มาแล้วค่ะ ใครที่รอดูสถานการณ์ของพี่ชมพูแกก็เชิญมาอ่านกันต่อได้เลยนะคะ
แปะเสร็จคนเขียนก็ต้องแวบอีกแล้วค่ะ วันนี้วุ่นวายๆมากมาย
ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจมาตลอดนะคะ แอบกดบวกให้คนอ่านที่น่ารักตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ

.......................
.......................
ตอนพิเศษ นอกรอบ....อีกข้างของเรื่อง(2)
////เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้.... The number you……////ยิ่งเวลาผ่านไปพี่ชมพูก็ยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่าน กลางวันกินข้าวราดแกงง่ายๆใต้ตึกคณะแค่พอให้ท้องอิ่ม
โทรหาคุณแฟนตอนแรกๆก็แค่ไม่รับสาย แต่ครั้งล่าสุดนี่ปิดเครื่องไปแล้ว
สงสัยจะปิดเครื่องหนี เฮ้อ.................
วันนี้พี่ชมพูอุตส่าห์วางแผนชวนกินข้าวดูหนัง กะว่าจะได้ใช้เวลาด้วยกันสองคน เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมาแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันสงบๆเลย
ทั้งสองคนมัวแต่วุ่นวายกับการขอใบผ่านฝึกงาน มัวแต่วุ่นวายกับการสอบจบ
วันนี้เรียนวันสุดท้าย พี่ชมพูเลยกะว่าตลอดบ่ายจะยึดตัวเค้กให้อยู่ด้วยกันสองคน แล้วจะได้ขออนุญาตพาไปบ้าน หาพ่อจ๋าแม่จ๋าสักที
ครั้งก่อนๆที่ชวน เค้กก็ปฏิเสธทุกครั้ง อ้างนู่นอ้างนี่ บอกว่ายังไม่พร้อม ยังไม่มั่นใจ มาช่วงหลังๆก็เริ่มเปลี่ยนข้ออ้างใหม่เป็นช่วงนี้เรียนหนัก วุ่นวายทำโปรเจคท์
แต่ทั้งหมดนั้นพี่ชมพูก็รู้ ว่าเป็นเพราะคุณแฟนของแกกลัวการเข้าหาผู้ใหญ่
ก็เค้กเป็นกำพร้า พ่อแม่เสียตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ป.1 เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตกันทั้งคู่
ทิ้งให้ลูกสาวเล็กๆคอยพ่อกับแม่มารับที่โรงเรียนจนเย็นย่ำ ครูเวรถึงได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล
เพราะเจ้าหน้าที่เจอบัตรประจำตัวผู้ปกครองของเด็กหญิงมธุรินทั้งคนที่หนึ่งและคนที่สองในกระเป๋าเงินของผู้บาดเจ็บ
คืนนั้นเค้กที่ยังมีอายุไม่เต็มเจ็ดขวบเลยได้ครูเวรคนนั้นแหละ พากลับไปนอนด้วยที่บ้าน
หลังจากนั้นอีกสองวันเค้กก็ได้ย้ายบ้าน ไปอยู่กับอาคนเดียวที่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ
แล้วก็อีกนานกว่าเด็กน้อยจะเข้าใจว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ไปทำงานกะทันหัน แล้ววันหนึ่งจะกลับมาหา
คุณอาสาวดูแลเค้กอย่างดี ทำให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำให้ได้ เหตุผลหลักๆคือสงสารหลานสาวที่ต้องเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก
แต่คงเพราะไม่เคยรู้ว่าเด็กต้องการความรัก ต้องการการสัมผัสโอบกอด ทำให้เค้กโตมาด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ
โดดเดี่ยว และ.....กลัวความสัมพันธ์ ที่มากกว่านั้นคือความรู้สึกกลัวการสูญเสียที่ฝังใจผ่านมาเกือบสามปีพี่ชมพูกับเค้กไม่เคยมีปัญหาหึงหวงกัน
ทั้งๆที่พี่ชมพูแกสนิทกับทั้งรุ่นเดียวกันทั้งรุ่นน้องไปทั่ว แต่เค้กก็ไม่เคยแสดงอาการไม่พอใจหรือแม้แต่โวยวายใส่
เพราะผู้หญิงคนนี้กลัว กลัวว่าถ้าหากทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ อีกฝ่ายจะหาทางบอกเลิก แล้วจะต้องสูญเสียคนที่รักไปอีก
แต่มาครั้งนี้ หลักฐานรูปถ่ายคาตา ทั้งๆที่ไม่ได้ถามอะไรพี่ชมพูเลย ทั้งๆที่ใจไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นความจริง
แต่คราวนี้เค้กไม่อยากเป็นแบบเด็กหญิงมธุรินในวันนั้นอีกแล้ว
เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายถูกทิ้งให้รอคอย จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายจบความสัมพันธ์เสียเอง................................
