สายลมแห่งความสุข
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านสีฟ้าเข้ม สายลมอ่อนๆพัดเข้ามาเรียกให้ดวงตาของผมเปิดออก อากาศเย็นๆในยามเช้าสดชื่นกว่าเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสียงอือๆทั้งคืนเป็นไหนๆ เหลือบมองคนที่นอนข้างกายก็เผยรอยยิ้มออกมาบางๆเท่านั้น
ใบหน้าขาวสว่างต้องกับแสงแดดทำให้รู้สึกเหมือนกับใบหน้านั้นสว่างจ้ากว่าที่เคย รอยยิ้มเล็กๆประดับมุมปากบ่งบอกว่ากำลังฝันดี เห็นแล้วอดคิดอิดฉาคนที่อยู่ในฝันนั้นไม่ได้ หวนคิดไปถึงสมัยยังเป็นเด็ก นิทานเรื่องโปรดที่เจ้าตัวมักเล่าให้ฟังบ่อยๆจนจำขึ้นใจ
'เจ้าหญิงนิทรา'
ใช่ เจ้าหญิงนิทราที่ถูกแม่มดใจร้ายหลอกให้กินแอปเปิ้ล พอจะเถียงเจ้าตัวก็รีบแทรกขึ้นมาว่า
'นี่แหละ นิทานฉบับใหม่ ไฉไลกว่าฉบับเดิมตั้งเยอะ'เอากับเค้าสิ
ตอนจบ เจ้าหญิงได้ครองรักกับพ่อมด เพราะพ่อมดฆ่าเจ้าชายตายหลังจากที่เจ้าชายมอบจุมพิตให้เจ้าหญิง เจ้าหญิงไม่รู้เรื่องก็เลยคิดว่าพ่อมดช่วยตนเอาไว้ นั่นเห็นไหม.....เจ้าหญิงมันโง่
ยิ่งหวนคิดถึงอดีตรอยยิ้มยิ่งผุดขึ้นมาเรื่อยๆ นานแค่ไหนแล้วนะ......นานแล้วที่ทำความสุขหล่นหาย ทั้งๆที่มันก็อยู่กับเราตลอด นานเท่าไหร่แล้ว......ที่ลืมสิ่งสำคัญไป นานเท่าไหร่แล้วที่จอมจมอยู่ในวังวนที่ไม่สิ้นสุด
นานเท่าไหร่แล้ว.......ที่ลืมไปว่า แท้จริงความสุขนั้นอยู่รอบๆตัวเรา ความสุขคือด้านกลับของความทุกข์
เลือกที่จะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่ตัวเราต่างหาก
เพียงแค่มองมุมกลับ มองด้านใหม่ๆ ก็จะเห็นความสุขที่อบอวนอยู่รอบๆกาย ความสุขที่มีกลิ่นหอมเหมือนแสงแดดอ่อนๆยามเช้า ความสุขที่เหมือนละอองไอน้ำที่ชุ่มช่ำ เหมือนใบหญ้าที่เขียวขจี เหมือนทุ่งข้าวสีเหลืองที่มีกลิ่นหอมของรวงข้าว เหมือนกับตอนนี้.....ที่มีอ้อมกอดนี้คอยกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แต่มันก็ไม่อึดอัดเอาเสียเลย
"ตื่นนานแล้วเหรอ"
"............." ผยักหน้าแทนคำตอบ
"มองแต่หน้ามันอยู่ได้ มองพี่มั่งสิ" น้ำเสียงอ้อนๆที่ได้ยินบ่อยจนชิน แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ใจอ่อน
ฟอดดดดด
แก้มเนียนถูกกดทับด้วยริมฝีปากชื้นๆของใครอีกคน ทำเอาผมตาโตเท่าไข่ห่าน ตื่นกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย น่าขำที่ผู้ชายตัวโตๆสี่คนมานอนแออัดยัดเยีดกันอยู่บนเตียงเล็กๆเพียงเตียงเดียว
"ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำอาบท่า" ผมบอก ทำให้ทั้งสามต่างแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ส่วนผมนั้นยังคงนอนอยู่บนเตียงคิดอะไรเพลินๆคนเดียว
4 ปีแล้วสินะ
นี่ก็ผ่านมาสี่ปีแล้วหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เรื่องราวต่างๆค่อยๆคลี่คลาย และดีขึ้นตามลำดับ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมก็ย้ายกลับมารักษาตัวที่เชียงใหม่ เป็นเวลาสองปีกว่ากว่าจะกลับมาหายขาด ส่วนเรื่องเรียนตอนนี้ผมขึ้นปีหนึ่งแล้ว ส่วนมหาลัยก็เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังของที่นี่......
ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะผ่านมันมาได้ แต่สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาแล้ว ตอนนี้ผมโตขึ้นมาก มีความคิดกว่าเมื่อก่อนและรู้จักการให้มากกว่าการรับ
"คิดอะไรอยู่ครับ เหม่อเชียว อย่าบอกนะว่านอกใจกัน" ไอดินเดินมากอดผมจากทางด้านหลัง อ้อมอกนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อบอุ่นเสมอๆ ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหูทำให้ผมต้องเอียงหน้าหนี
"ไอดิน......มันจั๊กจี้"
"งอนแล้วด้วย ไม่เคยยอมให้กอดเลย" คนตัวโตเวลางอนที่มันก็ให้ความรุ้สึกพิลึกไปอีกแบบ ผมหัวเราะคิก
"อะไรๆ อย่ามายุ่งกับน้องกู" พี่ซัมเมอร์ผลักอกไอดิออก กอดจะดึงผมเข้าไปกอดแทน
"ลามปามละมึง ลามปามๆ" ไอดินกระฟัดกระเฟียดอย่างขัดใจ
"อะไร ใครลามปาม นี่น้องกู กูหวง อย่ามายุ่ง เดี๋ยวจะเจอดี"
"เออ!! อย่าให้ถึงตาที่พวกมึงไม่อยู่นะ กูจะ......"
"จะอะไร พูดดีๆนะมึง" ไม่ใช่เป็นคำพูดของพี่ซัมเมอร์ แต่เป็นของผมเอง
"โถ่.....จะอะไรได้ล่ะ ก็จะกอดให้แน่นๆไงครับ" แล้วมันก็ส่งสายตาหวานเลี่ยนมาทางผม พี่ซัมเมอร์ทำหน้ายี้ก่อนจะดึงผมนั่งลงบนเตียง โดนมีผมนั่งแหมะอยู่บนตัก ใบหน้าของเขาซุกลงบนแผ่นหลังผม ความเงียบโรยตัวเข้ามาอีกครั้ง
"อย่า......อย่าเป็นแบบนั้นอีกนะ อย่ากลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีกนะ" อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นจนผมรู้สึก
"พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้ซัมเมอร์ เสียอารมณ์ซึ้งกูหมด" ไอดินตบหัวพี่ซัมเมอร์ไปที จนหน้าผากของพี่ซัมเมอร์โขกเข้ากับหลังของผมเสียงดัง......เจ็บจัง เล่นบ้าอะไรกันเนี่ย
"ลมมมม เข้ามานี่หน่อย ช่วยพี่ด้วยยยย"
เสียงของพี่ออทัมดังมาจากในห้องน้ำ ผมแตกตื่นวิ่งเข้าไปก็พบกับพี่ออทัมที่นั่งสบายในอางอาบน้ำ ผมไม่เห็นว่าเค้าจะมีปัญหาอะไรเลย แต่ทำไมถึงร้องซะดังขนาดนั้น
"พี่เป็นอะไร"
"เป็นโรคสำออย" สองเสียงด้านหลังดังขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมรุนหลังทั้งสองออกไปก่อนจะกลับเข้ามาในห้องน้ำ เพื่อจัดการกับปัญหาของคนตัวโตที่นั่งทำหน้าสบายใจอยุ่ในอ่าง
"ลมม ถูหลังให้พี่หน่อยนะครับ นะครับๆๆๆ" ผมมองพี่ออทัมอย่างเอือมระอา แต่ก็เดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่าง พี่ออทัมยิ้มๆแต่ก็ไม่ยอมหันหลังให้ซะที
"หันหลังไปสิ ถ้าไม่หันไปแล้วผมจะถูหลังให้ยังไง"
"อย่างนี้ไง!!"
"อ๊ะ!!"
ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆพี่ออทัมก็ดึงผมลงไปในอ่าง จนเปียกไปหมดทั้งตัว ผมหันไปคาดโทษพี่ออทัมแต่พอจะอ้าปากด่าก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากอุ่นนุ่มนั้นเสียก่อน
"อือ......"
ผมครางเบาๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะหมดอากาศหายใจ มือก็พยายามทุบหลังเบาๆ ริมฝีปากหนาผละออกเพียงไม่กี่วิก่อนจะประกบเข้ามาใหม่ เนิบช้าแต่มั่นคงเหมือนความรู้สึกของเขาที่ส่งผ่านมาทางริมฝีปาก
แต่ก็ได้แค่นั้น ...... ได้เพียงแค่ครอบครองริมฝีปาก หากว่ามากกว่านั้น.......มันก็เป็นไปไม่ได้
บทลงโทษของพระเจ้าที่มอบให้กับคนผู้นี้ ช่างหนักหนาสาหัสเกินกว่าเขาจะแบกรับ ผมรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกครั้ง......ทุกครั้งก็ได้แต่เห็นน้ำตาของคนผู้นี้ คนที่รักผมมากกว่าน้องชายคนนึงไม่ได้
".......อือ......."
