บุพเพวายร้าย
36.
ผมแอบรัก ผมแอบเป็นห่วง ผมแอบมอง ผมเปิดเผยได้แค่ในใจ
แค่เรื่องโจ้ก แค่คำไม่คี่คำที่พวกเราคิดว่าเป็นแค่เรื่องคลายเครียด
‘ผู้ชายที่พาแม่ไปหาผู้ชายอีกคนถึงบ้านแล้วบอกให้รับผิดชอบ ถ้ามีจริงๆก็อยากจะรู้จริงๆว่าหน้าตาเป็นไง’
แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเดินมาไกลถึงเพียงนี้....................
...คำพูดที่ว่า แฟนเพื่อนเหมือนเหล้าเถื่อนร้อนแรงแต่อันตราย ผมคิดว่านันไม่จริงหรอก....
ครั้งแรกที่ผมได้เจอจุม คือในห้องน้ำ และวันนั้นจุมทำให้พวกผมทั้งกลุ่มตกตลึง คือน้องเขากราบให้ไอ้วุฒิเพียงเพราะขอร้องไอ้วุฒิไม่ให้ไปทำร้ายเพื่อนที่อยู่อาคาร1 และที่สำคัญยังขอร้องให้ไอ้วุฒิทำร้ายตัวเองแทนเพียงเพราะให้เพื่อนปลอดภัย แค่นั้นก็นับว่าเพียงพอที่จะทำให้ผมสนใจ………….
.
.
วันนี้ไอ้วุฒิเพื่อนผม มันจะไปหัวหิน แต่มันจะให้จุมไปรอมันที่ตึกคหกรรม ผมซึ่งครั้งนี้ไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องคอยยายที่มาจากออสเตรีย
เลยอยู่ซ้อมบาจนสัก 6โมงได้ แล้วก็ถึงเรื่องไอ้วุฒิขึ้นมาได้ ว่ามันนัดจุมไปเจอที่ตึกคหกรรม ผมเลยคิดว่าจะไปดูสักหน่อย
ผมเดินไปตึกคหกรรมแต่ตึกปิด ผมเลยเดินดูรอบๆเพราะคิดว่ายังไงจุมก็ต้องรอไอ้วุฒิแน่ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
ผมเจอจุมนั่งรอไอ้วุฒิตรงม้านั่งที่พวกผมนั่งเมื่อเที่ยง น้องเขาไม่เห็นผมหรอกครับ เพราะผมตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ผมอยากจะรู้ว่าน้องเขาจะรอไอ้วุฒิไปถึงกี่โมง
“ ................................”
ที่นั่งตรงนี้ เมื่อตอนเที่ยงไอ้วุฒิเอาโค้กสาดหน้าจุม ผมคิดว่าน้องเขาจะชกไอ้วุฒิแน่ๆ แต่ไม่ครับ จุมไม่โต้ตอบอะไรเลย ยอมเป็นคนที่ไม่ใช่คน ยอมเป็นที่รองมือรองตรีนไอ้วุฒิ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องยอมขนาดนั้น
ยิ่งคิดผมก็ยิ่งไม่เข้าใจ...
อาจจะพูดได้ว่าจุมโง่ก็คงไม่ผิด ผมคิดอย่างงงั้นจริงๆ
1 ทุ่ม ในโรงเรียนไม่น่าจะมีนักเรียนคนไหนเหลืออยู่แล้ว นอกจากผมกับจุม
ทุ่มครึ่ง ผมเห็นจุมโทรศัพท์น่าจะโทรหาไอ้วุฒิ และแน่นอนมันไม่รับ สุดท้ายจุมพิมพ์ข้อความ น่าจะส่งหาไอ้วุฒิอีกเช่นกัน
ทำไมถึงได้โง่แบบนี้ รอมาตั้งเกือบ 2 ชั่วโมง กลับไปได้แล้วไอ้วุฒิมันไม่มาหรอก
แกร๊ก!
จนได้สิน่ะ ผมเหยียบใบไม้แห้งเข้าให้ แต่อีกคนกลับไม่หันมา กลับยิ่งนั่งตัวเกร็งกว่าเดิม มือก็กำสายเป้แน่น ?
“ จุมใช่ไหม?” ผมพูด คำว่า ‘จุมใช่ไหม?’ ทำไมผมต้องพูดคำนนี้ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นจุม ผมคงกำลังร้อนตัวกลัวว่าโดนจะจับได้ ก็เพราะผมยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ 6 โมง
จุมค่อยๆหันหน้ามา ใบหน้าไม่มีสีเลือดจ้องมองผมเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไรว่าผมยืนอยู่ตรงนี้
“ ..................................................”
“ พี่...แบงค์?!” ใช่พี่เอง แล้วทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น
“ ยังอยู่อีกหรือเนี่ย” ผมว่ายิ้มๆ ไม่เข้ากับกับคำพูด
ผมยิ้ม ทำไมเนี่ย?
“ พี่รู้...” จุมว่าพร้อมทำตาโตๆเหมือนสงสัย ตาซื่อๆมองผมเข้าใจสภาพตัวเอง…
“ ใช่ ก็ไอ้วุฒิมันเล่าให้พวกพี่ฟังเอง....”
“ เหรอ...ครับ” ใบหน้าสลดลง
“ ใช่ และตอนนี้ไอ้วุฒิมันก็ไม่อยู่แล้วด้วย วันศุกร์เป็นวันก่อตั้งโรงเรียนหยุด มันไปหัวหินตั้งแต่บ่ายแล้ว” ผมบอกเพราะสงสาร ดูท่าจะรอไปอีกนาน พูดได้ว่าเชื่อฟังคำสั่งไอ้วุฒิจนถึงที่สุด
“ เอ๊!?”
“ ไอ้วุฒิมันบอกให้จุมรอมันถึงกี่โมงล่ะ?” ผมถามนั่งลงข้างๆ มแต่พอรู้คำตอบอยู่แล้ว
“ ไม่ได้บอก แค่บอกว่าให้รอ”
“ เหรอ?.............แล้วจุมก็รอมันจนป่านนี้เนี่ยนะ” ผมพูดไม่จริงจัง สายตามันมองหน้าจุมโดยไม่รู้ตัว
“ .................................”
ผมสงสัย?คำที่ผมคิดมาตลอดเกี่ยวกับจุม
“ .........................รักมันมากเลยเหรอ?”
“ .......................................” เป็นคำถามที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะถาม และอีกฝ่ายก็คงไม่คิดว่าผมจะถามถึงได้อึ้งไป
“......................”
ความจริงผมก็อาจจะบ้า ถึงได้พูดต่อไม่หยุด
“ เพราะไอ้วุฒิมันหล่อใช่ไหม?” ผมถามลอบมองสีหน้า ว่าจะตอบอะไร ผมก็เข้าใจคนที่เข้ามายุ่งกับไอ้วุฒิว่าเห็นว่าไอ้วุฒิมันหล่อ มันรวย แล้วยังปากหวานแต่ถ้ามันได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วหางตามันก็ไม่แล
“ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่...”
“ ............................. . ........” ผมมองหน้า..........ไม่เชื่อครับ
“ ตอนที่เห็นพี่วุฒิวิ่งไล่คนร้ายที่วิ่งราวกระเป๋า ผมว่าพี่เขาเท่มากเลยครับ...” จุมบอกผม ใบหน้าเหมือนเหตุการณ์ที่พูดตรงหน้ากำลังเกิดขึ้น อย่างไอ้วุฒิเนี่ยนะผมว่าน้องเขาต้องเข้าใจผิดบางอย่างแล้วล่ะ
“ หมายความไม่ใช่ว่าหล่อ...อย่างเดียว...” ผมว่าหันไปและสบตาพอดี
“ ...........................เอ่อ.............ถ้าผมชอบพี่วุฒิเพราะหล่อ ผมก็ต้องชอบพี่ด้วยใช่ไหมล่ะครับ.....”
ผมเหมือนโดนตบ หน้าทั้งชาและร้อน คิดจะดูถูกคนอื่น พอเขาตอกกลับมาหน้าหงายแทบล้มทั้งยืน
“นั่นสิ......................แต่เล่นพูดกันตรงๆแบบนี้พี่เขินเหมือนกัน ... นะ”
ผมพูด แต่จุมกลับเป็นฝ่ายเขินแทน
จุมก้มหน้าลง แม้จะเป็นอย่างงั้นผมก็เห็นได้ว่ากำลังหน้าแดง
.
ก็น่ารักดี
“ ไปกลับบ้าน” ก็น่ารักดี ความคิดที่แวบเข้ามาทำให้ผมแปลกใจตัวเอง
“ แต่.................” เสียงลังเล
“ ผมว่าจะรอพี่วุฒิต่ออีกสักหน่อย”
“ มันไม่มาแล้วป่านนี้มันกอดสาวสบายไปแล้ว” ผมบอกมือดึงมือจุมกระตุ้นสักหน่อย แต่มือผมโดนสบัดออกทันทีที่แตะมืออีกฝ่าย
“ ............................................”
ผมจ้องมองจุมที่เนื้อตัวเริ่มสั่น ...
“ พี่กลับไปเถอะครับ” จุมบอก เดินห่างออกไปหลายก้าว ?
“ ไอ้วุฒิมันไม่มาแล้ว กลับไปเถอะ อย่าโง่รอมันเลย มันก็แค่แกล้งเราเท่านั่นแหละ” ผมบอกสงสารเพราะให้รอยังไงได้วุฒิมันก็ไม่มา และเดินตาม
“ ไม่ต้องยุ่งกับผม ผมจะรอ” จุมบอกเสียงสั่น ตัวสั่น เพราะผมแตะแขนเมื่อกี้อย่างงั้นเหรอ?
“ จุม คิดว่าพี่จะหลอกและนี่เป็นแผนไอ้วุฒิใช่ไหม?!” ผมถาม
“ ..................................ถ้างั้นพี่ทำไมไม่ไปหัวหินกับพี่วุฒิ?”
“ พรุ่งนี้ยายพี่จะมาจากออสเตเรีย พี่เลยต้องอยู่รอ”
“ ..................”
“ เอาเถอะ เราอยากจะรอก็รอไป พี่แค่เดินมาดูเฉยๆไม่คิดว่าจะรอจริงๆ” ผมบอกรู้สึกไม่พอใจ ที่จุมคิดว่าผม ……………………คิดว่าผม... คิดว่าผมมาที่นี่เพราเป็นแผนของไอ้วุฒิ
ผมหงุดหงิด
ผมหงุดหงิดเสียจนพอเดินออกไปแล้วก็ไปฮึดฮัดอยู่คนเดียว จนต้องเดินกลับมาอีก อยากจะถามว่า ‘คิดว่าพี่เป็นคนยังไง’
แต่ผมก็ต้องเปลี่ยนใจกับภาพที่เห็น
“ ...ฮือๆ...” จุมที่ยืนอยู่ตัวสั่นเทิ้ม แขนผอมกอดร่างกายนั้นร้องไห้ไม่หยุด
ผมมองมือของตัวเองที่แตะตัวจุมเมื่อกี้ รู้สึกว่าตัวเองเลวขึ้นมากะทันหัน
.
. และผมโง่...มาก
.
* * *
“ .....................จุม!?!...” ผมแทบไม่เชื่อสายตามองคนที่นั่งอยู่บนพื้น หลังจากที่ผมกับไอ้ชนะกลับไป เกิดอะไรขึ้น
ร่างผอมๆผงะก่อนจะถอยหนีถอยหนี ผมเลยถอยออกไป 2 สามก้าว แล้วยืนมองนิ่ง
“ ไอ้วุฒิมันทำขนาดนี้เลยเหรอ...!.” ผมพูด มองกับร่างที่ฟุบหน้าลงเข่าที่ชันขึ้นของตัวเอง
แค่ไม่ยอมย้ายโรงเรียน …………….ไอ้วุฒิ!!
“ ..................” จุมที่นั่งอยู่ กำลังสั่น แม้ผมจะมองเห็นแค่แขนและขาแต่ก็เห็นรอยซ้ำเต็มไปหมด ข้อมือทั้ง 2 ข้าง มีรอยบาด น่าจะรอยเป็นเข็มขลัด ปากแตก หน้าก็บวมช้ำจนดูไม่ได้
ผมโกรธ ผมเจ็บจนอึดอัดไปหมด
“ ไอ้วุฒิมันอยู่ไหน? เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง!”
“ ................................”
“ อยู่ในห้องใช่ไหม?” ผมเดินไปดูในห้องมัน แต่ไม่เจอคงจะอยู่ห้องจุม
“ อย่าครับ!” มือไม่มีแรงคว้าขาผม แต่ก็ชักกลับไป มือนั้นสั่นไม่หยุด
“ ทำไม!” ผมพูดอึดอัดในอก
[i ]“ เดี๋ยว พี่ วุฒิ ตื่น” [/i] จุมพูดพร้อมน้ำตาไหลทะลัก แล้วส่ายหน้าแม้แต่ริมฝีปากก็สั่น แต่ใจผมสั่นยิ่งกว่า
“ ฮือๆ อย่าปลุก พี่วุฒิ”
“ ก็ได้ ก็ได้” ผมบอก เดินไปนั่งโชฟาทำใจเย็นเพื่อบอกว่าผมจะไม่ไปปลุกไอ้วุฒิแล้ว แต่ในอกผมมันเหมือนมีไฟสุม และมันกำลังเผาไหม้อย่างรวดเร็ว
เสียงสะอื้นคงมีต่อไป ผมรู้ว่าจุมก็กำลังพยายามที่จะทำให้มันหยุด แต่ผมก็ยังได้ยินเสียงสะอื้นต่อไปอยู่ดี
ผมพอจะรู้ว่าไอ้วุฒิมันรู้สึกยังไงกับจุม แต่ทำไมถึงได้ทำขนาดนี้ ทำไมถึงไอ้ซ้อมจุมถึงขนาดนี้
แม้ผมจะนั่งนิ่งๆแต่หางตาก็มองจุมอยู่เป็นพักๆ ทั้งที่กำลังร้องไห้ แต่ทำไมผมถึงเห็นว่าจุมกำลังยิ้ม....
ผมทรมาน....ได้ยังไงกัน
.
.
เวลาผ่านไปไม่น่าจะนาน แต่ผมรู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน ความเจ็บปวดมันแทรกซึมจนทำให้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
“ 3 ทุ่มแล้วนะ จุมกินข้าวยัง?” ผมถาม พูดขึ้นลอยๆ
แม้สักนิดก็ยังดีที่จะทำให้จุมเจ็บปวดน้อยลง
“ .......................” จุมหันหน้าบวมๆมามองผม ใจผมกำลังถูกกรีดจากของมีคม และมันกรีดลึกลงเรื่อยๆ
“ ..................................”
“ หิวไหม พี่ซื้ออะไรมาให้กิน” ผมปั้นหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ .............................” ส่ายหน้าตอบ น้ำตายังไหลอยู่เลย
“ กินเถอะ แล้วจะได้กินข้าวกินยา ทายาด้วย........”
“ ................ไม่ หิ ว ครั บ..”
“ กินนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อ” ผมยิ้มตื้อ ก่อนที่จะลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้อง
ผมกำมือแน่น เดินวนหน้าลิฟท์ อยากจะจะชกไอ้วุฒิให้มันหาย หายจากความเจ็บปวดที่อึดอัดนี้
ทำได้ยังไง ทำกับจุมแบบนี้ได้ยังไง
ไอ้เลว! ทำทำไม!!!!! ถ้าไม่เอาทำไมไม่บอก!
โธ่เว้ย!! ทำไมวะ!.
.
.
ซื้อโจ้กกลับมาแล้วผมรีบร้อนจนลืมกดออด พอเข้าไปเลยเห็นจุมมองผมอย่างหวาดระแวง …………อย่ามองพี่แบบนั้นพี่ไม่คิดจะทำร้ายจุมเลยสักนิด
“ ขอโทษ นะไปนานเลย พอดีพี่ขับรถหาซื้อยา ถึงจะเห็นว่าตอนขนของมีกล่องยาอยู่”
“........................” จุมไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังมองผม ก่อนที่จะก้มหน้าลง
ใจผมเบาหวิว
“ พี่ซื้อโจ้กมา เดี๋ยวใส่ชามให้เลย” ผมบอกเข้าครัวเทโจ้กใส่ชาม แล้วยกไปวางบนโต๊ะกินข้าว ก่อนที่จะเดินไปหาจุมที่นั่งกับพื้น
“ ..............................” จุมเงยหน้ามอง ผมพยายามปั้นหน้าให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ ไปกินโจ้กเถอะ พี่อุตสาห์ออกไปซื้อมาให้...”
“ ..............................”
“ .........................................”
“ ผมลุกไม่ไหว” “ งั้นพี่ช่วย” ผมพูดแต่ก็ไม่ได้ขยับตัว เพราะไม่อยากให้จุมตกใจ แต่อยากให้ไว้ใจ จนแขนผอมยกขึ้น
“ พี่จับได้นะ.............”
“ ......................ครับ” ผมจึงค่อยๆจับไหล่จุมช้าๆ แต่จุมก็ยังมองผมอย่างไม่ไว้ใจแต่ไม่มากเท่าเดิม
“ พี่ไม่ทำไร หรอก” ผมบอก แล้วรอให้จุมเดินก่อนแล้วจึงช่วยพยุง ขาจุมที่ก้าวเดินแทบไม่มีแรงและ แล้วผมก็มองเห็นน้ำสีขาวที่ไหลลงมาตามขาสั่นๆ ไม่เฉพาะน้ำสีขาว แต่ยังมีสีอื่น..... ผมเบือนหน้าหนี หัวใจไม่ได้ถูกกรีดแต่ถูกแทงจนทะลุ
ผมบอกตัวเองให้ทน!
ทนไม่ได้ก็ต้องทน!
ไอ้วุฒิ มรึงทำเกินไปจริงๆ ผมอยากจะไปลากคอไอ้วุฒิขึ้นมาเพื่อว่าใจผมจะหายเจ็บบ้าง…
“ ...............................” จนมานั่งบนเก้าอี้สักที ผมเลื่อน โจ้กหมู มาตรงหน้าจุม
“ ................อร่อยนะ พี่แอบชิมแล้ว” ผมบอก
“................................” จุมค่อยๆตักโจ้กใส่ปาก แต่กลับยุ่นหน้า มือผอมแตะมุมปากที่มีเลือดติดอยู่ คงจะแสบ
“ ร้อนเหรอ?”
จุมสายหน้าตอบว่าไม่ร้อน ผมทำมุมปากเหมือนยิ้มแต่ไม่ใช่
“ อร่อย”
“ พี่ซื้อมา 3 ถุง ไม่อิ่มเบิ้ลได้”
“ .........................” ถึงจุมจะบอกว่าอร่อยแต่ กินได้ 3 สี่คำก็อิ่ม
“ อิ่มแล้วเหรอ?”
“ครับ”
“ ไหนบอกว่าอร่อย....”
“ ..........................”
“ งั้นอีกคำ..”ผมบอกยกช้อนจะป้อน อีกคนลังเล
“..........................”
“ นะ สงสารคนซื้อมา” กินอีกคำเถอะจุม พี่ขอร้อง
“ก็ได้ครับ” จุมอ้าปากให้ผมป้อนอีกคำ แล้วกินน้ำตาม
“ กินแล้วทำแผล” ผมว่าแล้วค้นเอากล่องยาจากตู้ใต้โทรทัศน์ออกมา เพราะผมจำได้ว่าตอนค้นมาผมเก็บไว้ตรงนี้
ทำไมผมต้องทำตัวให้ปกติ ทำไมไม่ผมถึงไม่บอกไปเลยว่ารู้สึกยังไง ทำไมผมไม่ทำ….นั่นไม่ใช่คำถามแต่เป็นประโยคบอกเล่า…
จุมเป็นใคร?
แล้วผมเป็นใคร?
“ ไม่ต้องหรอกครับ” จุมบอกผมเอามือลูบแผลที่ข้อมือ ใจผมสะท้านแรง
“ ไม่ได้หรอก ไอ้วุฒิมันทำและเป็นเพื่อนพี่ พี่ก็ต้องมีรับผิดชอบด้วยที่ไม่ห้ามมัน” ผมพูดบังคับกลายๆ
ผมไม่อยากปล่อยจุมไว้แบบนี้ โดยไม่ทำอะไรเลย
“ .....................”
“ เถอะนะจุม ให้พี่รู้สึกผิดน้อยลง” ผมบอกสบตาจริงจัง
“ ..........................” จุมไม่ตอบยิ่งทำให้ผมใจเสีย แต่สุดท้ายจุมก็ยอม ผมอยากจะบอกจุมว่า ‘พี่ดีใจ ที่จุมยอมเชื่อใจพี่ ยอมให้พี่ได้ทำอะไรบ้าง’ แต่เช่นเดิมผมกลืนคำพูดนั้นและเก็บมันไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด
“ ตอนกลับพี่ชนะเขาคิดว่าจะกลับมาตอนเย็น เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เลยขโมยกุญแจไป แล้วก็อยากที่คิดจริงๆไอ้วุฒิมันทำเกินไป...” ผมเล่าไปทำแผลไป
“ ..................................”
“ แต่ชนะมันมาไม่ได้ แฟนมันมีเรื่องนิดหน่อย” ผมพล่ามไปเรื่อยๆ แล้วหยุดมองหน้าช้ำๆ
“ พี่ทายาที่ปากให้นะ”
“.......................................”เห็นไม่ว่าอะไรผม เลยเอาคัตเติ้ลบัตใส่ยาแตะแผลที่ปากเบาๆ พยายามทำอย่างเบามือที่สุด
เจ็บมากไหมจุม ถ้าเจ็บมากอย่าทนอีกเลยนะ มีอีกคนที่พร้อมจะช่วยถ้าจุมต้องการ พี่พร้อม
“4 ทุ่มแล้ว ไปนอนเถอะ”
“………………..”
“ เดี๋ยวพี่พาไป”
"....................................." ผมรู้ว่าจุมก็ลำบากใจที่มีผมดูแล แต่ทำไงได้ผมต้องการที่จะทำและมีความสุขที่ได้ทำ
“..................ให้พี่อุ้มไหม?” ผมถาม จุมจ้องผมตกใจกับว่า ‘อุ้ม’ ของผม
ไอ้แบงค์ไอ้ชั่วไอ้เลว! จุมเป็นถึงขนาดนี้แล้วยังจะเอาเล็กเอาน้อยกับน้องเขาอีก
“ ...................”
“ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ห้องมันไกลพอดูนะกับสภาพจุมแบบนี้ พี่เลยคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าพี่อุ้ม” ไม่ใช่อะไรหรอก ความจริงแล้วพี่อยากอุ้มจุมจริงนั้นๆนั่นแหละอยากสัมผัสจุม ชั่วไหมล่ะพี่….แม้จุมเจ็บแบบนี้พี่ก็ยังคิดอกุศล
“ ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเองได้” จุมบอกยืนขึ้นเอง ทว่าโงนเงนและกำลังจะล้ม มือผมรีบเข้าไปประครอง
“ อย่า ครับ!”
ตุบ!
ผมโดยผลักแม้ไม่แรงแต่ผมก็ปล่อยมือ จุมจึงลงไปกองกับพื้น
“ อึ้ก..ฮือๆ” ตัวผมนิ่ง เหมือนถูกสะกด
จุม กลัวผม?
“ จุม พี่ขอโทษ” ผมบอกถอยออกมา เบ้าตาปวดหนึบจนชา
“ ..................”
จุม เมื่อไรกัน ที่เป็นแบบนี้ เมือไรกันที่กลัวการสัมผัสจากคนอื่น กลัวแม้กระทั่งพี่
พี่ไม่เคยคิดที่จะทำกับจุมเหมือนกับที่ไอ้วุฒิทำเลยนะ
“ พี่ครับ” อยู่ๆมือจุมก็ยกขึ้นมา
“.................ครับ..................”
“ ช่วยพาผมไปเตียงที” จุมบอกผม คงไม่อยากให้ผมไม่สบายใจ
“ ได้เหรอ?” เป็นพี่ได้เหรอจุม เป็นพี่ได้ใช่ไหม?
“ ..................” จุมเงยหน้ามอง ผม ก้มลงมาช้อนร่างกายผอมช้าๆ
ผมอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปได้ไหม เพราะถ้าผมอุ้มจุมอยู่แบบนี้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรจุมได้ ผมจะปกป้องร่างกายนี้ ผมจะดูแลหัวใจดวงนี้เป็นอย่างดี
ถ้าเป็นผมล่ะก็ จุมจะไม่เจ็บปวดอยู่แบบนี้
“ จุมผอมไปนะ กินข้าวหรือเปล่าเรา?” ผมถามขณะพาจุมเดินเข้าห้อง
" .................................." ผมรู้ว่าจุมกำลังเกร็งที่ถูกผมอุ้มและคงอยากจะให้ถึงเตียงเร็วๆ แต่ผมไม่อยากให้ถึงเตียงเลย ขอโทษนะจุมที่พี่คิดแบบนี้
" .............................ถึงแล้ว ถึงแล้ว"
“ ........................” วางจุมลงลนเตียงก่อนที่จะดึงผ้าห่ม ห่มให้จนถึงคอ
“ ยังไม่ได้กินยาเลย” ผมบอกออกไปจากห้องอย่างเร่งรีบ ก่อนที่จะกลับมาพร้อมยาในมือและแก้วน้ำ
หลังจากกินยาแล้ว จุมก็นอนลง หันหลังให้ ผม…..เจ็บ
“..............................” หลังที่หันให้ผมสั่นเทิ้มเหมือนร่างกาย คงกำลังหวาดกลัวอะไรอยู่
“ หนาว เหรอ?” ผมถาม ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่ แต่ก็ทำเป็นโง่ แค่อยากจะพูดอยากคุยอีกสักนิดก็ยังดี
“ ไม่ครับ” จุมว่าแล้วหันหน้ามาหาผม ก่อนที่จะพูดประโยคที่ทำให้ผมสะอึก
“ขอบคุณนะครับ”
“ เป็นใครก็ต้องทำแบบพี่” เป็นใครที่รู้สึกแบบพี่ก็ต้องทำแบบนี้
“..............................................................เอาล่ะ พักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว” ผมเดินออกมา
“ พี่ครับ”
“ ......................?” ผมหันกลับไป
“ พรุ่งนี้......ผมจะ ...จะยังไงดี?” จุมถามผมทั้งน้ำตา
พี่ไม่รู้หรอก เพราะจุมต่างหากที่จะเป็นคนตอบ และเป็นคนทำ
“ ....................................................แค่ เข้มแข็งไว้............” พี่ก็จะเข้มแข็งเหมือนกัน
“ คืนนี้พี่จะนอน ตรงโชฟาข้างนอกมีอะไรก็เรียกนะ” ผมบอกให้จุมสบายใจ แต่ไม่มีสีหน้าสบายมากขึ้นจากคำพูดของผมเลย
“ ............................................... ........................ .” ผมปิดไฟก่อนที่ปิดประตูแล้วเดิน ก้าวแต่ก้าวกว่ามันจะเดินได้ช่างยากลำบากมันหนักอึ้งเหมือนมีโซ่ตรวนตรึงเอาไว้
ผมไม่รู้ว่าตัวเองมานั่งโชฟาตั้งแต่เมื่อไร
เห็นคนอื่นเจ็บแล้วเราเจ็บด้วย…..ตอนนี้ผมเป็นอย่างงั้นจุมเจ็บผมเจ็บ
เมียเพื่อน แต่ผมอยากให้เป็นเมียตัวเอง
** * * * * **
จะพยายามอัพอีกตอนเน้อเจ้าค่ะ