................................
“อาหวานสวัสดีครับ”
“อ้าวภพ ทำไมมายืนเกาะรั้วอย่างนี้ล่ะ มาๆเข้าบ้านก่อน”
บ่ายสามโมงพี่ชมพูที่แน่ใจแล้วว่าอย่างไรก็คงติดต่อคุณแฟนทางโทรศัพท์ไม่ได้ก็ตามมาหาถึงบ้าน
กดออดแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีคนออกมาเปิดรับ เลยตัดสินใจยืนรอมันหน้าประตูรั้วนั่นแหละ
ดีที่แค่สิบห้านาทีให้หลัง อาหวาน อาของเค้กกลับมาจากร้านพอดี พอเห็นแฟนหลานสาวมาเกาะรั้วชะเง้อชะแง้อยู่หน้าบ้านถึงเรียกให้เข้ามาด้วยกัน
บ้านของเค้กเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น ที่อาหวานตัดสินใจซื้อเมื่อห้าปีก่อน หลังจากหมดสัญญากับบริษัทที่ทำงานที่ต่างจังหวัด
แล้วตัดสินใจกลับมาเปิดร้านให้เช่าหนังสือเล็กๆพออยู่พอกินที่กรุงเทพ อาศัยอยู่กับหลานสาวเพียงสองคน
เมื่อสองคนเข้ามาใบบ้านเรียบร้อย อาหวานก็เปิดฉากซักถามพี่ชมพูทันที
“ภพ ทำไมมาคนเดียว ทุกทีมาบ้านนี้ก็มาพร้อมเค้กนี่?”
“วันนี้มีเรื่องกันนิดหน่อยน่ะครับอา”
“เอ.......อาว่าไม่นิดหน่อยนะ ปกติเค้กไม่ใช่คนที่จะน้อยใจหรือว่าโกรธใครง่ายๆนี่”
“ครับ คือที่จริงก็ไม่หน่อยหรอก แต่ว่าสิ่งที่เค้กเข้าใจมันไม่จริงนี่สิครับ”
“รอยมือที่หน้านั่น อย่าบอกนะว่าฝีมือเค้ก?”
“เอ่อ........คือ”
“ใช่จริงๆด้วย ถึงกับลงไม้ลงมือเลย ภพเล่าให้อาฟังได้มั้ย?”
“คือว่ามีคนส่งรูปถ่ายของพี่ชายผมกับแฟนให้เค้กดูน่ะครับอาหวาน คนส่งเอาไปสอดไว้ในล็อคเกอร์ของเค้ก”
“แปลว่ารูปนั่น ไม่ธรรมดาสินะ”
“ครับ ในรูปฟ้ากำลังจูบกับแฟนอยู่ เพื่อนผมบอกว่ารูปมันไม่ชัด แต่ฟ้ากับผมก็คล้ายๆกันอยู่แล้ว แถมยังเห็นทะเบียนรถชัดด้วยว่าเป็นคันเดียวกับที่ผมเคยใช้ เคยขับให้เค้กนั่งด้วย.....เฮ้อ.......”
“เค้กนึกว่าเป็นภพสินะ แปลก ทำไมไม่ถามก่อน เค้กไม่น่าจะใจร้อน”
“คือ....คงช็อคน่ะครับ พอดีว่าแฟนฟ้าเป็นผู้ชายด้วย”
“ฮ้า!!!!”
“เอ่อ......แต่พี่ผมกับน้องเขาเป็นคนดีนะครับ”“จ้ะๆ อาก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ตกใจนิดหน่อย มันก็น่าอยู่หรอกที่เค้กจะสติแตก นี่คงไม่ยอมฟังอะไรเลยสิ”
“ครับ โทรหาก็ปิดเครื่องหนีด้วย อาหวานครับ ถ้าเค้กกลับมา ผมขออนุญาตคุยกับเค้ก แล้วก็......ถ้าคุยไม่รู้เรื่องยังไง ผมขออนุญาตพาเค้กไปหาพ่อกับแม่ที่สุพรรณนะครับ”
“หืม? เอางั้นเลยเหรอ? แล้วจะพาเค้กไปหาพ่อกับแม่ ภพคิดว่าจะช่วยให้เค้กเชื่อว่ารูปนั่นเป็นคนอื่นไม่ใช่ภพได้เหรอ?”
“ครับ ตอนนี้ฟ้าไปบ้านแฟนที่ลำพูน กว่าจะกลับก็อีกสองวัน ผมไม่อยากให้เรื่องเข้าใจผิดมันคาราคาซัง อีกอย่างที่บ้านผมพ่อกับแม่ก็รู้จักแฟนฟ้าดี ฟ้าเคยพาไปบ้านมาสองครั้งแล้ว คงช่วยกันยืนยันให้เค้กมั่นใจได้”
“อืม พ่อกับแม่ของภพนี่ใจกว้างดีนะ แสดงว่าแฟนพี่ชายเราต้องน่ารักแน่ๆ แล้วชื่ออะไรล่ะ?”
“ชื่อป่วนครับ น้องมันเป็นรุ่นน้องที่คณะผมนี่แหละ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าใครเป็นคนส่งรูปให้เค้ก แล้วทำอย่างนี้ทำไม ไม่รู้คนที่เป็นเป้าหมายจริงๆคือป่วนมันรึเปล่า เพราะผมกับเค้กก็คบกันมานาน ใครๆก็รู้ แล้วจะมีใครอยากมาทำให้เราเข้าใจผิดกันทำไม....”
////ครืดดดดดดดด ตึง////“เค้กคงมาแล้วล่ะภพ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องยังไงอาอนุญาตให้พาไปบ้านนะจ๊ะ เดี๋ยวอาขึ้นไปข้างบนก่อน”
“เค้ก”
“......................” ไม่มีเสียงตอบรับ นอกจากอาการเมินหน้าหนีแล้วเตรียมก้าวขึ้นไปชั้นบนของบ้าน
“เดี๋ยวเค้ก ฟังกันก่อน ภพอธิบายได้”
“อธิบายงั้นเหรอ มันสายไปแล้วภพ ตอนที่เค้กเปิดโอกาสให้ ทำไมภพไม่พูด”
“โธ่...เค้ก ตอนนั้นภพยังไม่รู้เลยนี่ว่าเค้กโกรธเรื่องอะไร”
“เค้กไม่ได้โกรธ แต่เค้กเสียใจ เสียใจมาก...... เค้กรักภพมากภพก็รู้ ทำไมล่ะภพ เพราะเค้กรึเปล่า เค้กผิดเองใช่มั้ยที่ให้ภพไม่ได้ ภพถึงต้องไประบายกับคนอื่น”ไม่มีเสียงสะอื้นสักนิด แต่อาการที่น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด แม้เจ้าตัวจะปาดทิ้งไปกี่ครั้งแบบนั้น กลับยิ่งทำให้พี่ภพแทบทำอะไรไม่ถูก
“ไม่ใช่นะเค้ก ในรูปนั่นไม่ใช่ภพนะ ภพไม่เคยนอกใจเค้กเลยสักครั้งนะ”
“จะบอกว่าไม่ใช่ได้ยังไง ทุกคนที่เห็นก็บอกตรงกันว่าเป็นภพทั้งนั้น แล้วยังคนที่อยู่ด้วย นั่นมันรุ่นน้องคณะเรานะภพ ภพ....ถ้าที่จริงภพชอบผู้ชาย แต่มาขอคบกับเค้กบังหน้า ทำไมภพไม่พูดมาตรงๆ ทำไมต้องหลอกเค้กด้วย”
“เค้ก คิดอะไรมั่วไปใหญ่แล้ว ในรูปนั่นมันฟ้านะ ป่วนมันเป็นแฟนฟ้า”
“อะไรนะ?”“ฟ้ากับป่วนคบกันอยู่ ที่เค้กเห็นในรูปน่ะคือฟ้า”
“......ไม่จริงอ่ะ”
“นี่ไง พอภพพูดความจริงเค้กก็ไม่เชื่ออีก จะต้องให้ภพทำยังไงเค้กถึงจะเชื่อเนี่ย?”
“แต่.....ภพอาจจะโกหกก็ได้นี่ ไม่มีหลักฐานว่าคนในรูปเป็นพี่ฟ้านะ”
“แล้วมีหลักฐานตรงไหนบอกว่าเป็นภพล่ะเค้ก?”
“ก็......ก็ก่อนหน้านี้ภพก็เคยเอาของให้น้องป่วนบ่อยๆนี่ แล้ว แล้วยังชอบพาน้องกลุ่มนี้ไปเลี้ยงด้วย”
เสียงคนพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้งเริ่มจะแสดงออกถึงความไม่มั่นใจในข้อมูลของตัวเองเสียแล้ว
“ของพวกนั้นฟ้ามันฝากมาทั้งนั้นแหละ แล้วที่พาไปเลี้ยง ภพก็เลี้ยงน้องกลุ่มอื่นเหมือนกันนี่นา เอ๊ะ.......เดี๋ยวก่อนนะ หึๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไร?”
ถามไปแล้ว และพอเงยหน้าที่เอาแต่ก้มมองพื้นตั้งแต่เมื่อกี้เพราะเริ่มตงิดใจว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเข้าใจผิดขึ้น เค้กก็เลยเจอเข้ากับแววตาเจ้าเล่ห์ของพี่ชมพูเข้าอย่างจัง
“ถ้าเค้กคิดอย่างนี้ ก็แสดงว่าที่ผ่านมา ที่ทำเป็นเฉยๆมาตลอด ที่จริงแล้วเค้กก็หึงเราใช่มั้ย?”ไม่ถามเปล่า แต่พี่ชมพูยังถือโอกาสที่คุณแฟนที่แน่ใจว่าจะไม่ต้องเลิกกันแล้วมัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ก้าวเข้าประชิดตัวแล้วคว้าหมับเข้าที่ไหล่บางๆนั่นทั้งสองข้าง
“เฮ้ย!! ทำไรอ้ะ?”
“เปล่านะ ภพแค่อยากมองหน้าคนขี้หึงฝังในให้ชัดๆหน่อยเท่านั้นเอง”ไม่พูดเปล่า พี่ชมพูยังส่งยิ้มเยิ้มๆให้คุณแฟนอีก เอ่อ......ได้ข่าวว่าคุณแฟนของพี่ยังไม่เคลียร์เลยนะ
“ปล่อยเลยภพ เรื่องรูปนั่นยังไม่เคลียร์เลยนะ” เห็นมั้ยๆ ก็บอกแล้วว่าเค้กเขายังไม่เคลียร์
“งั้นเอางี้ เราไปสุพรรณกันนะเค้ก ไปหาพ่อจ๋ากับแม่จ๋าของภพกัน พ่อจ๋าแม่จ๋ารู้เรื่องไอ้น้องป่วนกับฟ้าดี เค้กไปฟังคำยืนยันเองเลยนะจ๊ะ”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่พี่ฟ้ายืนยันก็พอแล้ว”
ทางนี้ก็อ่อนไปหมดทั้งเสียงทั้งตัวแล้ว ปฏิเสธน่ะมันต้องเสียงแข็งๆนะเค้กนะ มันถึงจะน่าเชื่อถือ
“ไม่ได้หรอก ฟ้าไปบ้านป่วนที่ลำพูนโน่น อีกตั้งหลายวันกว่าจะกลับ ขืนให้คุยทางโทรศัพท์ เดี๋ยวเค้กก็จะมาว่าได้ทีหลังน่ะสิว่าภพไปเตี๊ยมกับฟ้าไว้ก่อน”
แหมๆๆ ได้โอกาสเพิ่มจำนวนวันเฉยเลยนะพี่ชมพู ช่างกล้าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสจริงๆ คราวนี้ล่ะจะได้พาสะใภ้เล็กไปแนะนำตัวเสียทีสินะ
“เค้ก.....เค้กไม่ว่าหรอก แค่โทรคุยก็พอแล้ว”
“ไม่เอาอ้ะ ไปเค้ก เราไปกันเลยนะ เดี๋ยวไปขึ้นรถที่สายใต้กัน นั่งรถไม่นานหรอก แค่ไม่เกินสองชั่วโมงก็ถึงบ้านแล้ว"
“อะไร ไปตอนนี้เลยเนี่ยนะ?”
“อื้ม งั้นสิจ๊ะ จะได้ไม่ไปถึงมืดไง ไปๆ ไปกันเลยนะ”
พูดจบพี่ชมพูก็ละมือออกจากไหล่ มากำไว้รอบข้อมือของคนที่ยังอึ้งจนเถียงไม่ออก แล้วจัดการจะลากออกจากบ้านทันที
“เดี๋ยวๆๆ ยังไม่ได้บอกอาหวานเลย”
“ภพบอกอาหวานเรียบร้อยแล้ว อาหวานอนุญาตแล้วด้วย บอกว่าให้ไปได้เลย อาหวานจะนอนพัก”
เออนะ ไอ้ที่บอกจะนอนพักนี่เข้าใจว่าพี่ชมพูแกจะเติมเอง ฮ่าๆๆๆ ใจร้อนไปไหนพี่
“งั้น....ขอไปเก็บของแป๊บนะ ก็...ไปตอนนี้ยังไงก็คงต้องค้างแน่ๆ ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนสิ”
“ตกลงจ้ะ ภพจะรอตรงนี้นะ เร็วๆนะเค้ก”
...............................
...............................
สตอล์กเกอร์หนุ่มน้อยที่แอบสังเกตการณ์มาตั้งแต่พี่ชมพูออกจากคณะมาจนถึงบ้านของคุณแฟนที่กลับมาคืนดีกันได้เร็วเหลือเชื่อ
ได้แต่ถอนใจยาวๆอย่างแสนเสียดายอยู่ในมุมมืดซอกตึก เมื่อเห็นคู่รักเขาเดินจับจูงมือพากันขึ้นรถแท๊กซี่ที่โทรเรียกให้มารับถึงหน้าทาวน์เฮาส์หลังน้อย
คงต้องตัดใจจริงๆแล้วสินะ เมื่อความพยายามให้พี่ภพเป็นโสดอีกครั้งมันไม่ได้ผล โอกาสสุดท้ายของเขาหลุดลอยไปแล้ว
ทั้งๆที่กะว่าจะต้องเป็นพายุลูกใหญ่ที่พุ่งเข้าทลายสองคนนั้นแท้ๆ.....
แต่เรื่องที่ทำเต็มที่และหวังไว้เต็มที่กลับทำให้สองคนเขาเข้าใจผิดกันได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย
แสนเสียดายที่ตัวเองเกิดช้าไปหนึ่งปี ไม่อย่างนั้น.....ถ้ามีโอกาสเจอพี่ภพพร้อมๆกับผู้หญิงคนนั้น เขาอาจจะเป็นคนที่ได้หัวใจของพี่ภพมาครองก็ได้
แต่ทั้งๆที่ผิดหวัง ก็กลับยังรู้สึกภาคภูมิใจที่ตัวเองรักคนไม่ผิด พี่พิภพ เป็นเหมือนแผ่นดินที่มั่นคง สมควรแล้วที่จะถูกรักจริงๆ
ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำนอกจากจะพยายามตัดใจก็คงเป็นการหาทางไถ่โทษกระมัง
ก็ความพยายามเพื่อหัวใจตัวเองครั้งสุดท้ายมันทำให้ไอ้หลานรหัสคนดีมันโดนหางเลขไปด้วยนี่นา
ตัวป่วนเอ๊ย........ลุงรหัสของแกขอโทษจริงๆนะ เอ....พามันไปเลี้ยงหมูกระทะมื้อใหญ่จะทดแทนพอมั้ยหนอ??? .......................
.......................
ปล.โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ
