รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .  (อ่าน 26297 ครั้ง)

13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #30 เมื่อ10-03-2010 21:52:59 »

รู้อย่างเดียวเหมือนกันครับ . . .
. . . อยากอ่าน


ขอบคุณครับผม

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #31 เมื่อ10-03-2010 22:27:22 »

รู้อย่างเดียวว่าอ่านแล้ว "โดนใจ"

มาต่ออีกนะคะ  o13

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #32 เมื่อ10-03-2010 22:51:28 »

พี่โมกข์สุดยอดดดด  o13

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #33 เมื่อ10-03-2010 23:35:05 »

อดทนได้นะโมกข์ ขนาดไม่เหลืออะไรกันทั้งคู่ :laugh:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #34 เมื่อ11-03-2010 03:14:48 »

เห็นชื่อเป็นคุณต้นสายเลยเข้ามาอ่าน  o13




รู้อย่างเดียวเหมือนกันค่ะ . . .
. . . อยากอ่าน



 :L2:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #35 เมื่อ11-03-2010 03:31:33 »

ต๊าย ไม่รู้ว่าทำไม อ่านเรื่องนี้แล้ว กิต.นึกถึงชื่อ "เอก" กับ "ต้น" หึหึ
ขอบคุณนะคะ คุณ ต้นสาย


เอกนี่ใช่  คนที่เป็นแฟน "วายุ"    ที่ตามหากันทั่วหลวงพระบางป่าวครับ

อิอิ

ไม้โมกข์  น่าร๊ากกกกกกกกก

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #36 เมื่อ11-03-2010 05:10:06 »


• เอกนี่ใช่  คนที่เป็นแฟน "วายุ" ที่ตามหากันทั่วหลวงพระบางป่าวครับ
วุ้ย กิต.หมายถึง "เอกชัย" แอร์คนสวย ใน 'เวรกรรม อำบ๋อ' (Welcome I'm bored) ต่างหากคะ
5555555

ขออภัยที่นอกเรื่องนะคะ คุณ ต้นสาย


tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #37 เมื่อ11-03-2010 09:50:10 »



ต อ น ที่   ๓




   “สวัสดีครับ”  ผมกรอกเสียงไปตามสาย โดยที่ไม่ได้ลืมตาเสียด้วยซ้ำ  ผมรู้แค่ว่าอีกมือของผมมีพันธนาการอยู่จากอุ้งมือของอีกคน

   “ไอ้ห่าโมกข์  ตื่นได้แล้ว”  ไอ้เพื่อนเลวของผมเองครับ  


   “มึงโทรมาทำหอกอะไร  คนจะนอน”

   “จะเที่ยงแล้วนะมึง  วันหยุดมึงไม่ใช่เหรอ” มันรู้ทุกเรื่องของผม  มันเรียนมากับผม  ตั้งแต่มหาวิทยาลัย  จนกระทั่งแยกย้ายไปทำงาน  มันถือกุญแจอีกชุดของห้องผมเอาไว้

   “เออก็วันหยุดไงกูอยากนอน”

   “ไม่ได้โว้ย  เดี๋ยวกูไปเล่นดัมมี่  บอกไอ้หนุ่มกับไอ้อ๋อไว้แล้วด้วย  มันกำลังเข้าไป”

   “ไอ้เชี่ย  น้องเพื่อนกูมันมาค้าง  มันมาสอบโทอิค”  ผมแหลตามเรื่อง ตามราว

   “เรื่องของมันดิ๊  กูไปเล่นกับมึง มะช่ายน้องเพื่อนมึง  แค่นี้นะโว้ย”

   ตาผมสว่างทันที . . .

   . . . ไอ้เพื่อนเลวหักคอผมดังเปาะ

   ผมมองคนที่หลับตานิ่ง  ทำไงดีหว่า  บอกว่าจะพาไปกาญจน์  ก็ไม่ได้ไป  บอกมันว่าเดี๋ยวตื่นพาไปอยุธยาไหว้พระแทน  แต่ไอ้เพื่อนเลวมันกำลังเดินทางมาห้องผมนี่นะ  ไอ้เพื่อนร๊ากกกกกกกกก  ไม่รู้เวล่ำ  เวลาเอาเสียเลย  มึงไม่ถามความเห็นกูเลยเหรอว่ากูอยากที่จะให้มึงมาหากูตอนนี้ไหม

   “มีอะไรหรือพี่”  มันลืมตาแบ๊ว  นอนตะแคงมองหน้าผม  อย่างกับโฆษณายาสีฟัน

   “เพื่อนพี่มันจะมาเล่นไพ่อ่ะดิ๊”  ผมหนักใจ  มองหน้ามัน

   “แล้วพี่จะบอกว่าไง”

   “บอกว่าแฟนแม่งเลย”

   “บ้า  ไม่เอา”  มันอายหน้าแดง

   ผมพูดจริง ๆ  นะ  ถ้ามันบอกว่าให้ผมบอก  ผมก็จะบอก  เพราะผมไม่สนอยู่แล้ว  มีแฟนน่ารักขนาดนี้  อยากเอาไว้อวดเพื่อนให้มันอ้วกเล่น  ในฐานะที่แฟนผมหล่อกว่ามัน    ผมรวบตัวมันมากอดเอาไว้อีกครั้ง  ยามเพิ่งตื่นนอนอะไร ๆ ก็ยังตื่นเหมือนกัน

   ไม่อยากออกจากเตียงนอนเลยพับผ่าเด่ะ

   “งั้นอาบน้ำก่อนเดี๋ยวมันผิดสังเกตุ. . .”  ผมรีบแจ้นเข้าห้องน้ำทันที

   “. . .  มาอาบด้วยกันมั้ยไม้”  ผมเปิดประตูเอาไว้

   “ไม่เอา  ไม่อายหรือไง  อาบน้ำก็เปิดประตูไว้”  

   “อายทำไม  นอนแก้ผ้าทั้งคืนยังไม่อาย จะมาอายแค่เนี๊ยะนี่นะ”  ผมยิ้มยั่วมัน  ก่อนที่จะงับบานประตูให้ปิดบังความอุบาทว์ตาในยามเช้า  ก็เวลากลางคืนมันไม่เห็นนี่ครับ  ไฝ ฝ้า กระดำกระด่างตรงไหนบ้าง  แต่พอสว่าง  มันฟ้องหมดด้วยตัวมันเอง

   ส่วนไอ้หัวใจของผม  ผมปล่อยไอ้น่ารักมันนอนบนเตียงเหม็น ๆ  คนเดียว

   ผมไม่รู้หรอก . . .

   . . .   ว่าไอ้น่ารักมันจะอึดอัดไหม  

   เพราะผมอยากให้มันรู้  ว่าผมไม่มีอะไรที่จะปิดบัง ผมรักมัน  และพร้อมเสมอที่จะให้มันรู้จักกับเพื่อน ๆ  ของผม รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผม  ไม่ต้องคอยมาพะว้าพะวง สร้างภาพให้ดูดี  ผมอยากให้มันเห็นตัวตนที่แท้จริงของผม  กับกิจวัตรที่ผมทำบ่อย ๆ

   หาก . . .

