พิมพ์หน้านี้ - เสียงกระซิบจากลมหนาว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: nanohuman ที่ 05-04-2010 20:02:22

หัวข้อ: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 05-04-2010 20:02:22
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





บทนำ


    ช่วงเวลาที่พระเจ้าทำหล่นหาย คือช่วงเวลาแห่งความสุขของผม.....



ผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ที่มีความรักและความฝัน......

ผมคือคนๆนึงที่เจ็บปวด ร้องไห้ ทุกข์ทุน และทรมาณเป็นไม่ต่างไปจากใคร.....

วันเวลาหล่อหลอมผมจนกลายมาเป็นตัว'ผม'ในวันนี้..............

แต่ผมคนนี้.....กลับไม่เคยมีตัวตนในสายตาของใคร

เสียงนี้....ไม่เคยมีใครได้ยิน

ลมหายใจนี้......ไม่เคยมีใครจะรับรู้

ผม......ที่แม้แต่ครอบครัวก็ไม่ต้องการ

แล้วใครกัน......จะเห็นผม.....ซึ่งอยู่ในความมืดมนแห่งนี้กัน

ถ้าเห็น.....ได้โปรด หยิบยื่นมือของคุณมาให้ผมที.....

ฉุดผมขึ้นจากความทรมาณนี้ที.......


    อีกไม่กี่วันความฝันของผมก็จะเป็นจริงเสียที วันที่ผมจะได้พบหน้าพี่ชายทั้งสองคนของตนเอง พี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน พี่ชายที่ไม่เคยได้รับรู้ว่ามีน้องชายคนนี้อยู่อีกคน

อยากจะรู้นัก......ว่าครอบครัวนั้นจะอบอุ่นเพียงไหน

อยากจะรู้นัก.....ว่าจะมีช่องว่างให้ส่วนเกินอย่างผมแทรกเข้าไปได้ไหม

อยากจะรู้นัก....ว่าผู้ให้กำเนิดผม.....ยังจำลูกคนสุดท้องคนนี้หรือเปล่า

อยากจะรู้จริงๆ......


ผมไม่ได้มาเรียกร้องอะไรจากพวกเค้าทั้งนั้น

เพียงแค่.....ขอเพียงแค่รอยยิ้มอันอบอุ่น.......ที่จะจารึกอยู่ในความทรงจำของผมแม้วันสุดท้ายของลมหายใจ

แค่นี้ให้ผมได้ไหมครับ.....คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย.......

****
นิยายเรื่องนี้แต่งจบแล้วค่ะ
จะทยอยมาลงเรื่อยๆ
และอาจจะมีการแก้ไขเนื้อหาหรือเพิ่มเนื้อหาบางส่วน
จะทยอยลงวันละตอนถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดค่ะ
ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ^^

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระ
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 05-04-2010 20:19:08
เสียงกระซิบจากลมหนาว 1





"ดูแลตัวเองด้วยนะ ลม"

"ครับแม่ ผมไปเรียนนะครับ" ผมบอกลาแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถมุ่งตรงไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ แม่เป็นห่วงผมมากๆเพราะร่างกายของผมไม่แข็งแรงเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป

แม่คนนี้ที่รักผมสุดหัวใจ แม้ว่าผมจะเป็นลูกนอกไส้ของท่าน

แม่คนนี้ที่อยู่เคียงข้างผมมา แม้ในนาทีเป็นนาทีตายของชีวิต

แม่คนนี้ที่ยอมเสียทุกอย่าง แต่ไม่ยอมเสียผมไป

แม่คนนี้ที่เห็นคุณค่าของชีวิตผม ซึ่งแม้พ่อแม่แท้ๆของผมยังไม่เคยเห็นค่ามันด้วยซ้ำ

ขอบคุณครับแม่......ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ให้ผมมา

ผมสัญญา......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ผมสัญญาว่าแม่ก็ยังจะเป็นแม่ของผม แม่ก็ยังจะเป็นแม่ที่ผมรักสุดหัวใจเหมือนเดิมครับ




"ถึงแล้วครับคุณลม"
   
    ผมบอกขอบคุณลุงหนอมคนขับรถเบาๆก่อนจะเดินลงจากรถมา โรงเรียนแห่งนี้คือโรงเรียนที่พี่ชายทั้งสองของผมเรียนอยู่ ผมย้ายมาจากเหนือเพื่อมาตามหาพวกเค้า โดยที่ผมให้สัญญากับแม่ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีต จะไม่บอกพวกเค้าว่าผมเป็นน้อง ไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับครอบครัวนั้นให้ใครฟัง เพียงแค่ให้ผมมาพบ....และเฝ้าดู แค่นี้.....ผมก็พอใจแล้วล่ะ

เพียงแค่เฝ้าดู........ก็เพียงพอแล้ว

ผมรู้ว่าแม่กลัว......กลัวว่าจะเสียผมไป

    ผมไม่อยากอกตัญญูกับผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงผมมาจนเติบใหญ่ ผมจึงเลือกทำตามคำขอของท่านอย่างไม่ลังเล


   เดินเรียบไปตามทางเดินโดยไม่มีใครสนใจใคร หรือว่าพวกเค้าไม่สนใจผมก็ไม่อาจจะรู้ได้ ปกติผมมันก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ผมไอ้แว่นขี้เหร่ขี้ก้างเหลาะแหละและอ่อนแอ ไม่มีใครอยากรู้จัก ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วยหรอก ตัวที่สูงไม่ถึง 170 ซม.ดี ผิวขาวจัดจนเกือบซีดเพราะไม่ค่อยได้ออกแดด ใบหน้าเรียวเล็กกับรูปร่างที่ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ทำให้ผมถูกเพื่อนๆแกล้งอยู่บ่อยๆ ทั้งชีวิตของผมมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน

พวกเค้าจึงเป็นเกือบทุกสิ่งทุกอย่างของผม

แต่ตอนนี้.....ผมหนีเพื่อนมาเพื่อตามหา ตามหาสิ่งที่เป็นความฝันของผม

หวังว่าจะเข้าใจกันนะ.......

"เอาล่ะค่ะ นักเรียนทุกคนมารู้จักเพื่อนใหม่กัน แนะนำตัวจ๊ะ"

"สวัสดีครับ ผมชื่อนายวายุ .... เรียกลมก็ได้ครับ"

   ผมแนะนำชื่อไปซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจฟัง เป็นอย่างนี้เสมอๆแหละ ผมมันไม่เคยมีตัวตนอยู่แล้วนี่....... ผมกวาดสายตามองไปรอบๆก่อนจะไปสดุดตากับร่างสูงโปร่ง ผิวขาวแต่ไม่เท่าผม นัยส์ตาสีดำสนิทเช่นเดียวกับสีผม รอยยิ้มของเขาเหมือนพระอาทิตย์ตอนหน้าร้อนเช่นเดียวกับชื่อของเขา.....ซัมเมอร์

   พี่ชายฝาแฝดของผมเอง.....ผมรู้สึกหายใจติดขัด เหมือนมีอะไรมาจุกในอก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ 

เขาคือพี่ชายของผม......พี่ชายของผม.....

     แม่บอกว่าเขาคือพี่ชายฝาแฝดของผม เราเป็นแฝดคนละฝา จึงมีหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกัน พี่ซัมเมอร์มีหน้าตาน่ารักๆ ยิ้มเก่ง ใครได้เข้าใกล้ก็รู้สึกอบอุ่น

อาจารย์บอกให้ผมไปนั่งข้างเขา.....ดีใจจัง ผมแอบยิ้มในใจ

"นายย้ายมาจากไหนเหรอ อ่อ....เราชื่อซัมเมอร์ ยินดีที่รู้จักนะ" พี่ซัมเมอร์หันมาทักผมพร้อมรอยยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ เขายิ้มให้ผม......

ผมรู้สึกตื้นตันใจจัง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว....สำหรับต่อชีวิตของผม

"มาจากเชียงใหม่......ชื่อลม" ผมตอบเสียงค่อย ผมเป็นคนเสียงหวานแม่บอกอย่างนั้น แต่ผมไม่ชอบเสียงแบบนี้เลย.....มันจึงทำให้ผมไม่ค่อยชอบพูดกับใคร

"ชื่อลมเหรอ....."

    ใช่ครับ ลม.....ที่มาจากคำว่า วินด์........วินเทอร์.......แม้จะต่างความหมายกัน แต่มันก็บ่งบอกถึงอุปนิสัยของผมได้เป็นอย่างดี วินเทอร์ที่ต่างจากซัมเมอร์ ฤดูหนาวที่แสนหนาวเหน็บ ต่างจากฤดูร้อนที่อบอวลไปด้วยความสุข.....

ลม.....ชื่อนี้ แม่เป็นคนตั้งให้ และผมก็รักมันเหลือเกิน.....เพราะมันคือชีวิตใหม่ของผม แม่บอกว่าแม้ลมจะเป็นลมหนาว แต่เมื่อพัดผ่านมายังแม่ ลมคือสายลมแห่งความอบอุ่นที่ห่อหุ้มแม่เอาไว้และช่วยปัดเป่าท่านจากความว้าเหว่

"........."

    แล้วเราก็เงียบกันไป ทั้งๆที่ผมมีเรื่องราวมากมายอยากจะพูดคุย อยากจะถามไถ่แต่ผมก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถามเพราะกลัวเขาจะรังเกียจ กลัวว่าเขาไม่อยากจะคุยกับผม กลัวว่าถ้าผมรีบร้อนเค้าจะตีตัวจากผมไป แล้วผมจะพลาดทำความรู้จักกับพี่ชาย

"ลม....ลม" เสียงเรียกของพี่ซัมเมอร์ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิด หันมามองหน้าเขาอย่างสงนสงสัย แต่ก็ดีใจที่เขาจำชื่อผมได้

"ไปกินข้าวด้วยกันไหม"

    พี่ซัมเมอร์เอ่ยชวน เพื่อนๆของเขาทั้งชายหญิงส่งสายตาห้ามปราม แต่เขาก็ทำเหมือนไม่รับรู้ดึงมึงผมให้ลุกตามไป

ไปกินข้าวกับพี่ชาย......มื้อแรกของผมและเค้าจะเป็นยังไงนะ

"ลมจะกินอะไรดี เอ.....กินสุกี้ทะเลกันมั้ย" พี่ซัมเมอร์หันมาถามผมเสียงใส เพื่อนๆของเขาคนอื่นๆต่างพากันเขม่นผม จนผมตัวลีบเหลือไม่กี่เซ็น ผมรู้ว่าพี่ซัมเมอร์ชอบกินอาหารทะเล แต่ทั้งๆที่เราเป็นฝาแฝดกันแต่ผมกลับแพ้อาหารทะเลทุกชนิด......

"เราแพ้อาหารทะเล" ผมก้มหน้าบอกเสียงค่อย พี่ซัมเมอร์ทำตาโตก่อนจะพึมพำว่าถ้าเขาแพ้มั่งชีวิตนี้คงจะไม่มีความสุข

"หึ นอกจากขี้เหร่แล้วยังขี้โรคอีกนะ" เพื่อนผู้ชายคนนึงซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แดกดันเบาๆให้พอได้ยินไม่กี่คน ผมรู้ตัวดี.....ไม่ต้องตอกย้ำจุดต้อยของผมก็ได้

"ตัวก็เตี้ย ผิวก็ซีดอย่างกะศพ ใส่แว่นเทอะทะ ผมก็ยาวรุงรังคงจะไว้ยาวเพื่อปกปิดใบหน้าขี้เหร่ๆของตัวเองล่ะสิ อย่ามาอยู่ใกล้ซัมเมอร์เดี๋ยวเค้าจะมีเสนียดติด" เมื่อพี่ซัมเมอร์ออกเดินไปซื้ออาหารแล้วทิ้งผมอยู่กับเพื่อนๆของเค้า พวกเพื่อนๆของเค้าก็พากันรุมต่อว่าเสียดสีผมทันที

"แล้วรู้เอาไว้ด้วย ว่าพี่ออทัมไม่ยอมให้คนอย่างมึงมาเข้าใกล้น้องชายเค้าให้เป็นจัญไรหรอก" ออทัมคือพี่ชายคนโตของผม เขาคงจะรักพี่ซัมเมอร์มากๆล่ะสิ ถึงได้จัดการให้พี่ซัมเมอร์ทุกอย่างแม้แต่การเลือกคบเพื่อนฝูง

    พี่ออทัม.....พี่ชายคนโต เปรียบเสมอฤดูใบไม้ร่วง เย็นชาแต่ก็อบอุ่น แม้จะขัดแย้งกันแต่นั่นก็คือตัวเขา เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวที่เปรียบเสมอชีวิตของเค้า

    หากถามว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องราวของพวกเค้ามากมาย คำตอบคือ.....ผมให้คนไปสืบมาหมดแล้ว รู้แม้กระทั่งอาหารที่ชอบหรือไม่ชอบกิน แม่เป็นคนจัดการทุกอย่างให้ตามคำขอของผม อย่างที่บอกท่านรักผมมาก เพียงแต่ท่านขอให้ผมให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งท่านไป ไม่ว่าเดือนหรือดาวท่านก็จะไปคว้ามาหากลูกนอกไส้คนนี้ต้องการ.......

"อ่าว.....ลม ยังไม่ได้ไปซื้ออีกเหรอ" พี่ซัมเมอร์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าผมยังย่ำอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน ในมือพี่เค้าถือสุกี้ทะเลชามใหญ่กลิ่นหอมฉุน พี่ซัมเมอร์ยิ้มให้ผมก่อนจะโบกมือให้ไปซื้อขาวแล้วตามเขาไปที่โต๊ะ

ผมรู้ว่าพวกพี่ชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร......

แล้วพวกพี่จะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมบ้างมั้ยนะ......

     คงไม่รู้สินะ.........ทั้งๆที่สัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆว่าจะไม่เสียใจ......แต่สุดท้ายมันก็จุกจนพูดไม่ออกเลย ทั้งๆที่ตั้งใจจะแค่เฝ้าดู.....แต่เวลานี้ผมได้รู้จัก

แล้วเรื่องไม่คาดคิดอีกมากมายที่จะตามมา.....ผมจะรับมันได้มั้ยนะ.......



****
ส่วนเรื่องโทษที ขอติดไว้ก่อนนะคะ ยุ่งๆอยู่ค่ะ
แบบว่ากำลังยุ่งเรื่องเรียนอยู่ค่ะ
ส่วนเรื่องนี้อาจจะเศร้าไปนิด แต่ก็เป็นเรื่องแรกที่แต่งจบ
ยังไงก็ฝากไวเนอ้อมใจด้วยนะคะ><

ทำไมพอแก้ชื่อเรื่องแล้วมานเปนแบบนั้นทุกทีเลยอ่ะคะ
แบบว่าเปนภาษาต่างดาวอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 05-04-2010 20:51:31
คนแรก เย้
ตามมาอ่านเรื่องใหม่ :mc4:
คนละแนวกับเรื่องขอโทษทีฯ เลย
เป็นกำลังใจให้น๊า
ปล.พี่น้องชื่อน่ารักจัง ออทัม ซัมเมอร์ วินเทอร์
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 05-04-2010 20:54:42
ความเปรียบเหมือนฤดูสินะครับ

ทุกๆฤดูก็มีความเเตกต่างซึ่งกันเเละกะน

เนื้อเรื่องดูเศร้าๆน่าอ่านดีนะครับ

มาเจิมซะเลย  :mc4:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 05-04-2010 22:22:08
ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :L2:

เรื่องนี้จะจบเศร้าไหมนะ  :impress:

ปอหล๋ออออ~ ชื่อเรื่องขาดๆแหว่งๆอีกแล้วนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซ
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 05-04-2010 23:55:39
เรื่องนี้น่าสนุกมาต่อบ่อยๆเเล้วก็เยอะๆนะครับ
อยากอ่าน
 :call:
หัวข้อ: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 2
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 06-04-2010 13:56:05
เสียงกระซิบจากลมหนาว 2



    ผมเดินถือชามแกงจืดวุ้นเส้นตรงไปยังโต๊ะของพี่ซัมเมอร์ เขาโบกมือเรียกผมหยอยๆทำให้ผมรีบสับขาเร็วกว่าเดิม แต่ขณะที่ผมเดินเกือบจะถึงโต๊ะมีใครซักคนยืนเท้ามาขัดขาผม ทำให้ผมล้มลงและแกงจืดที่ร้อนๆอยู่หกเลอะตัวของพี่ซัมเมอร์เต็มไปหมด

"โอ๊ยยยยยย ร้อนนนนนน"

"ซัมเมอร์!!!"

    เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังขึ้นเรื่อยๆก่อนจะเงียบลงเมื่อพี่ออทัมวิ่งเข้ามาดูอย่างเป็นห่วง แขนของพี่ซัมเมอร์แดงเถือกไปหมดมันทำให้ผมสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปดูอาการแต่กลับโดยพี่ออทัมผลักอกจนล้มกระแทกพื้น

"มึงทำให้ซัมเมอร์เจ็บ!!ไอ้ระยำ!!!"

"ผะ.....ผมไม่ได้ตั้งใจ" ผมตอบเสียงสั่น รู้สึกเหมือนมีก้อนสะอึกจุกตรงคอ ขอบตาร้อนผ่าวก่อนน้ำใสๆจะหยดลงมาอย่างไม่อาจสะกัดกั้น

"ไม่ได้ตั้งใจ!แต่มึงก็ทำร้ายน้องกูอยู่ดี!!"

"แต่พี่ครับ......"

"อย่าเรียกกูว่าพี่!กูไม่ใช่พี่มึง!!"

   คำด่าทอของเขาทำให้ผมเจ็บร้าวลงไปในอก ไม่ใช่พี่.....พี่ไม่ใช่พี่ของผมเหรอครับ ผมไม่ใช่น้องพี่......ผมมันเป็นไอ้ระยำที่ทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บใช่มั้ยครับ......ผมทำร้ายคนที่พี่รักด้วยมือของผมเอง.....ผมจึงไม่สมควรเป็นน้องของพี่ใช่มั้ย

"ฮึก......"ผมกัดฟันแน่นเพื่อนสะกัดกั้นเสียงสะอึก

"อย่ามาสำออย! ออกไปให้พ้นหน้ากู!!ไอ้ชินพามันออกไป!!" พี่ชินคนที่น่าจะเป็นเพื่อนของพี่ออทัมเดินตรงมาลากผมออกไปจากบริเวรนั้น พี่ซัมเมอร์ร้องบอกให้บ่อยผมแต่ก็ไม่อาจต้านแรงพายุแห่งความโกรธของพี่ออทัมได้เลย.....

"มึง......ไอ้แว่น กูขอเตือนมึงด้วยความหวังดี อย่าเข้าใกล้ซัมเมอร์อีกหรือไม่ก็ออกจากโรงเรียนนี้ไปซะ...."พี่เขาบีบข้อมือผมแน่น จนเจ็บไปหมด

"ผม.....ผิดเหรอครับ"

"........."

"พี่เคยมีความฝันมั้ย......ความฝันของผมคือยืนอยู่ตรงนี้ และผมก็จะพยายามอย่างยิ่งในการรักษามันเอาไว้.....พี่อย่าไล่ผมไปไหนเลยครับ ขอเพียงแค่ช่วงสั้นๆแล้วผมจะเดินจากไปเอง"

   ผมไม่เคยพูดประโยคยาวๆกับคนแปลกหน้า แต่วันนี้ผมเลือก.....เลือกที่จะขอร้องให้เขาช่วย หรือแค่เข้าใจเห็นใจผมซักนิดก็ยังดี.......

"ถ้ามึงอยากจะอยู่ที่นี่อย่างสงบก็ห่างจากซัมเมอร์ซะ......แล้วไอ้ออทัมจะไม่ทำร้ายมึง กูเตือนด้วยความหวังดี"

   แล้วพี่เค้าก็เดินจากไป ทิ้งผมซึ่งตกอยู่ในห้วงความคิดไว้เพียงลำพัง.....ที่นี่คือดาดฟ้าของโรงเรียน ผมเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ใต้ท้องฟ้าสีสดใส มันสดใสเหมือนรอยยิ้มของเธอผู้นั้น........

ฟ้า......เธอชื่อฟ้า

  เธอคือเพื่อนของผมและคือคนที่ผมรัก ผมฝันเอาไว้ว่าจะได้แต่งงานกับเธอ ผมสวมชุดเจ้าบ่าวส่วนเธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดถือดอกไม้ช่อโต เราส่งยิ้มให้กันในโบสถ์พร้อมด้วยสักขีผยานนับร้อยที่มาร่วมยินดี แหวนเพชรวงโตถูกสวมลงบนนิ้วเรียวสวย

แต่สุดท้าย.....

   เธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด รอบตัวของเธอปรกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาว เราไม่ได้จูบกันเพราะปากของเธอสวมเครื่องช่วยหายใจเอาไว้ ไม่มีรอยยิ้มในวันนั้น มีเพียงหยดน้ำตาแห่งการสูญเสีย.....เราบอกรักกันผ่านทางสายตาก่อนเธอจะจากผมไปตลอดกาล.......

"ฟ้า.....ยิ้มของฟ้าสดใสเสมอเลยนะ ยังรอเราอยู่รึเปล่า.....อีกไม่นานเราจะตามไปนะ ข้างบนนั้นหนุ่มๆเยอะล่ะสิ อย่านอกใจเราล่ะ" ผมส่งยิ้มขื่นๆไปให้'ฟ้า'

    เนิ่นนานจนผมเผลอหลับไป อากาศเย็นสบายช่วยทำให้สภาพจิตใจของผมดีขึ้น ผมฝัน....ฝันว่าฟ้ามาหาผม เธอส่งยิ้มให้ผมและบอกว่าอีกไม่นานผมจะมีความสุข

  ความสุขเหรอ.....สิ่งนี้ไม่มีอยู่จริงหรอกฟ้า คนเรามีเพียงทุกข์มากหรือทุกข์น้อยเท่านั้น ความสุขคือสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นมา ซึ่ง.....มันไม่มีอยู่ในชีวิตจริง


  วันนั้นผมกลับบ้านอย่างรู้สึกโหวงๆ ผมทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บตัวตั้งแต่วันแรกที่เจอ แล้วยังทำให้พี่ออทัมเกลียดขี้หน้าอีก แล้วชีวิตผมจะเหลืออะไรอีกนะ.....





"กลับมาแล้วเหรอลม มากินข้าวสิลูก"

   ทุกครั้งที่ผมทุกใจหรือรู้สึกไม่เหลือใคร ผู้หญิงคนนี้จะอยู่เคียงข้างผมเสมอ เธอจะส่งยิ้มอ่อนโยนช่วยปัดเป่าความทุกข์ในใจผมออกไปราวกับมีเวทย์มนต์ เธอคือคนที่รักผมอย่างไม่มีเงื่อนไข.....

"ครับแม่......"

   คำตอบของทุกคำถามในใจผมว่าผมจะเหลืออะไร ยังจะเหลือใครมักจะปรากฏขึ้นมาเมื่อผมคิดถึงเธอคนนี้ แม่ของผม....


RRRRRrrrrrrrrrrr

    เสียงริงโทนดังขึ้นขณะที่ผมกำลังหมกมุ่นอยู่กับสมุดไดอารี่ของตัวเอง ผมรีบหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าเป็นไอดินที่โทรเข้ามา

"ฮะ...ฮัลโหล"ผมทักเสียงอ่อย

[..............]

"อะ.....ไอดิน ได้ยินมั้ย" ผมเริ่มเสียงสั่น ผมทำผิดกับมันมาก ผมจากมาโดยไม่บอกกล่าวกับใคร มันคงจะโกรธผมมากถึงโทรมาแต่ไม่ยอมพูดยอมจากับผม ที่มันโทรมาเพราะผมไม่ยอมโทรไปหามัน ผมกลัว.....กลัวว่ามันจะเกลียดผมจนไม่ยอมพูดคุยกันอีกเลย

[ทำไมไม่บอกกันซักคำ.......]

   เสียงของมันแข็งๆซึ่งนั่นแสดงว่ามันโกรธอยู่ ผมรู้จักมันพอๆกับที่มันรู้จักผม ผมกับไอดินเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เราอยู่บ้านใกล้กันแต่เรียนอยู่คนละโรงเรียนแม้แต่ตอนม.ปลายนี้ แต่มันรู้เรื่องของผมทุกอย่างรวมถึงเรื่องพี่ชายของผมด้วย

"ไอดิน.....กู.....ขอโทษ"

[แล้วตอนนี้มึงอยู่กรุงเทพฯใช่ไหม]

"อืม....."

[เจอพี่มึงรึยัง]

"จะ.....เจอแล้ว" พอเจอถามจี้จุด เสียงของผมมันก็สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เรื่องเมื่อตอนกลางวันตีย้อนเข้ามาในหัวราวกับภาพฉายซ้ำ

[.............] มันเงียบไป

"กู......พี่เค้าเกลียดกูแล้ว......กูทำให้พี่เค้าเกลียด.....มะ.....มึงก็รู้กูมันโง่......"ผมกลั้นเสียงสะอึกเอาไว้ ผมไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับแม่ เพราะมันจะทำให้แม่ไม่สบายใจ ตลอดเวลาที่อยู่เชียงใหม่ก็มีไอดินนี่แหละคอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นที่พึ่งพาให้กับผม

[วินเทอร์......]

   ไอดินเป็นคนเดียวที่เรียกผมด้วยชื่อนี้ แต่ว่าต่อหน้าคนอื่นมันก็จะเรียกผมว่าลม......และที่มันเรียกผมด้วยชื่อนี้คงเพราะต้องการจะปลอบโยนผม

"ไอดิน.....กูทำพี่เค้าเจ็บตัว.....ฮึก...."

[ไม่เป็นไรนะวินด์....รออีกอาทิตย์เดียวกูจะไปอยู่เป็นเพื่อนมึงนะ......] ผมรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาก่อนจะละล่ำละลักถาม

"มึงจะมา!"

[อืม.....กูกำลังทำเรื่องย้ายที่เรียน กูจะไปอยู่กับพ่อแม่ที่โน่น] พ่อกับแม่ของมันทำงานที่กรุงเทพ นานๆจะกลับบ้านที ทำให้ไอ้ไอดินอยู่บ้านคนเดียว แต่มันก็ไม่ยอมย้ายไปอยู่กรุงเทพกับครอบครัวซะที ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะผม.....ผมรู้ดี

แต่ผมก็ทิ้งมันมา.......ผมมันเลว สมควรแล้วล่ะที่จะถูกพี่ออทัมเกลียด

[มึงกินยาแล้วรีบเข้านอนซะ.....ห่มผ้าหนาๆเดี๋ยวจะไม่สบาย] มันสั่งฉอดๆยิ่งกว่าแม่ผมอีก มันรู้ว่าถ้าผมร้องไห้มากๆตื่นมาจะทำให้ผมเป็นหวัด

"มึงก็รีบเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวไม่หล่อสาวๆหนีมาหากูไม่รู้ด้วย" มันหัวเราะเบาๆ

[สาวๆไม่หนีกูเหมือนมึงหรอกน่า อย่าลืมกินยาล่ะ แค่นี้แหละ.....ฝันดีครับ] โดนเล่นงานไปแล้วหนึ่งดอก แต่การได้คุยกับมันทำให้ผมสบายใจขึ้นมามากๆเลยล่ะ

เอาล่ะ......ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของผมก็คงต้องเดินต่อไป.......


     ผ่านไปสามวันพี่ซัมเมอร์ก็ยังไม่มาโรงเรียนทำให้ผมเป็นห่วงเขาเป็นอย่างมาก พี่จะเป็นอะไรมากมั้ยนะ......ผมขอโทษครับพี่

ถ้าเลือกได้.......ผมขอเจ็บแทนยังจะดีเสียกว่า........

   ตลอดเวลาสามมานี้ ผมโดนกลั่นแกล้งสารพัดจากเพื่อนๆ ทุกคนเกลียดผมเพราะผมทำให้คนที่พวกเค้ารักต้องเจ็บตัว พี่ซัมเมอร์เป็นที่รักของทุกคนในโรงเรียน ทั้งครูบาอาจารย์ รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนๆ

ก็พี่ซัมเมอร์น่ารักและสดใส.......ทุกคนก็ต้องรักสิ

ไม่เหมือนผม......ผมที่เหมือนฤดูหนาว ผมที่ใครอยู่ใกล้ก็ต้องพากันเกลียด

"พามันไปดาดฟ้า" ชายร่างใหญ่ออกคำสั่งก่อนที่ตัวของผมจะถูกลากไปตามทางเดิน คงจะพาผมไปแกล้งอีกล่ะสิ

ปัง!!

"ลากมันมาแล้วครับ......" ชายร่างใหญ่เอ่ยกับรุ่นพี่กลุ่มนึงที่ยืนหันหลังให้ผม พวกเค้าค่อยๆหันนมาทีละคน.......เป็นกลุ่มของพี่ออทัมนั่นเอง

พี่คงจะเกลียดผมมาก.......ผมก็เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้เหมือนกันครับพี่

"พวกมึงออกไป" พี่ออทัมออกคำสั่ง คนพวกนั้นออกไปเหลือทิ้งไว้เพียงผม พี่ออทัมและเพื่อนๆของเขาอีกสามสี่คน ซึ่งรวมไปถึงพี่ชินด้วย

"มึง.....ไอ้แว่น มึงทำน้องกูเข้าโรงบาล!!"

ผมทำพี่ซัมเมอร์เข้าโรงบาล......เพราะความโง่ของผม

ถ้าเป็นไปได้.....คนที่เข้าไปน่าจะเป็นผมแทน

พระเจ้าครับ.....จะลงโทษผมยังไงก็ได้

แต่ได้โปรด.....ขออย่าให้พี่ซัมเมอ์เป็นอะไรมากเลย

"มึงอย่าคิดว่าจะอยู่อย่างสุขสบายในโรงเรียนนี้!!"



******
มาต่อแหละค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายนะคะ
ที่ชื่อตอนมันขาดๆหายๆ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ(แบบว่าทำไม่เป็น555+)

หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-04-2010 14:08:57
เรื่องมันจะเศร้ามั้ยละเนี่ย อ่านไปสงสารลมไป ไอดินมาเร็วๆๆ เข้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซ
เริ่มหัวข้อโดย: ~EnSlAvE_tO_dEsIrE~ ที่ 06-04-2010 15:05:05
 :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:


เส้าอ่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซ
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 06-04-2010 21:03:58
 :sad11:สงสารลม
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซ
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 06-04-2010 21:15:00
 :monkeysad: สงสารลมเป็นอย่างมาก
มาต่อเร็วๆได้มั้ยอยากอ่านมากมายเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 3
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 06-04-2010 23:42:50
เสียงกระซิบจากลมหนาว 3


"มึงอย่าคิดว่าจะอยู่อย่างสุขสบายในโรงเรียนนี้!!"

ผลัก!!

  ผมล้มลงไปกองกับพื้น หน้าของผมชาไปครึ่งแถบเพราะแรงหมัด ของเหลวหนืดสีแดงสดไหลลงมาจากริมฝีปากและจมูก

ผมทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บตัว.....สมควรแล้วที่ผมจะโดนแบบนี้!!!

"จับมันแก้ผ้า!! แล้วถ่ายรูปไปติดทั่วโรงเรียน!!!" เพื่อนๆของพี่ออทัมกรู่เข้ามากระชากเสื้อผ้าออกจากตัวผม ผมได้แต่ปัดป้องและอ้อนวอนขอความเห็นใจ

"พี่.....อย่าทำผม.......ฮึก.....ม่ายยยยยยย"

   เสื้อผ้าของผมถูกฉีกกระชากออก ผมร้องไห้อย่างหนักกับการกระทำของคนพวกนั้น เนื้อตัวของผมเปลือยเปล่าล่อนจ้อนจนผมรู้สึกหนาวสั่น

"ไอ้ออทัม พอเถอะ......." พี่ชินเอ่ยห้าม พี่ออทัมมองพี่ชินอย่างเย็นชาก่อนจะหันมามองทางผมด้วยสายตาเย็นเหยียบ ริมฝีปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน

"รูปร่างมึงนี่เหมือนผู้หญิงเลยนะ.....เพื่อนกูคงชอบ.......ลองถอดแว่นมันดูสิ เผื่อมันจะสวยขึ้น......" พี่ออทัมหันไปพูดกับเพื่อนๆ พี่คนนึงเดินมาดึงแว่นผมออกก่อนจะบีบคางผมเชิดขึ้นไปมองหน้าเขา

"อืม......ตาโต ขนตาก็ยาวเป็นแพร ผิวขาวนุ่มกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก หน้าตาก็จัดว่าดี อยากจะรู้นัก.......ว่ารสชาติจะหวานซักเพียงไหน"

"........." ผมตัวสั่นงั่นงกเมื่อมือของพี่เขาลูบคลำตัวผม ผมมองไปยังพี่ชินอย่างขอความช่วยเหลือ

"หยุดเถอะไอ้เฟส......ไอ้ออทัมจะหมดพักกลางวันแล้ว รีบกลับไปเรียนกันเถอะ"

"มึงไม่ต้องไปช่วยมันไอ้ชิน ไอ้เฟสตามสบายพวก อ่อ......อย่าลืมถ่ายรูปตอนที่มึงเข้าไปในตัวมันเก็บไว้ด้วยล่ะ กูจะเอาไปติดทั่วโรงเรียนเพื่อประจานย์มัน!!"

ปัง!!

     พี่ออทัมเดินจากไปแล้ว ซ้ำยังลากพี่ชินกับเพื่อนๆของเขาไปด้วย เหลือทิ้งไว้เพียงผมกับพี่คนที่ชื่อเฟสไว้บนดาดฟ้าสองคน

มันเจ็บลึกเหลือเกิน......กับการกระทำของพี่ออทัม

โทษทันต์ของผมมันสาหัสขนาดนี้เลยเหรอ?

"ฮึก......รุ่นพี่ครับ....อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ....." พี่เฟสมองผมด้วยสายตายากเกินคาดเดา เขาถอดเสื้อคลุมออกก่อนจะโยนให้ผม ผมมองมันอย่างงๆจนพี่เขาถอนหายใจ

"เฮ้อ......พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า.....ไอ้ออทัมก็เป็นแบบนี้แหละ มันรู้ว่าพี่ไม่ทำอะไรเราจริงๆหรอก รีบใส่เสื้อผ้าแล้วไปเรียนซะ......"

".........."

"แล้วเลิกร้องไห้ซะ.......ใส่เสื้อผ้าซะสิ อยากให้พี่ทำอะไรเรารึไงล่ะ" พี่เขาหันหลังให้ ผมจึงรีบใส่เสื้อผ้าแล้วใส่เสื้อพี่เค้าทับอีกชั้นนึง เพราะเสื้อของผมเละไม่มีชิ้นดี

"ขะ.....ขอบคุณครับ....ระ....รุ่นพี่" พี่เขาโบกมือไหวๆก่อนจะเดินออกไป ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีซ่อนอยู่เหมือนกันแฮะ

"เราเหนื่อยเหลือเกิน.......ฟ้า" ผมพึมพำกับท้องฟ้าเบาๆ เธอคงได้ยินผมนะ 'ฟ้า'

แหวนของเธอ......ผมยังเก็บมันไว้อย่างดีและติดตัวผมไปตลอดเวลา

รอยยิ้มของเธอ.....ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดลมหายใจ

พอๆกับหัวใจของผม......ที่จะมั่นคงในรักที่มีต่อเธอเสมอไป

     เช้าวันศุกร์พี่ซัมเมอร์กลับมาเรียนตามปกติ แขนของเขาถูกพันด้วยผ้าขาวๆ นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด ผมมักจะทำให้คนรอบๆตัวเดือดร้อนเสมอเลย

"ไม่ได้เจอกันสามวันเป็นยังไงบ้าง"

    พี่ซัมเมอร์เดินมาตบบ่าผมแบะๆแล้วนั่งลงข้างๆ ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตาสีดำสนิทลึกล้ำนั้น พี่วางมือบนหัวผมแล้วลูบอย่างอ่อนโยน

"ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกน่า มันเป็นอุบัติเหตุ อย่าคิดมากๆ ฮะๆ" มืออุ่นๆจับหน้าผมให้เงยขึ้นมามองหน้ากัน แววตาอ่อนโยนกับรอยยิ้มนิดๆนั่นทำให้ผมอบอุ่นที่หัวใจอย่างประหลาด

"เรา.....ขอโทษ"

"ก็บอกมันเป็นอุบัติเหตุ นายนี่ก็พูดไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าถ้ารู้สึกผิดจริงๆ วันนี้ไปบ้านเรามั้ย เราจะพาลมไปสำเร็จโทษ!!"

   พี่ซัมเมอร์บอกว่าจะพาผมไปบ้าน! ผมมองหน้าเขาอย่างตกใจ ผมจะได้ไปเจอหน้าพ่อแม่แท้ๆของผม.....จะได้สัมผัสกับครอบครัวนั้นแล้ว ผมจะได้รู้เสียทีว่าครอบครัวที่ไม่มีผม.....มันจะสุขเพียงไหนกัน

"พี่ไม่ให้มันไป!! จะเอามันไปทำไมกัน!!"

"โธ่.....พี่อ่ะ ก็ลมเค้าอยากไปเที่ยวบ้านเรา อีกอย่างนะ....ผมก็ชอบเค้ามากด้วย อยากพาไปแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักอ่ะ!!"

"ซัมเมอร์!!!"

"นะๆๆๆ นะพี่"

   พี่ซัมเมอร์เขย่าแขนพี่ออทัมอย่างออดอ้อน ผมตัวสั่นงั่นงกเมื่อพี่ออทัมกราดสายตาดุดันและมาดร้ายมาทางผม

"ตามใจ....ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็รับผิดชอบเองละกัน" พี่ออทัมพูดจบแค่นั้นก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไป พี่ซัมเมอร์รีบดึงผมที่ยืนเซ่อๆให้เดินตามไป

     ตลอดทางผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถ เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของพี่ออทัมผ่านกระจก มันทำให้ผมหวาดกลัวจนเหงื่อชื้นขึ้นตามไรผม พี่ซัมเมอร์ที่นั่งข้างคนขับก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วตลอดทาง ทำให้การเดินทางไม่วังเวงมากเกินไป


RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrr

"ครับ....."

    ผมกดรับโทรศัพท์ด้วยหัวใจหวาดหวั่น แม่ผมโทรมาซึ่งท่านคงจะรู้แล้วล่ะ......ว่าตอนนี้ผมอยู่บนรถของพี่ชายทั้งสอง

[ลม......อยู่ไหน]

"ผม.....อยู่บนรถของพี่ซัม.....เอ่อซัมเมอร์เพื่อนที่โรงเรียนครับ" ผมรีบแก้คำพูดที่เผลอหลุดออกไป พี่ซัมเมอร์หันมาสนใจผมที่คุยโทรศัพท์กับแม่ก่อนจะถามแทรก

"แม่ลมโทรมาเหรอ......" ผมผยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะให้ความสนใจกับปลายสายต่อ

[จะไปบ้านนั้นเหรอ......] แม่ผมถามเสียงเบา

อย่าให้ผมต้องเลือกได้ไหมครับแม่

เพราะไม่ว่าคำตอบไหน.......มันก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องอยู่ดี

"ครับ....." เสียงผมเบาหวิวไม่แพ้กัน

[ลม......อย่าลืมสัญญาของเราได้ไหม]

"ลมขอแม่มาค้างบ้านเราเลยดิ นะๆๆๆๆๆๆ"พี่ซัมเมอร์เอ่ยแทรกอีกครั้ง ผมได้แต่มองเขาอย่างลำบากใจแต่สุดท้ายก็ทนคำรบเร้านั่นไม่ไหว

"แม่ครับ....ผมไม่ลืมหรอกครับ และไม่คิดจะผิดคำสัญญาด้วย และถึงแม้ไม่ได้สัญญากับแม่เอาไว้ ผมก็ไม่ทอดทิ้งแม่ของผมหรอกครับ"

[จริงนะลม.....]

"ครับแม่......แม่ครับ ผมขอไปนอนค้างบ้านซัมเมอร์....."

"ลม!!!"

    มีไม่กี่ครั้งที่แม่ขึ้นเสียงกับผม ผมรู้สึกใจเสียอีกครั้ง ไม่รู้จะปฏิเสธพี่ซัมเมอร์ยังไง และจะพูดกับแม่ยังไง แต่เหนือสิ่งใดผมก็อยากไปค้างบ้านนั้นดูซักครั้ง



........ขอโทษนะครับแม่........



"แม่ครับ ผมขอร้อง...."

    แม่เงียบไปก่อนจะตอบรับเบาๆ รถจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ประตูเปิดออกก่อนที่รถจะแล่นเข้าไปภายในตัวบ้าน ผมเห็นหญิงวัยกลางคนวิ่งออกมารอรับ ท่านยังดูสวยแม้จะล่วงเลยวัยมานานมากแล้วก็ตาม เธอคงจะเป็นคุณแม่ของพี่ออทัมกับพี่ซัมเมอร์.....นั่นก็หมายถึงแม่ของผมด้วย!!!

"กลับมาแล้วคร๊าบบบบบบ"

   พี่ซัมเมอร์วิ่งเข้าไปหาแม่แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ ผมเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆปนตื่นเต้น แม่หอมแก้มพี่ซัมเมอร์ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับผู้มาใหม่อย่างผม

"สะ....สวัสดีครับ......" ผมยกมือขึ้นไหว้ท่าน ท่านยกมือรับไหว้ก่อนจะมองหน้าผมอย่างพิจารณา เหงื่อซึมออกมาตามไรผมทั้งๆที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรมาก หัวใจของผมก็เต้นตึกๆอย่างตื่นเต้น คนๆนี้คือแม่ของผม......ท่านคือผู้ให้กำเนิดผม

ท่านที่มีบ้านหลังใหญ่

ท่านมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย

แล้วใย.....ท่านถึงไม่ต้องการผมกัน

ทำไมถึงทิ้งผมได้ลงคอนะ


ดูท่าน......คงจะรักพี่ซัมเมอร์กับพี่ออทัมมาก

เหมือนท่านมีลูกชายสองคน.....ที่ท่านรักดั่งแก้วตาดวงใจ

แล้วผมล่ะ.......ผมที่ท่านทิ้งไป.......ท่านรักผมไหม? จำผมคนนี้ได้หรือเปล่า??

   น้ำตารื้นที่ขอบตาอย่างห้ามไม่อยู่ ก้อนสะอึกจุกอกพูดไม่ออกบอกไม่ได้.....เพราะสัญญาค้ำคอ ผมจึงไม่มีสิทธิ์ทวงถามอะไรทั้งนั้น

"อ่าว.....ลมเป็นอะไรรึเปล่า จมูกแดงๆเหมือนจะร้องไห้" พี่ซัมเมอร์หันมาถาม ก่อนจะเดินจูงมือผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน ผมเพียงส่ายหน้าไม่พูดออกไป เพราะผมกลัวว่าเสียงตัวเองจะสั่นจนพี่ซัมเมอร์จับได้

"ชื่อลมเหรอจ๊ะ"

"ครับ.....คุณป้า"

    ผมเลือกที่จะเรียกท่านว่าป้า.....ผมไม่กล้าเรียกท่านว่าแม่หรอก เพราะถ้าทานอยากให้ผมเรียกว่าแม่จริง.....คงไม่ทอดทิ้งผมไว้กับอดีตหรอก......


****
ที่ขยันอัพเพราะยังไม่ถึงตอนที่ต้องแก้ไข

แฮ่ๆๆๆ

><
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 06-04-2010 23:57:14
                                                             เสียงกระซิบจากลมหนาว 4

"ทานนี่สิลม"

     พี่ซัมเมอร์ระดมตักอาหารนานาชนิดมาให้ผม ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วเขี่ยอาหารไปมาเพราะกินไม่ลง หรือจะเอาจริงๆคือกินไม่ได้ พี่คงจะลืมไปแล้ว......ว่าผมแพ้อาหารทะเล

    คุณป้า.....ผมของเรียกท่านว่าคุณป้าแล้วกันจะได้ชิน.......คุณป้าทำอาหารทะเลไว้เต็มโต๊ะเพื่อเอาใจพี่ซัมเมอร์ ตอนนี้ผมนั่งร่วมทานอาหารกับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น มีพ่อ....แม่....พี่.....น้อง

แต่ในนั้น.....ไม่มีผม ผมที่เป็นดั่งฤดูหนาว ผมที่อาจจะทำให้บ้านนี้มีแต่ความทุกข์

     ผมได้แต่มองภาพครอบครัวสุขสันต์อย่างกระอักกระอ่วนใจ ผมรับรู้ได้ทันทีที่เข้ามาในบ้านนี้.....บ้านนี้ไม่เหลือที่ว่างให้ผมอีกแล้ว

หรือมันไม่มีที่สำหรับผมแต่แรกกันนะ

"ทำไมไม่ทานจ๊ะ......" คุณป้าหันมาถามผมด้วยรอยยิ้ม ผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

"ผมแพ้อาหารทะเล.....ทุกชนิดครับ....."

    คุณป้านิ่งไปก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างประหลาดใจ ก่อนที่พี่ซัมเมอร์จะแทรกขึ้นมาขอโทษขอโพยผม คุณลุงเองก็ตกใจไม่น้อย

"ตายจริง......ขอโทษที่ไม่ถามก่อนนะจ๊ะ"

"มะ.....ไม่เป็นไรครับ"

"แม่ไม่ต้องไปขอโทษหรอกครับ ลมมันก็ทำผิดกับซัมเมอร์ไว้ไม่ใช่น้อยๆ คนที่ทำให้ซัมเมอร์ต้องเข้าโรงบาลก็มันนี่แหละครับ" พี่ออทัมที่นั่งอยู่เงียบๆตั้งแต่ทีแรกรีบฟ้องคุณป้า ท่านเอามือกุมอกตัวเองแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป มันทำให้ผม.....รู้สึกเศร้าอย่างประหลาด

"มันเป็นอุบัติเหตุครับแม่ พี่นี่ก็เว่อร์เกินไป ลมเค้าไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย" พี่ซัมเมอร์บุ้ยปากก่อนจะตักกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าปาก แต่....แต่คุณป้าก็ยังคงมองผมด้วยสายตาแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ดีที่คุณลุงไม่ได้มองผมด้วยสายตาแบบนั้น.....ท่านดูจะเอ็นดูผมด้วยซ้ำ

ผมทำเรื่องอีกแล้วสินะ.......ผมทำพี่ออทัมเกลียดผมคนเดียวไม่พอ ผมยังทำให้แม่ไม่ชอบขี้หน้าผมอีกด้วย

สายใยของเรา.......มันขาดลงตั้งแต่แม่ตัดสินใจทิ้งผมไปในตอนนั้นใช่ไหมครับ

บอกผมได้ไหมครับแม่


"ลม......ใส่เสื้อผ้าเราได้ไหม มันใหญ่ไปรึเปล่า.....เอ......ว่าแต่ลมตอนไม่ใส่แว่นนี่น่ารักนะเนี่ย เราใจเต้นตึกตักเลยล่ะ" พี่ซัมเมอร์เดินเข้ามาประชิดตัวผม ก่อนจะช้อนหน้าผมขึ้นให้ไปสบตากับเขา รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ ก่อนจะประทับริมฝีปากแผ่วเบาลงบนหน้าผากผม

"ดูสิ.....หน้าใส๊ ใส ไร้สิวไร้ริ้วรอย"

".....เราว่าเราง่วงแล้วล่ะ......"

"แน่ะ.....เขินล่ะสิ" ผมก้มหน้านิ่ง ไม่ได้เขิน....ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่พี่ไม่รังเกียจผม

"และขอโทษนะ ที่ลืมไปว่านายแพ้อาหารทะเล คราวหน้าเราจะระวังให้มากกว่านี้" พี่ซัมเมอร์เปลี่ยนจากประคองหน้าผมมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ผมส่งยิ้มให้เขาอย่างตื้นตันใจและดีใจที่พี่จะจำจดเรื่องราวของผม แม้......แม้นิดเดียวก็ยังดี


   ผมดีใจ......ที่ครั้งนึงในชีวิต เรื่องราวของผม ตัวตนของผมจะถูกบันทึกในความทรงจำของพี่....พี่ชายคนนี้ พี่ชายที่แสนดี


   พี่ซัมเมอร์เดินออกไปได้ซักพักแล้วล่ะ ผมนั่งอยู่ในห้องนอนสำหรับรับรองแขก ห้องนี้มีเฟอนิเจอร์ครบครัน ห้องตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาวเหมือนท้องฟ้า

อา.....ผมคิดถึงเธออีกแล้ว



RRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


    เสียงริงโทนปลุกผมจากภวังค์ เป็นไอดินที่โทรมา ผมรีบกดรับเพราะกลัวว่าเค้าจะโกรธ

"ฮัลโหล......"

[เมื่อไหร่มึงจะเลิกรับสายด้วยเสียงหงอยๆอย่างนี้เนี่ย]

"ก็.....ก็กูเป็นของกูแบบนี้มาตั้งนาน มึงยังไม่ชินอีกเหรอ"

[เออๆ กูชินแล้วล่ะ แล้วนี่มึงอยู่ไหนเนี่ย อยู่บ้านป่ะ....พรุ่งนี้เจอกันเว้ยย]

"กูอยู่บ้าน....บ้านพี่" ผมตอบไม่เต็มเสียงนัก ไอดินเงียบไปซักพักก่อนจะถามเสียงเรียบ เสียงแบบนี้แหละ.....น่ากลัวเป็นที่สุด

[ไปทำไม.........]

"กูแค่.....กูแค่อยากรู้"

[รู้แล้วเป็นไงล่ะ!! ไปตอกย้ำตัวเองทำไม ทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง!!]

"ไอดิน" น้ำตาผมร่วงผอยๆ เมื่อมันตะหวาดผม บวกกับที่ผมเจอเรื่องสะเทือนใจมาก่อนหน้านี้ ทำเอาผมปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ทำไมผมอ่อนแออย่างนี้นะ......เมื่อไหร่กัน.....เมื่อไหร่จะเข้มแข็งเสียที



ก๊อก ก๊อก ก๊อก


   เสียงเคาะประตูดังมาสองสามที ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูทำให้ผมหันไปดูด้วยความตกใจ ก็คนที่เดินเข้ามาเป็นพี่ออทัมน่ะสิ!!


"พี่ออทัม...." ผมรีบปาดน้ำตาตัวเองแล้วละล่ำละลักบอกลาไอดินที่รอสายอยู่


"ไอดินแค่นี้ก่อนนะ"


[เดี๋ยววินด์ ไอ้พี่นั่นเข้ามาทำไม ตอบกู......] ผมรีบกดวางสายไอดินแล้วมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยความหวาดหวั่นในใจ


"เอ่อ...พี่ออทัมมีอะไรครับ"


"กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาเรียกกูพี่!!" สะอึกครับ รู้สึกสะอึกกับคำพูดตอกย้ำของเขา ผมกัดปากตัวเองจนมันเป็นเส้นตรง ส่วนมือก็กำหมัดจนแน่น

"รุ่นพี่มีอะไรกับผมก็ว่ามา....." ไม่ใช่อวดดี เพียงแต่อยากจะรู้จุดประสงค์ของเขาเท่านั้นว่าต้องการอะไรจากผมกันแน่ จะเข้ามาทำร้าย....ทุบตี หรือมาด่าให้ช้ำใจเล่นกัน

     พี่ออทัมเดินเข้ามาอย่างมุ่งร้าย ทำให้ผมถอยหนีด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาผลักผมล้มลงเตียงก่อนจะคร่อมผมไว้ มือหนาจิกผมผมให้เงยหน้าไปสบตาวาวโรจน์

"อย่ามาอวดดีกับกู......."

"ผมเปล่า....."พี่ออทัมจิกหัวผมแรงขึ้น จนตอนนี้มันเจ็บไปหมด ผมได้แต่กัดปากแน่นด้วยกลัวว่าจะส่งเสียงแสดงความอ่อนแอออกไป

"กูจะเตือนมึงอีกครั้งนะ......อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก!!"

"ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ.....โอ๊ย"

"อย่ามาปากเก่ง ไอ้สัด" พี่ออทัมดูเหมือนว่าจะโกรธจัด แต่ผมก็ไม่อยากยอมแพ้เขา ทำไมนะ...ทำไม แค่ผมอยากเข้าใกล้พี่ชายตัวเอง อยากรู้จักทุกคนในครอบครัวนี้มันผิดตรงไหน!!

"ผมไม่ได้ปากเก่ง!"

"อยากลองดีใช่ไหม.....คราวที่แล้วไอ้เฟสคงสั่งสอนมึงไม่พอสินะ ดี!! เจอกูหน่อยเป็นไง" ผมเบิกตากว้าง เมื่อพี่ออทัมประกบปากลงมา มันป่าเถื่อน รุนแรง จนปากผมเจ็บไปหมด พี่จะจูบผมไม่ได้นะ.....พี่จะทำอะไรผมไม่ได้นะ....!!

"อื้อๆ"

    ผมส่งเสียงท้วงในลำคอ มือก็ทุบตีเขาไม่หยุด จนพี่ออทัมรำคาญรวบมือทั้งสองของผมไว้เหนือศรีษะ รสจูบจากที่รุนแรงเปลี่ยนมาเป็นเร่าร้องและวาบหวามแทน......จูบครั้งแล้วครั้งเล่าเนิ่นนานราวกับชั่วกัปชั่วกาลทำเอาผมเริ่มเคลิ้ม ทำไมพี่ออทัมจูบเก่งขนาดนี้.....พอมารู้ตัวอีกที เสื้อผ้าของผมก็หลุดออกจากตัวไปหมดแล้ว

"กูก็ไม่เคยกับผู้ชายซะด้วยสิ......แต่แทงมั่วๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"

"อย่า......มะ......ไม่นะพี่ อย่าทำผมเลย"

"ทำไมจะไม่ได้ กูพอใจมึงจะทำไม"

ที่ไม่ได้.....เพราะเราเป็นพี่น้องกันยังไงล่ะ และผมก็เป็นผู้ชาย พี่ก็ผู้ชาย เราจะมีอะไรกันได้ยังไง


"ลมมมมมม เปิดประตูหน่อย~ เราซัมเมอร์เอง" พี่ออทัมรีบเด้งตัวขึ้นก่อนจะวิ่งแล้วออกไปทางหน้าต่าง ผมหันรีหันขวางอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก จนในที่สุดพี่ซัมเมอร์ก็เปิดประตูเข้ามาจนได้ ในมือของเค้ามีกุญแจสำรองอยู่ ที่เตรียมมาคงกลัวผมไม่เปิดให้ล่ะสิ

"นอนด้วยคนสิ.....เป็นห่วงลมน่ะ กลัวจะมีคนมาลอบทำร้าย อิอิ" พี่ซัมเมอร์กระโจนเข้ามาในผ้าห่มกับผม ก่อนจะสวมกอดผมจากทางด้านหลัง มือหนาพาดผ่านเอวของผมทำเอาผมขนลุกซู่ ลืมไปว่าผมกำลังล่อนจ้อนอยู่ พี่ซัมเมอร์ซุกหน้าเข้ากับหลังเปื่อยเปล่าของผมก่อนจะพูดเบาๆ

"น่าแปลกใจจัง ว่าลมของเราทำไมไม่ใส่เสื้อผ้านอน กลัวไม่เป็นหวัดหรือไงครับ......อื้ม......แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อิอิ

".....ปล่อยเรา"

"อะไรกัน......นอนกอดกันแบบนี้แหละ อุ่นดีออก อีกอย่างตัวลลมก็ห้อมหอมดีด้วย อิอิ"

"......."

"แต่อย่าขยับตัวบ่อยล่ะ เดี๋ยวเราจะอดใจไม่ไหว" ว่าแล้วก็มุดหน้าลงกับหลังผมแล้วก็เงียบไป ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ

ดีเหมือนกัน......ที่คืนนี้ผมไม่ต้องหลับไปอย่างเดียวดาย

คืนนี้.....ผมมีพี่ที่เฝ้าตามหามาตลอด นอนกอดทั้งคืน

แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ


*****
มนุษย์ไม่มีวันรู้จักกับคำว่าเพียงพอ หากไม่ตัดความโลภออกไปจากสามัญสำนึก
แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น มันก็ตัดออกไปไม่ได้อยู่ดี
เหมือนกับตัวเอกของเรื่องนี้ ที่ตัดมันออกไปไม่ได้
ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัวพันกับคำว่า....ไม่สิ้นสุด

ฮ่า....เป็นบทความที่เด็ดดวงจริงๆ(คนอะไรชมตัวเองก็เป็น :laugh:)
 :z3:
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 07-04-2010 00:07:15
อะ


เเล้ว ลม จะเลือกใครหล่ะ

ทั้งพี่ออทัม ซัมเมอร์

หวังว่าไม่เจอ วินเทอร์อีกนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 07-04-2010 00:45:21
 :sad4:เศร้าอะ

สงสาร ลม ขอเป็นแฟนคลับด้วยนะครับ :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 07-04-2010 01:01:58
ลมจะทำยังไงล่ะเนี้ย :m17:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 07-04-2010 05:09:35
เฮ้อออ
หนูลมน่าสงสาร

คนเขียน เอาอีกๆ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-04-2010 13:18:55
โอ๊ย มันอะไรกันไอ้พี่น้องบ้านนี้ คนพี่ก็เอะอะลงไม้ลงมือ ไอ้คนน้องก็ดีแปลกๆๆ
สงสารลมอย่างเดียวเลย
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-04-2010 13:34:53

รีบนพูดถูก


เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 07-04-2010 13:46:09
เย้ เย้ ได้อ่านสองตอน  :กอด1:
เเล้วตกลงใครเป็นพระเอกอ่ะอยากรู้
พี่ออทั่มจะโหดไปเเละส่วนซัมเมอร์ก็ดี
เเต่ไม่ใช่ว่าสองคนนี้จะตกหลุมรักลมทั้งคู่นะ

เรื่องมันเศร้า สงสารลม เเละอยากอ่านต่อ
มาต่อเร็วนะครับ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 07-04-2010 15:59:44
                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 5

     ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเมื่อยขบไปหมด แขนของพี่ซัมเมอร์ยังพาดอยู่กับเอวผม ตัวของเราแนบชิดติดกันจนแทบไม่มีที่ว่าง ผมยกแขนนั้นออกก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ โดยไม่ลืมจะหยิบชุดตัวเองมาใส่ พออาบน้ำเสร็จผมเดินออกมาก็พบว่าพี่ซัมเมอร์เองก็ตื่นแล้วเช่นกัน

"ตื่นเช้าจังเลยนะลม เรากะว่าจะมอร์นิ่งคิสซะหน่อย"

"อย่าเล่นบ้าๆน่าซัมเมอร์"

"ไม่ได้เล่นนะ เอาจริงหรอก" พี่ซัมเมอร์บุ้ยปาก ทำเอาผมหลุดขำออกมานิดๆ พี่เค้าเดินเข้าห้องน้ำไปซักพักก็เดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าตัวใหม่ เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมกัน

"อ่าว.....ตื่นเช้าจังเลยนะลม" คุณลุงที่นั่งดูหนังสือพิมพ์เอ่ยทัก พร้อมส่งยิ้มให้ท่านนิดๆก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวีกับพี่ซัมเมอร์ คุณป้าก็ทำอาหารอยู่ในครัวกับแม่บ้าน ส่วนพี่ออทัมคงยังไม่ตื่นมั้ง

    ผมมานั่งบรรยายครอบครัวอบอุ่นในเช้าที่สดใส รู้สึกอะอึกเสียเองเมื่อลืมตัวไปว่า........ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ แต่ผมเป็นเพียงแขกของลูกชายเขาคนนึงเท่านั้น


RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

 เสียงริงโทนแผดเสียงขึ้น ผมควานหาก่อนจะกดรับมันอย่างรวดเร็ว

"ฮัลโหล......"

[กลับได้แล้ววินด์ กูรออยู่หน้าบ้าน] ไอดินสั่งเสียงเฉียบขาด

"แต่......" แต่ผมยังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย.....

[ไม่มีแต่ แม่กูให้มาตามมึง และตอนนี้ท่านกำลังทุกข์ใจเพราะมึง] ไอดินฉลาดที่จะหยิบยกเอาจุดอ่อนผมมาเล่นงาน เพราะเขารู้ดีว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ยกเอาเรื่องแม่มาอ้าง ผมก็มักจะยอมเสมอ และตอนนี้ก็เช่นกัน

     ผมขอตัวกลับบ้านก่อนแต่พี่ซัมเมอร์ก็ไม่ยอม ซ้ำยังคะยั้นคะยอให้ผมออกไปชวนไอดินเข้ามาด้วยกัน พี่ยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของไอดิน......

"ไอดิน"

"กลับกันได้แล้ว......." ไอดินพูดกลับผมก่อนจะมองเลยไปยังบุคคลสองคนที่อยู่เบื้องหลัง คือพี่ชายทั้งสองคนของผม เมื่อกี้ตอนที่พี่ออทัมเดินลงมาจากข้างบน พอเขาเห็นว่าพี่ซัมเมอร์จะออกมาส่งผมจึงขอตามมาด้วย รู้สึกกระอักกระอ่วนใจแปลกๆเวลาที่มองหน้าเขา ก็เรื่องที่เราทำกันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย

"ขอโทษนะ พอดีว่าผมยังไม่อยากให้ลมกลับอ่ะ ให้เขาอยู่ต่อได้ไหม อ่อ....นายก็เข้ามาทานเข้าด้วยกันก่อนสิ"

"ไม่จำเป็น ลมกลับกันเดี๋ยวนี้" ไอดินสั่งเสียงเฉียบเช่นเคย พี่ออทัมมองมาทางผมกับไอดินด้วยสายตาอำมหิต แต่ไอดินกลับแสยะยิ้มอย่างท้าทายก่อนพูดขึ้นมาอีก

"ขอตัวก่อนนะ พอดีว่าลมไม่ได้มีเวลาว่างพอจะมาทานข้าวเช้ากับบ้านนี้"

"แต่......"พี่ซัมเมอร์จะท้วงแต่ถูกพี่ออทัมตัดบทซะก่อน

"บ้านนี้ก็ไม่ได้ต้อนรับนักหรอก อย่ามาอีกล่ะ......ขี้เกียจไปนิมนต์พระมาสวดไล่เสนียด"

อึก.....คำด่าทอของพี่ออทัมช่างบาดลึกลงไปในใจเหลือเกิน ที่ว่าบ้านนี้ไม่ต้อนรับผมก็คงจะจริง เพราะแม้แต่คุณป้าท่านยังไม่ต้อนรับผมเลย

ผลัก!!

ไอดินพุ่งไปวกหน้าพี่ออทัมด้วยความเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว แต่พอตั้งตัวได้ก็สวนหมัดกันไปมาจนผมกับพี่ซัมเมอร์ต้องรีบไปแยกทั้งออกจากกัน

"ไอ้เหี้ย มึงจำคำพูดที่มึงพูดกับไอ้วินด์ไว้ให้ดี!!"

   ผมกอดเอวของไอดินแน่น เมื่อเขาทำท่าจะพุ่งเข้าไปตะลุมบอนกับพี่ออทัมอีกครั้ง พี่ออทัมถุยน้ำลายปนเลือดลงดินก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นบ้าง

"กูจะจำเอาไว้ และจะไม่ลืมคำพูดตัวเองหรอก"

"มึงจะต้องเสียใจที่ทำกับมันแบบนี้!! เรื่องที่คนโง่ๆอย่างมึงไม่รู้......"

"ไอดิน!!!"

   ผมแผดเสียงขึ้นก่อนจะกระชากไอดินให้หันมามองหน้าอย่างโกรธๆ เขามองผมด้วยสายตาที่อ่อนลงแล้วก้มหน้านิ่ง

"กลับ!!!"

   ลากแขนมาที่รถแล้วจับยัดเข้าไปเบาะหลังแล้วเข้าไปนั่ง บอกลุงคนขับรถให้ออกรถโดยไม่แม้จะหันไปบอกลากับพี่ซัมเมอร์ เพราะผมกำลังโกรธ.....โกรธมาก ไอดินกำลังจะทำให้ทุกอย่างพัง!! พี่ออทัมจะเกลียดผมมากขึ้น ซ้ำพี่ซัมเมอร์ก็อาจจะเกียจผมตามไปด้วย เพราะผมเป็นต้นเหตุทำให้พี่ออทัมเจ็บตัว

"วินด์......."

"..........."

"กูแค่ไม่อยากให้มันพูดดูถูกมึงแบบนั้น......"

"..........."

"กูแค่ไม่อยากให้มึงร้องไห้ กูไม่อยากให้มึงต้องเสียใจ" ไอดินกุมมือผมเอาไว้ มือหนาคู่นี้อบอุ่นเสมอ ไม่ว่าเวลาใดเขาก็จะหยิบยื่นความอบอุ่นมาให้ลมหนาวอย่างผมเสมอ

แต่ลมหนาวก็ทำให้เขาลำบากใจเสมอไม่แพ้กัน

เป็นผมเองมั้ง......ที่คอยแต่สร้างเรื่องขึ้นมา แล้วไม่อาจแก้ไขด้วยตัวเอง

เป็นผมรึเปล่า......ที่ไม่ควรจะมีแต่แรก ทุกคนเขาจะได้มีความสุขกันเสียที

ความผิดทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวผมเอง......ผมควรจะโกรธตัวเองมากกว่าสิ่งใดทั้งหมดสินะ



"ไม่มีใครเสียใจที่มึงเกิดมาหรอกนะ วินด์"

"ขอบคุณนะ......ขอบคุณที่อย่างน้อยมึงก็เป็นอีกคนที่ยินดีที่กูเกิดมา......"


อย่างน้อย.....คนที่ยินดีที่ผมเกิดมาก็มีแม่ ไอดิน และกลิ่นฟ้า

แค่ 3 คนก็ไม่เป็นไร ก็เพียงพอแล้ว......มั้งนะ



"ขอบคุณนะ"


   ไอดินยิ้มให้ผมก่อนจะดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่น กลิ่นโคโลญอ่อนๆทำให้ผู้รู้สึกเคลิ้มๆ ผมพิงหัวกับอกอุ่นๆของมันเนิ่นนานจนรถมาถึงบ้านของผมเสียที

บ้านที่ผมสามารถเรียกว่าบ้านจริงๆ

แม้มันจะไม่ได้มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นเหมือนครอบครัวนั้น

แต่ก็มีแม่ที่แสนดี......กับที่ๆผมควรยืน

และเป็นที่ของผมอย่างแท้จริง......


    ผมรู้สึกแปลกใจที่แม่ไม่ได้ออกมารอรับผมเหมือนที่เคยเป็น ภายในบ้านเงียบสะงัด ผมเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะตรงขึ้นไปยังห้องนอนของแม่ด้วยความเป็นห่วง

แม่ไม่สบายเพราะผม......ข้อนี้ผมจะจดจำมันไปชั่วชีวิต

"แม่ครับ...."

    ผมเดินนำเข้าไปหาท่านที่นอนอยู่บนเตียง ท่านหันมายิ้มให้ผมอย่างเหนื่อยอ่อน ผมคุกเข่าลงก่อนจะจับมือหยาบกร้านนั้นมาแนบกับหน้า

"ผมขอโทษครับแม่.....ผมสัญญา......"

"อย่าสัญญากับแม่อีกเลย ถ้าลมจะทำมันไม่ได้ และมันจะทำให้ลมรู้สึกผิด"

"แม่....."

   น้ำตาของผมไหลอาบหน้า ทั้งๆที่ผมมีแม่ที่แสนดีอยู่อย่างนี้ ใยผมถึงต้องขวนขวายหาอดีตของตัวเองอีกนะ ถึงจะรู้และบอกกับตัวเองอย่างนี้ แต่ความเห็นแก่ตัวของตัวเองก็ตีตื้นขึ้นมาได้ไม่ยาก

มนุษย์ก็แบบนี้

ผมรู้ดี และทุกคนก็รู้ดีเช่นกัน

"แม่ไม่อยากได้คำสัญญาของลมอีก แค่ข้อเดียวที่แม่ขอลูก แค่ลูกรักษามันให้ดีที่สุดก็เพียงพอ"

"ครับแม่....."




*****
ที่มาลงเร็วเพราะช่วงนี้ว่างจากการเรียนนิดหน่อยอ่ะค่ะ 55+
แบบว่าแล้วตอนพวกนี้ก็ไม่ต้องแก้ไขอะไรมากด้วย
แต่ช่วงตอนท้ายๆนี่สิ :serius2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: ~EnSlAvE_tO_dEsIrE~ ที่ 07-04-2010 16:15:28
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:


ไม่ไหวแว้ว......สงสารลมอ่า
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 07-04-2010 17:59:47
สงสัยทั้งออทัม ซัมเมอร์
จะรักลมทั้งคู่ละมั้ง :o9:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 07-04-2010 20:42:17
เศร้าได้อีก

ลม+ไอดิน ใช่ไหม?

ปล. :กอด1:คนแต่ง คิคิ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 6
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 07-04-2010 22:43:29
                              เสียงกระซิจากลมหนาว 6


"ไอดิน ตื่นได้แล้ว"

    ผมปลุกเพื่อนตัวดีให้ตื่นจากนิทรา ไอดินมักจะนอนขี้เซาเสมอ ผมชินซะแล้วล่ะเพราะตอนอยู่เชียงใหม่ก็เป็นผมนี่แหละปลุกมันตอนเช้าก่อนจะไปโรงเรียน

"ฮื่ออ ขออีก 5 นาทีนะวินด์~"

   ไอดินมุดหน้าลงหมอนผมแต่ผมไม่ยอมเขย่าจนตื่นขึ้นมาจนได้ วันนี้ไอดินมานอนที่บ้านผมเป็นวันที่สองแล้ว ตั้งแต่มันมากรุงเทพมันยังไม่ได้กลับไปหาพ่อแม่มันซักครั้ง ผมไม่รู้จะขอบคุณมันยังไงที่มันเป็นห่วงผมถึงขนาดนี้

แต่ผมก็มักจะทำให้มันลำบากใจเสมอๆไม่แพ้กัน.....ผมนี่มันแย่ได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ


     รถแล่นด้วยความเร็วไม่มากนัก ผมนั่งคู่กับไอดินที่เบาะหลัง เรานั่งกันคนละฟากผินหน้ามองหน้าต่าง ต่างคนต่างตกในห้วงความคิดของตัวเอง เพียงเวลาไม่นานก็มาหยุดลงตรงหน้าโรงเรียน


"ขอบคุณครับ"


   ผมกับไอดินเอ่ยขอบคุณลุงคนขับรถ เราเดินเข้าไปโรงเรียนพร้อมกันก่อนผมจะพาไอดินไปรายงานตัวที่ห้องธุรการ ตลอดทางที่เดินผ่านมาผู้คนต่างให้ความสนใจไอดิน เพราะเขาหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

  ไม่เหมือนผมที่ไม่เคยจะอยู่ในสายตาของใคร......ในตอนนี้ก็เช่นกัน เพราะในแววตาของทุกคนสะท้อนออกมาแค่ภาพของไอดิน

"ไปกันเถอะ......."

     ไอดินเดินมากอดคอผมก่อนจะลากให้เดินไปด้วยกัน กลิ่นโคโลญกลิ่นเดียวกับวันก่อนๆทำให้ผมรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เขาบอกผมว่าเราได้อยู่ห้องเดียวกัน นั่นเป็นสิ่งที่จะว่าดีก็ดี จะว่าแย่ก็แย่ ดีที่ไอดินอยู่จะได้มีไม่ใครกล้ามารังแกผม แต่ที่แย่คือในห้องนั้นมีพี่ซัมเมอร์ด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าไอดินจะทำให้เสียเรื่องรึเปล่า

แต่จะคิดไปถึงอนาคตก็ป่วยการเปล่าๆ.....


"วินด์ กูขออย่างได้ไหม" ไอดินหยุดเดินและจ้องหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

"อะไร"

"อย่าเข้าใกล้สองพี่น้องนั่นจนเกินไป"

"แต่ว่า......."

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถึงมึงจะเป็นน้องแต่คนพวกนั้นไม่รู้ และอาจไม่ได้จะคิดกับมึงแค่พี่น้องก็ได้"

"กูไม่เข้าใจ......ไม่ได้คิดกับกูพี่น้อง แล้วจะคิดกับกูยังไง??"

"มากกว่านั้น"

     แววตาของไอดินไม่ได้ฉายแววล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าต้องการสื่ออยู่ดี ไม่ได้คิดกับผมแค่พี่น้อง แล้วจะให้คิดยังไงล่ะ.......เพื่อน???




หรือศัตรู!!!





"ทำไมต้องพามันมาด้วย" พี่ซัมเมอร์กระซิบผมเสียงเครียด ไอดินนั่งอยู่หลังห้องซึ่งห่างจากพวกเราพอสมควร ผมได้แต่มองหน้าพี่ซัมเมอร์อย่างไม่รู้จะตอบว่าอะไร

"ทำไมหมอนั่นต้องอยู่ห้องนี้ด้วยวะ.......งี้มันต้องตามลมแจแน่เลย" พี่ซัมเมอร์พึมพำกับตัวเองเสียงเครียด เขาดึงมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะผมไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะพิจารณามือผมอย่างไม่วางตา มือเขาลูบตั้งแต่เล็บเรื่อยมากจนหยุดอยู่ที่แหวนเงินวงหนึ่งที่สวมอยู่ที่นิ้วก้อยของผม

"แหวนสวยจัง ยืมใส่มั่งสิ"

"........."

"นะลม ได้ไหมอ่ะ" ผมไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่มองมือตัวเองนิ่ง ก็แหวนวงนี้เป็นแหวนของฟ้า ผมลูบมันอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตัวเอง ผินหน้าออกไปมองท้องฟ้าสีฟ้าสดใส


เธอกำลังส่งยิ้มให้ผม


อย่าร้องไห้นะฟ้า......น้ำตาของเธอจะทำให้เราไม่สบาย


และมันจะเปียกปอนไปทั้งหัวใจ



"ลม.....ลม.....ร้องไห้ทำไม" พี่ซัมเมอร์ถอดแว่นออกให้ผม ก่อนจะซับน้ำตาอย่างอ่อนโยน นัยส์ตาสีดำสนิทไหววูบดังเปลียวเทียนต้องลม

"ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เราจะไม่ยืมมันแล้วล่ะ มันคงสำคัญกับลมมาก" ผมผยักหน้าก่อนจะซบหน้าลงกับโต๊ะ

"ลม ไม่สบายเหรอ" ไอดินเดินมาด้านหลังก่อนจะแตะหลังผมเบาๆ ผมส่ายหน้ากับแขนตัวเองแต่ไอดินก็ยังดึงดัน

"ออกไปข้างนอกกันเถอะ"

"อืม"

"เราไปด้วย"

     เราสามคนเดินมาถึงดาดฟ้าของโรงเรียน ที่ๆคราวที่แล้วผมถูกจับมาที่นี่ มันยังคงเหมือนกับวันนั้น เพียงแต่วันนี้ผมมาเองไม่ได้ถูกบังคับให้มา

"ไอดิน"ผมหันไปหาไอดิน

"หืม"

"......" ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า เราสามคนเงียบกันไปโดยไม่มีใครคิดจะปริปากพูด ไอดินรู้ว่าผมกำลังอยู่ในอาการไหน และเขารู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ไอดินนั่งลงกับพื้นตามด้วยผมที่นอนหนุนตัก มันลูบหัวผมอ่อนโยนอย่างที่เคยทำ ส่วนพี่ซัมเมอร์นั่งอยู่ข้างๆผมอีกทีนึง


    อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าจะมีคนเฝ้ามองผมอยู่ไหม และคนๆนั้นเป็นคนที่ผมรักสุดหัวใจรึเปล่า แล้วเธอจะมองเห็นหรือรับรู้ความรู้สึกของผมตอนนี้ไหม


คำตอบอยู่ ณ แห่งหนใด


ผมไม่มีวันจะรู้เลย

   รับรู้เพียงมือหนาที่ลูบศรีษะผมอย่างปลอบโยน คนๆนี้คนที่เห็นตัวตนของผม คนที่ยืนข้างๆเสมอ ไม่ว่าผมจะเจอปัญหาใหญ่น้อย ผมรู้จะขอบคุณยังไงแล้ว








อีกด้านหนึ่งของประตู


    ร่างสูงมองภาพนั้นด้วยสายตาที่คุกกุร่นไปด้วยไฟแห่งโทสะ โกรธที่เจ้าคนที่ชกเค้ากำลังลูบหัวเจ้าตัวดีนั่น มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะชกกำแพงเสียงดังปัง


"ใจเย็นน่าไอ้ออทัม....." ชินเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มยกมือขึ้นแตะที่บ่าของออทัมเบาๆ

"กูจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกมัน....." เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็น ดวงตาทอแสงอย่างประหลาดเมื่อคิดถึงแผนการที่แยบยลของตัวเอง และผลอันแสนคุ้มค่าที่จะตาม หากทำมันสำเร็จ

"มึงจะทำยังไง......อย่าให้ถึงเลือดตกยางออกเลยว่ะ กูสงสารไอ้ลมมัน"เฟสพูด

"อย่าบอกว่ามึงหลงเสน่ห์มันเข้าแล้ว" ออทัมเอ่ยดักเฟสอย่างรู้ทัน ทำเอาเขาสะอึกก่อนจะรีบแย้ง

"ไอ้เหี้ย!! กูมีแฟนแล้วเว้ย" ใช่......เขามีแฟนแล้ว และรักเดียวใจเดียวไม่คิดเปลี่ยนใจแน่นอน ถึงแม้ว่าลมจะดูน่ารักและหน้าหวานเกินชายบางคน แต่เขาก็ชอบผู้หญิงจริงๆมากกว่า

"หึ......" ออทัมแค่นหัวเราะ ชินมองรอยยิ้มนั้นอย่างเคลือบแคลงใจ แต่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา เขาจะดูอยู่ห่างๆ แต่หากออทัมทำเกินไปจริงๆ เขาก็ทนดูไม่ได้เหมือนกัน คงต้องสอดมือเข้าไปช่วยอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

   ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันแต่เขาก็สงสารฝ่ายนั้นไม่น้อย เมื่อต้องมาสู้รบปรบมือกับมารร้าย อย่างเพื่อนเขา


แต่เอาเข้าจริงๆก็คงไม่ต้องห่วงอะไรมาก


เมื่อฝ่ายนั้นมีอัศวินทั้งสองคอยพิทักษ์อยู่ไม่ห่าง ศึกครั้งนี้ใครจะชนะกันแน่


แต่ที่แน่ๆ หากบทสรุปมันออกมาไม่สวยงาม ก็คงต้องเจ็บกันทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน


อย่าหลงรักศัตรูเข้าล่ะ......ออทัม


แต่เมื่อมองเข้าไปในแววตาเรียบนิ่งนั้นอีกที......เหมือนคำตอบจะออกมากลายๆแล้วล่ะ



ว่ามันไม่ทันเสียแล้ว


****
 :กอด1: ทุกคนค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 07-04-2010 23:01:54
 :call:to be follow na ka.
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 08-04-2010 00:37:36
 :serius2:

อย่าทะเลาะกันน๊า
 :z3:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 08-04-2010 01:10:09
เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องครับ

ผูกเรื่องสุดยอด  o13
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 08-04-2010 02:49:50
 :z1:
ออทัม มีแววจำหัวปักหัวปำกับเจ้าลมนะเนี่ย

น่าจะมีสปริงมาเป็นอัศวินของวินเทอร์อีกคน
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-04-2010 11:13:37
อ่านตอนไหนก้เศร้า

แต่ชอบมากมายผุกเรื่องได้ o13มากเลย

 :pig4:นะครับคนไรเตอร์ ไอดิน+สายลม :mc4:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 7
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 08-04-2010 17:43:03
                                                          เสียงกระซิบจากลมหนาว 7


    วันเวลาผ่านไปอย่างเอื่อยๆ ทั้งผมและไอดินเลือกเข้าชมรมเดียวกันคือชมรมทำขนม หลายๆคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องเลือกเข้าชมรมนี้

    คำตอบของคำถามทั้งหมด......คือผู้หญิงคนนึง เธอชอบทำขนมมากและฝันอยากเปิดร้านของตัวเอง แต่เวลานี้.....เธอไม่อาจทำความฝันของตัวเองได้อีกแล้ว

ผมจึงเลือก......เลือกที่จะสานฝันของเธอให้เป็นจริง


   ช่วงพักกลางวันผมถูกเรียกให้ไปพบพร้อมกับไอดินที่ห้องชมรม พี่น้ำซึ่งเป็นประธานชมรมยืนนิ่งรอพวกเราอยู่ เธอมองผมเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองไอดิน

"พี่จะให้ลมย้ายชมรม" พี่น้ำพูดออกมาในที่สุด

"ทำไมแค่ลมคนเดียว....." ไอดินเอ่ยถามเสียงเรียบ แต่ภายในเริ่มคุกกรุ่นแล้วแน่ๆ

"ชมรมเต็ม......พี่จะให้ลมย้ายไปชมรมบาสซึ่งกำลังขาดคนอยู่พอดี"

"แล้วก่อนหน้านี้ทำไมถึงรับได้ล่ะครับ.......พี่มีเหตุผลไม่เพียงพอ แล้วอีกอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์สั่งย้ายสมาชิกชมรมตามใจชอบนี่ครับ"

"พี่ไม่ได้สั่งย้าย คำสั่งนี้ ผอ.อนุมัติเรียบร้อยแล้ว"

"แล้วทำไมต้องเป็นไอ้ลม" ไอดินเริ่มมองพี่น้ำอย่างจับผิด นั่นสิ.....ทำไมต้องเป็นผมคนเดียว มันไม่มีเหตุผลเลยหรือเค้าเห็นผมไม่ได้เรื่องจนกลัวจะทำให้อุปกรณ์พังกัน?

"ลมไม่มีฝีมือในการทำขนม เธอก็น่าจะรู้ว่าเค้าไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้" ผมก้มหน้าอย่างยอมรับความจริง ข้อที่ว่าผมมันไม่มีความสามารถจะทำให้ขนมที่ออกมานั้นรสชาติอร่อย แถมยังทำเสียบ่อยๆเสียด้วยซ้ำ ส่วนไอดินนั้นมีพรสวรรค์ในเรื่องทำขนมเป็นอย่างมาก สมควรแล้วล่ะที่พี่เขาอยากจะเก็บไอดินไว้

แล้วเฉียดหัวผมทิ้งซะ


"การทำขนมหรืออาหารไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ ขอเพียงแค่ใจรักและตั้งใจซะอย่าง....ซักวันมันก็ต้องออกมาดีเอง ขนมที่ใช้ใจทำน่ะ คนกินจะสามารถรับรู้ได้เอง ด้วยหัวใจของเค้า!" ผมจับแขนไอดินไว้แน่น เมื่อเห็นเขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

"พอเถอะ....กูมันไม่ได้เรื่องเองแหละ พี่เขาทำอย่างนี้น่ะถูกแล้ว"


"วินเทอร์!!!"


"ไอดิน!!"


   จะเป็นที่ไหนก็ได้ที่มันจะเรียกผมด้วยชื่อนี้ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่!! ไอดินกำหมัดตัวเองแน่น ส่วนผมเองก็เช่นกัน เราจ้องตากันจนในที่สุดมันก็ยอมแพ้

"ให้ผมไปด้วยได้ไหม"

"ชมรมนั้นขาดคนเดียว แล้ว......."

"แล้วอะไร!!" ไอดินตวาดลั่น

"ช่างเถอะน่าไอดิน พี่ครับผมตกลงครับ"

"ลม!!!"

   ผมเดินลากไอดิตรงไปยังโรงอาหาร พี่ซัมเมอร์โบกมือหยอยๆอยู่ที่โต๊ะ กลุ่มเพื่อนๆมองหน้าผมกับไอดินสลับกันก่อนจะเบ้ปาก เป็นแบบนี้ประจำแหละครับ ตั้งแต่พี่ซัมเมอร์พาผมเข้ากลุ่มนี้ ไอดินก็โดนเหม็นขี้หน้าไปด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง

   ทั้งๆที่ตอนอยู่ที่เชียงใหม่ ไอดินเป็นที่รักของเพื่อนๆทั้งชายหญิง ซ้ำยังเป็นหนุ่มฮ็อทของโรงเรียน แต่พอเขามาอยู่ใกล้ๆผมกลับเดือดร้อนถึงขนาดนี้ ผมทำให้สังคมใหม่ๆของเขาต้องขาดสิ่งดีๆไป

  แต่รู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตของผมจะสงบสุขและเรียบนิ่งเกินไปอย่างน่าตกใจ พี่ออทัมไม่ได้เข้ามายุ่งกับผมอีกซึ่งนั่นมันก็ดีแล้ว สงสัยเค้าจะยอมรับผมแล้วล่ะมั้ง


"มึงกินอะไรวินด์ เดี๋ยวกูไปซื้อให้" ไอดินหันมาถาม ผมบอกมันก่อนมันจะผยักหน้ารับรู้แล้วเดินจากไป ผมเดินไปซื้อน้ำแล้วก็ต้องตกใจเมื่อมีมือใหญ่มาคว้าไหล่ผมเอาไว้

"ไอ้ลม กูมีอะไรจะมาเตือน"

"ครับ?" ผมมองหน้าชายตรงหน้าอย่างแปลกใจ เขาคือพี่ชินเพื่อนของพี่ออทัมนั่นเอง พี่ชินมีสีหน้าเคร่งเครียดจนผมยังอดหวั่นใจไปด้วยไม่ได้

"อย่าอยู่ห่างซัมเมอร์หรือเพื่อนของมึงคนนั้นล่ะ" ผมเลิกคิ้วอย่างฉงนสงสัยเมื่อพี่ชินชี้ไปทางไอดิน

"เกี่ยวอะไรกับสองคนนั้นครับ"

"กูพูดได้แค่นี้แหละ จำคำพูดกูไว้ดีๆนะมึง" พี่ชินเดินจากไปแล้วแต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน คำพูดของพี่เค้าราวกับต้องการจะบอกอะไรผมซักอย่าง ซึ่งดูเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องดีเลยแม้แต่น้อย พี่ซัมเมอร์เดินมาหาผมก่อนจะเอ่ยถาม


"พี่ชินพูดอะไรกับลมเหรอ"

"เปล่า ก็แค่ถามอะไรเรื่อยเปื่อย" ผมตอบปัดๆเพราะไม่อยากให้พี่ซัมเมอร์ต้องเป็นห่วงผมไปมากกว่านี้ ซักพักไอดินก็เดินกลับมาพร้อมชามก๋วยเตี๋ยวไก่สองชามในมือ

   ผมนั่งกินข้าวอย่างเงียบเชียบท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่ได้เห็นว่ผมมีตัวตนแม้แต่น้อย มีเพียงไอดินที่หันมาถามผมบ้าง กับพี่ซัมเมอร์ที่มักจะขโมยลูกชิ้นผมไปกิน เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นระงมอย่างต่อเนื่องจนถึงห้องเรียน เย็นนี้ผมจะต้องไปเข้าชมรมใหม่แล้วสินะ

ชมรมบาสที่ผมไม่เคยอยากเข้า

ทั้งๆที่ผมอยากจะอยู่กับขนม อยากจะอยู่ใกล้ๆกับสิ่งที่คนที่ผมรักรักมากที่สุด

แต่แล้วทำไม....ทำไมผมต้องถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย

คำตอบอยู่ที่ผมมันไม่ได้เรื่องไงล่ะ!!!

   ตอนเย็นไอดินกับพี่ซัมเมอร์บอกว่าจะมาส่งผมที่ชมรมบาส แต่ผมปฏิเสธเพราะเกรงใจ พวกเค้าก็ต้องรีบไปเข้าชมรมของตัวเองเหมือนกัน ผมไม่อยากรบกวนไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ดูเหมือนพี่ซัมเมอร์มีอะไรจะพูดกับผม แต่เพราะความรีบจึงทำให้เขาไม่ทันได้พูดมันออกมา

   ห้องชมรมบาสอยู่ในโรงยิม ในนั้นเต็มไปด้วยนักเรียนชายเพราะห้องชมรมจะแยกออกเป็นสองฝั่งคือฝั่งชายและฝั่งหญิง พวกเขามองผมก่อนจะหันไปสนกิจกรรมของตัวเองต่อ

"มาแล้วเหรอ สมาชิกวีไอพี หึหึหึ" น้ำเสียงเย็นเหยียบสาดใส่ผมจนรู้สึกหนาวไปหมด พี่ออทัมยืนประจันหน้ากับผมพร้อมๆกับเพื่อนของเขาอีกกลุ่มนึง ในนี้ไม่มีพี่ชินแต่ก็ยังมีพี่เฟสให้ผมอุ่นใจได้บ้าง

"พี่......เอ่อ......จะให้ผมทำอะไรครับ"

"เดี๋ยวมึงก็รู้ เฮ้.....พวกมึงออกไปได้แล้วไป" พี่ออทัมหันไปบอกสมาชิกชมรมคนอื่นๆ พวกเค้ามองหน้ากันอย่างยิ้มๆแล้วพากันเดินออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงผม พี่ออทัมและกลุ่มเพื่อนๆของเค้าเท่านั้น

"เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า" ผมมองหน้าพี่ออทัมอย่างไม่เข้าใจเมื่อเขาและเพื่อนๆตีวงล้อมผมเอาไว้ คนพวกนั้นกระหยิ่มยิ้มย่องจนผมเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว

ผมคงถูกแกล้งอีกเป็นแน่


น่าจะชินได้แล้ว.......แต่ก็ไม่ชินเสียที


ที่สำคัญ.....ยิ่งคนๆนั้นเป็นพี่ออทัม ผมยิ่งรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจอย่างยิ่งยวด


"ไอ้หน้าด้านๆอย่างมึงนี่ ต้องเจอแบบนี้ถึงจะมียางอายสินะ" พี่ออทัมชูกล้องวีดีโอในมือก่อนจะโยนไปให้เพื่อนของเขาถือเอาไว้ สายตามองดูผมอย่างดูถูกทำเอาผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พี่จะทำอะไรผม พี่จะทำร้ายกันไปถึงไหน

ผมเป็นน้องพี่นะ!!!

"ไอ้เกมส์ ไอ้จี จับมันขึงไว้" ผมถอยหลังก่อนจะออกตัววิ่งหนี แต่ไม่ทันเมื่อคนสองคนจับผมล็อคไว้ ผมออกแรงต่อสู้จนเขาส่งหมัดมาทำเอาผมจุกแล้วทรุดลงกับพื้น แขนถูกขึงลงกับพื้นโดยมีสายตาหลายคู่มองมาอย่างสมเพช

น้ำตาของผมไหลอาบแก้มไม่ใช่เจ็บที่ตัว

แต่มันเจ็บที่หัวใจ....!!!


เจ็บจนจุก!!
     


"ถ่ายหน้ามันชัดๆล่ะ"

"อย่า.....ฮึก....."

    กล้องซูมหน้าผมทำเอาผมหันหน้าหนี พี่ออทัมคร่อมตัวผมเอาไว้ก่อนจะใช้มือจับคางผมให้มองไปทางกล้อง แรงบีบที่มือทำเองผมกัดริมฝีปากตัวเองอย่างสกัดกั้นเสียงไม่ให้ร้องออกมา

ไม่อยากให้มันดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้อีกแล้ว

"เอาล่ะ เดี๋ยวกูเป็น MC เอง" พี่ออทัมเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างเหยียดๆ เขาลูบหน้าผมเรื่อยมาถึงลำคอก่อนจะบีบมันเบาๆ

"มึงอยากตายรึเปล่า...."

    ผมมองเขาอย่างตื่นๆ มันคงดูหนาสมเพชมากในสายตาของพวกเขา เพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะเยาะดังมาไม่ขาด

"แล้วอยากลองมีผัวดูมั้ย??"เลิกคิ้วถามพร้อมรอยยิ้มเยาะๆ

   ริมฝีปากฉกวูบลงมาครอบครองริมฝีปากผมไว้ ผมเบิกตาโพลงพยายามดิ้นขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้มากนักเมื่อแขนขาถูกล็อกไว้จนขยับทบไม่ได้

นี่มันอะไรกัน!!!

   ปลายลิ้นร้อนพยายามเข้ามาเพื่อชิมความหวานในโพลงปาก ผมได้แต่ส่ายหน้าหนีแต่สุดท้ายก็ถูกจับล็อคเอาไว้ ผมเหมือนคนไม่มีทางสู้ หมดทางหนีรอด จูบครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาผมแทบสำลัก เพราะจูบที่เร่าร้อนและรุนแรงทำให้น้ำใสๆไหลออกจากริมฝีปากผม มือหนาถือโอกาศสำรวจผมไปทั่วทำเอาผมสะท้านไปทั้งกาย จะหลบหนีก็ไม่ได้ จะตอบรับก็ไม่ใช่เรื่องดี

ผมควรจะทำยังไงดีนะ

ใครก็ได้.....ช่วยผมที

ได้โปรดได้ยินเสียงของผมด้วยเถอะ



***
คนเราบางคนมักจะเพื่อโทษตัวเองเสมอๆ
การที่เราทำผิดกับคนที่เรารักมากๆ
บางครั้งอาจเกิดเพราะอุบัติเหตุหรือสถานการณ์ที่เราอาจคิดไปเองว่าเรามีส่วนทำให้มันเป็นแบบนั้น แท้จริงแล้วแม้จะรู้ว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย แต่ก็อดโทษตัวเองไม่ได้ว่าหากเราไม่ทำแบบนั้นเรื่องมันก็คงจะไม่เกิด

กับคนๆนึงที่เคยประสบณ์กับสถานการณ์แบบนั้น ย่อมรู้ดีว่ามันคือสิ่งที่จะติดในความทรงจำไปนานแสนนาน และจะคอยแต่โทษตัวเองอยู่อย่างนั้นเสมอไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และแม้จะหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้แล้ว แต่สุดท้าย....มันก็เหมือนเดิม

การสูญเสียคือจุดจบ แต่การรู้สึกสูญเสียคือจุดเริ่มต้นของความทรมาณ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 08-04-2010 17:50:52
มาต่ออีกนะ ชอบมากเลย วินด์เตอร์  ชื่อนี้เพราะจริง
เราไม่ชอบ ซัมเมอร์ หรือ ออทัม เราชอบวินด์เตอร์มันเป็นเสน่ห์อย่างนึง
ลมที่พัดพาความสุข และเป็นลมที่พัดพาให้ความทุกข์หายไป
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 8
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 08-04-2010 18:49:34
                                           เสียงกระซิบจากลมหนาว 8


      ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อสัมผัสร้อนๆไล้ไปตามคอเรื่อยมาจนแผ่นอก เสื้อถูกกระชากออกอย่างรุนแรง จนผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาทำให้ภาพที่เห็นพร่ามัว แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือกล้องวีดีโอที่ถ่ายทุกฉากเอาไว้อย่างไม่มีตกหล่น

"อ๊ะ......." ร้องออกมาแค่นั้นแล้วจำต้องกัดปากตัวเองต่อ เมื่อมือข้างนึงของพี่ออทัมเค้นคลึงตุ่มไตสีหวานจนมันชูช่อขึ้นมา อีกข้างริมฝีปากร้อนกำลังดูดกลืนมันเข้าไปอย่างกระหาย ลิ้นสากเลียจนมันเปียกชื้นไปหมด สลับกันไปมาราวกับว่ามันเป็นขนมเลิศรส

"หยุด......พี่.......ฮึก......หยุดซะที......"

    ผมที่ตอนนี้ไม่เหลือแรงจะดิ้นหนีทำได้เพียงขอร้องเขาผ่านเวลาและเสียงอันสั่นเครือ ใครก็ได้ช่วยหยุดเขาที ผมหันไปมองหน้าพี่เฟสก็พบว่าเขาหลบตาผม

ความหวังสุดท้ายของผม คือขอให้ใครซักคนมาช่วยผมที

"อย่า....."

    เสียงถูกกลืนหายไปในลำคออีกครั้งเมื่อพี่ออทัมปิดปากผมด้วยริมฝีปากครั้ง มือหนาปะป่ายไปทั่วร่างกายผมอย่างถือสิทธิ์ ผมดิ้นอีกครั้งเมื่อมือของเขากำลังถอดกางเกงผมออกไป ผมพยายามถีบพวกเขาแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล ซ้ำยังช่วยให้เขาถอดกางเกงได้ง่ายๆอีกด้วย ช่วงล่างของผมไม่เหลืออาภรณ์ชักชิ้น ส่วนช่วงบนมีเพียงเสื้อที่ขาดวิ่น ตัวก็คงเต็มไปด้วยรอยอัปยศต่างๆมากมาย แขนขาถูกขึงราวกับนักโทษ

นี่ผมกำลังจะถูกข่มขืนหรือนี่

ไม่นะ.......ช่วยผมที.....!!


    ผมดิ้นรนหนีมือใหญ่ที่เริ่มลูบคลำเจ้าส่วนนั้น ดวงตาของพี่ออทัมอาบไปด้วยอารมณ์บางอย่างทำเอาผมยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่

"ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย ไอดินนนนนนนนนน พี่ซัมเมอออออออออออออออร์ ช่วยด้วยยยย"

"ร้องไปก็เปล่าประโยชน์!! กูก็เห็นมึงอยากมีผัวจนตัวสั่นไม่ใช่เหรอ นี่กูก็ช่วยสงเคราะห์อยู่นี่ไง"

"ไม่........"

"ไม่อะไร ไม่อยากมีผัวคนเดียวรึไง"

    พี่ออทัมกัดยอดอกผมอย่างแรงทำเอาผมร้องออกมาทั้งน้ำตา พี่จะทำร้ายผมไปถึงไหน ทำไมพี่ต้องทำร้ายผมขนาดนี้ด้วย ผมก็เป็นน้องของพี่ไม่ต่างไปจากพี่ซัมเมอร์นะ ทำไมถึงได้เกลียดผมนัก!!

"ไม่ใช่ เพราะผมเป็นน้อง...."


ปัง!!!


"ไอ้วินเทอร์!!!!/ลม"


    เสียงของผมถูกกลบจากเสียงประตู ร่างสูงสองร่างเหนื่อยหอบก่อนจะกราดตามงไปทั่วห้อง สายตาสองคู่มาหยุดลงที่ผมกับพวกของพี่ซัมเมอร์ ไอดินโกรธจนตัวสั่น พี่ซัมเมอร์มองภาพนั้นอย่างตะลึงพรึงเพลิด

"มาเร็วดีนี่......อีกนิดเดียวเอง"

   พี่ออทัมผละออกแล้วลุกขึ้นมาทรงตัวอย่างรวดเร็ว ไอดินพุ่งเข้าไปก่อนจะแลกหมัดกับพี่ออทัม ส่วนคนอื่นๆถอยห่างออกมา พี่ซัมเมอร์รีบวิ่งไปแย่งกล้องมาก่อนจะปามันทิ้งลงกับพื้นแล้วกระทึบมันจนไม่เหลือชิ้นดี

"ลม......ปะ......เป็นยังไงบ้าง"

     พี่ซัมเมอร์มองมาทางผมอย่างอ่อนโยนปนรู้สึกผิด เขาเข้ามาสวมกอดผมไว้แต่ผมกลับดิ้นหนีสัมผัสของเขาจนเขาตกใจก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น

"นี่เราเอง ซัมเมอร์เอง ไม่เป็นไรนะลม เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลมอีกนะ ไม่ร้องนะครับคนดี" น้ำเสียงปลอบโยนทำให้ผมหายคลุ้มคลั่งขึ้นมาได้บ้าง ผมกอดพี่ซัมเมอร์ตอบอย่างโหยหาความอบอุ่น อ้อมกอดของพี่ซัมเมอร์อบอุ่นไม่แพ้ชื่อของเขาเลย

ช่วยถ่ายทอดความอบอุ่นของพี่.....มาให้ผมทีนะครับ

"มึงทำเหี้ยอะไรของมึง!!" ไอดินขยุ่มคอเสื้อของพี่ออทัมที่มุมปากแตกเลือดไหลซิบอย่างน่ากลัว เนื้อตัวของเขาสะบักสะบอมพอๆกับไอดิน หลังจากผ่านสงครามอันยาวนานมาร่วมสิบนาที

"ก็ทำกับคนเหี้ยๆย่างมันไง สมกันแล้วนี่"

   สำหรับพี่.....ผมคงเป็นได้แค่สัตว์ชั้นต่ำอย่างนั้นสินะ พี่ไม่เคยเห็นผมเป็นนคนเลยด้วยซ้ำ และที่ทำทั้งหมดเพียงเพื่อจะสั่งสอนให้คนชั้นต่ำอย่างผมได้รู้สำนึกและสำเนียกว่าตัวเองควรยืนอยู่ตรงไหน อย่างงั้นสิ

ผลัก!!!

    ไอดินชกพี่ออทัมอีกหมัดหนึ่งจนพี่ลงไปกองกับพื้น เขาลุกขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะยืนอย่างโงนเงน แต่สายตาก็ยังคงความหยามเหยียดเอาไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลง

"มึงไอ้สั-ด กูบอกมึงแล้วว่าซักวันมึงจะต้องเสียใจที่ทำกับมันแบบนี้ แต่มึงก็ไม่เชื่อ!!! มึงมันโง่ยิ่งกว่าควาย!!!"

"กูไม่เห็นว่าสิ่งที่กูทำมันผิดตรงไหน แล้วกูก็ไม่มีวันเสียใจที่ทำกับมันแบบนี้ด้วย!!"

"มึง!!!"

".........."

"วิน.......วินด์!!!!"


    ไอดินร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นตัวผมโชกไปด้วยเลือด ส่วนพี่ซัมเมอร์ที่ทำอะไรไม่ถูกมาพักใหญ่แล้วก็ถึงกับได้สติ ผมที่ตอนนี้มีเสื้อของพี่ซัมเมอร์คลุมอยู่แต่ก็ทำให้เสื้อของเขาเปื้อนเลือด

เลือดของผม

เลือดที่แสนจะสกปรก แปดเปื้อนเต็มไปหมดเลย

"อึก......เราขอ.....โทษ......ที่ทำเสื้อนาย......อึก......เปื้อน"

    ผมพูดไม่เป็นคำเมื่อเลือดสีแดงสดทะลักออกทางปากและจมูก ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร รู้แต่ตอนนี้กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งทำเอาผมสะเอียดอย่างห้ามไม่อยู่ ไอดินวิ่งหน้าตาตื่นมาทางผมก่อนจะอุ้มผมเอาไว้แล้วออกตัววิ่ง พี่ซัมเมอร์ที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกตอนแรกวิ่งตามไอดินมาติด ส่วนพี่ออทัม......เขาก็วิ่งตามมา แล้ววิ่งแซงขึ้นยังรถของเขา

ผมจะทำรถพี่เปื้อนรึเปล่า

เลือดสกปรกของคนโสมมอยางผม

"อย่า.......อึก......แค่กๆๆ"

"อยะ.....อย่าเพิ่งพูดอะไรวินด์......ทำใจดีๆไว้นะ เดี๋ยวก็ถึงโรงบาลแล้ว" ไอดินถิดเสื้อนักเรียนของเขามาซับเลือดให้กับผม จนเสื้อสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเพียงเวลาไม่นาน พี่ซัมเมอร์ค่อยๆใส่กางเกงให้ผมเพราะกลัวผมจะหนาว

มือของเขาสั่นมาก

พี่ครับ......ผมจะทำให้พี่เสียใจรึเปล่า

อย่าเสียน้ำตาเพราะคนอย่างผมเลยครับ

"ลมต้องไม่เป็นไรนะ......ไม่เป็นไรนะ เชื่อเราดิ" ผมได้แต่ยิ้มให้เขาอย่างเหนื่อยอ่อน กลิ่นคาวเลือดคละคุ้งไปทั่วคันรถ พี่ออทัมไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาสนใจแต่ท้องถนนแล้วสบถลั่นเมื่อรถคันนึงตัดหน้า

"ไอ้เหี้ย!!!พ่อมึงไม่เคยสอนขับรถรึไงวะ!!!"



    เพียงเวลาไม่นานรถมาจอดหน้าโรงพยาบาลที่ใกล้โรงเรียนที่สุด ร่างโชกเลือดของลมถูกหามเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เบื้องหลังห้องนั้น.....พวกเขาไม่มีวันรู้เลยว่า คนที่อยู่ข้างในนั้นจะเป็นเช่นไร ทำได้เพียงรอเวลา

"เพราะมึง!! ไอ้วินด์ต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะมึง!!" ไอดินกระชากคอเสื้อออทัมเข้ามาก่อนจะตวาดลั่น ออทัมไม่ทีท่าทีขัดขืนหรือเอ่ยอะไรทั้งนั้น

ในใจของเขาก็โทษตัวเองเช่นกัน


ที่เด็กคนนั้นต้องตกอยู่ในสภาพนั้น....เป็นเพราะเขาเอง!!


   ซัมเมอร์ที่เดินไปมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่หน้าห้องไม่สนใจใคร ก็ต้องเอะใจในชื่อของลมที่ไอดินเรียก แต่ประตูห้องฉุกเฉินที่เปิดออกมาเรียกความสนใจของเขาได้มากกว่า

"เพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ!!" เสียงของซัมเมอร์ทำให้อีกสองคนรีบวิ่งเข้ามามองหมออย่างคาดคั้น และรอคำตอบ

"เส้นเลือดฝอยในโพลงจมูดแตก คนไข้เสียเลือดมากทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แล้ว.....เอ่อ.....ร่องรอย....." คนเป็นหมออึกอักเมื่อพูดถึงร่องรอยเหมือนกายถูกข่มขืนบนตัวคนไข้ ไอดินกำหมัดแน่นขึ้นก่อนจะพูด

"ไม่มีอะไรหรอกครับหมอ เขาเป็นแฟนผมเอง........" คนเป็นหมอมองอย่างไม่เชื่อ แต่สุดท้ายก็ต้องจำยอมเชื่อเมื่อสบเข้าสายตาจริงจังนั้น

"เอ่อ....ยังไงก็แล้วแต่นะครับ ช่วงนีคนไข้ต้องการพักผ่อน ยังไงก็.....รบกวนพวกคุณกลับไปก่อนครับ เพราะหมอของดเยี่ยม"

"ผมขอรออยู่ข้างนอกก็ได้ครับ"

    เตียงคนไข้ถูกเขนออกมา บนเตียงร่างๆหนึ่งที่สะบักสะบอมสวมชุดคนไข้สีเขียวอ่อนหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบางยังคงบวมเจ่ออยู่ ซ้ำตรงคอยังมีรอยอัปยศที่ออทัมฝากแดงเถือกไปหมด ไอดินหลับตาข่มอารมณ์ทั้งหมดทั้งมวนไว้ก่อนจะเดินไปจับดวงหน้าอย่างหวงแหน

ขอโทษ


   ได้ยินไหมว่าขอโทษ......


ไอดินขอโทษที่ดูแลสายลมของเขาไม่ดีพอ

..........

ซัมเมอร์ขอโทษที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

...........

ส่วนอีกคน.....ออทัม......ขอโทษสำหรับทุกสิ่ง

ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป.......

ขอโทษจริงๆ........



****
บางครั้งคำขอโทษก็ไม่อาจลบล้างสิ่งที่กระทำลงไปได้
คนเราไม่สามารถกลับไปลบล้างอดีตได้ แต่เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดได้
 :เฮ้อ:

เรื่องนี้เกิดจากสภาวะกดดันทางสังคมค่ะ ตอนที่แต่งๆกำลังเศร้า
เนื้อเรื่องมันเลยออกมาทำนองนี้
หลังๆอาจจะไม่ค่อยเศร้าเพราะกำลังลั้ลลา
จึงได้ไอ้ไป่ออกมาอีกเรื่อง 555+

ปล.เรื่องนี้แต่งเดือนมกรา จบต้นๆเมษาค่ะ
ปล2. ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายค่ะ
ปล3.เจอคำผิดท้วงได้นะคะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 08-04-2010 19:25:34
โอยยยยยย วิด์ จ๋า อย่าเป็นไรนะ
พี่ออทัมใจร้ายมาก มากถึงขนาดที่ วินด์อาจจะรับไม่ได้ และหวาดกลัวไปตลอด
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 08-04-2010 20:00:04
ไม่ไหวแล้วจริงๆ ๆ

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-04-2010 20:35:25
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สงสาร ลม จับใจ ออทรัม ช่างเลยได้ใจ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 08-04-2010 22:17:39
สงสารลม :sad11:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 08-04-2010 22:44:55
เรื่องมันเศร้า :monkeysad:
บีบคั้นอารมณ์จริงๆ มาต่อเร็วๆนะครับ
รออ่านอยู่
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 08-04-2010 23:25:33
โอ๊ยย ช่วยด้วยยย

หลงรักเรื่องนี้แล้ว

+1 ครับ

จะโกรธมั้ย ถ้าบอกว่า ผมไม่ชอบนายเอกเรื่องนี้

555+

ไม่ชอบคนอ่อนแออะ แบบว่า ไอ้เหี้ย มึงก้คนนะเว้ย สู้แม่งสิวะ สาสสสส

ส่วนตัวละครที่ชอบ คือไอดิน

เป็นคนดีที่ควรคู่ แต่พอจะรู้แหละ ว่าแห้วชัวร์ 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 08-04-2010 23:55:08
 :เฮ้อ:ทำไมน้องลมชอบคิดว่าตัวเอง
ต้อยต่ำ ขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 09-04-2010 13:58:50
                                          เสียงกระซิบจากลมหนาว 9


"มันเกิดอะไรขึ้นไอดิน" มารดาของคนป่วยถามเสียงเครียด เธอเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทของลูกชายเมื่อครู่ว่าลูกอันเป็นที่รักยิ่งเข้าโรงพยาบาล คนเป็นแม่มีหรือจะนิ่งเฉยอยู่ได้ รีบกระวีกระวาดออกรถมาทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่สบายแท้ๆ

"ขอโทษครับ มันเป็นความผิดผมเอง....." ไอดินพูดอย่างสำนึกผิดจริงๆ เขาได้แต่โทษตัวเองอยู่อย่างนั้น ถ้าเขาไม่วางใจจนเกินไปก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

"ป้าไม่โทษไอดินหรอกนะ เพียงแต่ป้าแค่อยากรู้ว่าทำไม" เธอปรายสายตามองไปยังอีกสองร่างที่ยืนเงียบอยู่อย่างไม่เป็นมิตร

"เพราะพวกเค้ารึเปล่า"

"ไม่ใช่ครับ" ไอดินรีบปฏิเสธแทน แม้เขาจะไม่ชอบขี้หน้าสองคนนี้และการที่พูดแบบนี้ไม่ได้ต้องการช่วยพวกเค้า แต่ช่วยลมต่างหาก เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น ลมคือคนที่จะเจ็บที่สุด

"ก็ดีแล้วล่ะ ป้าเองก็เป็นห่วงลมเพราะเค้า เจ็บออดๆแอดๆมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายก็ไม่ค่อยสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนผู้ชายทั่วไป ป้าจึงไม่อยากให้เค้าเป็นอะไรไป"

"ครับป้าพิณ ป้าพิณกลับไปก่อนดีกว่าครับ นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมจะเฝ้าลมเองครับ"


"ส่วนพวกเธอ"ผู้โหญ่เพียงคนเดียวในห้องปรายตาไปมองทั้งสอง


"อย่าให้ฉันรู้ว่าพวกเธอทำร้าย'ลูก' ฉัน เพราะฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องมันจบแบบสวยๆเป็นแน่" เธอจะไม่ยอมให้ลูกที่เธอเลียงดูอุ้มชูฟูมฟักมาอย่างดี ต้องมาเจ็บตัวหรือได้รับอันตรายจากคนพวกนี้เป็นแน่ ถึงแม้จะรู้ว่าเด็กทั้งสองคนนี้เป็นพี่แท้ๆของลม แต่เด็กพวกนี้ก็ไม่รู้ความจริงอาจจะพลาดพลั้งทำร้ายลมก็เป็นได้ ซ้ำ เธอก็เชื่อว่าลมจะไม่ผิดสัญญา


เงื่อนที่เธอเป็นผูกเอง จะไม่ยอมให้มันได้คลายง่ายๆหรอก!!


และเธอจะไม่มีวันคลายมันด้วยตัวเองเป็นแน่!!!


   ไอดินนั่งรออยู่หน้าห้องอย่างสงบ หัวสมองครุ่นคิดถึงเรื่องราวเมื่อตอนกลางวัน วินเทอร์ วินเทอร์เกือบโดนไอ้เลวนั่นข่มขืน ซ้ำมันยังถ่ายภาพเก็บเอาไว้ คงกะจะแบล็คเมล์เต็มที่ เขาจะไม่ยอมให้คนพวกนั้นเข้าใกล้คนของเขาอีกอย่างเป็นอันขาด!

แม้จะขอร้อง อ้อนวอน หรือก้มลงกราบแทบเท้า

ก็อย่าหวัง!!!

มึงทำร้ายมันมามากเกินพอ!!!


"ไอดิน เรามีเรื่องจะถาม เราได้ยินนายเรียกลมว่าวินเทอร์หลายครั้งแล้ว ความจริงลมชื่อวินเทอร์เหรอ"

   ชายหนุ่มร่างโปร่งเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาเองก็ยังไม่ยอมไปไหนนั่งอยู่ไม่ไกลจากคนผู้นี้มากนัก เขาก็พอจะรู้ว่าไอดินคงจะโกรธมากและคงไม่มีวันให้อภัยพี่ชายของเขา เขาเองก็โกรธพี่ออทัมมากเช่นกัน แต่จะทำยังไงได้พี่น้องย่อมตัดกันไม่ขาด

ถึงจะรู้ว่าผิด แต่ในใจก็ยังคงอยู่ข้างเดียวกับพี่ชายอยู่ดี

มนุษย์หนอ......ความเอียนเอียงย่อมมี

โลกนี้ไม่มีความเที่ยงตรง......แม้แต่เวลา

"เปล่า ลมคือลม ชื่อนั้นมีเพียงกูที่มีสิทธิ์เรียก" ซัมเมอร์ถึงกับสะอึก เค้าไม่คู่ควรจะเรียกชื่อนั้นอย่างนั้นเหรอ ชื่อที่เข้ากับพวกเค้าอย่างประหลาด วินเทอร์ ออทัม ซัมเมอร์

"อ่อ.....แล้วอีกอย่าง อย่าเข้าใกล้มันอีก ถือว่ากูขอร้องละกัน" สายตาจริงจังถูกส่งไปยังบุคคลตรงหน้า

"เห็นทีจะไม่ได้" ออทัมเดินเข้ามาสมทบ

    ไอดินเงียบไป เขารู้ว่ามันจะออกมาแบบนี้ เพราะถึงห้ามคนพวกนี้ไป แต่สุดท้ายคนของเขาเองนั่นแหละ ที่จะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาฝ่ายนั้นก่อน

ให้โชคชะตาเป็นตัวตัดสินเอาละกัน

ให้วันเวลาไหลผ่านไปตามที่ควรจะเป็น



    ผมเปิดตาขึ้นมาในความมืด รู้สึกเหมือนกับว่ามีมืออบอุ่นของใครคนนึงจับผมเอาไว้ตลอด มันอุ่นจนชื้นไปด้วยเหงื่อของเจ้าของมือ นี่ผมคงอยู่โรงพยาบาลล่ะสิ เพราะผมได้กลิ่นยาคละคลุ้งไปหมด

กลิ่นยาที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คลื่นเหียนอยากอาเจียน

แต่ก็ไม่เคยจะหนีพ้น


    ผมลองขยับมือก่อนจะพบว่าเป็นไอดินที่กุมมือผมไว้ ไอดินเงยหน้าขึ้นมาจากนิทราแล้วยิ้มยิงฟันจนตาหยี มือหนากระชับแน่นขึ้นแล้วยกมันขึ้นแนบกับหน้า

"ตื่นแล้วเหรอ ไอ้ขี้เซา"

    ได้แต่ส่งยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนไปให้ ผมไม่มีแรงจะตอบเท่าไหร่ ไอดินกุลีกุจอหาน้ำให้ผมดื่มแล้วมานั่งกุมมือผมเช่นเดิม

"กูอยากเข้าห้องน้ำ" ไอดินพยุงผมเข้ามาในห้องน้ำแล้วออกไปรอข้างนอก ผมกวักน้ำล้างหน้าก่อนจะพิจารณาใบหน้าของตัวเองในกระจก รอยช้ำตามตัวแล้วยังรอยสีกุหลาบยังคงอยู่ไม่ไปไหน ผมยกมือขึ้นลูบมันเบาๆด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ขยะแขยงเหรอ มันไม่ใช่

เพราะผมไม่ได้ขยะแขยงหรือรังเกียจพี่ออทัม

รู้สึกดี......ก็ไม่ใช่

เพราะผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแม้แต่น้อย

แล้วมันคืออะไรล่ะ......??

ผมก็ไม่ทราบ




"วินด์"

    ไอดินเปิดประตูเข้ามาเมื่อเห็นว่าผมหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานาน มันมองผมที่มือยังคงลูบรอยอัปยศนั้นอย่างแผ่วเบา ไอดินจับมือผมไว้ก่อนจะกุมไว้แน่น

"รู้สึกผิดเหรอ?"

"........."

"ถ้ามึงรู้สึกผิด กูจะช่วยเอง"

    ริมฝีปากหยักได้รูปแย้มยิ้มอ่อนโยนก่อนจะประกบลงบนริมฝีปากผม จูบรสหวานอ่อนโยนราวปุยนุ่นทำเอาหัวสมองผมขาวโพลนไปหมด ไอดินค่อยๆรุกเร้าผมทีละน้อย ไม่เรียกร้องแต่ผมก็ตอบสนองมันอย่างกล้าๆกลัวๆ

คงจะดี.....ถ้ามันจะช่วยลบสัมผัสของคนๆนั้นออกไปได้

มันคงจะรู้สึกผิดน้อยลงสินะ

    ริมฝีปากร้อนพรมจูบลงบนใบหน้าผมเรื่อยไปถึงใบหู กัดเบาๆก่อนจะกระซิบด้วยเสียงอันทรงเสน่ห์

"ให้กูลบสัมผัสนั้นนะ"

    ผมพยักหน้าราวกับต้องมนต์สะกด ไอดินซุกไซร้หน้าลงบนคอผม สัมผัสร้อนทำเอาตัวผมร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดกับสัมผัสสากๆของลิ้นนั่นสัมผัสผมไปทั่ว ทุกซอกทุกมุมและเน้นย้ำลงบนร่องรอยเดิม เสื้อสีเขียวอ่อนร่นไปกองอยู่กับเอวทำเอาผมที่หลังติดกำแพงเย็นวาบ

    เขากัดเบาๆบนยอดอกสีหวานทำเอาผมสั่นไปทั้งตัว ริมฝีปากสะกัดกั้นเสียงครางอันหน้าอับอายของตัวเองไว้ ไอดินยังคงหยอกเล่นกับยอดอกทั้งสองข้างอย่างไม่รู้เบื่อ จนผมต้องส่งเสียงท้วงเมื่อรู้สึกราวกับจะขาดใจ

"พอ"

    ไอดินตอบเสียงอู้อี้ จากสัมผัสอ่อนโยนเมื่อครู่เริ่มร้อนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว ร่างกายของผมอ่อนปลวกเปียกจนต้องทิ้งกายลงบนตัวของเค้าที่แนบชิด ไอดินดันผมขึ้นไปโดยใช้ตัวเขารองรับน้ำหนักผมเอาไว้ มือหนาสอดเข้าไปในร่มผ้าสัมผัสกับท่อนกายของผมแผ่วเบา แล้วค่อยๆรุกเร้า

"อย่า.....ขอร้อง......อ๊ะ......."

    เสียงฮึดฮัดอย่างขัดใจของไอดินเมื่อผมท้วงดังมาไม่ขาด เขาบ่นพึมพำแต่ไม่ยอมหยุด ตอนนี้ไอดินเหมือนเป็นอีกคนที่ผมไม่รู้จัก ราวกับปีศาจร้ายเอาแต่ใจ

"ก็ตอนนั้นมันทำกับมึงถึงขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?"

"อะ.....ไอ้ไอดิน......หยุด" น้ำตาผมปริ่มกับสัมผัสที่มันมอบให้ มันยิ้มตาพราวก่อนจะถามผมอย่างกระเซ้าเย้าแย่

"แน่ใจเหรอ......หืม......." มันถามผม ผมผยักหน้าเบาๆเพื่อย้ำความตั้งใจของตัวเองให้มันเห็น ไอดินปล่อยผมลงจนตัวของผมทรุดอวบลงไปกองกับพื้น ผมก้มหน้าลงอย่างรู้สึกกระดากอายยังไงไม่รู้ การที่เราทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องเลย

แต่.....แต่ทำไมร่างกายของผมจึงไม่ยอมหยุดตามผมเสียที

ทำไมถึงไม่ยอมทำตามที่สมองสั่งการล่ะ

"เห็นไหม กูบอกแล้ว......"





****
ไรเตอร์ชูป้ายไฟ ****แฟนคลับ ไอดิน*****  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: sayhi11 ที่ 09-04-2010 14:07:50
มาต่ออีก มันค้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 10
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 09-04-2010 14:09:54
                                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 10


"เห็นไหมกูบอกแล้ว......."

     ไอดินจับผมนั่งพิงกับผนังห้องน้ำแล้วกางขาผมออก ผมกัดริมฝีปากแน่นเมื่อไอดินใช้ปากของเขาดูดกลืนท่อนเนื้อกลางลำตัวของผมเอาไว้ ผมหอบกระเซ่าขึ้นเรื่อยๆเมื่ออารมณ์ที่พยายามกักเก็บไว้พุ่งขึ้นสูง ผมยกสะโพกขึ้นลงอย่างตอบรับและสอดคล้องกับสัมผัสเค้า

"อะ.......อื้อ........."

อีกด้านนึงของประตู

   สำหรับคนที่คิดจะมาขอโทษอย่างเค้า ขอกลืนถ้อยคำทั้งหมดลงคอ เพราะมันคงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วล่ะมั้ง เมื่อเจ้าตัวมันร่านอยู่แล้ว

หึ......คอยดูต่อไปละกันว่ากูกับมัน ใครจะเจ๋งกว่ากัน!!!

    ออทัมเดินออกไปด้วยอารมณ์คุกกรุ่น ในหัวสมองของเค้าคิดเพียงแต่ว่าจะลงโทษไอ้คนสองหน้านี้ยังไงให้สาสม มันกล้ามากที่ท้าทายเขาแบบนี้

อย่าหวังจะได้ความสงสารจากคนอย่างกูอีก!!!

จำเอาไว้!!!  

....................

     ไอดินช่วยใส่เสื้อผ้าของผมอย่างเรียบร้อย ก่อนจะอุ้มออกมาจากห้องน้ำ  แล้ววางบนเตียงคนไข้อย่างอ่อนโยน มันส่งยิ้มให้ผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก แต่ทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา

ไอดินไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น

แต่ว่า......แต่ว่า.......

ถ้ามากกว่านั้น.......แล้วผมกับเขายังจะมองหน้ากันติดไหมนะ

แล้วทำไม.......ทำไมผมต้องยอมด้วย

ก็มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย

แต่.....ณ เวลานั้น ถ้าไอดินไม่หยุดไปเสียเอง ผมก็คงจะไม่ปฏิเสธมันสินะ

ไม่เข้าใจตัวเองเลย


"นอนได้แล้ว"

"อืม......"ผมครางตอบรับอย่างเหนื่อยอ่อน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อไอดินขึ้นมานอนกับผมด้วย มันสวมกอดผมเอาไว้แน่นหนา ทำให้ผมหมดทางหนีรอดจากอ้อมกอดนั้นได้

"วินด์" ไอดินโพลงขึ้นมาในความเงียบ

"หืม?"

"กูอยากจะขอ....." แล้วเขาก็เงียบไป

"ขออะไร ทำไมไม่พูดให้จบ" ไอดินยังคงเงียบต่อไป ผมพลิกตัวไปเผชิญหน้ากับไอดิน ทำให้เราจ้องตากันในระยะไม่ถึงคึบ ในนัยส์ตาสุขสว่างนั้นมีความหมายมากมายแฝงอยู่ เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่สะท้อนออกมาก็คงเขาแคร์ผมมากที่สุด

"กลับไปที่ของเราเถอะนะ......"

    คราวนี้เป็นผมเองที่เงียบไป ผมรู้ว่าไอดินอยากจะให้ผมกลับไปมากแค่ไหน แต่ผมที่ก้าวมาไกลถึงขนาดนี้แล้วไม่อาจกลับไปได้อีกแล้ว ผมเดินมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับ

ขอโทษในความเห็นแก่ตัวนี้

แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น.......แต่ก็ไม่อาจสลัดมันออกไปจากใจได้เสียที

เพราะผมเอง.......ทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง

หากวันข้างหน้าเกิดอะๆไรขึ้น ก็ขอให้โทษผมแต่เพียงผู้เดียว


"ได้ไหมวินด์ กูขอร้อง กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บ.....เจ็บเพราะคนพวกนั้น" เสียงของเขาสั่นเครือ ดวงตาไหววูบราวกับเปลวเทียนต้องลม ผมมองหน้าไอดินด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด หากเป็นไปได้......การที่เราไม่ต้องมารู้จักกันมันยังดีเสียกว่า ดีกว่าต้องเห็นคนที่รักเราต้องเจ็บปวดเพราะตัวเราเอง

ผมไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำมั้ง

มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อทำให้คนรอบตัวต้องเจ็บปวด
 
"ขอโทษ" ผมตอบเสียงแผ่ว ไอดินกอดผมแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าผมจะหายไป หน้าของผมฝังลงกับอกอุ่นร้อน หูของผมแว่วได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นด้วยความเจ็บปวด.....เป็นของผมหรือของใครกัน

"จำไว้นะวินด์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กู.....ยืนอยู่ข้างๆมึงเสมอ"

"อืม.......ขอบใจนะ"

...........ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มึงให้กู ขอบคุณจริงๆ.......ไอดิน............



     พี่ซัมเมอร์ คุณลุง คุณป้าหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมผมแต่เช้า แต่เขาคนนั้นกลับไม่มา ก็ดีแล้วล่ะ สิ่งที่เขาทำกับผมนั้น มันเลวร้ายจนผมไม่อยากจะเจอหน้าไปอีกซักพักใหญ่ๆ แต่ถ้าจะไม่เจอกันเลยชั่วชีวิตผมก็ไม่ต้องการ เพราะอย่างน้อย เขาก็เป็นพี่ชายผม

ผมสามารถให้อภัยเขาได้เสมอ......หากผมยังมีลมหายใจอยู่

"เป็นไงบ้างจ๊ะ หนูลม" คุณป้าทักผมเป็นคนแรก ท่านยิ้มแต่ผมรู้ว่านัยส์ตาของท่านไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลย

"ผมค่อยยังชั่วแล้วครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ"

"ไม่เป็นไรหรอก.....ลุงกับป้าก็ว่างพอดี"

    คุณลุงยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน พี่ซัมเมอร์กระโดดมาเกาะแขนผมก่อนจะจ้องผมด้วยสายตาที่แปลกๆไป เขามองสำรวจตัวผมอย่างระเอียดก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ

"ทำไมรอยมันเพิ่มขึ้น......"

"มีอะไรเหรอซัมเมอร์"

"เปล่าๆ" พี่ซัมเมอร์โบกมืออย่างไม่มีอะไร เขามองรอบๆห้องก่อนจะหันมาถามผม

"ไอดินล่ะ"

"ออกไปคุยโทรศัพท์น่ะ"

    ตั้งแต่ครอบครัวนี้เดินเข้ามา ไอดินก็เดินเลี่ยงออกไปเพื่อโทรศัพท์หาแม่ผม ไอดินคงไม่อยากจะให้แม่ของผมมาเจอกับครอบครัวของพี่ซัมเมอร์ล่ะมั้ง

พูดเองก็เจ็บเอง

ครอบครัวของเขา

ไม่ใช่ของเรา.....



*******
ชูป้ายไฟอีกที *****รักออทัมที่สุดเลย***** o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 11
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 09-04-2010 14:23:26
                                                        เสียงกระซิบจากลมหนาว 11


   คุณลุงและคุณป้าขอตัวกลับก่อน ส่วนพี่ซัมเมอร์ยังคงนั่งอยู่ข้างๆผมไม่ไปไหน เขามองผมเงียบๆแต่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา ผมอึดอัดกับสายตาของเขาจนต้องถามออกไปในที่สุด

"ซัมเมอร์มีอะไรจะถามเรารึเปล่า"

"ลมต้องบอกเราตามตรงนะ" สายตาของพี่ซัมเมอร์จริงจังขึ้นมาทันที ผมพยักหน้าเพื่อยืนยันก่อนที่เขาจะเปิดปากพูด

"ทำไมรอยมันเพิ่มขึ้น" เขากลัวผมไม่รู้จึงใช้มือแตะที่ลำคอผมเบาๆ ผมเม้มปากแน่นเพราะไม่รู้จะตอบเขายังไงเหมือนกัน

".........."

"ไหนสัญญาแล้วไง ไม่เชื่อใจเราเหรอ" น้ำเสียงหงอยๆของเขาทำให้หัวใจของผมหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ผมเชื่อใจพี่เสมอครับ และเชื่อทุกคำพูดของพี่ เพียงแต่พี่บอกให้ผมเชื่อ

แต่ผมก็ไม่รู้จะบอกพี่ยังไง

"คือ.....เอ่อ......ไอดิน......"

"ไอ้ไอดิน!!!"

    ผมถึงกับสะดุ้งกระเสียงตะคอกของเขา นัยส์ตาของพี่ซัมเมอร์เต็มไปด้วยไฟพิโรธ เขาจับบ่าผมให้หันหน้าไปเผชิญกับเขา

"แล้วมันทำอะไรลมบ้าง!!"

"........"

"หรือต้องให้เราสำรวจเอง!!!"

   ผมถึงกับสั่นกับพายุอารมณ์ของพี่ซัมเมอร์ เขากดผมลงบนที่นอนก่อนจะประกบปากจูบด้วยความกรุ่นโกรธ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงมืออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อเขาล็อคแขนผมเสียแน่นหนา ร่างหนากว่าผมทาบทับอย่างแนบแน่น

"........แฮ่ก......."

   ผมถึงกับสูดหายใจเสียงดังเมื่อริมฝีปากได้รับอิสระอีกครั้ง พี่ซัมเมอร์ก้มหน้าลงมาชิดริมฝีปากผม ก่อนจะขบริมฝีปากล่างเอาไว้ ลมหายใจของเราเป่ารดกัน พี่ซัมเมอร์จ้องผมด้วยสายตาเว้าวอน

"พอ......." ยังไม่ทันจะได้ทักท้วงอะไรมากนัก พี่ซัมเมอร์ก็ปิดริมฝีปากผมอีกครั้งด้วยริมฝีปากของเขา

อาจจะไม่ผิดหากพี่น้องจูบกัน

แต่ถ้ามากกว่านั้น.......ไม่ได้!!!

     ผมดิ้นสุดตัวเมื่อพี่ซัมเมอร์ไม่ยอมหยุดเพียงแค่จูบ เขาถอดเสื้อของผมออกและใช้มันมัดผมติดกับเตียง เขาหยิบผ้าเช็ดหน้ามามัดปิดปากผมเอาไว้ จนผมทำได้เพียงแค่ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ

ไม่นะ!!!

ไม่เอาแบบนี้แล้ว......ผมกลัว

พี่ซัมเมอร์ได้โปรด.......หยุดเถอะครับ

"อื้อ ๆ ๆ" ผมส่งเสียงท้วงในลำคอ พี่ซัมเมอร์ก็ไม่ได้ต่างไปจากพี่ออทัมเลย......ขอร้องละครับ ได้โปรดอย่าให้เรื่องทั้งหมดมันผิดเพี้ยนไปมากกว่านี้เลย

ไม่อยากทำผิดแบบนี้อีกแล้ว

"ลม.....เราขอโทษ แต่เราหยุดมันไม่ได้แล้ว ยกโทษให้เรานะ......"

"อื้ออออออ" น้ำตาของผมหยุดแหมะลงกับหมอนสีเขียวอ่อนอย่างช้าๆ พี่ซัมเมอร์บอกเขาห้ามตัวเองไม่ได้ ทำไมมันจะไม่ได้ล่ะ.....แค่พี่ถอยออกไป ทั้งหมดมันก็จะหยุดลงเอง

    นิ้วเรียวยาวถูกส่งเข้ามาในตัวผม ผมรู้สึกเจ็บราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ พี่ซัมเมอร์ขยับเข้าออกช้าๆเพื่อให้ร่างกายของผมชินกับสิ่งแปลกปลอมนี้ นิ้วเรียวควานไปทั่วก่อนจะเจอจุดอ่อนไหว ทำเอาผมครางออกมาทั้งน้ำตา

"อื้อ ๆ "

    เขายิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อร่างกายของผมบิดเร่าไปมาราวกับจะขาดใจ แม้ว่าสมองจะสั่งการให้ผมหยุดทั้งหมดทั้งมวลไว้ แต่ร่างกายมันไม่ยอมฟังแม้แต่น้อย

ผมจะทำยังไงดี........

   ผมหลับตาลงอย่างยอมรับชะตาชีวิตของตัวเอง พี่ซัมเมอร์คงไม่ยอมหยุดแน่ ซ้ำร้ายเขายังเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นเรื่อยๆทำเอาผมจุกไปหมด ริมฝีปากหนาเริ่มละเลงลงบนผิวกายของผมครั้ง



แอดดดดด

   เสียงเปิดประตูแม้จะเบาแค่ไหนแต่ผมก็ยังได้ยิน ผมรีบหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะพบว่าเขาคือพี่ออทัม!!


"ทำอะไรกัน!!!"

   พี่ออทัมกระชากพี่ซัมเมอร์ออกจากตัวผมก่อนจะชกหน้าเขาจนลงไปกองกับพื้น ดวงตาทีลุกโชนด้วยโทสะกราดมองมาทางผมบนเตียงก่อนจะมองไปยังพี่ซัมเมอร์อีกครั้ง

ผลัก!!!

   พี่ซัมเมอร์เองก็เหมือนจะไม่ยอม เขาลุกขึ้นและเริ่มสวนกลับพี่ออทัม ทั้งสองคนแลกหมัดกัน แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือพี่ออทัมกำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

ดูก็รู้ว่าพี่ออทัมไม่ได้เอาจริง

"ทำไมจะทำบ้างไม่ได้!! ทีพี่ล่ะ!! สิ่งที่พี่ทำมันเลวร้ายกว่าผมล้านเท่า!" พี่ซัมเมอร์กระชากคอเสื้อพี่ออทัมก่อนจะตวาดลั่น

"แล้วจะทำไม!" พี่ออทัมเองก็ไม่แพ้กัน

"ลมเป็นของผม!พี่อย่ามายุ่ง!!แล้วการที่ผมจะทำแบบนี้กับของๆตัวเองไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน!!"

.......สำหรับพวกพี่.......ผมเป็นเพียงสิ่งของใช่ไหมครับ

พวกพี่ทำเหมือนกำลังเล่นของเล่นกันอยู่

ผมเป็นได้แค่ของเล่นของพวกพี่เหรอ??

ผมเป็นคนไม่ใช่ของเล่นนะ!!

"เพราะมันใช่ไหม!! นายถึงได้กล้าขึ้นเสียงกับพี่แบบนี้.....เพราะมันใช่ไหม!! หลงมันขนาดนี้เลยเหรอซัมเมอร์ ไม่รู้รึไงว่าไอ้เหี้ยนี่มันร่านขนาดไหน!!"

     คำพูดแสนดูแคลนทำเอาน้ำตาผมไหลมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะที่ไหน ผมก็ผิดเสมอเลยในสายตาของพี่ผมมันก็แค่ไอ้ตัวปัญหาใช่ไหมครับ

"เกิดอะไรขึ้น.....ไอ้วินเทอร์!!!" ไอดินวิ่งมาดูผมก่อนจะช่วยแก้มัดให้อย่างเร่งรีบ มันยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวผมก่อนจะสวมกอดผมที่ตัวสั่นเทิ้มเอาไว้ ไอดินพรมจูบเบาๆลงบนขมับผมก่อนจะปลอบโยน

"ไม่เป็นไรนะ......ไม่ร้องแล้วนะคนเก่ง......ขอโทษที่ปล่อยให้เจอแต่เรื่องร้ายๆนะ" ไอดินกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ผมรู้สึกเหมือนกับมีน้ำหยดเล็กๆหยดแปะลงบนหน้าผม

ไอดินร้องไห้อย่างนั้นเหรอ

เขากำลังร้องไห้.......ร้องไห้เพราะผม

ไม่ว่าเมื่อไร........ผมก็มักจะทำให้คนที่ผมรักเจ็บปวดเสมอ

มันไม่ควรเลยจริงๆ

"หยุดฉากเลี่ยนๆนั่นซะ เห็นแล้วจะอ้วก" พี่ออทัมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พี่ซัมเมอร์เองก็หันหน้าไปทางอื่น อย่างไม่ต้องการจะมองภาพบาดตานี้

"ใครทำไอ้วินด์ หรือมึงไอ้ออทัม!!!"

"ใช่!!กูเอง!!แล้วการที่กูจะทำอะไรกับเมียตัวเองนี่มันผิดตรงไหน มึงไม่ลองถามมันดูล่ะ เห็นชอบอยู่ไม่ใช่เหรอ....."

"มึง!!!" ผมกอดตัวไอดินเอาไว้เมื่อเขาทำท่าจะลุกขึ้นไปทำร้ายพี่ออทัม

"เป็นกูเอง มึงอย่านึกนะว่ากูไม่รู้ว่ามึงเองก็ฉวยโอกาศจากลม"

    คำพูดของพี่ซัมเมอร์ทำเอาไอดินสะอึกไป จริงเหรอที่ว่าไอดินฉวยโอกาศจากผม ผมมองหน้าไอดินอย่างไม่เข้าใจและต้องการคำตอบจากเขา ไอดินหลบตาผมนั่นแสดงว่าคำพูดของพี่ซัมเมอร์เป็นเรื่องจริง

........



***ซัมเมอร์แฟนคลับ****

อิอิ ที่เร่งมาอัพเพราะจะหนีเที่ยวแล้วค่ะ
หน้าร้อนต้องคู่กับทะเล ฮู้เล่ๆ~

หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-04-2010 14:39:11
ไอดิน+วินเทอร์ เท่านั้น

2คนนั้นเป็นได้แค่พี่น้อง   อย่ามา :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: sayhi11 ที่ 09-04-2010 14:40:01
ก่อนหนีเที่ยวมาต่อซัก 5 บท แล้วค่อยไป ได้ป่าว :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 09-04-2010 15:14:16
จะเชียร์ใครดีฟร่ะ
ออทัม ซัมเมอร์ หรือ ดิน เลือกไม่ถูกเล๊ยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 09-04-2010 18:08:34
คิดไม่ซื่อกับลมทั้ง 3 คนเลย :o
แม่ของลมก็ท่าทางแปลก ๆ เหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ :confuse:
คุณ nanohuman เที่ยวเผื่อด้วยนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 09-04-2010 18:43:24
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเชียร์ใคร งั้น4Pเลยเเล้วกัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: thaithai00 ที่ 09-04-2010 18:47:40
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเชียร์ใคร งั้น4Pเลยเเล้วกัน  :laugh:

เห็นด้วยกับรีนี้


หื่นไปไหมตู  :z1: 
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: angle ที่ 09-04-2010 18:49:55
 :z13: :z13: :z13:

จิ้มพี่โจ๊ก เห็นด้วยอ่ะนะ 4P น่าจะดี

แต่ทางที่ดี  :angry2: ไปต่อตอน 11 ของตัวเองด้วย

ณ บัด นาววววววววววววววววว

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 09-04-2010 21:33:35
นี่มันอารายยกานนนน :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 09-04-2010 21:37:44
เพิ่งอ่านทัน พอถึงอ่านเข้าแล้วคร๊าบ แล้วจะเลือกใครดีเนี้ย น่าสงสารจัง เอามากันเพียบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-04-2010 23:34:47
ไม่เข้าใจว่า ทำไมออทัม จะต้องแสดงออกว่า จงเกลียดจงชัง มากแบบนั้น ทั้งทีจริงอาจจะไม่ 
แล้วน้องที่ชื่อ ฟ้า มีชีวิตอยู่หรือเปล่า
แล้วแม่ของลมปิดบังอะไรเอาไว้
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 10-04-2010 17:50:49
รออยู่จ๊ะ

 :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 12
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 11-04-2010 16:45:13
                                     เสียงกระซิบจากลมหนาว 12


      อะไรๆเริ่มจะเปลี่ยนไปจากวันนั้น ไอดินตามผมแจแม้แต่ตอนผมไปเข้าห้องน้ำ ส่วนตอนเข้าชมรมไอดินก็ดึงดันให้ผมลาออกไปเข้าชมรมอื่นแทน แต่ปัญหาคือไม่มีชมรมไหนว่างเลย ผมจึงจำใจต้องไปเข้าแม้จะไม่อยากที่จะเหยียบย่างเข้าไปด้วยซ้ำ

    ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงพยาบาลผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมคุยกับพี่ออทัมหรือพี่ซัมเมอร์เลย ลำพังพี่ออทัมน่ะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะเขาคงไม่อยากคุยกับผมหรอก แต่พี่ซัมเมอร์ที่พยายามจะเข้ามาคุยกับผมถูกไอดินกันท่าเอาไว้ตลอด

"ไอ้วินด์ ไปกินข้าวกัน"

"มึงลงไปก่อนได้ไหม กูมีเรื่องจะคุยกับ......." ผมเหลือบตาไปมองพี่ซัมเมอร์ที่ทำท่าหงอยๆ ไอดินเดือดขึ้นมาทันที

"มึงมีอะไรจะคุยกับมันอีก!!จำสิ่งที่พวกมันทำกับมึงรึไง!!" เสียงตวาดลั่นทำเอาคนในห้องหันมามองเราสามคนกันหมด

"........"

    ผมเงียบ ส่วนไอดินเดินหุนหันพันแล่นออกไปอย่างหัวเสีย ผมหันไปมองพี่ซัมเมอร์ก่อนจะพูดเสียงเบา

"ไปหาที่เงียบๆคุยกัน" ใบหน้าหงอยๆนั่นพลันแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มทันที พี่ซัมเมอร์เดินมาเกาะแขนผมก่อนจะจูงมือผมเดินออกไป เราเดินมาหยุดอยู่ตรงดาดฟ้าที่เดิม ความเงียบคืบคลานเข้ามาเมื่อไม่มีใครคิดจะเปิดปากพูดก่อน จนสุดท้ายดูเหมือนพี่ซัมเมอร์จะทนไม่ไหวจึงโพลงออกมา

"ลม ลมคงโกรธเรามาก"

"........."จะบอกว่าไม่โกรธเลยก็เป็นไปไม่ได้

"เราขอโทษที่ทำแบบนั้นกับลม แต่ว่า.......เพียงแค่เห็นแบบนั้น เราก็รู้สึกโกรธมากๆเลย"

"........"

"เราก็ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร พอเห็นไม่ว่าจะไอดินหรือพี่ออทัมใกล้ชิดกับลม เราก็รู้สึกอยู่ไม่สุข กระวนกระวายใจหรือว่าเราจะ........."

"พอเถอะ เราไม่โกรธแล้ว ลงไปกันเถอะ" ผมเอ่ยตัดบท

    ไม่ว่าพี่ต้องการจะพูดเรื่องอะไร ผมไม่อยากจะรับฟังหรือรับรู้ทั้งสิ้น เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้และไม่มีวันเป็นไปได้

"เดี๋ยวสิลม"

"พอเถอะซัมเมอร์ เราหิวแล้ว" ผมเดินออกมาโดยไม่หันไปมองพี่ซัมเมอร์อีกเลย เขาเดินตามมาอย่างเงียบๆ ทางเดินตามระเบียงร้างไร้ผู้คนเพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่คนจะอยู่กันที่โรงอาหาร พอมาถึงโรงอาหารสายตาของผมสอดส่องหาไอดินก็พบว่ามันนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว

นั่นสินะ เป็นเพราะผมทำให้เขาไม่มีเพื่อน

ทั้งๆที่ตอนอยู่เชียงใหม่ ไอดินเป็นที่รักของทุกคน

ขอโทษ......ไอดินขอโทษ

"ขอโทษ" ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามมัน ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว ไอดินไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ เขาทำกับผมไร้ตัวตน มึงคงจะโกรธกูมากสินะไอดิน

ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่.....กูก็ไม่เคยฟังมึงเลย

แต่ขอร้องได้ไหม อย่าทำเหมือนกูไม่มีตัวตน

แค่มึงคนเดียว.....แค่มึงคนเดียว ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับกู

    เพราะที่ผ่านมากูก็ไม่เคยมีตัวตนในสายตาใคร แต่กับมึง.......มึงยืนเคียงข้างกูเสมอ ไม่ว่าเมื่อไร กูก็มั่นใจเสมอว่ามีมึง การที่มึงหมางเมินกันอย่างนี้ รู้ไหมว่ากูเจ็บขนาดไหน

ไหนล่ะ......คำสัญญาของมึง

"ไอดิน กูสัญญาว่าจะไม่ให้มึงลำบากใจอีก"

"อย่ามายุ่งกับกู ต่อไปนี้มึงกับกูไม่ใช่เพื่อนกัน"

      ไอดินลุกออกไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แค่ผมที่นั่งนิ่งอยู่กับที่ ผมเม้มปากตัวเองแน่นในขณะที่สมองยังฉายซ้ำเหตุการณ์และคำพูดเมื่อกี้

"ฮึก......."

     ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าผมกลับมานั่งตรงดาดฟ้าที่เดิมได้ยังไง รู้เพียงแต่ว่าผมไม่อาจสะกัดกั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกแล้ว ผมกับไอดินเราจะไม่เป็นเพื่อนกันอีกแล้วเหรอ

ไอดินลืมไปแล้วเหรอ

คำสัญญาของเราสามคน ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่.....ก็ยังจะมี'เรา'เสมอไป

ไม่มีวันทอดทิ้งกัน

ไม่ใช่สิ  อาจจะเป็นผมก็ได้ เป็นผมที่ทิ้งมันมาก่อน

เป็นกูเองที่ทำผิดสัญญาแต่แรก เลยทำให้มึงไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาอีกต่อไปแล้วใช่ไหม

สัญญาที่มีต่อกัน เป็นเพียงแค่ลมปากสินะ

"ฟ้าดูสิ ไม่ทันไรไอดินมันก็ผิดคำสัญญาของเราซะแล้ว....."ผมยิ้มให้ท้องฟ้าอย่างขมขื่น ด้วยหวังว่าเธอผู้นั้นจะมองเห็น.....แม้เพียงเล็กน้อย

    สายลมเย็นๆพัดมาหอบเอาความเหงาความหว้าเหว่มาเคียงข้าง นี่สินะ.....ผมก็เปรียบเหมือนสายลมนี้ ที่มีเพียงความเงียบเหงา หว้าเหว่ เดียวดาย และหนาวเหน็บอยู่เคียงข้างกาย

"หึ......มาอยู่นี่เอง"

    เสียงหัวเราะเย็นๆสาดใส่ผมเต็มๆ ผมรีบหันไปทางพี่ออทัมอย่างหวาดวิตก พี่ล็อคประตูดาดฟ้าก่นจะเดินอาดๆเข้ามาหาผม

"พะ.....พี่มีธุระอะไรกับผมครับ"

"เดี๋ยวมึงก็รู้เอง"



******
เออเนอะ
ได้กลับมาอ่านเองอีกถึงรู้
ว่ามันเน่าได้ที่ดีเหมือนกัน
**^[+++++++]^**
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 13
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 11-04-2010 16:59:51
                                                 เสียงกระซิบจากลมหนาว 13




สมุดบันทึก.......ไอดิน กลิ่นฟ้า และสายลม

     เรื่องเล่าของไอดิน กลิ่นฟ้าและสายลม ช่างน่าขำที่ชื่อของเราสามคนราวกับนิยายวัยใส เรื่องราวชีวิตของเราก็ไม่ได้ต่างจากนิยายน้ำเน่ามากนัก แต่เหนือสิ่งอื่นใด.....มันคือเรื่องจริง!!

     ฉัน.....เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง แต่กลับรู้จักคุณค่าของการมีชีวิตอยู่มากกว่าใครหลายคนเสียอีก ฉันป่วยเป็นโรคร้ายด้วยวัยเพียงน้อยนิด หากแต่ฉันก็รู้จักความฝันและความหวัง

ความหวัง.....เปรียบดั่งแสงหิ่งห้อยริบรี่ หากแต่ส่องประกายในความมืดมิด แม้ว่าแสงหิ่งห้อยอาจจะไม่สุกสว่างเท่าแสงจันทร์ แต่......แต่มันสว่างกว่าสิ่งใด ในยามคืนเดือนแรม......

ความฝัน......คือแรงผลักดันให้ฉันต่อสู้กับโรคร้าย ฉันอยากทำในสิ่งที่ตัวเองเคยเฝ้าดูมาตลอด อยากสัมผัสซักครั้งว่ามันจะเป็นเช่นไร การที่เรามีชีวิตอยู่ด้วยการวิ่งตามความฝัน

สองสิ่งนี้มันมีค่ากว่าจะไปค้นหาเหตุผลที่ว่า......เราเกิดมาเพื่ออะไรเสียอีก

"ฟ้า......" ลมเรียกฉันเสียงเบา ฉันผินหน้าไปมองเค้า ลมใส่ชุดโรงพยาบาลสีฟ้าอ่อนเหมือนกับฉัน ดวงหน้าซีดเซียวกับนัยส์ตาแสนเศร้านั่น ทำเอาฉันอดจะดึงเขามากอดไม่ได้

"ฝันร้ายเหรอ"

"เปล่า" ถึงแม้จะปฏิเสธ แต่ฉันที่รู้จักเขามาทั้งชีวิตก็รับรู้ได้ ลมเป็นแบบนี้เสมอ นั่นทำให้ฉันไม่อยากทอดทิ้งเขาไป

"อย่ามาโกหกเรา"

    ฉันกับลมเรานอนเตียงข้างๆกัน จึงทำให้ฉันไม่เหงามากนัก ฉันที่ทั้งชีวิตต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล กับลมที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ทำให้เขามีเตียงประจำตัวคือเตียงข้างๆฉันนี่เอง

   บางครั้งฉันก็จะเรียกเค้าวินเทอร์ แต่ส่วนมากจะชอบเรียกว่าลมมากกว่าเพราะชื่อนี้มันเข้ากับชื่อของพวกเราดี


ไอดิน กลิ่นฟ้า และสายลม.....


    ไอดินคือพี่ชายของฉัน เขาแก่กว่าฉันปีนึงลมเองก็เช่นกัน แต่ฉันที่สนิทกับพวกเขามากๆจึงไม่เคยเรียกพี่เลยสักครั้ง ซึ่งทั้งสองก็ไม่เคยติเตียนเลย

ฉันกับลมเรารักกัน

แต่ฉันก็รู้ว่าไอดินก็รักลมไม่ต่างกัน

ฉันที่คงอยู่ได้อีกไม่นาน จึงวางใจที่อย่างน้อย ไอดินก็คงจะดูแลลมเป็นอย่างดี

    ลมขอฉันแต่งงานทั้งๆที่ถ้าเทียบอายุแล้ว เรายังอยู่ม.ต้นด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ฝัน......ฝันอยากใส่ชุดเจ้าสาว แล้วมีเขาใส่ชุดทักชิโด้ยืนจูงมืออยู่เคียงข้าง

เราจูบกันและสวกกอดกันโดยมีสักขีพยานรักของเรานับร้อยนับพัน

ความรักที่เราให้กันมันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด และมันคุณค่าควรแก่การจดจำของฉันไปชั่วนิรันดร์

    ลมถึงแม้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ขอให้ลมมีความสุข ฉันเชื่อเสมอว่าความรักจะชนะทุกสิ่ง และความดีของลมจะชนะใจทุกคนเช่นกัน

ได้โปรดอย่าคิดว่าตัวเองเป็นสายลมที่หนาวเหน็บอีกเลย

เพราะเมื่อลมพัดผ่านใคร หัวใจของเขาจะเต็มไปด้วยความสุขจนล้นใจต่างหาก

"ฟ้า......ฟ้า เป็นอะไรรึเปล่า" ลมมองฉันตาแป๋ว ฉันส่งยิ้มให้เค้าก่อนจะจูงมือพาไปเดินเล่น น่าขันนักอากาศยามนี้สดใสแต่เราสองคนกลับเดทกันในชุดโรงพยาบาล

"ลมเห็นท้องฟ้าไหม" ลมเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะหันมายิ้มอ่อนๆให้ฉัน

"ถ้าคิดถึงเราก็มองท้องฟ้าเอาไว้นะและจำไว้ท้องฟ้าอยู่คู่กับสายลมเสมอ"

"เธอลืมพื้นดินอย่างฉันเหรอ ยัยน้องบ้า"

    ไอดินท้วงเสียงดัง เขาคงแอบเดินตามเรามาอย่างเงียบๆ พี่นี่ชอบขัดเวลาสวิทของฉันกับลมเสมอเลย อะไรจะหวงขนาดนี้นะ

ฉันก็หวงลมไม่แพ้พี่หรอกและไม่ยอมแพ้พี่แน่!!

"งั้นไอดิน กลิ่นฟ้าและสายลม จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป"

แปะๆๆ

    ไอดินตบมือแปะๆอย่างถูกใจ ความจริงแล้วไอดินเป็นคนร่าเริง อบอุ่นและอ่อนโยน อัธยาศัยดีเป็นที่หนึ่ง แต่เวลาโหดก็โหดอย่าบอกใครเลยล่ะ

"งั้นมาสัญญากัน ว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

    ฉันขอคำสัญญาจากพวกเค้า ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีวันจะทำได้ แต่ถึงอย่างนั้น.....ท้องฟ้าเบื้องบนที่เปรียบเสมือนตัวฉัน ก็จะอยู่เคียงข้างพวกเค้าตลอดไป

"อื้มมม สัญญา"เราสามคนจับมือกันเอาไว้แล้วสวมกอดกัน

   รอยยิ้มสดใสที่สุดในชีวิตฉันถูกส่งไปยังลมและไอดิน ทั้งสองก็เช่นกัน เราส่งยิ้มให้กันก่อนที่ฉันจะพูดคำพูดที่อาจจะไม่ไพเราะเพราะฉันไม่ได้เรียนหนังสือมามาก แต่มันกลับกลั่นกรองออกมาจากหัวของฉัน

"ฉันรักพวกพี่ค่ะ พี่ไอดิน พี่วินเทอร์" น้ำตาของฉันหยดแหมะ ทำเอาพวกพี่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันใหญ่ ฉันรู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ ที่พวกพี่หัวเราะไม่ใช่หัวเราะเยาะฉันหรอก แต่พวกพี่หัวเราะแก้เขินกันต่างหากล่ะ

"พี่ก็รักท้องฟ้าของพี่ที่สุดเลยยยยย" ไอดินกอดฉันแน่นจนฉันหายใจแทบไม่ออก ส่วนลมเพียงแค่ส่งยิ้มน้อยๆเท่านั้น

ฉันมีความสุขจังเลย



    แต่ความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นาน อาการของฉันทรุดลงเรื่อยๆ หากแต่ฉันก็ยังไม่เคยหมดหวังแม้ลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

   วันนี้ฉันสวมชุดเจ้าสาวแสนสวย รอบตัวของฉันรายล้อมไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชอบ เราบอกรักกันผ่านม่านน้ำตา

ฮ่า.....นี่มันงานแต่งงานของฉันนะ อย่าเศร้ากันสิหรือว่าที่ร้องไห้ ร้องไห้ดีใจที่ฉันได้เป็นเจ้าสาวกับเขาเสียทีใช่ไหม

ฉันจะถือเสียว่ามันครึกครื้นเฮฮาก็แล้วกันนะ

ลมสวมแหวนเงินที่เราเคยไปซื้อด้วยกันให้ฉัน เขาบอกว่าอีกหน่อยจะซื้อแหวนเพชรเม็ดโตๆมาให้ฉัน นี่เขาเห็นฉันบ้าเครื่องประดับขนาดนั้นเลยรึไงนะ

อา......นี่ฉันไม่ไหวแล้ว......ขอโทษนะลม ขอโทษนะไอดิน

สุดท้าย......คนที่ผิดสัญญาคนแรกก็คือฉัน

ไม่สิ.....ลืมไป เราก็ยังอยู่เคียงข้างกันตราบชั่วนิรันดร์นี่นา

ก็ฉันคือท้องฟ้านี่

ลาก่อนนะพ่อคะ....แม่คะ.......ลาก่อนนะพี่ไอดิน

ลาก่อนนะพี่ลม

ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ



*******

หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 14
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 11-04-2010 17:08:20
                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 14






"เดี๋ยวมึงก็รู้เอง" ผมมองหาทางหนีทีไล่ ผมไม่ไว้ใจพี่ออทัมหรอก ผมกลัว.....กลัวเหลือเกินว่าเขาจะทำกับผมเหมือนครั้งที่แล้ว


ผมกลัวพี่เค้ามากที่สุด

"อะไร......กลัวเหรอ หรือว่าแค่ตั้งใจจะยั่วกู"

"ผมเปล่า"

"เปล่าอะไร!! กูก็เห็นมึงร่านอยากมีผัวเรี่ยราดนี่ ทั้งอ่อยน้องกูสารพัด แล้วยังไอ้ไอดินเพื่อนของมึงนั่นอีก" พี่เขาตวาดลั่น คำพูดเสียดแทงนั้นทำเอาผมกำหมัดแน่น กัดริมฝีปากตัวเองจนมันเป็นเส้นตรง

"ผมไม่ได้ทำแบบนั้น!!"

"แล้วที่กูเห็นมันคืออะไร!!"


"..........."


"หึ ตอบไม่ได้ล่ะสิ ความจริงก็คือความจริงยังวันยังค่ำ ทำไมไอ้ไอดินมันเร้าใจไม่พอรึไงถึงต้องมาอ่อยน้องกู หรือว่ามึงเป็นโรคจิตชอบมีอไรกับใครหลายๆคน......."

"หยุดเห่าซะที!!" คำพูดของพี่ออทัมทำเอาเส้นความอดทนของผมขาดผึง

"พี่อย่าเอาความคิดต่ำๆของตัวเองมายัดเยียดให้ผม!!"

   ดวงตาของพี่ออทัมวาวโรจไปด้วยเพลิงโทสะ ผมเองก็ไม่แพ้กัน......ผมไม่เคยดูถูกพี่ แต่ทำไมพี่ถึงได้ตั้งแง่กับผมถึงขนาดนี้ ผมทำอะไรให้พี่.....พี่ถึงได้จงเกลียดจงชังนักหนา ผมแค่อยากจะรู้จัก อยากจะใกล้ชิดกับพี่ชายมันผิดหรือไง!!

"มึงกล้ามากที่ท้าทายกู แล้วมึงจะรู้ว่าคนอย่างกูไม่ได้ดีแค่ปาก!!"

"พะ.....พี่จะทำอะไรผม" ผมเริ่มถอยห่างออกมา จนหลังติดกำแพง

"หึ.....ก็จะทำให้มึงเห็นไง ว่าเซ็กของกูก็ไม่แพ้ผัวทั้งสองของมึงเลย"

     จบคำพูดร่างของพี่ออทัมก็เข้ามาประชิดตัวผม ผมรีบผลักออกก่อนจะออกตัววิ่งหนี แต่พี่ออทัมก็คว้าตัวผมไว้ จนผมเซถลาลงกับพื้น ผมเอาแขนบังหน้าไว้แต่แรงกระแทกทำเอาผมจุกไปหมด ผมพยายามคลานหนีแต่พี่ออทัมก็ดึงขาของผมไว้
     
     พี่ออทัมผลิกตัวผมให้หันไปเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะทาบทับและทิ้งน้ำหนักมาสุดตัว ผมพยายามผลักไหล่กว้างนั้นออกไปแต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลย ดวงตาเย้ยหยันถูกส่งมาทำเอาผมรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก

สมน้ำหน้า......ดูแคลน.....

ใครกันจะมาช่วยผม......ช่วยผมจากน้ำมือของคนใจร้าย

คำตอบคือไม่มี  ไอดินเขาไม่สนใจผมอีกแล้ว

พี่ซัมเมอร์ พี่เขาก็คงเห็นผมเป็นเพียงของเล่น ที่ตอนนี้ยังสนุก แต่พอเบื่อก็คงโยนทิ้งไป

     ผมไม่ใช่สัตว์นะ ที่จะได้สมสู่กับพี่ชายตัวเองโดยไม่รู้สึกอะไร ผมคือมนุษย์......มนุษย์ที่มีจิตใจ รู้สึกผิดชอบชั่วดี และรู้ว่านี่มันไม่ถูกต้องเลย

     ริมฝีปากหยักประกบจูปผมอย่างรุนแรงจนได้กลิ่นคราวเลือด ผมพยายามสบัดหน้าหนีสัมผัสนั้นแต่พี่ออทัมก็ใช้มือจับล็อคท้ายทอยผมเอาไว้ จูบแสนหยาบคายและจาบจ้วงทำเอาผมน้ำตารื้น รู้สึกเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ป่าเถื่อนและรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ

ราวกับสัตว์ป่า

   มือหนาเลิกเสื้อผมขึ้นก่อนจะถอดออกรอดเดียวจบ เสื้อเสียดสีผิวของผมทำให้ตามัวมีรอยแดงๆและเลือดซิบ พอจะอ้าปากท้วงก็ถูกปิดปากอีก จูบครั้งแล้วครั้งเล่าดูดเอาวิญญาณและเรี่ยวแรงผมไปจนหมดสิ้น ปลายลิ้นสากร้อนชื้นไล้เลียและดูดเม้มซอกคอผมจนตอนนี้ขึ้นเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ มือหนาลูบไล้เค้นคลึงไปตามหลังเรื่อยลงมาจนถึงสะโพก

".........อย่า......"

    ลิ้นร้อนชื้นสร้างร่องรอยเอาไว้ทุกตารางนิ้วที่ลากผ่าน จนมาถึงตุ่มไตสีหวาน พี่ออทัมลากลิ้นเลียก่อนจะดูดดุนอย่างกระหาย ผมกัดริมฝีปากแน่นกับความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมา ร่างกายร้อนขึ้นราวกับจะเป็นไข้

"อึก......"

   พี่กัดด้วยแรงที่ไม่เบานักเลยก่อนจะลงลิ้นอีกข้างสลับกันไปมา ผมแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสนั้นอย่างจำยอม ยอมแล้ว.....ยอมทุกอย่างเลย......

พี่จะสมเพชผมแค่ไหน จะดูแคลนยังไงก็ได้......แต่ได้โปรด

ได้โปรดอย่าเกลียดผมเลย

โปรด.....รักผมนะครับ

    ฝ่ามือหยาบหนาไล้ผ่านตัวผมไปทั่ว กางเกงนักเรียนถูกดึงออกอย่าแรงตามความปรารถนาของเจ้าตัว ทำเอาผมนิ่วหน้า สัมผัสร้อนโอบรัดท่อนเนื้อของผมเอาไว้ เขากัดตรงส่วนปลายเบาๆก่อนจะเริ่มดูดกลืนมันเข้าไปในโพลงปากจนหมด

"อ๊า........"

   ทุกครั้งที่ขยับขึ้นลง เรียกเสียงครวญครางของผมได้ไม่หยุดหยอน ยิ่งเร่งจังหวะเร็วเท่าไหร่.....ผมก็ยิ่งจะขาดใจเท่านั้น ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยมันออกมา พี่ออทัมพลิกตัวผมก่อนจะเริ่มปลอดซิบกางเกงอย่างรวดเร็ว

   มือหนากระชับเอวผมแน่นก่อนจะสอดแทรกเข้ามาในร่างกายผมจนหมด ผมใช้มือปิดปากตัวเองเอาไว้กลั้นเสียงสะอื้น ร่างกายของผมเจ็บราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

พี่ไม่อ่อนโยนกับผมเลย ทั้งๆที่ผมยอมพี่ขนาดนี้แล้วนะ

อ่อนโยนกับผมซักนิดได้ไหม

    พี่ออทัมเริ่มขยับกายจนตัวของผมขยับขึ้นลง มือทั้งสองข้างกอดเอวผมแน่นในขณะที่ช่วงล่างยังขยับและกระแทกกระทั้น ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เสียงน่าอับอายนี้เล็ดลอด

แต่ว่าสุดท้ายผมก็ไม่อายสะกัดมันไว้ได้อีกต่อไป

    เสียงกระเซ่าดังระงมต่อเนื่องเมื่อพายุอารมณ์โหมพัดไม่หยุดไม่หย่อน น่าอายเสียจริงๆ ผมทำอย่างนี้ต่อหน้าท้องฟ้าได้ยังไงนะ

ยอมแลกทุกสิ่งกับความรัก

แม้ว่าสิ่งที่ทำจะยิ่งกว่าสัตว์ก็ตาม


*****
ยอมแลกทุกสิ่งกับความรักที่จับต้องไม่ได้
แม้สิ่งที่ต้องดสียไปคือความเป็นมนุษย์

หึหึหึ(หัวเราะร้ายๆ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 15
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 11-04-2010 17:14:49
                                            เสียงกระซิบจากลมหนาว 15


ตุบ!!!


      เราสองคนทิ้งตัวลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน พี่ออทัมหอบน้อยๆแต่ก็ไม่ยอมออกจากตัวผม มือหนายังกอดเอวผมเอาไว้มั่น ริมฝีปากบางพรมจูบบนแผ่นหลังผมอย่างแผ่วเบา

พี่อ่อนโยนกับผมแล้วใช่ไหมครับ

พี่รักผมแล้วใช่ไหมครับ

"มึงนิ่งมันสุดยอดจริงๆ มิน่าล่ะไอ้ไอดินกับน้องกูถึงหลงนักหลงหนา"

"........."

"อยากจะรู้นัก ว่าถ้าพวกมันรู้เรื่องระหว่างกูกับมึงถึงหูพวกมันจะเป็นยังไง??"

"อย่านะ......อ๊ะ"

"อย่าอะไร......อย่าขยับหรืออย่าช้า......" พี่ออทัมขยับเบื้องล่างอย่างช้าๆ แรงเสียดสีทำเอาผมเสียงสั่น

"อึก.....พอเถอะครับ"

"ถ้ากูบอกว่าไม่ล่ะ"

"ผมขอร้อง ผมเจ็บ"

"แล้วถ้ากูบอกว่าไม่สนล่ะ หึ"

     พี่ออทัมไม่สนดังว่า เมื่อเขาเริ่มบรรเลงท่วงทำนองเพลงรักอีกครั้ง ทำไมกันนะ.....ทั้งๆที่ผมยอมพี่ถึงขนาดนี้แล้ว พี่ช่วย......พี่ช่วยดีกับผมหน่อยได้ไหม

ในตอนที่ผมไม่มีใครแบบนี้......ในตอนที่ผมไม่เหลือใครแบบนี้

พี่ช่วยหลอกก็ยังดี

หลอกผมทีว่าพี่ยินดีจะยืนเคียงข้างผม


     ผมใส่กางเกงและจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย เสื้อที่ยับยู่ยี่และเลือดที่เกรอะกรังเลอะเปื้อนกางเกงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่เพียงความฝัน เสื้อผ้าของพี่ออทัมเองก็ยับยู่ยี่ไม่ต่างจากผม เขาเพียงแต่มองผมที่ใส่เสื้อผ้าเงียบๆ เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา

"ขอโทษ"

   พูดแล้วก็ลุกเดินจากไป เหลือทิ้งไว้เพียงผมที่ไมมีแรงจะลุกขึ้นแม้แต่น้อย วันนี้ทั้งวันผมโดดเรียนนอนอยู่บนดาด พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็ลาลับไป ผมนอนท้องฟ้าไปอย่างนั้นจนอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ

ป่านนี้จะมีใครบ้างที่รู้ว่าผมหายไป

จะมีใครบ้างที่ตามหาผม

    ผมมันโง่จริงๆที่คาดหวังอะไรแบบนั้น ป่านนี้ไอดินคงแชทสนุกกับเพื่อนๆของเขาหรือไม่ก็เล่นเกมส์อยู่ที่ไหนซักแห่ง พี่ซัมเมอร์เองก็คงกลับบ้านไปกินอาหารทะเลที่คุณป้าทำเอาไว้ให้ พี่ออทัมก็คงไม่สนใจผมอยู่แล้ว

ฟ้าเหลือเพียงแต่ฟ้านะ ที่ยังยืนอยู่เคียงข้างเรา

เหลือเพียงสายลมกับท้องฟ้า

เพราะดิน ได้ทอดทิ้งสายลมอย่างเราแล้วล่ะ

"ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ......ทำไมไม่กลับบ้าน" ผมหันไปมองก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือพี่ออทัม เขาเหงื่อท่วมตัวใบหน้าถมึนตึง

"ผมเดินไม่ไหว"


"หึ........นึกว่ารอกูกลับมาต่อซะอีก" พี่ออทัมเดินมาช้อนตัวผมขึ้น ผมผวากอดคอเขาเพราะกลัวตก ก่อนจะก้มหน้างุดๆด้วยความรู้สึกประหลาด

"บ้านอยู่ไหนจะไปส่ง"

     พี่ออทัมจับผมยัดใส่รถก่อนรถจะแล่นออกโรงเรียนด้วยความเร็วสูง ผมบอกทางไปบ้านเป็นระยะๆ ตลอดทางทั้งผมและพี่ออทัมไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรเลย ผมผินหน้ามองทัศนียภาพข้างทาง ส่วนพี่ออทัมก็ตั้งสมาธิในการขับรถ เพียงไม่นานรถก็แล่นมาจอดหน้าบ้านผมอย่างปลอดภัย

"ขอบคุณที่มาส่งครับ"

    ผมกล่าวขอบคุณเบาๆและเตรียมตัวจะก้าวออกจากรถมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่ออทัมคว้ามือผมเอาไว้ก่อน

"ต่อไปนี้มึงต้องทำตามที่กูสั่งทุกอย่าง ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูทุกคนแน่"

"........"

"งั้นได้เห็นดีกันแน่!!!"

"ได้ครับ ผมตกลง ผมยอมพี่ทุกอย่างแล้ว แต่ขอร้องอย่างเดียวให้เรื่องนี้เป็นความลับตลอดไปได้ไหมครับ" พี่ออทัมยิ้มแบบแปลกๆ แล้วออกรถไปอย่างรวดเร็ว ผมทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรงจะก้าวเดินต่อ









สมุดบันทึกของไอดิน



     สองคนนั้นตกลงอะไรกันซักอย่างก่อนที่ไอ้ออทัมจะออกรถไป ผมแปลกใจมากๆที่คนอย่างไอ้ออทัมยอมมาส่งวิน แล้วที่ไอ้วินหายไปทั้งวันอีกหรือว่าจะอยู่ด้วยกัน

เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกมันกันแน่!!

ขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย

    ผมกลัว......กลัวว่าไอวินจะเสียใจ กลัวจะเห็นน้ำตาของมัน ผมไม่อยากให้คนที่ผมรักสุดหัวใจต้องเสียน้ำตาอีกแล้ว

แต่ว่า......แต่ว่าถึงจะอย่างนั้น......ผมคนนึงแหละ ที่เป็นเหตุให้มันเสียน้ำตา

   ก็ผมโกรธ......โกรธที่มันให้อภัยไอ้ซัมเมอร์ง่ายๆ ไอ้คนเอาแต่ใจนั่นวินด์มันโง่ ดูไม่ออกหรือไงว่าไอ้ซัมเมอร์ต้องการอะไรจากมัน!!

มันจะเจ็บแค่ไหนกันนะ ถ้าวันนึงมันรู้ว่าคนที่มันรักและเทิดทูนกำลังหลอกมันอยู่!!


*****
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายนะคะ
แบบว่าเรื่องอาจจะไม่สนุกTooT
แบบว่าเรื่องมันเศร้าาาาา
โฮกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระ
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-04-2010 20:35:52
บอกได้คำเดียวว่าสงสาร ลม

ออทัน นี้เป็นพี่น้องกับ ลม รึป่านนิ :เฮ้อ:

ไอดิน อีกคนที่น่าสงสาร รักเขาข้างเดียวก็แบบนี้แระ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 11-04-2010 21:21:24
สงสารลมจริงๆ อย่าบอกนะพระเอกตัวจริงคือออทั่ม

ป.ล.ถ้ามาต่อเเล้วช่วยเปลี่ยนหัวเรื่องหน่อยได้รึเปล่า อย่างเช่น เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่...
อะไรประมาณเนี่ย เพราะไม่รู้เลยว่าไรเตอร์มาต่อเเล้วเลยไม่ได้อ่านเลย ดีนะที่ลองเปิดเข้ามาดู
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: sayhi11 ที่ 11-04-2010 21:47:21
มาต่ออีกซิ
เชียร์ลมอ่ะค่ะ
ลมเป็นพระเอกป่ะ
อยากรู้ค่ะ
 o18 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 16
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 17-04-2010 16:07:41
                                        เสียงกระซิบจากลมหนาว 16


    สายมากแล้วแต่ผมก็ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน เมื่อตอนเช้าแม่เดินเข้ามาหาผมและถามไถ่เรื่องที่ผมเป็นลมอยู่หน้าบ้าน แล้วไอดินมาเจอเลยอุ้มผมเข้ามา แม่ซักนู่นซักนี่เพราะเป็นห่วง ส่วนผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างเพราะในหัวยังคิดถึงแต่เรื่องเมื่อวาน

ที่ผมทำลงไปมันถูกแล้วไหมนะ

การกระทำด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ

มันย่อมส่งผลร้ายแรงเสมอ



RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก ไม่อยากจะรับเลย รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้สิ แต่สุดท้ายผมก็ต้องจำใจรับเมื่อมันดังขึ้นมาอีกรอบ

"ฮัลโหลครับ"

[อยู่ไหน?] น้ำเสียงแฝงอำนาจทำเอาผมเริ่มลน

"........."

[กูถามว่ามึงอยู่ไหน!!]

"บ้านครับ" ผมตอบเสียงค่อย ปลายสายเงียบไปก่อนจะสบถเสียงดังแล้ววางสายไป ผมถอนหายใจแล้ววางมันไว้ตรงหัวเตียง ก่อนจะเอนตัวลงนอนอีกครั้ง

เมื่อวานไอดินเป็นคนอุ้มผมเข้ามาในบ้าน

เขาจะเห็นตอนที่พี่ออทัมมาส่งผมที่หน้าบ้านนรึเปล่านะ

ผมกลัว  กลัวเหลือเกินว่าเขาจะรู้ความจริง

กลัวเหลือเกินว่าจะถูกรังเกียจ

เพราะแค่นี้.....ทุกคนก็มองว่าผมน่ารังเกียจมากพออยู่แล้ว

      เพียงเวลาไม่นานรถของพี่ออทัมก็แล่นเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านของผม แม่บ้านพาเขาเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วหายลับไป อีกไม่กี่อึดใจเสียงเคาะประตูหน้าห้องผมก็ดังขึ้น

"ประตูไม่ได้ล็อค."

     พี่ออทัมเดินเข้ามาภายในห้อง สายตาสำรวจไปทั่วก่อนจะมาหยุดที่ผม เขายังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย สงสัยโดดเรียนมาแน่ แม่บ้านขอตัวออกไปทำให้ตอนนี้เหลือเพียงผมกับพี่ออทัมสองคนภายในห้อง

"ถึงกับนอนโทรมเลยเหรอ"

"เปล่า" ผมเดินกลับไปนั่งบนเตียงเงียบๆ แล้วมองเขาที่นั่งบนโซฟาแถวนั้น

"แล้วทำไมไม่ไปโรงเรียน"


อย่างน้อยก็มีคนสังเกตเห็นว่าผมไม่ได้ไปโรงเรียน

ถึงแม้จะเป็นพี่ออทัมก็เถอะ



"ผมเป็นไข้"

"หึ อยากให้ฉีดยาให้มั้ย" พี่ออทัมเดินมานั่งบนเตียงทำเอาผมขยับหนีด้วยความหวาดระแวง นัยส์ตาพราวระยับอย่างถูกใจที่ได้แกล้งผมทำเอาผมอยากหายไปจากตรงนี้ซะ

"อย่าขัดใจกู แล้วมึงจะรู้ว่าคนอย่างกูทำได้มากกว่าขู่"

     ผมไม่น่าเลย.....ไม่น่าเลย ไม่น่าทำเรื่องแบบนั้นกับเขา ไม่น่าเลยจริงๆ สุดท้ายมันก็กลับมาทำร้ายตัวผมจนได้ พี่ครับ......ถ้าวันนึงพี่รู้ความจริงขึ้นมา

ถ้าพี่รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกัน......พี่จะรู้สึกยังไง

แต่เหนือสิ่งอื่นใด.....ผมไม่อยากให้พี่เจ็บ

เพราะฉะนั้นทั้งความลับระหว่างผมกับพี่จะไม่มีวันที่คนอื่นจะรู้

และความลับที่ผมเป็นน้องพี่......พี่ก็ไม่มีวันจะได้รู้เช่นกัน

นั่นคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราทุกคน







:::::ไอดิน::::



     วันนี้ไอ้วินด์ไม่ไปเรียน ผมเองก็เช่นกัน เมื่อวานพอไอ้ออทัมออกรถไปได้ไม่นาน ไอ้วินก็เป็นลมล้มลงทำเอาผมรีบวิ่งไปดูด้วยความเป็นห่วง ตัวมันร้อนมากเหงื่อซึมออกมาตามไรผม

    คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับเลย  หัวสมองคิดแต่เรื่องของมันจนปวดไปหมด วินด์มันโง่ไม่ทันเหล่เหลี่ยมใครหรอก ถ้าไม่มีผมซักคนไม่รู้ป่านนี้มันยังจะรอดมาถึงวันนี้ไหม

    รถของไอ้ออทัมพี่ชายคนโตของไอ้วินแล่นเข้ามาจอดภายในบ้าน ผมมองอย่างแปลกใจระคนสงสัยอีกครั้ง เพราะคนอย่างไอ้ออทัมน่ะเหรอจะมาเยี่ยมไอ้วินด์ มาคนเดียวไม่มีไอ้ซัมเมอร์ห้อยตามมาซะด้วย ผมแอบมองอย่างเงียบๆ ผมเพิ่งเช่าบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน ไอ้วินด์เลยไม่รู้ว่าผมพักอยู่ที่นี่ และห้องนี้ก็ตรงกับห้องของมันพอดี

ทำให้ผมเห็นความเป็นไปในห้งของไอ้วินด์ได้อย่างชัดเจน!!!

   ไอ้ออทัมเดินเข้าไปคุยอะไรไม่รู้กับไอ้วิน ซักพักมันก็เดินไปล็อคประตูแล้วเดินกลับมา ไอ้วินด์มันไม่สังเกตุเห็นผมเลยแม้แต่น้อย.......แต่กับไอ้ออทัม

มันสังเกตุเห็นผมตั้งแต่แรกแล้ว!!!

  มันแสยะยิ้มให้ผมอย่างเย้ยๆทำเอาผมกำหมัดแน่น! มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกมันแน่!! ขออย่าได้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย

     ไอ้วินลุกเดินหนีแต่ไอ้ออทัมก็เดินตามไปแล้วสวมกอดมันจากข้างหลัง ผมเห็นไอ้วินด์กัดริมฝีปากตัวเองจนมันกลายเป็นเส้นตรง ก้มหน้าลงเหมือนจะร้องไห้ ส่วนไอ้ออทัมเริ่มไซร้คอไอ้วิน

ร้องสิวินด์.....ร้องให้คนช่วย!!!

ขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย.......ขอร้องล่ะครับพระเจ้า

   ผมสั่นอย่างกับเจ้าเข้าเมื่อไอ้ออทัมเริ่มถอดเสื้อไอ้วินด์ออก ไม่นะ มึงช่วยผลักไสมันหรือขัดขืนแม้แต่เล็กน้อยได้ไหม?อย่ายอมมันได้ไหม?? น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

มันเจ็บ.....เจ็บมาก ที่เห็นภาพบาดตาบาดใจอย่างนี้

แต่เจ็บยิ่งกว่าเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้วินด์ตอนนี้.......มันเศร้ายิ่งกว่าอะไร

    ดวงตาเย้ยหยันจากไอ้ออทัมส่งมาให้ผมเป็นระยะ ผมยืนนิ่งไม่ไหวติงเพราะอะไรไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเหมือนกับภาพเหล่านั้นมันตรึงผมเอาไว้ วินด์....มึงร้องเรียกกูสิ

ร้องให้กูช่วยมึง

อย่าให้กูคิดเองเออเองเลยว่ามึง....มึงเองก็ต้องการให้มันทำแบบนั้น!!


   ตาของไอ้วินปรือปรอยลงแต่ก็ต้องเบิกโพลงเมื่อนัยส์ตานั้นเหลือบมาเห็นผมที่ยืนมองอยู่เงียบๆ มันเหมือนจะอ้าปากพูดอะไรซักอย่างแต่กูถูกไอ้ออทัมปิดปากไปซะก่อน ร่างสองร่างสอดประสานกันต่อหน้าต่อตาผม โดนที่ไอ้วินถูกไอ้ออทัมใช้มือนึงปิดปาก อีกข้างก็ล็อคเอวไอ้วินเอาไว้ ส่วนไอ้วินพยายามที่จะแกะมือออก สายตามองมาทางผมอย่างขอความสงสารและรู้สึกผิด ดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยหยดน้ำตา ผมหันหน้าหนีวินาทีสุดท้ายของพวกมัน ก่อนจะเริ่มกวาดสิ่งรอบตัวให้มันแตกละเอียด ให้เทากับหัวใจของผมในตอนนี้

มันแตกระเอียดไม่มีชิ้นดีเลยล่ะ

มึงทำอย่างนี้ได้ยังไงวินด์......มึงทำมันลงไปได้ยังไง!!!

ดี!! กูทำดีไม่เคยได้ดี แล้วมึงจะได้เห็นว่าคนอย่างกูร้ายบ้างมันจะเป็นยังไง!!!

มึงต้องรับมันไปให้หมด.....หัวใจที่แตกสลายของกู.....



***
เพราะรักมาก เลยเจ็บมาก
เจ็บจนคิดที่จะทำร้ายคนที่ตัวเองรัก ทั้งๆที่มันไม่ต่างกับอีกคนเลย
ไม่ต่างจากอีกคนที่ทำร้ายคนที่เรารัก

แล้วจะพูดได้อีกเหรอ ว่าตัวเองรักเค้ามากกว่าใคร


me///ชูป้ายไป ***เกลียดทุกตัวละครในเรื่องนี้****
555+

หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 17-04-2010 16:15:58
                                                  เสียงกระซิบจากลมหนาว 17


  ไอดินเห็นแล้ว เขารู้ทั้งหมดแล้ว ผมจะทำยังไงดี ผมจะทำยังไงดี....... ไอดิน กูขอโทษ ไม่รู้ว่าทำไมต้องขอโทษ รู้เพียงแต่ว่าผมรู้สึกผิด เพียงแค่เห็นสายตาของมันที่มองมาทางผม หัวใจของผมมันก็ปวดตุบๆราวกับจะหยุดเต้น

มันปวดร้าวจนไม่สามารถจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

ทำไมนะ.......ทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้

เป็นเพราะผมใช่ไหม ทุกคนต้องมาเจ็บเพราะผม

ถ้าแม่รู้.....ทุกคนรู้......แล้วผมจะทำยังไง ไม่นะ.....ไม่!!

ทุกคนจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้จะต้องเป็นความลับตลอดไป

  ผมวิ่งไปบ้านข้างๆที่ผมเพิ่งรู้ว่าไอดินอาศัยอยู่ทั้งๆที่สภาพยังยับเยิน เคาะประตูอยู่นานเขาก็ไม่ยอมมาเปิด ผมปีนกำแพงอย่างทุลักทุเลแล้ววิ่งตรงไปยังห้องที่ผมเห็นไอดินอยู่ในนั้นเมื่อกี้


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"ไอดิน!ไอดินเปิดประตูหน่อย!! เปิดประตูให้กูหน่อย!!!"

    ไอดินเปิดประตูแบบกระชาก ผมกวาดมองสภาพห้องที่พังระเนระนาดด้วยพายุอารมณ์ของมัน ก่อนจะหันไปสบตาวาวโรจน์ที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว

"เอากับมันไม่สะใจรึไง ถึงต้องมาให้กูช่วยอีก!!"

   คำพูดเหยียดหยามนั่นทำเอาผมสะอึก ผมมองหน้ามันอย่างผิดหวัง ทำไม....ไอดินมึงไม่คิดจะฟังกูหน่อยเหรอ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง

ไม่ฟังกันบ้างเลยเหรอ!!!

   ผมกำหมัดแน่นแล้วมองหน้ามันอย่างผิดหวัง มันเจ็บ.....เจ็บมากจนน้ำตาไม่ยอมไหลมาซักหยด มือหนากระชากไหล่ของผมเอาไว้ก่อนจะสาดคำด่าทอต่อ

"หรือมึงอยากมีผัวหลายคน เลยมาหากู"รอยยิ้มเย้ยหยันส่งมาให้ มันแสยะยิ้มน่ารังเกียจก่อนจะกวาดตามองตัวผมอย่างจาบจ้วง

"มันจะมากไปแล้วนะไอดิน!!"

"มากอะไร!! แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!!"


ผลัก!!


   ผมชกหน้ามันสุดแรงเกิด หน้าของมันสะบัดไปตามแรงก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาวาว มือหนาเช็ดเลือดที่มุมปาก

"ต่อไปนี้......มึงกับกูไม่ใช่เพื่อนกัน!!!" ผมหันหลังเตรียมวิ่งแต่กับถูกมันกระชากตัวแล้วทุ่มลงบนเตียงที่ขาดวิ่น

"ดีใจจังกับสถานะภาพใหม่ของเรา" มันส่งยิ้มเย็นๆก่อนจะโถมตัวทับผมเอาไว้

"......."

"เป็นผัวมันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว"

"ไม่นะ......อึก"


   จูบที่เคยหวานแปลเปลี่ยนเป็นขมขื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ คราวที่แล้วมึงยังอ่อนโยนกับกูอยู่เลย แล้วตอนนี้ทำแบบนี้กับกูทำไม

มันหมดแล้วใช่ไหม.....ความรู้สึกดีๆ

มึงได้ยินไหม กูขอร้องมึงจากหัวใจ

หยุดเถอะ แค่พี่ออทัมคนเดียว กูก็ขยะแขยงตัวเองเต็มทนแล้ว!!!

   มือที่เคยให้ความอบอุ่นผมเสมอ ตอนนี้กำลังลูบคลำตัวผมอย่างหยาบคาย ริมฝีปากที่มอบจุมพิตแสนหวานแปรเปลี่ยนเป็นกระหายและหยาบกระด้าง ไม่มีเลย.....ความอ่อนโยนดังครั้งเก่า

ไม่มีเลย.....และคงไม่มีอีกแล้ว

"ชอบใช่ไหม แบบบังคับน่ะ"

"อึก....." ผมไม่อยากจะพูด ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น เพียงแค่กลั้นหายใจแล้วให้มันผ่านไปเสียที

"ถามไม่ตอบ งั้นครางเอาแล้วกัน!!!"

   ไอดินกระชากเสื้อผมออกอย่างรุนแรงและรวดเร็ด ผมกัดริมฝีปากสะกัดกลั้นเสียงของตัวเองอย่างเต็มที่ ได้แต่นอนนิ่งไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น สัมผัสร้อนๆลากผ่านจากคอมายังแผงอก ก่อนจะหยุดลงที่ตุ่มไตแล้วงับมันอย่างแรง

"โอ๊ยยยย"

    เขากระชากกางเกงผมรอดเดียวแล้วโยนทิ้งไปข้างเตียง ร่างหนาบดเบียดจนเสื้อผ้ามันเสียดสีกับผิวผมจนเจ็บไปหมด มือหนาเค้นคลึงสะโพกของผมก่อนจะเลื่อนลงต่ำเรื่อยๆ จนเริ่มส่งเข้ามาในตัวผม

"ฮื่ออออออ หยุดดดดดด กูเจ็บบบบบ กูขอร้อง ฮึก......"

"........."

"ฟังกูก่อนได้ไหม......แค่ฟังกันบ้าง..........ฮึก......" ไอดินดึงนิ้วออกก่อนจะมองผมด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตา

".........."

"มึงไม่รู้รึไง......ว่ากูไม่เหลือใครอีกแล้ว.......มึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกู มึงเป็นเพื่อนคนเดียวของกู......แต่มึงก็ทิ้งกูไป......"

".........."

"กูเพียงแต่คิดว่า......ขอแค่.....ขอแค่ วินาทีนั้น มีใครต้องการกูบ้างก็คงจะดี อย่างน้อยเค้าก็ยังยืนยันได้ว่ากูยังมีตัวตน....."

"........."

"กูผิดเหรอ.....ที่ยอมแลกทุกอย่างกับความรัก.......ความรักที่กูไม่เคยได้จากเค้า.....ไม่เคยได้จากพี่ชาย......พี่ชายที่มีแต่ความเกลียดให้กู......"

".........."

".........."


  ไอดินโถมตัวกอดผมเอาไว้ ตัวของเขาสั่นมากพอๆกับตัวผม ดวงหน้าของเขาซบลงกับไหล่บาง หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินลงบนบ่านี้

กับคำขอโทษ......ที่ฟังจนกระทั่งผลอยหลับไป

   อ้อมกอดอบอุ่นนี้......กลับมาเป็นของผมแล้วสินะ กลับมามอบความอ่อนโยนให้ผมแล้วใช่ไหม ได้โปรด......ไอดิน.....กูกลัวเหลือเกิน

กลัวว่ากูเพียงแต่ฝันไป

กลัวเหลือเกินว่าพอตื่นมาแล้ว

มึงจะกลายเป็นคนอีกคน คนที่กูไม่รู้จัก


"......."

มีเพียงความเงียบที่เป็นคำตอบ กับหัวใจสองดวงที่เต้นด้วยจังงหวะที่แตกต่าง.......ไม่สามารถบอกได้ว่า.....มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น.......หรือความเศร้า!!!


***
จบตอน
ยะฮู้ ไม่เห็นมีไรแก้เลยเอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 17-04-2010 16:25:47
                                                                  เสียงกระซิบจากลมหนาว 18



     ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของไอดิน อ้อมกอดอบอุ่นนี้กลับมาเป็นของผมแล้วสินะ กลับมาเป็นของผมแล้วใช่ไหม??

"ตื่นแล้วเหรอ"

    ไอดินยิ้มทักผม ผมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้มันแล้วสำรวจดวงหน้าคมนั้น ดวงตาบวมเบ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ผมยกมือขึ้นไปลูบแก้มเขาเบาๆไอดินจับมือผมเอาไว้ก่อนที่เราจะจ้องตากันเนิ่นนาน

    หน้าของเราขยับเข้าใกล้กันตามแรงโน้มถ่วงก่อนริมฝีปากจะประกบกันแนบแน่น ค่อยๆเป็นและค่อยๆไป ไม่จาบจ้อง ไม่หยาบคาย แผ่วเบาราวกับปุยนุ่น

    มากขึ้น.....มากขึ้น.......และมากขึ้นจนเริ่มเลยเถิด มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถปฏิเสธมันได้เลย เพราะผมรู้สึกดีเหลือเกิน แต่ว่า....แต่ว่าร่างกายสกปรกนี้.......มันไม่คู่ควรให้ไอดินสัมผัสอีกต่อไป!!

   ผมผลักไอดินออกจากตัวแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไอดินมองผมอย่างไม่เข้าใจจนสุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วผุดขึ้นนั่งอีกคน

"ขอโทษ" ไอดินเอ่ยขอโทษเสียงเบา ผมนั่งมองมือตัวเองเงียบๆ ความเงียบโรยตัวลงมา ทำให้บรรยากาศระหว่างเราอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ

"กู......กูมันสกปรก"

     น้ำตาผมร่วงผลอยเมื่อคิดถึงเรื่องอัปยศทั้งหลายแหล่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด.....ผมก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง มีความรู้สึกนึกคิด ต้องการความรัก ต้องการการเอาใจใส่ และเห็นแก่ตัว ผมยอมแลกทุกอย่างกับความรัก

แม้แต่ความเป็นมนุษย์.....



"มึงไม่สกปรกหรอกวินด์"

"ไม่!กูมันสกปรก!กูมันสกปรก!!"ผมเริ่มฟูมฟายและทุบอกตัวเอง ไอดินจับแขนทั้งสองข้างของผมไว้แน่นจนผมไม่อาจขยับได้


ที่สกปรก.....คือหัวใจของกูต่างหากล่ะ

สกปรกที่ต้องการให้คนที่กูรัก........รักกู

สกปรกที่ไม่อาจทำใจยอมรับ.....กับความจริงที่ว่าไม่มีใครต้องการ

นี่แหละ......คือตัวผมล่ะ


   

      ผมเดินออกจากห้องเรียนหลีกหนีความวุ่นวายมาหาที่เงียบสงบ ด้านหลังโรงเรียนดูร่มรื่นดีทำให้ผมยิ่งรีบตรงดิ่งไปยังที่แห่งงั้น หาที่นั่งก่อนจะหย่นก้นลงนั่งแล้วเงยน้ำมองท้องฟ้าไกล ไอดินนั่งลงข้างๆผมอย่างเงียบๆแล้วล้มตัวลงนอนหนุนแขนตัวเอง

"ยังคิดถึงฟ้าอีกเหรอ"

"หรือมึงไม่คิดถึง"

     แล้วก็เงียบกันไปอีกหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ไอดินก็ตาติดผมทุกวันไม่ยอมให้พี่ออทัมเข้าใกล้ผมเลย แต่เขาไม่รู้อยู่อย่างนึงไม่รู้ว่าพี่ออทัมโทรมาหาผม

โทรมาขู่.....ขู่ผมว่าจะบอกเรื่องนะนกับทุกคน

ไม่เว้นแม้แต่แม่ของผม

    ถ้าแม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทุกคนรู้เรื่องนั้นแล้วผมจะทำยังไง ผมไม่รู้เลย.....ไม่รู้เลย.....มันมืดแปดด้านจริงๆนะ ไม่มีทางออกให้กับปัญหาของผมเลย....ปัญหาที่ผมผูกมันขึ้นมาเอง

  เขายื่นข้อเสนอมาผมก็จำเป็นต้องรับ ข้อเสนอที่แสนเจ็บปวดนั่น เขาบอกให้ผมเลิกคบกับไอดิน เขาบอกให้ผมห้ามยุ่งหรือคุยกับพี่ซัมเมอร์

เขาบอกให้ผมทำตามเขาทุกอย่างเหมือนอย่าง'ทาส'

ใช่......ทาส.......ผมเป็นได้แค่ทาส........ไม่ใช่น้องชาย!!!



"คิดไรอยู่วินด์"

"..........."

     ผมไม่ตอบเพียงแต่มองหน้ามันด้วยใบหน้าที่ปั้นแต่งมาเสียดี ก่อนจะพูดถ้อยคำที่ฝึกมาตั้งแต่เมื่อคืน ขอโทษนะไอดิน......ขอโทษ

ขอโทษจริงๆ

ขอโทษที่กูมันเห็นแก่ตัว



"ไอดินกู......กูจะคบกับพี่ออทัม"


".........." มันสั่นอย่างเห็นได้ชัด มือหนากำหมัดแน่นอย่างสะกัดกั้นอารมณ์


"มึงเข้าใจกูนะ และขอร้องต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับกูอีก กูกลัวพี่ออทัมจะเข้าใจผิด"

"ทุเรศ.........ไอ้ทุเรศ!!!" ไอดินตวาดลั่น ผมแค่นยิ้มทั้งๆความจริงแล้วแทบจะไม่มีแรงพูดด้วยซ้ำ ในใจเอ่ยขอโทษเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

"..........."

"มึงเป็นบ้าอะไรอีก ไอ้วินเทอร์!! นี่มึงกำลังบอกกับกูว่ามึงจะคบกับพี่ชายของตัวเองอย่างนั้นเหรอ!! มันต่ำกว่าสัตว์อีก!!"

".........." ไม่มีแม้ถ้อยคำปฏิเสธให้ ขอบตาร้อนผ่าวก่อหยดน้ำใสๆจะหยาดลง

"กูขอร้องมึงนะวิน.....มีอะไรบอกกันบ้างได้ไหม.......หรือมึงไม่คิดว่ากูเป็นเพื่อน!!!"

"............"

"เพื่อนที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหา เพื่อนที่มึงจะจับมือเอาไว้แล้วก้าวผ่านอุปสรรค์ไปด้วยกัน......มึงไม่เคยคิดเหมือนกูเลยรึไง!!!" เขาเขย่าตัวผมอย่างบ้าคลั่ง

ขอโทษ......ไอดิน......ขอโทษ

"มันบังคับมึงรึไง.......อย่านึกว่ากูโง่นะไอ้วินด์!!!" ไอดินจ้องผมอย่างคาดคั้น ผมกัดปากแน่นหลุบตาหลบนัยส์ตาคมกล้า เขาช้อนหน้าผมขึ้นก่อนจะเอ่ยขอร้อง

"วินด์.......บอกกูนะ มีอะไรก็บอกกู กูพร้อมจะช่วยมึง ยืนอยู่เคียงข้างมึง อยู่ตรงนี้......ที่ข้างๆมึง ขอแค่มึงบอกกู.......กูก็พร้อมจะช่วยมึงเสมอเลย......."


".........."


"แค่บอกกูนะวินด์.......แค่บอก......" ไอดินคุกเข่าลงก่อนจะจับมือผมจุมพิตแผ่วเบา มันมองผมอย่างร้องขอและเว้าวอน ผมโน้มตัวลงก่อนจะกอดมันเอาไว้เต็มอ้อมแขน ปากก็พร่ำขอโทษไม่ขาด

"กู.....ฮึก......ขอโทษ....." ผมตอบด้วยเสียงสะอึก
 
ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างและขอบคุณมากๆที่ดีกับคนอย่างกูนะ......ไอดิน



"ลมวันนี้ไปบ้านเรานะ"

"หืม"

"ก็วันนี้วันเกิดเรา แล้วที่บ้านก็จัดงานให้ ลมไปนะๆ"พี่ซัมเมอร์จับมือผมแน่นมาก สายตาเว้าวอนออดอ้อนและร้องขอ ใช่ครับ......วันนี้เป็นวันเกิดของพี่ซัมเมอร์ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป็นวันเกิดของผมเหมือนกัน!

ที่บ้านของผม......แม่คงรออยู่

รอให้ผมกลับไปฉลองกับท่าน

ฉลอง.....ที่ผมเกิดมา

   ท่านคงรอผมพร้อมเค้กก้อนโตและของขวัญกล่องใหญ่ บ้านคงประดับเต็มไปด้วยลูกโป่งและริบบิ้นหลากสี นั่งรอลูกชายนอกไส้คนนี้กลับไปฉลองกับท่าน

ท่านบอกผมว่า.....วันนี้คือวันที่ท่านมีความสุขที่สุด สุขเพราะมีผมเกิดมา

แล้วผมจะไป.....ไปบ้านนั้นได้ยังไง

แม้ว่าในใจลึกๆแล้ว ผมจะอยากไปมากก็ตาม

"ขอโทษนะซัมเมอร์.......แต่เราติดธุระ"





******
ตอนที่ 18 แล้ว ง่าาาา
เริ่มถึงตอนที่ข้าพเจ้าต้องเข้าไปแก้ไขแว้วว เอิ๊กๆ :z3:
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-04-2010 00:13:42
สงสารไอดินกับลมมากๆเลย :o12: :เฮ้อ:



หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-04-2010 00:24:54
แล้วมันเป็นอย่างงี้ได้อย่างไงละเนี่ย  :serius2:
ไม่รู้จะสงสารใครดีแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 18-04-2010 00:37:24
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไม่รู้จะสงสารใครดี  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 18-04-2010 02:58:06
ขอบคุณค่า..

เฮ้อ..สงสารไอดินนะ..

ลมนี้ยังไง..ต้องการความรักจากคนอื่นซะมากมาย..แต่ไม่เคยที่จะรักตัวเองเลย..ปล่อยให้ตัวเองโดนกระทำต่างๆ นาๆ อยู่ตลอด..แล้วจะต้องการความรักมากมายนั้นไปเพื่อ..ในเมื่อตัวเองยังไม่คิดจะรักตัวเอง..โทษแต่ตัวเองก็ตายไปซะดีกว่ามั้ย..โลกใบนี้คนที่เข้มแข็งเท่านั้นที่ควรอยู่รอดนะ :เฮ้อ:

 :a5:อินไปนิด..แบบว่าขัดใจกับตัวนายเอกมากมาย..
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 18-04-2010 12:46:03
อ๋อย!! สงสารไอดิน

วินเทอร์ไม่น่าทำแบบนั้นเลยยย  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 18-04-2010 18:37:14
                                                         เสียงกระซิบจากลมหนาว 1



"ขอโทษนะซัมเมอร์แต่เราติดธุระ"ผมปฎิเสธพี่ซัมเมอร์ไป เค้าทำท่าครุนคิดก่อนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง

"งั้นลมก็ไปทำธุระก่อน แล้วค่อยกลับมาบ้านเราก็ได้ เราจะไม่ตัดเค้กจนกว่าลมจะมา"

"แต่........"

"ไม่มีแต่นะลม นะๆๆ" พี่ซัมเมอร์เขย่ามือผมเบาๆ สายตาดูเว้าวอนจนผมอดใจอ่อนไม่ได้

"ครับ"

   สุดท้ายผมก็ตอบตกลงไปจนได้ ไอดินจะว่าอะไรไหม ที่ผมรับปากพี่ซัมเมอร์ไปแบบนี้ ผมไม่กล้าบอกเขาเลย

เพราะกลัว.......กลัวว่าเขาจะห้าม

ทำไมนะ.......ผมถึงได้ทุเรศอย่างนี้

    กูขอโทษ.......ขอโทษนนะไอดิน ขอโทษจริงๆ ไม่รู้จะพูดหรืออะไรอีกแล้ว กูรู้ว่ากูทำผิดกับมึงมามาก แต่ว่ากูก็อยากจะฉลองวันเกิดกับพวกเค้า พวกเค้าที่กูอยากเรียกว่าครอบครัว

เพียงซักครั้ง ซักครั้งใจชีวิต

   ก่อนที่สุดท้ายกูจะออกจากชีวิตพวกเค้าไป อย่างไม่กลับมาพบเจอกันอีกเลย ให้พวกเค้าคิดว่ากูตายไปแล้ว ตายไปจากโลกนี้

แต่ขอแค่ตอนนี้.......ตอนนี้เท่านั้น ยกโทษให้กันด้วยนะไอดิน

      ผมกลับมาถึงบ้านพร้อมกับไอดิน งานเลี้ยงเล็กๆฉลองวันเกิดให้ผมทำเอาผมรู้สึกปลื้มอย่างบอกไม่ถูก ภายในงานประดับประดาไปด้วยลูกโป่งสีสดใส กับริบบิ้นและมวลดอกไม้หลากชนิด อาหารหลากหลายชนิดทั้งคาวหวานส่วนมากล้วนเป็นของโปรดของผมทั้งนั้น ไม่อาหารทะเลไม่กี่ชนิดซึ่งแม่คงทำไว้ให้แขก

    แขกในงานก็ไม่มีใครมาก มีเพื่อนของแม่ไม่กี่ท่าน พ่อกับแม่ของไอดิน ไอดิน และคนงานในบ้าน เราไม่ถือหรอกครับว่าใครจะเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง

"สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ ลม" แสงไฟดับลงพร้อมๆกับเค้กก้อนโตที่สว่างไสวไปด้วยแสงจากเปลวเทียน ทุกคนร่วมกันร้องเพลงอย่างยินดี ผมน้ำตาปริ่มอย่างปลื้มใจ

ขอบคุณเหลือเกิน

    ทุกคนทยอยมาให้ของขวัญผม ผมยิ้มขอบคุณจากใจ ของขวัญแม้จะไม่ได้ล้ำล่าเลิศเลอ แต่ว่าแค่พวกเค้าให้ผม ผมก็ดีใจที่สุดแล้ว มันมีค่ามากในทางความรู้สึกครับ

"ไหนของขวัญกูล่ะ" ผมเดินไปลวงของขวัญจากไอดิน มันยิ้มให้ผมก่อนจะยื่นแก้มให้

"อ่ะ กูอุทิศแก้มของกูให้มึงเลย หรือจะเอาทั้งตัวกูก็ได้" ผมหัวเราะเบาๆกับมุขของมันก่อนจะแบมือทั้งสองข้างส่งไปข้างหน้ามัน

"ของขวัญของกู กูว่าปีนี้มึงต้องชอบมากๆเลยล่ะ" ไอดินจับมือทั้งสองข้างของผมไว้ ก่อนจะมองผมด้วยสายตาจริงจัง

"........."

"อยากไปบ้านนั้นใช่ไหม" ผมเงียบ

"กูจะช่วยมึงเอง นี่ล่ะ ของขวัญจากกู" ผมเงยหน้ามองไอดินอย่างไม่เชื่อสายตา ไอดินยิ้มให้ผมอย่างเศร้าๆ

"คุณป้าครับ ผมพาลมไปเที่ยวนะครับ" ไอดินหันไปบอกแม่ผม ก่อนจะจูงมือผมไปทางลานจอดรถ รถแล่นออกไปตามถนนยามค่ำคืน ผมรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกตื้นตันใจจัง

"ขอบใจนะไอดิน"


ขอบคุณ.....ขอบคุณมาก


     รถแล่นมาถึงหน้าบ้านของพี่ซัมเมอร์ก่อนจะจอดสนิท ผมมองเข้าไปในตัวบ้านที่ครึกครื้น เสียงเพลงดังกระหึ่มกับเสียงจอกแจกจอแจ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าภายในบ้านคนเยอะขนาดไหน ไอดินมองหน้าผมอย่างเป็นห่วงแต่ผมเพียงพยักหน้าส่งสายตาบอกเค้าว่าไม่เป็นไร


"ให้กูเข้าไปด้วยไหม"

"อืม"

    เราสองคนกดกริ่งหน้าบ้านก่อนจะมีแม่บ้านมาเปิดประตูให้ ผมเดินนำไอดินเข้าไปในบ้านที่ ภายสวนในที่จัดงานประดับประดาไว้อย่างสวยงาม เพื่อนๆมากหน้าหลายตาทั้งในห้องและต่างห้อง แยกกลุ่มยืนคุยกันอย่างออกรส อาหารทั้งคาวและหวานมีหลากหลายชนิดมาก แต่ที่เยอะที่สุดคงเป็นอาหารทะเลตามความชอบของเจ้าของงาน พี่ซัมเมอร์ที่ยืนคุยกับเพื่อนๆของเขาพอเหลือบมาเห็นผมก็รีบวิ่งมาทางผม ก่อนจะมองผมอย่างยิ้มๆ

"มาแล้วเหรอลม เรารอลมตั้งนานแน่ะ"

"อืม"

"อ่าว หวัดดีไอดิน วันนี้ขอยืมตัวลมนอนค้างที่นี่นะ เดี๋ยวเราโทรไปบอกทางบ้านลมให้"

"ขอโทษทีนะ แต่ไม่ได้" ไอดินตัดบทก่อนจะดึงผมไปยืนใกล้ๆ พี่ซัมเมอร์มองหน้าไอดินด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอย่างเอาใจ

"ถามลมก่อนสิ ว่าลมอยากค้างกับเรามั้ย"

"ไม่ต้องถามหรอก เพราะกูรู้ใจมันดีที่สุด" ดูเหมือนพี่ซัมเมอร์จะไม่ยอมแพ้ ดึงตัวผมไปยืนข้างๆก่อนจะพูดกับผมเหมือนจะบังคับกลายๆ

"ลม.ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดเรานะ"

"เอ่อ......."

"นะ"

"อืม" ในที่สุดผมก็ทนคำรบเร้าของพี่ซัมเมอร์ไม่ไหว จนตกปากรับคำไปในที่สุด พี่ซัมเมอร์ยิ้มดีใจอย่างออกนอกหน้า ส่วนไอดินเงียบไปแล้ว

"งั้นให้กูค้างด้วย" ไอดินเสนอ

"วันนี้เพื่อนเราค้างเยอะน่ะ เกรงว่าห้องมันจะไม่พอ"พี่ซัมเมอร์ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ทำเอาไอดินเริ่มชักสีหน้า

"ก็นอนห้องที่ไอ้วินด์นอนนั่นแหละ"

"ขอโทษนะ พอดีวินด์นอนห้องเดียวกับเรา" ผมเห็นไอดินกำหมัดแน่น ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ซัมเมอร์หาเรื่องทะเลาะกับไอดินทำไม


รู้เพียงแต่ว่า.....แอบดีใจลึกๆที่จะได้ค้างบ้านนี้.....อีกครั้ง


"ทำอะไรอย่านึกว่ากูไม่รู้นะ" พี่ซัมเมอร์ยิ้มนิดๆก่อนจะเดินไปกระซิบข้างๆหูไอดินซึ่งผมไม่รู้เลยว่าพวกเค้ากระซิบอะไรกัน แล้วทำไม.....ไอดินถึงโกรธขนาดนั้น


"ไปกันเถอะลม เราจะตัดเค้กแล้ว" พี่ซัมเมอร์จูงมือผมเข้าไปในงาน คุณป้าเดินถือเค้กก้อนโตด้วยรอยยิ้มสดใส คุณลุงและพี่ออทัมก็เช่นกัน


รอยยิ้มที่ผมไม่เคยได้รับ

    สงครามปาเค้กก่อขึ้นขนาดย่อมๆในขณะที่พี่ซัมเมอร์ถูกลุม ผมที่อยู่ข้างๆจึงโดนลูกหลงไปด้วย ดีที่ไอดินมายืนบังช่วยไว้บ้าง ไม่อย่างงั้นป่านนี้คงเละกว่านี้แล้วล่ะ สงครามจบลงด้วยหน้าของทุกคนที่เปื้อนไปด้วยครีมสีขาว พี่ซัมเมอร์บอกให้ผมขึ้นไปล้างตัวบนห้องของเขาแล้วหยิบเสื้อผ้าของเขาใส่ได้ตามสบาย ส่วนไอดินถูกพี่ซัมเมอร์ไล่กลายๆจึงจำเป็นต้องไปล้างตัวที่ห้องน้ำแขก


    หยิบเสื้อผ้าที่พอจะใส่ได้มาแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ค่อยๆเช็ดคราบครีมตามหน้าออก เลนแว่นตาที่เลอะไปด้วยครีมสีขาวทำเอาผมหนักใจ เลยจำใจต้องวางมันไว้อย่างนั้น ผมมองดูตัวเองใจกระจกอย่างพิจารณา

ตาของผมเหมือนคุณป้า

ปากของผมเหมือนคุณลุง

แต่ทำไมท่านถึงมองไม่ออกกัน

   ผมหลับตาลงถึงความคิดที่เริ่มเกินเลยขอบเขตคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ ไม่ได้ จะเป็นแบบนั้นไม่ได้...........แต่........ถ้าคุณป้ายิ้มให้กับผมแบบนั้นบ้าง

ก็คงดี


"อ๊ะ......" ผมร้องเสียงหลงเมื่อมีคนสวมกอดจากด้านหลัง คงเพราะผมเหม่อเกินไปจนไม่ทันได้สังเกตคนมาใหม่ พี่ออทัมสวมกอดผมจากด้านหลังและฝังเขี้ยวลงบนไหล่

"ผมเจ็บ"

"เจ็บก็ดีจะได้จำ กูบอกมึงว่ายัง จำไม่ได้หรือไง หรืออยากให้เรื่องนี้ไปถึงหู.........."

"อย่า!!"

"แล้วทำไมไม่ทำตามที่กูบอกล่ะ!!"

    เราจ้องตากันในกระจกอย่างไม่ยอมกัน ผมไม่อยากทำอยางนั้น ไอดินเป็นเพื่อนที่แสนดี ผมทำอย่างนั้นกับเขาไม่ได้!! ไม่อยากทำร้ายมันอีกแล้ว.....มันเจ็บเพราะคนอย่างผมมามากพอแล้ว!!!

"ผม.......ไอดินเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของผม พี่อย่าให้เราแยกจากกันเลยนะครับ" พี่ออทัมจับหน้าผมให้หันไปด้านข้างเพื่อจะได้สบตากับเขาโดยตรง

"เพื่อน......หรือชู้"

"เมื่อไหร่พี่จะเลิกเอาความคิดต่ำๆของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่นซะที!!"

"ไอ้ลม!!!"

"พี่หยุดทำแบบนี้กับผมซะที!!หยุดซะที!!!เป็นของขวัญวันเกิดให้ผมได้ไหม!!!" ผมผลักเขาออกก่อนจะวอนขอด้วยน้ำตา ได้ไหมพี่เป็นของขวัญวันเกิดที่น้องชายคนนี้ไม่เคยได้รับจากพี่เลย

".........."

"พี่ไม่รู้หรือไง ว่าสิ่งที่พี่ทำกับผม มันโหดร้าย มันแทบจะฆ่าผมให้ตายทุกๆวันที่คิดถึงมัน สิ่งที่เราสองคนทำ มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เราควรควรทำแบบนั้น......" ผมทรุดตัวลงกับพื้นห้องน้ำ ศรีษะพิงกำแพงเอาไว้อย่างอ่อนแรง

"..........."

"ขอร้องนะพี่ อย่าทำแบบนั้น อย่าบอกใคร เพราะผมไม่อยากต้องหนีไป เพราะวันนึงเมื่อถึงเวลา ผมสัญญาว่าผมจะไปเอง"

"............"

"ผมจะไม่ยุ่งกับพี่ซัมเมอร์ก็ได้....ฮึก.....ไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีกก็ได้......หรือให้ผมตายไปตรงนี้ก็ยอม"

".........."

"แต่หากผมตาย......เรื่องระหว่างผมกับพี่......ให้มันเป็นความลับตลอดไปได้ไหม......"

"........."

    ไม่มีแม้เสียงตอบรับหรือปฏิเสธ พี่ออทัมเดินออกไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงผมที่นั่งน้ำตานองหน้าอย่างน่าสมเพช ผมทำถูกต้องแล้วหรือเปล่า......

อย่างนี้มันถูกต้องใช่ไหม.......ผมสมควรพอแล้วใช่ไหม.......แต่........แต่ไอ้คำว่าแต่นี่แหละ

มันผุดขึ้นมาเสมอเวลาผมพยายามบอกกับตัวเองว่าสมควรพอได้แล้ว


ขอแค่อีกไม่นาน ไม่นาน


นี่ผมกำลังรบกับตัวเองอยู่ใช่ไหม


สงครามที่น่ากลัวที่สุด........คือการทำสงครามกับใจตัวเองนี่แหละ



****
ไหนบอกว่าต้องแก้  นี่ข้าพเจ้ายังไม่แก้ซักบรรทัดเลย เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 18-04-2010 19:03:54
เยี่ยม ลุ้นไปตลอดว่าปมของเรื่องจะเฉลยออกมายังไง
ขอบคุณคนแต่งมากครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-04-2010 21:30:58
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่า :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 19-04-2010 11:00:16
 :เฮ้อ: พูดไม่ออกอีกเเละ
มาต่อเถอะน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-04-2010 15:42:06
เอาเป็นว่า รออ่านตอนต่อไปละกัน ยังเม้นท์อะไรไม่ออก
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 19-04-2010 20:47:03
ยังคงเศร้าได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 21-04-2010 09:38:16
เศร้าอะ
จะเป็นยังไงต่อไปนะ
รอจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: wowhaha ที่ 21-04-2010 11:59:10
คนที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็คือลม ที่เล่นกับความรู้สึกของทุกคน รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอะไร ก็ยังให้มันเกิดขึ้น จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวของลมเอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: ayata ที่ 21-04-2010 15:05:59
บางทีเราก็คิดว่าเรามันไม่มีอะไร  ทั้งๆที่ความจริงเรามี..แต่เราคิดว่ามันไม่พอมากกว่า

สิ่งที่ลมต้องการคืออะไร  รักจากคนที่มีสายเลือดเดียวกัน?
แม้ว่าจะต้องละเลยหรือทิ้งขว้างรักจากแม่ที่เลี้ยงดู จากเพื่อนที่อยู่เคียงข้างมาตลอดน่ะหรอ

เลิกรัก..ทำไม่ได้หรอก เราสั่งหัวใจตัวเองไม่ได้
แต่เลิกทำ เลิกเข้าใกล้  เราทำได้ เราสั่งได้นะลม 
ถ้าไม่สนใจ หากตัวเองจะเจ็บ ก็ช่วยใส่ใจ..หากคนที่รักลมเจ็บได้ไหม  สงสารแม่และดินนะ 

ปล. เหมือนจะมีปมบางอย่างเรื่องที่ลมถูกทิ้ง แล้วแม่(ที่เลี้ยง)ไม่ยอมบอก 
เฮ้อ..มาม่าหลายซองเลยเรื่องนี้  แต่เค้าก็จะอ่านต่อนะ ซาดิสไง  :laugh:

รออ่านตอนต่อไปคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 21-04-2010 16:48:00
เป็นกำลังใจให้สายลมที่เศร้าสร้อยได้สู้ต่อไป

 :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 21-04-2010 17:40:30
เป็นกำลังใจสายลมหาทางออกที่ดีให้ได้เช่นกันครับ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 21-04-2010 18:07:14
                                                     เสียงกระซิบจากลมหนาว 20



      ผมนั่งอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อมีคนมาเคาะประตูห้องน้ำ เป็นพี่ซัมเมอร์นั่นเอง พี่เค้ามองผมแปลกๆก่อนจะมาช่วยพยุงผมขึ้น

"ลมเป็นอะไรเหรอ หรือไม่สบาย"

"เปล่า เราไม่เป็นไรหรอก แต่เรา.....เราอยากกลับบ้าน" ผมก้มหน้านิ่งและกัดปากจนเป็นเส้นตรง

"ไหนลมบอกจะค้างกับเราไง เนี่ยไอดินก็กลับไปแล้วด้วย"

     พี่ซัมเมอร์จูงผมที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมานั่งที่ปลายเตียง ก่อนจะช่วยผมเช็ดผมอย่างเบามือ พี่บอกว่าไอดินขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระ ผมไม่เชื่อว่าไอดินจะทิ้งผมไว้ แต่......แต่พี่ซัมเมอร์จะโกหกผมไปเพื่ออะไร ไอดินอาจจะมีธุระด่วนจริงๆก็ได้


แต่ก็น่าจะบอกกันสักหน่อย


"ลมคิดอะไรอยู่เหรอ"

"เปล่า" ผมปฎิเสธไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก

"เราไม่เชื่อหรอก ลมบอกเราหน่อยได้ไหม หรือไม่เห็นเราเป็นเพื่อน" พี่ซัมเมอร์นั่งหันหลังให้ผมอย่างงอนๆ ผมเอื้อมมือไปแตะบ่าเค้าเพื่อนจะให้เค้าหันหน้ามาคุยกันดี

"ซัมเมอร์คือเพื่อนของเรานะ แต่เรื่องนี้มันบอกไม่ได้จริงๆ"

"เรื่องของพี่ออทัมรึเปล่า" คำพูดของพี่ซัมเมอร์ทำเอาผมสะอึก พี่.....พี่พูดเหมือนรู้อะไรบางอย่างเลย หัวสมองผมประมวลกลั่นกรองคำพูดให้มันออกมาดีที่สุดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นแต่งให้มันดูปกติที่สุด แต่มันก็แข็งๆอยู่ดี

"เปล่า เราคงจะง่วงน่ะ" มือผมชื้นเหงื่อไปหมด ผมลุกขึ้นยืนเต็มตัวก่อนจะพยายามเดินไปใส่เสื้อผ้า แต่กลับถูกพี่ซัมเมอร์ดึงเอาไว้ จนหล่นตุบลงนั่งตักเค้า มือหนาลูบแผ่วเบาตรงบ่าผมก่อนจะพึมพำเสียงเบา หากแต่ผมที่อยู่ใกล้กลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

"หึ อย่างนี้สิน่าสนุก"

"นายพูดเรื่องอะไร" ผมพยายามแกะมือที่รัดตรงเอวออก เมื่อพบว่ามันเริ่มไม่ปกติ

"ป๊าวววว ก็แค่พูดลอยๆน่ะ ลมอย่าใส่ใจเลย"

".........."

     พี่ซัมเมอร์กอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆจนผมหายใจแทบไม่ออก พี่หัวเราะเบาๆก่อนจะฝังหน้าลงบนแผ่นหลังของผม ผมจึงดิ้นหนังมากขึ้นเป็นเท่าตัว

"ลม วันนี้วันเกิดเรา เราขอของขวัญพิเศษจากลมนะ ได้ไหม?"

"เอ่อ.....แต่เราเตรียมของขวัญมาให้นายแล้วนะ"

"ก็ของขวัญที่ลมให้เราก็ส่วนที่ลมให้สิ ส่วนที่เราขอมันเป็นคนละส่วนกัน" พี่ซัมเมอร์พยายามอธิบาย

"แต่นายขอให้เราค้างด้วยแค่นั้นนี่"

"ก็จะเอาอีกอ่ะ" พี่ถามเสียงงอนๆ แล้วถอนสายใจพรืดใหญ่

"ถ้าให้ได้ก็จะให้"

"จริงๆนะ"

"อืม"

  แล้วเราทั้งสองคนก็เงียบไป พี่ซัมเมอร์ทำท่าคิดหนักว่าจะพูดดีไหม ส่วนผมก็นั่งรอฟังว่าพี่เค้าจะขออะไรจากผมกันแน่ ถ้าผมให้ได้แน่นอนว่าผมเต็มใจจะให้พี่อยู่แล้ว


ไม่ว่าอะไร


"ให้เรา......ให้เราเรียกลมว่า'วินด์'บ้างได้ไหม"


"ทำไมถึงอยากเรียกเราแบบนั้นล่ะ" ถามไปแบบนั้น แม้ในใจลึกๆแล้วจะดีใจจนแทบเต้น พี่อยากเรียกผมด้วยชื่อนั้น เหมือนผมเป็นคนนึงในครอบครัว


ดีจัง


งั้นผมจะถือว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดจากพระเจ้าละกัน......ขอบคุณครับพระเจ้า


"ก็เราก็อยากจะเป็นคนพิเศษเหมือนกับไอดิน อยากเรียกแบบนั้นบ้างน่ะ" ผมยิ้มให้พี่ซัมเมอร์ก่อนตอบ

"อืม อยากเรียกเราว่าอะไรก็ได้แล้วแต่จะเรียกเลย"

"อื้มมม วินด์"

     ใช่แล้วครับพี่ วินด์......สายลมเอื่อยๆจะมักจะหอบเอาลมหนาวพัดผ่านผู้คน สายลมที่ผู้คนต่างขยาด ฤดูร้อนที่แสนอบอุ่นอย่างพี่คงไม่เข้าใจ แต่......ผมก็มีอยู่เพื่อใหเผ้คนได้เปรียบเทียบความหนาวเหน็บกับฤดูร้อนแสนสุข

เหมือนเราสองคนไงครับ.......พี่ชาย

อยากเรียก.....อยากเรียกพี่ซัมเมอร์ว่าพี่ชาย......อยากเรียกพี่ชาย

เป็นของขวัญวันเกิดที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน

ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย





"พี่ชาย......."

     ผมกอดร่างของพี่ซัมเมอร์ที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขแน่นขึ้น ผมได้เรียกเขาพี่ชายสมใจแล้ว ผมได้เรียกพี่แล้ว วันเกิดของเราสองคนวันนี้ ขอให้พี่มีความสุขกับชีวิตของพี่กับทุกสิ่ง แล้วความทุกข์ทั้งมวลสายลมอย่างผม จะหอบมันแล้วพัดหายไปเอง

ขอให้พี่มีรอยยิ้มที่สดใสเสมอไป

ผมรักพี่นะครับ



    เช้าแล้วแต่พี่ซัมเมอร์ยังไม่ตื่น ผมใช้มือเกลี่ยผมที่ลงมาปกใบหน้าของพี่ออก พี่ซัมเมอร์ขยับตัวเลขน้อยก่อนจะปรือตามองผมแล้วส่งยิ้มให้ พี่ลุกไปอาบน้ำแล้วแต่ผมยังนอนอยู่ที่เดิม อยากจะซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในความทรงจำ

แล้วมันจะอยู่ในใจผมตลอดไป


    ผมเดินลงไปข้างล่างก็พบว่าไอดินนั่งหน้าบูดอยู่ ใบหน้าของเขาฟกช้ำเต็มไปด้วยบาดแผล พอไอดินเห็นผมเดินลงมาก็รีบปรี่เข้ามาหา ก่อนจะละล่ำละลักถามอย่างเป็นห่วง

"ลม!!เป็นไงบ้าง มันทำอะไรรึเปล่า!!"

"ใจเย็นๆสิไอดิน กูไม่เป็นไร แล้วนี่มึงไปทำไรมาเนี่ย"

   ไอดินไม่ตอบแต่กลับมองไปทางพี่ซัมเมอร์อย่างอาฆาตแค้น พี่ซัมเมอร์ยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาก่อนจะเดินมาจูงมือผมไปทางโซฟา

"วินด์อย่าเพิ่งกลับเลยนะ" พี่ซัมเมอร์เรียกชื่อผมก่อนจะหันไปมองไอดินอย่างเย้ยๆ ผมมองหน้าพี่ซัมเมอร์อย่างไม่เข้าใจ ทำไมพี่ต้องมองไอดินแบบนั้นด้วย
 
"วินด์กลับกันเถอะ"

"อืม ซัมเมอร์เรากลับก่อนนะ ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงจะมากแล้ว" ผมขอตัวกลับก่อนจะลากไอดินที่ทำท่าจะกระโจนไปหาพี่ซัมเมอร์หลายครั้ง พอมาถึงที่รถเราสองคนต่างเงียบไป ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวจึงเปิดฉากพูดก่อน

"มึงไปมีเรื่องกับใครมา" ผมยกมือขึ้นเตะเบาๆตรงบาดแผลที่ริมฝีปากของมัน ไอดินซีดปากแต่ก็ไม่ปัดมือผมออก มันจ้องตาผมด้วยสายตาจริงจัง

"ไปถามพี่ชายที่แสนดีของมึงสิ"  แววตาจริงจังของเขาทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น แต่พี่ซัมเมอร์น่ะเหรอหรือจะเป็นพี่ออทัม

"ไอ้ซัมเมอร์" ไอดินไขข้อข้องใจ พี่ซัมเมอร์น่ะเหรอ พี่เขาจะทำร้ายไอดินไปทำไม ผมไม่เข้าใจ พี่ซัมเมอร์มีเหตุผลอะไรกันแน่

"พี่ซัมเมอร์จะทำร้ายมึงทำไม"

"ถ้ามึงไม่เชื่อกูที่มึงรู้จักมาทั้งชีวิตก็ตามใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นกูก็ไม่มีอะไรจะพูด มึงจะเชื่อพี่ชายที่มึงคิดว่าแสนดีนักดีหนาก็ตามใจ"

"ไม่ใช่อย่างนั้น"

"ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันอย่างไหนล่ะ?"

"..........."

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าพวกมันจะทำเหี้ยกับมึงขนาดไหน มึงก็มองพวกกมันแสนดียิ่งกว่าพระเจ้า แล้วกู......กูคนนี้ล่ะ กูคนนี้ที่ทำดีกับมึงทุกอย่างมึงไม่เคยเชื่อกูเลย"

"..........."

"กูทำอะไรให้มึง.....มึงเคยเห็นบ้างไหมวิน กูคอยอยู่เคียงข้างมึง เวลาที่ไอ้พี่เหี้ยๆของมึงทำร้าย แล้วเป็นไง.....พอกูบอกว่ามันทำร้ายกูมึงกลับไม่เชื่อ คิดว่ากูโกหก กูก็คนนะมึง"

"..........." ไอดินสะอื้นเบาๆ เขากำลังร้องไห้ ร้องไห้เพราะคนอย่างผมอีกแล้ว

"กูมีความรู้สึก รักเป็น เจ็บเป็น พอมึงทำแบบนี้กับกูมากๆ กูก็เหนื่อย.....ขอร้องล่ะวินด์....."

".........."

"มึงช่วยหยุด......หยุดซะทีเถอะ......คุณป้า......คุณป้าร้องไห้เพราะมึงทุกวันเลย รู้รึเปล่า......"

แม่ร้องไห้เพราะผมเหรอ........แม่ร้องไห้ทุกวันเลยเหรอ ผมมัน........ผมมัน.....แย่ที่สุดเลย

"กู........."

"มึงจะไม่หยุดใช่ไหมวินเทอร์......ก็ไอ้พวกนั้นมันเริ่มดีกับมึงแล้วนี่ สนิทกันจนถึงขนาดเรียกชื่อนั้น" ไอดินหัวเราะขื่นๆ ผมก้มหน้านิ่งไม่รู้จะพูดอะไร รู้เพียงแต่ว่าน้ำตาของมัน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

"กู......กูขอโทษ......"

"เก็บคำขอโทษของมึงไว้ซะลม........"

     ไอดินเรียกชื่อผมอย่างห่างเหิน แล้วผินหน้าออกหน้าต่าง อย่างไม่ยอมหันมาสบตากับผมอีกเลย ผมพูดอะไรก็ไม่ยอมฟังหรือทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ไอดินโกรธผมแล้ว โกรธคนโง่ที่ไม่ยอมเชื่อใจ

ไม่ยอมเชื่อใจเพื่อนที่ยืนเคียงข้างผมมาตลอดอย่างมัน

โกรธที่ผมเชื่อพี่ชายที่รู้จักกันแค่ไม่กี่วันอย่างพี่ซัมเมอร์

    ซักวันนะไอดิน.......ซักวัน......ซักวันกูจะกลับไปเป็นคนเดิม กลับไปยืนตรงจุดเดิม เดินกลับไปยังอดีตที่มีเพียงเราสองคน เดินผ่านกาลเวลาที่มีไอดิน กลิ่นฟ้าและสายลม

อีกแค่ไม่นาน.....เรื่องทุกอย่างจะจบลง

และเราจะก้าวผ่านมันไปได้นะ

.................เพียงแค่รอเวลาหมุนผ่าน................


****
จบไปอีกตอน
เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 21-04-2010 18:33:14
คนที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็คือลม ที่เล่นกับความรู้สึกของทุกคน รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอะไร ก็ยังให้มันเกิดขึ้น จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวของลมเอง


เห็นด้วยอย่างแรง o13
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 21-04-2010 18:39:42
เศร้า....
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 21-04-2010 18:58:02
ลมจะทนต่อไปเพื่ออะไร ลมก็เจ็บ ไอดินก็เจ็บ เเม่ของลมก็เจ็บ
มันคุ้มเเล้วเหรอกับความรู้สึกของคนหลายคนที่เอาไปเเลก
กับความรู้สึกของลมที่อยากจะใกล้ชิดกับครอบครัวที่เเท้ของลมอ่ะ

เป็นกำลังใจให้เรื่องนี้ต่อไป มาต่อเร็วนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 21-04-2010 19:13:17
 :o12: :o12:


เศร้าอีกเเล้วอ่ะเเง้
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-04-2010 21:07:04
อ่านแล้วก็ลุ๊น ลุ้น o//o
เหอๆ สุดท้ายแล้วลมไม่ต้องคู่กับใครหรอกค่ะ มาให้เราดูแลแทนแระกันเนอะ  :laugh:
 :กอด1: ลม และไรเตอร์ อย่าทรมานกันมากสิคะ เจ็บจี๊ดๆ T^T
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 21-04-2010 23:40:06
 :m15: สงสารไอดิน
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 21-04-2010 23:45:10
รันทดอ่ะ  หม่นหมองประคองอารมณ์มากเลย
สงสารไอดินจัง สงสารลมด้วย เศร้า  :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-04-2010 23:53:51
เริ่มสงสารไอดิน คงไม่สงสารลมแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-04-2010 12:54:38
 :monkeysad:สงสารไอดินจับใจ

ลม ก็ใจอ่อนเกินไป  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 23-04-2010 07:55:24
มาอ่านเรื่องนี้แล้วคนละอารมณ์กะเรื่องไป่เลยนะคะ

เศร้าๆ อึมครึม ดีจังเลย

ลมโหยหาความรักจนลืมรักของคนที่อยู่ข้างๆ กายไปซะแล้ว

น่าสงสารไอดิน  :impress3:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: CocO naTtH mIlK ที่ 23-04-2010 15:38:22
ปกติก็ไม่ค่อยได้ออกความเห้นหรอกนะครับ เพราะว่าอ่านแล้วก็สนุกดี แต่ว่าเรื่องนี้ ไม่ไหวอ่ะ อ่านแล้ว "สมเพช" ลม มากมาย ทำไมถึงได้ทำตัว "ต่ำ" ขนาดนี้ก็ไม่รู้....อ่านแล้วมันให้ความรู้สึกของคนที่อยู่อีกด้านนะครับ

ต้องขอชื่นชมคนแต่งนะครับ ที่เขียนได้เห็นภาย เห็นความรู้สึกชัดมากมาย แต่ในเรื่องโดยทั่วไปก็ยังรู้สึกว่า ลม เป้นคนที่น่าสมเพชอยู่นั่นเอง...วิธีการแก้ปัญหา หรือว่าอยู่ใกล้กับคนที่รัก หรือจะทำอะไร มีเยอะแยะไป ปัญหา 1 ข้อ ไม่ได้จำกัดวิธีการแก้ไขที่ 1 วิธีการ แต่เพียงคุณลองได้พิจารณาแล้วมองดูมัน คุณก็จะได้คำตอบเองว่าควรทำอย่างไร

ทำอะไรก็ทำได้ แต่อยู่บนความถูกต้องและไม่สร้างความเดือดร้อน อันนั้นน่าจะดีกว่า

 :L2:มอบให้คนแต่งครับ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: diedfoxx ที่ 23-04-2010 17:15:48
 :เฮ้อ:
มีหลายคำที่อยากบอก
แต่ จะรอติดตามต่อไป :)
ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจให้น้องลมอยู่เสมอ
...
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 23-04-2010 17:47:17
ขอบคุณค่า..

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกรังเกียจสายลมเหลือเกิน..เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว..

ไหนๆ ก็จะเลือกพี่ชาย แล้วทำไมไม่ปลดปล่อยไอดินเสียดี..โลภเกินไปรึป่าว..

สุดท้ายสายลมคงไม่เหลือใครซักคนละมั้ง..
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-04-2010 20:00:44
ไอดิน คงเสียใจน่าดูที่ได้ยินซัมเมอร์เรียก ลม ว่า วินด์
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-04-2010 20:16:43
เรื่องอะไรกันเนี่ย อินจนจิตตก
แต่ก็ชอบนะ ปมเยอะดี
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: Lunaeve ที่ 24-04-2010 01:05:23
ลมก็คือลม ลมที่ไม่เคยหยุด
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 26-04-2010 20:07:28
                                                                     เสียงกระซิบจากลมหนาว 21




"ไอดิน......กู....."


"กูอยากอยู่คนเดียว......"


     ไอดินเดินจากไปแล้วแต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน อยากยืนอยู่ตรงนี้......ยืนรอให้เขาเดินกลับมาแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไร


นี่ผมหวังมากไปเหรอเนี่ย


   เมื่อกี้ท้องฟ้ายังสดใสอยู่เลย แต่ตอนนี้ท้องฟ้ากลับอึมครึมลงและหม่นหมอง เหมือนหัวใจของผมตอนนี้ ฟ้า......ฟ้าก็กำลังโกรธเราอยู่ใช่ไหม โกรธ......ที่เราไม่เชื่อใจไอดิน โกรธ......ที่เราทำให้ไอดินร้องไห้


    ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนนที่ถอดยาว ยังไม่อยากกลับบ้าน ผมอยากหนีไปให้ไกล หนีจากปัญหาที่ตัวเองเป็นคนก่อ.....ผมมันทุเรศสิ้นดี.......


     ฝนโปรยปรายลงมาทำให้ผมต้องหลบไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ฟ้ากำลังร้องไห้......ร้องไห้ที่ผมทำให้พี่ชายของเธอเจ็บปวด ผมนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ


"ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ" เสียงเล็กๆเรียกความสนใจของผมให้หันไปมองผู้มาใหม่ เธอส่งยิ้มเล็กๆให้ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ

"ลมมาทำไรแถวนี้เหรอ....." เธอเอามือกอดอกตัวเองอย่างหนาวสั่น ผมถอดเสื้อนอกของตัวเองให้เธอใส่ เหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาวสะอาดของตัวเอง เธอส่งยิ้มให้ผมอย่างขอบคุณ

"ขอบใจจ๊ะ.....ลม.....ลมรู้จักเรารึเปล่า.....คงไม่รู้จักล่ะสิ" ดูเหมือนเธอจะพูดเองเออเองเสียมากกว่า เธดูสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้าเลย

"เราชื่อน้ำ สายน้ำ....สายน้ำกับสายลม ว้าววว ชื่อเข้ากันดีจัง อย่างนี้เป็นแฟนกับเราไหม" เธอพูดติดตลก

"แล้วน้ำรู้จักชื่อเราได้ยังไง"

"ก็แหม ลมเราน่ะเพื่อนเยอะจะตายไป สายข่าวทั่วโรงเรียนแหละ และยิ่งลมสนิทกับซัมเมอร์ด้วยแล้วทำไมจะไม่รู้จักล่ะ"

"เหรอ"

"อื้มมม" แล้วเราก็เงียบกันไปพักใหญ่ ฝนยังลงตกอย่างบ้าคลั่งทำให้ตัวของผมเปียกซกไปหมด

"น้ำนี่ดีจังเลยเนอะ......." น้ำหันมาสนใจผมอีกครั้ง ไม่รู้สิ.....เวลานี้ ผมรู้สึกอยากระบายออกไปบ้าง..... ระบายให้เธอฟัง ด้วยอะไรก็แล้วแต่.....ทั้งๆที่เราแทบไม่รู้จักกันเลยแท้ๆ

"ก็น้ำน่ะ......มีเพื่อนฝูงมากมาย มีรอยยิ้มที่สดใส......ใครก็อยากคบหา ไม่เหมือนเรา........."

"ลม.....การมีเพื่อนมากก็ใช่ว่าจะดีหรอกนะ เพราะเราเข้ากับคนง่าย เลยทำให้เรามีเพื่อนมากมาย แต่.....เราไม่มีเพื่อนสนิทเลยซักคน เราไม่มีเพื่อนที่ยืนอยู่เคียงข้างเรายามที่เราเสียใจ ไม่มีเพื่อนที่เราสามารถไว้ใจสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีเพื่อนที่เชื่อใจเรายามที่คนอื่นพากันหันหน้าหนี"

"........."


"เราเห็นไอดินอยู่กับลมตลอด รู้ไหมมันทำให้เราอิจฉาลม อิจฉาที่ลมมีเพื่อนที่แสนดีอย่างไอดิน อิจฉาลม......อิจฉาที่ชีวิตนี้เราคงหาเพื่อนที่ดีอย่างไอดินได้อย่างลมหรอก"

"แล้วเมื่อลมมีอยู่......ลมก็รักษาเพื่อนคนนี้ไว้ดีๆล่ะ"

แต่......แต่ผมทำร้ายเค้าจนเกินอภัยแล้ว.....ไอดิน......

"และการที่เราอยากจะได้ความรักจากคนอื่นน่ะ เราต้องรู้จักการให้ก่อน ให้ความรักกับเค้า ให้ความจริงใจที่เรามีอยู่.....แล้วซักวัน.....เค้าก็จะมองเห็นมันเอง"

"..........."

"เชื่อเรานะลม ถ้าลมอยากมีเพื่อนเยอะอย่างเรา ลมต้องรู้จักที่จะยื่นมิตรภาพให้เค้าก่อน รู้จักให้ก่อนจะรู้จักรับ ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรไปหรอก เพียงแต่สิ่งที่เสียไปและได้มามันจะคุ้มกันไหม แค่นั้นแหละ"

"อืม......."

"และเห็นไหม ตอนนี้เรากับลมก็เป็นเพื่อนกันแล้ว คิดดูสิ.....ถ้าเราไม่มาทักลม มาคุยกับลม แล้วเราจะเป็นเพื่อนกันไหม.....แต่ลมนี่ก็น่าอิจฉานะ มีเพื่อนหล้อหล่ออย่างไอดิน อิอิ"

"ขอบใจน้ำมากนะ....."

"แหม ไม่เป็นไรหรอก แต่เราจะเตือนลมอย่างนะ เรื่องสองพี่น้องออทัมซัมเมอร์น่ะ" คำพูดของน้ำทำเอาผมสงสัย

"ก็สองพี่น้องตัวแสบนั่นน่ะ ชอบพนันกันแปลกๆบ่อยๆ ระวังตัวด้วยนะลม แล้วจะเสียใจ....เราไปแหละ ฝนหยุดแล้ว"


     คำพูดของเธอ ทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องของไอดินหรือเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา......ผมหวัง.....หวังที่จะเป็นผู้รับตลอดมาเลยสินะ......

ผมไม่เคยให้เลย





::::::ไอดิน::::::


    ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาคนนั้นก็ไม่เคยเลย ไม่เคยที่จะเชื่อใจกัน ไม่เคยจะเชื่อมั่นในความรักความห่วงใยที่ผมมอบให้ แต่ว่า.....แต่ว่าทำไม ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยที่จะหยุดรัก

     เมื่อวานเป็นวันเกิดของไอ้วินด์มัน ผมรู้ว่ามันต้องการอะไร และหากผมหามาให้ได้แม้ดาวและเดือนผมก็พร้อมหาไปไขว่คว้ามามอบให้ แต่มันก็ยังเป็นมัน มันที่มีชิวิตยึดติดกับอดีต ผมพามันไปยังสถานที่ๆวินเทอร์มันอยากไป แม้ว่าหัวใจของผมจะถูกทำร้าย แต่ผมก็เอาหัวใจออกห่างจากมันไม่ได้ เหมือนๆกับที่มันจะแยกจากอดีตไม่ได้นั่นแหละ

      ผมเดินเข้าไปในบ้านนั้นกับมัน ภายในบ้านกำลังคึกคักกันได้ที่ ดูๆไปมีแต่เพื่อนๆในกลุ่มของไอ้สองพี่น้องนั่น ผมกลัวเหลือเกิน กลัวว่าวินด์มันจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่รู้สิ.....ผมไม่เคยเชื่อใจคนพวกนี้  ไอ้ซัมเมอร์จะให้ไอ้วินด์ค้างกับมันแต่ผมไม่ยอม เถียงกันไปนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอม มันเดินมากระซิบกับผมว่า 'ไม่ว่ายังไงคืนนี้เมียมึงก็ต้องเป็นของกู' ผมแทบอยากจะเข้าไปฆ่ามัน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะผมรู้ว่าผลสุดท้ายคนที่จะเจ็บที่สุดคือไอ้วินเทอร์

     ไอ้ซัมเมอร์ลาไอ้วินด์ออกไปแล้ว ผมเดินตามไปเพราะไม่อาจจะไว้ใจให้ไอ้วินด์อยู่กับไอ้ซัมเมอร์ตามลำพัง สงครามปาเค้กเริ่มขึ้นและจบลงด้วยสภาพเสื้อผ้าที่เละเทะไม่มีชี้นดี ไอ้วินด์ถูกแยกจากผมไปแล้ว ผมห้ามอะไรไม่ได้เลย ทำไมผมถึงทำได้แค่นี้? ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มด้อยค่าขึ้นมาทันที....

    ขณะที่เดินไปตามทางเดิน พวกของไอ้ซัมเมอร์กลุ่มใหญ่ก็มาขวางทางเอาไว้ สงสัยว่าวันนี้ผมคงจะได้ออกกำลังอย่างหนักซะแล้วสิ.......

   

****
ท้ายๆนี่งงหน่อยนะคะ
คือเราก็งงๆอยู่ด้วยเหมือนกัน เนื้อเรื่องก็เลยไปด้วย แฮะๆ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 29-04-2010 02:09:19
วินด์เมื่อไหรจะคิดได้
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 29-04-2010 12:25:06
วินด์กำลังทำให้ทุกคนเจ็บ ตัวเองก็เจ็บด้วย
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 29-04-2010 19:21:02
รอบนี้มาสั้นจัง

ไอดินสู้ๆๆๆๆๆๆ :L2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 29-04-2010 19:34:46
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-04-2010 21:06:39
เอาอีกอ่า...นะน๊าาา :impress2:
มัน... :sad4:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 29-04-2010 22:33:02
ง่ะเศร้า :m15:
ชีวิตบัดซบ :L3:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 25-05-2010 15:27:32
เศร้ามาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยคับเรื่องนี้ Winter น่าสงสารสุด ๆ :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 25-05-2010 17:42:40
                                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 22








   แท้จริงแล้วพระเจ้าหรือใครเป็นคนกำหนดโชคชะตากัน ชีวิตของผมเริ่มยุ่งมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ตั้งแต่ผมตัดสินใจมากรุงเทพหรือตั้งแต่ผมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของแม่กันแน่


รู้ว่าตัวเองมีพี่น้องอยู่.........รู้ว่าผู้ให้กำเนิดกับผู้ที่ชุบเลี้ยงมาไม่ใช่คนๆเดียวกัน


รู้ว่า.....พวกเค้าทิ้งผมเอาไว้


แล้วผม ผมก็ต้องการจะตามหา


โดยที่ผมก็ให้เหตุผลกับตัวเองว่า อยากจะรู้จัก อยากจะเก็บรอยยิ้มของพวกเค้าไว้ในความทรงจำ


แต่แล้วนับวัน......มันยิ่งมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น


    เหมือนไม่รู้จักพอ ปัญหาหาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคำว่า.....อยาก.....คำเดียว แล้วทางแก้ล่ะ มันคงไม่ยากหากเราจะทิ้งคำว่า.....'อยาก'ไป


    แต่ผมกลับทำมันไม่ได้ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำให้ทุกคนเสียน้ำตา แต่ผมกลับคิดว่าเป็นผมเองที่เจ็บกว่าทุกคน ทั้งๆที่ความจริงแล้วทุกคนก็เจ็บไม่ต่างกัน ผมมันมองความเพียงด้านเดียวสินะ


ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ผมมันเป็นตัวปัญหา ขอโทษที่มองแต่ตัวเอง


สุดท้ายก็ได้แต่ขอโทษ.....แล้วเอาอะไรกลับมาไม่ได้


........เอาความรู้สึกที่เสียไปกลับคืนมาไม่ได้ เอาน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วกลับมาไม่ได้.........




     เช้าวันใหม่อากาศสดใสกว่าที่เคยเป็น แต่ผมกลับรู้สุกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะจับไข้ มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อขอกำลังใจจากคนๆนั้น คนที่อยู่ในใจของผมตลอดมา


ฟ้าก็ยังเป็นฟ้าของผมเสมอ


เหมือนกับที่ผมยังเป็นสายลมของเธอ



"ผมไปเรียนก่อนนะครับแม่"

     บอกลาแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถ เหลือบมองไปทางบ้านของไอดินก็พบว่ามันปิดสนิทและเงียบกริบ ยังโกรธอยู่แน่ๆเลย ผมจะทำยังไงมันถึงจะยอมยกโทษให้ผมนะ



"มาแล้วเหรอวินด์ มานั่งนี่สิ" ผมพาร่างที่เริ่มจะหนักอึ้งของตัวเองไปนั่งลงข้างๆพี่ซัมเมอร์ พี่หันมายิ้มสดใสให้ผมก่อนจะใช้แขนคล้องคอผมเอาไว้

"นายทำร้ายไอดินเหรอ" พี่ซัมเมอร์เพียงแค่แสยะยิ้มก่อนจะหันกลบเกลื่อนรอยยิ้มนั่นด้วยการดึงผมเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น เพื่อนๆของพี่ซัมเมอร์ก็มีแต่ส่งยิ้มให้กันอย่างแปลกๆเท่านั้น

"อะไรทำให้นายคิดแบบนั้นล่ะ" เขาช่วยปัดปรอยผมที่ตกลงมาปกหน้าของผมออกให้ แล้ววาดแขนโอบเอวของผมจากด้านหลัง

"ไอ้ไอดินมันบอกเหรอ........"

พูดเหมือนรู้

"แล้ววินด์ก็เชื่อ เราไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า ก็ไอดินเป็นเพื่อนของวินด์นี่ เราไม่ทำอะไรเค้าหรอก วินด์ไม่เชื่อเราเหรอ"

     ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อหรือไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าไอดินเป็นคนๆนึงที่ผมสามารถเชื่อได้เลยกับคำพูดของเขา เพราะเขาไม่เคยโกหกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ว่าไอดินไม่เคยโกหกเรา"

"งั้นกลายเป็นเราที่โกหกว่างั้น......." พี่ซัมเมอร์กอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆด้วยแรงโทสะ ลมหายใจติดขัดอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ผมได้แต่นั่งเฉยๆเพราะเริ่มมึนขึ้นเรื่อยๆ

"วินด์ไม่เชื่อเราเลยใช่ไหม วินด์จะเชื่อแต่มันใช่ไหม!!"

".........."

"ใช่สิ เราไม่ได้รู้จักกับวินมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องของนายนี่!!"

     ผมได้แต่กล้ำกลืนเอาคำพูดที่แสนจะบาดลึกเข้าไปในหัวใจนั้น ก่อนจะหันมาพยายามแกะมือของพี่ซัมเมอร์ออก มือหนาที่แข็งแกร่งดังคีมเหล็กไม่ยอมลดย่อนแรงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะเพิ่มขึ้น.....เพิ่มขึ้น......และเพิ่มขึ้น

"เราคงจะใจดีกับวินด์เกินไปใช่ไหม วินด์เลยถึงได้ดื้อกับเราแบบนี้ อย่าดิ้น!!!"

"......ปล่อยเรา......" ผมพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"ปล่อยเหรอ ฝันไปเหอะ"พี่ซัมเมอร์ออกแรงลากผมออกมาจากห้องเรียน ก่อนจะยัดผมเข้าไปในห้องเก็บของที่ทั้งแคบและอับ

"นายต้องการอะไรจากเราอีกล่ะ" เสียงที่แหบและเริ่มจะหายไปเรื่อยๆพร้อมกับสติของผมที่มันเลือนลางเต็มทน แต่ผมต้องเข้มแข็งเอาไว้.....

    ใบหน้าของเขาที่บิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธเริ่มชิดเข้ามา จนระยะห่างของเราเหลืออยู่ไม่กี่เซนต์ พี่ซัมเมอร์ขึงแขนทั้งสองข้างของผมติดกำแพง แรงบีบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมต้องนิ่วหน้าลงด้วยความเจ็บปวด

"ไอ้ไอดินมันลีลาเด็ดมากนักหรือไง มึงถึงได้ติดใจขนาดนั้นน่ะ"

".........." ได้แต่ร้องไห้ ผมมันอ่อนแอจริงๆ เพราะผมอ่อนแอถึงต้องเจ็บอยู่แบบนี้สินะ

"อ่อ.......แล้วติดใจพี่กูรึเปล่าล่ะ กูจะได้เรียกมาร่วมวงด้วย"

    สมองของผมเริ่มประมวลคำพูดของพี่ซัมเมอร์ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อความหมายที่ออกมามันทำเอาผมแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น......ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ารู้มาตลอดรึไง รู้มาตลอดใช่ไหม

พี่รู้เรื่องทุกอย่างเหรอ.......

แล้วทำไม.....ทำไมถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้นล่ะ!!!!


"ทะ......ทำไม.......ล่ะ.....ทำแบบนั้น.......กับผม...ทำ.....ฮึก....ไม" ทุกถ้อยคำกลั่นกรองออกมาอย่างยากลำบาก

"ร้องไห้เลยเหรอ หน้ามึงตอนร้องไห้นี่ก็ยั่วอารมณ์ดีนะ"

".........."

"พี่กูคงติดใจใบหน้านี้สินะ ถึงได้แอบไปหามึงบ่อยๆ"

"หยุด........."

"มึงก็ติดใจไม่ใช่เหรอ เห็นๆกันอยู่ เพราะมึงไม่ยอมบอกผัวมึงเลยนี่ ที่แอบไปเริงรักกับชู้บ่อยๆน่ะ"

"............." ผมเม้มปากแน่น รู้สึกราวกับว่าโลกใบนี้มันถล่มลงมาตรงหน้าเสียแล้ว ทำไมพี่ที่ผมเทิดทูนมาตลอดถึงได้เป็นคนแบบนี้ ทำไมพวกคุณถึงทำกับผมได้ล่ะ!!!

"มีชู้เพิ่มอีกคนเป็นไรไปล่ะ กูก็อยากจะรู้วว่าอย่างมึงนี่มันน่าติดใจตรงไหนกัน"

"หุบปากหมาๆของมึงซะที!!!" ผมตะคอกออกไปอย่างเหลืออด แรงอารมณ์ที่มันปะทุเดือดขึ้นมานั้นทำให้ผมลืมทุกสิ่งไปแล้ว

"มึง......มึงว่าไงนะ"

"........หยุดสบประมาทผมซะที!!หยุดซะที!! ฮึก.......ผมไปทำอะไรให้พวกคุณ!! ทั้งๆที่.......ผมแค่ต้องการอยู่ใกล้พวกคุณ.....ผมผิดมากนักรึไง!!"

"............"

"ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น........และทำไม......ทำไมถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย!!!"

"ทำไม......ฮึก.......ทำไมล่ะ ทำมายยยยยยยยยยย!!!!" กรีดร้องแลละดิ้นพล่านอย่างดันทุรัง แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ ได้แต่กรีดร้องทุรนทุรายราวกับคนบ้า








ผมเริ่มรู้สึกว่าแสงสว่างห่างไกลออกจากตัวทุกที......เหมือนกับว่าร่างกายค่อยๆจมลงในความมืดที่เวิ้งว้างและเงียบเหงา


ลึกลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ


ลึกเสียจนผมกลัวเหลือเกิน.......


กลัวว่าผมอาจจะออกมาจากความมืดนั้นไม่ได้เสียแล้ว......






***
อัพจนจบเลยดีกว่าเนอะ
แฮ่ๆ

หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 25-05-2010 17:54:08
                                                                เสียงกระซิบจากลมหนาว 23





แหมะ.........แหมะ......


     เสียงน้ำหยดลงกระทบอะไรซักอย่างปลุกผมให้ลืมตาตื่นขึ้นมา ที่นี่ที่ไหนกัน.......หรือว่าผมจะตายแล้ว? ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนจะพยายามเรียกสติกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันก็ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียน

"............"


    ความเงียบที่อยู่เป็นเพื่อนทำให้ผมหันมองไปรอบๆ และพบกับใครคนนึงที่คุ้นตานั่งสับผงกอยู่ข้างๆเตียง ใครคนนึงที่ผมไม่อยากจะมองหน้า


   หันหน้าหนีไปทางหน้าต่างก่อนจะพยายามยันตัวขึ้น ทันทีที่เท้าของผมสัมผัสกับพื้นที่เย็นเหยียบ คนที่ผมไม่อยากให้ตื่นก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเสียได้

"ตื่นแล้วเหรอ......อยู่ๆก็สลบไปเล่นเอาตกอกตกใจหมด" คนๆนั้นหันมาคาดโทษ


    ต่อไปนี้......คงไม่มีอีกแล้ว.......รอยยิ้มที่สดใสราวกับพระอาทิตย์ยามเช้า.....เสียงหัวเราะดั่งระฆังแก้วจากสรวงสวรรค์.....ความอบดุ่นดั่งฤดูร้อนเฉกเช่นชื่อของเจ้าตัว


ไม่มีอีกแล้ว.......ไม่มีอีกเลย


    ก็ในเมื่อทั้งหมดมันคือเรื่องที่เขาเสแสร้งแกล้งทำขึ้นมาเองหมด! จะให้โทษชะตาฟ้าดินหรือใครกันที่เรื่องราวมันออกมาแบบนี้ หากแต่คำตอบผมก็รู้เองอยู่แล้วว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะผม.......


เป็นเพราะผมที่ดันทุรังดิ้นรนเอง


   แล้ววันนี้เจ็บพอมั้ยล่ะ กับบทเรียนแสนล้ำค่าที่ทุกคนมอบให้.......กับความเจ็บปวดเกินจะเยียวยาให้มันหายไปจากจิตใจ เพียงแค่มองหน้าพวกเขา.....หัวใจของผมมันก็เต้นตุบๆไปด้วยความเจ็บปวดและความทรงจำแสนโหดร้ายที่ตามมาคอยทำร้ายจิตใจอยู่เสมอๆ


"เรามาต่อจากเมื่อกี้กันดีมั้ย......"

    ผมมองเขาคนนั้นอย่างผิดหวังในคำพูด แต่ก็นั่นแหละ.....จะเอาอะไรกับคนอย่างเขากัน ก็ในเมื่อเขายอมเข้าใกล้ผมเพราะเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว......แต่ผมทำไม่ลง ผมแลกเรื่องแบบนั้นกับความรักไม่ได้อีกแล้ว บทเรียนก็มีให้เห็นอยู่


"นายมันทุเรศ"

"หึ.......เหรอ ก็คงไม่ทุเรศไปกว่าตัวมึงหรอกนะ อะไรกันกับอีแค่ยอมรับกูเป็นผัวอีกคน มันจะตายเลยหรือไงกัน?"

"หยุด......."

"ทำไม รับไม่ได้หรือไง กูพูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้นะ"

ผลัก!!!

   ร่างของพี่ซัมเมอร์เซไปตามแรงก่อนจะล้มลงกองพื้น ผมมองมือของตัวเองที่ชกหน้าเขาสลับกับใบหน้าที่ขึ้นสีไปข้างนึงของเขา เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงจากมุมปากช้าๆก่อนที่เขาจะใช้มือเช็ดมันออกอย่างไม่ใยดี

"มึง!!"

"ผะ.......ผม......ผมขอโทษ"

    ผมรีบเข้าไปผยุงพี่ซัมเมอร์แต่กลับถูกพี่เขาผลักออก ร่างสูงเดินหุนหันพลันแล่นออกไป ทำให้ผมวิ่งตามด้วยความรู้สึกผิด พี่ซัมเมอร์วิ่งไปเรื่อยๆลัดเลาะผ่านตึกเรียนต่างๆจนออกจากเขตโรงเรียน

"ซัมเมอร์!! ซัมเมอร์!!!"

    วิ่งตามทั้งๆที่ร่างกายอ่อนล้าเต็มทน แต่ก็กัดฟันข่มฝืนเอาไว้.......นั่นไง......พี่ซัมเมอร์อยู่นั่น เขากำลังจะข้ามถนนไปแล้ว......

"ซัมเมอร์!!พี่ซัมเมอร์!!!"

     ผมวิ่งตามเขาไปเรื่อยๆจนไปกึ่งกางถนน พี่อยู่แค่เอื้อม.......แค่ผมเอื้อมมือออกไป แต่......แต่ทำไมมันเหมือนอยู่ไกลเหลือเกิน เสียงตะโกนโหวกแหวกอึ้งอึงไปหมด จนหูของผมแทบจะไม่ได้ยินหรือรับรู้เสียงแตรรถที่ดังถี่ๆนั่นเลย......


   ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง......เมื่อพี่ซัมเมอร์หันมาสบตากับผมก่อนจะเบิกตากว้าง.......เหมือนพี่จะพูดอะไรซักอย่างแต่หูของผมเหมือนจะพิการไปชั่วขณะ

"ระวัง!!!!!!!"


    ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งก่อนที่ร่างของผมจะถูกแรงอะไรซักอย่างผลักออกไปอย่างสุดแรง ร่างของผมลอยไปตามแรงก่อนจะกระแทกลงกับพื้นถนนอย่างแรง เสียงกรี๊ดและเสียงวัตถุกระทบกันดังสนั่นไปหมด ผมนอนนิ่งด้วยความจุกและทำอะไรไม่ถูกจนมีใครซักคนวิ่งเข้ามาช่วยผยุงผมเอาไว้

"หนูๆ เป็นอะไรรึเปล่า!!"

     ผมส่ายหน้าก่อนจะมองรอบๆด้วยความขลาดกลัว......เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น......และเมื่อสายตาผมเหลือบไปเห็นร่างโชกเลือดของใครคนนึง เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบเข้าศรีษะอย่างจัง เหมือนหัวใจมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆยังไงยังงั้น.......

"พี่ครับ!! ฮึก......พี่ ฟื้นสิ ฟื้นสิ!!!"

     ผมกอดร่างที่โชกเลือดของเขาเอาไว้ ก่อนจะกระโกนอย่างบ้าคลั่ง......พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ อย่าทิ้งผมไปนะ.....เพียงแค่พี่ลืมตาตื่นขึ้นมา ขอเพียงแค่พี่ตื่นขึ้นมา.....แล้วต้องการอะไรจากผม.....แม้ชีวิตของผม หากพี่ต้องการผมก็ให้ได้


เพียงแต่ตอนนี้.......ได้โปรดตื่นขึ้นมาเถอะครับ!!


    เสียงเบรกรถเสียงดังตามมาด้วยบุรุษพยาบาลกรู่เข้ามา ผมได้แต่มองพวกเขาพาร่างของพี่ซัมเมอร์ขึ้นรถอย่างทุลักทุเล.....

"อ่าว.....หนูรีบขึ้นรถสิ"

    สิ้นคำพูดของเขาผมก็รีบวิ่งขึ้นรถทันที ไม่สนเลือดที่ซึมออกมาจากเข่าแม้แต่น้อย......เวลานี้ผมไม่มีอารมณ์มาสนใจอะไรทั้งนั้น......ได้แต่กุมมือของเขาเอาไว้แน่น พร้อมๆกับหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัวเร็วแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ไหลเวียน

"พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ......อย่าเป็นอะไรไปนะครับ......พี่ครับ พี่........"

     ได้แต่ละเมอเหมือนคนบ้า น้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มหยดลงบนมือเย็นเหยียบของพี่ซัมเมอร์ช้าๆ พี่อย่าเป็นอะไรไปนะครับ......อย่าเป็นอะไรเพราะคนอย่างผมเลย

   พระเจ้าครับ ผมขอร้องนะครับ.....ได้โปรดมอบลมหายใจแก่เขา.......ได้โปรดอย่าพรากชีวิตเขาไป หากเป็นไปได้.......เอาลมหายใจผมไปเถอะครับ เอาลมหายใจของผมไป.......เพื่อต่อลมหายใจของเขา


"ทำแผลของหนูก่อนเถอะนะคะ แผลกว้างและลึกหน้าดูเลย" ผมส่ายหน้าปฏิเสธพี่พยาบาลก่อนจะหันมามองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือดของเขาอีกครั้ง ทันทีที่ล้อหยุดหมุนหมอและพยาบาลนับสิบคนก็กรู่เข้ามา พร้อมๆกับเขนเตียงของพี่ซัมเมอร์เข้าห้องฉุกเฉินไป


    ทุกเวลา ทุกนาทีที่ผ่านไปในความรู้สึกผม ช่างเชื่องช้าราวกับชั่วกัปชั่วกาล เสียงตึงๆรัวเร็วเข้ามาใกล้ผมทีนั่งทรุดกับพื้นเรื่อยๆ ร่างของคุณป้า คุณลุงและพี่ออทัมปรากฎต่อหน้าผมทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมอง

"ซัมเมอร์.....ฮื่อๆๆ คุณคะ ลูกของเราจะเป็นอะไรมั้ย"

"ลูกของเราต้องไม่เป็นอะไร หมอสมัยนี้เก่งจะตาย เค้าต้องช่วยลูกเราได้อยู่แล้ว คุณก็ต้องใจเย็นๆนะ......"

"แต่ลูก........"

    คุณลุงพยุงร่างของคุณป้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คุณป้ามองเข้าไปยังห้องห้องนั้นอย่างไม่วางตา ส่วนพี่ออทัมมองมาทางผมอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ


แต่ผมยังพูดไม่ออก



"มันเกิดอะไรขึ้นลม ทำไมซัมเมอร์ถึงถูกรถชนได้ล่ะ........" เมื่อคุณป้าสงบ คุณลุงก็หันมาถามผมที่นั่ง้งียบอยู่นานแล้ว ทำให้ตอนนี้ทุกคนหันมามองผมกันหมดเพื่อนรอฟังความจริง

"........."

"พ่อกูถามมึงก็ตอบสิ"

"ออทัม"คุณลุงปรามเบาๆ

"คือ.......คือผมทะเลาะกับพะ.....กับซัมเมอร์เค้าครับ......แล้วทีนี้ผม.......ผมก็เลยวิ่งตามเค้าออกมา.......แล้วรถ......รถจะชนผม......ฮึก......ซัมเมอร์........เลยผลัก....ฮึก....ผะ.....ผมออกมา...."ทุกคนเงียบรวมทั้งผมด้วย



เพี๊ยะ!!!!


     หน้าของผมหันไปตามแรง ก่อนจะล้มลงกับพื้น คุณป้ามองผมอย่างโกรธจัด ใบหน้าที่ผมเคยคลาดหวังจะได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยน ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยความบึ้งตึงและเกลียดชัง


ผมถูกเกียจซะแล้ว.......

"เพราะแก!!! เพราะแกเลยไอ้ตัวดี!!! แกทำให้ลูกของฉันต้องโดนรถชน!! ทั้งๆที่ควรจะเป็นแก!!ไม่ใช่ลูกของฉัน!!!"

"............" ผมได้แต่เงียบและซึมซับทุกถ้อยคำนั้นเอาไว้

"แกมันตัวซวย!!ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปแกต้องชดใช้!!!........ไปตายซะ!!คนอย่างแกมันไม่ควรจะมีชีวิตอยู่หรอก!! อย่าเอาชีวิตซวยๆของแกมาทำให้ครอบครัวของฉันแปดเปื้อนอีก!!!ออกไป!!!"

"คุณ.....พอเหอะน่า.....มันไม่ใช่ความผิดของเด็กมันซะหน่อย"คุณลุงปราม หากแต่หูของผมกลับได้ยินเพียงเสียงของคุณป้าที่พร่ำด่าทอ และไล่ผมไปให้พ้นทาง


ออกไปจากชีวิตของพวกเค้า........


ชีวิตซวยๆ.......


ไปตายซะ........เหรอ


   เมื่อผู้ที่ให้กำเนิดพูดถึงขนาดนี้ ไล่กันถึงขนาดนี้ อยากให้ผมตายถึงขนาดนี้ แล้วผม........ผมจะอยู่ต่อไปอีกทำไมนะ



อยู่ไปก็ไม่ได้รับรอยยิ้มอันอบอุ่นที่มอบแก่คนในครอบครัว



มีเพียงความเกลียดชังที่มอบมายังคนนอก



"แก!!ไอ้สวะ!!จะไปตายที่ไหนก็ไป!!ออกไปจากตรงนี้ซะ!!!ต้องรอให้ฉันขาดใจตายก่อนหรือไงถึงจะยอมออกไป!!!"



     ผมพยุงร่างของตัวเองเดินลัดเลาะออกจากโรงพยาบาลมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่จากโรงพยาบาลไปไหน ผมอยากจะรอฟัง......รอฟังว่าพี่ซัมเมอร์ไม่เป็นอะไรและเขาจะกลับมาเหมือนเดิม


      ห้าชั่วโมงผ่านไปพร้อมๆกับหัวใจของผมที่มันแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ทั้งๆที่อยากเรียกว่าแม่.....ทั้งๆที่อยากพูดคุยไถ่ถามสารทุกสุขดิบ อยากจะลองสัมผัสอ้อมกอดนั้น อยากได้รับรอยยิ้ม และน้ำเสียงอ่อนโยน ทั้งๆที่มันควรจะเป็นอย่างนั้น.........

แต่แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ........


    เตียงของพี่ซัมเมอร์ถูกเขนออกมา แขนซ้ายของและขาซ้ายของเขาถูกเฝือกสีขาวห่อหุ้มอยู่ ตรงศรีษะก็มีผ้าสีขาวพันอยู่เช่นกัน จากที่ผมมองไกลๆพี่เขาคงปลอดภัยแล้ว.......ด้วยความลืมตัวผมรีบวิ่งออกจากมุมที่ซ่อนตัวทันที

ผมอยากขอโทษเค้า.......แม้ว่าเขาจะไม่อยากได้ยินก็ตามที

หลังจากนั้น.......ผมก็จะไป........จะหายไปจากชีวิตของพวกเค้าตลอดกาล



"แก!!!มาทำไมอีก!!!" คุณป้ารีบวิ่งเข้ามาจิกทึ้งผมทันที ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตารอรับการลงทัณฑ์เท่านั้น ขอเพียงแค่......ขอเพียงแค่ได้รู้ว่าพี่ซัมเมอร์ปลอดภัย......

"เขาปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ......."

"ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ!!!อยากเห็นเขาตายใช่ไหมแกถึงจะพอใจน่ะ!!!หา!!!!"

"คุณใจเย็นๆ หนู......ซัมเมอร์พ้นขีดอันตรายแล้ว.....ตอนนี้หมอย้ายไปนอนห้องพิเศษน่ะ"

"ผมอยากจะเจอเค้า......" ผมก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม

"ไม่ได้!!!อย่าเข้าใกล้ลูกฉันอีก!!!ตัวซวยอย่างแกน่ะ!!น่าจะตายๆไปซะ!!" อย่าผลักไสไล่ส่งกันอีกเลย แค่นี้ผมก็ไม่อาจจะทนหายใจได้อีกแล้วครับ

"งั้นผม........ผมฝากไปขอโทษเขาด้วยนะครับ......."

"..........."

"พ่อ.......แม่........ฮึก......"


    ทั้งชีวิตของผมเฝ้าไฝ่ฝันมานานแล้วว่าจะได้เรียกผู้ให้กำเนิดตัวเองแบบนี้ซักครั้ง......แม้ว่า......พวกเค้าไม่อยากจะได้ยินก็ตามที


"ฮะ......อะไรนะ!!!อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น~!!! ลูกของฉันมีแค่สองคน!!แกไม่มีสิทธิ์!!!"


   นั่นสินะ.......ท่านมีลูกสองคน ส่วนอีกคนเป็นเพียงสายลม.........เป็นเพียงสายลมที่คุณคงไม่มีวันจะมองเห็นมัน แม้เพียงเสี้ยวเดียวสินะ.........


ลาก่อนครับ........พ่อ.......แม่......พี่ชาย........ทุกคนที่ผมรักยิ่ง


'ลาก่อน'


*****
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 25-05-2010 18:05:29
                                                                         เสียงกระซิบจากลมหนาว 24







      ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปตามท้องถนนที่ผู้คนคลาคลั่ง แต่ผมกลับรู้สึกโดดเดี่ยว......แล้วช่วงเวลาแบบนี้ผมคิดถึงใครที่สุด.......อยากให้ใครมาอยู่เคียงข้างมากที่สุด......


และแล้ว........ภาพของชายคนนึงก็แวบขึ้นมาในสมอง


ใบหน้าขาวใสเกลี้ยงเกลา คนที่มีรอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้าและส่งมาให้ผมเสมอๆ


และเขาคนนั้นก็มักถูกคนอย่างผมทำร้ายเสมอๆเช่นกัน


ไอดินมึงอยู่ไหนกัน ตอนนี้.......ตอนนี้กูหัวสมองกลวงโบ๋ไปหมด ความรู้สึกมันก็ชาๆพร้อมๆกับหัวใจที่มันเต้นตุบๆเต็มไปด้วยความทรมาณ


เหมือนกับว่าใครเอาโว่ตรวนมาถ่วงเอาไว้


เหมือนกับว่าหัวใจมันไม่ใช่ของกูอีกต่อไป


ไอดิน......มึงอยู่ไหนกัน ได้ยินกูไหม.......ได้ยินกูรึเปล่า.......ไอดิน





"ฟ้า.......เราจะไปหาฟ้าแล้วนะ รอเราก่อนนะ......."

    ท้องฟ้าที่สดใสนั่นหมายความว่าฟ้ากำลังยิ้มให้ผมอยู่ใช่ไหม เธอกำลังยินดีที่ผมจะไปอยู่เคียงข้างเธอใช่ไหม ยินดี.......ที่สายลมอย่างผมจะอยู่เคียงคู่กับเธอตายนิรันดร์ใช่หรือเปล่า




    เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมมาถึงบ้าน รู้ตัวอีกทีผมก็อยู่ในห้องน้ำพร้อมกับมีดโกนที่ไปหยิบมาแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ มือที่ซีดสั่นของผมค่อยๆกรีดลงบนแขนของตัวเองอย่างเชื่องช้าแต่ทุกครั้งที่ใบมีดมันเฉือนลงบนผิด คำพูดของแม่ก็ดังก้องประกอบกันไปด้วยราวภาพฉายซ้ำ


ไปตายซะ!!!


    ใช่......ผมกำลังจะทำตามที่คุณบอกแล้วไง คุณจะได้ดีใจและรักผม รักผมที่ทำอย่างที่คุณต้องการ หากชีวิตของผมแลกกับการที่คุณไม่ต้องเจ็บปวดเมื่อยามมองหน้า


ผมก็ให้มันได้.......อย่างไม่ปฏิเสธ


เพราะคุณ.......คุณให้ชีวิตผมมา........ผมก็จะคืนให้คุณแล้วไง


    ตอนนี้แม้แต่น้ำตาซักหยดก็ไม่มี หัวใจของผมกำลังร้องไห้ ใช่.......ร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ร้องไห้อย่างที่มันเคยเป็นมาตลอด เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่เคยหลุดออกจากโคลนตมสีดำมืดของความเจ็บปวด


    เลือดหยดแล้วหยดเล่าไหลลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ผมเอนตัวลงนอนและหลับตาลงอย่างช้าๆ มันไม่เจ็บเลย.......ไม่เท่าหัวใจของผมเลย


หัวใจที่เจ็บจวนเจียนระเบิด


    หยดแล้วหยดเล่าผ่านไป เรื่องราวในวัยเยาว์เริ่มฉายขึ้นมาดังสไลด์จากคอมพิวเตอร์ ภาพตอนที่ผมวิ่งเล่นกับไอดินและกลิ่นฟ้า ภาพของแม่......แม่ที่จับมือผมเอาไว้ตอนไม่สบาย

มือของแม่ที่สั่นเทาและอบอุ่น


แม่ที่คอยปลอบใจผมก่อนเข้าห้องผ่าตัด


แม่ที่มีรอยยิ้มตอนผมกลับจากโรงเรียน


   แม่ผู้ให้ทุกอย่างอย่างไม่มีข้อแม้........แล้วทำไมผมไม่นึกถึงท่าน.......ทำไมผมถึงลืมคำพูดของท่าน ทำไมถึงไม่นึกว่าถ้าผมตายไปแล้วท่าน......ท่านจะอยู่อย่างไร


แต่ว่าแม่ครับ........ผมขอโทษ........



       น้ำตาหยดสุดท้ายของผมร่วงลง พร้อมๆกับสติที่ขาดหาย ด่ำดิ่งสู่ความมืดมิดที่เวิ่งว้างอีกครั้ง โดดเดี่ยวกว่าที่เคยโดดเดี่ยว น่ากลัวกว่าความกลัวทั้งมวลที่เคยพาลพบ..........


นี่สินะ.......โทษทัณฑ์ของคนอย่างผม








"เฮ้~!! พวกมึงรู้เรื่องริยังว่าซัมเมอร์ถูกรถชน!!"

     เสียงของใครคนนึงปลุกผมออกจากผวังค์ความคิด ทุกคนต่างกรู่เข้าไปถามคนๆนั้นอย่างใคร่รู้ ทำให้ผมที่รู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่เมื่อครู่เริ่มใจเสียกว่าเดิม

"ได้ไงอ่ะ.....ทำไมซัมเอร์ถึงโดนรถชนได้ล่ะ!! แล้วเค้าเป็นอะไรมากมั้ย @ # @ 6 % $ 0 ( ฿" และอีกมากมายหลายคำถามจนผู้ชายคนนั้นตอบไม่ทัน

"หยุดถาม เดี๋ยวกูเล่าเอง!!!"

"เออ!!"

"คือว่าเมื่อกี้กูเพิ่งเข้าโรงเรียนมาแล้วเผอิญเห็นลุงยามคุยกับพวกผู้ปกครองของเด็กอยู่น่ะ กูเลยเข้าไปสอดแนม"

"เร็วๆดิวะ แม่งงงง" เพื่อนๆคนอื่นๆเร่ง

"เค้าบอกว่ามีเด็กผู้ชายสองคนวิ่งออกจากโรงเรียนไป แล้วเหมือนว่าทะเลาะอะไรกันซักอย่าง ทีนี้ไอ้ซัมเมอร์มันก็ข้ามถนนไปได้แล้ว......แต่ได้เด็กอีกคนมันโง่ไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วรถมันวิ่งแหกโค้งมาจะชนมันเข้า ไอ้ซัมเมอร์เลยวิ่งมาผลักไอ้คนนั้นออกแล้วตัวเองเลยโดนชนแทน!!!"


   ใจผมหายวาบเมื่อได้ยิน ต้องเป็นไอ้วินด์แน่!!ต้องเป็นมันแน่ๆเลย!! ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้.......มือไม้ผมสั่นอย่างห้ามไม่อยู่และไม่รู้จะทำยังไงต่อไป รู้สึกใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ เหมือนใจมันหวิวๆชอบกล

"แล้วซัมเมอร์เป็นไงบ้าง!!"ผู้หญิงคนนึงถามขึ้นมา

"ปลอดภัยแล้ว......แต่ว่าคงต้องขาดเรียนไปอีกนานเพราะแขนกับขาต้องเข้าเฝือก หยอดน้ำข้าวต้มไปเป็นเดือนเลยล่ะ"

".............."


     ผมไม่อยู่รอฟังจนคนพวกนั้นพูดจบหรอก เมื่อรู้ที่อยู่โรงพยาบาลแน่ชัดแล้วผมก็วิ่งตรงไปเลย ขอร้องล่ะ......อย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย


วินด์.......วินเทอร์ของผม........


ขออย่าได้เกิดเรื่องร้ายๆกับสายลมที่อ่อนโยนของผมเลย


    เพียงเวลาไม่นานรถแท็กซี่ก็จอดเทียบกับฟุตบาทหน้าโรงพยาบาล ผมจ่ายเงินและออกตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต สอบถามจากนางพยาบาลได้ความว่าไอ้ซัมเมอร์มันพักอยู่ห้องไหนก็รีบพุ่งตรงไปราวกับพายุ


ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ

   ผมเคาะประตูรัวเร็วอย่างร้อนใจ ซักพักประตูห้องก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ผมเกลียดชัง ไอ้ออทัมมองผมนิ่งและก็ไม่ได้เชิญผมเข้าไปในห้อง ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากเข้าไปอยู่แล้ว

"ไอ้วินด์ล่ะ......." น้ำเสียงแหบแห้งขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อมันส่ายหน้า

"มาถามจากกูทำไม มันจะไปไหนกูจะรู้มันเหรอ......" ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอึกเอาไว้

"มันอยู่ในเหตุการณ์ตอนไอ้ซัมเมอร์โดนรถชนรึเปล่า........" คำตอบที่ได้มาคือความเงียบ......แสดงว่าใช่สินะ

มันคงเจ็บมาก........วินด์.......อย่าเพิ่งร้องไห้นะ

"แล้วมันมาโรงบาลด้วยไหม.........." เงียบอีกเช่นเคย

วินด์.......รอกูก่อนนะ ไม่รู้ทำไมหัวใจของผมถึงได้เจ็บปวดขึ้นทุกขณะ เหมือนกับว่า........มันเหมือนกับว่าจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปยังไงยังงั้น

คงไม่ใช่............!!!!

"แล้วพวกมึงไล่มันไปรึเปล่า........ได้ไล่มันเหมือนหมูเหมือนหมารึเปล่า" ผมเค้นเสียงถามและคาดเดาไปต่างๆนาๆ ไม่รู้สิ.......ก็ครอบครัวนี้ทำให้ผมเห็น........เห็นความแล้งน้ำใจของพวกเค้ามาตลอด


กลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ผมคิดจะเป็นเรื่องจริง......



   และคำตอบที่ได้มาก็เหมือนเดิม ผมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะจ้องมันด้วยสายตาคาดโทษ

"พวกมึงมันใจดำ......อย่าหวังว่าชาตินี้จะได้เจอมันอีก......."

     ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะหยิบโทษศัพท์ขึ้นโทรหาแม่ของไอ้วินด์ เสียงรอสายผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ผมก็ไม่เลิกโทร เพียงไม่นานเสียงของคุณป้าก็ตอบกลับมา

"คุณป้าครับ!!ลมกลับบ้านรึยังครับ!!" ผมละล่ำละลักถามด้วยหัวใจเต้นระทึก

"กลับมาแล้ว ถามก็ไม่ยอมตอบซักคำ สงสัยจะไม่สบาย.....ตอนนี้ขึ้นห้องไปแล้วล่ะ ไอดินมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ....."

"ปละ......เปล่าครับ"

   ผมไม่อยากจะตีตนไปก่อนไข้ ไอ้วินด์ถึงบ้านแล้ว.......มันถึงบ้านแล้วคงไม่เป็นไร.......ขออย่าได้เป็นอะไรเลย.......เรียกแท๊กซี่แล้วบอกทางเสร็จสับ ปากก็พร่ำบอกคนขับให้เหยียบให้มิด เพียงเวลาไม่กี่สิบนาทีก็มาถึง ผมรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้านและตรงไปยังห้องนอนของไอ้วินด์ทันที

ก๊อกๆๆๆๆๆ

"วินด์!!!วินด์!!!!เปิดประตูที กูเอง!!กูไอดินเอง!!เปิดประตูหน่อย!!!"



    ไม่มีเสียงตอบรับ คุณป้าที่ตกอกตกใจรีบวิ่งขึ้นมาดูด้วยคน ผมตัดสินใจดันประตูแต่ประตูก็ไม่เปิด ซักพักคุณป้าที่วิ่งลงไปเอากุญแจสำรองก็กลับมา........ ผมรีบไขกุญแจอย่างสั่นๆ พอประตูเปิดออกเผยให้เห็นสภาพภายในห้องที่ปกติดี แต่ไอ้วินด์ไม่อยู่


     ผมวิ่งตรงไปในห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงน้ำไหล ก่อนจะผลักประตูเข้าไปเพราะมันไม่ได้ล๊อกเอาไว้.........ภาพที่ผมเห็นทำเอาผมแทบทรุด


หัวใจเหมือนจะแหลกสลายลงให้ได้........


     วินเทอร์นอนในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลวสีแดงสด ใบหน้าของมันซีดเซียวและดวงตาหลับพริ้มอย่างสงบ
 
"ลมลูกแม่!!!!"

     คุณป้ากรีดร้องก่อนจะเป็นลมล้มลงโดยมีแม่บ้านช่วยพยุงเอาไว้ ผมรีบวิ่งเข้าไปอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเอาไว้ในอ้อมแขน และสาบานกับตัวเองว่าหากมันเป็นอะไรไป ผมจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองเลย


      ตลอดทางบนรถผมกุมมือเรียวเล็กที่เย็นเฉียบเอาไว้แน่น ลมหายใจแผ่วเบาที่ขาดเป็นห้วงๆทำให้หัวใจของผมยิ่งรวดร้าว ป้าพิณแม่ของไอ้วินที่นั่งมาด้วยได้แต่ร้องไห้ปริ่มขาดใจและกอดมันไว้แน่น  เช่นเดียวกับผมที่ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด


"อย่าเป็นอะไรไปนะลูกแม่......."




*****

   
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 25-05-2010 18:19:31
                                                              เสียงกระซิบจากลมหนาว 25








     ในที่สุดก็มาถึงโรงพยาบาลเสียที เวลาในรถมันช่างเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึก ผมอุ้มร่างเล็กลงจากรถก่อนจะวางบนเตียงที่บุรุษพยาบาลเข็นมารออยู่แล้ว ผมรู้สึกเหมือนว่า.......มันห่างผมไปทุกที......ทุกที........ทั้งๆที่ผมยังกุมมือมันไว้มั่นตลอดทางไปห้องฉุกเฉิน


ประตูบานนั้นปิดลงพร้อมๆกับร่างของมันที่หายวับไป เบื้องหลังประตูบานนั้นจะเป็นยังไงกันนะ......มีเพียงพระเจ้าที่ล่วงรู้คำตอบ


    แต่พระเจ้าครับ.......หากแลกได้....หากแลกชีวิตกับมันได้.......พระเจ้าเอาชีวิตผมไปแทนเถอะครับ.........ขออย่าให้มันเป็นอะไรไปเลย



ผมคงอยู่ไม่ได้หากต้องเสียมันไปอีกคน......



     ทุกครั้งที่ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก เหมือนกับว่าความหวังจะก่อขึ้นแต่แล้วก็หลุดร่วงไป เป็นอย่างนี้เรื่อยๆจนกระทั่งมีคุณหมอร่างท้วมในชุดสีเขียวเดินออกมา

"ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติของคนไข้ครับ คนไข้เสียเลือดมากแล้วเลือดของทางโรงพยาบาลเราไม่เพียงพอครับ ไม่ทราบว่าใครมีเลือดกรุ๊ปโอเนกาทีฟบ้างครับ"

"ฉันเป็นแม่เค้าค่ะ.......ฉันเลือดกรุ๊ปเอบี ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหมคะหมอ......" คุณป้าเขย่าตัวหมออย่างมีความหวัง

"ขอโทษด้วยนะครับ คือเราต้องให้เลือดโอเนกาทีฟกับคนไข้เท่านั้นครับ"

"แล้วถ้าเลือดกรุ๊ปโอเฉยๆล่ะครับคุณหมอ" ผมถามออกไปทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว......แต่ว่า......แต่ว่าอาจเป็นไปได้ก็ได้นี่.......


ตราบที่มีลมหายใจ เราก็ไม่ควรหมดหวัง


"ขอโทษนะครับ เดี๋ยวทางโรงพยาบาลจะประกาศรับบริจาคครับ แต่ว่า......คงมีเวลาไม่มาก......"


   คำพูดของคุณหมอทำให้ทั้งผมและคุณป้าอึ้ง ไม่จริง!!!มันต้องไม่เป็นอะไร!!สายลมอันอ่อนโยนของผมต้องไม่เป็นอะไร!!!


ใช่แล้ว!!! ครอบครัวนั้น!!! พ่อแม่และพี่ๆของมันต้องมีซักคนที่กรุ๊ปเลือดตรงกัน!!!


"คุณป้าครับ......ลมต้องรอดครับ!!มันต้องไม่เป็นอะไร มันหนังเหนียวจะตาย......" ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของผมทำให้คุณป้ายิ้มบางๆอย่างอ่อนแรง

"ลมน่ะ......ความจริงแล้วเค้าอาจต้องจากป้าไปตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ......"

"............" ผมได้แต่เงียบฟัง

"ป้ารู้นะ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาน่ะ เค้าต้องเจ็บปวดขนาดไหนกับเรื่องต่างๆ เขาเปราะบางเกินไป บางครั้งป้าก็คิดว่า........."

"ไม่นะครับป้า!! เราต้องไม่หมดหวัง มันต้องรอด วินมันต้องไม่เป็นอะไร!! ผมจะไปขอร้องครอบครัวนั้น!!" คุณป้านิ่งไป

"คุณป้าจำพี่ชายฝาแฝดของลมได้มั้ย ตอนนี้มันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ผมจะไปขอร้องพวกนั้น!!" และก็เป็นอีกเช่นเคยที่คุณป้าเงียบไป


ผมไม่รอฟังคำตอบอะไรจากท่านอีกแล้ว วินต้องรอด.....มันต้องไม่เป็นอะไร!!!


ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

    เป็นอีกครั้งที่ผมรัวประตูห้องนี้ ซักพักคนที่เดินมาเปิดประตูคือคนเดิม คนที่แล้งน้ำใจที่สุดและทำให้ไอ้วินของผมเจ็บปวดที่สุด!!!

"มีอะไรอีก"

"มึงเลือดกรุ๊ปอะไร!!" มันทำหน้างงก่อนจะมองผมด้วยสายตาสงสัย แต่ผมไม่มีเวลาแล้ว.....คนที่ผมรักมากที่สุดกำลังจะจากไป ผม........ผมยอมละทิ้งทุกสิ่งแม้ศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อคนที่ผมรัก!!

"มึงจะมาไม้ไหนเนี่ย! น้องกูต้องการพักผ่อน"

"ถ้ากูบอกว่าน้องมึงกำลังจะตายล่ะ!!น้องมึงกำลังจะตายได้ยินไหม!!"

"มึงพูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้เหี้ย!! อยู่ๆมาแช่งน้องกูเพื่ออะไร!!" ไอ้ออทัมขยุ่มคอเสื้อของผมไว้แน่น พ่อกับแม่ของมันวิ่งออกมาดูเหตุการณ์อย่างตกใจ

"เพราะพวกมึงทุกคน!!!เพราะพวกมึงนั่นแหละ!!!!ไอ้วินถึงกำลังจะตาย!!!!ได้ยินไหม!!!!"

".......อะ........อะไรนะ" ไอ้ออทัมถามเสียงสั่น ผมปาดน้ำตาก่อนจะจ้องมันอย่างเครียดแค้น

"เพราะมันมีพ่อแม่และพี่เลวๆอย่างพวกมึงนั่นแหละ.......พวกมึงไล่มันไปตาย!!!!"

     จากที่คิดจะมาขอร้องและคุกเข่าอ้อนวอน มาตอนนี้มันกลับตลาปัตรไปหมด ความแค้นที่มันฝังลึกในใจของผมระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันมาจนสุดทางแล้ว

"มะ......หมาย......หมายความว่า......ยังไง เธออย่ามาพูดมั่วๆนะ" หึ น่าสมเพชจริงๆ ตกใจอะไรกันคุณป้า หรือว่าคุณมีลูกแค่สองคนจริงๆล่ะ


"ผมไม่ได้มั่ว!!คุณก็ลองคิดดูดีๆสิว่าคุณมีลูกกี่คน!!!"

    ไม่มีคำตอบรับหรือปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น ผู้ใหญ่ทั้งสองคนนิ่งเงียบและไม่ไหวติงไปไหน เหมือนกำลังจอมจมอยู่ในวังวนแห่งอดีต และห้วงความคิดที่ผมก็ไม่อาจจะหยั่งถึง

"มึงหมายความว่าไงไอ้ไอดิน!!มึงต้องการอะไรกันแน่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!"

   อะไรจะโง่ขนาดนั้น ทีอย่างอื่นน่ะฉลาดจัง พอมาเวลานี้มึงกลับโง่เง่ามองไม่เห็นความจริงที่ผมพยายามจะสื่อออกมา

"เขา......ละ.....ลูก.......ลูกของฉันอยู่ไหน........"
 
      เสียงสั่นๆกับใบหน้าซีดเซียวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายพอจะประติดประต่อเรื่องได้แล้ว ร่างกายของหญิงสูงวัยสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวหรืออะไรก็แล้วแต่เท่าที่คนๆนึงจะแสดงอาการออกมาได้ คนเป็นสามีเองก็หน้าซีดเผือดลงเช่นกัน แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง

"เค้า.......เค้า.......ฮึก........"

     ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเป็นเส้นตรง มาเสียใจอะไรตอนนี้ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นจะดีกับมันเลย ไม่มีแม้เยื่อใยบางๆที่คนเป็นแม่เป็นลูกควรจะมีให้กัน อะไรกันที่ขวางกั้นเส้นใยนั้นเอาไว้  ผมไม่รู้และไม่ได้อยากจะรู้เรื่องนั้น แต่อยากจะรู้จริงๆว่าทำไมกัน......ทำคุณถึงทอดทิ้งมันได้ ทอดทิ้งมันไปได้ถึงสองครั้ง

ทั้งอดีต และตอนนี้.......

"ผม........ป้าผิณบอกว่า คุณทิ้งมัน คุณยกมันให้ป้าพิณจริงรึเปล่า........" ปากพูดไปทั้งๆที่ความจริงก็รู้กันอยู่ในใจ แต่ก็อดที่จะเจ็บแทนมันไม่ได้จริงๆ

แต่มันก็โง่เหลือเกิน.......ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียด แต่กลับพยายามเข้าหา......ทั้งๆที่ครอบครัวนี้ตั้งแง่รังเกลียดมันขนาดนั้น

    คุณสูงวัยเม้มริมฝีปากแน่น ร่างนั้นสั่นเทิ้มยิ่งขึ้นกว่าเดิม ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจเมื่อได้ยินคำถามที่แทงใจดำๆที่เต้นตุบๆอยู่ในร่างตรงหน้านั้น เสียงสะอื้นปนเสียงพรึมพรำของครอบครัวนั้นไม่ได้ศิวิลัยกับผมแม้แต่น้อย


    ยังไงก็แล้วแต่.....คนพวกนี้ต้องไปช่วยไอ้วินด์ก่อน จากนั้นผมก็จะถีบหัวส่งให้คนพวกนี้ไปไกลๆจากชีวิตของไอ้วินด์จริงๆจังๆเสียที อาจจะดูเลว.....แต่ผมจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว


ไอ้วินด์มันต้องเสียใจแค่ไหนที่โดนคนพวกนี้ทำร้าย


ต่อจากนี้........ผมจะพามันโบยบินหนีความเจ็บปวดนี้เอง







     คนที่ให้เลือดคือไอ้ออทัมคนที่เป็นพี่ชายแท้ๆของมันเอง ดูเหมือนทุกคนจะไม่พูดไม่จากันแม้แต่น้อย มีเพียงความเงียบกับใบหน้าที่ฉายชัดว่ากังวลใจอย่างถึงที่สุดเท่านั้น เบื้องหลังประตูบานใหญ่ไม่รู้ว่ามันจะโดดเดี่ยวซักเพียงไหน หรือหนาวเพียงใด


แต่ขอให้รู้เอาไว้ว่าคนๆนี้รู้สึกไม่ต่างไปจากมึงเลย.......


"ทำไม.......ทำไมถึงไม่เคยบอกกัน......ฮึก.....ทำไม........" อยู่ๆคนที่สะอื้นฮักในอ้อมกอดของสามีก็ทะลุกลางป้องขึ้น ไม่ผมไม่สนใจคำถามนั้นแม้แต่น้อย สนใจก็แต่คำตอบที่ผมเคยถามคุณไปแต่ไม่ได้คำตอบนั่นแหละ

"............."

    มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบ ผมที่รู้ความจริงข้อนี้ก็ไม่คิดจะตอบให้พวกเขากระจ่างหรอก คุณป้าเองก็คงไม่ต้องการจะพูดด้วยเพราะมันก็ดูเหมือนจะใจร้ายเกินไปหากจะบอกว่าที่ทำไปทั้งหมด เพียงเพราะไม่อยากให้ไอวินห่างอ้อมอกไป


     เพราะคุณป้ารักมันมากเกินไป มากจนทำทุกอย่างเพื่อที่จะรั้งมันเอาไว้ในอ้อมกอด รั้งมันเอาไว้ไม่ให้จากไปไหน จนลืม......ลืมความรู้สึกของมันไป


ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความเห็นแก่ตัวของมนุษย์


เกิดขึ้นเพราะกลัวสูญเสีย กลัวจะต้องพลัดพรากจากคนที่ตนรัก


       ประตูบานนั้นถูกผลักออก พร้อมๆกับไอ้ออทัมที่ใบหน้าซีดเซียวมือของมันกำแน่น ก่อนจะมองมาทางผมด้วยสายตาที่อ่อนล้า ไม่สงสารหรอกนะ......กูไม่สงสารคนที่ทำร้ายคนที่กูรักอย่างมึงหรอก

".......นะ......น้องเป็นยังไงบ้างลูก......."

"............"

      มันไม่ตอบแต่กลับกำมือแน่น สายตาน่ากลัวถูกส่งไปยังแม่ของมันเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมองคนที่ให้กำเนิดมันอย่างนั้น ครอบครัวนี้เริ่มสั่นคลอนแล้วสินะ แต่ว่าถ้าไอวินมันรู้.....รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ มันจะเป็นยังไงนะ

"เขาไม่ใช่น้องผมใช่ไหม........แม่มีแค่ผมกับไอ้ซัมเมอร์ใช่ไหม!!"

    พายุอารมณ์โหมพัดหอบเอาความร้อนรุ่มเข้ามาในหัวใจ สภาพจิตใจของแต่ละคนตอนนี้แตกต่างกันไป กรุ่นโกรธกับความจริงที่ไม่เคยรู้ เสียใจกับการกระทำในอดีต และรู้สึกผิดจนไม่อาจให้อภัยตัวเอง

".............."

"ทำไมไม่ตอบผมล่ะแม่!!ไอ้ลมไม่ใช่น้องผมใช่ไหม!!"

"เขาเป็นน้องของลูก.......และ......เป็นแฝดคนละฝากับซัมเมอร์ ชื่อของเขา.......ชื่อของเขา.......ฮึก.......แม่ตั้งให้ว่า'วินเทอร์'"


".............."


"ฤดูหนาวที่แม่ชอบ" คนเป็นแม่หยุดพูดก่อนจะซบหน้าลงกับมืออีกครั้ง ต่อให้ร้องไห้จนขาดใจตายไปตอนนี้ มันก็ไม่เพียงพอที่จะต่อลมหายใจใครหรอก

".......แต่.......ผม.......โธ่โว้ยยยยยย"

    ไอ้ออทัมชกมือของตัวเองลงบนกำแพงแข็งแกร่งด้านหน้า มันชกรัวจนมือแตกเลือดซึมออกมา ผมไม่คิดจะห้ามหรอก คนอย่างมันแค่นี้ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ


   น้อยเสียจนเทียบไม่ได้กับสิ่งที่มันเคยทำกับคนของผมเลยแม้แต่น้อย


"แม่บอกผมสิ!!!บอกผมว่ามันไม่จริง!!!! ผมไม่เชื่อ!!มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิวะ!!!!" เสียงโวยวายทำให้นางพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆวิ่งมาแล้วรีบตักเตือนเสียยกใหญ่ว่าอย่าส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นเขา จะบอกว่าสมน้ำหน้าก็คงจะใช่

เป็นไงล่ะ เข้าใจความรู้สึกของไอ้วินมันมั่งรึยัง

เข้าใจบ้างมั้ย!!

"มันคือเรื่องจริง!! ไอ้วินเป็นน้องของมึง น้องที่คลานตามกันมา น้องชายที่ตามหาพี่ชาย โหยหาความรักจากครอบครัวที่อบอุ่นในฝัน แต่อะไรล่ะ......อะไรที่มึงมอบให้มัน!!~" ผมทนฟังไม่ได้อีกต่อไป ไอ้ออทัมปราดเข้ามาดึงคอเสื้อผมไว้ ก่อนจะชกเปรี้ยงเข้าให้จนผมลงไปกองกับพื้น

"มึงอย่ามาโกหก!!เพราะมึงอิจฉากู มึงอิจฉาที่ไอ้ลมมันรักกูใช่ไหม!"

"กูไม่เคยอิจฉามึง แต่กูสมเพชและเวทนา ที่คนอย่างมึงไม่เคยรู้ความจริง!!"
 
    ไอ้ออทัมทำท่าจะปราดเข้ามาชกผมอีกครั้ง แต่ก็ถูกพ่อมันเอ่ยปากห้ามไว้เสียก่อน ดูเหมือนคนดื้ออย่างมันจะไม่หยุดตามคำสั่ง มันเรียกผมให้ตามออกไปข้างนอก แม้ว่าใจจริงจะอยากรออยู่หน้าประตูนี้ไม่ไปไหน แต่ก็จำยอมตามมันออกไปเพราะอยากจะยุติปัญหาสัปรังเคพวกนี้ให้จบๆเสียทีเหมือนกัน






"ไอ้ลมเคยมีอะไรกับกู เพราะฉะนั้นกูกับมันคงไม่ใช่พี่น้องกัน"

"มึงจะบอกว่าถ้าพวกมึงเป็นพี่น้องกันจริงๆ สวรรค์จะดลใจไม่ให้มึงทำอะไรว่างั้น......." ผมถึงกับประชดออกไปกับความคิดงี่เง่าของมัน มันถูกที่มันเคยบังคับไอ้วิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะว่ามันไม่รู้ ส่วนไอ้วินมันคงสู้ไม่ได้ หรือไม่มันก็ยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อความรักของพี่ชาย.....

".............."

"หากมึงยังไม่ลืม มึงคงจะคิดได้ว่ามันเคยบอกอะไรมึงไปบ้าง เพียงแค่มึงจะเห็น.......เห็นสายตาของมันที่มองไปยังพวกมึงอย่างชื่นชมและภาคภูมิใจ"

"..............."

"กูยอมรับว่ากูเกลียดพวกมึงและต่อแต่นี้คงไม่ยอมให้มันเข้าใกล้พวกมึงอีก แล้วกูก็ขอร้องพวกมึงว่าต่อแต่นี้ไอ้วินเทอร์ได้ตายไปแล้วจริงๆ เหลือเพียงไอ้ลม ไอ้สายลมที่อ่อนโยนของพวกกูเท่านั้น"

      มันหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ผมเดินออกมาทิ้งมันไว้เบื้องหลัง ใจจริงอยากจะฆ่ามันกับมือของตัวเอง แต่ว่าตอนนี้มันก็คงเจ็บปวดไม่ต่างจากตายทั้งเป็น.......กับความจริงที่ถูกเปิดเผย






หน้าห้องฉุกเฉิน


      ผมเดินกลับมายังห้องฉุกเฉินกพบว่าคุณป้ากับแม่ของไอ้วินทะเลาะกันอยู่ ด้วยเรื่องอะไรผมก็พอจะเดาออก.......

"ถ้าเธอไม่พาลูกฉันหนีไป เค้าก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้!!"

"เธอก็กล้าพูดนะว่าฉันพาลูกเธอหนีไป อาจจะใช่ที่ว่าฉันพาเขาไป แต่เธอเองก็เต็มใจที่จะให้เค้าไปกับฉันไม่ใช่เหรอ!!"

"พิณ!!"

"ทำไมษร......ถ้าเธอไม่ยกเด็กคนนั้นให้ฉัน ป่านนี้เค้าคงไม่มีชีวิตอยู่มาให้พวกเธอทำร้ายได้ถึงขนาดนี้หรอก!! เด็กคนนั้นต้องฟันฝ่ามาเท่าไหร่เธอไม่รู้หรอก เพราะเธอน่ะ......ฮึก.....เธอคิดแต่ว่าถ้าเค้าป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอก็กลัวแต่ว่าจะไม่มีปัญญารักษา......"

"............"

"เธอกลัวแต่ว่าเค้าจะตาย เธอไม่รู้เลยรึไงว่าสิ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดไม่ใช่มีชีวิตอยู่ แต่เด็กคนนั้นต้องการแค่ความรักและอ้อมกอดของแม่......มืออุ่นๆที่จับเอาไว้ยามที่ไม่สบาย"


    คุณป้าพูดถูก แม้ยามที่มีอุปสรรคขวากหนามย่างกลายเข้ามาในชีวิต ขอเพียงแค่มืออุ่นๆกับรอยยิ้มอบอุ่นช่วยกันประคับประคองให้ผ่านพ้น เพียงแค่นั้น.....แค่นั้นแหละ ที่ต้องการ


"เธอให้เค้าได้ไหม เธอมอบเค้าให้กับฉันยามที่เธอลำบาก แต่พอเธอกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง เธอก็จะมาขอเค้าคืนอย่างนั้นเหรอ เธอไม่คิดว่าฉันจะรักเค้า จะผูกพันกับเค้า เธอไม่คิดถึงจิตใจของลูกเธอบ้างรึไง!!!"

"..........."ป้าษรได้แต่เงียบ

"ต่อไปนี้......ให้เรื่องมันจบเพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องของเด็กคนนั้น ให้เจ้าตัวตัดสินเอาเองว่าจะเอายังไงต่อไป"


     มีเพียงความเงียบที่คลืบคลานเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของแต่ละคนอิดโรยไม่ต่างกัน ภายในห้องที่แสนโดดเดี่ยวอ้างว้างนั้น เขาคนนั้น.......จะเป็นยังไงบ้างนะ




****
ฮึก จะ.....จะจบแล้ว เย้  :o12:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 25-05-2010 18:37:37
                                                                      เสียงกระซิบจากลมหนาว 26








แปะ.........แปะ........


      เสียงน้ำหยดกระทบกับอะไรซักอย่างเรียกให้เปลือกตาของผมเปิดออก ค่อยๆพยุงร่างของตัวเองขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆตัวอย่างสังสัย


นี่ผมตายแล้วเหรอ?


    แล้วนี่สวรรค์หรือนรกกัน มีแต่ป่าไม้สีเขียวชอุ่มเต็มไปหมด หมอกสีขาวขุ่นปกคลุมไปทั่วทำให้อากาศโดยรอบเย็นแต่กลับทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด กระต่ายป่าสีน้ำตาลตัวอ้วนวิ่งมาทางผม ทำให้ผมรีบวิ่งตามมัน ท่ามกลางป่าที่เงียบสงัดแต่ผมกลับไม่รู้สึกเหงาเลย ลืมไปหมดสิ้นกับเรื่องที่ผ่านมา รู้เพียงแต่อิ่มเอมกับสถานที่แห่งนี้


   เจ้ากระต่ายซุกซนวิ่งไปเรื่อยๆราวกับกำลังเล่นไล่จับกับผมยังไงยังงั้น สถานที่แห่งนี้.......ทำให้ผมได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง ความสุขที่เกิดขึ้นในใจ ความสุขที่ผมไม่ต้องวิ่งตามมันอีกต่อไป


อยากอยู่ที่นี่ตลอดไปจัง


   วิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆผมก็พบว่าเบื้องหน้านั้นคือขุนเขากว้างใหญ่ มีสะพานที่พาดไปอีกฟากฝั่งทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ทางขึ้นสะพานมีใครคนหนึ่งยืนรอผมอยู่ ใครคนนั้นสวมใส่ชุดสีขาวสดใส ใบหน้าอิ่มเอมไปด้วยความสุข

"มาส่งเราเหรอ"

     ผมงงกับคำตอบ แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเห็นดวงหน้าคุ้นเคยนั้นชัดๆ

"ฟ้า!!!ฟ้าจริงๆด้วย!!"

   เธอคือนางฟ้าที่อยู่ในใจผมเสมอมา และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมวิ่งเข้าไปกอดร่างบางนั้นเอาไว้อย่างโหยหา นานเท่าไหร่แล้วนะ......นานเท่าไหร่ที่ผมไม่ได้กอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของตัวเองแบบนี้

"คิดถึงฟ้าจังเลย"

"ฟ้าก็คิดถึง มาส่งฟ้าจนได้นะ"

    ผมงงกับสิ่งที่เธอพูด ฟ้าต้องการจะสื่ออะไรกับผมกันแน่ ไม่เข้าใจจริงๆ ฟ้ายังคงเป็นฟ้า ท้องฟ้าที่มักส่งยิ้มให้ผมเสมอๆ

"ฟ้าพูดอะไรน่ะ เราไม่เห็นเข้าใจ" เธอส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ พร้อมๆกับเดินเข้ามาจับแก้มผมเอาไว้ ร่างที่เตี้ยกว่าผมนิดหน่อยเขย่งปลายเท้าขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงแผ่วเบา

     เหมือนเวลาหยุดหมุนลงไปชั่วขณะ ผมตอบรับจูบที่แทบจะทำเอาผมล่องลอยนั้นอย่างอ่อนหวานไปแพ้กัน เป็นจูบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาแต่มันกลับรู้สึกถึงความขมขื่นไม่น้อยไปกว่ากัน


เหมือนมันจะเป็นจูบลา


ไม่จริงหรอก.......ผมตามมาอยู่กับฟ้าแล้วไง จะหนีกันไปไหนอีก


"ไม่ได้จะหนี แต่ต้องไปแล้วจริงๆ" ผมกอดร่างเล็กๆนั้นเอาไว้อย่างไม่ยอมปล่อย ไม่อยากจะปล่อยมือเธอครั้งที่สอง มันเหมือน......เหมือนต่อจากนี้จะไม่มีวันได้จับมือนุ่มนิ่มนี้อีกแล้ว

"ไม่เอาน่า โตแล้วนะยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"

"ไม่ได้เป็นเด็กซะหน่อย" ผมพูดอย่างอนๆ

"คงมีแต่ฟ้าคนเดียวสินะที่ได้เห็นเวลาที่คุณสุดหล่อคนนี้งอน" ก็อาจจะใช่ ก็เธอเป็นแฟนผมนี่ครับ มันก็ต้องมีบางครั้งที่ผมจะงอลหรืออ้อนเธอบ้าง ซึ่งมีแต่เธอเท่านั้นที่ได้เห็นผมในส่วนนี้

"เอาล่ะๆ ต้องไปจริงๆแล้ว ต่อไปนี้มีความสุขให้มากๆนะ"

".........."

"ความสุขกับความทุกข์น่ะ แท้จริงแล้วคือด้านกลับของกันกัน มันก็เหมือนกลับเหรียญนั่นแหละ ที่พอเราพลิกมันแล้วก็จะเป็นอีกหน้านึงที่แตกต่าง"

"หาเหรียญอีกด้านให้เจอนะ"

    ร่างของฟ้าค่อยๆห่างผมออกไปเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขที่ประดับบนใบหน้าของเธอไม่เสื่อมคลาย

'ลาก่อน'

    การบอกลาครั้งนี้ไม่มีน้ำตา แต่ก็จะบอกว่าไม่มีความเสียใจเลยก็เป็นไปไม่ได้ การที่พบกันครั้งที่สองแล้วต้องพรากจากกันอีกครั้ง มันทรมาณมากๆเลยล่ะครับ แต่ว่าเธอกำลังมีความสุข ผมก็ดีใจแม้ว่าความดีใจนั้นจะมีรสฝืดเฟื่อนอยู่มากก็ตาม









"..............."

     
        ผมกระพริบตาปริบๆสู้กับแสงที่ส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามา ทันทีที่สมองเริ่มประมวลผมความรู้สึกเจ็บแปร๊บที่ข้อมือก็แล่นเข้ามาเล่นงานทันที มืออีกข้างก็รู้สึกเหมือนมีอะไรทับไว้จนมันชาไปหมด ในห้องสีขาวสะอาดคาดว่าน่าจะเป็นโรงพยาบาลทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าผมยังคงมีชีวิตอยู่

"ลม......ฟื้นแล้วเหรอ"

        ไอดินเงยหน้าจากที่ฟุบเอ่ยเสียงตื่นเต้น เขาจับมือข้างที่ชาดิกของผมไว้แน่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปเรียกหมอมาดูอาการ จึงหุนหันพลันแล่นออกไปทันที

แอดดด

     บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงคุ้นตาก้าวเข้ามา นัยส์ตาที่มักจะมองผมต้อยต่ำตอนนี้ฉายชัดว่ากำลังเหนื่อยล้าเพียงไหน


"เป็นยังไงบ้าง"


"............"

      เขาคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ข้างเตียง มือหนาเอื้อมมาจับข้อมือที่พันด้วยผ้าสีขาวขึ้นมาอย่างแผ่วเบาหากแต่ผมสะบัดออกด้วยความตกใจ

"เจ็บเหรอ.......พี่ขอโทษ"

"............"

    ไม่มีแม้เสียงใดเล็ดลอดออกจากริมฝีปากผม ได้แต่มองเขาอยู่อย่างนั้นด้วยแววตา ท่าทาง เหมือนคนห่างเหินกัน ไม่อยากจะเจ็บอีกแล้ว แค่นี้......แค่ที่ผ่านมาหัวใจของผมก็ปวดร้าวเจียนตายแล้ว ไม่อยากจะตกนรกไปมากกว่านี้ ไม่อยากจะทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวดกับการกระทำของผมอีก


ไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจ


ไม่อยากให้ไอดินต้องทุกทรมาณ


และไม่อยากเสียรอยยิ้มของท้องฟ้าไป


   ต่อไปนี้ผมคือลม ลมลูกรักของแม่ ลมสายลมที่จะมีแต่ความอบอุ่น ไม่ใช่ฤดูหนาวที่แสนอ้างว้างอีกต่อไป พอแล้วสำหรับความดันทุรังและดื้อรั้น พอเสียที


"วินด์ มองหน้าพี่หน่อยสิ อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนอย่างนี้ได้ไหม......วินด์"

      น้ำเสียงเว้าวอนนั้นทำให้ใจของผมสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อผมหันหลังให้ทุกสิ่งแล้ว......ได้โปรดเคารพการตัดสินใจของผมด้วย


"............"

"พูดกับพี่ซักคำสิ"

      ไม่มีแม้เสียงตอบรับหรือปฏิกิริยาตอบสนองเขาแม้แต่น้อย น้องชายของเขาได้แต่หันหลังให้และเหม่อมองท้องฟ้าราวกับกำลังพูดคุยกับใครซักคนบนนั้นอยู่อย่างนั้น ออทัมกำมือแน่นอย่างสะกัดกั้นอารมณ์ไว้ และสั่งห้ามน้ำตาลูกผู้ชายของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้มันไหลออกมามากกว่านี้

"อย่าทำเหมือนไม่รู้จักกัน อย่าทำอย่างนั้นได้ไหม ยกโทษให้พี่ได้ไหม"


"มาขอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ไม่ง่ายไปหน่อยไหม"

     เสียงของผู้มาใหม่ทำให้ออทัมหันไปมอง โดยไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไอดินเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหมอเจ้าของไข้ของคนเป็นน้อง คุณหมอเดินตรงไปตรวจอาการก็พบว่าไม่มีอะไรมากแล้ว นอกเสียจากอาการที่เหม่อลอยและไม่ยอมพูดยอมจา ซึ่งนั่นคงต้องปรึกษาจิตแพทย์อีกทีเกี่ยวกับภาวะจิตใจของคนไข้

"ออกไปให้พ้นหน้าพวกกูซะ ไอ้ลมมันไม่อยากเห็นหน้าพวกมึงหรอก"

     การที่อีกฝ่ายเรียกชื่อน้องชายแบบนั้น ทำให้ออทัมกรุ่มโกรธเป็นอย่างมาก น้องเขาชื่อวินเทอร์ วินเทอร์ที่พ่อกับแม่ตั้งให้คล้องจองกับชื่อออทัมและซัมเมอร์

"น้องกูชื่อวินเทอร์!!"

   ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเหยียดๆก่อนจะจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างสมเพช ค่อยๆย่างเข้าไปหาร่างเล็กบนเตียงแล้วดึงมากอดโชว์ให้อีกฝ่ายเห็น

"มันชื่อลม ลมที่เป็นเพื่อนกูมาตั้งแต่เด็ก ลมที่มีรอยยิ้มเสมอๆ ลมที่เป็นที่รักของพวกกู มึงคงเข้าใจผิดอะไรแล้วล่ะ เพราะคนที่พวกมึงได้ตามหามันได้ตายไปแล้วตั้งแต่พวกมึงสั่งมันไปตายไงล่ะ!!!"

"............." ไม่มีแม้คำแก้ตัว


"ให้แล้วต่อกันไปเถอะนะ เพื่อตัวมันเอง ให้มันได้เจอกับความสุขบ้าง......"


"วินด์ต้องอยู่กับพวกกูสิมันถึงจะมีความสุข"


"เอาอะไรมาคิดกัน ว่าถ้ามันอยู่กับพวกมึงแล้วมันจะมีความสุข มันชอบกินอะไรหรือแพ้อะไรพวกมึงรู้เหรอ แล้วคิดเหรอว่ามันจะอยู่กับพวกมึงได้สนิทใจ ก็ในเมื่อมึงเคยทำแบบนั้นกับมัน!!!" หมดแล้วซึ่งหนทางเมื่ออีกฝ่ายหยิบยกเรื่องความผิดที่ไม่มีวันลบล้างของตนขึ้นมา


"ถือว่ากูขอร้อง ต่อไปนี้........อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับมันอีกเลยนะ"


"งั้นขอครั้งสุดท้าย ให้พวกกูได้กอดมัน ได้ดูแลมันครั้งสุดท้าย ได้ไหม" น้ำเสียงเว้าวอนสั่นสะท้าน


      หากเป็นไปได้ก็อยากจะดูแลอีกฝ่ายตลอดไป แต่หากรับมาดูแลแล้วใครกันเล่าที่จะเจ็บปวดที่สุดหากไม่ใช่คนตัวเล็กที่เค้าเคยทำร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ขอแค่ครั้งนี้แค่ครั้งสุดท้าย ครั้งเดียวในชีวิต......ขอแค่ได้อยู่กันพร้อมหน้า ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วจะปล่อยมือนี้......จะปล่อยให้ไปตามทางที่หัวใจของฝ่ายนั้นเลือกจะโบยบิน




"วินด์ลองทานนี่สิลูก"

      ไม่มีปฎิกิริยายจากคนตรงหน้า ทำให้ผู้เป็นมารดาหน้าเสียไป ได้แต่กล้ำกลืนความขมขื่นลงลำคอ ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนแล้วหันไปตักอาหารอีกอย่างให้อย่างไม่ท้อถอย

"นี่ก็อร่อยนะ ลองทานสิลูก"


"..........."

     


      สุดท้ายแล้วนี่หรือคือสิ่งที่ต้องการมาตลอด นี่หรือคือผลตอบแทนที่มันคุ้มค่ากับการรอคอย ทำไมมันถึงได้ว่างเปล่าขนาดนี้นะ


ไม่เลย.........ไม่ใช่อย่างนี้


เพียงแค่นี้ก็จงพรึงรับรู้ได้แล้วว่าสิ่งที่ต้องการมาตลอด สุดท้ายก็ไม่มีค่าอะไรเลย


ไม่มีอะไรที่จะเติมเต็มหัวใจดวงนี้ได้


เมื่อในหัวใจนี้มีหลุมดำที่เป็นจุดเล็ก แต่แท้จริงแล้วกว้างใหญ่


จะหยุดมันได้ก็ต่อเมื่อรู้จักคำว่าเพียงพอ


     แต่มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเพราะกิเลสตัณหา ย่อมยากที่จะตัดความโลภออกไปจากใจ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วมันกลับต้องการมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น ไม่มีที่สิ้นสุด


เหมือนท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่  ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจตามหาสุดขอบฟ้าเจอ


     หัวใจที่แม้จะเต้นตุบๆด้วยความยินดีปรีดาหรือความเศร้าหมอง สุดท้ายเมื่อมันหยุดเต้นลงความรู้สึกทั้งมวลก็จะจางหาย พร้อมๆกับการเวลาที่หมุนไปอย่างไม่ย้อนกลับ

**********

    เหรียญอีกด้านที่ตามหาอยู่นั้น แท้จริงแล้วมันอยู่ตรงไหนกัน กับการที่ต้องวิ่งตามหาความรักจนเหนื่อยล้า และทุ่มเทให้ไปเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งตอบแทนกลับไม่เติมเต็มหัวใจดวงนี้ได้เลย สิ่งที่ขาดหายไป......สิ่งที่ทำให้ใจตัวนี้มันกลวงโบ๋......




ก้มลงดูรอยแผลเป็นที่นูนออกมาตอกย้ำการกระทำที่แสนงี่เง่าของตน....แล้วเกิดคำถามขึ้นภายในใจ



กับการที่ไม่ได้รับความรักจากคนอื่น แล้วใยต้องทำร้ายตัวเองด้วย



วินาทีนั้นก็ได้ค้นพบความรักที่หายไปเสียที



ความรักที่คนๆนี้ขาดไปโดยตลอด



คือ......ความรักที่มอบให้กับตัวเอง





ยิ้มให้กับความงี่เง่าและวันเวลาที่แสนเหนื่อนล้า




วันนี้ได้ค้นพบเหรียญอีกด้านที่หายไปเสียที











จบบริบูรณ์






***
ข้างล่างที่ดอกจันทร์ไว้คือแต่งเพิ่มค่ะ มันจึงขัดกันนิดหน่อย แฮ่ๆ
แต่ว่าก็ยังอยากจะใส่ค่ะ
เพราะอยากให้รู้ว่าตัวละครในเรื่องนี้ขาดอะไรไป และกำลังตามหาอะไร
อาจจะงงๆ
ไว้วันหลังจะมาเพิ่มเติมให้ค่ะ
สวัสดี
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 25-05-2010 18:52:22
โห เศร้ากระชากอารมณ์ให้ดิ่งลงเหวยิ่งกว่าเก่า ไขว่คว้าตามหาความรักจากครอบครัวที่เป็นฝ่ายทอดทิ้งไป สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาแค่........... :m15: :m15: วินเทอร์ :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 25-05-2010 20:13:55
ชีวิตของลมน่าสงสารตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้ายเลยค่ะ :m15: :m15: ขอบคุณนะค่ะ Writer สำหรับเรื่องดี ๆ แสนเศร้าที่นำมาให้เค้าอ่าน :o12:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ping2226 ที่ 25-05-2010 20:51:15
เศร้าอ่ะ เม้นไม่ถูก แต่บอกได้ว่าสงสารวินเทอร์ที่สุดเลย :o12:
ตามหาความรักมาตลอด สุดท้ายก็ตัวเองนี่แหล่ะคือความรักที่ตามหา...ชอบจังครับ

ขอบคุณ writer มากๆเลยน้า กับเรื่องที่ดีๆแต่เศร้ามากๆเรื่องนี้  :L2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 25-05-2010 20:52:35
พอจะมีตอนพิเศาบ้างไหม....ฮือ.....โคตรเศร้า :m15:


ดราม้าเรย....... :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-05-2010 21:13:42
สุดท้ายก็ :z3:
วินด์รักตัวเองมากๆนะจ๊ะ อีกอย่างไอดินก็รักวินด์มากอยู่แล้ว
พี่ออทัมกลับใจตอนจบนะ ทั้งที่ผ่านมาน่า :beat: มาก
อยากอ่านตอนพิเศษอ่าค่ะ  :impress2:
ขอบคุณนะคะ ที่แต่งนิยายเศร้าๆให้อ่าน สงสารวินด์ของไอดินมากมาย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 25-05-2010 22:42:11
 :m15: :m15:
สงสารวินท์ :sad2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 25-05-2010 23:29:35
เรื่องนี้สงสารไอดินที่สุด :sad11:
ทำทุกอย่างเพื่อลม
แต่ลมคิดถึงแต่ตัวเอง
รู้สึกสมเพชลมมากกว่าน่ะ
ครอบครัวของออทัมก็สมควรที่จะโดนอย่างนี้
ปล.1 รอตอนพิเศษ อยากให้ไอดินมีความสุขอ่ะ o13
ปล.2 +1 ให้คนแต่ง
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 26-05-2010 04:29:32
จะรอตอนพิเศษครับ :pig4:

ครอบครัวนั้นกว่าจะรู้อะไรก็สายไปแล้ว

ลม โชคดีมากที่มีไอดินอยู่ข้างกาย :กอด1:

และหวังว่าตอนพิเศษจะเป็นไอดินกับสายลม :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-06-2010 08:11:25
 :L1:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 15-06-2010 19:35:54
 :z3: จบแล้วเหรอ?
ร้องไห้มันทุกฉาก :monkeysad: ร้องไห้ทุกตอน
อ่านแล้วเศร้าตลอด แต่ก็ได้แง่คิดในบางช่วงของความรู้สึก
แต่จบแล้วจริงๆเหรอคะ ไม่มีต่อแล้วเหรอ?
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 16-06-2010 05:00:46
สุดๆอีกแล้วว
วินด์เอ๋ยวินด์
และก็......
เฮ้อออ
รักผู้ประพันธ์นะครับบ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: yoyo ที่ 16-06-2010 07:49:58
สุดท้ายลมก็รักตัวเองได้ซักทีซินะคะ
ดีใจกัีบลมด้วย

แล้วอยากได้อีกตอนให้ดีใจกับไอดินขึ้นอีกนิดจัง  แหะแหะ
ขอบคุณนักเขียนค่า
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: fungfung ที่ 16-06-2010 11:35:47
สุดท้ายสิ่งที่สายลมไขว่คว้ามาตลอดนั้นคือความว่างเปล่า
เศร้าได้อีก  :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-06-2010 12:03:31
อ่านแล้วก็รู้สึกได้ว่าเรา กำลังตามหาทฤษฏีในความรัก และความคิดบางอย่างที่หายไป การค้นหความรักที่เราคิดว่าไกลตัว
แต่กลับอยู่ใกล้ตัว ความรักที่เรามองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ ก็คือการรักตัวเองได้มาก
เรื่องนี้ให้นิยามและข้อคิดอะไรได้มากมายขอบคุณ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 16-06-2010 15:03:29
อ่านเรื่องนี้แล้วจะร้องไห้ บีบคั้นหัวใจจริงๆเลยคะ กดบวกให้กับไรเตอร์นะคะ สำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 17-06-2010 09:44:34
 :sad4:เศร้ามาก
พูดไม่ออก บอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
ขอบคุณคนเขียนคร้า

หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-06-2010 18:38:21
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เหนื่อยใจกับเรื่องนี้จริงๆ สุดท้ายก็รักตัวเองสักที .. ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับใจเรานี่แหละนะ


ขอตอนพิเศษเพิ่มเติมหน่อยสิคะ แบบว่ามันจบแบบค้างๆคาๆไงไม่รู้อ่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 17-06-2010 20:35:16
อ่านแล้วร้องไห้ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย  :m15:

สงสารชีวิตของลมอ่ะ ไขว่ขว้าแทบตายอยากจะได้ครอบครัวที่แท้จริงกลับมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่ความรู้สึกดีๆจากพ่อแม่ของตัวเองติดมือกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ได้มาก็มีแต่ความเจ็บปวดที่มันตอกย้ำให้หนักขึ้นกว่าเก่า

แต่ว่านะ เรารู้สึกราวกับว่ามันตัดจบแบห้วนๆยังไงก็ไม่รู้อ่ะไรท์เตอร์? หรือเราคิดไปเองอ่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 26 บทสรุป (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 18-06-2010 00:17:14
ถ้าถามว่าอ่านเเล้วสงสารใคร  ผมสงสารดินมากกว่าใคร  รักวินเทอร์มากเท่าไหร่ แต่วินเทอร์ไม่เคยที่จะให้รักกลับได้
แล้วเพื่อนๆหละ สงสารใคร เชียร์ใครบอกกันมั่งว่าเพราะเหตุใด  อยากรู้
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nanohuman ที่ 18-06-2010 12:20:29
สายลมแห่งความสุข



 
      แสงแดดอ่อนๆในยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านสีฟ้าเข้ม สายลมอ่อนๆพัดเข้ามาเรียกให้ดวงตาของผมเปิดออก อากาศเย็นๆในยามเช้าสดชื่นกว่าเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสียงอือๆทั้งคืนเป็นไหนๆ เหลือบมองคนที่นอนข้างกายก็เผยรอยยิ้มออกมาบางๆเท่านั้น

      ใบหน้าขาวสว่างต้องกับแสงแดดทำให้รู้สึกเหมือนกับใบหน้านั้นสว่างจ้ากว่าที่เคย รอยยิ้มเล็กๆประดับมุมปากบ่งบอกว่ากำลังฝันดี เห็นแล้วอดคิดอิดฉาคนที่อยู่ในฝันนั้นไม่ได้ หวนคิดไปถึงสมัยยังเป็นเด็ก นิทานเรื่องโปรดที่เจ้าตัวมักเล่าให้ฟังบ่อยๆจนจำขึ้นใจ

'เจ้าหญิงนิทรา'

    ใช่ เจ้าหญิงนิทราที่ถูกแม่มดใจร้ายหลอกให้กินแอปเปิ้ล พอจะเถียงเจ้าตัวก็รีบแทรกขึ้นมาว่า

'นี่แหละ นิทานฉบับใหม่ ไฉไลกว่าฉบับเดิมตั้งเยอะ'เอากับเค้าสิ

     ตอนจบ เจ้าหญิงได้ครองรักกับพ่อมด เพราะพ่อมดฆ่าเจ้าชายตายหลังจากที่เจ้าชายมอบจุมพิตให้เจ้าหญิง เจ้าหญิงไม่รู้เรื่องก็เลยคิดว่าพ่อมดช่วยตนเอาไว้ นั่นเห็นไหม.....เจ้าหญิงมันโง่

      ยิ่งหวนคิดถึงอดีตรอยยิ้มยิ่งผุดขึ้นมาเรื่อยๆ นานแค่ไหนแล้วนะ......นานแล้วที่ทำความสุขหล่นหาย ทั้งๆที่มันก็อยู่กับเราตลอด นานเท่าไหร่แล้ว......ที่ลืมสิ่งสำคัญไป นานเท่าไหร่แล้วที่จอมจมอยู่ในวังวนที่ไม่สิ้นสุด

นานเท่าไหร่แล้ว.......ที่ลืมไปว่า แท้จริงความสุขนั้นอยู่รอบๆตัวเรา ความสุขคือด้านกลับของความทุกข์

เลือกที่จะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่ตัวเราต่างหาก

    เพียงแค่มองมุมกลับ มองด้านใหม่ๆ ก็จะเห็นความสุขที่อบอวนอยู่รอบๆกาย ความสุขที่มีกลิ่นหอมเหมือนแสงแดดอ่อนๆยามเช้า ความสุขที่เหมือนละอองไอน้ำที่ชุ่มช่ำ เหมือนใบหญ้าที่เขียวขจี เหมือนทุ่งข้าวสีเหลืองที่มีกลิ่นหอมของรวงข้าว เหมือนกับตอนนี้.....ที่มีอ้อมกอดนี้คอยกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แต่มันก็ไม่อึดอัดเอาเสียเลย

"ตื่นนานแล้วเหรอ"

"............." ผยักหน้าแทนคำตอบ

"มองแต่หน้ามันอยู่ได้ มองพี่มั่งสิ" น้ำเสียงอ้อนๆที่ได้ยินบ่อยจนชิน แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ใจอ่อน



ฟอดดดดด



    แก้มเนียนถูกกดทับด้วยริมฝีปากชื้นๆของใครอีกคน ทำเอาผมตาโตเท่าไข่ห่าน ตื่นกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย น่าขำที่ผู้ชายตัวโตๆสี่คนมานอนแออัดยัดเยีดกันอยู่บนเตียงเล็กๆเพียงเตียงเดียว

"ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำอาบท่า" ผมบอก ทำให้ทั้งสามต่างแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ส่วนผมนั้นยังคงนอนอยู่บนเตียงคิดอะไรเพลินๆคนเดียว





4 ปีแล้วสินะ


       นี่ก็ผ่านมาสี่ปีแล้วหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เรื่องราวต่างๆค่อยๆคลี่คลาย และดีขึ้นตามลำดับ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมก็ย้ายกลับมารักษาตัวที่เชียงใหม่ เป็นเวลาสองปีกว่ากว่าจะกลับมาหายขาด ส่วนเรื่องเรียนตอนนี้ผมขึ้นปีหนึ่งแล้ว ส่วนมหาลัยก็เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังของที่นี่......


      ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะผ่านมันมาได้ แต่สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาแล้ว ตอนนี้ผมโตขึ้นมาก มีความคิดกว่าเมื่อก่อนและรู้จักการให้มากกว่าการรับ


"คิดอะไรอยู่ครับ เหม่อเชียว อย่าบอกนะว่านอกใจกัน" ไอดินเดินมากอดผมจากทางด้านหลัง อ้อมอกนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อบอุ่นเสมอๆ ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหูทำให้ผมต้องเอียงหน้าหนี

"ไอดิน......มันจั๊กจี้"

"งอนแล้วด้วย ไม่เคยยอมให้กอดเลย" คนตัวโตเวลางอนที่มันก็ให้ความรุ้สึกพิลึกไปอีกแบบ ผมหัวเราะคิก

"อะไรๆ อย่ามายุ่งกับน้องกู" พี่ซัมเมอร์ผลักอกไอดิออก กอดจะดึงผมเข้าไปกอดแทน

"ลามปามละมึง ลามปามๆ" ไอดินกระฟัดกระเฟียดอย่างขัดใจ

"อะไร ใครลามปาม นี่น้องกู กูหวง อย่ามายุ่ง เดี๋ยวจะเจอดี"

"เออ!! อย่าให้ถึงตาที่พวกมึงไม่อยู่นะ กูจะ......"

"จะอะไร พูดดีๆนะมึง" ไม่ใช่เป็นคำพูดของพี่ซัมเมอร์ แต่เป็นของผมเอง

"โถ่.....จะอะไรได้ล่ะ ก็จะกอดให้แน่นๆไงครับ" แล้วมันก็ส่งสายตาหวานเลี่ยนมาทางผม พี่ซัมเมอร์ทำหน้ายี้ก่อนจะดึงผมนั่งลงบนเตียง โดนมีผมนั่งแหมะอยู่บนตัก ใบหน้าของเขาซุกลงบนแผ่นหลังผม ความเงียบโรยตัวเข้ามาอีกครั้ง

"อย่า......อย่าเป็นแบบนั้นอีกนะ อย่ากลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีกนะ" อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นจนผมรู้สึก

"พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้ซัมเมอร์ เสียอารมณ์ซึ้งกูหมด" ไอดินตบหัวพี่ซัมเมอร์ไปที จนหน้าผากของพี่ซัมเมอร์โขกเข้ากับหลังของผมเสียงดัง......เจ็บจัง เล่นบ้าอะไรกันเนี่ย


"ลมมมม เข้ามานี่หน่อย ช่วยพี่ด้วยยยย"

    เสียงของพี่ออทัมดังมาจากในห้องน้ำ ผมแตกตื่นวิ่งเข้าไปก็พบกับพี่ออทัมที่นั่งสบายในอางอาบน้ำ ผมไม่เห็นว่าเค้าจะมีปัญหาอะไรเลย แต่ทำไมถึงร้องซะดังขนาดนั้น

"พี่เป็นอะไร"

"เป็นโรคสำออย" สองเสียงด้านหลังดังขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมรุนหลังทั้งสองออกไปก่อนจะกลับเข้ามาในห้องน้ำ เพื่อจัดการกับปัญหาของคนตัวโตที่นั่งทำหน้าสบายใจอยุ่ในอ่าง

"ลมม ถูหลังให้พี่หน่อยนะครับ นะครับๆๆๆ" ผมมองพี่ออทัมอย่างเอือมระอา แต่ก็เดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่าง พี่ออทัมยิ้มๆแต่ก็ไม่ยอมหันหลังให้ซะที

"หันหลังไปสิ ถ้าไม่หันไปแล้วผมจะถูหลังให้ยังไง"

"อย่างนี้ไง!!"

"อ๊ะ!!"

      ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆพี่ออทัมก็ดึงผมลงไปในอ่าง จนเปียกไปหมดทั้งตัว ผมหันไปคาดโทษพี่ออทัมแต่พอจะอ้าปากด่าก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากอุ่นนุ่มนั้นเสียก่อน

"อือ......"

     ผมครางเบาๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะหมดอากาศหายใจ มือก็พยายามทุบหลังเบาๆ ริมฝีปากหนาผละออกเพียงไม่กี่วิก่อนจะประกบเข้ามาใหม่ เนิบช้าแต่มั่นคงเหมือนความรู้สึกของเขาที่ส่งผ่านมาทางริมฝีปาก


แต่ก็ได้แค่นั้น ...... ได้เพียงแค่ครอบครองริมฝีปาก หากว่ามากกว่านั้น.......มันก็เป็นไปไม่ได้


      บทลงโทษของพระเจ้าที่มอบให้กับคนผู้นี้ ช่างหนักหนาสาหัสเกินกว่าเขาจะแบกรับ ผมรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกครั้ง......ทุกครั้งก็ได้แต่เห็นน้ำตาของคนผู้นี้ คนที่รักผมมากกว่าน้องชายคนนึงไม่ได้


".......อือ......."

      ผมครางประท้วงอีกครั้งเมื่อพี่ออทัมเริ่มปลุกเร้าบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ซึ่งมันมากกว่าที่เคยทำทุกที มันเริ่มจะมากกว่าจูบซะแล้ว


      พี่ออทัมผละออกก่อนจะจ้องตาผมอย่างเว้าวอน ผมกำมือแน่นเมื่อเห็นแววตาที่วาววับนั่น กัดริมฝีปากจนมันเป็นเส้นตรง มือหนาลูบใบหน้าผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะก้มลงมาจุมพิตเบาๆลงบนเปือกตา

"ขอโทษ........"น้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ แต่ผมที่อยู่ใกล้ย่อมได้ยินมันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ผมดึงตัวของพ่ออทัมเข้ามากอดแน่นก่อนจะลูบศรีษะอย่างแผ่วเบา ร่างใหญ่เริ่มสั่นเทิ้มจนผมรู้สึกได้ น้ำอุ่นๆที่หยดลงบนเสื้อทำให้ผมเองก็เจ็บไม่แพ้กัน


ผมไม่อยากให้เขาร้องไห้......







      ผมเดินออกห้องน้ำมาพร้อมๆกับพี่ออทัมที่ตาแดงๆอยู่ ไอดินเดินมาดึงผมไปยืนใกล้ๆก่อนจะดึงเอาผ้าเช็ดตัวมาแล้วดึงผมเข้าห้องน้ำอีกครั้ง

"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อาบน้ำอีกซักทีเป็นไร อาบน้ำกับแฟนตัวเองคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง ใช่ไหมครับพี่ชายของแฟน" ไอดินดูเหมือนจะสะใจมาก ดูจากหน้าตาของมันผมก็พอรู้

"อะไรไอ้ไอดิน กูไปเป็นแฟนมึงตอนไหน"

"ไม่เป็นแฟนแต่เป็นเมียก็ได้เอ่า!!" ใบหน้าของผมร้อนฉ่าขึ้นมาจนต้องแก้อาการขัดเขินนี้โดนการหยิกเอวของมันแรงๆ

"หงิงงงงงง หยิกเค้าทำไมอ่า" นี่ก็อีกคน ขี้อ้อนไม่มีใครเกิน

"พอๆไอ้ไอดิน กูจะอ้วก เดี๋ยวมึงจะเจอตีน" พี่ซัมเมอร์เดินปิดปากออกจากห้องไป จนตอนนี้เหลือแต่ผม ไอ้ไอดิน และพี่ออทัม

"ป่ะลม เราไปทำธุระของผัวเมียกันเถอะ"

"ไอ้ไอดิน!!"

"หงิง" ดูมันครางรับครับ

     ผมหันไปมองทางพี่ออทัม มือของเขากำแน่นจำมันขึ้นมเป็นสีขาว ดวงตาเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง เหมือนไม่อยากจะรับรู้หรือไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น

"มึงก็มาอาบด้วยกันสิ"ไอดินหันไปชวนตามมารยาท ทั้งๆที่การจะไปอาบน้ำไม่จำเป็นต้องชวนใคร เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว

"จริงเหรอ" พี่ออทัมหันมาถาม

"ป่าว ชวนไปงั้น เห็นหมามันเหงาๆเพราะเจ้าของทอดทิ้งเลยสงสาร แต่จะให้เจ้าของของตัวเองเก็บไปเลี้ยงก็ใช่ที่"

"ไม่รู้ ไม่สน กูสนแต่คำแรก" พี่ออทัมลอยหน้าตอบก่อนจะตรงดิ่งมาลากผมเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง

"เฮ้ยยยยยย ได้ไงวะ!!"


     ไอดินวิ่งตามเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะดึงผมเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหน ผมได้แต่หัวเราะขำๆกับอาการเด็กๆนี่ของเขา แต่พอเหลือบมองไปยังอีกคนก็หัวเราะไม่ออก......ไม่รู้ว่าการอาบน้ำครั้งนี้ จะราบรื่นดีไหมนะ


 



จบตอนพิเศษ

****
นิสัยไม่ดีเนอะ ตอนพิเศษก็คลุมเครือ :serius2:
คือยังแต่งไม่ออกไรประมาณนั้นค่ะ 555+
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 18-06-2010 13:12:27
ชอบครับ ถึงจะเศร้าก็เหอะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 18-06-2010 14:34:49
มารอตอนพิเศษตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 18-06-2010 14:40:08
สารภาพเลยค่ะว่าตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องแล้วเมินเลยอ่ะ 55
คือ กำลังนอยกับอาการที่ร้อนอบอ้าวมากๆ ร้อนแบบฝนจะตกแล้วไม่ตก อึนทั้งวัน เราไม่ได้นอนห้องแอร์ไง ธาตุไฟเกือบแตก :o211: เลยแบบ โหว ชื่อเรื่อง ก็เลยนึกว่า setting ของเรื่องต้องแนว ลมหนาวจากเหนือ หรือเมืองนอกเมืองนา คือไม่อ่ะชั้นคงไม่อิน ไม่เฉลียวใจเลย ว่ามันคือชื่อตัวละคร แง้ว :try2: :m5:
ลองคลิกเข้ามาอ่านแล้ว เศร้าดี หม่นหมองกันทั้งเรื่อง ใจนึงก็เข้าใจน้องลมนะ ที่อยากใกล้ชิดสายเลือดตัวเอง อีกใจนึงก็รำคาญอ่ะ ปวกเปียกเกิน  :m29: เรื่องเลยยุ่งยากเลย
เห็นใจออทัมที่สุดสรุปตอนท้าย คล้ายๆอยากกินแต่กินไม่ได้ ทรมานไปตลอดชีวิตเลยทีนี้ หึหึ แต่ไม่สงสารนะ  ก่อนหน้านั้นดันใจเร็วข่มขืนเค้า พอมีความสัมพันธ์ทางกายแล้ว คงยากจะตัดกว่า มีความสัมพันธ์ทางใจเฉยๆ incest ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแรงในหลายวัฒนธรรมเลย
Writer ลองเขียนเรื่องน่ารักๆดูบ้างสิคะ เรื่องนี้เศร้าไปหน่อย แต่ก็สนุกดี มีปมให้คลี่คลาย ขอบคุณค่ะสำหรับนิยาย :pig4: และขอโทษค่ะที่ไม่ได้มาอ่านแต่แรก  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-06-2010 20:43:23
เหอๆ เป็น 4p อ๊ะป่าว แว้กกกก ม่ายช่ายยย :laugh:
อยู่กันแบบนี้ก็อบอุ่นดี แต่พี่ออทัมเจ็บสุดแหละ น่าสงสารจังเลยย :m15:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: kimagain ที่ 18-06-2010 22:13:36
4 p โลดดดดดดดด :-[
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 19-06-2010 01:01:41
เอ่อ
ทำไมทำแบบนี้ละครับ
4คน
ไม่ดีเลยนะ
รวมผมอีกคนได้มั้ย
คนบ5พอดี
+5555555
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-06-2010 07:33:22
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 19-06-2010 14:16:38
 o22 4 P  o22
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 19-06-2010 14:47:20
เหอๆๆๆ คลุมเคลือจริงๆ o3


รอตอนพิเศษตอนต่อไปอยู่นะ :amen:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 21-06-2010 15:42:48
อย่าเพิ่งจบนะ มาเคลียปมก่อน  :o12:
ตอบจบว่าปวดตับแล้ว พอมาอ่านตอนพิเศษนี่ปวดตับยิ่งกว่า
นอกจากจะสงสารไอดินอย่างแรงแล้ว ยังเกลียดออทัมอีกด้วย
จิงๆแล้วเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้าข้างคนที่เป็นครั้งแรกของนายเอกอ่านะ
แต่กับนายออทัมไม่รู้เป็นไง มันรู้สึกเข้าข้างไม่ลงซักที
ถ้าลมยังทำใจให้รักไอดินแบบเต็มๆและเป็นของไอดินคนเดียวไม่ได้ ก็หาคู่ให้ไอดินทีนะคะ
สงสารไอดินนนนน  :o12: คนเขียนแต่งเก่งมั่กๆ อินจิงจังเลยนะเนี่ย
ยังไงก็รักคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-06-2010 16:01:58
จะเรียกว่าจบก็ไม่ได้แฮะ
เหมือนวินด์ ก็ยังก้าวออกมาไม่พ้นจุดเดิมเท่าไหร่
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 00:58:38
แล้วแสงแดดอันอบอุ่นและอ่อนโยนก็ส่องมาถึงลมในฤดูหนาวจนได้นะค่ะ มีความสุขกับเค้าซะที...วินเทอร์ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 22-06-2010 12:05:01
ไม่เคยได้เห็น น้ำตาที่เป็นของฉันใช่ไหม
ที่ต้องคอยแต่แอบเอาไว้และไม่เคยร้องมันออกมา
ที่เธอไม่รักแม้เธอไม่เคยได้เห็นในสายตา
สิ่งดีๆ ที่บอกกันมาแต่ไม่เคยได้ใกล้กว่านี้

สิ่งที่เธอเคยได้เห็นฉันคือ
ฉันคนเดิมอยู่ตรงที่เก่า
แบ่งปันอารมณ์ที่เหงาที่ซึมเซา
แต่ไม่ใช่คนที่เธอรัก

ไม่เคยขอ ไม่เรียกร้องเอาอะไรกว่านี้
ไม่ไขว้คว้า อ้อนและวอนเพื่อได้อย่างนี้
แค่มองตรงนี้ก็พอให้อุ่นใจ
ให้เธอรู้คนอย่างฉันแม้จะยืนอยู่ไกล
แต่ว่าฉันยังไม่เคยคิดจะจากไป
อยากให้เธอรู้ว่ามีอีกใจที่รักเธอ

อีกคนที่รักๆ เธอคนเดียวเท่านั้นหมดใจ
ไม่ต้องการคำตอบใดๆ แค่อย่าทำร้ายใจก็พอ
อาจมีสักครั้งที่เธอต้องทนอ้างว้างไม่เหลือใคร
แต่อย่าลืมอีกหนึ่งคนไกลคนที่ใจไม่ไกลจากเธอ

สิ่งที่เธอเคยได้เห็นฉันคือ
ฉันคนเดิมอยู่ตรงที่เก่า
แบ่งปันอารมณ์ที่เหงาที่ซึมเซา
แต่ไม่ใช่คนที่เธอรัก

ไม่เคยขอ ไม่เรียกร้องเอาอะไรกว่านี้
ไม่ไขว้คว้า อ้อนและวอนเพื่อได้อย่างนี้
แค่มองตรงนี้ก็พอให้อุ่นใจ
ให้เธอรู้คนอย่างฉันแม้จะยืนอยู่ไกล
แต่ว่าฉันยังไม่เคยคิดจะจากไป
อยากให้เธอรู้ว่ามีอีกใจที่รักเธอ

ไม่เคยขอ ไม่เรียกร้องเอาอะไรกว่านี้
ไม่ไขว้คว้า อ้อนและวอนเพื่อได้อย่างนี้
แค่มองตรงนี้ก็พอให้อุ่นใจ
ให้เธอรู้คนอย่างฉันแม้จะยืนอยู่ไกล
แต่ว่าฉันยังไม่เคยคิดจะจากไป
อยากให้เธอรู้ว่ามีอีกใจที่รักเธอ

บอกให้เธอรู้ไกลๆ หนึ่งใจยังรักเธอ





คนไกลๆๆ    เพลงนี้ เข้ากับเรื่องนี้มากที่สุด
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 22-06-2010 22:55:04
ดูคลุมเครือจริงๆด้วย ไม่มีอะไรเคลียร์เลยสักนิด
แต่มันมีท่าทางหยั่งกะจะเล่น4P  o22  แอบน่ากลัวนะนั่น
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aojroonra ที่ 24-06-2010 09:27:42
อ่านเศร้าเคล้าน้ำตาตั้งแต่ต้นจนจบ มาเจอ 4P ต่อ วะฮะฮ่า
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 24-06-2010 21:59:11
ตามมาจากเด็กดีนะ เคยเห็นเรื่องนี้ในบอร์ดนานแล้ววววอ่ะ

แต่ไม่ได้คลิกอ่าน พออ่านที่เด็กดีจบ ก็ตามมานี้เลยยยยย

้ชอบอ่ะ โดนเลย เศร้าได้ใจเลยยยย ลมก็เหมือนคนขาดความรักที่พยายามไขว่คว้าหาาาาาาาาาาาา

แต่สุดชอบชอบนะที่จบแบบนี้อ่ะ ดีกว่าจบแบบหลาย P แยะเลยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 03-07-2010 04:47:41
มาแบบงงค่ะจุกประสงค์คืออารายอ่ะ เจ้ไม่เข้าใจ(โทดทีไม่รู้จริง)

เจ้มองว่ามันมีแง่มุมหลายแง่มุมที่ดูขัดแย้ง หรอผู้แต่งต้องการอย่างนั้น

สวนตัวเจ้ว่ามันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรในบุคลิกของลม(เจ้ไม่ค่อนชอบด้วย)

เนื้อเรื่องดูวกวนคลุมเครือ ไม่ได้คลายปมของเรื่องอีกหลายจุด

เจ้หาไคล์แม็กซ์ของเรื่องไม่เจอ(ไม่รู้ว่าผู้เขียนตั้งใจให้เป็นตรงไหน)

เนื้อเรื่องผูกปมมาน่าติดตามแต่ถ้าขยายความมากกว่านี้น่าจะน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

เจ้เม้นเท่าน้ก่อนแล้วกันค่ะอย่างไรก็ขอคุณที่แต่งเรื่องมาให้อ่าน

เป้นกำลังใจในการเขียนเรื่องต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 09-07-2010 03:15:00
ค้าง :a5: งง o22

ไม่เข้าใจจจอ้ะ  :z3: รอ  รอ  รอ :z13:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 10-07-2010 19:28:38
ค้าง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

อย่างมาก
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nbom_pkai ที่ 11-07-2010 03:08:25
รอตอนพิเศษอยู่ครับ อิอิ
แงๆ ร้องไห้ไปหลายรอบมากเลย
ชอบครับ
ขอบคุณที่สอนให้รู้
เราจะรักใครไม่ได้ ถ้าเราไม่รักตัวเอง
^-^
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 01-08-2010 21:01:08
มาต่อตอนพิเศษตอนต่อไปของเรื่องนี้ได้แล้วนะ  :z13:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 01-08-2010 23:29:04
พึ่งกระดึ๋บมาอ่านครับ

แรกๆก็สงสารลมมากที่สุด

และสมเพชลมมากที่สุด

แต่ชอบบทสรุป คนเราถ้าต้องการความรัก ตามจริงควรจะเริ่มจากรักตัวเองให้เป็น แล้วค่อยรักคนอื่น




แต่หลังๆไม่ชอบลมสักเท่าไหร่ การทำร้ายคนที่รักเรา มันให้ความรู้สึกแย่กว่า ไปรักคนทีเราไม่รัก รังเกลียดเราอีกนา :เฮ้อ:

แต่ก็ยังดีทีรู้ตัวได้ :bye2:

สงสารคนตามมาก็แม่ของลม(ไม่ใช่แม่แท้น่ะ)

ยอมทำเพื่อลมตลอด แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแบบไหนๆก็ตาม ผิดกับแม่แท้ๆที่พอรวยแล้วก็อยู่อย่างสุขสบาย แหมยังมีทีท่าดูถูกคนจนอย่างนี้ ใจไม่กว้างพอ ถ้าลมคิดกลับไปอยูทางนั้น ความสุขที่ได้รับมาคงจะเป็นความสุขทางกายเสียมากกว่า ความสุขทางใจ อยู่กับแม่ที่รักเราจริงๆดีกว่านา :กอด1:

สงสารรองมาอีกก็ดิน รักลมมาก พยายามทำหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ได้ลมมา (แต่ดูท่าตอนพิเศษเป็นแฟนกันแล้วสินา)

แอบไม่พอใจดิน ที่ปล่อยให้ลมโดนไอ้ระยำ(เกลียดคอดๆ)ข่มขืนต่อหน้าต่อตา

ส่วนฟ้า กับ น้ำ เหมือนเป็นตัวทีช่วยพูดให้ทางสว่างกับลม จนหนทางที่ลมสามารถรู้ตัวเองได้

ส่วนที่เหลือ พูดได้คำเดียวว่า "สมน้ำหน้า" :laugh:


เกลียดนักพวกที่ตอนแรกเห็นเป็นคนอื่นจะทำยังไงก็ได้ มันไม่ใช่ครอบครัวเรา ถ้าถูกการเลี้ยงดูมาแบบนี้ นิสัยก็คงเหมือนพวกที่เชิดๆ ดูแคลนมองคนอื่นต่ำต้อย ดีแต่ใส่หน้ากาก แล้วก็ดีแล้วหล่ะที่ลมไม่ต้องไปอยู่กับคนพวกนี้ ถ้าเป็นผมน่ะ แค่โดนมันด่ามาครั้งเดียว ก็รู้ถึงสันดาน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกเลยจะดีที่สุด o21

แต่บอกตามตรงว่าเกลียดไออกัสมากๆ แค่รู้ความจริงมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นิสัยหมาหมู่ ชอบเหยียบย่ำคนอื่น ชอบพูดดูถูกดูแคลน ไม่พอใจก็ใช้แต่กำลังนิเกลียดสุดๆ แอบสะใจตอนท้ายที่อย่างน้อยมันก็ได้ดูลมเป็นแฟนกับดิน  o16



อ่านเรื่องนี้แล้วนั่งปาดน้ำตาไปหลายรอบ เดี๋ยวนี้เปิดนิยายนังอ่านๆ เจอแต่แนวดราม่า สงสัยแนวนี้กำลังฮิตกัน ไอความจริงแล้วผมมันเป็นพวกไม่ชอบแนวดราม่าเอาซะเลย เลยขอมานังตามอ่านเรื่องที่จบแล้วดีกว่า ไม่อยากเก็บไปคิดมาก เพราะไอผมเป็นประเภทอ่านแล้วต้องอ่านให้จบด้วยสิ :laugh5:

ปล.เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ และขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีน่ะครับ :yeb:


    
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 11-11-2010 19:57:45
ยังค้างกับเรื่องนี้อยู่... เมื่อไหร่คนเขียนจะมาต่อตอนพิเศษอีกน๊าาาา :m22:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 12-11-2010 16:52:01
น้ำตาซึมเลยอ่ะ  :sad11:

คนที่น่าสงสารที่สุดคือ ออทัม

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 12-11-2010 20:12:59
เศร้าทุกตอน
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 14-11-2010 15:35:54
อ่านจบแล้วสงสารออทัมมากมายค่ะ  :m15:

แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะ..ทำตัวเอง :เฮ้อ:

เป็นนิยายที่ดีมากเลยค่ะ  o13

แต่ว่ารู้สึกว่ามันยังไม่เครียร์  :m28:

ถ้ามีตอนพิเศษอีกจะดีมากมาย อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: SanDiego ที่ 26-10-2013 15:00:53
กดมั่วๆ เข้ามา ดันติดใจซะงั้น
อ่านตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้กินข้าวเลย แงๆ  :ling3:

ชอบจังครับ คนเขียนเขียนได้ดีมาก สุดยอดเลย  :katai2-1:

ปล. มีแอบน้ำตาหยดแหมะๆ ตอนท้ายเรื่องด้วย คืออัลไล  :mew4:
ปล.2 ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับนิยายสนุกๆ เรื่องนี้  o18
ปล.3 อยากให้มีภาค 2 อ่ะ ไม่ทราบมีป่าว  :hao6:
ปล.4 ทำไมเราชอบออทั่มก็ไม่รู้ ดูเค้ารักลมของเราไม่แพ้ไอดินเลย โอ๊ยอิน  :katai1:
....................
อยากอ่านิยายของคนเขียนอีกจัง มีอีกมั้ยครับ ช่วยแนะนำหน่อย
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-10-2013 23:39:40
เครียดอย่างแรง o22
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-11-2013 03:58:34
ตอนแรกอ่านถึงตอนจบ คิดในใจ นี่มันนิยายปรัชญาชัดๆ
พออ่านตอนพิเศษเข้าไป เย้ยยยยยย คนแต่งจะสื่ออะไร เราคิดไปไกลนะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: oujoong ที่ 20-02-2015 02:27:38
เฮ้อ 
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 01-01-2016 23:07:29
อืม ...... จะดีกว่านี้ถ้าไม่มีตอนพิเศษ คือมันงง งงแบบงง ๆ  สงสารไอดิน สมเพชและเกลียดลม

แต่งัยก็ขอบคุณสำหรับนิยายนะครับ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 12:35:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Mayonhwa ที่ 09-07-2017 14:33:43
อ่านตอนแรกๆ อืม~ ลมต้องตายแน่ๆ
พวกเขาถึงรู้สึก
แต่จบแบบลมที่คิดได้ก็ดีไปอย่าง
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 09-07-2017 16:43:30
ต้องสงสารใคร ออทัม ไอดิน ซัมเมอร์ วินเทอร์ หรือแม่ทั้งสองคน  อ่านแล้วสงสารทุกคนเลย
เจ็บไปด้วยทุกตัวอักษรที่อ่าน
สนุกมากเลยค่ะ
 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 11-07-2017 11:24:21
เป็นเรื่องที่หน่วงมากกก สงสารวินด์สุดใจ
อยู่ทีมไอดิลนะ แต่ก็แอบเหล่ออทั่มนิดหน่อย---
อยากอ่านตอนพิเศษอีกกก
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 17-07-2017 16:14:25
อ่านแล้วรู้สึกสงสารวินมาก 
แต่ก็รู้สึกมันยังไม่จบเลย มันยังค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: by-mon ที่ 17-07-2017 21:22:55
เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ แบบนี้นะคะ
เศร้าได้แบบ ปวดใจมากกกกก
ตอนอ่านแรกๆ นึกว่าจะจบแบบ Badend ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 17-07-2017 22:40:54
คำเดว. " โง่ "  ทำตัวเองอะ.  มีวิธีเป็นล้านนนน