มาแว้วววววตามสัญญา
ตอน หกสิบสอง
ลุงใหญ่ขับ รถออกจากบ้านโดยมีผมและบอมติดรถไปด้วย ส่วนแม่รอให้อาจารย์ปริศนาฟื้นก่อนค่อยตามไปที่โรงพยาบาล ระหว่างทางบอมคุยกับบ๊อบตลอดทาง
"ลุงๆ เลือดมันไหลใหญ่เลย"
"บอก มันเอามือกดไว้ กดไว้ก่อน แล้วไปโรงบาลสุขุมวิท"
"ไอ้บ๊อบมึงเอามือ กดแผลไว้ก่อน ไปโรงบาลสุขุมวิท"
บอมพูดตามที่ลุงใหญ่บอก ผมนั่งตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างหลัง น้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม ในใจเป็นกังวล คิดอะไรไม่ออก
"ลุงคิดไว้แล้วเชียว ตอนอยู่ที่โน่นมันก็หยิบมีดมาดูแปลกๆ ดีนะที่ลุงไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียว แต่ในที่สุด"
ผมยิ่งฟังที่ทรมานใจอยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง ได้แต่สะอื้นนั่งกระสับกระส่าย พูดไม่ออกสักคำ ทำไมขับช้าจังเลย
"มึง ถึงโรงบาลยังไอ้บ๊อบ ไอ้เชี่ย เร็วๆ อุ้มมันไปหาหมอ เออๆ กูจะถึงแล้ว"
บอ มยกโทรศัพท์ขึ้นมารับแล้วร้องออกไป ใจผมสั่นไหวนั่งไม่ติดที่ชะเง้อคอดูตามถนนบ้างมองบอมที่คุยโทรศัพท์บ้าง
"หนู โย ใจเย็นๆลูก ถึงมือหมอแล้วเอไม่เป็นไรหรอก"
เสียงลุงใหญ่ทุ้มบาด ลึกเข้าไปในใจ ผมปล่อยโฮออกมา
"เพราะผม เพราะผมคนเดียว ผมน่าจะฟังเอบ้าง ผมทำร้ายเอ"
ผมเอามือปิดหน้าตัวเองสะอื้นไห้ออกมา ร้าวรานในใจ
"ไม่เอาลูก น้องมันไม่เป็นไรแล้ว นี่ไงถึงแล้ว ไปเราลงไปก่อนลุงไปจอดรถก่อน"
ผมเงยหน้าขึ้นมาหยุดร้องไห้ พอลุงใหญ่จอดรถของอาจารย์ปริศนาลงยังไม่ทันสนิทดี ผมก็เปิดประตูวิ่งออกไปเลย วิ่งไปโดยไม่รู้ที่หมายปลายทาง
"พี่ๆ ทางนี้ๆ ห้องฉุกเฉินอยู่ทางนี้"
เสียงบอมเรียกให้ผมชะงักแล้ววิ่ง ย้อนกลับมาตามมันไป ผมใจสั่นไม่อยากจะคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ขอให้เอไม่เป็นอะไร อย่าให้เอต้องเป็นอะไรไปเลย ผมชะงักเมื่อมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน บ๊อบยืนตัวสั่น เลือดเต็มตัวมัน น้องโอยืนร้องไห้อยู่ข้างๆ
"เอ!!!!!!!!" ผมร้องออกไป
"เอ อยู่ไหนบ๊อบ เออยู่ไหน"
ผมโผเข้าไปเขย่าตัวบ๊อบ มันยังยืนเหม่อลอยอยู่
"มันอยู่ในห้อง หมอดูอยู่"
เสียงลอด ออกมาจากคอ ผมทรุดตัวลงกับพื้นคุกเข่าหน้าบ๊อบ สะอื้นออกมา ใจจะขาด ผมจุกอยู่ที่อก
"ทำไม ทำไมเอต้องทำแบบนี้ เอ!!!!!!!!!!!!"
ผม ไม่มีสติแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว บอมจับตัวผมลุกขึ้น มันลากผมไปนั่งลุงใหญ่มาพอดี
"เป็นไงบ้างพ่อหนุ่ม"
ลุงใหญ่ ถามบ๊อบ
"มันกรีดแขนตัวเอง แล้ว แล้วไปแช่ในอ่าง ผมมาก็เห็นเลือดเต็มแล้ว"
บ๊อบปากสั่น หน้าซีด ลุงใหญ่เข้าไปตบบ่ามันเบาๆแล้วพามานั่งข้างๆผม หมอเปิดประตูออกมา
"เป็น ยังไงบ้างครับคุณหมอ"
ลุงใหญ่ลุกไปถามหมอที่มีผ้าปิดปากอยู่
"เด็ก เสียเลือดมากนะครับ กรุ๊ป เอบี ทางเราเกรงว่าจะมีเลือดกรุ๊ปนี้ไม่พอ"
"ผม เอบีครับหมอ"
ผมร้องขึ้นเคยบริจาคเลือด จำได้ว่ากรุ๊ปเลือดผมก็ เอบี คุณพระคุณเจ้ายังเมตตาอยู่
"ดีครับ งั้นตามพยาบาลไปห้องโน้นเลยครับ"
"แล้วหลานผมเป็นยังไงบ้างครับ คุณหมอ"
ลุงใหญ่ยังถามเสียงขรึม
"ตอนนี้หมดสติไปครับ เนื่องจากเสียเลือดมาก แต่คงไม่เป็นอะไรมากเพราะพามาโรงพยาบาลทันเวลาพอดี"
"ผม ฝากหลานด้วยนะครับ"
หมอพยักหน้าคุยกับลุงใหญ่อีกคำสองคำ เพราะผมเดินตามพยาบาลไปได้แต่มองย้อนหลังกลับมาดู ผมตามพยาบาลเข้าไปในห้อง ผมขึ้นนอนบนเตียงตามที่พยาบาลบอก น้ำตาไหล ขออย่าได้เป็นอะไรไปเลยนะเอ คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเอด้วยเถิด ทำไมทำแบบนี้ ทำไมคิดสั้นแบบนี้
"กำ หมอนนี้นะคะ กำ ปล่อย กำ ปล่อย ค่ะดีค่ะ"
เสียงพยาบาลบอก ผมนอนหลับตาปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอาบสองแก้ม ไม่หันไปมองถุงเลือดที่กำลังสูบออกจากร่าง ขอให้เลือดนี้ช่วยชีวิตเอด้วยเถิด ต่อให้สูบไปจนหมดตัวผมก็ไม่เสียดาย ขอให้แค่เลือดผมต่อชีวิตให้ดวงใจของผม ผมยอมแล้ว ผมยอมแพ้ทุกอย่างแล้ว อย่าทำแบบนี้เลย อย่าลงโทษผมด้วยวิธีการนี้เลย ผมทนไม่ไหวแล้ว อย่าพรากเอไปจากผมด้วยวิธีนี้เลย ให้แยกจากกันด้วยวิธีไหน หนทางใดก็ได้ แต่อย่าทำแบบนี้ ผมทนไม่ได้ ผมจะอยู่ยังไงถ้าเสียเอไป ใจผมจะสู้ต่อไปยังไง ผมจะยังมีลมหายใจอยู่ในโลกนี้ได้ยังไง ได้โปรดกรุณาเราสองคนด้วย ผมอ้อนวอนในใจที่กำลังแหลกสลายร้าวราน
"เจ็บเหรอคะน้อง ทนหน่อยนะคะเดี๋ยวก็เต็มถุงแล้ว"
เสียงพยาบาลกังวานในหัว ผมส่ายหน้าทั้งน้ำตา
"ไม่.....ครับ ....ผม ไม่......"
พูด เป็นคำไม่ได้แล้ว ทุกอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอ ผมเม้มปากแน่นเพราะไม่อยากจะสะอื้นออกมา อยากบีบให้เลือดเต็มเร็วๆ ยิ่งเร็วผมยิ่งช่วยเอได้เร็วกว่าเดิม
"เต็มแล้วค่ะ น้องนอนพักแป๊บนะคะอย่าเพิ่งลุก"
"พอไหมครับพี่ เอาอีกได้ไหม เอาให้พอ"
ผมหันมามองพยาบาลร้องอ้อนวอน น้ำตายังไหลอยู่อาบทั้งหน้า
"มัน จะเกินกำลังไปนะคะ แค่นี้คงพอ เดี๋ยวเราจะไปดูหมอด้วย น้องนอนพักก่อนเถอะค่ะ"
"ผมไหวครับพี่ ผมไหว เอาของผมเถอะ ผมขอร้อง"
ผม สะอื้นออกมา พยาบาลมองหน้าผม เธอคงตกใจ เสียงสะอื้นที่พยายามสะกดเอาไว้พรั่งพรูออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
"ได้ โปรด......เอาเลือดผม เถอะ เอาไปให้เอที ผมขอร้อง"
ผมสะอื้นออกมา พยาบาลลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอาถุงใส่เลือดอีกถุงมาเสียบเข้าท่อ
"ไม่ ไหวบอกพี่นะคะน้อง อย่าฝืนนะคะ"
ผมไม่ตอบแต่เร่งมือกำหมอน ผมรู้สึกอ่อนแรง ยิ่งร้องไห้หัวใจยิ่งเต้นแรง ผมไม่มีแรงแม้แต่จะกำหมอนเข้าหากัน
"พอแล้วค่ะ น้อง พอแล้วค่ะไม่ต้องกำแล้ว"
เสียงร้องของพยาบาล เธอมาถอดสายเจาะเลือดออกทันที
"พี่.....เอาเลือดผม อย่าให้เอ เป็นอะไรไป ผมขอร้อง......ผมยังไหว พี่ ครับ.....ได้โปรด"
ผมสะอื้น มองหน้าเธอเลือนลางรู้สึกหวิวๆ แต่เจ็บปวดทางกายมันไม่เทียบเท่าความเจ็บในใจที่มันสุมแน่นอยู่จนผมไม่ รู้สึกว่าเจ็บปวดทางกายเลยแม้แต่น้อย ในใจมันร้อนมันไม่ฟังเสียงใครแล้ว สติหรือ มีใครคุมสติตัวเองในเวลาแบบนี้ได้ด้วยหรือ อาจจะมีแต่ไม่ใช่ผม ผมทำอะไรไม่ได้แล้ว ผมคิดอะไรไม่ออกนอกจากสิ่งที่อยู่ต่อหน้า
"พอ แล้วค่ะ ถุงนั้นเอาไปแล้ว พอแล้วค่ะน้อง เอาอีกเราช็อคแน่ๆ พักก่อนนะคะอย่าเพิ่งลุก"
พยาบาลมาดันตัวผมลงให้ไปนอนกับเตียงเพราะ ผมทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียง เลือดได้แค่ครึ่งถุง ถ้าเลือดไม่พอล่ะ เอจะเป็นยังไง เอ อย่าเป็นอะไรไปนะ เอ รอฉันก่อน ฉันขอร้อง ได้โปรด อย่าเป็นอะไรไปเลย ผมยกมือขึ้นพนมทั้งที่นอนอยู่บนเตียง สะอื้นออกมาจนตัวโยนสะท้อน
"คุณพระคุณเจ้า สงสารลูกด้วยเถิด อย่าเพิ่งให้เอเป็นอะไรไปเลย ช่วยเอด้วย ช่วยเอด้วย ลูกขอทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเอ"
"น้องคะ อย่าคิดมากนะคะหมอกำลังช่วยอยู่ น้องเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว น้องพักก่อนนะคะ"
พยาบาล มาจับมือผมที่พนมกันอยู่ ผมร้อนในใจ อยากไปกอดเอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เพราะผมคนเดียว เพราะคนโง่ที่อวดฉลาดอย่างผม ที่คิดว่าตัวเองมีข้อดีเสียมากมาย ไม่ยอมมองเห็นน้ำใจของเอ ไม่ยอมฟังเสียงอธิบายของเอ ผมมันโง่นัก ผมมามัวนอนฟูมฟายเสียใจอะไรอยู่ตรงนี้ ทุกวินาทีนับจากนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่ยอมยกโทษให้ตัวเองเลย ผมพยายามดันตัวลุกขึ้น
"น้องคะ อย่าเพิ่งค่ะ อย่าเพิ่งลุก เดี๋ยวช็อค"
พยาบาลร้องเสียงหลงเข้ามาจับผมให้นอนลงอย่างเดิม แต่ผมรั้งตัวไว้ไม่มีเรี่ยวแรง เวียนหัว
"พี่ครับ พาผมไปหา............เอ ได้ไหม ผมขอร้อง..........ผม ไม่เป็นไร.........ผม ไหว ผม ขอร้อง"
ผมยกมือไหว้พยาบาลสะอื้นไห้ ใจจะขาด ผมไม่คิดอะไรแล้วในหัว ตอนนี้อยากจะออกไปดูว่าเอเป็นยังไงบ้าง ทั้งที่พยาบาลบอกอยู่ว่าเอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ผมอยากไปเห็นกับตา ว่าเอไม่เป็นอะไร ผมทนไม่ได้ ผมอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ทนอยู่อย่างนี้ไม่ได้ พยาบาลจับตัวผม เธอลังเลอยู่ครู่ใหญ่แต่ผมก็ไม่สนใจแล้วจะลุกจากเตียงอย่างเดียว เธอจำใจต้องพยุงผมลุกขึ้น
"ค่อยๆเดินนะคะน้อง โอยหมอมาเห็นพี่โดนแน่ๆ"
พยาบาลพยุงผมออกมาจากห้อง
"โย เป็นยังไงบ้างแก หน้าซีดเชียว"
พลมาถึงแล้ว มันวิ่งเข้ามาซ้อนปีกผมพยาบาลจึงผละออกปล่อยให้พลพยุงแทน
"เอ เป็นยังไงบ้างแก เอ อยู่ไหน"
ผมยังสะอื้นอยู่ ยิ่งหายใจยิ่งเหนื่อย เวียนหัวเหลือเกิน ตาเริ่มพร่ารางเลือน
"มันอยู่ในห้องพักฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้วแก เอมันปลอดภัยแล้ว แม่ก็อยู่ข้างใน"
"พา ฉันเข้าไปหน่อย ฉันอยากเจอเอ"
ผมอ้อนวอน เสียงแผ่วเบาขาดหาย ลมหายใจผมอ่อนรวยริน ไม่มีแรง เหมือนจะเป็นลม
"แกนั่งพักก่อนไหม หน้าซีดมากแก"
"ไม่ พาฉันไปหาเอ ได้โปรด พล พาฉันไป ฉันอยากเห็นหน้าเอ"
ผมไม่ฟังเสียงค้านของพล พยายามลากตัวเองไปข้างหน้า แม้ไร้เรี่ยวแรง เอ อยากเจอเอ พลพยุงผมเข้ามาในห้องพักฟื้น เห็นแม่ยืนกอดอาจารย์ปริศนาอยู่ ลุงใหญ่ก็กอดโอไว้ บ๊อบกับบอมยืนอยู่อีกทาง
"เอ!!!!!!!!!!!!!!"
ผม กรีดร้องออกไปจากใจ โผเข้าไปที่เตียง ร่างมันนอนแน่นิ่งมีสายระโยงระยางเต็มแขนไปหมด หน้ามันซีดขาวเหมือนไม่มีวิญญาณ หน้าตามันดูสงบเหลือเกิน เอ..........
"โย ทำไมหน้าซีดอย่างนี้ลูก"
"โยให้เลือดมาแม่"
"เอ!!!!!! ทำไมทำแบบนี้ เอ ทำไมทำแบบนี้"
ผมกอดร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่สะอื้นใจ จะขาด
"แม่ผิดเอง แม่ผิดเอง เพราะแม่คนเดียว เอ แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่ห้ามแล้ว แม่ยอมแล้ว เออย่าเป็นอะไรไปนะ"
เสียงอาจารย์ปริศนา คร่ำครวญ
"เอ!!!!!!!!!!!!!!! เอ อย่าเป็นอะไรไปนะ เอ ฉันรักเธอนะเอ ฉันรักเธอ ได้ยินไหม ได้ยินไหม ฉันรักเธอ"
ผมตะโกนออกไปแทบไม่ได้ยิน เสียงของตัวเอง เจ็บปวดใจ ยอกอยู่ในอก เสียงคนรอบข้างร้องไห้ พูดอะไรไม่ได้ยินแล้ว
"ฮึก ฮึก............"
"โย โย!!!!!!!!!!!!!!"
จำได้ว่าเป็นเสียงแม่ แม่กรีดร้อง เสียงใครต่อใครเรียกชื่อผม เสียงนั้นแผ่วเบาเหมือนลอยมากับสายลม
"โย!!!!!!!!! ช่วยด้วย!!!!!!!!!! ตามหมอ ที"
เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงแม่หรือพล เสียงนั้นแว่วแผ่วเบา แล้วทุกอย่างก็ขาดหายไป
หึหึ เป็นไปตามที่คิดไหมครับ ว้ามีคนรู้ด้วยอ่าว่าต้องเป็นแบบนี้
ปล ป้า เป็นเอ็มจริงๆน้า เพราะตอนเขียนก็น้ำตาท่วมอยู่ แต่ไม่ชอบให้ใครมาทำให้เจ็บ อิอิ ชอบทรมานตัวเอง
เขียนโดย eiky