Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 312316 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พี่โย ดูเริ่มมีความสุขกับรักครั้งนี้บ้างแล้ว หวังว่า เอ คงไม่ทำอะไรให้ช็อคโดยไม่ได้คาดหมายนะ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากกกกก อ่านแล้วเคลิ้มเลย
ได้หวานกันจริงๆจังๆซะที ชอบอ่าาา ~
แต่พอหวานกันมากๆแล้วแอบระแวงขึ้นมาซะงั้น
หวังว่า...จะรักกันไปนานๆนะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วก้อนี่  :L2: สำหรับไรท์เตอร์ผู้น่ารัก

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
  :กอด1:     อ่านแล้วจะลอย ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยครับ   

 ชอบมากครับ   เขียนนิยายดีๆแบบนี้ให้ เราอ่านต่อไปนะครับ 

  :)     


BY    Nong A Tour Jing

ออฟไลน์ sai_dil69

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :impress3: :impress3:อ่านแล้ว พองเลย หุหุ :pig4:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 36 Apr 6, 2010
«ตอบ #274 เมื่อ06-04-2010 07:30:12 »

                                 ตอน ต่อ ครับ







                                            ตอน สาม สิบหก




หลังปีใหม่ ทุกอย่างในชีวิตดูจะราบรื่น ผมยังคงไปทำงานตามปกติ แม่เองก็ไปสอนสลับกับการไปวัดเดี๋ยวนี้ไปทุกอาทิตย์เลย แม่บอกว่าสบายใจดี ได้เจริญภาวนาอยู่ในศีลในธรรม เอ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปแล้ว หลังจากวันสิ้นปี ความรู้สึกที่มีต่อมันปกปิดไม่ได้แล้ว แต่เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ผมก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด มันเองก็ทำตัวเป็นปกติ แม่จึงอาจจะมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ไม่รู้สิแต่ผมอยากเจอหน้ามันทุกวัน ท่าจะเป็นเอามาก เวลาเลิกงานก็นัดเจอกัน ส่วนมากเป็นเมเจอร์เอกมัยเพราะใกล้บ้านมันและใกล้ผมเองด้วย บางวันแค่เจอหน้ากันเดินด้วยกันมาที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าวัดธาตุทอง ไออุ่นของรักมันแผ่ออกมาทำให้ชื่นใจหล่อเลี้ยงชีวิตไปได้ วันไหนที่ผมไม่เจอรู้สึกทรมานใจเหมือนขาดไอรัก ใจจะขาดเอาเสียให้ได้

วันนี้ ผมเลิกงานแล้วนัดมันที่เซ็นทรัลเวิลดิ์ ไม่มีอะไรมากแค่อยากเดินด้วยกัน พลขับรถมาส่งเพราะมันเองก็บอกว่านัดเด็กไว้แถวนนี้เหมือนกัน

"สรุปแก เอาแน่แล้วเหรอกับเอน่ะ"

พลถามขึ้นตอนที่รถติดไฟแดง ผมมองออกไปนอกรถสายตามองไปไกลแสนไกล ผมถอนหายใจ

"ไม่รู้สิแก แต่ตอนนี้ฉันห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว มันถลำลึกไปเกินกว่าจะเรียกมันกลับคืนมาแล้ว"

ผมพูดเสียงเนิบราบเรียบ แต่เครียดเหลือเกิน พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ผมก็อดไม่ได้ที่จะวกกลับไปคิดถึงแม่ กับอาจารย์ปริศนาไม่ได้

"เอาเถอะ แก คิดอะไรมากมาย คนรักกันก็ดีกว่าเกลียดกัน จะคิดอะไรมาก ผู้ใหญ่เขาคงเข้าใจ"

พลปลอบใจ ผมเองก็รู้สึกดีที่เพื่อนเข้าใจ แต่ลึกๆแล้วความมืดมิดที่รออยู่เบื้องหน้าผมยังหาแสงใดที่จะส่องทางไปไม่มี พลขับรถเข้าไปในสยามพารากอน พอแยกจากพลผมก็เดินต่อไปที่เซ็นทรัลเวิลดิ์ เอโทรมาพอดี

"ถึงไหนแล้วคะ"

เสียงแจ่มใจกรอกมาตามสาย

"กำลังเดินไป เธออยู่ไหนแล้วล่ะ"

"เค้ารออยู่ลานน้ำพุที่เดิม ร้อนอ่ะตัวเอง เค้าอยากกินไอติม"

"อืม เดี๋ยวถึงแล้วรออยู่ตรงนั้นล่ะ"

ผมวางสายแล้วรีบเดิน รู้สึกมีจุดหมายปลายทางที่จะไป ผมเดินจ้ำเร็วเป็นพิเศษ พอถึงลานน้ำพุข้างหน้าห้างเห็นมันนั่งแผ่อยู่ตรงม้านั่งที่เดิมที่เราเคย นั่ง มันยังใส่ชุดรด อยู่เลย แต่เอาเสื้อออกข้างนอกกางเกง ใจเต้นแรง ร้อนหน้าอีกแล้ว ผมเป็นแบบนี้ประจำกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วเวลาเจอหน้ามัน เอยิ้มให้แต่ไกล

"เหนื่อยไหม"

ผมถามแล้วนั่งลงข้างๆมัน

"หายเหนื่อยแล้ว เจอหน้าที่รักแล้วหายเหนื่อยเลย"

มันทำหน้ากวนๆ ผมได้แต่ยิ้มเขินอายอยู่

"เข้าไปข้างในเถอะ ร้อน"

ผมชวนแล้วเดินนำหน้ามันทันที แล้วก็เป็นปกติที่มันจะมาดึงเอากระเป๋าสะพายของผมไปสะพายแล้วเกาะบ่า หรือไม่ก็เกาะเอว ตอนแรกผมไม่อยากให้มันจับเพราะอายคน แต่ตอนนี้ ผมขาดมันไม่ได้แล้ว ถ้ามันไม่จับผมเองที่เป็นคนไปจับมัน สรุปตอนนี้ผมตกลงไปในหลุมแห่งรักนี้แล้ว ทั้งที่รู้ว่าก้นหลุมมันมีแต่หนามคมเสียดแทงให้เจ็บปวด แต่ผมเลือกเอง ผมยอมทนเจ็บปวด ห้ามใจยากดีนักก็ปล่อยให้มันเป็นไป

เราเดินอยู่ชั้นสามดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย เดินไปจนเห็นร้านขายไอศครีมตรงโถงทางเดินเรานั่งกินไอศรีมอย่างสบายใจ มันเข้ามานั่งเบียดเหมือนเคย ไม่เคยคิดที่จะอายใครเลย ผมเองก็ยิ่งหน้าแดงเขินอายไม่รู้สึกชินเสียที แม้จะชอบแต่ก็อายอยู่ เพราะสังเกตุเห็นคนมองกันใหญ่

"โย"

เสียงเรียกที่แต่ก่อนคุ้น เคยดี แต่เดี๋ยวนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินมันจากไหน พี่ตั้ม มากับนัทเหมือนเดิม ทำไมนะ โลกมันแคบเสียจริง คนที่ไม่อยากเจอที่สุดกลับมาคอยหลอกหลอน อยู่ตลอดเวลา ผมเงยหน้าขึ้นมอง เอมันทำตาขวางใส่ทั้งคู่

"ต๊าย โลกกล๊มกลมเนอะ เจอแกบ่อยมากเลยช่วงนี้"

เสียงที่ดัดจริตทำลายโสตประสาท

"มา กินไอติมเหรอโย"

พี่ตั้มถาม ผมมองหน้าเอแล้วหันไปพยักหน้าให้พี่ตั้ม ตอนแรกว่าจะยกมือไหว้เสียหน่อย แต่พอนัทมันพูดขึ้นเลยหมดอารมณ์

"ออก หน้าออกตานะแกช่วงนี้ ดูสิพี่ตั้ม หน้าโยเค้าผ่องนะเดี๋ยวนี้ กินเด็ก"