   . . .  ผมลืมถามมัน

   “มันอยากจะรู้จักเพื่อนผมไหมหว่า?”

   แต่ . . .

   . . . ผมรู้จักเพื่อนผมดี เพื่อนที่มันไม่เคยทิ้งผม  

   ไอ้เพื่อนผมหรือครับมันพวกเข้ากับคนอื่นได้ดี  มันทำตัวสนิทชิดเชื้อกับไอ้น่ารักได้อย่างรวดเร็ว  และดูเหมือนว่าไอ้น่ารักมันจะไม่มีพิรุธใด ๆ  เพื่อน ๆ  ที่มันมาเล่นไพ่  ยามผมหยุด  ก็ไม่ได้มีใครสงสัยอะไร   จนกระทั่งเพื่อน ๆ ผมมันเลิกเล่นกันตอนสี่โมงเย็น

   “พี่โมกข์  ไม้ว่าไม้กลับวันนี้ดีกว่า”    มันเอ่ยออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

   “อ้าว  ไม่เอาดิ  ไหนบอกกลับพรุ่งนี้ . . .”  ผมนอนมองหน้ามัน  จับมือมันเอาไว้

   “. . . โกรธอะไรพี่หรือปล่าว”  ผมจ้องมองแก้มนุ่ม ๆ  ของมัน

   “ป่าว  แต่มาคิดดู  แม่ก็ยังไม่หายดี   มีแต่พ่อเพราะพี่ไปนอนค้างที่สวนลำใย  แล้วไม้กำลังมาทำอะไรในตอนนี้  ไม้ว่าที่จริงน่าจะอยู่บ้านตั้งแต่เมื่อวานเสียด้วยซ้ำ  ไม่น่ามาเลย”    เสียงของไอ้น่ารักเหมือนคนที่รู้สึกผิด

   ผมเข้าใจมัน  เข้าใจมันดี . . .

   . . . และ  พาลคิดไปไกลกว่านั้น  ผมกลัว  กลัวว่า  หากมันกลับไปแล้ว  ผมคงไม่ได้เจอมันอีก  เพราะอะไรผมไม่รู้   ความรู้สึกลึก ๆ  ในใจมันบอกผมแบบนั้น

    แต่ . . .

   หากเมื่อตอนสายวันนี้ผมไปอยุธยากับมัน  ผมยังพอจะแกล้งขับรถหลงได้  แต่ตอนนี้ที่ลาดพร้าว  ผมจะมาอ้างขับรถหลงไปส่งมันที่สนามบินไม่ทัน  มันดูตลกไปหน่อย

   แววตาที่มันมองมา  ผมไม่แปล  เพราะแปลไม่ถูกจริง ๆ  ถึงผมจะเคยเจอกับความผิดหวังมาบ้าง แต่การที่จะเจออีกในครั้งนี้  มันไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย  ผมจะทำอย่างไรได้  มองหน้ามันแล้วยิ้มอย่างยอมรับ

   “พี่โมกข์อยากให้ไม้ไปไหม”  

   . . . ไม่อยากโว้ย

   ไม่ให้ไป  ไม่ไปไม่ได้หรือ  อยู่ด้วยกันอีกสักคืนนะ  สัญญาว่าคืนนี้จะปล้ำ  จะไม่นอนจับมือแบบเมื่อคืน  กร๊ากกกกกกกก

   ไอ้ความคิดเลว ๆ  บอกผม

   แต่ . . .

   . . . ความคิดดี ๆ  ผมก็มี  เหตุผลเรื่องแม่ที่ไม้บอกผม  มีหรือที่ผมจะกล้ารั้งมันเอาไว้  ผมไม่ได้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวขนาดนั้น

   “ไม้ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันครับ  พี่ไม่อยากให้ไม้อยู่แล้วลำบากใจ  พี่เข้าใจทุก ๆ  เรื่อง . . .”  ผมกุมมือมัน  เอามาแตะที่จมูกผมเบา ๆ

   “. . . ไม้กลับไปแล้ว  เราจะได้เจอกันอีกไหม”    เสียงผมแทบจะไม่มี  ผมกลั้นใจถาม  ทั้ง ๆ  ที่กลัวคำตอบเป็นที่สุด  แต่ผมต้องทำใจให้ได้  กับทุก ๆ  เรื่องที่มันจะเกิดขึ้นมาในชีวิต

   “ไม่รู้เหมือนกัน”

   คำตอบที่ไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธ  คำตอบที่สร้างความลำบากใจให้กับผมเองเพราะผมไม่อยากแปลความหมายเอาเอง  ผมเหมือนจะรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว  ผมยิ้ม  ทั้ง ๆ  ที่ความมั่นใจที่มีมาก่อนหน้านี้  ไม่รู้มันหายหัวไปไหนหมด  ไม่มาอยู่ข้าง ๆ ผมเลยสักนิด

   “ช่างเหอะ . . .”  ผมถอนหายใจแรง ๆ  ยิ้มให้คนที่อยู่ตรงหน้าผม

   “. . . จะถูกทิ้งในวินาทีนี้  หรือ  อีกสองอาทิตย์ข้างหน้า  ค่าของมันก็เท่ากัน คือ โดนทิ้ง”  ผมยิ้ม  ก่อนลุกไปอาบน้ำ  เพราะผมรู้ดีเวลาแห่งความสุขของผมมันค่อย ๆ  หมดลงอย่างช้า ๆ

   ผมเงียบลงมาก . . .

   . . . เงียบตั้งแต่ที่มันบอกว่าจะกลับวันนี้ !

   ทั้ง ๆ  ที่พรุ่งนี้มันบิน O บาท  ที่มันจองข้ามปีข้ามชาติเอาไว้

   บินฟรี !  จ่ายแค่ภาษีสนามบิน  

   แต่ . . .

   . . . มันอยากกลับวันนี้  

   แปลว่ามันต้องจ่ายเต็มจำนวนเพื่อซื้อตั๋วเดินทางใหม่  มันยอมจ่าย เพียงเพราะว่า  มันอยากกลับบ้าน  การอยู่กับผมเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว  น่าจะเป็นความทรมานสำหรับมัน  การจะไปจากผมเพื่อค้างห้องเพื่อน  ออกจะหักหาญใจผมเกินไปก็ได้  มันเลยเลือกที่จะกลับบ้านในวันนี้ โดยยอมทิ้งตั๋วที่จองเอาไว้แล้ว  โดยการซื้อตั๋วใหม่

   “เป็นอะไรไป  เงียบเลย”  มันยิ้มเหมือนเคย  ในขณะที่ผมเลี้ยวรถมาเส้นรัชดาช่วงหน้าศาลอาญา

   “ป่าวนี่ครับ  เบื่อรถติด  เดี๋ยวไม้ตกไฟลท์”   ผมมองดูเวลา  ห้าโมงเย็นกว่า ๆ  เวลานรกบนเส้นวิภาวดีรังสิตแท้ ๆ

   “เอาน่า !  ไม่ต้องรีบ ทันก็กลับ  ไม่ทันก็ไม่กลับ”

   “อ้าว !”  ผมมองหน้ามันอีกครั้ง

   “ทำไมล่ะ  มองโลกอีกด้านสิ  รถติด  พี่อาจจะไม่ชอบ  แต่มันก็ทำให้เราได้อยู่ร่วมกันนานขึ้นไม่ใช่หรือ  ในวิกฤติย่อมมีโอกาส  อย่างน้อยก็ได้อยู่กันมากขึ้นอีกหน่อย”

   ไอ้น่าร๊ากกกกกกกกกก

   กำลังจะทิ้งกรูอยู่แล้วยังมาปากดีอีก  ที่ทำอยู่ตอนนี้ มันก็ทรมานพอแล้ว  จะทรมานกันไปอีกนานแค่ไหนหนอ  ผมยิ้ม  แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อย  ผมยังมีเวลาได้อยู่กับมันอีก  ถึงมันไม่รัก  ไม่ชอบผม  ผมก็ไม่โกรธมันเลย  เพราะทุกคนต่างก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอ

   ผมมาถึงดอนเมืองก่อนหกโมงเย็นเล็กน้อย . . .

   . . . ดูเหมือนหัวใจผมมันจะเบาหวิว  กระแสหัวใจมันอ่อนลง  จนแทบจะไม่อยากหายใจเสียแล้ว  เพราะว่ามันคงถึงเวลาจากลาแล้วจริง ๆ

   “ไม่ต้องไปส่งไปไม้ก็ได้  ข้างในเพื่อนไม้เยอะ  เดี๋ยวเพื่อนล้ออาย”  มันบอกผมเมื่อผมจอดรถที่ลานจอดหน้าคาร์โก้

   “ครับ”   ผมตอบเบา ๆ

   ผมรู้ดี . . .

   . . .  เวลาผมมันมีแค่ตรงนี้เท่านั้น

   เพราะหลังจากนี้ต่อไป  ระหว่างผมกับมัน  เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว  ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ  ความรู้สึกบางอย่างในหัวใจบอกผมเช่นนี้  ผมได้มีเวลาช่วงนึงอยู่กับมัน  และมันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ดี  เพราะผมจะจดจำเวลานั้นเอาไว้ตราบลมหายใจสุดท้ายของผม

   มันไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก . . .

   . . . แต่มันจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ได้หัวใจผมไป  

   ผมไม่รู้วันข้างหน้า  จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง . . .

   . . . แต่ผมรู้หัวใจตัวเอง  

   ตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไร  แม้ผมจะไม่ได้หัวใจมันไว้  แต่ผมก็มีช่วงเวลาที่ดี  ที่อย่างน้อยที่สุดเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง  ที่ผมได้อยู่กับมัน  ผมจดจำความสุขนั้นเอาไว้ได้  ไม่มีวันลืมมันเด็ดขาด

   “โอเค   งั้นพี่ส่งไม้ตรงนี้  แต่เดี๋ยวพี่ไปกดตังค์ก่อน  เสียไพ่หมดตูดแร่ะ”  ผมหัวเราะเบาๆ  ไม่อยากให้เวลาแห่งการจากลามันเศร้ามากไปกว่านี้   

   ผมเดินทิ้งระยะจากมัน . . .

   . . . ทิ้งระยะเอาไว้เสมือนหนึ่ง  คนสองคนไม่รู้จักกัน  เพราะผมไม่อยากให้มันลำบากใจในการเดินกับผม  ในเมื่อมันทำเพื่อผมได้  แล้วทำไม  ผมจะทำเพื่อมันไม่ได้

   ผมหาเรื่องที่จะได้อยู่ใต้หลังคาเดียวกับมันยาวนานขึ้น   เพราะอย่างน้อยที่สุด  หากต่อจากนี้  จะเกิดอะไรขึ้น ก็ตาม  ผมก็ดีใจ  ว่าผมได้ดูมันเดินกลับไปบนเส้นทางเดิมของมัน  โดยที่ผมไม่ได้ทำร้ายมัน  ผมไม่เคยรู้สึกเป็นคนดีแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้  

   แต่กับคนนี้ . . .

   . . .  ผมกลับอยากมองมันเงียบ ๆ ในมุมที่มันไม่มีวันที่จะเห็นผมเป็นอันขาด

   “ไว้ถึงไม้โทรหานะครับ”

   ผมหน้าเสียหนักเข้าไปอีก  ตั้งแต่รู้จักกันมา  มันเคยโทรหาผมเสียที่ไหน  มีแต่ผมที่โทรหามัน  เพราะผมรู้จักมัน  นิสัยของมันไม่ชอบโทรหาใครก่อนเสียด้วย    มันบอกว่าจะโทรหา  ผมแปลได้อย่างเดียวเลยว่า  วันเวลาที่ผมอยากใช้ร่วมกับมันหมดลงช้า ๆ

   “อืม”

   ผมยิ้มให้ไอ้น่าร๊ากกกกกกก  อีกครั้งก่อนที่จะเดินห่าง ๆ  กับมันเรื่อย ๆ   เราเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันแล้ว  เพราะมันมีเพื่อนมากมายในสถานที่แห่งนั้น  มันจะต้องมีคนที่คอยจับตามอง ผมไม่อยากให้มันลำบากใจกับการเดินใกล้ ๆ ผม

   จริงดังคาด  เพราะเมื่อเข้าไปในอาคาร  มันเจอเพื่อนรุ่นพี่  เขาลากมันไปในออฟฟิศ  คราวนี้น้ำตาผมแทบร่วง  ผมไม่รู้เหมือนกัน  เวลาแค่ไม่นานแต่ทำไมมันถึงมามีอิทธิพลต่อผมได้มากมายขนาดนี้  ผมเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม  

   หาก . . .

   . . . สายตามองจนมันเดินลับหายไป  เหมือนหัวใจผม  ที่ค่อย ๆ  ลาลับดับหายลงอย่างช้า ๆ

   ผมเดินมายังชั้นสอง . . .

   . . . มาหาอะไรกินที่ร้านดอยคำ  ร้านค้าโครงการหลวง  ผมเลือกน้ำผลไม้กล่อง  ก่อนเดินมานั่งดื่ม  ในมุมที่ผมคิดว่า  ผมสามารถมองเห็นทุก ๆ  คนที่จะเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารขาออกได้  ผมจะนั่งรอมันอยู่ตรงนี้  ผมจะรอส่งมัน หากนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เจอกับมันอีก  

   ผมก็จะขอมองมันในมุมที่มันไม่เห็นผม . . .

   . . . เวลาแห่งการรอคอยยาวนานเสมอ

   ผมนั่งตรงนั้นหากสายตามองไปด้านนอก . . .

   . . . ผมเห็นมันเดินมากับเพื่อนร่วมงานอีกคน  ดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขกับการได้เจอเพื่อนฝูง  ผมยิ้มตาม  เมื่อมันยิ้มกับเพื่อน ๆ  ของมัน  รอยยิ้มของมัน  ลบรอยแห่งความรู้สึกหมองใจของผมลงไปได้มาก  ผมมีความสุข  มีความสุขที่ได้มองรอยยิ้มของคนที่ผมรัก

   ถึงมันจะไม่ได้รักผม . . .

   . . . ผมก็ไม่โกรธ  หรือน้อยใจมัน  เพราะอย่างน้อยที่สุด  ผมมีความรักให้มัน  มีความรู้สึกที่ดี  ผมไม่อยากให้มันลำบากใจกับการได้เจอผมตรงนั้น  ผมได้แต่นั่งมองมันเงียบ ๆ  ด้วยหัวใจที่ตีกันอย่างหนักหน่วงในตอนนี้

   ตีกันอย่างไร ?

   เพราะอย่างแรก  ผมกลัว  กลัวว่า  จากตรงนี้ต่อไป  ผมจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว  ไม่มีเวลาสำหรับผมกับมันอีกต่อไป  เพราะหากมันมีหัวใจให้ผมบ้าง  มันคงไม่อยากกลับแบบปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้แน่ ๆ  ข้อนี้  ผมรู้ดี  และ  คิดว่า  การอยู่กับผมอีกแค่วินาทีเดียวคือ  ความทรมานที่สุดของมัน

   ผมยิ้ม  ผมมีความสุข กับการได้มองเห็นรอยยิ้มของมัน  แม้มันจะยิ้มกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม  แต่ผมก็มีความสุข  ที่ได้มองมันแบบนี้  รอยยิ้มจากคนที่ผมรัก

   หลังจากนั้นไม่กี่นาที . . .

   . . . ร่างนั้นค่อย ๆ  ลากกระเป๋าใบเดิมเข้าไปในอาคารผู้โดยสารขาออก  ผมเดินออกมาจากที่ตรงนั้น  มองมันที่เดินผ่านเครื่องตรวจไป  ผมเห็นมันในขณะที่มันไม่แม้ที่จะหันกลับมามอง  ว่ามีใครคนนึงยืนอยู่ด้านหลังเสียด้วยซ้ำ  มันคงคิดว่า  ผมกลับไปแล้วก็เป็นได้  ผมมองร่างที่เดินหายไปในอาคารขาออก  จนลับสายตา

   ก่อนที่ผมจะมานั่งมองเจ้านกสุรินทร์ . . .

   . . . น่าจะเป็นลำที่จะเอาหัวใจผมกลับบ้าน  เพราะตามสเก็ต มีแค่ลำนี้กระมังที่จอดทางฝั่งนี้  เพราะอีกฝั่งของลานจอด  ส่วนมากจะเป็นไข่คู่  เกท  61  63  65  67  คือเกทประจำของน้องนก  แล้วที่จอดอยู่ตอนนี้มีแค่สองลำเท่านั้น  น้องนกสุรินทร์  กับนกสดชื่น

   เชียงใหม่ไฟลท์นี้  มีนกพลัส  ในขณะที่นกสดชื่นจัดที่นั่งคลาสเดียวทั้งลำ  เพราะฉะนั้นจะเป็นลำไหนไปไม่ได้  นอกจากเจ้านกสุรินทร์เท่านั้น  ผมนั่งนิ่ง ๆ หัวใจผมตอนนี้นะหรือ  มันเหวง ๆ  นี่ผมยังมีหัวใจอีกหรือปล่าวหว่า  ผมนั่งจนกระทั่ง  เจ้านกค่อย ๆ  ขยับตัวออกจากเกท

   เหมือนหัวใจผมที่โดนเขย่า . . .

   . . . มันไปแล้ว  มันไปแล้วนะ  มันคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ  ไอ้น่ารักของผม  มันทิ้งผมไปแล้ว

   ผมกลับมาถึงห้องในอีกยี่สิบนาทีต่อมา . . .

   ผมนอนนิ่ง ๆ  บนที่นอนที่เมื่อคืนผมนอนอยู่กับมัน  ไฟในห้องมืดสนิท  มีเพียงแสงจากด้านลานจอดรถที่สาดส่องเข้ามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ผมนอนมองฝ้าเพดาน  ปล่อยความอ่อนแอเข้าเกาะกุมหัวใจตัวเอง  มันไปโดยไม่ได้โทรบอกผมสักคำ  

   ไอ้น่ารัก  ในสายตาของผม  มันคือ  ความทรงจำที่ดี   ที่ผมเดินมาเจอ  และอยากดูแลรักษาเอาไว้  แต่ผมในสายตาของมัน  อาจเป็นแค่คนบังเอิญที่เราเจอกัน  ต่อจากวันนี้ ทั้งมันและผมคงมีถนนสายชีวิตที่ต้องเดินไปข้างหน้า  อาจจะเจอหรือไม่เจอกันอีกก็ได้

   ผมคิดเรื่องนี้วกไปวนมาจนเผลอหลับไป . . .

   . . . ที่ผมไม่รู้ มีหยาดน้ำตาเกรอะแก้มของผมเอง

   “สวัสดีครับ”  ผมคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ตรงข้างหมอน

   “พี่โมกข์  ลานเบียร์กันเหอะ”  เสียงรุ่นน้องที่ทำงาน  ทำลายความหวังของผมหมดสิ้น  เพราะผมวาดหวังว่า  ไอ้น่ารักจะโทรหาผม

   “สักสามสี่ทุ่มได้ไหม  เพิ่งมาถึงห้องเหนื่อย”  สันดานดีจริงๆ  คุณชาย  ไม่ปฏิเสธเสียด้วย

   “โอเคพี่  ร้านอร่อยดีมีแฮงที่แยกรัชโยนะครับพี่  ไม่เกินสามทุ่มครึ่งตามนี้นะ”  มันบอกสถานที่ก่อนวางสาย  ผมมองเวลา  เพิ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเอง  

   แต่ทำไม  ผมกลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปนานเหลือเกิน . . .

   . . . เครื่องยังไม่แลนด์ด้วยซ้ำ  ผมหลับตาอีกครั้ง  ในมือกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น  ตอนนี้เหลือเพียงการรอคอย  เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ  อย่างช้า ๆ  ลมหายใจเหมือนรวยระรินลงเรื่อย ๆ  เพราะผมอยู่ด้วยการรอคอยใครคนหนึ่ง ถ้าเขาไม่โทรมาแปลได้อย่างเดียวว่า

   ทุกอย่างจบลงแล้ว . . .

   . . . บนโลกนี้  มีคนอยู่เป็นร้อยล้านคน  แต่วนมาได้พบเธอ  ความบังเอิญในชีวิต  ฉันไปแค่แรกเจอ  ที่พบเจอ  เหมือนเจอทุกสิ่งที่ฉันรอ . . .
 เสียงพี่ปั๊บ  โปเตโต้

   เสียงเรียกเข้า  ที่ผมตั้งไว้ตั้งแต่วันที่บินกลับมาจากเชียงใหม่   เมื่อหลายวันก่อน  ตั้งเอาไว้เฉพาะคน ๆ  นั้นคนเดียว  ผมยิ้ม  น้ำตามันพาลไหลเอามาดื้อ ๆ  ที่ผ่านมาเมื่อสองชั่วโมงกว่า  ผมคิดเองเออเองทั้งนั้น ผมหลงคิดเอาเอง  จนปล่อยความคิดมันมาทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว  มันน่านัก

   “สวัสดีครับ”  คราวนี้ไอ้หมาเสียงลิงโลดเลยเชียว  ผมยิ้ม  หูแนบโทรศัพท์

   “ถึงแล้ว  พี่มารับ”

   “ครับผม”  ผมยิ้ม  ไม่รู้จะพูดอะไรดี  ทุกอย่างที่คิดเอาไว้  มันมาทำร้ายหัวใจตัวเองอยู่นาน  ตอนนี้ผมรู้แล้ว  ว่าสิ่งที่ผมคิดบางทีมันไม่ใช่แบบที่ผมคิด

   ผมควรจะมองถึงความคิด  และความรู้สึกของคนอื่น ๆ  ด้วย   ความรักไม่ได้แปลว่าผมเดินไปหาเขาแล้วมันจบ  มันต้องอยู่ที่ว่า  ทั้งเขา  และผมจะสามารถปรับตัวเองเข้าหากันได้มากน้อยขนาดไหน  ระยะทางของเราสองคนมันห่างกัน  แต่สิ่งที่เราควรจะทำคือ  ทำอย่างไรให้หัวใจใกล้กันต่างหาก

   เดี๋ยวคืนนี้พี่โทรหา  แต่ตอนนี้ขอตัวออกไปกินเหล้ากับเพื่อนก่อน  มันบังคับ”  ผมบอก  ก่อนร่ำลา

   เอาไว้คืนนี้นะ. . .

         . . .  ให้น้ำเมามันช่วยเพิ่มความกล้ามากว่านี้  แล้วผมจะบอกมัน บอกมันทุก ๆ  เรื่องที่เก็บไว้ในหัวใจของตัวผมเอง  ผมสัญญา  ผมไม่มีวันปล่อยให้มันเดินออกไปจากหัวใจผมง่าย ๆ  อีกแล้ว  เพราะพระพรหมขีดมาให้เจอกัน  แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะยอมให้มันเดินจากชีวิตผมไป

   ผมจะเก็บรักษาความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ . . .

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2010 09:51:58 โดย ต้นสาย »

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #38 เมื่อ11-03-2010 12:44:43 »



ขอบคุณนะคะ คุณ ต้นสาย


13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #39 เมื่อ11-03-2010 13:29:56 »

ขอบคุณครับผม...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
« ตอบ #39 เมื่อ: 11-03-2010 13:29:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Lunaeve

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #40 เมื่อ11-03-2010 14:40:53 »

น่ารักจังเลย ชอบมากมากเลย   :L2:
 อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนเลย  ว่าแล้วโทรหาดีกว่า

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #41 เมื่อ11-03-2010 17:09:38 »

อ่า ต้อนรับเรื่องใหม่

ต่อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ด่วนเลยพี่ต้น

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #42 เมื่อ11-03-2010 19:57:55 »

เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ชอบมากครับ ขอบคุณ

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #43 เมื่อ11-03-2010 20:15:12 »

ตกลงไอ้น่ารักมันคิดยังไงกับพี่โมกข์เนี่ย
ดูๆพี่โมกข์แกจะคิดเองเออเองอยู่คนเดียวอ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #44 เมื่อ11-03-2010 22:33:43 »

มาตามเรื่องใหม่พี่ต้นสาย

อิอิ


ดูๆไป ไอ้น่ารักยังดูลังเลอยู่นะ  ความรู้สึกแบบนี้ พี่โมกข์น่าจะทรมานที่ไม่รู้อีกฝ่ายคิดอะไรกับเราเนี่ย

ปล่อยเราคิดเองเนี่ย

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #45 เมื่อ12-03-2010 00:49:13 »



นาน ๆ  อยากเขียนสักที  เหมือนเจอเพื่อนเก่า  เลยนะครับ . . .

. . . เริ่มแรกว่าจะเขียน  ๕  ตอน  แต่เห็นท่าจะจบไม่ลง  เพราะมันไม่ค่อยไหลเหมือนใจอยาก

"สนิม"  เขรอะ  คงต้องเคาะสักพักกว่าจะเข้าที่

ตอนนี้ผมมีธีมในใจแล้วล่ะครับสำหรับ   "รักแท้บทที่ ๑"

ไว้ตอนจบจะมาเฉลย  ว่าทำไมต้องชื่อนี้





 ต อ น ที่    ๔




   คืนนั้น . . .

   . . . ผมเดาะใส่เสื้อมันไปเสียด้วย  เสื้อตัวที่มันใส่นอนเมื่อคืน  แล้วทิ้งเอาไว้ที่ห้อง  ผมไม่รู้หรอก  ว่าที่เกิดกับผมตอนนี้คืออะไร  มันเหมือนคนเพิ่งเจอกันใหม่ ๆ  ทุก ๆ  อย่างมันยังสดชื่นกระมัง  เพราะหากผมไม่มีอะไรที่โดนใจมัน  มันคงเลือกที่จะเลิกติดต่อผมไป  ตั้งแต่วินาทีแรกที่มันลงจากเครื่อง


   หาก . . .

   . . . มันยังโทรมาหาผม

   แปลได้อย่างเดียว  ผมมีความหวัง   อย่างน้อยที่สุด  หากเราไม่ชอบที่จะมองหน้า หรือคุยกับใคร เราก็เลี่ยงได้ไม่ใช่หรือ  เหมือนกับไม้  มันเลี่ยงได้  หากไม่อยากคุยกับผมต่อ  แต่มันกลับไม่เลี่ยง  มันเลือกที่จะเรียนรู้กับผม  ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเอง  แต่ผมคิดว่า  เมื่อหัวใจดวงนึง  ส่งสัญญาณบางอย่างไป  ถึงหัวใจอีกดวง  เมื่อมีการตอบรับ  สัญญาณมันจะเชื่อมถึงกัน  

   แต่ . . .

   . . . หากไร้การตอบรับ  มันก็คงไม่มีผลแบบที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้

   “นอนยัง”  ผมกรอกเสียงไปทันที  เมื่อมาถึงห้อง  เวลาตอนนี้เที่ยงคืนกว่า ๆ  ทั้ง ๆ ที่ปกติ  เวลาไปนั่งกับเพื่อน ๆ  จะติดลมตีหนึ่ง  ตีสองประจำ  แต่วันนี้ นั่งไม่ติด  อยากกลับห้อง

   “ยังเลย”

   “พี่รักไม้”

   ผมยิงลูกโดดไปเลย  ไม่รีรออะไรอีกแล้ว

   ผมรอฟังเสียงด้วยหัวใจสั่นระทึก  เพราะไม่รู้ปลายสายเขาจะรู้สึกอย่างไรกับคำสารภาพของผม  ส่วนผมนะหรือ  เมื่อพูดออกไปแล้ว  กลับโล่ง  ราวยกภูเขาออกจากอก  เพราะสิ่งที่ผมเก็บมาไว้หลายวัน  ผมได้บอกมันออกไปแล้ว  มันดูจะรวดเร็วไปหน่อย  แต่ผมว่า  ผมรู้จักตัวเองดี  รู้หัวใจตัวเองดีด้วย

   “คิดดีแล้วหรือ”

   “ครับ”

   “เมามั้ยนี่”  เสียงมันจริงจัง

   “เมารักมากกว่า. . .”  ผมยิ้มเหมือนคนบ้า  ทั้งเมาเหล้าเมารักเลยตอนนี้

   “. . . พี่พูดจริง ๆ นะไม้  ไม่ได้พูดพร่อย ๆ”  ผมตอกย้ำไปอีกรอบ

   “เพิ่งเจอกันเอง”

   “ครับ  แต่พี่รัก  ไม่อยากเก็บเอาไว้  อยากบอกให้รู้”

   ตอนนี้ผมมันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนซะจนที่นอนยับไปหมดแล้ว  มันเขินอย่างไรไม่รู้  ที่จู่ ๆ  ต้องมาบอกรักผู้ชายด้วยกัน  แถมคนที่ผมบอกรักมันทิ้งกลิ่นกายเอาไว้เสียทั่วที่นอน  ขืนไม่บอก  มาแสดงความเป็นเจ้าของ  ใครมาปาดหน้าเอามันไป  มีหวังได้เจ็บอีก

   “ไม่กลัวหรือ”

   “กลัวอะไร  พี่ไม่กลัวหรอก  พี่รู้หัวใจตัวเองดี  เคยมีคนบอกเอาไว้  หากเรารักใครสักคน แล้วเราไม่บอกเขาไป  ค่าของมันเท่ากับศูนย์”  ไอ้เพื่อนผมนะดิ๊  มันพูดกับผมแบบนี้

   “แล้วไม่คิดบ้างหรือว่า  หากบอกไปแล้ว ค่าของมันอาจเหลือแค่ศูนย์ก็ได้”

   “พี่ไม่กลัว  เพราะอย่างน้อย  พี่ก็ได้ทำในสิ่งที่หัวใจอยากทำ  พี่รักไม้  พี่ก็บอกไป  ถ้าพี่ไม่บอกไม้จะรู้มั้ยล่ะ”

   “ไม่รู้สิ  ไม่อยากคิดไปเอง”

   “นั่นไง  พี่เลยถึงต้องบอก  เพราะหากว่าพี่บอกไป  พี่ยังมีโอกาสถึงห้าสิบ  เพราะหากไม้รู้สึกแบบที่พี่รู้สึก  แต่ไม้ไม่กล้าบอกพี่  ค่าของมันก็คือศูนย์ เพราะเราสองคน ต่างเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้มิดชิด  แต่ตอนนี้พี่บอกไม้ไปแล้ว  พี่ก็มีสิทธิ์มากกว่าศูนย์แน่ ๆ”  ผมยิ้ม

   เพราะหากมันไม่มีสิทธิ์ . . .

   . . . เขาคงตัดบทไม่คุยเรื่องนี้กับผมหรอก

   ใครเลยจะยอมให้คนที่เราไม่รัก  ไม่ชอบ  ไม่รู้สึกดี  มาหยอดอยู่ได้  แล้วยิ่งเวลาตอนนี้  มันร่วมตีหนึ่ง  เวลาที่ไม่ใช่เวลาของคนปกติเขาคุยกัน แต่มันหมายถึง  เวลาของคนที่พิเศษแก่กัน  คนที่สามารถจะติดต่อกันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

   “ทำไมคิดว่ามีสิทธิ์”

   “ไม่รู้  หัวใจมันบอกแบบนั้น”  ผมยิ้มกับตัวเองอีกรอบ

   “อะไรทำให้พี่มั่นใจขนาดนั้น”  มันไม่เชื่อผมหรือว่า  มันลังเลหัวใจตัวเอง

   “มั่นใจเรื่อง”

   “ที่พี่บอกรักนะครับ”

   “ก็เพราะว่า  พี่เจอไม้   ก่อนที่ไม้จะรู้ตัวเสียอีก”  ผมยิ้ม  เมื่อนึกถึงวันเก่า ๆ  ที่ผ่านมา  

   ความบังเอิญ . . .

   . . . โลกกลม

   และ  
“พรหมลิขิต”

   “อย่ามาอำ”

   “ไม่อำ  พูดจริงๆ  ครั้งแรกที่พี่เจอไม้   ตอนนั้นพี่บินหางแดง  แล้วเห็นว่ามีคนน่าร๊ากกกกกกก  ในบูธนกจะเดินไปถ่ายตรง ๆ  ก็ไม่กล้าเลยแอบถ่าย  พอเอามาลงรีวิว  มีคนมาตอบว่า เห็นหัวผม   ดีใจแทบแย่  หาเมล์แอดเอ็มใหญ่เลย . . .”   ภาพความทรงจำในหัวใจผม  แม้หลับตา แต่ภาพนั้นชัดเจนเสมอ

   “. . .แล้วครั้งที่สองที่รู้จักก็ผ่านเอ็มไงก็คุยตั้งแต่วันนั้น  เห็นไหม  พี่เห็นไม้มาตั้งนานแล้ว”  ผมมีความสุขกับเรื่องราวของไอ้น่าร๊ากกกก  ไอ้คนที่เข้ามาปั่นหัวใจผมเล่นในเวลานี้

   “ก็เจอออกบ่อย  คนอื่น ๆ  ที่บินบ่อย ๆ  ก็ต้องเจอ   เหมือนคนทั่วไปไง  คนที่เจอตามสนามบิน”  มันบอกผม

   “ไม่ใช่เพราะครั้งที่สามที่เจอ . . .”    ผมแทบหยุดหายใจ  เมื่อนึกถึงการเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา  การเจอกันอย่างเป็นทางการในครั้งแรกระหว่างผมกับไอ้น่ารัก

   “. . . พี่ไม่ได้จองไว้ด้วย ตั๋ววันที่สิบห้า  แต่ บังเอิญที่หางแดงเชียงราย  ที่พี่จองไว้รีไทม์  และบังเอิญอีกว่า  หางแดงเชียงใหม่  ก็รีไทม์อีกเช่นกัน  เลยเลื่อนบินขำ ๆ  บินลงเชียงราย  กลับเชียงใหม่”

   “ไม่เห็นแปลก  แอร์เอเชียรีไทม์  เรื่องธรรมดา”

   “ไม่ธรรมดาสิ  เพราะหากวันนั้นพี่ไม่เลื่อนมาจะเจอไม้หรือ  แถมในวันปกติทั่ว ๆ ไป พี่ให้น้องมาส่ง  กว่าจะมาถึงสนามบินก็เครื่องเกือบออก  แต่วันนั้น  ดันอยากนั่งลิมูซีน  เลยมาถึงก่อนเกือบสามชั่วโมง  เลยได้เจอ  เห็นไหมหากพี่รอให้น้องมาส่งจะเจอไม้มั้ย   เพราะไม้เลิกงานก่อนแล้ว”

   มีเรื่องราวอะไรของมันบ้างที่ผมจำไม่ได้ . . .

   . . . ทุก ๆ  เรื่องมันยังฝังอยู่ในหัวใจผมเสมอ

   ผมถึงกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ  ว่าผมรักมัน  ผมไม่ได้คิดว่ามันคือความหลง  เพราะหากมันเป็นความหลง  มันคงไม่มีเรื่องบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายขนาดนี้

   “ที่จริงวันนั้นไม้เลิกนานแล้วล่ะ    แต่ยังไม่ได้กลับ  เห็นแล้วว่าเป็นพี่  แต่พี่คงจำไม้ไม่ได้”

   “จำได้  แต่ยังตะลึง  ไม่กล้าเข้าไปทัก  กลัวเขาบอกไม่ใช่  แต่สุดท้ายก็ต้องเดินตาม แล้วก็ได้เจอ เห็นไหม  ว่ามันมากกว่าความบังเอิญ . . .”  ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

   “ไม้ครับ”

   “ครับผม”

   “เราเรียนรู้กันได้ไหม  ไม้ให้พี่ได้เรียนรู้กับไม้ได้ไหมครับ”  ผมอ้อนมันสุดชีวิต

   “แล้วแต่พี่”

   “ไม่ใช่แล้วแต่พี่นะไม้ เรื่องนี้มันหมายถึงเราสองคน  เพราะความรักหมายถึงคนสองคน ไม่ได้หมายถึงการบอกกล่าวจากใครคนใดคนหนึ่ง”  ผมบอกมัน  อยากให้มันได้รู้ในสิ่งที่หัวใจผมมันเก็บเอาไว้

   “เอางั้นหรือ”

   “ครับ  พี่ไม่อยากเสียความรู้สึกดี ๆ ไป  หากวันนึง  มันไม่ใช่แบบที่ไม้และพี่ต้องการ  พี่ก็ยังหวังเอาไว้  ว่าหากเราเจอหน้ากันเราจะยังยิ้มให้กัน  และคุยกันได้  ในฐานะพี่น้อง  เพื่อน เพียงแต่เราไม่สามารถเป็นคนรักกันได้แบบที่พี่อยากให้เป็นตอนนี้”

   “ก็ได้ครับ  หากพี่มั่นใจ”

   ผมแทบสำลักความสุขตายละตรงนั้น  สิ่งที่ผมต้องการในวันนี้    คงเป็นสิ่งนี้กระมัง  ผมจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก ตอนนี้  ถนนสายชีวิตที่ผมเดินเดียวงดายมาตลอดสองปี  กำลังมีอีกคนมาร่วมเดินด้วย ถนนที่ผมคิดตลอดว่าจะไม่มีใครมาเดินเคียงข้างอีกแล้ว

   ถนนสายหัวใจ . . .

   . . . เปิดกว้างอีกครั้ง

   ผมเคยปิดตัวเอง  ไม่เปิดรับใคร ๆ เข้ามาในชีวิต  เพราะผมคิดว่า  ผมอยากอยู่คนเดียว  ไม่อยากรักใครให้เจ็บปวดหรือทรมานอีก  แต่ความคิดของผมก็ดับสูญเมื่อผมมาเจอไอ้น่ารัก  รอยยิ้มของมันทำเอาหัวใจผมสั่นราวกับแผ่นดินไหวสักแปดริกเตอร์  แถมด้วยอาฟเตอร์ช๊อคตามมาเป็นระยะ ๆ  

   “ไม้ก็มีเรื่องอยากจะบอกพี่”

   “เรื่องอะไร  ถ้าจะบอกว่ามีแฟนแล้ว  ไม่ต้องบอกนะ พี่ไม่อยากฟัง”  

   “ป่าวหรอก  เรื่องที่ไม้กลับมาวันนี้”

   “ครับ . . .”  ผมใจสั่นอีก  กลัวมันเหลือเกิน

   “. . . บอกมาเหอะ  พี่ฟังได้ครับ”   ความคิดผมไปในทางแย่ ๆ  ก่อนเสมอ  กลัว  แต่ก็ยังอยากจะรู้กับสิ่งที่ไอ้น่าร๊ากกกกกกกก  ทำลงไป

   “ความจริงไม้ไม่อยากไปตั้งแต่แรกแล้ว”

   “อ้าว  ก็ไหนบอกนัดเพื่อนไว้ที่รูท”

   “ไม่หรอก  ไม่อยากให้ใครคนนึงรอ  ไม่อยากผิดคำพูด  เพราะบอกเขาว่าไปกรุงเทพฯ”

   คำตอบที่มันบอกมา  ผมรู้ได้ทันที  คนนั้นคงสำคัญสำหรับมันมาก เพราะไม่อย่างนั้น  มันคงไม่มาหรอก  มันไม่อยากผิดคำพูดกับคนสำคัญของมัน

   “ก็ดีครับ  พี่ดีใจ”  ผมยิ้ม

   “ดีใจทำไม”

   “เพราะคน ๆ นึงไง  คนที่ไม้ไม่อยกาผิดคำพูด  คนที่ไม้บอกเขาว่าไม้จะมากรุงเทพฯ   หากคนที่รอไม้ในวันนั้นได้ยินสิ่งที่ไม้พูดแบบนี้  เขาคงดีใจเหมือนที่พี่ดีใจ  และ  พี่ควรจะดีใจไม่ใช่หรือ  เพราะคนนึงคนนั้น  พี่รู้จักเสียด้วย”   ก็มันมากรุงเทพฯ  แล้วใครล่ะที่ไปรับมันที่สนามบิน  แล้วมันหายไปกับเพื่อนสามชั่วโมง ก่อนมานอนให้ผมจับแก้ผ้ากอดทั้งคืน  ผมไม่แปลความหมายเข้าข้างตัวเองใช่ไหม  ว่า  มันมากรุงเทพฯ เพื่ออยากเจอเพื่อนที่รูทมากกว่าอยากเจอผม

   “ทำไมต้องคิดเข้าข้างตัวเองเรื่อยเลย . . .”  เสียงมันมีความสุข  ผมจับน้ำเสียงได้  คนที่ไม่กล้าบอก  แต่มันปิดกันไม่ได้หรอก  ความรู้สึกบางอย่างมันส่งถึงกันน่าไอ้น่าร๊ากก

   “. . . พี่โกรธไม้ไหมครับที่กลับมาก่อน”

   “ไม่ครับ  ทีแรกกลัวไปหมด  กลัวว่าจะไม่ได้เจออีก  กลัวว่าไม่ได้คุย  กลัวว่าทำอะไรผิดไป  ถึงต้องกลับ  พี่ไปแอบมองไม้ตอนเดินเข้าไปห้องขาออกใจงี้แป้วเลย”

   “จริงเหรอ”  เสียงจากปลายสายตื่นเต้น

   “ครับ  รอจนเครื่องพุชออกไปนั่นแหละถึงกลับ”

   “ไม่ไม่อยากไปหรอก  เพราะห่วงแม่  ที่กลับมาเพราะห่วงแม่  ไม่ได้คิดว่าจะทำให้พี่ต้องคิดมาก  ไม้ขอโทษ”  มันเสียงอ่อย

   ผมรักมันจับหัวใจ . . .

   . . . ทุกลมหายใจเข้าออกของมันมีแต่แม่

   “ครับ  ตอนนี้พี่เข้าใจทุกอย่าง  นอนเสียนะน้องที่พี่รัก    ดึกมากแล้ว”  ผมยิ้ม  ทุก ๆ  อย่างที่หนักอยู่ในหัวใจ  โดนปลดปล่อยไปหมดสิ้น

   “ครับ  พี่ก็เหมือนกัน  ไม่ต้องคิดมากนะครับ  พี่ที่น้องรัก”

   แบบนี้ตายตอนนี้ก็ยอมล่ะคร๊าบบบบบบบบบบ . . .

   . . . ผมสัมผัสถึงความรู้สึกที่ส่งมาจากแดนไกลได้เป็นอย่างดี  ผมยิ้ม  คืนนั้นผมหลับอย่างมีความสุข  เพราะทุก ๆ  อย่างรอบ ๆ  ตัว  เหมือนความฝัน  ผมอยากเก็บวันเวลาแห่งความสุขเอาไว้แบบนี้ตราบไปจนหมดลมหายใจ

   มันไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก . . .  

   . . . แต่  

   มันจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ผมจะรักได้ในชาตินี้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2010 02:37:38 โดย ต้นสาย »

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #46 เมื่อ12-03-2010 01:16:03 »



ขอบคุณนะคะ คุณ ต้นสาย


ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #47 เมื่อ12-03-2010 01:21:51 »

 :m3:   หวานจริงๆ อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนมีน้ำตาลเข้าเส้น  :กอด1: 






ขอบคุณค่ะ

 :L2:

13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #48 เมื่อ12-03-2010 01:40:59 »

ขอบคุณครับคุณต้นสาย สำหรับการเคาะสนิม

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #49 เมื่อ12-03-2010 02:05:38 »

*  “ถ้าผมจะรักใครอีกสักคนในชีวิตนี้    คน ๆ  นั้นจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ผมรัก” *

ชอบประโยคนี้มากเลย   :impress2:

ผิดไหมเนี่ยะ เราอ่านเรื่องนี้ไป ยิ้มไป ... คนเดียวหน้าคอม ความจริงอยากกี๊ซ.....แต่ติดตรงที่ที่บ้านหลับกันหมดแล้ว 5555+  :-[

รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ.... เป็นกำลังใจให้ค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
« ตอบ #49 เมื่อ: 12-03-2010 02:05:38 »





ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #50 เมื่อ12-03-2010 02:36:04 »

 :-[
หวานซะ

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #51 เมื่อ12-03-2010 02:37:02 »

ที่มาของเรื่องนี้ . . .

. . . เกิดจาก  ความว่างของสมอง  ว่างแล้วเกิดคำถามในใจผม

๑.  พรหมลิขิต  มีจริงหรือ ?

๒.  เจอกันบังเอิญบ่อย ๆ นี่เรียกพรหมลิขิตได้ไหม?

๓.  คนเจอกันและนอนกันครั้งแรกเรียกว่า  "แก้คัน" หรือ  "จุดเริ่มต้นแห่งรัก"

๔. แอบรักคนอื่นมันเจ็บไหม

๕.  จากข้อ  ๓.ถ้า  คนนึงผูกพันกับคืนนั้น  แล้วอีกคนไม่รู้สึกอะไร  มันจะเกิดอะไรต่อไป

๖. ความรักมันเริ่มจากคนสองคนพร้อม ๆ  กัน  หรือ มันเริ่มจากใครคนหนึ่งก่อนกันแน่

๗. จะมีบททดสอบอย่างไร  เพื่อให้รู้ว่า  เขารักเราจริง

ทั้งหมดเป็นที่มาของคำถาม  ที่อยากหาคำตอบ  จึงเกิดเป็นเรื่องราว

  "รักแท้บทที่ ๑"


แต่จะผ่านบทที่ ๑  ได้หรือไม่นี่สิ  ต้องอ่านกันต่อ  ถ้าผ่านก็คงได้อ่าน  "รักแท้บทที่ ๒"

ไม่ผ่านก็จบข่าว บ้านใครบ้านมันครับพี่น้อง

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #52 เมื่อ12-03-2010 04:38:36 »

หวานนนนนนน  :o8:

ชอบที่มาของเรื่องจังเลย 
"รักแท้บทที่ ๑" ของคู่นี้จะผ่านรึเปล่าน้า ลุ้นๆๆๆๆ

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #53 เมื่อ12-03-2010 09:29:53 »

ยิ้มแก้มปริกันมาขนาดนี้ ... ก็ขอให้ผ่านบทที่ ๑ ด้วยดีเถอะค่ะ  :-[

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #54 เมื่อ12-03-2010 10:42:28 »

ผ่านฉลุย รออ่านรักแท้บทที่ 2

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #55 เมื่อ12-03-2010 10:58:47 »

ที่มาของเรื่องนี้ . . .


  "รักแท้บทที่ ๑"


แต่จะผ่านบทที่ ๑  ได้หรือไม่นี่สิ  ต้องอ่านกันต่อ  ถ้าผ่านก็คงได้อ่าน  "รักแท้บทที่ ๒"

ไม่ผ่านก็จบข่าว บ้านใครบ้านมันครับพี่น้อง

หวังว่าคนเขียนจะไม่ขี้เกียจ ...
ไม่งั้นก็คงจบแค่บทที่ ๑ ตามเคย

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #56 เมื่อ12-03-2010 11:14:30 »

หวานหยดเลยครับ

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #57 เมื่อ12-03-2010 21:27:46 »

เหมือนจะหวานนะ


แต่ทำไมอ่านแล้ว หวิวๆๆๆๆ  อะ พี่ต้น

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #58 เมื่อ12-03-2010 22:39:37 »

อ่านแล้วมีความสุขจัง รู้สึกอบอุ่นอ่ะค่ะ
+1 ขอบคุณนะคร้า อยากให้บังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิตอย่างนี้บ้างจัง :-[

13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รั ก แ ท้ บ ท ที่ ๑ . . .
«ตอบ #59 เมื่อ12-03-2010 23:22:52 »

๕.  จากข้อ  ๓.ถ้า  คนนึงผูกพันกับคืนนั้น  แล้วอีกคนไม่รู้สึกอะไร  มันจะเกิดอะไรต่อไป
๖. ความรักมันเริ่มจากคนสองคนพร้อม ๆ  กัน  หรือ มันเริ่มจากใครคนหนึ่งก่อนกันแน่

2 ข้อนี้ ผมหาคำตอบมาหลายปีแล้ว... แต่ไม่มีใครตอบให้ผมได้เลยอ่ะ... เลยว่าจะมาหาคำตอบที่นี่ครับผม
ถึงแม้ผมจะคิดว่า มันคงจะ"ไม่มีคำตอบ"ก็เถอะ....

ขอบคุณครับผม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด