เรื่องงวดเข้ามาแล้วน้า
ตอน ห้าสิบเก้า
พอมีแสง แห่งรักหัวใจก็เอิบอิ่มรับแสงนั้น ผมกลับมาเป็นคนเดิม กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม แม้จะยังพูดน้อยอยู่แต่ก็ไม่ทำให้ใครลำบากใจแล้ว เจอกับเอกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้สองสัปดาห์ แต่เหมือนเราจะเข้าใจกันมานาน เอมันยังทะลึ่งเหมือนเดิม เพียงแต่พักหลังมันดูขรึมไป พอถามก็บอกเล่นเกม ผมจึงไม่อยากจะซักไซร้อะไรมันมาก ผมเข้าใจว่าบางทีความในใจมันก็ยากที่จะเผยออกมา คนเราทุกคนมีความลับที่บอกใครไม่ได้แม้แต่ตัวเอง ถึงจะรักจะใครกันแค่ไหนก็ตามเรื่องบางเรื่องก็อยากจะเก็บมันไว้ในใจคนเดียว ไปจนวันตาย
วันศุกร์ปลายเดือนพฤษภาคม ผมมีนัดกับเอ พลก็มีนัดกับบอม เรานัดรวมกันที่เซ็นทรัลเวิร์ลเหมือนเคย พลดูกระดี้กระด้าแม้จะเจอกับบอมเกือบทุกวัน ผมเองก็สุขใจได้เจอกับเอทุกวันทำให้ผมมีความสุข
"ตกลงคบกันแล้วใช่ ไหมแก"
ผมถามขึ้นระหว่างทาง พลอายหน้าแดง
"บ้าเหรอแก คบอะไรกัน แค่ไอ้บ้านั่นมันให้ฉันไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง"
"แหมแก จะปิดฉันทำไม ปกติแแกไม่ใส่ใจใครเท่าบอมมาก่อน คบกันก็บอกมาเถอะ"
พล ไม่ตอบแต่ยิ้มหน้าแดงแทนคำตอบผมจึงไม่ซักมันอีก พอถึงที่นัดก็เจอเอกับบอมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"ไงพี่พล ไม่เจอตั้งนาน สบายดีไหม"
เอทักทาย
"อืมก็ดี เราล่ะ หน้าตาดูดีขึ้นนี่"
"ได้ยาดีพี่ ว่าแต่พี่ทำไรไอ้บอม ไอ้เชี่ยบอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาเรียนก็ไม่เป็นอันเรียน"
"อ้าวเชี่ย เอ มึงเหมือนกันล่ะ ช่วงนี้ทำหน้าวิตกกังวล ดีกับพี่โยแล้วยังคิดมากอยู่เหรอมึง"
"ไอ้ห่า กูไม่ได้วิตกซะหน่อย ปากดีนะมึง"
"อ้าว ไอ้เชี่ย ทำไมต้องขึ้นเสียงขนาดนี้ด้วยวะ กูเห็นยังไงก็ก็พุดอย่างนั้น"
เอขึ้นเสียงดุจนเราทั้งสามคนแปลกใจ ผงะกันไปตามๆกัน มันมีอะไรในใจนะ ผมได้แต่คิดในใจเพราะแม้ถามไปเอมันก็ไม่บอก เราไปกินข้าวกันสักพักบอมก็นึกขึ้นได้ว่ามีนัดทำรายงานกลุ่มเอก็ต้องไปด้วย เราจึงแยกกันกลับบ้าน พลแวะมาส่งผมส่วนเอกับบอมก็ไปบ้านบ๊อบเพื่อทำรายงาน
"เหมือน เอ มันมีอะไรในใจเหรอแก ดูขรึมๆไปนะ"
"อืม มันบอกว่ามันนอนน้อยติดเกม ก็เลยไม่ได้ถามอะไรมาก"
"มันแปลกๆนะ เดี๋ยวนี้ ไม่เห็นร่าเริงเหมือนก่อน แกเห็นบอมว่ามันไหมล่ะ ทำไมมันต้องขึ้นเสียงโกรธขนาดนั้นด้วย"
"มันคงยังไม่พร้อมที่จะบอกแก ถ้ามันพร้อมมันคงไม่ปิดหรอก เอมันไม่ใช่คนมีความลับอะไร"
พลพูดให้ ได้คิด ผมต้องหาเวลาคุยกับเอให้ได้แล้ว เพราะเอมันก็แปลกไปจริงๆ ผมคงไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้มากนักเพราะคิดว่าเวลาที่มันอยู่กับผม เอมันก็ปกติดี พลเลี้ยวรถเข้าในซอยบ้าน พอจะถึงหน้าบ้านก็ต้องชะงักกันทั้งสองคน เพราะมีคนมารออยู่หน้าบ้าน แม่ไปวัดตามปกติจึงไม่ได้มาเปิดประตูบ้านให้ เด็กผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านหน้าตามันคุ้นเคยเสียเหลือเกิน