มันแขวะตามสันดานเดิมของมัน ผมไม่สนใจ เอถลึงตาใส่ ผมเอามือจับขามันไว้

"คือว่า เราอยากจะสวีทกันสองต่อสองนะนัท จะคุยอีกนานไหม"

ผมพูดขึ้น ไม่อยากจะพูดแบบนี้แต่ไม่อยากเจอสิ่งที่ทำลายความรู้สึกดีๆ

"แหม อีนี่ แค่ทัก กระแดะ"

"ไม่จำเป็นต้องทักนะแก เพราะเราไม่ได้รู้จักกันดีขนาดนั้น"

ผมจ้องหน้ามันเพราะรู้ว่ามันคง วี๊ดขึ้นแน่ๆ

"อีห่า กูอยากรู้จักมึงนักนี่ อีดอก"

มันเกรี้ยวกราดใส่ พี่ตั้มดึงแขนมัน

"รู้ก็ไปสิ รำคาญ"

ผมพูดจบ แล้วหันมากินไอติมกับเอต่อ เสียงมันด่าขรมอยู่ คนมองแต่ผมไม่สนใจแล้ว รำคาญจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองมีฤิทธิ์มีเดชมากขึ้นทุกวัน เพราะปกติจะเป็นฝ่ายเงียบ แต่พักนี้ชักทนไม่ไหวต้องฉะกับมันสักหน่อย เพราะคนเราบางคนมองตัวเองไม่ออกหรอกเวลาที่เราพูดให้คนอื่น อย่างน้อยก็เป็นกระจกเงาสะท้อนไปให้มันละกัน

เรากินเสร็จก็เดินเล่น ไปเรื่อยๆ จนเกือบสองทุ่ม ผมชวนมันไปกินข้าวมันไก่ประตุน้ำเดินไปอีกหน่อย เรากินเสร็จก็เดินมาหน้าบิ๊กซีขึ้นรถเมล์สาย ๕๑๑ กลับ เอมันมาลงพร้อมผมที่อ่อนนุช มันไปส่งถึงบ้านประจำแล้วมันค่อยกลับบ้าน ผมเพิ่งรู้สึกตัวเองว่ามันเป็นแฟนผมจริงๆ นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมปรารถนาจากใจเบื้องลึกที่สุด ในซอยอ่อนนุชรถยังคงติดเป็นปกติ เรานั่งสองแถวเข้าบ้านยืนเบียดกับคนเหมือนเคย ดูเหมือนมันจะชอบยืนมากกว่านั่งเพราะเวลายืมมันได้กอดหรือเบียดผม ไม่ได้อายสายตาใครเลย เวลาคุยกันหน้าก็ห่างจากผมไม่ถึงคืบ  เราถึงหน้าบ้านผมเกือบสามทุ่ม

"กินน้ำก่อนไหม"

ผมถามแล้วเปิด ประตูบ้านเข้าไป

"ก็ดี อยากกินน้ำมะตูมอยู่พอดี"

มันพูดอย่าง อารมณ์ดีแล้วเอามือฉุดตัวผมมากอด

"เอ้ย เอ ทำอะไร เดี๋ยวใครก็มาเห็น"

ผมตกใจสะดุ้งแต่ก็ไม่ขัดขืน

"กอดหน่อยสิคะ เดี๋ยวเข้าบ้านก็ไม่ได้กอดแล้ว รู้ไหม เวลาที่เราทำตัวห่างเหินกันอยู่หน้าผู้ใหญ่น่ะ เค้าปวดใจที่สุด อยากอยู่กันแค่สองคนจะได้ทำอะไรไม่ต้องอาย"

"บ้าเหรอ เรามีแม่นี่ ทำอะไรก็ต้องหักห้ามใจ ปล่อยได้แล้ว รู้ว่าอยากทำ แต่อดใจไว้บ้าง"

"อ่า เขาไม่ชอบฝืนใจตัวเองอ่า มันทรมาน เจอหน้ากัน อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมได้แต่มอง"

ผมแกะมือมันออกเพราะกลัวใครมาเห็น ไม่ได้กลัวหรอกว่าใครจะมองว่าเป็นเกย์ แต่ความเกรงใจแม่ยังมีอยู่มากแค่นี้แม่ก็คิดหนักเรื่องผมจะแย่อยู่แล้ว ผมเดินเข้าบ้านแล้วให้มันรออยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ผมเดินเข้าครัวไปเอาน้ำมะตูมมาให้มัน มันยังคงยิ้มอยู่อย่างสุขใจ ผมเองก็รู้สึกเป็นสุขมากเวลาเห็นรอยยิ้มของมัน นี่กระมังที่เป็นแรงพลังทำให้ผมหักห้ามใจไม่อยู่ แววตาที่ไม่มีความในใจเจือบนสื่อแค่ความรู้สึกรักมาให้ ผมจะต้านมันยังไงไหว

"อ้าว ทำไมถอดรองเท้าล่ะ"

ผมถามเพราะเห็นมันถอดรองเท้าคอมแบ็ตออกแล้วเอารองเท้าแตะไปใส่ จะว่าไปแล้วเอกลายเป็นสมาชิกอีกคนของบ้านผมไปแล้ว ของใช้ส่วนตัวของมันอยู่ที่บ้านเยอะเหมือนบ้านของมันเอง

"เอาไว้นี่ ล่ะเดี๋ยวค่อยมาเอา มันไม่สบายเท้า"

"ถอดถุงเท้าด้วยสิ เดี๋ยวจะได้ซัก"

ผมบอกมันจึงยอมถอดถุงเท้า เพราะไหนๆก็ใส่รองเท้าแตะแล้วจะใส่ถุงเท้ากับรองเท้าแตะมันดูแปลกๆ

"แล้วจะ ไม่ให้เค้ารักตัวเองได้ยังไงล่ะคะ น่ารักแบบนี้"

"เวอร์ รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวดึก"

ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่หน้าผมจะแดงไป มากกว่านี้

"ไม่อยากจะกลับเลยอ่ะ อยากอยู่ด้วย"

"เดี๋ยวค่อยเจอ เจอบ่อยเดี๋ยวก็เบื่อ"

"ไม่มีทาง ยิ่งเจอยิ่งรัก ยิ่งเห็นยิ่งคิดถึง"

หัวใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดทั่วร่าง ผมยิ้มอย่างสุขใจ แต่ก็ต้องยอมให้มันรีบกลับไปก่อนเพราะพรุ่งนี้ผมก็ต้องทำงาน มันเองก็ต้องไปโรงเรียน แต่กว่าจะกลับก็เกือบสี่ทุ่ม ดึงหน้าดึงหลังไม่ยอมสักที ผมกว่าจะได้อาบน้ำปิดบ้านก็เกือบห้าทุ่ม แม่นอนไปแล้ว ผมนอนอยู่บนเตียงแวบหนึ่งในใจรู้สึกคิดถึงอีกคนที่เคยนอนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยสบายใจหรือหลับสนิทถ้ามีใครมานอนด้วย แต่มันเป็นคนที่ผมอยากจะแทรกกายเข้าหาอย่างไม่รู้จักเบื่อ ไม่ได้รู้สึกรำคาญ อยากจะนอนอยู่ในอ้อมกอดอยู่อย่างนั้น ผมมองดูหมอนที่มันเคยหนุนในความมืดแล้วคว้ามากอด เสียงโทรศัพท์สั่นปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ส่วนตัว ผมเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาดู เอ นั่นเอง

"อาโหล ที่รัก นอนหรือยังคะ"

เสียง มันแจ่มใสผ่านสายมา

"ยัง แล้วเธอยังไม่นอนเหรอ"

"เค้านอนไม่ หลับอ่า คิดถึงตัวเอง"

"แล้วไม่อ่านหนังสือเหรอ อ่านไปสิจะได้นอนหลับ"

"ไม่เอาอ่ะ อยากกอดตัวเอง"

มันอ้อน

"บ้า เหรอ ไม่เอาแล้ว จะนอนแล้ว"

"ไม่เอาอ่า คุยกับเค้าก่อน เป็นกำลังใจให้เค้าก่อน"

"นี่เธอ ตกลงไม่ต้องนอนเหรอ ฉันง่วงนะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน หักห้ามใจบ้าง"

ผมแว๊ดใส่

"อ่า ดุเค้าอ่า ห้ามใจแล้ว แต่หยุดคิดถึงตัวเองไม่ได้เลยสักนาที"

"เวอร์ ไปๆ ไปนอนเดี๋ยวตื่นสาย"

ผมกดวางสายไปทันทีเพราะถ้ามัวคุยเยิ่นเย้อคงไม่ต้องนอนกันแล้วคืนนี้ เดี๋ยวนี้มันโทรหาผมบ่อยมาก เวลาทำงานก็ส่งข้อความมาตลอด รู้สึกดีนะ แต่ก็กลัวว่ามันจะเป็นแค่่ช่วงนี้ ช่วงที่มันหลง มันโทรเข้ามาอีกแต่ผมก็ไม่รับสายแล้ว คิดนั่นคิดนี่แล้วเผลอหลับไป

วันเสาร์ ผมตื่นเช้าตามปกติ วันนี้แม่ไม่ไปวัดแต่เตรียมออกข้อสอบปลายเทอมไว้ เพราะช่วงที่สอบที่วัดเขามีงานสมโภชน์แม่ต้องเตรียมตัว เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้สอนเอแล้ว เพราะมันดูเหมือนจะรู้เยอะกว่าผมเสียอีกด้วยซ้ำ แต่ทักษะการเขียนของมันยังอ่อนอยู่ แต่ก็ไม่มากนัก วันหยุดทีไรมันก็มักชวนออกไปข้างนอก ผมทำกับข้าวในครัว แต่ก็อดชะเง้อออกมาดูไม่ได้เพราะเอมันมาถึงแล้ว คุยกับแม่อย่างสนุกสนาน

"ตัว เอง  วันนี้พาเค้าไปสวนหน่อยดิ เค้าอยากไป"

มันเดินเข้ามาในครัว แล้วยืนอยู่ห่างๆคงกลัวแม่จะมาเห็น

"ร้อนจะตาย"

"น่านะ พาเค้าไปหน่อย"

"อืม ไปขอแม่สิ"

ผมบอกแล้วทำหน้าทะเล้นใส่มัน มันก็เดินออกไปหาแม่ทันที

"พี่โย แม่อรให้ไปแล้ว"

มันตะโกน เสียงดัง คงไปคุยกับแม่แล้ว ผมอมยิ้มอยู่คนเดียว พอกับข้าวเสร็จก็ตักไปวางที่โต๊ะ เรียกแม่กับเอมาทานข้าว เวลาอยู่ต่อหน้าแม่เอมันดูมีระยะห่างกับผม เรียกพี่ทุกคำ เวลาพูดก็ไม่ค่อยมองผม คุยอยู่แต่กับแม่ แต่มีหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ตอนแม่เผลอ ผมมีความสุขจังเลย สรุปผมก็ต้องพามันไปเดินสวนจตุจักร ผมขึ้นไปอาบน้ำส่วนมันก็คุยอยู่กับแม่ข้างล่าง

"ตัวเอง เค้าเปลี่ยนกางเกงดีกว่า ไม่อยากใส่ยีนส์ไป ร้อน"

มันเข้ามาในห้อง ตอนที่ผมกำลังทาครีมอยู่ ผมพยักหน้า มันถอดกางเกงทันที ผมไม่เขินอายแล้ว เวลามันทำอะไรแบบนี้รู้สึกชิน

"นี่เห็นมั้ย เค้าใส่กางเกงในที่ตัวเองซื้อให้ด้วยน้า"

มันอวดแล้วทำท่าจะเดินเข้า มาหา

"รีบใส่สิกางเกงน่ะ จะมาโชว์ทำไม รู้แล้วว่าใส่"

ผมเมินหน้าหนี ร้องห้ามมันไว้ก่อน มันถึงยอมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มันหยิบกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนๆยาวแค่เข่ามาสวม ผมเองก็ใส่ขาสั้นแต่เป็นกางเกงยีนส์ตัวเก่าที่เอามาตัดขา สีซีดใส่จนผ้านุ่มไม่เหมือนยีนส์แล้ว

"เอาหมวกไปด้วย เดี๋ยวร้อน"

ผมบอกแล้วลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าสะพายมายื่นให้มัน เราออกจากบ้านเกือบสิบเอ็ดโมงแดดกำลังเปรี้ยง นั่งรถสองแถวออกไปหน้าปากซอยแล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า

"จะไปซื้ออะไร เหรอ"

ผมถามตอนนั่งอยู่บนรถไฟ

"ไม่รู้ ไปเดินเล่นๆ อยู่บ้านก็จู๋จี๋กันไม่ได้สิ วันนี้แม่อรอยู่นี่"

"แหม จอมวางแผน ยังกะออกมาข้างนอกจะทำได้"

"ทำได้ดิ นี่ไง"

มันโน้มหน้ามาจะ หอมแก้มผมทันที หน้าผมแดงขึ้นทันทีผมหยิกมือมัน เพราะคนที่อยู่บนรถไฟไม่ใช่น้อย ทุกสายตาหันมามอง ใจผมเต้นตึกตักผมค้อนมันวงใหญ่

"จะบ้าเหรอ หัดอายคนซะบ้าง"

ผมพูดเสียงเบาก้มหน้า อายหน้าแดงอยู่ มันยิ้มอย่างพอใจ

"ไม่อายอ่ะ มองไม่เห็นใครนอกจากตัวเอง"

ผมก้มหน้ามองนิ้วเท้าของตัวเอง ไม่พูดกับมันแล้ว เดี๋ยวมันจะยิ่งกำเริบ แต่มันก็ไม่ใช่จะยอมแพ้ง่ายๆ มันเอาแขนมาพาดที่บ่าผมเอามือมาลูบผมไปมา

"นอนดีกว่า"

มันพูดหน้าตาเฉยแล้วเอาหน้าซบลงมาที่บ่าของผม ใจผมเต้นตึกตัก โอ๊ย จะให้อายคนไปถึงไหน ผมร้อนรนเหงื่อผุดขึ้นเป็นเม็ดๆ เสียงซุบซิบกัน ทุกสายตาที่อยู่แวดล้อมผมคงกำลังมองมา มันไม่ทำท่านอนเฉยๆ แต่เอาหน้าถูไปถูมาบนบ่า อยากจะผลักหัวมันออกแต่ตอนนี้เหมือนผมขยับตัวไม่ได้ อายมากๆมันเป็นอย่างนี้นี่เอง จนถึงสถานีอโศก คนเข้ามาในรถไฟเยอะจนเกือบแน่น ความอายมันจึงลดลงเพราะคนที่เห็นคือคนที่อยู่ต่อหน้าผมเท่านั้น ผมจึงรู้สึกดีขึ้น แต่พอถึงสยามคนก็ลงจากรถไฟจนรถโล่งคนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาก็ไม่เยอะเท่าเมื่อ ครู่ ผมพยายามผลักหัวมันออก

"ไม่เอา เค้าจะนอน"

มันพูดเสียงดัง ดีกรีความอายมันยิ่งเพิ่มทวีคูณ คนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาก็มอง ตัวผมแข็งแต่หน้ายังแดงหัวใจก็ยังเต้นแรงถี่ยิ่งกว่าเดิม มีเด็กวัยรุ่นเข้ามาตรงตู้ที่ผมอยู่เยอะพอสมควร มาเป็นกลุ่มๆ เสียงซุบซิบดังกว่าเดิม โอย เมื่อไหร่จะถึงสักที พอเสียงประกาศบอกสถานีหน้าคือสะพานควาย ผมก็สะกิดบอกมัน

