มาแล้วค่ะ ก่อนอื่น กอดดดดดดดดดดดดดดดด นักอ่านที่น่ารักทุกท่านเลยนะคะ
วันนี้มาอ่านข้างเรื่องกันนะคะ เอาซะหน่อย
(มีคนมาบอกว่าหวานเกิน คนเขียนเลยเขียนแบบไม่หวานจัดมาส่งค่ะ)
คำเตือน ตอนที่ท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้ เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างหญิงและชาย
ดังนั้น หากท่านใดรับไม่ได้กับความสัมพันธ์แบบนี้ กดเลื่อนๆผ่านไปด้วยนะคะ
................................
ตอนพิเศษ นอกรอบ....ข้างเรื่อง(11)
“อื้ออออออ แอ๋นอ้า อ่อยยยยยยย อ่อยอิ”
“ไม่ปล่อย เงียบด้วยนุ่น อย่าดิ้น ปล่อยเขาสองคนอยู่ด้วยกันดีแล้ว”“อื้ออออออ!!!”
คราวนี้ไอ้คุณแผนเลยได้รางวัลเป็นการหยิกเข้าที่พุง เพราะมือเล็กๆที่เป็นอิสระทั้งสองข้างของไอ้นุ่นมันอ้อมมาด้านหลังแล้วบิดเนื้อเข้าอย่างแรง
แต่มีเรอะ อย่างไอ้คุณแผนมันจะยอมแพ้กับแค่แรงหยิก
จนมันลากไอ้ผู้หญิงบ้าออกมาห่างจากเรือนครัว ห่างจนแน่ใจว่าไอ้นุ่นจะไม่ส่งเสียงโวยวายรบกวนทั้งไอ้ตัวป่วนทั้งพี่อากาศนั่นแหละ
มันถึงยอมปล่อยมือออกจากปาก แต่แขนยาวๆหนาๆนั่นก็ยังล็อคคอไอ้นุ่นมันไว้อยู่ดี
“เอ้า.....ปล่อยแล้ว มีอะไรก็พูดมาสิจ๊ะ”
“หะ .....แฮ่ก อะ..ไอ้บ้า หะ.....”
น่านนนนนน ถึงกับหอบ ดูหน้าไอ้นุ่นดิ หน้าตาตลกไปแล้ว ไอ้หน้าตาแบบว่าอยากด่าก็อยากด่า
แต่ตอนนี้ยังด่าไม่ได้เพราะต้องรีบโกยอากาศเข้าปอดก่อนนี่มันน่าสงสารจริงวุ้ย
“อ้าว ตกลงเมื่อกี้จะพูดอะไร ทำไมไม่พูด?”ไอ้คุณแผนก็ช่างกล้านะ เห็นๆอยู่ว่ามันพูดไม่ไหว นี่ถ้าสว่างคงเห็นหรอกว่าเมื่อกี้ไอ้คุณนุ่นน่ะ หน้าดำๆเปลี่ยนสีจนเกือบเขียวแล้ว
นี่ไม่ใช่ไอ้แผนมันไม่รู้หรอกนะ ว่าที่ไอ้เตี้ยมันไม่ด่าออกมาเป็นเพราะมันหายใจไม่ทัน
แต่มันจงใจแกล้ง จงใจเลยแหละที่จะยั่วโมโห เอาให้โมโหหนักๆจะได้หมดแรง
คืนนี้ไอ้นุ่นมันจะได้ไม่บ้าพลังเดินออกไปเล่นหมากรุก ก๊งเหล้าขาว กับพวกอาจารย์ที่นอนโรงเรียนแบบคืนที่ผ่านมาอีก
ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคนอื่นออกมาหรอกนะ พอเลิกประชุมแล้วพวกหัวค่ายปล่อยให้ไปนอน ก็ดูจะมีแต่ปีหนึ่งแหละที่มันเชื่อฟัง
แม้แต่ปีสามที่เป็นกลุ่มประธานค่ายเองก็ยังออกมาคุยโน่นคุยนี่กับพวกอาจารย์กันเกือบสิบคนเลย
ที่จริงไอ้แผนมันก็รู้หรอกว่าผู้หญิงบ้าอย่างไอ้นุ่นมันไม่มีทางจะเข้านอนง่ายๆ ไอ้การที่มันไปนั่งฟังพวกรุ่นพี่กับอาจารย์ที่โรงเรียนนี้คุยกันก็ไม่แปลก
แต่มันมาขัดใจก็ไอ้ตรงที่พอเขาชวนให้ลองเหล้าขาวต้มเองเข้าหน่อย ไอ้นุ่นมันก็ดันร่วมวงกับเขาด้วยเนี่ยสิ
แล้วพอเหล้าเข้าปากเข้าหน่อย ไอ้ที่สงบเสงี่ยมเจียมตัวนั่งฟังเขาคุยกัน
ไอ้นุ่นมันก็หาญกล้าไปท้าอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนบ้านซับน้อยเล่นหมากรุก เล่นเฉยๆไม่ว่า มันยังไปพนันเอาไก่อีกต่างหาก
ไอ้นุ่นมันบ้า มันไปกล้าหาญท้าพนันกับพวกอาจารย์เขา อาจารย์ก็ชอบใจใหญ่สิ เลยเล่นกันเป็นจริงเป็นจัง
เมื่อวานขนาดไอ้คุณแผนมันทั้งดุทั้งปราม ไอ้นุ่นโหมดมีแอลกอฮอล์ในสายเลือดแทนที่จะกลัวจะหงอ ยอมตามแบบที่เคยมา
ก็กลับกลายเป็นไอ้นุ่นที่เพิ่มระดับความบ้า แถมยังเพิ่มความดื้อจนน่าจับดีดเหม่งแรงๆเข้าไปอีกหนึ่งอย่าง
แล้วทั้งๆที่ตาเยิ้มๆ มันก็หอบสังขารอันประกอบไปด้วยหน้าแดงแป๊ดกับปากที่ยิ่งพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อยมากกว่าปกติ เล่นชนะได้ไก่มาจนได้
เมื่อวานไอ้นุ่นมันทำฤทธิ์ให้ปวดหัวยังไงไว้บ้าง....มาย้อนเวลาไปดูกันนิดดีกว่า
“นุ่น อย่ากินเยอะ”
“แผนจ๋า.....นุ่นเพิ่งจิบที่สองเอง ไม่เอาๆไม่ทำตาดุอย่างนั้นสิจ๊ะ น่ากลัวออก”
ก็นะ.....เห็นขาวๆใสๆนั่น ดีกรีมันไม่ใช่น้อยๆนี่ พ่ออย่างไอ้แผนไม่ห้ามไว้สิแปลก
ไอ้ป่วนมันหวังพึ่งได้ที่ไหน เสนอหน้าไปดูรุ่นพี่เล่นหมากรุกกับอาจารย์พละของโรงเรียนนี้ตั้งแต่เดินมาร่วมวงแล้ว
แล้วดูไอ้นุ่นมันนะ บอกว่าแค่จิบที่สอง แต่แค่จิบสองก็จริง ทั้งหน้าทั้งคอมันยังเริ่มแดงขึ้นมาชัดแล้วเลย
แล้วผู้ปกครองอย่างไอ้แผนมันจะปล่อยไปได้ยังไง
“พอได้แล้วนุ่น”โห......เสียงเข้มเข้าไปสิ ไอ้นุ่นมันสะเทือนเสียที่ไหน
พอถ้วยพลาสติกบรรจุไอ้น้ำใสๆที่แค่จิบก็ร้อนวาบๆจนรู้หมดว่าตรงไหนลำไส้ตรงไหนกระเพาะถูกส่งมาถึงมือ ไอ้นุ่นมันก็กระดกจิบทุกที
“แผนจ๋า...... อย่าดุนักเลย นุ่นไม่กินเยอะหรอก เอาแค่ พอหายหนาวเอง....”
ว่าแล้วมันก็เอนตัวมาพิงกับไหล่ไอ้คุณแผน เอาหัวหอมกลิ่นแชมพูซองละบาทมาถูๆกับต้นแขนให้จั๊กกะจี้เล่นซะงั้น
แถมพอส่งถ้วยพลาสติกบรรจุน้ำใสๆหอมๆ ที่เพิ่มความร้อนให้ร่างกายได้กะทันหันต่อไปให้เพื่อนที่นั่งอยู่ถัดไปได้แล้ว
ยังเอื้อมมืออุ่นจัดมาวางแปะลงบนหลังมือของไอ้คุณแผนที่ทอดวางเท้าไปกับพื้นไว้อีก
มันไม่วางเปล่าด้วยสิ วางลงบนเป้าหมายได้ปุ๊บก็เริ่มเขี่ยเล่น เดี๋ยวก็ลากเป็นเส้น เดี๋ยวก็เขียนเป็นตัวอักษร....เพลินเขาล่ะ
“เล่นอะไรนุ่น?”
ไอ้คุณแผนที่ดุๆอยู่เมื่อกี้เลยดุไม่ออก ทำได้แค่กระซิบถามเสียงแผ่วๆกับไอ้เตี้ยที่เริ่มเลื้อยเพราะชักขี้เกียจทรงตัวเองซะงั้น
“ไม่ได้เล่นนนนนน นี่ไง มือแผนอ้ะ เย็นเจี๊ยบเลยนะ เนี่ย....บอกให้เอาเสื้อแขนยาวมาไว้ใส่นอนก็ทำเป็นเก่งน้า.....”
“นุ่น นั่งดีๆสิ มาพิงอย่างนี้นี่ง่วงแล้วใช่มั้ยจ๊ะ ถ้าง่วงก็ลุกเลยนะ เดี๋ยวแผนเดินไปส่ง”
ไอ้คุณแผนมันออกแรงดันตัวไอ้ตัวเลื้อยจะให้ลุกขึ้นยืน แต่ไอ้นุ่นมันกลับยิ่งทิ้งน้ำหนักลงมามากกว่าเดิมอีก แล้วยังส่ายหัวไปมาแรงๆด้วย
“หึ ไม่ได้ง่วงงงงง นี่นุ่นเห็นว่าแผนหนาวหรอกนะถึงมาอยู่ใกล้ๆ”
ว่าแล้วมันก็หันขวับมามองหน้า สบตาคาดคั้นเอากับไอ้โย่งที่นั่งนิ่งเป็นหินไปแล้วอย่างกะทันหัน
“แผนใจร้ายยยยยย รำคาญกันเหรอ?”พอถามออกมาแบบนั้นมันก็ทำปากเบะตั้งท่าจะร้องไห้โชว์มันกลางวงนั่นแหละ
เดือดร้อนไอ้คนทำให้คนบ้าอารมณ์แกว่งต้องรีบปลอบรีบแก้ตัวจนลิ้นแทบจะพันกัน ในใจเริ่มคิดว่าความซวยจะมาเยือนแล้ว
เท่าที่นับๆมาถ้วยพลาสติกนั่นมันเวียนมาถึงไอ้นุ่นยังไม่เกินสี่รอบแน่ๆ
....แค่สี่รอบยังขนาดนี้ ต้องหาทางไม่ให้มันได้รับถ้วยเป็นรอบที่ห้า
“เปล่านะ แผนไม่ได้รำคาญนุ่นเลยนะจ๊ะ ไม่เอาๆไม่ร้องนะ”
ก็แค่นั้นแหละ แค่ไอ้โย่งมันโอ๋นิดโอ๋หน่อย ไอ้ผู้หญิงบ้ามันก็ยิ้มออก น้ำตาที่ออกมาคลอๆอยู่เมื่อกี้หายวับไปได้ทันอกทันใจดีจริงๆ
“งั้นก็เบื่อ แผนเบื่อล่ะสิ งั้นเดี๋ยวนุ่นเล่นอะไรให้ดูเองนะ...”
ว่าแล้วจากนี่นั่งพิงๆอยู่เหมือนกับตัวมันเป็นของเหลว ไอ้เตี้ยมันก็ลุกไปกระซิบกระซาบกับพี่ที่เล่นอยู่กับอาจารย์พละทันที
ไอ้แผนได้แต่มองตาม ปากที่อ้าค้างจะรั้งเอาไว้ ก็ได้แต่อ้าค้างให้ยุงเข้าไปบินเล่นอยู่นั่นแหละ
แล้วพอเกมของรุ่นพี่กับอาจารย์พละจบ คู่ต่อสู้บนกระดานเลยเปลี่ยนเป็นอาจารย์ใหญ่กับไอ้ผู้หญิงบ้าแทน
“อาจารย์คะ หนูมีข้อเสนอ คือถ้าเราเล่นกันเฉยๆมันน่าเบื่อ ตอนนี้พวกเราขาดเนื้อสัตว์ค่ะ กินแต่กะหล่ำ ทั้งต้มจืดกะหล่ำ ผัดกะหล่ำ กะหล่ำแกงกะทิ กะหล่ำลวกจิ้มน้ำพริก คือ....ถ้าหนูชนะ ขอไก่สักตัวได้ป้ะคะ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
นั่นไง ข้อเรียกร้องของไอ้เตี้ยมัน หมากรุกหนึ่งกระดานแลกไก่หนึ่งตัว แล้วถ้าอาจารย์ท่านขอยื่นข้อเสนอบ้างแกจะเอาอะไรไปให้เขา
แล้วไอ้เสียงหัวเราะนั่นน่ะ ไม่ใช่แค่จากอาจารย์ที่ตกลงรับคำท้าหรอกนะ
แต่ข้อเสนอของไอ้นุ่นเรียกเสียงฮาครืนจากทั้งกลุ่มที่นั่งรวมๆกันอยู่ตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ
แถมพวกเพื่อนๆพี่ๆก็เริ่มตั้งตัวเป็นกองเชียร์ขึ้นมาทันที
“เอาให้ชนะนะเว้ยนุ่น เพื่อปากท้อง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
ไอ้ตัวป่วนนี่ก็เข้าข้างเพื่อน เห็นดีเห็นงามด้วยขึ้นมาทันที แล้วก็อย่างที่บอกไป ไอ้นุ่นมันพาสังขารที่เซน้อยๆนั่น เอาไก่ทั้งตัวมาเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวค่ายจนได้
แถมด้วยอาการเยิ้มไปหมด ทั้งตาทั้งปาก......
ก็นะ พอไปนั่งเล่นหมากรุกเพื่อปากท้องอยู่อย่างนั้น ก็มีมือดีคอยส่งถ้วยเพิ่มความอบอุ่นให้เรื่อยๆเลยนี่นา
สิบนาทีแรกไอ้เตี้ยมันเลยจิบไปไม่รู้ว่ากี่จิบ จนพ่อมันทนไม่ได้ ต้องแทรกตัวเข้าไปนั่งขนาบอยู่ด้านหลัง คอยรับถ้วยเพิ่มความอบอุ่นไว้เสียเอง
คืนนั้นเลยจบลงที่ไอ้หนูป่วนกับไอ้คุณแผน ทั้งจูงทั้งลากไอ้เตี้ยตัวแดงไปส่งจนถึงหน้าห้องเรียนที่ผู้หญิงใช้นอน
โดยมีไอ้ตัวถ่วงมันบ่นอะไรในลำคอหงุงหงิงๆไปตลอดทาง
..................................
“อ้าว ตกลงเมื่อกี้จะพูดอะไร ทำไมไม่พูด?”ไอ้คุณแผนก็ช่างกล้านะ เห็นๆอยู่ว่ามันพูดไม่ไหว นี่ถ้าสว่างคงเห็นหรอกว่าเมื่อกี้ไอ้คุณนุ่นน่ะ หน้าดำๆเปลี่ยนสีจนเกือบเขียวแล้ว
“ก็......แผนบ้า ไม่ต้องมายิ้มอย่างนี้เลยนะ”
อ้าว ไอ้อย่างนี้ของแกมันอย่างไหนกันล่ะนุ่น แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย...ไอ้ที่หน้าแดงนี่ใช่เพราะเหนื่อยอย่างเดียวแน่รึเปล่าเนี่ย
ก็แทนที่อาการหอบมันจางลงไอ้หน้าแดงๆมันจะค่อยเป็นปกติ ทำไมมันเริ่มจะแดงจัดขึ้นทุกทีๆล่ะ
“นุ่นเอ๊ยนุ่น ถ้านุ่นยังยืนอยู่ที่โรงครัว จะอายกว่ามากับแผนอีกนะจ๊ะ”
“ก็....แหม จู่ๆพี่ฟ้าก็โผล่มานุ่นก็ต้องอยากรู้บ้างสิว่ามาได้ไง อ้าว!? แล้วพี่ภพอะ?”
ไอ้นุ่นมันเขินสายตาวับๆของเพื่อนรัก เลยทำเป็นมองซ้ายมองขวา จนนึกถึงเพื่อนร่วมทางอีกคนขึ้นมาได้
“ลิ่วๆไปตั้งนานแล้ว ก็นุ่นมัวแต่หลับหูหลับตาดิ้นอยู่นี่จ๊ะ”
ไอ้คุณแผนมันเห็นว่าเพื่อนพิเศษของมันสงบลงไม่โวยวายแล้ว เลยยอมปล่อยตัวให้เป็นอิสระ
และพอเป็นอิสระปุ๊บ ไอ้นุ่นมันก็ดีดตัวออกห่างกว่าเมตรกะว่าเกินระยะที่แขนยาวๆของไอ้โย่งจะคว้าถึงทันที
“ไม่ต้องมาล้อเลย แผนแหละ ปิดมาได้ทั้งปากทั้งจมูก ถ้านุ่นขาดอากาศตายไปทำไงฮะ?”
แน่ะ มีงอนเว้ย.... ค้อนไอ้แผนมันจนตาจะกลับแล้วนุ่นเอ๊ย
“ไม่เห็นยาก นุ่นขาดอากาศได้แต่ไม่มีทางที่แผนจะปล่อยให้ตายหรอก แผนจะทำCPRให้เองจ้ะ”
เท่านั้นแหละ ไอ้นุ่นทำตัวเป็นลูกค่ายที่ดี เดินเร็วจนแทบวิ่งมุ่งหน้าไปห้องที่ใช้ประชุมทันทีเชียว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ...................................
...................................
หมายเหตุ CPR สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นกับศัพท์ประเภทนี้ค่ะ
CPR (Cardio Pulmonary Resuscitation) คือการกู้ชีพสำหรับผู้ขาดอากาศค่ะ วิธีก็คือเป่าปากและปั๊มหัวใจ อิอิ