
บุพเพวายร้าย
26.
ในครัวบ้านผมจะมีโต๊ะกินข้าวด้วยครับ แต่ก็มีที่เฉพาะไว้กินข้าวอยู่เหมือนกันแต่จะอยู่ข้างนอก ใต้ต้นเฟื่องฟ้าที่เลื้อยจนทำเป็นเป็นหลังคาไว้กันแดดและยังสวยอีกด้วย
ผมช่วยแม่แกะกับข้าวออกจากถุง ส่วนพี่วุฒืยืนอยู่ข้างๆผมแบบประชิดตัว เวลาผมจะหันไปข้างไหนพี่วุฒิก็ต้องขยับตัวให้ทางไม่งั้นผมจะชนพี่วุฒิ
“ วุฒิ ช่วยตักข้าวหน่อยแล้วกันนะ” แม่บอก พร้อมกับอมยิ้มและส่ายหัวเล็กน้อย นึกถึงวันที่พี่วุฒิทำข้าวต้มวันนั้นแล้ว ผมเลยหันไปมองพี่วุฒิครับ เป็นห่วงว่าจะตักข้าวยังไง
พี่วุฒิไปด้อมๆมองหม้อหุงข้าวแล้วเดินไปเดินมา ก่อนที่จะไปเอาจานมา 3 ใบแต่ก็ยังเดินรอบครัววนไปวนมา ไม่ตักข้าวสักที
“ .................”
“ ทัพพี่ตักข้าวอยู่ในลิ้นชัก ด้านขวา” แม่บอก (ที่เดินหาเมื่อกี้หาทัพพีตักข้าวหรือครับ? แต่แม่ก็รู้)
“ขอบคุณครับ ผมกำลังหาอยู่พอดี” พี่วุฒิว่าดึงลิ้นชักออกมาแต่ดึงแรงไป และของในลิ้นชักก็ไม่ได้เยอะจนหนักมาก ผลจากการที่พี่วุฒิดึงลิ้นชักคือออกมาทั้งลิ้นชักเลยครับจนมันร่วงลงพื้น
โครม! เคร้ง! “ ตายแล้ว!?” (แม่ร้อง)
“ พี่วุฒิ!” ผมก็ตกใจไม่แพ้แม่ครับ ของในลิ้นชักทั้งทัพพีตักข้าว ตะหลิว และอื่นๆเทกระจาดออกมาหมดเลยครับ
“ .......................” หน้าพี่วุฒิที่ดูท่าจะตกใจไม่แพ้กัน ผมรีบเข้าไปเก็บข้าวของที่เกลื้อนพื้น รวมทั้งแม่ทั้งพี่วุฒิด้วย
“ ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้”
“ ไม่เป็นไรจ้ะ คนหนุ่มก็แรงดีอย่างงี้แหละ” แม่ว่า เก็บของใส่คืนให้พี่วุฒิเอาใช่ช่องลิ้นชักเหมือนเดิม เอาทัพพีที่จะให้ตักข้าวให้ผมไปล้าง แล้วบอกว่าของในชิ้นชักที่หล่นพื้นพรุ่งนี้ค่อยนำมาล้างใหม่
ผมนำทัพพีที่ล้างแล้วเรียบร้อยไปตักข้าวเอง มีพี่วุฒิถือจานรอ ผมคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมมีความสุขครับ แต่นั่นไม่ได้เกิดจากเห็นพี่วุฒิทำพลาดนะครับ แต่ผมรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย อาจจะเป็นเพราะผมอยู่บ้านด้วยก็เป็นได้
ตักข้าวเสร็จก็ยกไข่พะโล้ ต้มยำไก่บ้าน ผัดผักรวมมิตร และทอดมันปลา จากร้านประจำของแม่วางลงบนโต๊ะ เมื่อทุกคนนั่งพร้อมกันแล้วก็ลงมือกิน ผมเจริญอาหารมากครับกินข้าวตั้ง 2 จาน พี่วุฒิก็ 2 จานเหมือนกัน แม่บอกว่าพรุ่งนี้แม่ทำเองจะอร่อยกว่านี้อีก
กินเสร็จก็เกือบ 3 ทุ่ม ผมเป็นคนอาสาล้างจานเอง แม่ทำงานมาเหนื่อยๆจะได้พักสักผ่อน แม่บอกจะขึ้นข้างบนไปอาบน้ำ และบอกจะนอนต่อเลย
ผมอยู่ล้างจานในครัวกับพี่วุฒิ 2 คน
“ ไม่ต้องครับพี่ ผมล้างเองดี๋ยวพี่ก็ทำจานแตกเหมือนพี่แบงค์อีก” ผมบอกแค่คิดว่าพี่วุฒิจะช่วยผมก็ดีใจมากแล้ว
“ ใครบอกว่ากรูจะช่วย กรูจะล้างมือ” พี่วุฒิว่าล้างมือแล้วไปนั่งบนโต๊ะกินข้าว
“เร็วๆ กรูง่วง” พี่วุฒิเร่ง
“ พี่ขึ้นไปก่อนได้เลยครับ”ผมบอก
“ กรูจะรอมรึง จะทำไม!”
“ ......................” ผมก้มหน้าก้มตาล้างจานต่อจนเสร็จ แล้วปิดไปห้องครัวขึ้นบันได้ พี่วุฒิเดินตามหลังมา
เข้ามาในห้องผมถามพี่วุฒิจะอาบน้ำเลยไหม หรือว่ายังไง ถ้าพี่วุฒิยังไม่อาบตอนนี้ผมจะอาบก่อน
“ กรูจะอาบพร้อมมรึง!” พี่วุฒิว่าเดินตรงมาหาผมที่เดินถอยหลังจนหลังชนตู้
“ ..............อาบพร้อมกันไม่ได้ หรอก ครับ ห้องน้ำห้องผมมันแคบ” ผมบอกหันหน้าหนีพี่วุฒิที่ก้มหน้าลงมา จนแทบจะจูบผมอยู่แล้วแต่แค่หยุดไว้เฉยๆ
“ ......................” พี่วุฒิไม่พูดเอาแต่จ้องผม แล้วยังหายใจรดแก้มผมอีก ทำให้ผมขนลุก
“ ถ้าพี่ ไม่ ไม่ ไม่อาบตอนนี้เดี๋ยวผมไปอาบก่อน... นะครับ” ผมบอกจะขยับหลังที่ติดตู้ออกมา
แต่
หมับ!?
พี่วุฒิเท้าแขนทั้ง 2 ข้างไว้ข้างๆหัวผมเหมือนไม่ให้ผมไปไหน
“ ........................”
“ พี่ครับ ผมจะไปอาบน้ำ” ผมบอกเสียงอ้อมแอ้ม
“ เมื่อกี้กรูบอกมรึงว่าไง?” พี่วุฒิถามก้มหน้าต่ำลงมาอีก ผมหลับตาคิดว่าริมฝีปากพี่วุฒิจะชนปากผมอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ครับยังไม่ชนไม่โดน?
“ บอกมาว่ากรูบอกมรึงว่าไง? และเวลาพูดกับกรูลืมตา” พี่วุฒิทั้งถามและสั่งในคราวเดียว
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นหน้าพี่วุฒิอยู่แทบจะติดกับหน้าผม นี่ถ้าพี่วุฒิไม่เอียงคอล่ะก็จมูกคงได้ชนกันและอาจจะมากกว่านั้น..
สั่นครับ แล้วยังเขินอีก
“พี่บอกว่าจะอาบน้ำพร้อมผม” ผมบอกพยามยามหายใจเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหน้าพี่วุฒิอยู่ใกล้มาก..ใกล้มากจริงๆ
“ แล้วมรึงยังจะหนีกรูไปอาบน้ำคนเดียว”
“ ....................”
“ หรืออยากให้กรูโกรธ”
“ ไม่ใช่ครับ” ผมส่ายหน้าบอกรวดเร็ว
ชน! จมูกผมชนมุกพี่วุฒิ ผมชะงักนิ่งเหมือนท่อนไม้ แต่พี่วุฒิก้มลงมากว่าเดิมและจูบผมครับ!?
“ .. ...!?”
ทั้งผมและพี่วุฒิไม่ไหวติ่งนอกจากริมฝีปากพี่วุฒิที่กำลังบดริมฝีปากผม แล้วให้ลิ้นรุกเข้ามาในโพรงปากผม ลิ้นพี่วุฒิเข้าไปเกี่ยวพันลิ้นผม และทำให้มันคล้อยตามได้ไม่อยาก
ผมรู้สึกว่าจูบนี่มันหวาน หวานจนแทบละลาย มันทำให้ผมสะท้านไปหมดทุกส่วนของร่างกาย
“ ....อื้อ...” ผมใช้มือผลักไหล่พี่วุฒิเพราะหายใจไม่ได้ จะขาดอากาศอยู่แล้วถ้าพี่วุฒิไม่ยอมปล่อยผมตอนนี้
“ ...............ปากมรึงใส่น้ำตาลแน่กรูว่า กรูจูบทีไรหวานทุกที” พี่วุฒิว่า มันยิ่งทำให้ผมเขินจากที่เดิมก็เขินจนไม่กล้ามองหน้าอยู่แล้ว
“ ยืนหน้าแดง ยืนหน้าแดง จะไปอาบน้ำก็ไปสิ หรือมรึงอยากอาบพร้อมกรูจริงๆ” พี่วุฒิพูด ผมมองพี่วุฒิแป้บหนึ่งไม่กล้ามองนาน และสงสัยในคำพูดที่กลับไปกลับมาของพี่วุฒิ แต่พี่วุฒิทำท่าจะก้มลงมาอีกผมก็รีบคว้าชุดนอนแล้วสาวเท้าวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
เข้าไปในห้องน้ำแล้วก็เข้าไปยืนหน้าร้อนผ่าวอยู่คนเดียว....
“ ............” ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง จูบเมื่อกี้ไม่เหมือนทุกครั้ง.....
“ .................” ผมอดที่จะไม่ยิ้มไม่ได้ หัวใจมันพองโตและเต้นระริก...
.
.
.
ผมอาบน้ำเสร็จเปิดห้องน้ำออกมาพี่วุฒิก็ยืนรอนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว..0.0 ผมหันหน้าหลบครับ
ผ้าขนหนูสีขาวที่พี่วุฒิใส่อยู่เป็นผ้าที่ผมเอาไว้เช็ดหน้าครับ อย่างที่คนปกติเขาไว้ใช้กันนั่นแหละครับ มันจึงผืนเล็กมาก พอพี่วุฒิเอามาพันตัวเอาแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากใส่กางเกงในเลย
หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ
“
จะอายทำไม เห็นอยู่บ่อยๆไม่ใช่หรือไง” พี่วุฒิเดินมาหาผมเหมือนแกล้ง ผมเลยเดินลิ่วออกมา
“ อย่านอนก่อนกรู เพราะมรึงต้องนวดกรูก่อน กรูเมื่อยตัวแล้วกรูนอนไม่หลับ” พี่วุฒิบอกเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมโล่งใจมากนั่งบนเก้าอี้เหมือนหมดแรง...
.
.
“.............!?...” พี่วุฒิอาบน้ำแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมใส่เสื้อครับยังคงใส่ผ้าขนหนูผืนเดิมนั่งอยู่บนเตียง
“ พี่ไม่ใส่เสื้อหรือครับ?” ผมถาม
“ หาเสื้อมาให้กรูดิ” ผมดูเสื้อที่พี่วุฒิเตรียมมา มันไม่เหมาะที่จะใส่นอนเลยครับ มันหรูไป ผมพอมีเสือยืดกับกางเกงขาสั้นที่ใส่สบายอยู่บ้าง แต่รู้ดีว่าพี่วุฒิไม่ใส่แน่ เพราะพี่วุฒิเคยบอกว่าเสื้อของผมมันเห่ย
“ .............”
“ เอาเสื้อมรึงมาให้กรูใส่ก็ได้” พี่วุฒิบอก
“ ผมมีแต่เสื้อยืดธรรมดา กับกางเกง...”
“ เอาตัวไหนก็เอามาเถอะ” พี่วุฒิพูดเสียงเหมือนรำคาญ และพูดก่อนที่ผมจะพูดจบ
เช่นเดิม ผมก็เอารีบเอาเสื้อไปให้พี่วุฒิอย่าวรวดเร็ว เพราะมันไวต่อความรู้สึกพี่วุฒิก็ว่าได้ มันกลัวว่าจะทำให้พี่วุฒิไม่พอใจ และโดนลงโทษ
“ นี่ครับ” ผมยื่นเสื้อยืดตัวที่ดีที่สุดตอนนี้ให้พี่วุฒิ พี่วุฒิก็รับไปใส่ไม่พูดอะไร
“ กรูใส่เสื้อแล้ว ก็มานวดให้กรู” พี่วุฒิสั่งตบเตียงให้ผมไปนั่งตรงนั้น ผมทำตาม
“ เอามือมรึงทุบ ตรงไหล่สลับกับเอามือนวด” ผมเอากำปั้นทุบไหล่ให้พี่วุฒิตามที่สั่ง
“ แรงๆหน่อย” พี่วุฒิบอก ผมก็แรงเพิ่มขึ้นแต่ไม่แรงมาก
“เอ่อ ดีแบบนั้นแหละ มรึงนี่มีพรสววรรค์” พี่วุฒิว่าหลับตาลงดูผ่อนคลายจริงๆ
“ พอแล้ว” พี่วุฒิบอกทั้งที่ผมยังไม่ได้นวดไหล่ให้เลย
“ ทำไมหรือครับ?” หรือว่าผมทำไม่ถูกใจ
“ กรูอยากเอามรึง มากกว่า” พี่วุฒิว่าหันหน้ามาหาผม
“ ตะแต่....” (หน้าซีด!)
“ เอาน่ากรูจะทำเบาๆ มรึงลองคิดดูดิกรูไม่ทำตั้งหลายวัน กรูทนได้ถึงตอนนี้ก็เทพแล้ว” พี่วุฒิผลักอกผมลงกับเตียง
ผมจะร้องไห้ ผมไม่อยากทำเลย ถึงครั้งสุดท้ายจะไม่เลวร้ายแต่ใครจะบอกได้ว่าครั้งนี้มันจะไม่รุนแรง
“...............................”
“ ...........................” พี่วุฒิหยุดแล้วลุกออกไป แต่แค่ไปปิดไฟครับ ?
“ เมื่อวานกรูให้เวลามรึงทำใจแล้ว อย่าคิดว่าครั้งนี้จะรอด” พี่วุฒิบอกในความมืดสลัว เพราะยังมีแสงจากภายนอกที่เล็ดรอดผ่านหน้าต่างเข้ามา
เหตุการณ์แบบนี้มันก็เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง ผมน่าจะเข้าใจดี ในห้องนี้หลายต่อหลายครั้งที่ผมถูกข่มขืน…
ทว่าตอนนี้ อาจจะไม่ได้เรียกว่าข่มขืน และผมไม่ได้ขัดขืน.... เสื้อยืดที่ผมใส่ถูกถลกขึ้นมา จนอกเปลือยเปล่า กางเกงที่เพิ่งใส่ถูกถอดรนไปอยู่เท้าข้างขวา กายพี่วุฒิแทรกเข้ามาหว่างขา
อย่ากลัวบอกตัวเอง เพราะมันไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่ผ่านมา...
“ อะ! ..” พี่วุฒิเอาลิ้นเลียยอดอก ก่อนที่ดูดเม้นจนผมแอ่นอกตาม มือกำผ้าปูที่นอนแน่น มันเสียวสะท้านจนสมองเบลอไปหมด แล้วลิ้นเปียกก็ขยับขึ้นมาเป็นคอ เป็นปลายคราง และหยุดที่ริมฝีปากผมหนักหน่วง ร่างกายเบื้องล่างตรงน้องชายผมถูกมือพี่วุฒินวดเฟ้นจนมันตื่นตัวเต็มที่….
“ ........................”!! นิ้วพี่วุฒิเข้าไปในร่างกายด้านหลังส่วนในช้าๆ และขยับมันรู้ดีมากว่าที่จะเจ็บ ผมครางทั้งที่ปากถูกบดขยี้เบาๆ แต่พอนิ้วที่ 2 มันเริ่มรุนแรงขึ้นไม่อ่อยอิ่งเหมือนครั้ง ร่างกายผมเริ่มเกร็งหนัก ข้างในมันบีบรัดสิ่งแปลกปลอมเหมือนไม่ยอมแพ้
“ อย่าเกร็ง” พี่วุฒิบอกเอาสิ้นเลียใบหูผม แต่ผมไม่เกร็งไม่ได้! มันทำไม่ได้
เหตุการณ์ที่เคยเจอมันประมาลภาพมาให้เห็นแม้ยามหลับตา
คางถูกมือที่แข็งเหมือนเหล็กบีบให้ยอมเปิดปาก.....
......โดนตบหน้า ถ้าไม่เชื่อฟัง......
...เสื้อถูกฉีกเป็นชิ้นๆ....ยิ่งขัดขืน ยิ่งดิ้นรน...
ยิ่งรุนแรง................... ……
ยิ่งถูกกระแทกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า
น้ำตาแทบเป็นสายเลือด.........
“ อะ ยะอย่า” ผมบอกเสียงเบา เมื่อสะโพกถูกยกขึ้น มือที่จับแขนพี่วุฒิสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้า แต่มันต่างตรงที่แขนผมไม่มีแรงทำอะไร ได้แต่จับบางสิ่งบางอย่างที่ใกล้มือไว้แป็นที่ยึด
“ พี่ครับ...” ผมพูด เหงื่อออกเต็มหน้า แต่ผมพูดได้แค่นั้น เพราะริมฝีปากถูกปิดด้วยปากพี่วุฒิ ปิดจนแทบสนิท ผมหลับตาแน่นแม้กระนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาได้
“.. ............ .. ...” น้องชายพี่วุฒิถูกเอาเข้ามาในร่างกายผมแทนนิ้ว ขาผมถูกแยกออกมากกว่าเดิม ให้พี่วุฒิกระชั้นเข้ามาอีก จนครึ่งทาง
“ อึก!!” คราวนี้ในครั้งเดียว พี่วุฒิเข้ามาจนสุด ร่างกายผมกลืนกินน้องชายพี่วุฒิจนแน่นไปหมด แน่นจนจุก ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระเป็นครั้งแรงให้มีอากาศหายใจ แต่ ไม่ได้ทันได้พูดอะไรก็ถูกบดลงอีกครั้ง มันหนักหน่วงกว่าเดิมเหมือนร่างกายพี่วุฒิที่ถาโถมเข้ามา
มือที่กำผ้าปูที่นอนถูกดึงขึ้นมาคล้องคอพี่วุฒิ ก่อนพี่วุฒิจะกระแทกน้องชายเข้าออกร่างกายผม มันแรงบ้างเบาบ้าง เป็นบางครั้ง แต่มันก็แรงพอที่จะทำให้เตียงไม้ที่นอนเกิดเสียงเอี้ยดอ้าดตามจังหวะที่พี่วุฒิบังคับ
แม่จะได้ยินหรือเปล่า?
“.....................” ความเร็วเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบจะหายใจไม่ทัน.....น้ำจากน้องชายผมไหลพุ่งออกมา และในทันทีพี่วุฒิก็ฉีดน้ำนั้นในร่างกายผม ท้องน้อยผมปั่นป่วนไปหมดทั้งยังเสียวแปล้บ
ผมหายใจหอบๆ พยามจะหายใจให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ จุม” พี่วุฒิว่า ทิ้งตัวบนตัวผม แต่น้องชายพี่วุฒิยังอยู่ในร่างกายผม
“ ...........................”
“ มันไม่ได้เจ็บอย่างที่มรึงคิดใช่ไหมล่ะ?” พี่วุฒิถาม ใบหน้าแนบกับแก้มผมที่ชื่นเหงื่อ
“ ..................” ใครกันจะกล้าตอบ แต่พี่วุฒิพูดถูกครับ มันรู้สึกดีกว่าทุกครั้ง..เพราะมันไม่ทำให้ผมเลือดตกอย่างออก
“ เอ้า นอนกันดีกว่า...” พี่วุฒิพูดเคลื่อนร่างกายลงมานอนข้างผมแบบเบียดๆเพราะเตียงผมเล็กอย่างที่บอก (เอาน้องชายออกไปด้วย)
“ แคบวะ” พี่วุฒิบ่นขยับตัวเข้าผมด้วยวงแขนให้มาแนบกอดผมแนบตัว
“ เดี๋ยวผมไป นอนข้างล่างเองครับ” ผมบอกจะลุก
“ ไม่ต้อง!” ผมสะดุ้งครับ
“ ................นอนด้วยกันนี่แหละมรึงนี่คอยแต่จะหนีกรูตลอด ชอบกรูทำไมไม่อยากอยู่กับกรู!”
“ .........................” ผมไม่กล้าจะพูดต่อเลยครับ เพราะที่พี่วุฒิมันก็ถูก ผมชอบพี่วุฒิแม้ตอนนี้ อาจจะมีบางครั้งที่ผมกลัวจนลืมไปว่าชอบพี่วุฒิแต่บางครั้งพี่วุฒิก็ทำอะไรให้ผม ทำให้ผมดีใจแม้จะมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งนอนเฝ้าผมที่โรง-บาล ทำข้าวต้มให้ ซื้อDVD ให้ผม ซื้อตูกตาลิงให้ แล้วยังพาผมกลับบ้านอีก
“ ตัวสั่น มรึงหนาว?”
“ครับ”
“ ไม่เห็นจะหนาวตรงไหน” พี่วุฒิว่าลุกขึ้นหยิบเอาผ้าห่มที่อยู่บนพื้นขึ้นมาห่มให้ตัวเองและผมด้วย แต่ผมยังไม่ได้ไปเช็ดตัวที่ทำเมื่อกี้เลยครับ
“ ....................”
“ แล้วก็นอน ไม่ต้องลงไม่ต้องล้างมันหรอกตัว” พี่วุฒิว่าเหมือนรู้ที่ผมคิดแล้ววางแขนบนตัวผม
“ ................”
ผมมองออกไปนอกหน้าต่างมองเห็นท้องฟ้าด้วย มีดาวปะปราย แต่มองไม่เห็นพระจันทร์....
ผมขดตัวเข้าไปอีกพี่วุฒิก็ขยับแขนตามร่างกายผมที่ขดตัวเข้าไป
* * * * * * * * * *
กริ้งๆ เสียงโทรศัพท์ดังจนทำให้ผมตื่น(เช้าแล้วครับ) แล้วมองเตียงที่ผมนอน รอบห้อง ไม่เห็นพี่วุฒิ ไม่น่าจะอยู่ในห้องห้องน้ำด้วย
กริ้งๆ เสียงโทรศัพท์ยังดังต่อเนื่อง ผมเดินไปกดรับโทรศัพท์ที่โต๊ะที่วางอยู่
เบอร์ไม่คุ้นเลยครับ?
“ ฮัลโหล?”
“ฮัลโหล นี่พี่เจน ..” เสียงผู้หญิง เสียงหวานมาก
“ เอ่อครับ”
“ นั่นใช่จุมไหม?”“ครับ ?” ว่าแต่ว่าพี่เจนนี่ใครครับ? ผมคิดไม่ออกว่าเคยรู้จักคนชื่อเจน ที่นึกออกตอนนี้คือพี่เจน อดีตแฟนพี่แบงค์ที่พี่ชนะชอบพูดถึงอยู่บ่อยๆก่อนหน้านี้
“ จุม พี่พูดตรงๆเลยนะ”“ครับ ? ” ผมว่านั่งลงเก้าอี้ช้าๆถึงนั่งถึงเมื่อคืนจะไม่ถึงกลับเจ็บมาก แต่ปวดเอวครับ(เขิน)
“
พี่เห็นแล้วพี่ทนไม่ได้ที่น้องจับปลา 2 มือ เลือกเอาสักคนเถอะ และถ้าเห็นแบงค์เขาเป็นแค่ๆกิ๊กที่น้องเอาไว้แก้เหงา ก็ปล่อยเขาไปเถอะ”“ พี่ครับ ผมไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไร?”
“
พี่พยายามพูดดีๆกับน้องแล้วนะ อย่ามาทำไม่รู้ไม่ชี้” พี่เจนเริ่มขึ้นเสียงเหมือนโมโห
“ ผมไม่รู้จริงๆครับว่าพี่หมายความว่ายังไง และพี่แบงค์เขาก็ไม่ได้เป็นกิ๊กผม พี่แบงค์เป็นพี่ชายที่ผมเครพ”
“
แหล่ได้อีก นังตุ๊ดนี่ มีวุฒิเป็นผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่พอผัวเผลอก็มาทำให้คนที่เขาเป็นแฟนกันเลิกกัน สนุกนักเหรอที่ว่านเสน่ห์ไปทั่ว!”“ พี่ครับ พี่คงเข้าใจผิดแล้ว ผมกับพี่แบงค์ไม่ดะ...”
“ อย่าตอแหล่” พี่เจนระเบิดอารมณ์
“ บอกสิว่า ก่อนหน้านี้ 3 วันไม่ได้อยู่กับแบงค์ ถ้ากล้าโกหกก็เอาเลยจะดูว่าจะแก้ตัวสักแค่ไหน”“ ครับผมอยู่พี่แบงค์ แต่พี่แบงค์....” และเช่นเคยผมไม่พูดไม่ทันจบพี่เจนก็พูดแทรกขึ้นมาอีก
“
พี่ไปหาแบงค์ที่บ้าน แต่ไม่เจอ เลยโทรถามแบงค์ เขาบอกอยู่กับแฟนใหม่ไม่ใช่น้องและจะเป็นใคร!”“ ผมไม่รู้ว่าแฟนใหม่พี่แบงค์เป็นใคร แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน” ผมบอก เสียงแว้ดๆในโทรศัพท์ทำให้ปวดหัว
"อย่าโกหกพี่ดีกว่า พี่ตามแบงค์ทั้งวันเขาไม่ได้ไปไหน มีแค่ไปรับไปส่งน้องคนเดียว”“ นั่นเพราะพี่วุฒิเขาไม่อยู่ เลยให้พี่แบงค์...”
“ ใช่สิ ถ้าวุฒิอยู่น้องจะมายุ่งกับแบงค์ได้ยังไง!” (พูดแทรกไม่ให้ผมพูดจบเหมือนเดิม)
“ พี่ครับ! ผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่แบงค์จริงๆพี่โทรผิดคนแล้ว และถ้าพี่อยากรู้ผมแนะนำให้พี่โทรถามพี่แบงค์ดีกว่า” ผมบอกกดโทรศัพท์ออกแต่พี่เจนก็โทรเข้ามาอีก ผมไม่รับครับ แต่โทรหาพี่แบงค์จะบอกเรื่องพี่เจนให้พี่แบงค์บอกพี่เจนให้เข้าใจ ผมไม่อยากไม่เป็นมือที่สามของใครทั้งที่ผมไม่รุ้เรื่องด้วยเลย
แต่โทรไป 2 ครั้งพี่แบงค์ก็ยังไม่รับสายผมลองโทรอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ไม่รับอีกผมจะไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยกลับมาโทรอีก ผมไม่สบายใจเลยครับ
ตืด---------------------ตืด------------------ตืด“ ไงน้องจุมโทรหาพี่มีอะไร หรือว่าไอ้วุฒิมันก่อวอดอะไรอีก” เสียงพี่ชนะครับ
“ พี่แบงค์ล่ะครับ?” ผมถาม
“ ยังไม่ตื่น และถ้าตื่นก็คงพูดไม่รู้เรื่อง”“ ทำไมครับ เกิดอะไรขึ้นกับพี่แบงค์?” ผมถามตกใจ และเป็นห่วง
“
เกิดแดกเหล้าเป็นน้ำ ตอนนี้เลยเอาพื้นเป็นเตียง ว่าง่ายๆมันเมาหัวราน้ำ ตั้งแต่เมื่อวาน” พี่ชนะบอก “เดี๋ยวพี่เอาตรีนปลุกมันดู
“...........................” ผมได้ยินเสียงพี่ชนะเล็ดลอดเข้าในสาย ‘ไอ้แบงค์ตื่น จุมโทรมา’
“......................”
“จุมมันไม่ตื่น ยังไงคุยกับพี่ก่อนไหม?”“ ไม่เป็นไรครับ ผมแค่โทรมาเฉยๆ”
“ เหรอ”(ลากเสียงยาว)
“ครับ”
“เอางั้นก็ได้”“ ถ้าพี่แบงค์ตื่นแล้วบอกพี่แบงค์ให้ด้วยนะครับว่าผมโทรมา”
“เดี๋ยวจัดให้”“ขอบคุณครับ”
“ แล้วไอ้วุฒิมันไปไหน?”“ ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมตื่นมาก็ไม่เห็น”
“
เออ ช่างเถอะ ถามไปงั้นแหละ เดี๋ยวบอกมันตอนเย็นไปหา”“ครับ แต่ว่าตอนนี้ผมกับพี่วุฒิอยู่บ้านผมนะครับ”
“ อ้าวแล้วจะกลับมาคอนโดเมื่อไร?”“น่าจะวันอาทิตย์เย็นๆครับ”
“งั้นพี่ไปหามันตอนนั้นแหละ แต่จะโทรไปบอกมันก่อน เดี๋ยวมันโว้ย”“ครับ”
เสร็จธุระพี่ชนะก็วาง ผมถอนหายใจไม่เข้าใจว่าพี่เจนเข้าใจผิดไปได้ขนาดนี้ได้ยังไง....
* * * * * *
จากประสบการณ์ของคนอื่นที่ได้ทราบ สัมผัสนิดๆและกระโดดเข้าไปร่วมวงทั้งที่เขาขอและไม่ขอแต่ขอเสือก?มานั้น หลายๆครั้ง ความรักมันทำให้ตาบอด คิดอะไรโง่ๆ ตื้นๆ จนคิดว่านี่ใช้สมองคิดหรือรากผมวะ แค่นี้ไม่รู้(กรรมเวรจริงๆ) ก็อยากว่า ไม่เห็นไม่รู้ ไม่เจ็บไม่รู้สึก อยากรู้สึกต้องรัก ไม่รักไม่เข้าใจ..เอากันเข้าไป โอ้รักเอย♥ 
ปล.ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวันที่น้องจุมเป็นใหญ่ในใต้หล้า
ปอลอจุด เมื่อไรกัน?(ฮา)
วันนี้อัพ 2 มันมีไฟ 