"นี่ เอ จะถึงแล้วลุก เอาหน้าออกไป"

มันถึงทำท่างัวเงียเอาหัวออกจากบ่าผม ผมจิกสายตาด่ามัน แต่มันกลับยิ้มเหมือนแกล้งผมได้ คอยดูนะ ผมฝังแค้นไว้ในใจ

"ไหน อ่า ต้องไปลงหมอชิตนี่"

"ลงสะพานควายนี่ล่ะเดินหน่อยเดียว ขึ้เกียจเดินย้อน"

ผมบอกแล้วมองไปรอบๆ เด็กวัยรุ่นที่ยืนอยู่มองมาที่เรา พวกนั้นยิ้มแล้วหันไปซุบซิบกัน เอาวะไม่รู้จักกันหรอก อายไปหน้าก็แดง เก็บอาการดีกว่า พอรถไฟกำลังจะจอดที่สถานีสะพานควาย ผมก็ลุกออกไปยืนรอหน้าประตู กะว่าประตุเปิดจะรีบเผ่นทันที มันเดินมายืนข้างหลังแล้วกอดคอ เอามือทำท่าจัดทรงผมที่มันทำให้ยุ่งเมื่อครู่ให้เข้าที่ รู้สึกโดนสายตาหลายคู่มอง พอประตูเปิดผมก็จ้ำออกไปทันที

"จะรีบไปไหน คะ"

"ไอ้บ้า อายคนบ้างไหม"

ผมแว๊ดใส่

"อายใคร ไม่เห็นสนใจเลย คนมันรักนี่นะ"

"ฮึ่ม"

ผมพูดไม่ออกไม่รู้จะ ด่ามันยังไงดี ได้แต่เดินหน้างอนำหน้ามันไป เราเดินย้อนไปเข้าด้านข้างของตลาดนัด มันยังคงเกาะอยู่ที่บ่าไม่ยอมปล่อยเลยไม่ว่าจะเดินหรือจะทำอะไร เราเดินดูนั่นดูนี่ จนเกือบบ่ายโมง

"หิวอ่ะ ตัวเอง"

"อืม กินอะไรดี"

ผมเองก็รู้สึกหิวขึ้นมาเหมือนกัน แต่มันหิวสิแปลกเพราะกินตลอดทางเห็นอะไรก็กิน เราไปนั่งกินส้มตำไก่ย่างที่ร้านริมกำแพงตลาดนัด คนเยอะมาก ร้อนก็ร้อน แต่ก็หิวเลยต้องกิน พอกินเสร็จก็เดินต่อ เอมันได้เสื้อเชิ๊ตไปสองตัว ผมเองก็ได้เสื้อเชิ๊ตสีดำสองตัว เสื้อยืดอีกตัว ผมซื้อเทียนหอมกับอโรม่าไปฝากแม่ด้วย

"ร้อนอ่ะตัวเอง"

มันบ่น เหงื่อเต็มหน้า เสื้อเปียก ผมเลยซื้อผ้าเย็นยื่นให้มัน

"เช็ดให้ หน่อยดิ เห็นมั้ยมือเค้าไม่ว่างอ่ะ"

"โห"

ผมอ้าปากจะด่ามัน แต่มือมันก็ถือของอยู่เต็ม ผมจึงจำเป็นต้องเช็ดให้มัน คนเดินผ่านไปผ่านมามองอีกแล้วมีเกย์อยู่กลุ่มหนึ่งเดินผ่านไปมองแล้วเบะปาก ใส่คงหมั่นใส้ แต่เอาเถอะไม่รู้จักใครสักคนหรอก จะว่าไปแล้วผมเองก็อยากจะสัมผัสตัวมันอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ผมเช็ดหน้าให้มันเสร็จก็ล้วงเข้าไปเช็ดให้มันในเสื้อ ทั้งข้างหน้าข้างหลัง พอใจหรือยัง ชอบมองดีนัก ผมแอบสะใจอยู่คนเดียว แล้วอมยิ้ม

"เห็นมะ เค้าบอกแล้วไม่ต้องอายใครหรอก คนรักกัน ไม่แสดงออกตอนนี้แล้วจะไปทำตอนไหน"

มันยิ้มพูอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้เข้าใจในจุดประสงค์ของผมเลยเสียจริง เรากลับบ้านบ่ายสองกว่าๆ กว่าจะถึงบ้านก็สามโมงเกือบสี่โมง พอถึงบ้านผมก็รีบขึ้นไปอาบน้ำทันที เพราะร้อนเหงื่อโทรมกาย มันก็อาบน้ำข้างล่าง พอเสร็จผมก็ลงมาข้างล่างเห็นมันคุยอยู่กับแม่อยู่ จะว่าไปแล้วผมรู้สึกดีนะที่มีมันอยู่แบบนี้ แม่เองก็ดูไม่ได้รังเกียจอะไรมัน ดูจะรักใคร่กันเสียมากกว่า อย่างน้อยแม่ก็คงไม่ปิดกั้น แต่กับอาจารย์ปริศนาล่ะ ท่านจะยอมหรือ หนักใจอีกครั้ง แต่ก็ช่างเถอะเราจะมาเป็นทุกข์อะไรกับสิ่งที่ยังมองไม่เห็น เสพสุขกับปัจจุบันดีกว่าในเมื่อมันช่างเป็นสุขเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:36:51 โดย eiky »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :impress2:
อิจฉาโย
มีเหลืออีกมั๊ย แบบนายเอ
+1 เป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หวานมากกก
น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลย

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ความรักทำให้คนเปลี่ยนแปลง

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจัง ความรักฟุ้งกระจาย  :-[

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
โยแอบร้ายยยย แต่น่ารักดี
คนน่ารักทำไรไม่ผิด แต่หมั่นไส้พี่ตั้มกับนัทมาก
เจอคู่นี้ทีไร รมณ์เสียๆ :m16:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ Up!!!! ตอน 36 Apr 6, 2010
« ตอบ #279 เมื่อ: 06-04-2010 13:00:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
นัท อะเป็นอะไรมากหรือเปล่า หาเรื่องคนอื่นตลอด ไม่รู้ว่าพี่ตั้มทนอยู่ด้วยได้อย่างไง งง

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
กำลังหวานได้ที่เลย
อย่ามีอะไรอีกนะ

ปล. อยากอัดนังนัทซักที หมั่นไส้

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
โฮ๊ะๆๆ เดทกันหวานเลยนะ อิจฉาวุ้ย
น้องเอนี่สุดๆ โชว์ความหวานไม่สนชาวบ้านเลยเว๊ย ปล่อยน้องโยอายม้วนอยู่คนเดียว  :laugh:


รำคาญนังนัทจริงๆ
แปลกคนจริง ไม่ชอบหน้ากัน แต่ขยันเข้ามาทักจริง (จริงๆต้องบอกเข้ามาจิกซะมากกว่า)
รอดูว่านิสัยแบบนี้ จะโดนไอ้พี่ตั้ม  :z6: วันไหน????

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
แวะมาเยี่ยมเยียน

จะยังติดตามต่อไปอย่างเหนียวแน่นนะครับ

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
ให้เธอหมายมั่งคงแล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร  เดินทางไปอย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น  มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง

กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์ เมื่อดอไม้แย้มบานให้คนหาญสู้ไม่หวั่น คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่  ให้เธอ


ชอบครับ   สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ   

จาก  ใครสักคน

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
 เวลาสุขเก็บเกี่ยวไว้ให้มาก วันข้างหน้ามายังไม่ถึง อยู่กับวันนี้สุขกับวันนี้

jadezii

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปยิ้มไปค่ะ ^^
หวาน อะไรจะปานนี้ :m3:

ไรท์เตอร์ สู้ ๆ ค่า :L2: :L2: :L2:

filmtoptap

  • บุคคลทั่วไป
ฟิมเข้ามาอ่านแร้วนะ

ง่วงมากแระ
เด๋วจะมาอ่านเรื่อยๆ

อย่าดื้อนะเจ้าของกระทู้นี้อ่ะ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
โอย อยากจะบ้าตายพิมพ์ไปตั้งเยอะ เซฟไม่ได้  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
อิจฉาโยจัง.....เจ้าเอขยันหยอดตลอด...
ยังไงก้อ..ขอให้เอมั่นคงนะ กลัวคำว่า"หลง" เหมือนกัน
ขอบคุณความขยัน และความสุข ที่คนแต่งมอบให้ค่ะ :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ Up!!!! ตอน 36 Apr 6, 2010
« ตอบ #289 เมื่อ: 06-04-2010 23:25:45 »





zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆค่ะคนเขียน  :L2:





ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
สงสัยต้องเซฟบ่อยๆหรือใช้ ออโตอัพเดทแล้วมั้งครับ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                                      ตอนต่อ ครับ




                                  ตอน สามสิบเจ็ด






ความจริงพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมีขึ้นหลังปี ใหม่ไม่กี่ วัน เราทำเรื่องรับไม่ทันจึงต้องเลื่อนไปรับปีการศึกษาหน้า ผมไม่ได้เครียดอะไรเพราะทุกวันนี้ผมก็มีงานประจำทำอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่คิดที่จะออกไปหางานใหม่ เพราะอยู่กับพลก็ดีอยู่แล้ว อีกอย่างหัวหน้าผม พี่ภานั่นเองแกดูรักผมมากเหมือนกัน ยิ่งทำงานด้วยกันยิ่งรู้สึกว่าพี่ภาเองไว้วางใจผมมาก ผมจึงยังไม่อยากจะไปไหน อาทิตย์กลางเดือนมกราคม เราชวนกันไปเที่ยวสะเม็ดกัน มีจ๋า พี่ป้อม กายกับกบ พลแล้วก็ผม ถือว่าไปพักผ่อนอีกอย่างไม่ได้เที่ยวแบบเพื่อนๆมานาน

"เออ แก ไม่ชวนน้องเอไปด้วยล่ะ"

พลถามขึ้นตอนทานข้าวกลางวัน

"ไม่เอา หรอกอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เอามันไปเดี๋ยวก็กวนโมโหอีก"

ผมตอบอ้อม แอ้ม ความจริงอยากชวนมันไปด้วย แต่ก็เกรงใจเพื่อนๆ

"โอ๊ย จะอะไรมากมายแก ทีนังจ๋ายังเอาผัวไปเลย ทำไมแกจะพาผัวไปด้วยไม่ได้"

พล ทำเสียงสูง

"ไอ้บ้า เบาๆหน่อย คนมอง"

ผมปรามมันเพราะพลขึ้น เสียงสูงปรี๊ด

"พาน้องมันไป ล่ะแก ไม่รู้ล่ะ เพราะฉันโทรชวนน้องมันเรียบร้อยแล้ว แกรอปฎิเสธมันเองละกัน"

"อ้าว แก โห เล่นแบบนี้เลยนะ"

"ช่วย ไม่ได้ ก็น้องเอ ขอให้เป็นพี่เลี้ยงให้นี่"

"เออ เข้ากันดีนักนะ"

ผมงอนประหลับประเหลือก

"แหม แก น้องมันรักแกมากขนาดนั้นน่ะ พาๆมันไปเปิดหูเปิดตาหน่อยเถอะ ถือว่าไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์"

"บ้า"

ผมรีบกินข้าวแล้วลุกทันที ปล่อยให้พลมันจ่าย สรุปทั้งบ่ายมันก็ล้อผมจนเลิกงาน พอเลิกงานผมก็รีบกลับบ้าน เพราะนัดกับไอ้ตัวดีไว้ที่เมเจอร์เอกมัย ถึงเกือบห้าโมงครึ่ง มันนั่งรอในร้านฟาสต์ฟู๊ด หน้างออยู่ เพราะเห็นหน้าผมปกติมันจะยิ้มร่าแต่ไกลแต่วันนี้แปลก ทำเชิดใส่ ผมเดินเข้าไปหา

"รอนานไหม"

ผมถามแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามมัน

"หึ ตัวเองจะไปไหนเหรอ วันศุกร์นี้น่ะ"

มันถามแต่ทำหน้า มู่ทู่ใส่

"ทำไมเหรอ ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ"

"ทำไมไม่ชวน เค้า"

มันยังทำหน้างอใส่ ผมก็ทำหน้าเหรอหราไม่รู้เรื่อง

"ก็ว่าจะชวนอยู่"

"งั้นเค้าไปด้วยนะ"

"แต่ฉันไปกับเพื่อนๆนะ"

ผมยังลังเล เกรงใจเพื่อนด้วยประการสำคัญ

"แล้วไงอ่า ก็พี่พลชวนเค้าแล้วอ่ะ ตัวเองล่ะไม่ยอมชวน งอนนะเนี่ย"

เออนะบทคุณชายจะทำตัวเป็นเด็กก็เป็นเด็กไปเลย

"อืม งั้นไปด้วยกันไหมล่ะ"

ผมพูดออกไป มันยิ้มแฉ่งทันที ผมรู้สึกหมั่นไส้มันขึ้นมา

"น่ารักที่สุด เลย แฟนเค้า ดีใจจังจะได้ไปเที่ยวทะเลกับแฟน"

มันเอาหน้ามาใกล้ๆ ผมผลักหน้ามันออกเพราะคนเยอะ แม้ผมจะชินกับอากัปกริยาของมันแต่ก็ยังมียางอายอยู่

"แล้ววันนี้จะทำ อะไร"

"ก็ว่าจะชวนตัวเองกินโออิชิ"

"รวยเนอะ"

ผมประชด

"เค้าไม่รวย แต่ให้ตัวเองล่ะจ่าย"

"อ้าวนะ อยากกินก็จ่ายดิ เลือกกินแต่ละอย่าง"

"อ่า งั้นกินก๋วยเตี๋ยวก็ได้"
มันทำเสียง เศร้า โอย นี่ผมโดนเด็กอ้อนต้องจนหนทางแล้วหรือนี่ ผมยอมพามันไปกินโออิชิ ชาบู ชั้นสอง ตอนแรกมันไม่ยอมไปเพราะบอกว่าเปลือง ดูบทมันจะพูดยากแต่ผมก็ดุเอามันถึงยอม พอกินเสร็จมันก็ไปส่งที่บ้านถึงบ้านราวๆสองทุ่มครึ่ง ผมรีบไล่มันให้กลับบ้าน เพราะยิ่งอยู่นานผมเป็นอันไม่ต้องทำอะไรพอดี แม้ในใจอยากจะอยู่กับมันแต่ก็ต้องยอมไล่มันไป

บ่ายวันศุกร์เราขอพี่ภาเลิกงานก่อน ซึ่งรายนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลยให้เงินสมทบทุนการเที่ยวมาอีกต่างหาก ผมกับพลแวะรับเอที่เมเจอร์ รายนี้ก็โดดเรียนช่วงบ่าย พอถึงเมเจอร์เอยืนรออยู่ที่ข้างหน้าแล้ว มันใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดใส่หมวกแก๊ปกับแว่นดำ สะพายเป้ จุดรวมตัวคือบ้านผมเพราะกายมันจะเอารถโฟร์วิลไป จ๋ากับพี่ป้อมก็กำลังออกจากบ้าน เราถึงบ้านตอนบ่ายโมงกว่าๆ พลขึ้นไปอาบน้ำผมก็เก็บของใส่เป้ระหว่างรอพลอาบน้ำ ไอ้ตัวดีก็หาอะไรกินในครัว สักพักพี่ป้อมกับจ๋าก็มาถึง พลก็ลงไปคุยด้วย ผมก็อาบน้ำพอเสร็จกายกับกบก็มาพอดี

"นี่แวะซื้อของที่คาร์ฟูลก่อนนะ แก"

กายบอก

"อืม พลแกไปเอารถมาจอดในบ้านไป"

ผมบอก

"แล้ว รถแม่ล่ะแก"

"ไม่เป็นไร บอกแม่แล้ว คงจอดข้างนอกไม่เป็นไรหรอก"

กว่าเราจะออกจากบ้านก็บ่ายสองเกือบครึ่ง แวะซื้อของที่คาร์ฟูลก่อน ใช้เวลาไปนานพอสมควรเพราะมัวแต่คุยกัน พอได้ของครบก็ได้ฤกษ์ออกจากกรุงเทพฯเสียที ดูเอมันไม่คะเขินเลยกับเพื่อนๆ คุยตอบรับอย่างสนุกสนาน พี่ป้อมเองที่เป็นฝ่ายเงียบ คุยบ้างแต่ก็ไม่มาก พี่ป้อมชอบคุยกับเอเพราะเหมือนจะคุยกันรู้เรื่องที่สุด แล้วก็นัวเนียอยู่กับจ๋า ผมไอ้ตัวดีกบ นั่งเบาะหลังสุด จ๋ากับพี่ป้อมนั่งตรงกลาง พลนั่งคู่กาย

"ต๊าย ฉันได้ข่าวคืนนี้มีปาร์ตี้นะยะแก เตรียมหางปลามาหรือเปล่ายะ"

กบทำเสียงดัดจริตเหมือนเคย

"ปาร์ตี้อะไรแก"

ผมถาม

"ก็ปาร์ตี้เกย์ในยะ"

"หือเสม็ดเนี่ยนะ"

"โห โย แกไปอยู่ไหนมา เดี๋ยวนี้เขาแบบออกหน้าออกตา ในเวบเขาชวนกันโครมๆ"

กายพูดขึ้นมาบ้าง

"คนเยอะแน่เลย"

จ๋าหันมาพูดบ้าง

"จะสนทำไมล่ะยะเรา สวยนี่"

กบพูดสร้างเสียงหัวเราะได้ทั้งคันรถ

"จ้า แม่สวยไม่เสร็จ เป็นนางงามอะไรนะแกน่ะ นางงามสันเขื่อนลำตะคองใช่ไหม"

พลหันมาแขวะ

"ว้าย นังพล อย่างฉันน่ะ สวยมีตำแหน่งนะยะ หล่อนล่ะ นางงามกาชาด แจกฟรีค่า"

"อี นี่"

เอหันมามองหน้าผม ดูมันงงๆ ไม่เข้าใจ ผมยิ้มให้

"น้องเอ ขา นางงามกาชาดอย่างพี่พลน่ะ เขาได้ตำแหน่งมาเพราะแจกฟรีไงคะ ให้ผู้ชายเอาฟรีๆ"

กบอธิบาย

"แล้วมีอะไรกันต้องได้อะไรตอบแทน ด้วยเหรอพี่"

มันยังทำหน้างง

"โอ๊ย อินโนเซนต์จริงๆ ผัวแกนี่โย"

"บ้า ก็น้องมันไม่รู้แก อย่าใส่ใจเลยเอ"

จ๋าหันมาบอกเอ ผมมองหน้าเอแล้วพยักหน้าให้มันสนใจมากนักเดี๋ยวเสียเด็กพอดี

"ก็ไม่ได้ อะไรหรอกเอ มีอะไรกันสนุกๆ พี่ไม่ซีเรียส แต่พี่กบเขาน่ะ ชอบแจกชอบแถมทองผู้ชาย"

พลพูดแล้วก็หัวเราะ เสียงกบกรี๊ดดังลั่น มันยิ่งทำหน้างง ผมจับมือมันไว้แล้วส่ายหน้าไม่ให้ฟัง ผมเอื้อมไปเอากระปุกมันฝรั่งทอดมาให้มันกิน

"แหม หวานกันเชียวนะยะ มีคู่รักมาตั้งสองคู่ แล้วเราล่ะเธอ"

กบแซว

"ฉันก็ไปหาเอา ข้างหน้า แต่หล่อนน่ะ น่าจะเป็นตัวประกอบ ไม่มีบทพูด อาจจะหายากหน่อยนะ ผู้ชายที่ชอบหน้าตาเถื่อนๆน่ะคงเหลือน้อยแล้วล่ะแก"

กายกัดบ้าง แล้วพลกับกายก็หัวเราะชอบใจ ผมเองก็อมยิ้ม เอทำหน้ามีเครื่องหมายคำถามอยู่บนหน้ามันอีกแล้ว ผมได้แต่ส่ายหน้าไม่ให้มันรับรู้ ระหว่างทางมันกอดเอวผมไว้ตลอดเวลา ผมเองก็จับต้นขามันบ้าง สลับกับจับมือมันบ้าง ตอนแรกกบแซวก็เขินๆเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่เอาไปเอามาเลยปล่อยเลยตามเลย เสียงคุยกันสนุกสนานตลอดทาง พี่ป้อมคุยบ้างเพราะโดนแง้มปากให้พูดจากกบและกาย ส่วนพลไม่ค่อยคุย มันยังตึงๆอยู่

เราถึงบ้านเพเกือบหกโมงเย็น พอถึงก็รีบไปฝากรถ โชคดีที่กายมีญาติทำรีสอร์ทอยู่ที่นี่ แต่คนละหาดกับที่เราจะไป แต่เขาก็จัดการเรื่องที่พักให้หมดแล้ว รอแค่ไปจ่ายเงิน เรานั่งรอเรือไปส่งที่เกาะอยู่พักเดียว แสงแดดยามเย็นช่างงดงามเหลือเกิน น้ำเป็นฝืนทองส่องประกายระยับกระเพื่อมไปมา ท้องฟ้าเปิดไม่มีเมฆสักก้อน อาทิตย์กำลังจะอัสดงอยู่ทางฝั่งตะวันตก แสงแดงส้มฉาบท้องฟ้าฝั่งนั้นงามดังภาพวาด ผมมองดูด้วยจิตใจที่เป็นสุข เอเข้ามากอด

"ชอบไหมคะ"

มันกระซิบถาม ผมพยักหน้า

"ต๊าย จะหวานไปไหนยะ เห็นใจกันบ้าง"

กบแซวเสียงดัง

"อีมารหัวขน คนมันจะสวีทกันไปกวนเขาทำไม มาถ่ายรูปให้ฉันนี่"
 
พลแว๊ดใส่ ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ กบหันไปโพสต์ท่าถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน บนเรือมีคนอยู่เยอะเหมือนกัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีเกย์อยู่กลุ่มใหญ่แต่อยู่อีกฟากของเรือ เห็นกายกับพลเหล่ๆอยู่

"มา แกถ่ายรูปให้"

พลบอกแล้วกดชัตเตอร์ทันที ผมยังไม่ทันตั้งตัวสายตายังเคลิ้มมองริมขอบฟ้าเอมันก็คลอเคลียอยู่ซอกคออยู่ เลย

"เอ้ย เดี๋ยวสิแก"

ผมร้อง ยังไม่ทันตั้งตัว พอตั้งหลักได้จึงค่อยถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จเอก็ขอดูรูปที่ถ่ายไป

"สวยไหมเอ เหมือนคู่รักที่เพิ่งแต่งงานมา ฮันนีมูนกันเลยใช่ไหม"

พลถามเอ มันทั้งสองยิ้มอย่างพอใจ ผมขอดูบ้าง ฉากหลังเป็นห้วงน้ำทะเลกว้างไกลส่องประายสีทองระยิบ แม้นดวงตะวันที่ลับขอบฟ้าไปแล้วยังทิ้งแสงสีแดงส้มสดเป็นฉากหลัง ผมมองออกไปไกลแสนไกล เอหลับตาแต่หน้าซุกอยู่ซอกคอผม สวย องค์ประกอบของภาพสวยทีเดียว ผมแอบอมยิ้ม

"เดี๋ยวเอาไปใส่กรอบด้วยนะ เอ เป็นภาพแต่งงานได้เลยนะเนี่ย"

พลแซว เอยิ้มเขินๆแล้วกดดูภาพอื่นๆ เราถึงเกาะตอนเกือบทุ่มมืดแล้ว เรานั่งรถสองแถวไปหาดทรายแก้ว จองบังกาโลไว้สามหลังแต่เดี๋ยวนี้เขาทำใหม่หมดเป็นแนวรีสอร์ต ภายในห้องก็ตกแต่งเหมือนโรงแรม ตอนแรกผมจะไปนอนกับพลแล้วให้เอมันนอนด้วย แต่พลไม่ยอมให้ผมอยู่กับมันสองคน ส่วนตัวมันเองไปนอนกับกายและกบ จ๋ากับพี่ป้อมอยู่หลังถัดจากผม พอเช็คอินเสร็จก็เอาของไปเก็บ นัดกันสองทุ่มครึ่งที่หน้าบังกาโล หลังที่ผมอยู่ทาสีฟ้าอ่อนสดใส ในห้องก็มีเตียงอยู่เตียงเดียว ผมเดินเข้าไปดูห้องน้ำ มีน้ำอุ่นด้วย เอมันทิ้งเป้ลงข้างเตียงแล้วกระโดดลงไปนอนบนเตียงทันที

"ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวจะได้ออกไปกินข้าว"

"ยัง ตัวเองมานี่หน่อยสิ"

"อะไร"

ผมถามแต่ก็เดินไปหามัน มันลุกขึ้นมาดึงแขนผมลงไปกอดทันที

"ไม่เอา ไปอาบน้ำ"

ผมขัด

"น่า มากอดหน่อย ไม่ได้กอดทั้งวันอยากกอดจะแย่อยู่แล้ว"

"บ้าเหรอ นั่งกอดมาทั้งวัน ยังไม่พออีกเหรอ"

ผมตอบมันเขินๆ

"ไม่ใช่กอดแบบนั้นนี่ กอดตัวเองน่ะไม่รู้จักพอหรอก มามะ ชื่นใจหน่อย"

มันหอมฟอดใหญ่ ผมยอมแต่โดยดี

"ตัวเอง คราวหลังเรามาเที่ยวกันสองคนเนอะ จะได้สวีทกันได้เต็มที่"

มันพูดแล้วจูบ ลมหายใจร้อนแรงผ่านเข้าปอดผม ผมจูบตอบ อยากจะจูบมันเหมือนกัน เราจูบดูดดื่มกันอยู่นานพอสมควรแล้วก็นอนกอดกัน

"ไปอาบน้ำด้วยกันดี กว่า"

มันพูดแล้วดันตัวลุกขึ้น

"บ้าเหรอ ไม่เอาหรอก อาย"

"โห จะอายอะไรคะ เค้าเห็นของตัวเองทุกส่วนแล้ว"

มันเอาจมูกมาไซร้ที่ แก้ม

"ไม่เอา ไม่ชอบ"

ผมหน้าแดงอายม้วนไป

"ไม่เป็นไร นะคะ เนี่ย เดี๋ยวเค้ากอดตัวเองไว้ตลอดเวลาจะได้ไม่อายไง"
 
มันพยายาม ตื้อ แล้วถอดเสื้อมันออกทันที

"เอ้ย ไม่เอา เธอไปอาบก่อนเถอะ"

"ไม่ เอา อาบด้วยกัน นะคะ คนดี"

มันกอดผมแน่นขึ้น พยายามถอดเสื้อผมออก ตอนแรกก็ขัดขืนเอาไปเอามาตัวผมล่อนจ้อน ผมเอาเสื้อที่ถูกมันถอดกองไว้ปิดของสงวนไว้ ไม่รู้ทำไมอายมันจังเลย ส่วนมันเองพอถอดของผมได้มันก็รูดของตัวเองออกรวดเดียว ตัวมันล่อนจ้อนเหมือนกัน ผมอายหน้าแดงเพราะน้องชายมันชี้โด่

"มาเค้า กอด ตัวเองจะได้ไม่อาย"

มันฉุดตัวผมไปกอด น้องชายผมเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน อายนะแต่ยิ่งอายมันก็ยิ่งสู้ไม่ได้อายเหมือนเจ้าของมันเลย หน้าท้องผมแนบกับน้องชายมันพอดี ยิ่งมันกอดแน่นผมก็ยิ่งหน้าแดงเพราะหน้าท้องมันเสียดสีกับน้องชายมันโดยตรง มันพยุงผมเข้าไปในห้องน้ำ

"แล้วเครื่องอาบน้ำล่ะ"

ผมถามเสียง สั่น

"เอ้อ ลืมไปเลย เดี๋ยวเค้าออกไปเอา"

มันพูดจบก็เดินออก ไปจากห้องน้ำทันที

"อยู่ไหนอ่ะคะตัวเอง"

มันร้องถาม

"อยู่ ในเป้ ถุงพลาสติกน่ะ"

ผมร้องออกไปแล้วเปิดน้ำให้มันอุ่นพอดีรอมัน

"มา แล้ว คิดถึงเค้าไหม"

มันเดินกลับเข้ามาแล้วกอดผมจากข้างหลัง โอยจะบ้าตาย เพราะน้องชายมันสีอยู่ตรงร่องก้นผมพอดี มันดันตัวผมเข้าไปในฝักบัวที่รดลงมา พอตัวโดนน้ำมันก็ไซร้ซอกคอทันที

"เอ๊ะ ไม่เอา รีบอาบ"

ผมสะดุ้ง

"จะรีบไปไหนคะ ให้เค้าชื่นใจหน่อย ไม่ไหวแล้ว"

ผมยืนนิ่ง ทำไมใจมันเต้นแรงอย่างนี้นะ ยังไม่รู้จักชินเสียทีเวลาที่โดนมันสัมผัส มันเอามือจับหน้าผมให้เอี้ยวมาหามัน จูบที่เร่าร้อนผมเองก็ระเริงไปกับรสจูบของมัน ปรารถนาในตัวมันมากเพียงนี้เชียวหรือ ผมถามตัวเอง ยิ่งสัมผัสกายยิ่งใจเต้นแรง ยิ่งจุมพิศแต่ไม่รู้สึกพอไม่รู้สึกอิ่ม ความปรารถนาแรงกล้าร้อนแรงไม่แพ้กัน ไฟรักที่สุมอยู่ในอกผมมันปะทุ ไม่ขัดขืนแต่ทำด้วยความเต็มใจ ทำด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมหัวใจ เสียงกระเส่าดังเป็นระยะ

มันจูบผมเนิบนาบเนิ่นนานแล้วกอดไว้ในอกมัน ท่ามกลางสายน้ำที่เป็นฝอยอุ่นๆรดลงมาตัวเราทั้งสองจนเปียกโชก มันลูบผมเอามือปาดน้ำออกจากหน้าของผม

"รักตัวเองจัง ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งรัก"

มันกระซิบ ผมยิ้มจูบคอมันเบาๆเพราะตัวสูงแค่นั้น เรากอดกันอยู่เนิ่นนานจนผมต้องเตือนว่าควรจะรีบอาบน้ำได้แล้ว ตัวเริ่มเหี่ยวแล้วเพราะโดนน้ำนาน ผมถูหลังให้มันโดยยังกอดหันหน้าเข้าหากันอยู่ มันเองก็ทำให้ผม

"ทำไม ไม่ยอมลงสักทีล่ะ"

ผมพูดแล้วยิ้ม เพราะน้องชายมันยังโด่อยู่

"ไม่รู้เหรอ เวลาอยู่กับตัวเอง มันไม่เคยลงเลย อิอิ"

"บ้า"

ผมให้ มันนั่งลงแล้วสระผมให้รีบอาบให้มันก่อน แล้วให้มันออกไปเช็ดตัวข้างนอก พอจัดการกับมันเสร็จผมก็จัดการกับตัวเองบ้าง เสร็จก็ออกไปเห็นมันนอนเอกเขนกอยู่ยังไม่ใส่เสื้อผ้า

"มาทาครีม หน่อยสิเอ เดี๋ยวตัวแห้งนะ"

ผมเรียกมันมาทาครีม

"ไม่เอาอ่ะ เหนียว"

"มาเดี๋ยวทาให้"

พูดแค่นี้มันก็ลุกขึ้นมาทันที สลัดผ้าเช็ดตัวออกจากร่าง

"แหม ไหนบอกเหนียว"

ผมประชด

"ตัว เองทำให้นิ เหนียวก็ยอม"

ผมยิ้มให้มัน แล้วหยิบขวดโลชั่นมาเทใส่มือลูบไปตามตัวมันอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าทำช้าเนิบนาบกลัวมันจะเปลี่ยนใจเป็นอย่างอื่นก่อน พอเสร็จผมก็ให้มันใส่เสื้อผ้า ส่วนผมก็จัดการกับตัวเอง ผมใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด ส่วนมันใส่กางเกงเล กับเสื้อบาสเหมือนเคย

"ไม่ใส่กางเกงในล่ะ ยิ่งไม่ยอมลงง่ายๆอยู่"

ผมทักเพราะเห็นมันสวมกางเกง เลเลยไม่ยอมใส่กางเกงในเป้ากางเกงยังตุงๆอยู่

"ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวก็มานอนแล้ว ขี้เกียจ"

"ไม่ได้ เดี๋ยวผิดสังเกตุ เดี๋ยวค่อยถอดตอนนอนสิ"

ผมทำเสียงดุ

"อ่า ได้ คร้าบบ ภรรยา"

"ไอ้บ้า เร็วๆ เพื่อนๆรอแล้วนะ จะสามทุ่มแล้ว"

ผมเร่งเพราะเหลือบดูนาฬิกาบอกเวลาหน้าจอโทรศัพท์ พอมันเปลี่ยนใส่กางเกงในเสร็จแล้วเราก็ออกจากห้อง พอเดินมาหน้าบังกะโลก็เห็นทุกคนรออยู่พร้อมหน้า

"ต๊าย แก มันได้ทำอะไรกันอยู่แล้วล่ะค่า อย่าเพิ่งรีบทำนักเลย ฉันหิว กว่าจะมา ฟาดพี่เขาไปกี่รอบล่ะน้องเอ"

กบลากเสียงยาวแซวมาแต่ไกล ผมเขินหน้าแดงอีกแล้ว

"อี นี่ หล่อนจะไปยุ่งอะไรกับมัน รอนิดรอหน่อยจะตายเหรอ แหมเห็นรีบอาบน้ำออกไปเดินเช็คเรตรอบนึงแล้วนี่ เป็นไงยะ เรตติ้งตกฮวบฮาบ"

พลกัดแล้วหัวเราะ

"อ๊าย อีนี่ อย่างฉันนะไม่มีทางเรตติ้งตก ผู้ชายมองกันตรึม ไม่อยากบอก ไม่รู้จะเลือกคนไหนดี"

"จ้า อีสวย"

กายลากเสียงคำว่าสวย ผมเดินเข้าไปหาจ๋า มันยิ้มให้ ท้องจ๋าไม่โผล่ให้เห็นเลยว่าท้องยังปกติ มันใส่ยีนส์ตัดขา ส่วนพี่ป้อมที่ยืนอยู่ข้างๆใส่กางเกงขาสั้นสบายๆ

"ดูมันแต่งตัวสิ จะไปยั่วส้นตีนใครเหรอ อีกบ"

พลยังกัดไม่เลือก กบใส่กางเกงขาสั้นจู๋แล้วมีผ้าบางๆสีม่วงสดมัดอีกที ใส่เสื้อสีชมพูแจ๋รัดติ้ว ทุกสีที่อยู่บนร่างกายมันตัดกับสีผิวเป็นอย่างดี

"อีนี่ เทรนใหม่นะยะ เชยนะหล่อน เอ๊ย ไปกินข้าวเถอะ ฉันหิว จะได้ออกไปล่าผู้ชายเสียที"

มันรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้สึกว่าจะสู้ รบปรบมือกับกายและพลไม่ได้

"เออ หิวแล้วเหมือนกัน พวกแกอย่ามัวมากัดกันอยู่เลย น่ารำคาญ"

จ๋าบ่นแล้วทำหน้างอ

"อ้าว อีชะนีนี่"

ทั้งสามคนร้องพร้อมกันถลึงตาใส่จ๋า ผมต้องกระแอมพวกมันถึงยอมลง

"ไปกันสิแก หิวแล้วเหมือนกัน ดีนะที่พวกเราไม่มีใครแพ้อาหารทะเล"

ผมพูดเบื่ยงประเด็นออกจากจ๋า มันคงจะหงุดหงิดตามประสาคนท้อง เราเดินไปตามหาดแวะเข้าร้านพลอยทะเลเพราะเห็นที่นั่งน่าสนใจดี เขาเอาเสื่อปูกับพื้นทรายรอบโต๊ะเตี้ยๆแล้วมีหมอนสามเหลี่ยมลูกโตวางอยู่รอบ โต๊ะให้หนุนเวลากินข้าว เข้าใจทำ พอได้ที่นั่งก็สั่งกันใหญ่ เอมันก็สั่งกั๊งเผา

"ตัวเองกินหอยสามสหายเผาไหม"

มันหันมาถาม

"มีหอยอะไรบ้างล่ะ"

ผมยื่นหน้าไปดูรายการอาหารในมือมัน เสียงโห่ร้องของเพื่อนก็ดังขึ้นทันที

"โอ๊ย หวานซะ นังจ๋าแพ้ไปเลยนะแก"

กายเป็นคนเริ่ม

"นั่นน่ะสิ เพิ่งรู้นะว่าโยมันก็หวานเป็น"

จ๋าพยักเพยิดตาม ผมอายแต่ก็ไม่มากนักดีดตัวหน้าออกจากมัน

"โหพี่ นี่คุยกันธรรมดานะ ถ้าอยู่สองต่อสอง พวกพี่ไม่คิดว่าเลี่ยนเลยเหรอ"

เอมันพูดเสียงดังแล้วยิ้ม ผมยิ่งอายตีแขนมันเบาๆแล้วพยายามจะขยับตัวออกห่างจากมัน แต่ก็ช้าไปมันคว้าเอวผมไว้แล้วดึงเข้าไปแนบอกแล้วหอมแก้ม เอาเข้าไป ผมไม่รู้จะทำอะไรดีนอกจากนิ่ง เพื่อนก็แซวสนุกสนาน เอก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่ภายใต้ความกระดากอาย มันคือความสุขเปี่ยมล้นใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:37:31 โดย eiky »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
เดินตามมดมา หวานซะ
 
+1 ขอบคุณนะ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
เดินตามมดมา หวานซะ
 
+1 ขอบคุณนะ


อ่าในที่สุดก็มารักษาแชมป์

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
น้ำทะเลจืดแล้วหรือยัง  :m12:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยย...หวานไม่แคร์สื่ออ่ะ
           เขิลลลลที่ซู๊ดดดด

ขอให้คลื่นลมสงบ ไร้อุปสรรคมาขวางกั้นนะโย  :กอด1:

ปล. รอฉาก... :haun4: คืนนี้อยู่นะ
น้องเอเตรียมพร้อม สู้ตาย สู้ๆ
น้องโยพร้อมม๊ายยยย!!!!!!!!! 555

jadezii

  • บุคคลทั่วไป
หวานนนนน เจี๊ยบบบ บบ :m3: :m3: :m3: :m3:
น่ารัก น่ารัก :m1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
หวานจนป้าต้องฉีดยาไล่มดละนี่ 555  :pig4:

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
จะหวานไปไหนคะ

คนอ่านตาร้อนผ่าว   o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด