บุพเพวายร้าย
44.50%
ลืมตาตื่นก็เห็นใบหน้าได้รูปพร้อมตาคมที่มีขนตาหนากำลังจ้องมอง
“ ตื่นนานแล้วเหรอครับ?” ผมถามขยับร่างกายที่นอนซุกตัวพี่วุฒิออกมาแต่แขนที่กอดผมอยู่จึงทำได้แค่นิดหน่อย
“ นาน” พี่วุฒิตอบ แม้ไม่ได้มองผมก็รู้ว่า พี่วุฒิยังมองผมอยู่
“ .......................” ผมจะลุกขึ้น แต่ท่อนแขนแข็งแรงก็กอดไว้ไม่ยอมปล่อย
“ พี่ครับ ผมจะไปอาบน้ำทำกับข้าวอย่างที่พี่บอกไงครับ” ผมบอกจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่พี่วุฒิก็ยังไม่ยอม พอผมหันไปมองกลับยิ้มเหมือนกำลังสนุก
“................พี่ครับ”
“ .........อยากไปก็ไปดิ ใครเขาว่า” พูดแล้วไปก็ยิ้มอีก
“ แต่พี่ไม่ยังได้ปล่อยผม”
“ อ้าวเหรอ” พี่วุฒิตอบหน้าตาเฉย แขนยังไม่ขยับไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยตัวผมด้วย
“ .............................................”(ผม)
“.................................” พี่วุฒิพูดเอาจมูกมาลูบๆหัวผม
“.............พี่ครับ.................”
“ ...............................................ก็ได้ จะให้เวลา แต่อย่านาน” พี่วุฒิพูด ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรแต่พอคิดถึงเรื่องเวลาแล้วผมก็คิดออกทันที
เรื่องที่พี่วุฒิบอกว่าจะมีอะไรกับผมวันนี้ นี่หมายความว่าจะให้เวลาผมเพิ่มเท่าที่ผมต้องการใช่ไหม?
“ ขอบคุณนะครับ” ผมบอกมองพี่วุฒิกลับ อย่างน้อยพี่วุฒิก็ยอมรับความคิดของผมแล้ว แต่กลับเป็นพี่วุฒิไม่ยอมสบตา
หน้าตาพี่วุฒิอย่างกะเขิน
เขินจริงๆด้วยครับ หน้าเริ่มแดงหน่อยๆแล้ว เขินเพราะผมพูดว่าขอบคุณครับ เหรอ? พอเรื่องที่อายแต่ไม่อาย
- น่ารัก –
!!? เสียงดังเบาๆจากด้านนอก
เป็นเสียงกดออดครับ และมันก็ดังขึ้นอีกถี่กว่าเดิมด้วย เหมือนเร่งให้ไปเปิดประตู
“ ..................................”
“ ใครวะ!!” พี่วุฒิเปลี่ยนท่าทีเป็นอารมณ์เสีย แล้วลุกขึ้น ผมลุกขึ้นตาม
นั่นนะสิครับ ใครมาหาตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า (6.50)
พี่วุฒิเดินเปิดประตูออกจากห้องออกไป และแค่แปปเดียวประตูก็เปิดออกอีกพร้อมกับเสียงที่ว่า
“Good morning”
พี่ชนะเป็นคนเปิดประตูเข้ามาครับ ผมยังนั่งอยู่บนเตียงอยู่เลย(ตกใจนิดหน่อยครับที่อยู่ๆก็เปิด)
“คะครับ”
“ ได้ยินมาว่า จะทำกับข้าวเหมือนเดิมแล้วพี่กับพี่แบงค์เลยมาขอกินข้าวด้วย”
“ ครับ” ผมพยักหน้า
“ มาแต่เช้าทำไมวะ!” พี่วุฒิเดินเข้ามาในกรอบประตูกับพี่ชนะ
“ ข้าวเช้าจะให้มากินเที่ยงหรือไง!” พี่ชนะพูดพร้อมจะเดินเข้ามา แต่พี่วุฒิกำคอเสื้อด้านหลังแล้วดึงออกไป แล้วหันมาหาผม
“ ทำธุระเสร็จแล้วตามออกมา” พี่วุฒิบอกแล้วเปิดประตูไว้เหมือนเดิม แต่ผมได้ยินเสียงพี่ชนะจากด้านนอกเบาๆพอจับใจความได้ว่า พี่ชนะจะเข้ามาดูตุ๊กตาลิง 2 ตัวที่นั่งอยู่ในห้องผม
“ ...........................”
