+
บุพเพวายร้าย
55.50%
“ เดี๋ยวลงมาครับ” ผมบอก แม่หันมาจ้องผมทำหน้าสงสัยครู่หนึ่ง
“ครับ?” ผมทำตาโตแปลกใจกับท่าทางแม่มากกว่า
“ แม่มีความสุขเมื่อเห็นจุมมีความสุข”
“ ผมก็เหมือนกันครับ” ผมบอกยิ้มให้ปากถึงหูถ้าทำได้
ผมตักข้าวใส่จาน 3 ใบ แล้วเอาจานของตัวเองมานั่งลงกินข้าว แค่ข้าวเปล่าๆก็อร่อย จนแม่บอกว่า ‘ให้กินกับบ้างไม่งั้นแม่จะทำทำไม’ ไอ้ที่หอมๆที่ผมได้กลิ่นนั่นคือไข่เจียวของโปรดผมเอง ผมกินข้าวกับแม่ไปสักพักพี่วุฒิถึงลงมา พร้อมกลิ่นหอมฟุ้งจากน้ำหอมที่ผมคิดว่ามันน่าจะแพงมาก เพราะขวดมันทั้งสวยและหรูจนผมไม่กล้าใช้(พี่วุฒิบอกให้ผมใช้ครับจะได้มีกลิ่นเดียวกัน แต่ปกติผมไม่ใช้น้ำหอมนะครับ ตอนนี้ก็ด้วย)
พี่วุฒิเดินมานั่งลงตรงข้ามผม ก้มมองกับข้าวแล้วเงยหน้ามองผม ก่อนที่จะยิ้ม
เขินครับผม
“ .................” ผมก็เผลอยิ้มไม่หุบ พอรู้ตัวว่าตัวเองยิ้มจนเกินงามก็พยายามจะไม่ยิ้ม แต่มันก็ทำไม่ได้ ผมก็เลยก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเดียว
กินไป ยิ้มไป เขินไป
“ ........?....” พี่วุฒิตักไข่เจียวใส่จานผม ผมเงยหน้ามองพี่เขาก็ยิ้ม ตามีประกายวิบวับแล้วหน้าผมก็ร้อนฉ่าขึ้นมาเฉยๆ
เมื่อคืน ....................เรื่องเมื่อคืนมันชัดเจนอยู่ในใจ
“ .......................” ผมกับพี่วุฒิต่างก็จ้องหน้ากันและกัน...
“ แม่คิดว่าถ้าจุมกับวุฒิไม่รีบ คงต้องไปเรียนสายกันทั้งคู่” แม่บอก ผม(รวมพี่วุฒิ)หันไปหาแม่กำลังมองพวกผมอยู่ ผมเขินแม่มากครับ
“ .............................”
.
.
พี่วุฒิมาส่งผมถึงโรงเรียนก็ 8 โมงแล้ว พอจอดรถได้ผมก็รีบเปิดประตูรถเลยครับ
หมับ! พี่วุฒิจับแขนผมแล้วดึงผมไว้!!?
“ เย็นนี้พี่ไม่ได้มารับนะ”
“ครับ” ผมตอบรู้อยู่แล้วว่าวันศุกร์พี่วุฒิมีเรียนถึง5 โมง ศุกร์ที่แล้วลุงใบก็มารับผม
“ แล้วเดี๋ยวพี่ต้องไปหาคุณพ่อที่โรงแรมด้วย ไม่รู้จะกลับมื่อไร ..แต่พี่จะกลับมากินข้าวที่บ้าน…” พี่วุฒิบอก
“ ครับ” ผมพูดรั้งแขนตัวเองให้หลุดจากมือพี่วุฒิ เพราะพี่เขาไม่ยอมปล่อยมือสักที ประตูรถที่เปิดค้างไว้ทำให้ได้ยินเสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนที่กำลังเปิดเตือนให้นักเรียนไปเข้าแถวตอนเช้าเช่นทุกวัน
“ พูดแค่นี้เหรอ?” พี่วุฒิถาม
“ จะให้ผมพูดอะไรล่ะครับ?” ผมว่ามองอาจารย์ที่ยืนหน้าโรงเรียน ท่านมองนาฬิกาข้อมือหลายครั้ง และกำลังหันตัวเข้ากลับเข้าไปในประตูโรงเรียน
“ หอมแก้มพี่หน่อยดิ”
“ พี่ครับผมรีบ!” ผมพูดเสียงดัง พี่วุฒิไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย
“ งั้นรีบดิ” พี่วุฒิเอนตัว หันแก้มมาหาผม ผมเลยหอมแก้มแบบขอไปทีก่อนที่ดึงมือตัวเองกลับไปแล้วปิดประตูประวิ่งเข้าโรงเรียน
พี่วุฒินะพี่วุฒิ ……
แสงสว่างไสวทุกๆที่ไม่ว่าจะมองไปที่ไหน แม้ว่าผมจะโดนอาจารย์กล่าวตักเตือนแต่ผมมีความสุข…..ผมกำลังบ้าทว่ารู้สึกดี……………………….
* * ** * ** * *
พักเที่ยงหลังกินข้าวเสร็จยูชวนไปเตะตะกร้อ ผม จักร และซีซี่เลยพากันไปโรงยิม แต่มีคนเล่นบาสแล้ว ทั้งสนามด้านข้างก็มีพวกผู้หญิงเล่นตีแบตกัน พวกผมเลยย้ายออกมาด้านนอก ที่เป็นสนามกลางด้านข้างแทน
ผมไม่ได้เตะกับพวกจักรนะครับแต่นั่งดู เพราะร่างกายผมมันยังไม่ปกติเท่าไรมันยังรู้สึกหน่วงๆอยู่นิดๆหน่อยๆ เลยได้แต่นับแต้มให้ (มีเพื่อนคนอื่นๆมาเล่นด้วย สัก 10 คนได้)
เวลาผ่านไปสักพักพี่วุฒิก็โทรมาถามว่าผมกินข้าวหรือยัง? แล้วคิดถึงพี่วุฒิไหม? ผมก็ตอบตามความจริงว่ากินแล้ว และก็คิดถึงพี่วุฒิด้วย
“ ยิ้มมาทั้งวันแล้วนะไอ้จุม” ยูพูดเหมือนแซวขณะเดินผ่านหน้าผมไปเล่นอีกข้าง
พอพี่วุฒิวาง ผมก็นึกถึงพี่แบงค์ขึ้นมาไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง..ผมเลยโทรหาพี่ชนะถามเรื่องพี่แบงค์
“ มันไม่เป็นไรแล้ว ที่สลบไปเพราะร่างกายมันอ่อนแอเอง เลยต้องนอนให้น้ำเกลือย่างที่เห็น” พี่ชนะเล่า ผมเอามือเปลี่ยนเพิ่มแต้มฝั่งยูด้วนซ็อกสีเขียว
“ เพราะใจมันป่วย ตัวมันป่วยตาม วันนั้นพี่ไปกินข้าวกับมันยังกินข้าวยังกะแมวดม” พี่ชนะบอกอีก ผมเป็นห่วงพี่แบงค์ครับ และผมเองก็เป็นต้นเหตุด้วย
คิดแล้วก็อยากไปเยี่ยมพี่แบงค์ เย็นนี้ลุงใบมารับผม ...พี่วุฒิไม่รู้ว่าจะกลับกี่โมง แต่อย่างน้อยๆก็ต้อง 6 โมงเย็น เพราะแค่เลิกเรียนก็ 5 โมงแล้ว
ผมจะไปเยี่ยมพี่แบงค์และบอกพี่แบงค์เกี่ยวกับความรู้สึกของผม
อยากให้พี่แบงค์ตัดใจ คนที่ดีแบบพี่แบงค์ต้องได้เจอคนดีๆแน่ ไม่อยากให้เอาความรู้สึกมาจมกับผม
“ พี่ครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมว่าไปเยี่ยมพี่แบงค์” ผมบอกพี่ชนะแล้วนั่งม้านั่งยาวที่อยู่ติดกับบอร์ดแต้ม มือข้างหนึ่งของผมถือชอล์กเตรียมพร้อมไว้ ตาก็มองในสนามไปพลาง
“ ไอ้วุฒิมันยอมเหรอ?”
“ พี่วุฒิไม่รู้ครับ ถ้าพี่เขารู้คงไม่ยอมให้ผมไป”
“ แล้วจะไปทำไม เดี๋ยวถ้าไอ้วุฒิมันรู้ได้ตายหมู่” พี่ชนะว่า แต่ผมอยากไปเจอพี่แบงค์จริงๆจากวันนั้นเหมือนมีหลายอย่างที่มันยังค้างคา และไม่ชัดเจน ทั้งความรู้สึกของผมด้วย แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมรักพี่วุฒิ พี่แบงค์ต้องได้รู้ ถึงแม้ว่าพี่แบงค์จะเจ็บปวดแต่มันเป็นวิธีเดียวที่จะให้พี่แบงค์ตัดใจจากผม และจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกับพี่วุฒิเหมือนเดิม
“ พี่วุฒิเลิกเรียน 5 โมงและต้องไปหาพ่อที่โรงแรมอีกครับ พอมีเวลาที่ผมจะไปหาพี่แบงค์ครับ” ผมบอก ซีซี่เดินมาเขียนแต้มแทนผมเพราะเห็นว่าผมโทรศัพท์ ผมเลยเดินออกมาแล้วครับ
“ใครจะไปรู้ พี่ว่าอย่าดีกว่า ..”
“ ผมอยากให้พี่วุฒิกับพี่แบงค์กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“ มันต้องใช้เวลาจุม อย่าคิดว่าอะไรมันจะดีขึ้นเพียงเพราะคำพูดคำเดียว ยิ่งเป็นไอ้วุฒิด้วย ส่วนตัวพี่ว่าไม่น่าห่วงเท่าไรแล้ว..เพราะเมื่อวานพวกมันก็พูดปรับความเข้าใจกันได้พอควรแล้ว...”
“ จริงหรือครับ!?” งั้นที่เมื่อวานผมกับพี่ชนะไปพวกพี่เขาก็กำลังคุยกันอยู่จริงๆ
“ จริง แต่มันไม่เหมือนเดิมหรอก” แค่นี้ผมก็ดีใจและเบาใจลงมากแล้วที่นี้ก็เหลือแต่ผมกับพี่แบงค์
“ แล้วก็จุมอย่าไปเยี่ยมไอ้แบงค์เลย เดี๋ยวมันจะคิดว่าจุมมีใจ”
“ ไม่หรอกครับ เพราะผมจะบอกความรู้สึกผมกับพี่แบงค์ครับ”
“ พี่ล่ะหนักใจกับการมองโลกในแง่ดีของจุม” พี่ชนะถอนหายใจ
“..........................”
เลิกเรียนผมให้ลุงใบไปส่งผมที่โรง-บาล ตอนแรกลุงใบไม่ยอมครับ บอกว่ายังไงก็ต้องไปส่งผมที่บ้านให้ได้ ผมต้องขอร้องลุงบอกว่าผมจะรับผิดชอบเอง และไม่ให้ลุงใบบอกพี่วุฒิ ผมโกหกไปว่าผมจะบอกพี่วุฒิเอง
4 โมง 40 ผมถึงโรง-บาล แล้วขึ้นลิฟท์ไปหาพี่แบงค์ พอไปถึงหน้าห้องก็ยืนนิ่งทำใจอยู่นานก่อนที่จะเคาะประตูเบาๆ 3 ครั้ง
ไม่นานมีคนมาเปิดประตู เป็นผู้หญิงสวยผมยาว ในชุดนิสิตพอดีตัว พี่เขามองผมแปลกใจเล็กน้อย
“ ผมมาเยี่ยมพี่แบงค์ครับ” ผมบอกไม่แน่ใจว่ารู้จักพี่เขาไหม
“ เข้ามา” พี่เขาพูดเสียงเบาพี่แบงค์น่าจะไม่ได้ยินแต่เสียงห้วนมาก ผมเดินตามพี่เขาเข้าไป พี่แบงค์นั่งอยู่เตียง และดูตกใจที่เห็นผม
“ จุม!?” “ พี่เป็นไงบ้างครับ?” ผมถามเดินไปหยุดข้างๆเตียงพี่แบงค์
“ พี่ไม่เป็นไร....แล้วไอ้วุฒิล่ะ?” พี่แบงค์ถามจ้องมองหน้าผม ใบหน้าพี่เขาเหนื่อยล้า แต่ไม่มีสายน้ำเกลือบนหลังมือแล้ว
“ พี่วุฒิไม่รู้ว่าผมมา”
“จุม?!”
ผมก้มหน้าลง
“ เจนขอโทษนะ กลับไปก่อนได้ไหม?” พี่แบงค์พูดกับ พี่เจน ผมเงยหน้าขึ้นมา
พี่เจนมองหน้าผม ผมแสดงสีหน้าให้พี่เขารู้ว่าผมขอโทษที่ทำให้พี่เขาต้องกลับไปตอนนี้ แต่ถ้ามีคนอื่นผมก็พูดไม่ออก
“ ได้ไว้พรุ่งนี้ เจนมาใหม่” พี่เจนว่าก่อนที่จะเอากระเป๋าสีขาวใบเล็กๆจากโต๊ะเตี้ยๆตรงชุดรับแขกแล้วเดินออกไป
“ .......................”
พี่เจนออกจากห้องไปแล้ว แต่ผมกับพี่แบงค์ยังไม่มีใครพูดอะไร ผมกำสายเป้ที่สะพายหลังแน่น
“ จุมรู้ไหมว่าทำแบบนี้ ถ้าไอ้วุฒิมันรุ้ จุมจะเป็นยังไง?”
“ พี่วุฒิคงจะโกรธ” ผมตอบ
“ ไม่ใช่แค่โกรธหรอก ...”
“ ครับ แต่ผมอยากเยี่ยมพี่” ผมบอก ...มือพี่แบงค์ยื่นมาจับแขนผม ผมหันไปมองพี่แบงค์ที่ยิ้มจางๆ
“ พี่ครับ? ”
“ แค่นี้พี่ก็ดีใจ” (ยิ้ม) ผมต้องบอก...
“ พี่ครับ ผม...”
”อย่าพูดจุม พี่รู้ว่าจุมจะพูดอะไร แต่อย่าให้พี่ได้ยินจากปากจุม พี่อยากหวัง อยากฝัน อยากเก็บไปคิดคนเดียว”
“ พี่ครับ ตัดใจจากผมเถอะ ผมไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้”
“ จุมลำบากใจเหรอ?” พี่แบงค์ถาม หน้าเหมือนจะร้องไห้
“ ครับ” พี่แบงค์ปล่อยมือผม คล้ายกับคนหมดแรงเพราะมือพี่แบงค์ค่อยๆเลื่อนหลุดออกไป
“ พี่เข้าใจ” ตาพี่แบงค์ที่มองผมคลอน้ำน้ำตา แต่มันไม่ยอมไหลลงมา
“ พี่ครับ ตัดจากใจจากผมเถอะ แล้วพี่จะได้ลืมผมเร็วๆ”
“ ทุกอย่างมันง่ายอย่างั้นก็ดีสิ ขนาดจุมลืมไปแล้วว่าเคยชอบไอ้วุฒิ แต่สุดท้ายก็รักมันอยู่ดีใช่ไหม?”พี่แบงค์จ้องผม แล้วฝืนยิ้มอีกครั้ง
“ ครับผมรักพี่วุฒิ ตอนนี้ผมจึงมีความสุขมากเพราะพี่วุฒิก็รักผมเหมือนกัน ผมก็อยากให้พี่มีความสุขบ้าง”
“ เหมือนจะใจดี แต่มันใจร้ายจุม”
“ พี่ครับ ผมรักพี่วุฒิ” ผมบอกอีกถึงแม้จะใจร้ายกับพี่แบงค์ แต่ก็เพื่อตัวพี่แบงค์จะได้ตัดใจสักที
“ จุมถ้าจุมมาเพื่อบอกพี่แบบนี้กลับไปเถอะ”
“ ผมรักพี่วุฒิ” ผมบอกทั้งน้ำตา สงสารพี่แบงค์ที่กำลังทำหน้าเจ็บปวดสาหัส
“ ออกไปเถอะจุม พี่เข้าใจแล้ว!”
“ พี่ครับ ขอโทษ ผมรักพี่วุฒิ”
“จุม!” พี่แบงค์น้ำตาคลอจนล้นเบ้าตา
“ ผมคิดกับพี่ได้แค่พี่ชายครับ” ผมบอกน้ำตาไหล
“ จุมออกไปพี่ขอร้อง!” พี่แบงค์บอกหันหลังให้ผม
“ ..............” ขาผมมันก้าวไปออก มาทำร้ายจิตใจเขาแล้วจะไปก็ไปไม่ได้
จน
เมื่อ
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังถึง 2 ครั้ง
ผมถึงเอาขึ้นมารับ
พี่วุฒิ! โทรมา ผมเช็ดน้ำตาปรับเสียงเป็นปกติที่สุด ก่อนพูด
“ ครับพี่” พี่แบงค์ที่หันไปอีกทางหันกลับมาหาผม คงรู้ว่าเป็นพี่วุฒิ
“ ถึงบ้านนานยัง?” พี่วุฒิถามผมดูนาฬิกาบนข้อมือ 5 โมง 35 ผมยืนนิ่งน้ำตาไหลอยู่ตรงนี้นานพอควร อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมง
“ คะครับ” ผมตอบ
“ ดี”
“ พี่ไปหาพ่อหรือยังครับ หรือว่าเพิ่งเลิกเรียน”
“ เลิกนานแล้วตอนนี้พี่จะไปหาไอ้แบงค์”
มาหาพี่แบงค์!!? ? หมายความว่า..
มาที่นี่! “ แล้วพี่ไม่ไปหาพ่อพี่หรือครับ!?” ผมถามตกใจหันไปมองพี่แบงค์
“ คุณพ่อติดประชุมด่วน พี่เลยมาเยื่ยมไอ้แบงค์ จุมจะได้ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นอะไร เดี๋ยวไปหามันแล้วจะบอกว่ามันเป็นไง ” ผมควรจะดีใจว่าพี่วุฒิจะมาเยื่ยมพี่แบงค์แต่ว่าผมกลับตกใจปนตื่นตะหนกแทน
“ พี่ไม่โกรธพี่แบงค์แล้วเหรอครับ!?”
“
โกรธมันมาก แต่พี่มาคิดดูที่มันเจ็บก็เพราะพี่..และมันก็ เพื่อน ” ในที่สุดพี่วุฒิก็พูดออกมาแล้ว ว่าพี่แบงค์เป็นเพื่อน
“ และจุมก็รักพี่ใช่ไหม?”
“ ครับผมรักพี่”
“ เดี๋ยวเจอกันที่บ้าน ลิฟท์มาแล้ว” ลิฟท์?!!!
จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์พี่วุฒิก็หายไปคงจะเข้าลิฟท์ไปแล้วและเป็นลิฟท์ที่นี่ไม่ต้องสงสัย
“ พี่ครับ ผมต้องกลับแล้ว ตอนนี้พี่วุฒิกำลังขึ้นลิฟท์มาหาพี่”
“ ไอ้วุฒิมาที่นี่!” พี่แบงค์ตกใจ
“ ใช่ครับ...งั้น ผมกลับดีกว่า....”
** * * * **
เน็ตเต่า