอย่างไอ้คุณแผนนี่ ค่อยได้เรื่องได้ราวหน่อย
“ป่วนแกถามดิ พี่เขารออยู่” อ้าว ไอ้นี่ชิ่งเพื่อนซะงั้น
“โห่.........” ไอ้นุ่นยังอุตส่าห์ส่งเสียงประท้วง
“เออๆ ไอ้น้องนุ่นแกไม่ต้องทำหน้าอยากรู้อยากเห็นขนาดนั้น อย่างที่ได้ยินแหละ พี่ชื่อเล่นว่าชมพู รู้แล้วก็แล้วไป แต่ห้ามเอาไปเรียกล่ะ เข้าใจมั้ย” พี่ภพก็แสนดี เห็นลูกกะตาหมาน้อยอยากรู้อยากเห็นของไอ้นุ่นก็ใจอ่อนต้องมายอมรับกับมันซะอีก
“น่ารักออกพี่ภพ ไม่เห็นน่าอายเลย นุ่นชอบอ้ะ พี่ชมพูๆ”
“นุ่น พอได้แล้ว” ไอ้คุณนุ่นดี๊ด๊า ยิ้มจนตาหยีเรียกพี่ชมพูซ้ำๆ เสียงอ่อนเสียงหวาน
สงสัยไอ้แผนมันจะทนไม่ไหวถึงกับกระซิบดุ แถมส่งสายตาโหดๆไปปรามอีก
ว่าแต่ที่ทนไม่ไหวนี่มันเกรงใจพี่ชมพู รึว่าอิจฉาที่พี่ชมพูได้ยิ้มจากไอ้คุณนุ่นกันแน่หว่า ตอนนี้มันคงคิดแหละว่าถ้าพ่อกับแม่ที่บ้านตั้งชื่อมันว่าชมพูบ้างก็คงดี ฮ่าๆๆ
“แบร่ๆๆ ดุเพื่อน บาปนะแก ชิ” เออ ปัญญาอ่อนแท้ ดูมันทำ แลบลิ้นหลอกไม่พอ ตบท้ายด้วยสะบัดหน้าค้อนให้อีกหนึ่งวง
แล้วแทนที่ไอ้คุณแผนมันจะโกรธ มันกลับทำมุมปากกระตุกๆเหมือนจะกลั้นยิ้มซะงั้น
แถมยังส่งสายตาเยิ้มๆไปให้ไอ้คุณนุ่นอีกหนึ่งที
ส่วนไอ้คุณนุ่นน่ะเรอะ ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยตามเคย ไม่รู้เพราะไฟมันมืดรึเพราะว่ามันความรู้สึกช้ากันแน่
.........................
.........................
“พี่ภพ พี่ชายพี่คือคนที่ส่งของมาให้ป่วนเหรอ?” ตัวป่วนมันค่อยๆเริ่มแล้ว
“อืม ส่วนใหญ่ฟ้ามันก็ฝากพี่มาแหละ แต่มันกำชับนักหนาไม่ให้พี่เอาไปให้เอง ให้ส่งต่อให้คนอื่นส่งให้ป่วนแทน”
ตอนนี้เพื่อนนุ่นกับเพื่อนแผนมันปิดปากเงียบ ปล่อยหน้าที่ถามให้เป็นของไอ้ตัวป่วน
ส่วนมันสองคนก็แบ่งหน้าที่กันแจกจานแจกช้อน แล้วก็คีบน้ำแข็งพร้อมทั้งรินน้ำบริการเต็มที่
“แล้วเมื่อเย็นที่พี่เอามาให้เอง?”