.
.
.
ผมแปรงฟันอาบน้ำแล้วออกมา พี่วุฒิ พี่แบงค์และพี่ชนะนั่งกองกันบนโชฟา ไม่ได้ดูโทรทัศน์แต่เหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่
“ ........มีของในตู้เย็น ถ้าอะไรไม่มีบอก พี่จะให้คนเอามาให้” พี่วุฒิบอก ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นที่อัดแน่นไปด้วยผัก ผลไม้ และยังมีของสดจำพวกเนื้อหมู เนื้อไก่ ไส้กรอกก็มี และยังมีนมอีกหลายขวด(ตู้เย็นสีขาว 2 ประตู )
คงไม่มีอะไรไม่พอหรอกครับ มีแต่เหลือมากกว่า ไม่รู้ว่าทำทั้งอาทิตย์จะกินกันหมดไหม ดีที่วันนี้พี่ชนะพี่แบงค์มากินข้าวด้วยจะได้ทำเยอะๆไม่เสียของ
“...............ทำแกงจืดล่ะ 1 อย่าง” ผมว่า เพราะชอบเป็นการส่วนตัว
“ ผัดผักละอีก 1 อย่าง” ผมหันไปหาต้นเสียง พี่แบงค์ยืนยิ้มอยู่ครับ
“ ครับ” ผมบอกพี่แบงค์คงอยากกิน เลยมาบอกผมทำ ในตู้เย็นมีผักหลายอย่างครับ ยอดคะน้า กว้างตุ้ง กระหล่ำดอก ผักกาดขาว มีเห็ดสดด้วย อย่างกะยกตลาดมาไว้ในตู้เย็นก็ไม่ปาน
“ ผัดผักใส่แฮมได้ป่ะ?” พี่ชนะเดินตามออกมาว่า
“ คงได้มั้งครับ” ผมตอบแต่คิดว่าจะทำได้แม้ว่าจะไม่เคยทำ
“ แบงค์จะเข้าห้องน้ำเข้าไปสิวะ หรือจะรอตีท้ายครัวไอ้วุฒิ” ทั้งๆที่พี่ชนะพูดเล่นๆ แต่ในห้องกลับเงียบกริบ
ก็เพราะว่าไม่มีใครพูดอะไรนี่แหละ ....
“ ...........................” พี่วุฒิที่เดินตามพี่ชนะมา ยืนนิ่งครับ
พี่ชนะหันหน้าไปมองพี่วุฒิแล้วหันกลับไปมองพี่แบงค์
- เงียบ. .
. . เงียบ -
บรรยากาศชวนให้อึดอัด
“ไปดิจะเข้าน้ำไม่ใช่หรือไง! ท้ายครัวไอ้วุฒิกรูจองแล้วตัดใจซ่ะเถอะหนุ่มน้อย” พี่ชนะพูดต่อพยายามจะให้บรรยากาศมันดีขึ้น พี่แบงค์สบตากับผมเหมือนจะพูดบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่อะไรสักคำ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างๆห้องครัว
“ ชนะอย่าล้อเล่นแบบนี้ กรูไม่ชอบ!” พี่วุฒิพูดเดินเข้ามาในห้องครัว
“ เพราะเป็นไอ้แบงค์หรอกกรูถึงได้พูด มรึงก็รู้......” พี่ชนะพูดพร้อมเอาแขนกอดคอผม
“ แล้วทำไม มรึงชอบแตะอั๋งเมียกรูอยู่เรื่อย” พี่วุฒิพูดเดินมาหาผมกับพี่ชนะ แต่ไม่ทันถึงตัวพี่ชนะก็เดินหนีครับ พี่วุฒิไม่ตาม
“ หน้าจุมเวลาโดนแกล้งตลกดี กรูชอบ”
“กรูหวง!” พี่วุฒิพูดผมหน้าแดงถึงขั้นร้อนฉ่า ไม่กล้าสบตาพี่ชนะ ที่กำลังมองมา
“ เพราะเวลาแกล้งจุม เหมือนได้แกล้งมรึงด้วยกรูยิ่งชอบ” พี่ชนะพูดหัวเราะเสียงดัง พี่วุฒิเขม็นมองก็ไม่สน
ผมใช้เวลาทำกับข้าวไม่นานครับ แล้วก็ยกมาวางบนโต๊ะมีพี่วุฒิคอยช่วย
“ มรึงยกจานชามแล้วดูไม่จืดวะวุฒิ” พี่ชนะที่นั่งรอพูด
“ เรื่องของกรู!”พี่วุฒิพูดนั่งลง ผมวางช้อนกับส้อมที่กำมาบนจานข้าวแต่ละคน แต่พอมาถึงจานตัวเองกลับไม่มีช้อน ผมเอามาไม่ครบครับ
“ ไม่ต้องเดี๋ยวไปเอาเอง” พี่วุฒิบอกเอาช้อนพี่วุฒิให้ผม ส่วนตัวเองลุกขึ้นเดินไปเอาช้อนในครัว พี่ชนะที่นั่งตรงข้าม ชะโงกหน้ามาหาพูดผมเบาๆว่า
“ โคตรเชื่อง”
“............?.......”(ผม)
“ เชื่องขนาดนี้ เอาไปเดินเล่นไม่ต้องใส่สายจูงให้ยุ่งยาก”
“ มรึงนินทาอะไรกรู!” พี่วุฒิที่กำลังเดินกลับมาพูด
“ เปล๊า~ ใช่ป่ะแบงค์” ผมหันไปมองพี่แบงค์โดยปริยายรวมพี่วุฒิด้วย
“ มรึงว่าไงนะเมื่อกี้กรูไม่ได้ยิน” พี่แบงค์ตอบ ไม่ยอมมีส่วนร่วมง่ายๆ จนพี่ชนะหน้ามุ่ย
“ ไอ้แบงค์ มรึงไม่คิดจะช่วยกรูเลย กรูขอให้มรึงไม่มีแฟนอีกต่อไปในขณะที่กรูกับไอ้วุฒิอยู่สวรรค์ชั้น7” พี่ชนะพูดเคืองๆ พี่วุฒินั่งลงพอดี
“ กรูไม่อยากมีแฟน กรูอยากมีเมีย ....” พี่แบงค์บอก
“ เจนเขาสวย ไม่ได้เลวร้ายอะไร มรึงเสือกเลิกเอง มาเสียใจไม่ทันแล้ว” พี่ชนะพูดตักผักให้ผมก่อนให้ตัวเอง
“ ...................” พี่แบงค์ไม่ตอบโต้
“ กรูรู้แล้ว ช่วงนี้มรึงเป็นอะไร มรึงไม่ได้เอาใครเลยใช่ป่ะ งั้นคืนนี้กรูพาไปปลดปล่อย” พี่ชนะพูด แต่คนที่ดูดีใจกับคำพูดนี้น่าจะเป็นพี่ชนะมากกว่า
“ ก็ดี เผื่อกรูจะลืมๆอะไรบ้าง” พี่แบงค์พูดผิดกับที่ผมคิดไว้
“ จุมไปป่ะ? พี่ชายคนนี้จะพาไปเปิดหูเปิดตา” (พี่ชนะ)
“ ไม่ดีกว่าครับ” ผมตอบตักผัดผักให้พี่แบงค์บ้าง เพราะทั้งที่บอกให้ผมทำแต่ไม่ยักกินสักคำ พี่แบงค์ดูอึ้งๆที่ผมตักให้
“วุฒิพาจุมไปด้วยดิ”
“ ไม่มีทาง” พี่วุฒิตอบ
“ ไรวะ หวงทำแปะ มรึงก็ไปด้วยน้องเขาจะไปเปิดหูเปิดตาไง”
“ ไม่!” พี่วุฒิตอบคำเดียว แล้วหันมามองผม “ เอาไข่ตุ่น”
“ .......................”
“ ..เอาไข่ตุ่น” พี่วุฒิพูดซ้ำ
ถึงผมจะงงแต่ก็ตักไข่ตุ่นให้ครับ
“ ไอ้วุฒิมันไม่พอใจที่จุมตักผัดผักให้ไอ้แบงค์ก็แค่นั้นแหละ ไม่ต้องทำหน้างง” พี่ชนะบอกผม ผมเลยหันไปมองพี่วุฒิ แต่พี่วุฒิไม่สนใจผมครับ
!? หรือว่าโกรธ ผมหันหน้าไปหาพี่ชนะเป็นการถามว่าพี่วุฒิเป็นอะไร พี่ชนะพูดไม่มีสียงตอบกลับมา ผมพออ่านปากได้ว่า
‘มันงอน’
ผมคิดว่าถ้าพี่วุฒิงอนผมเรื่องผมตักผัดผักให้พี่แบงค์ ผมเลยตักผัดผักให้พี่วุฒิบ้าง แต่ไม่เป็นผลครับพี่วุฒิยังคงหน้าบึ้ง ผมไม่รู้จะทำยังเลยตักเห็ดหอมในแกงจืดให้พี่วุฒิด้วย
ดีขึ้นทันตาครับ พี่วุฒิทำหน้าดีขึ้นไม่ค่อยหน้ากลัวแล้ว ผมเลยโล่งใจ
“วุฒิ แล้ววันจันทร์จุมไปโรงเรียนยังไง?” พี่แบงค์ถามพี่วุฒิผมเลยหันหน้าไป
“ ..............” ผมยังไม่เคยไปโรงเรียน แต่ผมพอรู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะสาธิตGเป็นโรงเรียนดังใครๆก็รู้จัก
“เดี๋ยวกรูไปส่งตอนเช้า ตอนเย็นให้คนที่บ้านมารับ” พี่วุฒิบอก
“ ไม่ต้องหรอกครับผม ผมกลับเองได้” ผมบอก ไม่ต้องมีคนมารับผมหรอกครับผมกลับเองได้โรงเรียนก็อยู่ไม่ไกลมากขนาดนั้น
“ ไม่ให้กลับเอง!” พี่วุฒิพูดหันมาจ้องหน้าผมเหมือนผมทำอะไรผิด
“ ..................โรงเรียนอยู่แค่นี้เอง พี่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” ผมบอกอีก พี่ชนะหัวเราะคิกคัก
“ วุฒิให้น้องเขาให้ชีวิตปกติบ้างเถอะ”
“ อย่ายุ่งแบงค์”
“ อย่ายุ่งแบงค์ แต่ชนะยุ่งได้ใช่ป่ะ?” พี่ชนะพูดพี่วุฒิเลยหันไปจ้องพี่ชนะแทน
“ เอางี้ดิ มรึงก็ให้รถน้องเขาไปคัน น้องเขาจะได้ไปเองกลับเอง” พี่ชนะบอก ผมไม่เข้าใจครับว่าแค่ไปโรงเรียนดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องขึ้นมา
“ กรูจะให้คนไปรับ”
“ พี่เป็นห่วงผมเรื่องความจำเสื่อมใช่ไหมครับ?” ผมถามพี่วุฒิคิดว่าคงจะเป็นเรื่องนี้แหละครับที่พี่วุฒิจะไปส่งผมและให้คนไปรับ
“ ไม่ความจำเสื่อมก็เป็นอย่างงี้แหละจุม” พี่ชนะบอกผม
“ จุม อย่าให้เป็นเรื่อง แค่เรื่องไปโรงเรียน” พี่วุฒิบอกผมน้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด
“วุฒิ ไหนมรึงว่ามรึงสัญญาแล้ว ว่าจะพยายามใจเย็น” (พี่แบงค์)
“ ก็เรื่องไปโรงเรียนแค่นี้ แต่กลับต่อปากต่อคำ” พี่วุฒิพูดวางช้อนเสียงดัง ผมสะดุ้งกับแค่พี่วุฒิวางช้อน ?
“ ก็แค่โรงเรียนไปโรงเรียน ทำไมมรึงไม่เข้าใจน้องเขาบ้าง ที่เขาไม่อยากให้คนที่บ้านมรึงไปรับก็เพราะเกรงใจ มรึงน่าจะเข้าใจ” พี่แบงค์พูดตรงใจผมเลยครับ ผมเห็นว่าโรงเรียนก็อยู่แค่นี้ไม่น่าต้องรบกวนบ้านพี่วุฒิ ผมกลับเองได้
“ เหรอ?” พี่วุฒิถามผมเสียงเบาลง
“ครับ”
“ ไม่ต้องเกรงใจ....” พี่วุฒิพูดสีหน้าจริงจัง
“ ใช่จุมไม่ต้องเกรงใจ เพราะไอ้วุฒิมันได้ประโยชน์ไปเต็มๆ” ผมงงกับคำพูดพี่ชนะที่ว่าพี่วุฒิได้ประโยชน์คนที่ได้ประโยชน์น่าจะเป็นผม พี่ชนะคงเห็นหน้าผมสงสัย เลยพูดต่อว่า
“ มันได้ความสบายใจไงว่าจุมจะได้ไม่มีเวลามากจนมีเวลาไปเจาะแจะกับใคร ทั้งที่จุมอยู่โรงเรียนทั้งวันถ้าจะไปเจาะแจะใครก็ทำไปนานแล้ว คือความจริงมันบ้า จุมเข้าใจมันหน่อยเถอะ”
“ ชนะมรึงพูดมากขนาดนั้นก็อย่ามากินมันเลยข้าว!” พี่วุฒิพูดทันทีที่ที่พี่ชนะพูดจบแล้วยังยกจานข้าวพี่ชนะขึ้นด้วย
“ ขอโทษครับท่านวุฒิ ข้ากะผ๊มผิดไปแร้ว” พี่ชนะพูดแย่งจานข้าวคืนจากพี่วุฒิ แล้วกลับมากินต่อปากบ่นอุบอิบ แต่ก็ทำบรรยายการกินดีขึ้นครับ
หลังกินข้าวเสร็จพี่ชนะเป็นคนเก็บโต๊ะ ล้างจานครับ เพราะพี่วุฒิสั่ง ถ้าพี่ชนะไม่ยอมเก็บพี่วุฒิจะไม่ให้มากินข้าวที่นี่อีก ขณะที่พี่ชนะล้างจานก็ทำจานแตก ผมเลยเข้ามาช่วยกว่าจะเสร็จก็ทุลักทุเล
ล้างจานเสร็จผมก็กลับเข้าห้อง ดูหนังสือเรียน สุมดวิชาต่างๆว่าเรียนถึงไหนแล้ว เพราะตอนนี้ผมลืมหมดแล้ว ต้องเตรียมตัวไปก่อนไม่งั้นเรียนไม่ทันเพื่อนแน่
แกร่ก!?
ประตูเปิด(ไม่มีเคาะบอก)พี่วุฒิเดินเข้ามา
“ ทำไร?” พี่วุฒิถาม
“ ดูว่าเรียนไปถึงไหนแล้ว ผมจะได้เตรียมตัว” ผมบอก เปิดสมุดไปพลาง พี่วุฒิเดินมาหยุดข้างเก้าอี้ ดึงสมุดที่ผมกำลังเปิดไปดู
“ ติวให้เอาเปล่า?”
“ ก็ดีครับ แต่ให้ผมอ่านเองก่อนถ้าไม่เข้าใจตรงไหนแล้วผมขอไปถามพี่นะครับ” ผมบอก พี่วุฒิยิ้มตอบ แล้วเดินไปทิ้งตัวนอนกางขากางแขนบนเตียง ผมหันกลับไปมอง เห็นว่าไม่มีอะไร ผมก็หันกลับมาอ่านหนังสือ โดยคิดว่าจะเริ่มจากคณิตศาตร์ก่อน
“ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ” เสียงพี่วุฒิพูดจากกด้านหลัง ผมหันกลับไป
“.................”
“ มันน่าจะเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ................” พี่วุฒิพูดแล้วเงียบไป ผมก็ไม่ถามแม้จะสงสัยในคำพูดพี่วุฒิก็ตาม จนนานครู่ใหญ่พี่วุฒิไม่พูดอะไรอีกผมก็หันกลับมาอยู่หนังสือคณิตศาตร์อีก(หันไปอีกที่พี่วุฒิหลับไปแล้ว)