+

บุพเพวายร้าย
46.50%+50%
และทุกอย่างก็เงียบไปอีก แต่ผมก็ไม่วางใจ ยังคงจ้องประตู ผม กลัวว่าพี่วุฒิจะโผล่เข้ามาได้ทุกเมื่อ ผมกอดเข่ามองประตูเงียบๆ อยู่นานจนกระทั่งหลับ
แต่สะดุ้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเสียงที่ประตูอีกด้านหนึ่ง ผมมองที่มาของเสียงนั้นอย่างไม่วางใจ
อีกด้านหนึ่งของประตูพี่วุฒิทำอะไร ?!?
แต่
ทว่า! ทว่า!ประตูกลับโดนกระแทกจากอีกด้านอย่างแรงหลายครั้งผิดกับก่อนหน้านี้
เกิดอะไรขึ้น!!
ใจผมเต้นแรงอย่างอย่างหวาดกลัว
ผมภาวนาให้ประตูแข็งแรงดุจหินผา
“ ...................แม่ครับ แม่ครับ” ผมพร่ำร่างกายเริ่มสั่นขึ้นมาอีก เพราะประตูถูกกระแทกรุนแรงไม่หยุดและไม่นาน.....ไม่นาน
ปัง!!? เสียงประตูกระแทกเปิดออก แต่ข้างหนึ่งมันยังติดอยู่กับบานพับ ผมจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตาเอง ร่างกายชาๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ
ผู้ชาย 2 คนอยู่หน้าประตู แต่ผมไม่ได้สนใจกลับพุ่งมองไปยังพี่วุฒิที่มีใบหน้าหน้าไร้ความรู้สึกยืนอยู่แม้จะไกลกว่า
“ ...........................ต้องให้ใช้ไม้แข็งใช่ไหมจุม........”
“ .............” ร่างกายผมยังไม่ขยับหรือว่าพูดได้ เพราะยังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ คุณวุฒิมีอะไรจะรับใช้อีกไหมครับ?” ผู้ชายคนขวามือถาม ผู้ชาย 2 คนนี้เป็นใครแล้วทำไมถึงมาช่วยพี่วุฒิพังประตู
“ ไม่มี กลับไปได้แล้ว”
“ครับ” คนซ้ายมือใช้หางตามองผม ก่อนที่จะทำตามที่ที่พี่วุฒิสั่ง
“ อย่าไปครับ!” ผมพูดออกมาเป็นคำแรก
“ ไปเซ่! ผัวเมียเขาจะคุยกัน!!” พี่วุฒิตะคอก ผู้ชายทั้ง 2 คนก็เดินออกไปทันที แต่ผมถอยหลังเพราะพี่วุฒิเดินเข้ามา
“ ..........................”
“ จะเอายังไงจุม รู้ไหมว่าทำให้พี่โกรธและโมโหมาก” พี่วุฒิพูดเดินมาเรื่อยๆ ผมหันซ้ายหันขวาหาทางหนี
“ ..................” ผมรู้สึกหวาดหวั่น
“ ..............ก่อนที่จุมจะความจำเลื่อม พอพี่พูดถึงเรื่องห้องน้ำ ไม่ว่าจะอะไรจุมก็จะยอม...พี่ว่าพี่จะทำแบบนั้นอีก ทั้งที่ไม่ได้อยากทำ แต่จุมจะได้รู้ไว้ว่าขัดคำสั่งพี่ โกหกพี่มันเป็นยังไง จะได้ไม่กล้าทำอีก เพราะพี่เริ่มเข้าใจแล้วว่า....”
หมับ! มือผมถูกกระชากไปจากตัว
“ ปล่อยผมนะ!!” ผมเอามืออีกข้างตีพี่วุฒิ พี่วุฒิปล่อยให้ผมตี แต่มืออีกข้างหนึ่งก็ไม่ยอมปล่อยมือผม
“.......................”
“ ปล่อยผม!! ผมจะกลับบ้าน” “ เหอะ” พี่วุฒิเหยียดยิ้ม
“คิดว่าจะได้กลับอยู่เรอะ!”
“ ผมจะกลับ”
“ อย่าหวัง!!” “ผมจะกลับบ้าน!”
“ ....................” พี่วุฒิเงียบจ้องมองผม ทว่าผมอยากจะพูด พี่วุฒิจะได้เลิกยุ่งกับผมสักที
“ ใช่! ผมโกหกพี่ที่บอกว่าชอบพี่ เพราะความจริงแล้ว คือ
ผมเกลียดพี่ [/i] เกลียดคนอย่างพี่ที่ทำอะไรไม่มีเหตุผล เอาแต่บังคับ ชอบใช้กำลังกับผม” มือที่วุฒิจับแขนผมอยู่สั่นแต่ก็กำมือผมแรงจนแทบหัก
“ แล้วไง ใครอยากรู้!” พูดจบก็ดึงแขนผมให้ตามออกไปแต่ผมไม่ยอม พี่วุฒิเลย
ตุบ! พี่วุฒิต่อยที่ท้องผม
ขาผมงอหมดแรง เจ็บจนจุก พูดไม่ออก น้ำตาไหลทะลักอีก
ทำไม?! อยากจะถามแต่พูดไม่ออก
“ กรูก็ไม่จำเป็นต้องทำดีกับคนที่เกลียดกรู!” พี่วุฒิพูดพร้อมปล่อยแขนผม ร่างกายผมนั่งกับพื้น ตามด้วยพี่วุฒิที่ย่อตัวลงมา
“ กรูชักอยากจะทำให้มรึงฟื้นความจำเร็วๆ จะได้ไม่ลืมว่ารักกรู!” “ อย่า” ผมพูดเสียงแหบในคอ
“ หมอบอกว่าพอกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม กับบรรยากาศเดิมๆก็จำได้อะไรได้เอง งั้นก็ลองทวนความจำกันหน่อยเป็นไง!
ห๊ะ!!”
ผวักะ! ฝ่ามือพี่วุฒิหวดลงบนหน้าผมเต็มแรง หน้าผมหันไปตามแรงตบ มันก็เจ็บก็จริงแต่ไม่มากพอให้ร่างหนาวสะท้านแบบนี้
ผมกลัวอะไร........................................................
กลัวบางสิ่งกลัวบางอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้า และสิ่งที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้
“ พูดมาได้ยังไงว่าเกลียดกรู มรึงไม่มีสิทธิ์เกลียดกรู!” พี่วุฒิพูดพร้อมตบผมอีกหลายครั้ง ยาที่ทาไปเมื่อกี้คงไม่พอรักษาแผลแล้ว คงต้องทายาใหม่.....ถ้ามีโอกาส..
“ เกลียดกรูมากนักใช่ไหม!” “ใช่” ผมตอบทั้งที่รู้ว่ามันจะเป็นเชื้อไฟโทสะให้พี่วุฒิมากกว่าเดิม แต่ผมอยากพูดอะไรบ้าง
ผมเป็นคน มีจิตใจ....................
“ ดี ดี ดีเกลียดเข้าไป! ใครสน!!” พี่วุฒิพูดพร้อมบีบหน้าผมจนทำให้ผมปวดไปทั้งหน้า ผมพยายามมือใช้ปัดออกแต่ไม่เป็นผล
“ อยากให้คนที่เกลียดข่มขืนไหมล่ะ!” พี่วุฒิพูดพร้อมพยายามถอดกางเกงผม แต่ผมไม่ยอมพยายามถีบพี่วุฒิ มือก็ผลักก็ปัดอะไรก็ได้ที่โดนมือ
‘ อยากให้คนที่เกลียดข่มขืนไหมล่ะ!’ นั่นคือคำพูดของคนที่บอกว่าชอบผมมาก คนที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรง คนที่ทำให้ผมเขินจนหน้าแดง แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปจากอย่างสิ้นเชิง
“ปล่อย อย่า!!” ผมร้อง
“
ยะ!” ผมร้องได้แค่นั้นเพราะจุกกับแรงต่อยที่ท้องอีกครั้ง ผมตัวงองุ้มเหมือนกุ้ง มือก็กุมท้อง ก่อนที่มือจะถูกพี่วุฒิดึงไปมัดด้วยเข็มขัดที่พี่วุฒิถอดจากเอวผม
ผมไม่มีแรงจะต่อต้านแลย
กางเกงยีนต์ถูกดึงไปถึงลงไปต่ำกว่าเข่า ลำตัวพี่วุฒิแทรกมาระหว่างขาทั้ง 2 ข้าง
“ อย่า!” ผมพยามเปล่งเสียงจากปากที่จุกจนพูดไม่ออก
และในทันที พี่วุฒิก็แทรกท่อนล่างเข้ามา
"
อ๊ากกกกก!” ผมร้องเสียงหลงทั้งที่เมื่อกี้จุกจนพูดไม่ออก พี่วุฒิกระแทกท่อนล่างเข้ามา 2 ครั้งก็เข้ามาจนสุด ร่างกายผมแทบฉีกเป็นชิ้นๆ เจ็บปวดจนตาพร่า พร้อมอาการเกร็งขัดขืนขับไล่ร่างกายที่บุกรุกเข้ามา แต่พี่วุฒิก็ยังไม่พอใจ กระแทกเข้าออกไม่หยุด
ผมไม่ได้รับรู้อะไรนอกไปจากความทรมานอย่างแสนสาหัส และผมได้ยินเสียงกรีดร้องของตัวเอง
.
.
.
.
- - - - .
ผมลืมตาหนักๆขึ้น ปวดหัวจนแทบระเบิด ร่างกายแค่ขยับก็แทบปริแตก โดยเฉพาะข้างล่าง ที่ที่พี่วุฒิกระทำอย่างทารุณ ...พอลืมตาบนหน้าตึงๆเพราะบวมได้ ก็สะดุ้งเฮือก เมื่อสายตาเห็นคนที่ยืนอยู่
ผู้ชายที่บอกว่าชอบผมมากแล้วหัวใจผมก็เต้นโครมคราม..........................
ผมเท้าแขนลุกขึ้นมา ตัวเองนอนอยู่บนเตียง ในชุดต่างจากเมื่อคืน
“ ไปกินข้าว” นั่นคือคำพูดแรกหลังจากผู้ชายที่ทำร้าย ข่มขืนผมจนพอใจบอก
“ .................” ผมไม่ตอบก้มตัวลงนอนเหมือนเดิม ไม่อยากสนใจ ไม่อยากใส่ใจอีกแล้ว ตอนที่ก้มตัวลงมองเห็นมือ เห็นแขนตัวเองก็ยิ่งอนาถ แขนของผมที่ฟกช้ำ ข้อมือผมที่บาดริ้วจากเข็มขัดของตัวเอง
“ไปกินข้าว พี่ให้คนเอากับข้าวมาเยอะแยะ” พี่วุฒิบอกเดินมานั่งลงข้างๆผม เอามือลูบหัวเบาๆชวนให้ขยะแขยง ผู้ชายที่ตบหัวแล้วคิดจะลูบหลัง
“ ...................”
“ ไปกินข้าวกัน” พี่วุฒิพูดอีก ผมขยับหัวให้มือที่วางอยู่เลื่อนหลุดออกไป
“ จุมเรื่องเมื่อคืน.....................” พอผมคิดน้ำตามันก็ไหลลงมา
เมื่อคืน ผมถูกทุบตี
เมื่อคืนผมถูกข่นขืน
เมื่อคืนผมถูกถ่อยคำขู่ว่าไม่ขาดสาย
แต่เช้ามาผู้ชายคนนั้นก็มาท่าทีนี้แบบนี้กับผม เพื่ออะไร !
“ ...................”
เมื่อคืน เขาทุบตีผม
เมื่อคืนเขาข่นขืนผม
แต่ตอนนี้เขามาพูดด้วยคำที่อ่อนโยนกับผม
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำได้ยังไง!
“ พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีก ถ้าจุมไม่ทำเหมือนเมื่อคืน”
เมื่อคืนผมทำอะไร ผมแค่ปฏิเสธเพื่อตัวผมเอง แค่นั้น แต่สิ่ง
ที่ผมได้รับ คือ...............
มันมากเกินไป
พี่ทำราวกับว่า ผมเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของพี่ที่ต้องยอมพี่ห้ามมีปากมีเสียงทุกครั้งที่พี่ต้องการ
“ แล้ว อย่า...”
“ หยุดพูดสักที!” ผมพูดออกมา ปัดมือพี่วุฒิที่เอามาจับหัวผม
“จุม!”
“ ถึงพี่จะพูดอะไรก็ตาม แต่[/b]พี่ข่มขืนผม!” [/b]
“ .....................” พี่วุฒิเงียบนั่นเพราะไม่อาจปฎิเสธได้ ไม่พูดผมจะพูดเอง
“พี่ตบผมเพราะไม่อยากจะได้ยินผมพูดในสิ่งที่พี่ไม่อยากได้ยิน พี่ใช้กำลังกับผมเพราะความต้องการของพี่เอง พี่ข่มขืนผมเพราะพี่หน้ามืดจนมองไม่เห็นหัวคนอื่น แต่แล้วตอนนี้พี่ทำราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น!.......และยังพี่จะให้ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ผมทำไม่ได้.!..” ผมเงยหน้าฝืนน้ำตาให้มันไหลช้าลง เพราะห้ามไม่มันไม่ไหลไม่ได้
มันเจ็บข้างในนี้
ข้างในหัวใจผม!“ ...........................................”
“ ถ้ามีสำนึกผิดอยู่ละก็ ปล่อยให้ผมไปตามทางของผม” พี่วุฒิยังไม่พูดอะไร ผมพยุงตัวลุกขึ้น ปลายเท้าที่เหยียบพื้นเหมือนปลายมีดกำลังกรีดร่างกายที่พร้อมจะแตกสลายของผม
ยวบ! ผมทรุดไปนั่งกับพื้น ปวดหัว อยากจะอ้วก......
“ จุม” พี่วุฒิเข้ามาประครอง แต่ผมสะบัดออก แล้วมองหน้าพี่วุฒิ
“ อย่าเอามือพี่มาแตะตัวผม” ผมบอกแล้วลุกขึ้น แม้ขาจะสั่นแต่ก็เดินไปตู้เสื้อผ้า
ผมจะกลับบ้านของผม
“ จุม” พี่วุฒิจับมือผม ทำให้ผมหันกลับไป ใบหน้าพี่วุฒิเหมือนจะไร้ความรู้สึกเหมือนทุกครั้งทว่าดวงตากลับกำลังสั่น
“ ปล่อยครับ!” ผมบอก
“ อย่าบังคับพี่”
“ พี่ต่างหากที่กำลังบังคับผม” ผมบอกสะบัดมือออกจากมือพี่วุฒิ
“จุมอย่าไป” พี่วุฒิเข้ามากอดผม ผมดิ้นแต่ก็ได้แค่ดิ้นในวงแขนของพี่วุฒิ ร่างกายที่บอบช้ำนี้จะไปสู้ได้ยังไง
“ ปล่อยผม”
“ จุม”
“ ผมบอกให้ปล่อย”
“ อย่าบังคับพี่ อย่าทำแบบนี้”
“ แต่ตอนนี้พี่กำลังจะใช้กำลังบังคับผม!”
“ ใช่พี่กำลังจะบังคับ แต่อย่าให้พี่ทำจริงๆ”
“ ฮือๆ ยังไงผมก็ไม่อยู่ที่นี่”
“ จุมอยากได้อะไรพี่จะหามาให้”
“ ผมไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น!” ผมบอกพยายามดิ้นให้หลุด
“ จุม”
“ ผมจะกลับบ้าน!”
“ แต่จุมต้องอยู่ที่นี่!” ใบหน้าพี่วุฒิที่วางบนไหล่ของผมหนักมาก
“ ไม่ครับ”
ควับ! วงแขนพี่วุฒิที่กอดผมเปลี่ยนมาจับไหล่แล้วหันตัวผมให้เผชิญหน้ากับพี่วุฒิ
“ พี่ให้โอกาสจุม เลือก..................”
“ ผมไม่เลือก ฮึ้ก
............... ไม่เลือก ฮือๆ”“ ต้องเลือก!”
“ ไม่ครับ”
“ เลือกว่าจะอยู่กันเหมือนเดิมดีดี หรือจะอยู่ทั้งน้ำตาเหมือนที่เคยอยู่ แต่อย่างหลังจุมคงจำไม่ได้” พี่วุฒิบอกเสียงแข็งเพื่อขู่ผม
“ ผมจะกลับบ้าน ผมไม่เลือกอะไรทั้งนั้น!”
“ เลือก”
“ ผมไม่เลือก!”
“ เลือก!”“ ไม่!” “ ต้องเลือก!”"ไม่!” ผวักะ! หน้าผมหันตามแรงหวดจากมือพี่วุฒิ ผมหันกลับมามองพี่วุฒิ แล้วพูด
“ ไม่เลือก” ผวักะ!“ ไม่เลือก” ผมบอกพร้อมน้ำเลือดไหลหยาดจากมุมปาก
ผวักะ! “ ไม่เลือก” ผมบอกอีกทั้งเสียงมันแหบพร่าแทบไม่ออกลำคอ
พี่วุฒิยกมือขึ้นจะตบผมอีก แต่ก็ยกค้างไว้ เหมือนรอให้ผมเปลี่ยนใจ ผมมองฝ่ามือพี่วุฒิแม้จะกลัวเจ็บ แต่ผมตอบด้วยเสียงสั่นพร่า ว่า...
“ ไม่เลือก” “ ทำไมจุม!!?? ต้องการอะไร อยากได้อะไร ทำไมต้องทำแบบนี้”
“ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่ ไม่อยากให้พี่มายุ่งกับผม และผมจะกลับบ้านของผม!” ผมบอก ผลักพี่วุฒิเต็มแรงเท่าที่มี
“ ได้” พี่วุฒิเค้นเสียงพร้อมทั้งกระชากแขนผมจนเซถลาถอยหลัง
“ ไม่เลือกเดี๋ยวเลือกให้!”“ ปล่อย!!” ผมสบัดแขนแต่ไม่หลุด
“ไม่ปล่อย ไม่เลือกก็ต้องเจอแบบนี้แหละ!” พี่วุฒิพูดพร้อมลากผมออกมาจากห้อง ผมเอามือตีพี่วุมิว่าให้ปล่อยผม เอาเท้าจิกพื้นไม่ให้พี่วุฒิลากตัวไปได้ แต่ไม่มีอะไรที่ทำแล้วเห็นผล ในที่สุดพี่วุฒิก็ลากผมออกมาและจับผมนั่งบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว
“ กินข้าว!” พี่วุฒิบอกนั่งลงเหมือนกัน
“ ไม่กิน!” ผมบอกหันหน้าหนีไม่มองอาหารที่วางเต็มโต๊ะ
“ เมื่อคืนพี่ทำเบาไปใช่ไหม ถึงได้กล้าต่อล้อต่อเถียง”
“ ....................” ทำเบาไปเหรอ?
ทำให้ร่างกายผมแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
แค่คิดเหตุการณ์มันก็มาอยู่ตรงหน้า ทำให้หวาดกลัวไปจนถึงหัวใจ
“ หรืออยากจะไปฟื้นโรง-บาลเหมือนคราวก่อน” พี่วุฒิถามเสียงกระด้าง
สงสารตัวเองเมื่อก่อนที่ต้องคอยรองรับอารฒณ์พี่วุฒิ.........สงสารมาก ทั้งที่จำไม่ได้ แต่คิดว่ามันคงไม่ต่างจากตอนนี้
เพล้ง! ผมปัดจานข้าวตรงหน้าลงพื้น พี่วุฒิลุกขึ้นพรวด! ก่อนที่จะหันมาจ้องผมเขม็ง
ถ้าชอบผมแล้วทำแบบนี้กับผมก็เกลียดผมเถอะ............................... ติ๊ดๆ เสียงกดออดหน้าห้อง แต่พี่วุฒิยังจ้องผมไม่วางตา
ติ๊ดๆ เสียงกดออดดังขึ้นอีกครั้ง
“ ใครมาวะ!” พี่วุฒิพูดแล้วเดินไปประตู ผมเช็ดน้ำตาที่มันคลอเต็มเบ้าก่อนที่มันจะไหลลง
“ใคร!!” พี่วุฒิพูดอินเตอร์โฟน ยังไม่ได้เปิดประตู
“ กรูกับไอ้แบงค์เอง” เสียงด้านนอกบอกผ่านอินเตอร์โฟน ผมหันไปมองทันที
“ วันนี้กรูไม่รับแขก”“ กรูไม่ใช่แขก คนไทย ไม่เชื่อดูบัตรประชาชน” พี่ชนะตอบ
“ กลับไป!!” พี่วุฒิพูดแล้วเดินกลับมา แต่ผมลุกขึ้น รวบรวมแรงและเมินเฉยต่อความเจ็บปวดของร่างกายวิ่งผ่านพี่วุฒิจะไปเปิดประตู
หมับ! พี่วุฒิบีบแล้วกระชากแขนกลับ แต่ผมก็สู้บิดแขนกลับก่อนที่จะหลุดมากได้ แล้วแทบทุบปุ่มอินเตอร์โฟนแทนการเปิดประตูเพราะมันอยู่ใกล้กว่าประตู
“ ช่วยด้วยครับ!! โอ๊ย!” ผมร้องแขนถูกกระชากแล้วตัวถูกเหวี่ยงลงพื้น
“ จุม เกิดอะไรขึ้น!? ไอ้วุฒิเปิดประตู!” พี่แบงค์ตะโกนเข้ามา
“ ไม่!!” พี่วุฒิตะโกนกลับแม้จะไม่ได้ยืนพูดกับอินเตอร์โฟน แต่คนข้างนอกก็ได้ยิน
“ วุฒิ ถ้ามรึงไม่เปิดกรูจะเรียกตำรวจ!!” พี่แบงค์ตอบกลับมา พี่วุฒิกระชากสายอินเตอร์โฟนออกจากตัวเครื่องสีขาว
“ คิดว่าไอ้แบงค์ ไอ้ชนะมันจะช่วยได้หรือไง!” พี่วุฒิพูดยืนอยู่เหนือผมที่พยายามจะยืนขึ้นแต่ก็ทรุดลงไป
เจ็บไปถึงกระดูก
“ ......................” ผมไม่ตอบ พยุงตัวยืนขึ้น พี่วุฒิก็ผลักลงไปกองกับพื้นอีก
น้ำตาไหล
กลัวมากจะทำยังไงดี
“ อย่าสำออย เออพี่ลืมไปงานถนัดเลยนี่”
คำพูดดูถูก
“ .........................” ทำไมถึงได้ร้ายกาจกับผมถึงเพียงนี้
“ เดี๋ยวจะสงเคาะห์จะได้รู้ว่าไอ้แบงค์ ไอ้ชนะมันช่วยไม่ได้หรอก” พี่วุฒิพูดแล้วเดินไปเปิดประตู
พอประตูเปิดพี่แบงค์และพี่ชนะพรวดเข้ามายืนจ้องผมที่นั่งกองกับพื้น
“ ไอ้วุฒิมรึงทำอะไรจุม?” พี่ชนะถาม แต่ยังคงจ้องมองผมตาไม่กระพริบเหมือนกับพี่แบงค์
“ ซ้อม ข่มขืน” พี่วุฒิตอบหน้าเรียบเฉย และทันทีที่พูดจบพี่แบงค์ก็พุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อพี่วุฒิ ยกกำปั้นแต่ยกค้างไว้ พี่แบงค์ตัวสั่น
“ ............................”(พี่แบงค์)
“ จะชกกรูว่างั้นเถอะ” พี่วุฒิดึงเอาคอเสื้อตัวเองกลับมาและเดินมาหาผม
ผมรู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกินที่นั่งอยู่ตรงนี้จะยืนก็ยังยาก จะกลั้นน้ำตาก็กลั้นไม่ได้
ช่างอ่อนแอ
“ ม่ะพี่ช่วย” พี่ชนะบอกแล้วก้มตัวลงมาพยุงผม แต่พี่วุฒิผลักพี่ชนะออกไป
“ อย่ายุ่ง! ได้เข้ามาแล้วก็กลับไป” พี่วุฒิบอกดึงแขนผมให้ลุกขึ้น แน่นอนผมสบัดออก พี่วุฒิมองหน้าผม
“ วอนโดน”(พี่วุฒิ)
“ อย่าแตะตัวผม!” ผมบอก
ผวักะ! ผมโดนพี่วุฒิตบจนหน้าหัน แก้มเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไง ทำไมมันถึงไม่ชินชากับความเจ็บปวดสักที
“ ไอ้วุฒิ!” พี่แบงค์เรียก พี่วุฒิหันไปและ
ผัวกะ!! พี่แบงค์ชกพี่วุฒิจนตัวพี่วุฒิเซตามทิศแรงกำปั้น
“ แบงค์ มรึง!” ผัวกะ!! และอีกครั้งพี่แบงค์ชกพี่วุฒิ คราวนี้พี่วุฒิล้มลงไป พี่แบงค์ตามลงไปคว้าคอเสื้อพี่วุฒิแล้วจะชกอีกครั้ง
“ แบงค์อย่า!” พี่ชนะเข้าไปห้ามดึงตัวพี่แบงค์ออกมา ทว่าพี่แบงค์สะบัดออก แต่ไม่ได้จะชกพี่วุฒิแล้ว
“ ทำไมวะวุฒิ ทำไมทำแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า” พี่แบงค์ถามเสียงเหมือนว่าบาดแผลที่ไหนสักที่หนึ่งของพี่แบงค์กำลังเจ็บปวด หรือจะเป็นรอยช้ำที่หน้า.....
“ แล้วมรึงเกี่ยวไรด้วย มันเป็นของกรู
กรูมีสิทธิ์ที่จะสั่งสอนมัน!” พี่วุฒิตอบ เลือดที่ไหลมุมปากไม่ทำให้รู้ว่าเจ้าของร่างเจ็บ แต่เหมือนคนที่เจ็บกลับเป็นคนที่ชก ขณะนั่นพี่ชนะมาพยุงผมยืนขึ้น
“
แต่กรูไม่ยอมแล้ว กรูไม่มีวันยอมให้มรึงทำร้ายจุมไปมากกว่านี้!” พี่แบงค์บอกเอามือออกจากคอเสื้อพี่วุฒิหันมามองผม
.......ตาพี่แบงค์แดงกล่ำ.........
สายตาพี่แบงค์ที่มองปิดความรู้สึกเวทนาผมไม่มิด
“ แบงค์ถ้ามรึงเป็นเพื่อนกรู อย่ายุ่งกับเรื่องนี้”“
กรูยอมมรึงมามากพอแล้ววุฒิ” “ หรือมรึงจะเอา!” พี่วุฒิผลักพี่แบงค์
“ จะเอา แล้วจะทำไม!” พี่แบงค์พูดตอบผลักอกพี่วุฒิแรงกว่า
“ แบงค์ใจเย็น”(พี่ชนะ)
“ กรูเย็นไม่ไหวแล้ว!” “ ........................” พี่วุฒิจ้องหน้าพี่แบงค์ ไม่มีใครยอมใคร
ผมรู้ว่าตัวเองคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนต้องทะเลาะกัน ผมหันหน้าไปมองพี่ชนะพี่ยังจับต้นแขนเพื่อช่วยให้ผมยืนได้อย่างไม่ลำบากนัก
“ ..............................” พี่ชนะไม่พูดอะไรแต่ยิ้มฝืนๆมาให้ผม
“ ชนะ!” พี่แบงค์เรียกพี่ชนะทั้งที่ตายังจ้องพี่วุฒิ
“ .........!?...........”(พี่ชนะ)
“ ไปเก็บของจุมในห้อง” พี่แบงค์สั่ง “
กรูจะพาจุมไปอยู่บ้านกรู!”“ แบงค์” พี่ชนะพูดเสียงเบาผิดปกติ ยังไม่ได้ขยับตัว
“ กรูไม่ให้ไป!”พี่วุฒิผลักอกพี่แบงค์
“ แต่กรูจะพาจุมไป! ” “ มันเป็นเมียกรู!” พี่วุฒิตะเบ็งเสียง แล้วชกพี่แบงค์จนล้มลงในครั้งเดียว พี่แบงค์ก็แทบจะดีดตัวเองขึ้นมาชกพี่วุฒิกลับ พร้อมตะโกนบอกพี่ชนะ
“ เร็วชนะไปเก็บของ!” พี่ชนะนิ่งอยู่แปปหนึ่งก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องผม ตอนนั้นผมพอยืนเองได้แล้ว
“ พี่ครับ! อย่าครับ” ผมลากเท้าเร็วๆเข้าไปห้ามแต่ก็ถูกผลักออก
พี่วุฒิชกพี่แบงค์ไปชนกับเก้าอี้ตัวที่ผมนั่งเมื่อกี้จนลงไปกองกับพื้น ตามด้วยการขึ้นไปนั่งบนตัวพี่แบงค์ยกกำปั้นขึ้นจะซ้ำ แต่พี่แบงค์จับทางออก รับได้แล้วดันมือกับพี่วุฒิ จนพี่วุฒิเสียหลักพี่แบงค์เลยขึ้นมานั่งตัวพี่วุฒิแทน ตามด้วยต่อยพี่วุฒิเต็มแรง
“ พี่ครับ หยุดเถอะ.....ฮือๆ” ผมบอกไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
- * - * -
ยาวมากมาย^^~..................เน้อท่าน 