พล รีบจอดรถชิดกำแพงบ้านมันรีบลงไปก่อน
"แหม อีนี่กล้ามาถึงนี่เชียวหรือ ขอตบจริงๆสักฉาดหน่อย"
ผมนั่งนิ่งมึนงง อยู่ นี่อะไรอีก จะมาหาผมทำไม
"มีอะไรหล่อน มาที่นี่ทำไม"
พล แว๊ดเสียงใส่ มือชี้หน้ายืนเท้าสะเอว ผมลงจากรถไป ตกใจตื่นกลัวอยู่
"กู ไม่ได้อยากคุยกับมึง กูอยากคุยกับอีตุ๊ดนั่น อย่าเสือก"
เพื่อนของ เธอแว๊ดพลกลับ พลโกรธหน้าแดง
"แล้วเธอล่ะเป็นใคร ไม่ให้เจ้าตัวเขาพูดเอง อย่างนี้ก็เสือกสิ อีชะนี"
"อีตุ๊ดนี่"
"ทำไม ตบกันสักฉาดมั้ยล่ะ คันมือตั้งแต่ที่โน่นแล้ว อยากเอาเลือดปากชะนีออกสักที"
"มีอะไรกับฉัน"
ผมพูดขึ้นบ้าง เพราะเสียงของพลเริ่มดัง จุดประสงค์ของเด็กผู้หญิงสองคนนี้คงต้องการคุยกับผม
"หนูมาขอร้องพี่ ปล่อยเอไปเถอะ"
เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดออกมา เสียงมันดูแปลกๆ
"ต๊าย หน้าด้าน จำใส่กะโหลกไว้สิหล่อน หล่อนน่ะเป็นชะนี เที่ยวเร่ขอผู้ชายแบบนี้ ไม่อายเหรอ"
พลยังแว๊ดไม่หยุด
"หนูท้อง!!!!"
เธอ ร้องไห้ออกมา ผมตะลึง พูดไม่ออก
"อะไรนะ!!!!"
พลร้องเสียงหลง ผมยังนิ่งหน้าซีดอยู่ความคิดต่างๆที่มันสะสมเป็นปม ยืนเซไปจะติดกำแพงต้องเอามือพยุงไว้ นี่สินะที่เอมันขรึมๆเงียบไป
"ท้อง กี่เดือน"
พลถามหน้าตาอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อ
"สองเดือน แล้ว"
เธอพูดลอดออกมาจากไรฟัน เพื่อนเธอเอามือสะกิดทันที
"เอ้อ เดือนนึงแล้ว"
"เอาให้แน่หล่อน กี่เดือน"
พลขู่ทำท่าเหมือน จะบีบคอมันทั้งสอง
"ก็ท้องน่ะพี่ พี่ปล่อยเอไปได้แล้ว พี่จะกักตัวเอไว้ทำไม เอเป็นพ่อของเด็กในท้องหนูนะ"
เธอแว๊ดเสียง ขึ้น ผมสูดลมหายใจเข้า พอกันที
"นี่หนู หนูเจอกับเอเมื่อไหร่ครับ พี่จำได้ว่าเอมันไปเชียงใหม่ตอนปลายมีนา ได้เจอกับหนูน่าจะก่อนสงกรานต์ เจอกันแล้วมีอะไรกันเลยเหรอ พี่ว่าน่าจะหลังจากนั้น แล้วท้องน่ะไปหาหมอตรวจแล้วเหรอครับ พ่อแม่รู้หรือยัง ท่าทางเรายังเรียนมัธยมอยู่เลยนี่ จะดีเหรอ"
ผมพูดขึ้นมาเสียงเรียบ ดูปกติ พลมองหน้าผม
"ใช่ อีกอย่างเห็นเอบอกว่าลุงใหญ่มาเจอก่อนยังไม่ได้มีอะไรกัน แล้วหนูแน่ใจเหรอว่าท้องกับเอ"
"พี่ ทำไมพูดแบบนี้ หนูเป็นผู้หญิงหนูเสียหายนะ"
"รู้ว่าเสียหาย ต้องมาถึงนี่ มาขอผู้ชายกับเกย์เลยเหรอหนู อย่างนี้เหรอ ที่เสียหาย"
พลเหน็บ เพื่อนของเธอกรี๊ดขึ้น
"หนูขอร้องพี่ หนูยุ่งกับเอคนเดียว แม้เอจะรักตุ๊ด แต่เอก็ต้องเป็นพ่อเด็ก เห็นใจหนูด้วย"
ผมเม้มปาก สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง
"หนู พี่ไม่ได้กักตัวเอไว้นะ ไม่ได้ผูกติดไว้กับตัว หนูอยากได้เอก็ไปบอกเอ มาบอกพี่ทำไม หนูจะมีอะไรกันจริงไม่จริงพี่ไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับพี่ อีกอย่าง หนูตรวจให้แน่ใจก่นอดีไหมว่าท้องกับเอจริง ถ้าจริงเอต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่จริงหนูก็อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี"
"อีนี่"
เธอ แว๊ดเสียงขึ้นทั้งที่ผมยังพูดไม่จบผมจิกสายตาที่เธอ
"มันไม่ดีที่ไม่ ใช่แค่ความอยากได้ของหนูแล้วมันจะทำลายชีวิตของใครอีกหลายคน จำเอาไว้ ตอนทำทำไมไม่คิด แล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องเอาอะไร ผิดคนแล้วหนู ไปคุยกับเอให้รู้เรื่อง ไม่ใช่พี่"
ผมแย้งขึ้นมาพูดจนจบ
"โย"
พล เรียกชื่อผมอ้าปากค้าง คงไม่คิดว่าผมจะพูดแบบนี้ออกไป แต่ผมไม่อยากรับฟังอะไรแล้วในใจตอนนี้เหมือนโดนลนด้วยไฟเต้นตึกตัก อยากคุยกับเอให้รู้เรื่อง
"พี่ก็รู้ว่าระหว่างพี่กับเอมันเป็นไปไม่ ได้ พี่เป็นตุ๊ด......เป็นผู้ชายด้วยกัน มันไม่มีทางเป็นไปได้"
เธอ ร้องไห้ออกมา ตีโพยตีพาย
"แล้วไงยะ กับหล่อนมันเป็นไปได้เหรอ หล่อนเป็นชะนีแล้วไง มีปัญญาทำให้มันรักไหมล่ะ ไม่มี๊ มีแต่ตุ๊ด อย่างที่เธอเรียกนี่ล่ะ ที่ทำให้มันรัก เก่งจริงก็ทำให้เขารักเธอทั้งตัวทั้งใจสิ ตอนนั้นน่ะเธอไม่ต้องลำบากมาถึงนี่หรอก นอนแผ่อยู่บ้านมันก็ไปหาเอง ถ้าเธอดีจริง มีค่าจริง"
พลพูดเน้นคำต่อคำเสียงกรี้ดดังลั่น เพื่อนของเธอทำท่าจะโผเข้ามาหาพล แต่พลชี้นิ้วกราดไว้ เธอจึงผงะออกไป เราเถียงกันอยู่นานกว่าที่ทั้งสองคนจะยอมไป ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาอีกแล้ว สับสนไปหมด ไม่ร้องไห้ แต่สั่นระริกไปทั้งตัว พลลากผมเข้าบ้านไป พอเข้าบ้านได้น้ำตาก็ร่วงออกมา
"มัน เกิดอะไรขึ้นแก"
ผมร้องไห้แม้จะไม่ฟูมฟายแต่ความสับสนในใจมันก็ผัน เป็นน้ำตาไหลออกมา
"ใจเย็นๆแก ดูเท่าที่มันพูดมันก็ไม่น่าจริงแล้ว อีห่า รู้ด้วยนะว่าประมาณเดือน สองเดือน มีกะเกณฑ์กันได้ด้วยเหรอท้องน่ะ"
"นี่ มันอะไรกันนักหนา"
ผมซุกมือเข้ากับหน้าร้องไห้ออกมา หลายสิ่งในใจระคนกันไปหมด
"ถ้ามันท้องกับเอจริงล่ะแก"
ผม เริ่มเพ้อออกมา
"ไม่หรอกแก ใจเย็นๆ ถ้ามันท้องกับเอจริง แกก็ทำใจไว้หน่อยนะโย"
ผมไม่ได้ยินเสียงปลอบของพล หูอื้อตาลายไปหมด อยากคุยกับเอให้รู้เรื่อง พลโทรศัพท์หาเอทันที พลบอกว่าเอจะรีบมาทันที ระหว่างที่รอใจผมก็กระสับกระส่ายอยู่ไม่เป็นสุข แม้จะไม่ร้องไห้แล้ว แต่ในใจก็เดือดระอุอยู่ ถ้าผมต้องเสียเอไปจริงๆ ผมจะทำยังไงดี ผมนั่งทรุดตัวลงกับม้านั่งคิดวกวนหลายตลบ จนเอกับบอมเข้ามาในบ้าน
"เอ"
ผม ร้องเรียกเสียงแหบแห้ง
"ไหนว่ามาซิเอ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอีนั่นมันบอกมันท้อง แต่เราบอกไม่ได้มีอะไรกัน เอาให้แน่"
พล จ้องเอตาเขม็ง
"เอ่อ......"