ผมครางประท้วงอีกครั้งเมื่อพี่ออทัมเริ่มปลุกเร้าบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ซึ่งมันมากกว่าที่เคยทำทุกที มันเริ่มจะมากกว่าจูบซะแล้ว
พี่ออทัมผละออกก่อนจะจ้องตาผมอย่างเว้าวอน ผมกำมือแน่นเมื่อเห็นแววตาที่วาววับนั่น กัดริมฝีปากจนมันเป็นเส้นตรง มือหนาลูบใบหน้าผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะก้มลงมาจุมพิตเบาๆลงบนเปือกตา
"ขอโทษ........"น้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ แต่ผมที่อยู่ใกล้ย่อมได้ยินมันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ผมดึงตัวของพ่ออทัมเข้ามากอดแน่นก่อนจะลูบศรีษะอย่างแผ่วเบา ร่างใหญ่เริ่มสั่นเทิ้มจนผมรู้สึกได้ น้ำอุ่นๆที่หยดลงบนเสื้อทำให้ผมเองก็เจ็บไม่แพ้กัน
ผมไม่อยากให้เขาร้องไห้......
ผมเดินออกห้องน้ำมาพร้อมๆกับพี่ออทัมที่ตาแดงๆอยู่ ไอดินเดินมาดึงผมไปยืนใกล้ๆก่อนจะดึงเอาผ้าเช็ดตัวมาแล้วดึงผมเข้าห้องน้ำอีกครั้ง
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อาบน้ำอีกซักทีเป็นไร อาบน้ำกับแฟนตัวเองคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง ใช่ไหมครับพี่ชายของแฟน" ไอดินดูเหมือนจะสะใจมาก ดูจากหน้าตาของมันผมก็พอรู้
"อะไรไอ้ไอดิน กูไปเป็นแฟนมึงตอนไหน"
"ไม่เป็นแฟนแต่เป็นเมียก็ได้เอ่า!!" ใบหน้าของผมร้อนฉ่าขึ้นมาจนต้องแก้อาการขัดเขินนี้โดนการหยิกเอวของมันแรงๆ
"หงิงงงงงง หยิกเค้าทำไมอ่า" นี่ก็อีกคน ขี้อ้อนไม่มีใครเกิน
"พอๆไอ้ไอดิน กูจะอ้วก เดี๋ยวมึงจะเจอตีน" พี่ซัมเมอร์เดินปิดปากออกจากห้องไป จนตอนนี้เหลือแต่ผม ไอ้ไอดิน และพี่ออทัม
"ป่ะลม เราไปทำธุระของผัวเมียกันเถอะ"
"ไอ้ไอดิน!!"
"หงิง" ดูมันครางรับครับ
ผมหันไปมองทางพี่ออทัม มือของเขากำแน่นจำมันขึ้นมเป็นสีขาว ดวงตาเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง เหมือนไม่อยากจะรับรู้หรือไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น
"มึงก็มาอาบด้วยกันสิ"ไอดินหันไปชวนตามมารยาท ทั้งๆที่การจะไปอาบน้ำไม่จำเป็นต้องชวนใคร เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว
"จริงเหรอ" พี่ออทัมหันมาถาม
"ป่าว ชวนไปงั้น เห็นหมามันเหงาๆเพราะเจ้าของทอดทิ้งเลยสงสาร แต่จะให้เจ้าของของตัวเองเก็บไปเลี้ยงก็ใช่ที่"
"ไม่รู้ ไม่สน กูสนแต่คำแรก" พี่ออทัมลอยหน้าตอบก่อนจะตรงดิ่งมาลากผมเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง
"เฮ้ยยยยยย ได้ไงวะ!!"
ไอดินวิ่งตามเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะดึงผมเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหน ผมได้แต่หัวเราะขำๆกับอาการเด็กๆนี่ของเขา แต่พอเหลือบมองไปยังอีกคนก็หัวเราะไม่ออก......ไม่รู้ว่าการอาบน้ำครั้งนี้ จะราบรื่นดีไหมนะ
จบตอนพิเศษ
****
นิสัยไม่ดีเนอะ ตอนพิเศษก็คลุมเครือ
คือยังแต่งไม่ออกไรประมาณนั้นค่ะ 555+