มาช้าตามเคย บอกว่าเมื่อคืนจะมา นี่มาเสียเกือบเช้า
ขอโทษสำหรับท่านที่รอนะคะ

มาช้า แต่ก็ยาวนะเออ มาดีใจกับฮอลแลนด์กันค่ะ เข้าไปรอชิงแล้ว
(แอบใจหายใจคว่ำกับท้ายเกมนิดหน่อย หุหุ)
.............................
ตอนที่๔๘ เวลา....และระยะทาง“อะไรนะพี่ฟ้า!?!”
“พรุ่งนี้พี่ต้องตอบอาจารย์แล้วว่าจะรับทุนหรือไม่รับ พี่ไม่อยากตอบตกลงไปทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกตัวป่วน”
“สามเดือนเลยเหรอ ไหนบอกว่าเรียนจบแล้วถึงจะต้องไปไกลๆนานๆไง”.................................
ห้าโมงสิบนาทีวันอังคารแรกของเดือนกรกฎาคม ไอ้หนูป่วนฝากเมทแล็บอย่างไอ้เพื่อนนุ่นให้เก็บล้างอุปกรณ์คนเดียว
กาวน์ยาวที่ใช้ในแล็บจนติดกลิ่นมาตั้งแต่บ่ายโมงตรงก็ยัดใส่มือไอ้เพื่อนแผนให้เอากลับบ้านด้วย
ส่วนตัวมันล้างมือสามรอบจนมั่นใจในความสะอาด แล้วก็วิ่งแท่ดๆๆตรงไปตึกใหญ่คณะอักษรศาสตร์ทันที
ก็วันนี้พี่อากาศของมันสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ ไอ้หนูป่วนมันรู้สิว่าสำคัญมาก
เพราะถ้าผ่านไปได้ด้วยดีก็หมายความว่าคุณแฟนตัวโตจะเรียนจบ ได้เป็นมหาบัณฑิต
หลังจากใช้เวลาดำรงสถานะเป็นนักศึกษาปริญญาโทอยู่เกือบสามปี
ตัวป่วนมันกะว่าเลิกแล็บแล้วจะรีบวิ่งมารอรับคุณแฟนพร้อมฟังข่าวเลยว่าการสอบเป็นอย่างไรบ้าง
แล้วคำถามของอาจารย์ทำให้พี่ฟ้าของมันเสียพลังงานไปมากแค่ไหน มันจะได้เตรียมตัวเติมพลังงานให้ได้ถูกต้องเหมาะสม
ใช้เวลาจากตึกที่เรียนแล็บแค่เจ็ดนาที ไอ้หนูป่วนมันก็พาสังขารโชกเหงื่อเพราะวิ่งต่อเนื่องมาถึงใต้ตึกใหญ่ที่นัดให้คุณแฟนรอจนได้
กวาดตามองไปก็เห็นพี่อากาศกำลังเดินลงมากับกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกันอีกสามสี่คน ทุกคนหน้าตาท่าทางมีความสุขกันทั้งนั้น
จะมีก็แต่พี่ฟ้าของมันนี่แหละ ที่แววตาหลังกรอบแว่นดูเคร่งเครียด แถมยังมีอาการหัวคิ้วขมวดน้อยๆตลอดเวลาอีก
ไอ้หนูป่วนเริ่มเครียดตามคุณแฟนทันที......รึว่าพี่ฟ้าของมันจะสอบไม่ผ่าน???
“อ้าว นั่นน้องตัวป่วนนี่”
“เอ่อ....พี่ๆสวัสดีครับ”
ไอ้หนูป่วนได้ยินเสียงทักจากเพื่อนคุณแฟนก็ก้าวยาวๆเข้าไปหาทันที แล้วยกมือไหว้พร้อมกับส่งเสียงทักทายตอบ
“มาดีใจกับพี่หน่อยเร้ว”
“โห......สอบผ่านกันทุกคนเลยสินะครับ ยินดีด้วยจริงๆครับ”
ไอ้หนูป่วนส่งยิ้มตาหยีไปรอบวงสนทนา ทั้งๆที่อาการเหนื่อยจนหอบเพราะวิ่งมายังไม่หาย
“แฟนฟ้า น่ารักสุดยอด ขอกอดทีนึงได้ป้ะ?”
เพื่อนร่วมเรียนของพี่อากาศหันไปแกล้งกระเซ้าคนมาดนิ่งที่ดูแล้วน่าจะขี้หวงเสียหน่อย กะว่ากวนอารมณ์คนอารมณ์นิ่งบ้าง อยากรู้จะมีปฏิกิริยายังไง
“หึๆๆ ว่าไงครับตัวป่วนพี่เอคิจิขอกอด จะอนุญาตมั้ยครับ?”ยั่วไปก็เท่านั้นแหละพี่เอคิจิเอ๋ย พี่อากาศแกจะมีปฏิกิริยาแบบอื่นไปได้ยังไง ก็นิ่งๆยิ้มเรื่อยๆ แถมยังหันไปถามความสมัครใจไอ้ตัวเล็กของแกอีกต่อเสียอย่างนั้น
พี่อากาศแกเป็นประเภทมั่นใจในตัวเอง แล้วยิ่งความรู้สึกของคุณแฟนตัวเล็กที่มีให้แกน่ะ แกยิ่งมั่นใจมากกว่าตัวเองเสียอีก
แล้วกะอีแค่เพื่อนมาขอกอดแฟน มีหรือแกจะหวั่นไหว
“ง่า.....ผมมีแต่เหงื่อ อย่าเพิ่งกอดเลยครับพี่เอคิจิ”
ไม่ใช่แค่คำพูดปฏิเสธกับอาการยิ้มแห้งๆเท่านั้นหรอก ไอ้หนูป่วนฉากตัวเองไปเกาะอยู่หลังคุณแฟนตัวโตของมันเสียทันทีทันใด
“ว้า......น้องกลัวผมซะแล้วฟ้า”
“งั้นแยกกันเลยแล้วกันเนอะ น้องตัวป่วนมารับอย่างนี้ฟ้าคงไม่ไปฉลองกับพวกเราหรอก....”
พี่ผู้หญิงอีกคนเห็นท่าไอ้หนูป่วนถึงกับหลุดขำ แล้วเลยถือโอกาสบอกลาพร้อมขอปลีกตัวเสียเลย
“เอ่อ..พวกพี่นัดไปฉลองกัน งั้นผมกลับก่อนดีกว่า....”
“ไม่ต้องเลย พวกพี่ไม่ได้นัดเป็นจริงเป็นจังกันขนาดนั้นหรอก......งั้นผมไปเลยดีกว่า แล้วค่อยเจอกันนะ”
พี่อากาศคว้าแขนคุณแฟนขี้เกรงใจ ที่พอได้ยินว่าคนสอบผ่านจะไปฉลองกันก็ตั้งท่าจะผละออกไปทันทีเอาไว้ แล้วจึงหันไปบอกลากลุ่มคนที่เดินลงมาพร้อมๆกัน แล้วรั้งตัวไอ้ตัวเล็กให้ก้าวตามมาช้าๆ
พี่อากาศเดินนำไอ้หนูป่วนมาถึงด้านหลังพระบรมรูปที่เป็นที่เคารพสักการะของทั้งอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย แล้วถึงผ่อนฝีเท้าลง
“เข้าไปกราบพระรูปด้วยกันนะตัวป่วน.....”
“อื้ม......วันนี้กราบมือเปล่า แล้วเดี๋ยววันหลังเราไปซื้อดอกไม้มาถวายด้วยกันนะพี่ฟ้า”
ไอ้หนูป่วนรับคำแล้วก็ก้าวนำพี่ฟ้าของมันอ้อมไปด้านหน้าพระรูป ไปถึงก็ทรุดตัวลงคุกเข่าโดยมีคุณแฟนตัวโตตามมาคุกเข่าอยู่เคียงข้าง
ตัวป่วนมันคุกเข่าได้ก็ยกมือพนมหว่างอก สำรวมกายใจสักพักก็ก้มลงกราบ เสร็จแล้วกะว่าคนข้างๆคงเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
มันก็เปลี่ยนเป็นนั่งพับเพียบแล้วหันหน้าไปมองคุณแฟนที่นั่งคุกเข่าอยู่เคียงข้าง กำลังจะอ้าปากแซวว่าอธิษฐานอะไรน้านนาน
ก็พอดีกับเปลือกตาที่ปิดสนิทจนเห็นแผงขนตาหนาทาบไปกับผิวหน้านั่นค่อยๆลืมขึ้นช้าๆพอดี
ไอ้หนูป่วนมันสังเกตว่าร่องรอยความเคร่งเครียดในสีหน้าของคุณแฟนตัวโตเลือนหายไปแล้ว ตัวมันเองก็เลยพลอยโล่งอก รอยยิ้มกว้างขวางหวานหยดจึงส่งไปให้พี่อากาศโดยไม่ตั้งใจ ไอ้ที่ตั้งใจจะแซวก็เปลี่ยนเป็นผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งคว้ามือคุณแฟนตัวโตให้ลุกตามมาด้วย
“วันนี้พี่ฟ้าอยากกินอะไร ให้ป่วนเลี้ยงเองนะ”
พอดึงให้คุณแฟนลุกขึ้นมาได้ไอ้หนูป่วนก็ปล่อยมือใหญ่ๆนั่นเป็นอิสระ แล้วเริ่มออกเดินไปข้างๆกัน ปากบางๆนั่นก็พูดจ๋อยๆ
“หึๆๆ”
“หัวเราะอะไร หรือว่าอยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า? ถ้าพี่ฟ้าเหนื่อยอยากรีบกลับบ้านไปนอนก็ยังไม่ต้องไปไหนก็ได้ ไม่ได้นอนเต็มอิ่มมาตั้งหลายคืนแล้วนี่เนอะ”
“พี่ไม่เหนื่อยขนาดนั้นหรอก เราเดินออกประตูหลังแล้วไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมกันดีกว่า แล้วก็ไม่ต้องเลี้ยงพี่หรอกนะครับ.......แค่ไม่เสียใจก็พอแล้ว”
ท้ายประโยคเสียงทุ้มนุ่มประจำตัวของพี่อากาศกลับแหบพร่าและเบาเสียจนไอ้ตัวเล็กที่เดินเคียงข้างมันจับความไม่ได้ไปซะดื้อๆ
“หืม? พี่ฟ้าว่าไงนะ? ไม่ต้องเลี้ยงแล้วอะไรต่อนะ?”
“ริมฟุตบาทอย่างนี้เสียงดัง เราไปพูดกันในร้านดีกว่าครับ”
...........................
...........................
พี่อากาศรอให้อาหารมาเสิร์ฟ แล้วก็อดทนรอจนไอ้ตัวเล็กมันเริ่มแสดงท่าทางว่าอิ่มนั่นแหละ
ถึงได้เริ่มเปิดปากพูดถึงสิ่งที่ทำให้พี่แกกลัวว่าจะทำให้คุณแฟนสุดที่รักของแกต้องเสียใจ
“ตัวป่วน.....วันนี้ที่พี่สอบ มีอาจารย์จากต่างมหาวิทยาลัยมาเข้าฟังด้วย....”
“...........แล้ว?....”
“แล้วอาจารย์ท่านสนใจงานวิจัยของพี่ แล้ว.....เลยเสนอทุนวิจัยให้”
“โอ๋.....ก็ดีน่ะสิ นี่พี่ฟ้าก็มีคนจ้างทำงานตั้งแต่ยังไม่ทันเรียนจบเลยสิเนี่ย”
“ครับ แต่.....”
“แต่?”
เอาแล้วไง ไอ้หนูป่วนมันเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติของคุณแฟนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามแล้ว นี่คงเรื่องใหญ่แน่ๆแล้วล่ะ
“อาจารย์ท่านเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติมองโกเลีย งานวิจัยที่เสนอทุนมาให้ พี่ฟ้าต้องไปทำที่มองโกเลีย.........”
“..........................”
“.........สามเดือน.........”
“อะไรนะพี่ฟ้า!?!”
“พรุ่งนี้พี่ต้องตอบอาจารย์แล้วว่าจะรับทุนหรือไม่รับ พี่ไม่อยากตอบตกลงไปทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกตัวป่วน”
“สามเดือนเลยเหรอ ไหนบอกว่าเรียนจบแล้วถึงจะต้องไปไกลๆนานๆไง”ไอ้หนูป่วนมันสะดุ้งจนทำตะเกียบตกไปตั้งแต่ได้ยินคำว่ามองโกเลียแล้ว แล้วพอได้ยินคำว่าสามเดือน
มือที่กำลังเอื้อมไปหยิบน้ำเพราะรู้สึกคอแห้งกะทันหันก็หมดแรง
จนต้องหยุดความพยายามที่จะหยิบแก้ว แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนมือทั้งสองข้างมาประสานกันไว้แน่นระงับอาการสั่นน้อยๆนั่นแทน
ไอ้คำพูดที่โต้ตอบพี่อากาศแกออกไปนั่นน่ะ เสียงของมันก็เบาหวิวเสียจนเหมือนคนพูดมันหมดเรี่ยวหมดแรงไปเสียแล้ว
“ถ้าตัวป่วนไม่อยากให้ไป พี่ฟ้าก็จะไม่ไป”
พี่อากาศมองสีหน้าที่ซีดขาวลงอย่างเห็นได้ชัดของไอ้หนูป่วนแล้วก็ใจอ่อน
ไอ้เรื่องอยากไปน่ะมันแน่อยู่แล้ว แต่ถ้าตัดสินใจไปโดยทิ้งไอ้ตัวเล็กไว้ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีสภาพแบบนี้แค่ได้ยินข่าวพี่แกก็ทำไม่ลง
“............................”
“คนเก่งของพี่ ไม่ร้องนะครับ พี่ฟ้าไม่ไปแล้ว จะไปบอกปฏิเสธทุนกับอาจารย์พรุ่งนี้เลย”ไอ้หนูป่วนมันไม่รู้หรอกว่าตัวเองเผลอปล่อยน้ำตาหยดติ๋งๆออกมาสองติ๋งแล้ว
มารู้ตัวก็เมื่อพี่ฟ้าของมันย้ายตัวเองมานั่งข้างๆแล้วเอื้อมหยิบกระดาษทิชชูในกล่องบนโต๊ะมาซับที่หัวตาให้เบาแสนเบานั่นแหละ
“อะไร ใครร้องไห้ ไม่มีสักหน่อย พี่ฟ้าอะมั่วแล้ว.......”
“ตัวป่วนครับ พี่......”
“ไม่ต้องเลยพี่ฟ้า ลุกไปนั่งที่ตัวเอง แล้วตกลงไม่ให้เลี้ยงแน่ใช่ป้ะ ดีเลย งั้นเรียกเก็บเงินแล้วพี่ฟ้ารอจ่ายนะ ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”
ไอ้หนูป่วนเรียกพนักงานมาเก็บเงิน แล้วตัวเองก็ก้มหน้าก้มตาเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำตามที่ปากพูดจริงๆ
แต่ไอ้เรื่องที่คุณแฟนของแกเข้าห้องน้ำไปทำอะไร พี่อากาศแกก็ไม่อยากคิดเหมือนกัน
ไอ้หนูป่วนออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยตาแดงๆหรืออะไรที่บ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้อย่างหนักแบบที่พี่อากาศแกกังวล
แถมพอออกมาได้มันก็ตรงมาลากคุณแฟนตัวโตให้เดินตามไปซุปเปอร์มาเก็ต
ระหว่างนั้นโดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรกับพี่อากาศแกสักคำ ไอ้หนูป่วนมันก็จัดการโทรรายงานตัวกับไอ้เพื่อนแผน
แล้วแจ้งไอ้เพื่อนที่ทำตัวเหมือนพี่ชายอีกคนว่าคืนนี้จะค้างบ้านพี่อากาศ
เสื้อผ้ามีอยู่แล้วไม่ต้องห่วง แต่พรุ่งนี้ช่วยหยิบชีทที่ต้องใช้มาให้ด้วย
“พี่ฟ้า อยากกินอะไรก็หยิบใส่รถสิ เอาแต่มองตามอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะเนี่ย”
วางสายจากเพื่อนซี้ตัวป่วนมันก็หันมาดุคุณแฟนตัวโตที่เอาแต่เข็นรถเข็นตามอยู่ได้ ปล่อยให้มันเลือกโน่นเลือกนี่ใส่รถเข็นอยู่คนเดียว
“ตัวป่วน.....ไม่เป็นไรแน่นะ?”
“เป็นสิ ทำไมจะไม่เป็น ผมก็เป็นแฟนของพี่ฟ้าไง ฮ่าๆๆๆ.......นี่ วันนี้ผมไปนอนบ้านพี่ฟ้านะ.......”
“ครับ......ตัวป่วน ที่เมื่อกี้หัวเราะ ไม่ได้ฝืนทำแน่นะ”
พี่อากาศพยายามมองหน้าสบตากับคุณแฟนตัวเล็กของแก ก็ไม่เห็นว่าจะมีความผิดปกติอะไรซ่อนอยู่
พี่ฟ้าของมันมองตา มันก็มองกลับโดยดีไม่มีการเบี่ยงหน้าเบี่ยงตัวหนีแต่อย่างใด
ก็ปกติไอ้หนูป่วนมันซ่อนอะไรเป็นเสียที่ไหน คิดอะไรรู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกมาทางสีหน้าทั้งหมดแหละ
พี่อากาศแกเลยสรุปเอาว่า ตอนแรกที่ร้องไห้นั่นคงเพราะตกใจที่ต้องห่างกันไกลตั้งสามเดือน
นี่พอแกสัญญาว่าไม่ไปแล้ว คุณแฟนของแกเลยกลับมาอารมณ์ดี ร่าเริงได้เหมือนเคย
“โฮ้ยยยยยย คิดมากจริงแฟนเรา คิดก็มาก พักผ่อนก็น้อย ไม่แก่คราวนี้แล้วจะแก่คราวไหน เดี๋ยวถึงบ้านวันนี้ผมหาผมหงอกให้โอเคมะ? เส้นละห้าสิบสตางค์พอ เรทกันเอง.....”ไอ้หนูป่วนมันลอยหน้าลอยตาล้อเลียนแฟนตัวเองได้น่าฟัดมาก พี่อากาศเห็นแบบนั้นไอ้ที่คิดกังวลถึงความรู้สึกของมันอยู่เลยเลิกคิด
ก็นะ.....มีแฟนเด็กขืนปล่อยให้ตัวเองแก่ เด็กมันเบื่อเอาก็แย่พอดี
ยิ่งทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ ไม่กล้าเสี่ยงให้ถูกเบื่อหรอก
“เอางี้สิ ถ้าแพ๊คเกจเหมารวมทั้งอาบน้ำ สระผม แล้วก็ถอนผมหงอกด้วยนะ พี่ฟ้าจะให้ราคางามๆเลย”
“เสนอราคามาสิ แล้วผมจะตัดสินใจว่าจะขาย....หรือว่าไม่ขาย”
ไม่ใช่แค่พูดไปมองตาพี่เขาไป แต่ไอ้หนูป่วนเวอร์ชั่นอัพเลเวลแถมพัฒนาทักษะมาอย่างดี
ยังแถมการลากปลายนิ้วเป็นวงวนๆอยู่กลางฝ่ามือของอาจารย์อย่างพี่อากาศช้าๆประกอบคำพูดเสียด้วย
“ทั้งหมดของพี่ พี่ฟ้าเสนอราคาทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพี่มันจะเป็นของตัวป่วนด้วย.....ว่าไงครับ เคาะขายมั้ย?”
“ให้ราคาดีขนาดนี้ ไม่ขายก็บ้าแล้ว เกินกว่าที่หวังจะได้ด้วยซ้ำ พี่ฟ้า....รู้ตัวรึเปล่าว่าจ่ายแพงกว่าราคาจริง?”ไอ้หนูป่วนมันเขินนะนั่น ทั้งเขินทั้งอายจนหน้าร้อนไปหมด รู้ตัวอยู่หรอกว่ากล้าหาญชาญชัยไปแหย่เสือ
แต่ทำไงได้ล่ะ ทำไปแล้วนี่ ถึงจะเขินไอ้สายตาวิบวับที่มองตรงมาจนอยากจะวิ่งหนี
แต่ในเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มเอง ก็คง ต้องยอมอายอยู่อย่างนี้แหละนะ
“สำหรับคนสำคัญของพี่ ไม่มีอะไรที่แพงเกินไปหรอก.....พรุ่งนี้เรียนกี่โมงนะครับ?”
“สิบโมง พรุ่งนี้มีแต่เล็คเชอร์ วิชาแรกเรียนที่บัญชี”
“งั้นเรารีบกลับบ้านกันดีกว่าเนอะ.....”
“อื้ม.......”
.................................
.................................
“พี่ฟ้า......ไม่ต้องห่วงป่วนนะ ไม่ต้องปฏิเสธทุนด้วย”ตอนนี้ตัวป่วนมันกำลังอุ่น อุ่นสบายจนเกือบจะร้อนด้วยซ้ำ ก็ทั้งเนื้อทั้งตัวที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อกำลังถูกกกกอด
เหมือนกับพี่ฟ้าของมันเป็นแม่ไก่ ส่วนตัวมันก็เป็นไข่อยู่แบบนี้
“หืม?”
พี่อากาศที่กำลังกกไข่ของแกอยู่ในอกรู้สึกเหมือนตัวเองได้ยินอะไรผิดไป เลยพยายามแงะไอ้ตัวที่ซุกหน้าแนบอยู่กับอกส่งเสียงหงุงหงิง ออกมาพูดกันให้รู้เรื่อง
“อยากไปใช่มั้ยล่ะ? ที่บอกจะไปปฏิเสธอาจารย์ เพราะเป็นห่วง กลัวว่าป่วนจะอยู่ไม่ได้ใช่มั้ย?”
ไอ้หนูป่วนมันก็ดื้อนะ ยิ่งพี่อากาศพยายามแงะมันยิ่งซุกหน้าเข้าหาจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับแผงอกอุ่นชื้นเหงื่อของพี่เขาแล้ว
“ว่าไงล่ะพี่ฟ้า ยอมรับมาดีๆเถอะว่าอยากไป มองโกเลียเชียวนะ ไม่ใช่จะไปกันง่ายๆ เอ......ว่าแต่มองโกเลียนี่เค้าใช้ภาษาอะไรน่ะพี่ฟ้า จีนรึเปล่า?”
“ไม่ใช่ครับ ใช้ภาษามองโกเลียนั่นแหละ ไม่ใช่ภาษาจีน”
“นี่แน่ะ จับได้แล้ว พออาจารย์เค้าชวนก็ตื่นเต้นจนไปหาข้อมูลมาแล้วสิท่า หึๆๆๆ”
ไอ้หนูป่วนมันดิ้นดุ๊กดิ๊กจนพลิกกลับไปนอนทับพี่ฟ้าของมันไว้ทั้งตัว ยึดเอาตัวโตๆนั่นเป็นฟูกเสียเลย
แถมยังเคาะนิ้วลงกับแผ่นอกหนาๆนั่นด้วยความหมั่นไส้ไปด้วย
โถ.......ตัวเองกระตือรือร้นอยากไปขนาดนี้ ยังจะยอมเสียโอกาสเดินทางไกลเอาใจน้องมันอีก
“ยอมรับครับ แต่ถ้าตัวป่วนต้องร้องไห้ พี่ไม่ไปดีกว่า”
พี่อากาศแกลูบหลังลูบไหล่ไอ้ตัวเล็กไปตอบไป อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งรักทั้งเป็นห่วงให้มันได้รับรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ไปเถิดพี่ฟ้า.....ก็พี่ฟ้าให้ราคาตั้งแพง แล้วผมก็ขายขาดให้ไปแล้ว ต่อให้นานกว่าสามเดือน ไกลกว่ามองโกเลีย ผมเชื่อ.....ว่าเราทั้งสองคนจะไม่เปลี่ยนแน่ อย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่ถ้าต้องเป็นสาเหตุให้พี่ฟ้าพลาดทำในสิ่งที่อยากจะทำเลยนะ”“ขอบคุณนะครับ พี่แน่ใจว่าไม่มีวันเปลี่ยนใจจากตัวป่วนแน่นอน”
พี่อากาศมองตาไอ้ตัวเล็กที่ยึดตัวแกเป็นที่นอน ค้นคว้าเข้าไปจนแน่ใจว่าคุณแฟนของแกพูดออกมาจากใจจริง แล้วจึงพูดประโยคนี้ออกมา
“แค่นี้ก็พอแล้ว อยู่ที่โน่น ถ้าจะมีอิหนูก็ตามสบายนะพี่ฟ้า แต่ห้ามพกกลับมาเด็ดขาดรู้มั้ย ผมไม่อยากทำหน้าที่คุณนายใหญ่ ต้องมาคอยจัดระเบียบอนุน้อยๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“หึๆๆ พี่จะมีใครได้ แค่ตัวป่วนคนเดียว พี่ฟ้าก็ไม่ต้องการใครอีกแล้ว”
พี่อากาศค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้น พร้อมทั้งโอบอุ้มเอาไอ้ตัวบางๆแต่ฤทธิ์เยอะเข้าเอวแล้วเริ่มออกเดินไปห้องน้ำ
“อีกอย่าง พี่ฟ้าจ่ายให้ตัวป่วนไปหมดแล้ว ไม่เหลือไว้ไปจ่ายให้ใครที่ไหนแล้วล่ะ จริงมั้ย?”
“แล้วผมจะคอยดู เขาว่าสิ่งที่จะพิสูจน์รักแท้ได้มีสามอย่าง เวลา ระยะทาง แล้วก็ความตาย แต่ผมยังไม่อยากตาย แล้วก็ไม่อยากให้พี่ฟ้าตายด้วย เพราะงั้น เรามาใช้เวลากับระยะทางให้เป็นประโยชน์กันดีกว่า นะพี่ฟ้านะ.....” ............................
............................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..