บุพเพวายร้าย(สอง)
12.50%
ตลอดทางจักรไม่พูดกับผม แม้ผมจะถามอะไรไป พอผมจอดรถหน้าบ้านก็เปิดประตูออกไปเลย ผมว่าจะตามออกไปแต่คิดว่าจักรคงไม่อยากให้เป็นอย่างงั้น เลยได้แค่มองจักรหายไปพร้อมกับประตูบ้านที่ปิดสนิท
“ ....................”
กริ้ง กริ้ง ผมคิดว่าคนที่โทรมาเป็นไอ้แบงค์ แต่ไม่ใช่ครับเป็น
‘ปราง’ !? ผมแปลกใจจนเรียกได้ว่าตกใจ
แต่ผมก็รีบกดรับ
“ ปราง!?” (ผม)
“ ชนะวันนี้มาหาได้ไหม?” เสียงหวานคุ้นหูถาม
“ได้ ว่าแต่จะให้ไปหากี่โมง?”ผมมีคำถามมากมายว่า ปรางอยากเจอผมทำไม หรือว่าอยากจะกลับมาคบกับผมอีก และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมจะทำยังไง? ผมยอมรับว่ายังรู้สึกดีๆกับปรางอยู่ แต่ใจกลับลังเลในตอนนี้
“ ถ้าชนะว่างตอนไหนก็มาได้เลย”
“ งั้นชนะไปหาตอนนี้นะ” ผมบอก
“ ปรางจะรอ” ปรางบอก ผมรีบขับรถจากหน้าบ้านจักรไปหาปรางทันที
ปรางทำไมอยากเจอผมทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นคนบอกผมเอง ว่าจะไม่ให้ผมไปหา ขนาดผมโทรไปก็ไม่ยอมรับ ปิดเครื่องหนีด้วยซ้ำ
เจอปรางคงได้รู้ ....................................หรือว่าปรางจะรู้เรื่องที่ผมทำกับจักร และจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
“ ................”
จักรบอกปราง? มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น!
ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ สำหรับจักรการที่โดนผมข่มขืน มันเป็นเรื่องน่าอดสู จักรไม่มีทางบอกปรางแน่นอกจากว่าอยากแก้แค้นผม
ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆล่ะก็.......................
“ อะไรวะ!” ผมเอามือตบพวงมาลัย หงุดหงิดในสิ่งที่ไม่รู้ และคาดเดาไม่ได้
ผมมาถึงบ้านปรางก็ตรงเข้าไปหาปรางทันที ทว่าปรางก็รอผมอยู่ในห้องรับแขกอยู่แล้ว ปรางดูดีขึ้นจากที่ผมเห็นครั้งที่แล้ว ดูสดใสขึ้น
“ ขอโทษ...ที่ปรางเอาแต่ใจให้ชนะมาหาที่นี่” ปรางบอก ผมนั่งลงตรงข้ามปราง พร้อมสาวใช้เอาน้ำกับจานคุกกี้วางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆด้านหน้าผม(สาวใช้คนที่เอาน้ำสาดผมครั้งที่แล้ว)
“ ไม่เป็นไร ถ้าเป็นปรางชนะพร้อมเสมอ” เปลือกตาปรางฟลุบมองต่ำก่อนที่ช้อนขึ้นมามองผม
“ ชนะยังไม่ลืมปรางอีกเหรอ?”
“คนทั้งคนจะให้ลืมได้ไง ทั้งชีวิตคงลืมไม่ลง” ผมบอก เชื่อว่าสิ่งที่ผมบอกมันจะเป็นอย่างงั้นแน่นอน
“ แล้วรักล่ะ?”
“ ............” ผมเงียบ เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
“ ชนะคงมีคนเข้ามาในใจ ....แล้ว..” เสียงปรางเบามากๆ ทำให้ผมใจหาย
“ ปราง ชนะยัง ......” ปรางส่ายหน้าช้าๆ แล้วพูดว่า
“ ปรางเข้าใจ อย่าพูดอะไรให้ผูกมัดตัวเองเลย ” ก่อนที่สบตาเป็นครั้งแรกนับแต่ผมมา
“ .................” (ผม)
“ และที่ให้ชนะมาที่นี่ เพราะปรางมีเรื่องสงสัย”
“.................” ผมเงียบรอฟัง
จักร!? ไงล่ะไอ้แบงค์คนดีของมรึงตอนนี้เอาเรื่องกรูมาฟ้องปราง
กรูไม่น่าใจอ่อนเลย เหี้ย!
“ เรื่องจักร?” ผมเก็บสีหน้าถาม
คิดแล้วไม่มีผิด เป็นเรื่องจักรจริงๆ
“ ทำไม ใครหรือ .....มันบอกอะไรปราง!?” ผมว่า โกรธจักรขึ้นมาทันที ทั้งที่ผมพยายามจะลืมเรื่องต่างๆที่จักรทำไว้กับปราง แต่จักรเอาเรื่องนี้มาบอกปราง ผมใจอ่อนไปจริงๆคิดแล้วผมโมโห
“จักรไม่ได้บอกอะไรปราง แต่ชนะมีเรื่องจะบอกปรางไหม?” ปรางถามผม
“ ...................”(ผม)
“ ปรางไม่รู้ว่า เรื่องอะไร มันเป็นมายังไง แต่จักรเป็นน้องเทคที่ปรางสนิทมาก ..”
“ แล้วไง?”
“ วันนี้เพื่อนปรางเห็นชนะกับจักรที่ห้างS บอกว่า...”
“ พอๆปรางพูดมาตรงๆ” ผมไม่เข้าใจว่าทำไมปรางจะต้องเป็นห่วงไอ้คนที่ทำให้ช้ำใจ ทำไม!
“ ถ้าชนะ จะแค่เล่นๆกับน้องเขา อย่าเลย จักรเป็นเด็กดี ไม่ใช่คนที่ชนะจะไป...” ปรางเงียบ ผมจ้องปรางให้เต็มตา ทุกอย่างมันดูไม่มีเหตุ ไม่มีที่มา ไร้เหตุผลไปหมด!
“ชนะถามจริงๆเถอะ ว่าจักรทำกับปรางขนาดนี้ ทำไมปรางจะต้องไปห่วงมันด้วย!?” ผมว่าหมดความอดทนที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าปรางกับจักรมีความสัมพันธ์ยังไงต่อกัน
“ จักรทำอะไร?”
“ ก็.......
ก็ทำปรางท้องแล้วหน้าตัวเมียไม่รับไง!” ผมว่าอารมณ์ขึ้น
“ .......................” ปรางตกใจ
“ ไม่ใช่นะชนะ!? จักรกับปรางเราไม่เคยมีอะไรกัน” ปรางบอกสีหน้ามีแวววิตก แต่ผมหูอื้อ และไม่เชื่อว่าปรางกับจักรไม่ได้มีอะไรกัน ปรางกำลังปกป้องจักร
“ ขนาดนี้แล้วยังปกป้องมันอีกเหรอปราง?!” ผมว่ายืนขึ้น
“ ปรางไม่ได้ปกป้อง จักรเป็นแค่น้องเทคปราง ถึงเรา 2 คนจะสนิทกันมากก็จริง แต่ไม่เคยเกินเลย” ปรางบอก
“ ...................” แต่เจนบอกว่า..
.........เจนแค่บอกคิดว่าอาจจะเป็นจักร ซึ่งมันไม่แปลกที่เจนจะเข้าใจผิด ถ้าปรางสนิทกับจักรมากจนปรางเข้าใจผิด ...ทว่าเพื่อนสนิท ก็น่าจะรู้ว่าปรางกำลังคบกับใคร หรือว่ายังไง??????
และถ้าจักรไม่เคยมีอะไรปราง นั่นหมายความว่าจักรไม่ได้ทำปรางท้อง แล้วที่ผมข่มขืนจักร โดยที่จักรไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ผมเหมือนกระหายร้ำ ลำคอตีบตันจนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้
“ ชนะ คงไม่ได้ทำอะไรจักรใช่ไหม?” ปรางถามผม
“.............” ผมเงียบเพราะผมทำ
แต่จะโทษผมคนเดียวไม่ได้ จักรเองก็พูดจาทำให้ผมคิด ถึงแม้ว่าตอนนี้จักรจะบอกผมว่า
‘กรูกับพี่ปรางไม่ได้มีอะไร กัน และเรื่องที่พี่เขาท้องกรูก็ไม่รู้ ถ้ามรึงรู้แล้วก็ไปปล่อยกรูไปตามทางของกรู’
ซึ่งผมคิดว่าจักรแก้ตัว เป็นใครใครก็คิด!
“ ชนะไม่ได้ทำอะไรจักรใช่ไหม!” ปรางถามคาดคั้น
“ ตอนนี้ชนะกับจักรเราคบกัน” ผมบอกหลีกเลี่ยงที่บอกความจริงทั้งหมด แต่ปรางยังมองผมด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ แต่จักรไม่ได้ชอบผู้ชาย!” ปรางบอก ทราบรสนิยมผมอยู่แล้วก่อนที่ผมจะคบกับปรางผมก็คบผู้ชายมาก่อน
“ อะไรก็เปลี่ยนได้” ผมบอก
“ ชนะ ?” (เสียงปราม)
“ จริงๆปราง ชนะชอบจักร” ผมบอก ไม่ได้ขัดกับความรู้สึก จักรก็น่ารักน่าสนใจ ถ้าไม่มีความเกลียด ความแค้นที่ผมมีต่อจักร ซึ่งตอนนี้มันไม่มี .........................
มั้ง
“ ปรางรู้จักรชนะ และเพื่อนๆของชนะ ปรางแอบคิดไม่ได้ว่า ที่ชนะเข้าไปยุ่งกับจักร อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ชนะคิดว่าจักรมีอะไรกับปราง.....” ปรางยังคงมองผมราวกับจะหาคำตอบด้วยตัวเอง
“ จะเพราะอะไรก็ตามแต่ ตอนนี้.........”
“ หมายความว่าจักชนะทำจริงๆใช่ไหม?” ปรางถามหน้าซีด ส่ายหน้าไม่เชื่อทั้งที่ผมยังไม่ได้ตอบ
“ แค่ตอนแรกปราง แต่ตอนนี้เรา 2 คนคบกัน” ผมบอกปรางไม่อยากให้ปรางไม่สบายใจ แต่ปรางดูจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ ทำไมชนะ ทำไมชนะถึงไม่เลิกนิสัยแบบนี้สักที ทำไม่ลองคิดบ้างว่า ถ้าคนที่กระทำเป็นตัวเอง แล้วจะเป็นยังไง!” ปรางว่าน้ำตาเริ่มล้นออกมาจากเบ้าตากลมๆ
“ ปราง” ผมว่าเสียงเบา
“ ช่างเถอะชนะ!” ปรางตัดบท เอามือเช็ดน้ำตา
“ .....................”
“ ปรางขอบอกชนะเลยนะ เผื่อว่าชนะจะดึงใครมาเกี่ยวไปมากกว่านี้ ลูกในท้องปรางไม่มีใครเป็นพ่อทั้งนั้น !”
ผมเงียบเพราะผมรู้ผมเข้าใจ ว่า ..ผิด...!
“ อย่าไปบังคับให้ใครมารับผิดชอบปราง เพราะถ้าชนะจำทำแบบนั้นกับคนที่ปรางมีอะไรด้วย มันคงเยอะจนชนะนับไม่ไหว”
“ ปราง” ผมเข้าใจว่าปรางพูดให้ตัวเองดูเลวร้ายถึงจะเป็นความจริงก็ตาม
“ ถึงชนะจะได้คนคนนั้นมาจริงๆ ถ้าบังคับมันจะมีประโยชน์อะไร สักวันเขาก็ต้องไป” พูดถึงตอนนี้ปรางเศร้ามาก .................ปรางรักมัน! เจ็บใจ
“ ยิ่งถ้าเขาไม่ได้รัก ยิ่ง ย า ก …” ปรางหลบสายตาผมตอนพูด
ผมสงสาร อยากจะเอื้อมมือไปจับมือปราง แต่ผมก็ไม่ทำ
“ ปราง”
“ ชนะรู้ใช่ไหมว่า จะต้องทำยังไง...” ปรางถามหันหน้ากลับมา นัยย์ตายั่งสั่นอยู่เล็กน้อย เรื่องที่ผมต้องทำถ้าว่านั้นหมายถึงกับจักรกับผม.. ผมจะไปขอโทษจักร ขอให้จักรยกโทษให้ แต่คิดว่าคงไม่ง่าย แต่เมื่อผมผิด ผมก็พร้อมที่จะยอมรับ
“ รู้” ผมบอก
“..............”
“ ....................”
“ ........................... ชนะเราไม่ใช่เด็กที่จะทำอะไรไม่คิดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ปรางเองก็เหมือนกัน ปรางก็ไม่ใช่เด็ก แล้วก็จะไม่ใช่ผู้หญิงที่เที่ยวไปวันๆเพราะประชดรัก เรียกร้องความสนใจอีกแล้ว ....” ปรางบอก สายตาปรางเธอดูอ่อนโยนมาก นี่ใช่ไหมคือสายตาของคนที่กำลังให้กำเนิดชีวิต
ผมนึกถึงแม่ที่จำได้เลือนรางเต็มที
“ พวกเรามาโตไปด้วยกันเถอะ” ปรางว่า..........
“ ...............................” ผมมองปราง รู้สึกแปลกอย่างประหลาด
ความรู้สึกที่มีให้ปรางไม่ได้เปลี่ยน ผมยังหวังดีกับปรางแม้ตอนนี้ และคิดว่าจะตลอดไป
ผมต่างหากที่ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ขณะนี้ก็เช่นกัน
รัก
หรือ
หลง
มันเบียดเสียดกันอยู่อย่างแน่นหนา ยากที่จะจับมันแยกออกจากกัน....
“ ...............................................”
“ ปราง เรายังเป็นเพื่อนกันใช่ไหม?” ผมถาม
“ เป็น” ปรางตอบ ผมโล่งใจจนยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ ก่อนที่จะมองรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าปรางอย่างสนิทใจ
** ** **
ท่านที่ทักในเอ็ม ขอโทษเน้อเจ้าค่ะ ที่คุยกันแค่ 1 2ประโยค เป็นสิ่งที่เจ้าหญิงไม่ค่อยถนัดเน้อ..
คำผิด ขอบคุณท่านroseen ตอนแรกผมว่าจะเลิกอ่านแล้ว
แต่ตัดใจไม่ได้อ่ะ ต้องกลับมาอ่าน คิดแล้วคิดอีก แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้ อย่างน้อยก็มีหวัง แบงค์-ชนะ(จักรไม่ต้องการ!!!)
อ่า..... เจ้าหญิงทำร้ายผม เจ้าหญิงทำร้ายใจผม
หูตาลายหมด มองไม่เห็นคำผิด
ท่าน.. อร่อย” พี่วุฒิบอกหลังจากที่กินไป 1 คำ
“ ขอบคุณครับ” ผมว่าภูมิใจ
“ วันหลังไว้ทำให้พี่กินอีก”
“ มาม่ากินบ่อยๆไม่ดีนะครับ”
“ ทำอย่างอื่นก็ได้” พี่วุฒิบอกจ้องหน้าผม
“ครับ” ผมว่าก้มลง เอาส้อมตักเส้นมาม่าขึ้นมากิน ตอนที่ผมก้มลงเห็นว่าพี่วุฒิกำลังยิ้ม
.
.
.
“ อ้า พี่ ช้าๆครับ” ผมบอกขณะที่พี่วุฒิกระชันน้องชายเข้าออกจากตัวผม มือผมกำปูที่นอนแน่น ขาก้างออกอยู่ในท่ารูปตัวเอ็ม มีร่างกายพี่วุฒิอยู่ตรงกลาง
“ ............” พี่วุฒิไม่ตอบจูบผมแทน
.
.
.. มันคืออะไร ฝันหรือว่าเรื่องจริง ก้อ เค้านั่งกินข้าวกันอยู่นิ หรือ น้องจุม มองพี่วุฒิสาวเส้นมาม่าเป็นภาพนี้หือ
.
.
ผมตื่นขึ้นมา และได้รู้ว่าเสียงที่ทำให้ผมตื่นก็คือเสียงลมพัดนอกหน้าต่าง และเสียงฟ้าร้องนั่นเอง
ผมหันหน้าไปมองพี่วุฒิที่ยังหลับอยู่
“ ................” กี่โมงแล้ว ผมคิด มองดูนาฬิกาที่อยู่บนโต๊ะทำการบ้านที่อยู่ติดผนังอีกด้าน
บ่าย 4 โมง
เออ....คือท่านจะเอาหมดเลยหรือเจ้าค่ะ?
โถๆๆ ไอ้เราก็ดีใจนึกว่าเป็นตอนที่จุมกลับมาแล้ว
เฮ้อออ ไอ้พี่วุฒิก็ต้องเซ็งต่อปายยยยย
แต่ตอนนี้หวานดี แถม เหอะๆๆ
3เดือนแล้ว แต่ทำไมเรารู้สึกว่ามันนานกว่านั้นน้าาาา
เจ้าหญิงคิดว่านานกว่านั้นเช่นกัน ..ขอบคุณที่ติดตาม