ตอนที่ 13
[โหมด :ภูมิ]
แสงอาทิตย์สากส่องรอดเข้ามาตามผ้าม้าน เสียงนกร้องและไก่กันบ่งบอกเวลายามเช้า ผมยังคงนอนอยู่บนเตียงโดยมีน้องเพลงนอนนซุกเข้ามาในอก คงจะหนาวเพราะที่นี่อากาสเย็น ร่างที่ซุกอยู่กับอกของผมไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ส่วมผมทำไมถึงตื่นมาแต่เช้าอย่างนี้ บอกได้เลยว่าผมยังไม่ได้นอนเลยตังหาก เมื่อคืนผมคิดว่าได้นอนกอดน้องเพลงคงหลับสบายและฝันดีเป็นแน่ แต่ไม่เลยก็พอนอนไปได้สักพักจากที่ผมนอนกอดกลายเป็นว่าน้องเพลงพลิกตัวเข้ามากอดและซุกเข้ากับอกผมแทน ไม่รู้คิดว่าผมเป็นหมอนข้างหรือป่าว แต่มันทำให้ผมนอนตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก จนคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นหมอนข้างเข้าไปจริงๆ ไหนจะกลินหอมอ่อนๆที่ลอยเข้ามาในจมูกทำให้อยากจะสูบเอาความหอบเข้าไปจนหมดทั้งตัวของเจ้าของ มันทำให้ผมต้องสงบจิตสงบใจจนนอนไม่หลับ ตอนนี้ผมรู้สึกเมื่อยเอามากแต่ยังไม่กล้าขยับไปไหนอยู่ดีเพราะกลัวว่าคนที่นอนซุกอยู่จะตื่น แต่ตอนนี้เช้าแล้วผมคงต้องหาวิธีลุกออกไปก่อนที่น้องเพลงจะตื่นดีกว่าเพราะถึงคนที่เข้ามากอดจะเป็นน้องเพลงแต่ใครจะรับประกันได้ว่าบอกไปแบบนั้นแล้วน้องเพลงจะเชื่อ ว่าแล้วผมก็ค่อยๆขยับตัวออกมาโดยระวังไม่ให้สะเทือนคนที่ยังหลับสบายอยู่ โอยเกร็งไปหมด ดีนะตะคริวไม่กิน ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ ลำบากดีแท้ ผมว่าผมไปทำอะไรไว้รอคนขี้เซาตื่นมาทานดีกว่า เอาเป็นข้าวต้มแล้วกัน ว่าแล้วก็รีบลงไปทำดีกว่าจะได้มีเวลาไปงีบสักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวขับรถไม่ไหวแน่ๆก็ต้องกลับแล้วนี่ครับ
“ภูมิ...ไอภูมิ...ไอ้ภูมิ”ผมสะตุ้งตื่นเพราะเสียงตะคอกชื่อผมอย่างหัวเสีย ก่อนจะปรับสายตาและจูนสมองให้เค้าที่และพบว่าน้องเพลงเป็นคนเรียกผมแถมยังเขย่าผมซะแรง
“อืม.น้องเพลงมีอะไรครับตะคอกพี่ทำไม”ผมถาม ยังงัวเงียอยู่
“ก็กุเรียกมึงตั้งหลายรอบไม่ชอบตื่นกุเลยอารมณ์เสีย ทำอย่างกับไม่ได้นอนหลับซะลึกปลุกยากจริง”น้องเพลงบ่นยาว แต่อื่ม พี่ไม่ได้นอนจริงๆนี่ครับ ได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูดเดี๋ยวยาว
“อ่า ขอโทษครับ แล้วน้องเพลงเรียกพี่ทำไมครับเนี่ย”ผมถาม
“ปลุกไปกินข้าวพร้อมกัน จะไปไหม”น้องเพลงตอบ เล่นเอาผมอมยิ้ม
“ไปครับไป คนสวยมาตามไปกินพร้อมกันทั้งที”ผมเอ่ยหยอก
“ไอภูมิเดี๋ยวมึงจะได้นั่งจมอยู่กะโซฟาตรงนี้ไม่ได้ไปกินหรอก ปากมึงอะนะ”น้องเพลงขู่
“ครับๆ ไม่พูดและ ไปกินข้าวกัน”เหอๆทำไมน้องเพลงดุอีกแล้วเนี่ย
“อืม นี่น้องเพลงอยากกลับตอนไหนครับ”ผมเอ่ยถาม ขณะที่กินข้าวเช้ากันเสร็จ
“เดี๋ยวกุไปลาคนในหมู่บ้านก่อน แล้วก็เดี๋ยวกุขับเอง เพราะยังไม่กลับ กุมีที่ๆต้องไปอีก ทีแรกกุเตรียมของว่าจะไปที่นั่นแต่มึงกลับพากุมานี่”น้องเพลงพุด อ่อที่มีชุดเพราะเตรียมของจะไปไหนนี่เอง
“แล้วน้องเพลงจะไปไหนหละครับ”ผมถาม
“ไม่บอกเดี่ยวถึงมึงก็รู้ อยู่ไกลจากที่นี่ไม่มากหรอก”น้อเพลงตอบ เฮ้อไม่ยอมบอกที่ไหน แต่เอาเหอะไม่ถึงเดี่ยวผมก้รู้เหมือนที่น้องเพลงบอกนั่นแหละ
“ครับ งั้นเราไปหมู่บ้านกันเลยรึป่าวครับ”
“อืม ไปเลย”
แล้วผมกับน้องเพลงก้เดินไปหมู่บ้านกันครับ พอเข้าไปในตัวหมูบ้านทุกคนก็เอ่ยทักกัน ส่วนพวกเด็กๆเนี่ยวันนี้มีเรียนครับ เลยไม่มีใครป่วน ถ้าอยุ่สงสัยว่าคงพุดเรื่องเมื่อวานออกมาให้พวกผมได้เขินกันแน่ๆ ตอนนี้ผมกำลังพาน้องเพลงเดินไปบ้านพี่ปัดครับ พอถึงก้เห็นพี่แกนั่งทำงานอยู่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับพี่ปัด/สวัสดีครับ”ผมกับน้องเพลงเอ่ยทักพี่ปัด
“อ่าว สวัสดีจ้า ว่าไงคู่ข้าวใหม่ปลามัน ตื่นแต่เช้าเชียว แล้วนี่มีอะไรจะมาถึงนี่”พี่ปัดเอ่ยทักแล้วแซว เล่นเอาคนข้างๆผมหน้าขึ้นสี ส่วนผมก้เขินนิดๆ แต่ไม่แสดงออกครับ
“ครับพี่ พอดีพวกผมจะมาลาหนะ เดี๋ยวน้องเพลงต้องไปที่ๆนึงต่อหนะครับ”
“แหม น่ารักจังมาลาพี่ด้วย แล้วจะไปไหนต่อค่ะเนี่ย”
“เอ่อ ไป....หนะครับ”รีสอร์ทชื่อดังแห่งนึงที่อยู่จังหวัดติดกัน
“อ่อค่ะ เอที่นี่ดังเอาเรื่องอยู่เห็นว่าสวยมากๆ เหมาะกับคู่รักไปเที่ยวพักผ่อน จะไปอันนีมุนรึเปล่าค่ะเนี่ย”พี่ปัดแซว พี่ครับแซวแบบนี้ผมคิดนะ
“เปล่าหรอกครับ พอดีผมมีธุระที่นั่นนิดหน่อย”น้องเพลงตอบสีหน้าดูเครียดๆ
“มีอะไรรึป่าวค่ะ ทำไมพอพุดว่ามีธุระที่นั่น หน้าดูเครียดจัง”พี่ปัดทักในสิ่งที่ผมก็สังเกตุเห็น
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เอ่อพี่ปัดผมต้องไปแล้วนะ เดี๋ยวจะถึงที่นั่นเลยเวลา”น้องเพงตอบยิ้มๆแล้วกล่าวลา
“อ่าวจะไปแล้วหรอค่ะยังไม่ได้ทานน้ำเลย”
“ไม่เป็นไรครับพี่ปัด งั้นผมลานะครับ ขอบคุณสำหรับเมื่อวานด้วย ทำให้ผมหายเครียดแล้วก็มีความสุขด้วย ฝากขอบคุณเด็กๆด้วยนะครับ”ผมจะตัวลอยแล้วครับน้องเพลงบอกว่าเมื่อวานมีความสุข อ่าผมไม่ได้คิดอะไรเข้าข้างตัวเองใช่ไหม ว่าน้องเพลงเต็มใจที่ถูกจับเข้าพิธีกับผม
“ผมก็ขอบคุณพวกพี่ๆและก็เด็กๆมากนะครับ”ผมกล่าว
“ค่ะไม่ป็นไรพี่เต็มใจ แล้วเดี๋ยวพี่จะบอกเด็กๆให้นะค่ะ เดินทางดีๆหละ”
“ครับ” แล้วผมกับน้องเพลงก็เดินออกมาครับ
“นี่ไอภูมิ”น้องเพลงเรียกผม
“ครับ”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองไป ที่กุบอกว่ามัความสุขหนะเพราะความน่ารักของเด็กๆแล้วก็คนที่นี่ไม่ใช่ว่าเพราะได้เข้าพีกับมึง”น้องเพลงบอก แต่เอ่อพี่คิดไปแล้วนี่ครับ
“เอ่อ ครับไม่คิด”ทำไมน้องเพลงต้องมาเอ่ยให้ฝันสลายด้วยครับ T^T
“อืมไม่คิดหนะดีแล้ว แล้วก็เดี๋ยวพอไปถึงที่ๆกุจะพามึงไปถึงที่รีสอร์ทแล้วมึงไม่ต้องถามอะไรนะ กุพุดอะไรก้ช่วยตามน้ำกุด้วย”น้องเพลงบอก
“ครับๆ รับทราบและพร้อมทำตามทุกเมื่อครับ”
เราเดือนทางกันมาถึงที่รีสอร์ทที่น้องเพลงพูดถึงในเวลาครึ่งชั่วโมง น้องเพลงขับรถเร็วมากนะครับแต่ก็นิ่มมากด้วยถ้าไม่เก็นว่ารถเราแซงรถคันอื่นๆตลอดคงไม่รู้สึกว่าเร็วอีกอย่างการมาถึงที่นี่ภายในครึ่งชั่วโมงก็ช่วยบอกได้เลยว่าน้องเพลงขับรถไวมาก พอรถจอดเทียบตัวรีสอร์พนักงานก็รีบลงมาเพื่อเปิดประตูทันที
แล้วโค้งให้ผมอย่างนอบน้อม ส่วนน้องเพลงเดินลงมาจากรถเอง แต่พอพนักงานเห็นน้องเพลงก็ทำหน้าตกใจแล้วมองผมแปลกๆ ก่อนที่จะเข้าไปทำความเคารพน้องเพลง เล่นเอาผมงงกับการกระทำนั้น แต่ไอจะถามก็ไม่ได้เพราะตกลงกับน้องเพลงไว้แล้วว่าจะไม่ถามอะไร
“เอ่อ คุณภูมินทร์ ทำไมถึงขับรถเองครับแล้วคุณคนนั้นเป็นใคร”เสียงพนักงานเอ่ยถามน้องเพลง
“คุณไม่ต้องรู้ ว่าเค้าเป้นใครแค่รู้ว่าเค้าสำคัญก็พอแล้ว และก็ไปเตรียมชุดสูทให้ผมกับเค้าด้วย หวังว่าจะเตรียมได้พอดีกับเค้านะครับ แล้วก็ อีก10นาที ตามทุกคนไปพร้อมกันที่ห้องประชุมด้วย”น้องเพลงบอกกับพนักงานคนนั้น
“ครับ ผมจะรีบจัดการ”
“นี่ไอภูมิตามมาทางนี้”น้องเพลงเดินมาหาผมแล้วบอกให้ผมเดินตาม พอตามน้องเพลงไปสักพัก ก็มาหยุดที่ บ้านหลังหนึ่งคงเป็นหนึ่งในบ้านพักของรีสอร์ทนี้ละมั้ง ผมเดา น้องเพลงใช้นิ้วทาบกับที่สแกนตรงประตูแล้วเปิดเข้าไป ทำให้ผมต้องคิดใหม่ว่า นี่ไม่ใช่หนึ่งในบ้านพักของรีสอร์ทแต่เป็นบ้านพักของน้องเพลงเวลามาที่นี่แทน
“ไอภูมิ เดี๋ยวกุจะเรียกชื่อจริงมึง มึงไม่ต้องตกใจนะ กุบอกไว้ก่อน แล้วก็อย่าลืม กุพูดอะไรก็ตามน้ำกุไปด้วย”น้องเพลงบอก
“ครับๆ”
“อ่อ มึงรอพนักงานเค้าเอาชุดมาให้นะแล้วก็เปลี่ยนซะ เดี๋ยวกุเข้ามา”น้องเพลงบอกผมแล้วเดินออกจากห้องไป ผมนั่งรอไม่นาพนักงานก็เอาชุดมาให้ครับ
“อืม แต่งตัวเสร้จแล้วใช่ไหมมึง งั้นไปเหอะ เหลืออีก3นาที”น้องเพลงเข้ามาตามและบอกให้ผมเดินตามไปทันทีครับ ผมก็เดินตามไม่ถามอะไร จนมาถึงห้องๆนึง มีผู้หญิงท่าทางปราดเปรียวยืนอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นผมกับน้องเพลงเธอก็พยักหน้าให้แล้วดันประตูเปิให้ผมกับน้องเพลงเดินเข้าไป และเธอเดินตามมา พอเดินเข้ามาน้องเพลงก็เดินไปนั่งยังหัวโต๊ะ หญิงสาวที่เป็นเปิดประตูให้ผายมือให้ผมไปนั่งที่แรกทางด้านเซ้ายและเธอตามมานั่งข้างผม
“ทุกคนมากันครับแล้วนะครับ งั้นผมจะเริ่มประชุม”น้องเพลงเกริ่น
“ทางรีสอร์ทของเราเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาสดรแมนติก เหมาะสำหรับคุ่รักที่ต้องการจะมาอันนีมูนภายในประเทศ และเราก็โปรโมทรีสอรืทเราในแนวทางนี้มาโดยตลอด และเมื่อหนึ่งเดือนก่อนผได้เสนอให้คิดแผนงานโปรโมทใหม่ออกมา ไม่ทราบว่า ได้เรื่องไหม”น้องเพลงกล่าว และมีชายกลางคน คนนึงยกมือ
“เชิญครับคุณองอาจ”น้องเพลงกล่าว
“ผมคิดว่าแผนโปรโมทเดิมของเราก็ดีอยุ่แล้วนะครับ และลูกค้าเราก็ยังคงมีจำนวนที่เราตั้งเป้าหมายไว้”ชายคนนั้นเสนอความเห็น
“ครับ แผนการโปรโมทแบบเดิมก้ดีอยู่แล้วเพราะเห็นถึงจุดเด่นของที่นี่ แต่ตอนนี้รีสอร์ทเกิดใหม่มีเยอะและสถานที่ๆมีจุดเด่ในด้านเดียวกับเราเยอะ พูดได้ว่า เรามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นถึงยอดลูกค้าจะได้ตามเป้าหมายแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ลดลง คนเราต้องการความสะดวกสบายเพราะฉะนั้นรีสอร์ทที่สามารถเดินทางไปง่ายกว่าหรือถึงเร็วกว่าก็จะได้ลูกค้าไปถ้าเรามีจุดเด่นที่เหมือนกัน ดังนั้นผมคิดว่าเราควรมองหาสิ่งแปลกใหม่ที่ยังไม่มีที่อื่นทำมาเป็นตัวดึงดูด ดังนั้นมีใครจะเสนอความเห็นไหมครับ”น้องเพลงกล่าว และมีผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น เธอเป็นหยิงวัยกลางคนแต่ยังคงดูสวยและเป็นคนมันใจแววตาดูฉลาดเฉลียวและมั่นคง
“เชิญ คุณมินตรา ครับ”
“ดิฉันเห็นด้วยกับคุณภูมินทร์ ค่ะเรื่องที่เราต้องหาสิ่งแปลกใหม่ในการดึงดูดลุกค้า เนืองจากตอนนี้มีรีสอร์ทเกิดใหม่และมีจุดโปรโมทและมุ่งเป้าเกียวกับเราทำให้ลูกค้าลดลงไปบางส่วน ถึงจะยังได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ต่อไปข้างหน้าจะยังคงได้ตามเป้าอยู่ เนื่องจากคู่แข่งจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”เธอกล่าว
“ครับ แล้วใครมีความคิดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่จะสามารถดึงดูลุกค้าได้และยังไม่มีที่ไหนทำบ้างครับ”น้องเพลงกล่าว ทุกคนในห้องนั่งเงียบใช้ความคิด น้องเพลงมองมาทางผมยิ้มๆ ผมว่าเองไม่กี่อึดใจผมคงงานเข้า
“มีใครมีความเห็นอะไรไหมครับ ถ้าไม่มี ผมมีข้อเสนอ”น้องเพลงกล่าว แต่ทุกคนยังเงียบ
“ไม่มี ถ้างั้น ผมจะเสนอ แนวคิดของผมนะครับ เนื่องจากทางเรามีการโปรดมทในเรื่องของบรรยากาศโรแมนติกเหมาะสำหรับฮันนีมูนฐานลุกค้าเราจึงอยู่ในกลุ่มคู่รักที่ต้องการฮันนีมูน ดังนั้นผมคิดว่าเราควรขยายฐานลูกค้าของเราให้กว้างขึ้น และปรับแผนโปรโมทใหม่ โดยให้คอบคุมลูกค้าในหลายๆรูปแบบ ดังนั้นผมจึงเสนอให้เรา จัดให้มีการนำเที่ยวในสถานที่ใกล้ๆ มีกิจกรรมสำหรับครอบครัว มีกิจกรรมสำหรับวัยรุ่น มีการจัดงานแต่งงานให้คู่รักด้วย และผมมีสถานที่ในจังหวัดที่ติดกันใช้เวลาเดินทางไม่นานจะแนะนำเป็นสถานที่ๆทุกท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เรื่องของสถานที่นี้ผมจะให้คุณภูมิภัทรบอกรายระเอียดให้ฟังนะครับ”นั่นไงครับผมงานเข้า - -*
“เอ่อไม่ทราบว่า คุณภูมินทร์คือใครครับ”คนที่ชื่อองอาจเอ่ยถาม
“คู่หมั้นผมครับ”น้องเพลงตอบเล่นเอาผมอึ้ง
--------------------------
55555 ลงให้แค่นี้ก่อน นะ
หวังว่าคงไม่ค้าง
“เอ่อคู่หมั้นคุณภูมินทร์หรือครับ”ผู้ชายรูปร่างน้าตาจัดว่าหล่อ แต่น้อยกว่าผมถามขึ้นน้ำเสียงประหลาดใจและดูจะตกใจอย่างยิ่งเพราะจากที่เงียบมาตลอดตอนนี้พอมีเรื่องนี้ถึงเปิดปากพูด
“ครับ คุณภูมิภัทรเป็นคู่หมั้นของผมคนวิรุจมีอะไรหรือป่าวครับ”น้องเพลงเอ่ย
“เอ่อ ปล่าวครับ เพียงแต่......”พูดได้เท่านี้คนที่เชื่อวิรุจก็เงียบไป
“ตกลงไม่มีใครสงสัยอะไรกันแล้วนะครับ”น้องเพลงพูดแต่ทุกคนยังเงียบอยู่ น้องเพลงเลยพูดต่อ
“ถ้างั้นผมจะให้คุณภูมิภัทรอธิบายเกี่ยวกับสถานที่นั้นและผมจะให้ทุกคนนำไปพิจราณาแล้วคิดแผนการโปรโมทใหม่ด้วย ผมให้เวลาพวกคุณสองอาทิตย์ หวังว่าคงพอสำหรับคนมีความสามารถอย่างพวกคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนโปรโมทใหม่จะเป็นที่หน้าพอใจ”น้องเพลงกล่าว อืมคำพูดแบบนี้ทำให้ผมฉุกคิดได้ว่าคงมีเรื่องอะไรสักอย่างระหว่างน้องเพลงกับคนในห้องนี้บางคน คงจะเป็นเรื่องประสบการณ์ในการบริหารงานอย่างที่ผมเคยเจอเป็นแน่ ว่าแต่นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ผมพึ่งรู้ว่าน้องเพลงเป็นผู้บริหารระดับสูงแต่ที่ยังไม่รู้คือจริงๆแล้วน้องเพลงมีตำแหน่งอ่ะไร และอีกอย่างที่ผมอยากจะรู้ตอนนี้