"ว่าไงเอ เอาให้เคลียร์"
"ผม จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ไม่น่าจะมีอะไรกัน เพราะลุงใหญ่ไปพากลับบ้าน"
"หา จำไม่ได้ แล้วลุงใหญ่พากลับตอนไหน ตอนที่ยังไม่ทำหรือตอนทำเสร็จแล้ว เอ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ รู้ไหม อีนั่นมันท้อง"
พลขึ้นเสียงดัง เสียงที่กรีดลงไปในความรู้สึกของผม ผมได้แต่นั่งนิ่ง
"ผมจำไม่ได้ จริงๆพี่"
เอเสียงสั่น หน้าซีด
"จำไม่ได้!!! มักง่ายไปหน่อยไหม ห๊า นี่มันล่วงเลยมาขนาดนี้ยังจะมาบอกจำไม่ได้ ทุเรศ"
พล ขึ้นเสียงเกรี้ยวกราด
"เอ เอาเถอะ ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรมันจะเกิด เตรียมใจรับมันให้ดี"
ผมพุดขึ้นบ้าง มองหน้ามันอย่างเคลือบแคลงใจ
"ตัว เอง ทำไมพูดแบบนี้ เค้าไม่รู้เค้าจำไม่ได้"
"เอ ฉันรู้ มันเกิดขึ้นแล้ว เราเป็นผู้ชายเราต้องรับผิดชอบนะ"
"ไม่เอา เค้าจะอยู่กับตัวเอง เค้าไม่เอา"
มันร้องไห้ออกมาเข้ามากอดผมไว้ ตอนนี้ผมนั่งนิ่งเหมือนก้อนหินตัวแข็ง แต่ในใจมันร้อนระอุรอระเบิดออกมา
"อย่า ทำแบบนี้ เค้าไม่ได้มีอะไรกับอีนั่น เค้าไม่ได้มีอะไรกัน ตัวเองเชื่อเค้าน้า"
มันร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตาผมเริ่มซึมออกมาแต่ผมก็กระพริบตาถี่ๆไล่ให้มันไป
"ฉันเชื่อเธอ นะเอ ฉันเชื่อเธอ ไม่ว่าจะยังไงก็เชื่อเธอเสมอ แต่เอ ความจริงมันก็คือความจริง เราหนีมันไปไม่พ้นหรอก"
"ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ เค้าจะบอกลุงใหญ่ให้ลุงใหญ่มาอธิบาย ตัวเอง อย่าทำแบบนี้ อย่าเย็นชากับเค้าแบบนี้"
เอร่ำไห้ปานใจจะขาด ส่วนผมนั่งนิ่งไร้ชีวิตจิตใจ มีเพียงน้ำตาที่ซึมออกจากหางตา พลกับบอมยืนดูอยู่
"ตัวเอง เค้ารักตัวเองคนเดียว รักมากรู้ไหม ถึงเค้าจะหลงผิดไป เค้าไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ตัวเอง เชื่อเค้านะ"
"เอ จำไว้นะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รู้เอาไว้ฉันยังไม่เสื่อมคลายใจที่มีต่อเธอ มันยังเหมือนเดิม ยังคงเดิม"
ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ จ้องหน้ามันแน่นิ่งยาวนาน รู้ไหมเอ ตอนนี้ฉันเจ็บปวดมากเหลือเกิน ถ้าหากฉันต้องเสียเธอไปจริงๆ ฉันเชื่อเธอมาโดยตลอดไม่เคยแคลงใจเลย แต่เรื่องวันนี้ ถ้ามันเป็นจริง อยากให้รู้ไว้ว่าเสียใจเหลือเกิน
เอคร่ำครวญอยู่วกไปวนมาประโยคเดิม ผมสงสารมันเหลือเกิน แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาไม่ใช่เธอหรอกเอที่จะเจ็บปวด คนที่เธอกำลังกอดอยู่นี่ล่ะที่จะเจ็บปวดมากที่สุด ผมวานให้บอมพาเอกลับไปส่งที่บ้านเพราะพลนอนค้างกับผม พอเอลับตาไป ใจหายล่องลอยไป นี่ผมปล่อยให้เอหลุดมือไปอีกแล้ว ปล่อยให้มันหันหลังจากผมไปอีกแล้ว พอเอไป ผมก็นั่งร้องไห้สะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น พลเข้ามากอดไว้ ผมไม่ฟูมฟายตีอกชกตัวอย่างเดิมแล้ว พยายามคิดพยายามมีสติ แต่ท่านผู้รู้เอย โปรดรู้ไว้เถิดร้องไห้เหมือนคนบ้ามันไม่ทรมานเหมือนเก็บความตรมระทมทุกข์ไว้ในใจ ข้างในกายร้อนแรงดังถูกไฟบรรลัยกัลป์แผดเผา ทรมานเป็นที่สุด
รักทุกคนคร้าบบบบ
เขียนโดย eiky