“อืม..อย่างที่เราเข้าใจแหละ ฟ้ามันบอกว่าวันนี้ให้พี่เป็นคนให้กับมือป่วนให้ได้”
ป่วนมันถามอะไรไป พี่ชมพูแกก็ตอบด้วยท่าทางและน้ำเสียงเรื่อยๆ
ระหว่างนั้นส้มตำน้ำตกที่สั่งไปก็ถูกพี่เก็บตังค์หน้านิ่งคนเดิมทยอยยกมาตั้งเรียงบนโต๊ะ
“พี่..เอ่อ พี่ฟ้าเขาทำแบบนี้ทำไมน่ะพี่ภพ แล้วเขารู้จักป่วนได้ยังไง” ตัวป่วนมันถูกดึงความสนใจไปอยู่ที่ข้อมูลที่หวังจะได้เสียหมด จนแม้แต่อาหารมื้อใหญ่ยั่วน้ำลายตรงหน้ายังดึงดูดมันไม่ได้เลย
แล้วก็นะ ทำไมเวลาพูดชื่อคุณพี่ฟ้า หน้ามันถึงต้องแดงด้วยหว่า
“อันนี้พี่ตอบไม่ได้ว่ะ ฟ้ามันว่าเรื่องนี้มันจะบอกกับป่วนเอง หึๆๆ” พี่ชมพูมันพูดจบก็หัวเราะตบท้าย
ปากพี่แกหัวเราะน้อยๆก็จริง แต่ลูกกะตานี่สิ บอกออกมาหมดแล้วว่าเจ้าตัวมันรู้สึกสนุกกับการมองสีหน้ามุ่ยๆของไอ้รุ่นน้องตัวป่วนตรงหน้าแค่ไหน
ตอนนี้พี่ชมพูมันได้แต่คิด เออ ไอ้น้องกลุ่มนี้นี่มันตลกดีเว้ย
ไอ้ตัวป่วนนี่คิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมด
ไอ้นุ่นก็ไม่รู้โง่หรือบ้า พออยากรู้อะไรก็ถามเสียตรงไม่มีอ้อมค้อมบ้างเลย แต่เรื่องที่คนอื่นอยากให้รู้มันกลับไม่รับรู้ไม่สนใจ
ส่วนไอ้น้องแผนนั่นยิ่งตลก ทำเป็นนิ่งทำเป็นเงียบ แต่หูหางนี่กางเป็นจานเรดาร์ เตรียมพร้อมเก็บข้อมูลทุกอย่างเต็มที่
มันคงเป็นห่วงเพื่อนมากแน่ๆ นี่ดีนะที่มันแสดงออกชัดเจนว่าชอบเพื่อนอีกคน ไม่งั้นต้องนึกว่ามันกับไอ้ตัวป่วนว่าที่พี่สะใภ้เป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนแหงๆ
แต่คนที่คิดอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าหมดแบบไอ้ตัวป่วนนี่มันซื่อดี แถมยังตลกจนน่าขัน กับแค่พูดชื่อฟ้าออกมาก็ถึงกับหน้าแดงไปถึงหูขนาดนั้น
ฟ้ามันตาแหลม ที่มาสนใจน้องคณะคนนี้...ถ้าได้อยู่ใกล้คนแบบนี้คงแกล้งเพลิน ไม่มีวันเบื่อแน่
แล้วดูสิ พอบอกมันไปว่าคำถามนี้ฟ้ามันจะมาตอบเอง เจ้าตัวป่วนมันก็สะดุ้งขึ้นทั้งตัว
แล้วหลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตามองจานน้ำตกหมูตรงหน้าอย่างกับไม่เคยพบเคยเห็น
สงสัยมันจะอายเพราะฟ้าแน่ๆ ชักอยากรู้ว่าฟ้ามันไปทำอีท่าไหนไว้ไอ้รุ่นน้องที่เคยทะลึ่งทะเล้นถึงกับอายม้วนแค่คิดว่าจะได้พบหน้าอย่างนี้
“อ้าว เลยเงียบเลย เรียกพี่มาจะถามแค่เนี้ยอ้ะนะ?”
“ก็..ไม่รู้จะถามอะไรดี เดี๋ยวถามไปพี่ภพตอบไม่ได้อีก” เสียงอ่อยมาเชียวไอ้ป่วน
“งั้นชั้นถามแทนแกเอง พี่ภพ พี่ฟ้าเขามีแฟนแล้วรึยังคะ?” เออ ไอ้นี่มาแนวกลัวเพื่อนถูกหลอกไปเป็นน้อย
“ฮ่าๆๆ ไม่มีๆ ตอนนี้ฟ้ามันโสด”
“พี่ฟ้าอายุเท่าไหร่แล้วคะ? แล้วพ่อกับแม่พี่รู้รึเปล่าว่าพี่เขาชอบผู้ชาย? ถ้ารู้แล้วท่านคิดยังไง สนับสนุนรึว่าต่อต้าน? แล้วที่พี่บอกว่าตอนนี้โสด แปลว่าก่อนหน้านี้ไม่โสดใช่มั้ย? แฟนเก่าพี่เขาเป็นคนยังไงคะ แล้วเขาเลิกกันเพราะอะไร?...” ไอ้ตัวป่วนอึกอักอ้ำอึ้งดีนัก ต้องอย่างเพื่อนนุ่นนี่ สงสัยมันจะถามเอาโล่
“เฮ้ย..พอก่อนๆ รัวซะ ช้าๆก็ได้ กินไปตอบไปนะ พี่หิว ขืนให้ตอบคำถามปืนกลของแกพี่ก็แย่งไส้ย่างไม่ทันพวกแกพอดีดิ” ไอ้พี่ชมพูเริ่มจิ้มของกินใส่ปากแล้วก็เริ่มตอบทีละคำถาม
“ฟ้ามันจะ 25 ปลายปีนี้แหละ” ตอบหนึ่งคำถามก็จิ้มข้าวเหนียวกับน้ำส้มตำแล้วหย่อนใสปาก
“โห..แปลว่าจบตรีแล้วไปทำงานมาก่อนสินะคะ แล้วทำไมพี่เขาถึงมาเรียนต่อล่ะ?” ไอ้นี่ก็น่าจะเหมาะไปทำงานสัมภาษณ์ หาเรื่องมาถามได้เรื่อยๆจริงๆ
“ใช่ ฟ้ามันเรียนจบตรีบัญชี แล้วก็ทำงานธนาคารอยู่เกือบๆสองปี ถึงค่อยลาออกมาเรียนต่อ”
“แปลกอ้ะ มาเรียนต่อคนละสายเลย แต่เดี๋ยวก่อน เอาคำถามต่อไปก่อนค่ะ ตกลงว่าพ่อกับแม่พี่รู้รึเปล่าว่าพี่ฟ้าเขาชอบผู้ชาย?”
“รู้ ก็แฟนคนก่อนของฟ้ามันก็ผู้ชาย แล้วมันก็เคยพาไปเจอพ่อกับแม่มาแล้ว” ถึงตรงนี้ น้ำเสียงของไอ้พี่ชมพูก็ยังเรื่อยๆอยู่นั่นเอง
“แล้วพ่อกับแม่พี่ว่าไงบ้าง?” ปากไอ้ตัวป่วนเริ่มกลับมาทำหน้าที่ได้อีกครั้ง ดูสีหน้าแล้วก็รู้ว่ามันกังวล
นี่ขนาดยังไม่ได้คุยกับท่านพี่อากาศเป็นเรื่องเป็นราวนะ มันทำอย่างกับลุ้นรอความเห็นของว่าที่พ่อแม่คุณแฟนซะงั้น
“ก็ไม่เห็นว่ายังไงนะ คราวนั้นที่ฟ้ามันพามาก็มากินข้าวเย็นที่บ้านแล้วก็กลับ พี่ก็ไม่เห็นว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไงเลย”
“อืม...อย่างน้อยก็คงไม่รังเกียจสะใภ้ผู้ชายเนอะป่วนเนอะ”
//เพียะ//“โอ๊ยยย ไอ้ป่วน ไอ้ ไอ้ใจร้าย” โดนตีเข้าไปเต็มมือไอ้นุ่นถึงกับสะบัดมือเร่าๆ แหงล่ะ เห็นตัวบางๆตัวป่วนมันก็ผู้ชายนะ แรงไม่ใช่น้อยๆแถมตีลงไปสุดแรงเขินแบบนั้นด้วย
“สมน้ำหน้า พูดบ้าไรของแกเล่า เอาอีกสักทีมั้ย” ตัวป่วนมันเงื้อมือขึ้นอีกรอบ ไอ้นุ่นก็ย้ายตัวเองเข้าไปใกล้ไอ้แผนทันที
“อย่านะเว้ย แผน...ไอ้ป่วนมันตี เจ็บอ้ะ” ไอ้นี่ก็อ้อนถูกคนแท้ เดี๋ยวดูไอ้แผนมันโอ๋นะ
“ก็นุ่นไปแหย่มันก่อนนี่ มันตีเอาก็ถูกแล้ว” อ้าว ไอ้นี่ก็มีโอกาสทำคะแนนเจือกไม่ทำอีก ง้าววววง่าว
“แกไม่เข้าข้างชั้นเหรอ ดูดิ แดงเลย นี่ขนาดชั้นดำนะ” เออเนอะ ขนาดดำๆยังเห็นว่าแดง ดูมันพูดอย่างภาคภูมิใจในสีผิว
“พี่ภพดูดิ แดงเลย” ไม่ฟ้องเปล่ามีการยื่นหลังมือที่ถูกตีไปให้คุณพี่ชมพูดูถึงตรงหน้า
แต่พี่ชมพูมันยังไม่ทันได้ดูหรอก ก็ไอ้แผนมันรีบวางส้อมแล้วฉวยมือข้างนั้นของไอ้นุ่นไปอย่างไว แล้วไม่เอาไปเปล่าๆด้วยสิ
“โอม...เพี้ยง” มันเอามือไอ้นุ่นไปเป่าพรวดนึง แล้วก็เอานิ้วโป้งที่ใหญ่เป็นสองเท่าของไอ้คุณนุ่นคลึงไปมาตรงที่ถูกตีเสียด้วย
“เป่าคาถาแล้ว หายเจ็บแล้วนะ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ วิธีรักษาแบบนี้ดีนี่แผน ไว้พี่เอาไปใช้บ้าง” คุณพี่ชมพูมันขำออกมาแบบเต็มเสียง ไอ้ตัวป่วนเองจากที่อายๆอยู่ก็หลุดยิ้มออกมาซะกว้าง
ในใจก็คิด เออเว้ย รุกบ้างอย่างนี้สิเพื่อนแผน เอาแต่นิ่งแล้วส่งสายตาไปวันๆ เซ่อๆแถมความรู้สึกช้าแบบไอ้นุ่นมันจะไปรู้อะไร
แต่..เสียใจกับไอ้คุณแผนด้วย เพราะถึงลงทุนทำขนาดนี้ ไอ้นุ่นมันก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี
แทนที่มันจะเขินอายบ้าง มันกลับสงสัย..
“คาถาอะไรอ้ะแผน?” ไอ้นุ่นมันถามทั้งที่ยังปล่อยให้ไอ้แผนคลึงหลังมือให้อยู่อย่างนั้น
“นะโมไง ท่องนะโมสามจบแล้วเป่า” ไอ้นี่ก็ตอบได้นิ่งดีเหลือเกิน
“เหรอ เออง่ายดีเนอะ ไว้เราเอาไปใช้บ้าง เนี่ย..หายเจ็บจริงๆด้วยอ้ะ” จะไม่หายได้ไง ก็มือโดนคลึงอยู่แบบนั้น เรื่องพื้นฐานแค่นี้ก็ไม่รู้
ว่าแต่นี่มันเชื่อจริงใช่มั้ยว่าคาถานะโมสามจบนั่นทำให้หายเจ็บได้จริง..
ไอ้คุณแผน ยินดีด้วย..แกชอบคนง่าว
“แล้วตกลงว่าแฟนเก่าพี่ฟ้าเขาเป็นใครอ้ะพี่ภพ แล้วทำไมถึงเลิกกัน?” ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ดึงให้ไอ้คุณนุ่นหลุดจากอารมณ์อยากรู้อยากเห็นไม่ได้
“ก็ปะ.....” ไม่ทันได้ตอบหรอกเพราะไอ้ตัวป่วนมันเกิดอาการไม่อยากรู้ขึ้นมากะทันหัน
“หงะ....พี่ภพ อย่าเพิ่งตอบเลยครับ ป่วนยังไม่อยากรู้อ้ะ” เสียงอ่อยมาเชียวไอ้หนูป่วน
“อ้าว ทำไมแกไม่อยากรู้อ้ะ นี่เรื่องสำคัญนะเว้ย” เออ เรื่องของมันน่าไอ้เพื่อนนุ่น แกอยากรู้เองล่ะสิ
“ก็...เออน่ะ มันไม่อยากรู้นี่” ก็จะให้ตัวป่วนมันบอกได้ไงล่ะ ว่าทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกับคุณพี่อากาศ มันก็รู้สึกหวงเขาเสียแล้ว
มันไม่อยากรู้ เพราะกลัวว่าจะเผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนรักเก่าของพี่เขา
และยิ่งไม่อยากรู้ว่าเขาเคยให้ความรักความสำคัญกับคนเก่ามากแค่ไหน
ตัวป่วนมันคิดไปคิดมาแล้วก็สรุปได้ว่าเรื่องนี้ขอรอไปก่อน
รอให้มันมั่นใจในความสัมพันธ์ที่คุณพี่อากาศกำลังหยิบยื่นให้กว่านี้อีกนิดดีกว่า
................................
................................
เช้าวันพฤหัสบดี เมื่อคืนฝนไม่ตก อากาศอ้าวเล็กน้อยแต่ที่ร้อนกว่าอากาศคือใจไอ้หนูป่วน
วันนี้มันตื่นก่อนนาฬิกาปลุกจะทำหน้าที่ อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันพิถีพิถันกว่าทุกเช้า ชุดนักศึกษาก็ใส่เหมือนเดิม แต่ตัวคนใส่สิที่มันไม่พอใจเสียที
เดี๋ยวหมุนซ้ายเดี๋ยวหมุนขวา ส่องมันเข้าไปสิกระจกน่ะ จะส่องจนกระจกทะลุมันก็หล่อได้แค่นี้แหละตัวป่วนเอ๊ย
“แผน เสร็จยัง?” เป็นไงล่ะ ตื่นเช้าเกินไป เลยต้องมารอไอ้เพื่อนแผนอีก
“เออๆ แป๊บนึง แกไปรอข้างล่างก่อนก็ได้ ขอห้านาที รีบไรนักวะ ยังไม่เจ็ดโมงเลย” ไอ้แผนงัวเงียส่งเสียงบ่นออกมาจากห้องนอนมัน
พอเพื่อนแผนพร้อมจะออกจากบ้าน มันก็รีบลากเพื่อนจ้ำออกไปมหาวิทยาลัยทันที
“เออ ลืมไป แกมีนัดกับแฟนนี่ มิน่าถึงรีบนัก” ระหว่างเดินจากป้ายรถเมล์ไปที่โต๊ะคณะไอ้คุณแผนมันก็พูดขึ้นมา
“ไอ้บ้า แฟนเฟินที่ไหน ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
เออ ไม่ใช่แฟน ไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วไอ้ที่ตื่นเต้นที่จะได้เจอเขาจนเก็บอาการไม่อยู่นี่มันอะไร
“รีบไปก็เท่านั้น พี่เขาไม่มาเช้าขนาดนี้หรอก ทุกทีกว่าพวกเราจะมาถึงก็เกือบๆเก้าโมงโน่น พี่ฟ้าของแกเขาก็รู้เวลาเรียนพวกเราอยู่แล้ว ไม่เข้าใจจะมาเร็วๆทำไม”
“ก็วันนี้ชั้นอยากมาเร็ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใคร แล้วก็อีกอย่างนะไอ้แผน พี่เขาไม่ใช่ของชั้นเว้ย”
“เอ๊ะ!!”
ไอ้แผนหันหน้ามองไปตามสายตาของเพื่อนมัน แล้วก็เห็น...
ม้าหินอ่อนเก่าๆที่เด็กปีหนึ่งคณะมันยึดไว้เป็นโต๊ะคณะมารุ่นแล้วรุ่นเล่าชุดที่เคยนั่งกันสามคนเป็นประจำ ถูกผู้ชายในเสื้อโปโลสีเขียวอ่อนๆกับแล็ปท้อปเครื่องหนึ่งจับจองอยู่
คงจะเป็นเพราะเสียงอุทานเบาๆของตัวป่วนนั่นแหละที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มนั้นค่อยปรากฏรอยยิ้มน้อยๆขึ้นมาช้าๆ
ยิ้มที่ไอ้แผนรู้ว่าตั้งใจส่งมาให้เพื่อนตัวป่วนของมันโดยเฉพาะ
ไอ้คุณแผนมันได้แต่คิดในใจว่าไม่ใช่แค่เพื่อนรักของมันคนเดียวที่ตื่นเช้าผิดปกติ
พี่อากาศของตัวป่วนมันก็มาถึงเช้าผิดปกติด้วยเหมือนกัน
โถ....พี่อากาศ ที่แท้ภายใต้มาดนิ่งๆหน้ายิ้มๆนั่นพี่ก็ตื่นเต้นไม่แพ้เพื่อนผมล่ะว้า...
....................
....................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..