
5
“ ทำไมจุม ทำไม?” พี่วุฒิพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างที่ผมไม่เคยเห็น มือพี่เขากำแขนผมแน่นจนคิดว่ากระดูกจะหัก
“พี่ครับ ผมเจ็บ” ผมบอกให้พี่วุฒิปล่อยแขนมือผม
“ ทำไมจุม ทำไม?” พี่วุฒิถามอีก ผมส่ายหน้าไม่รู้ว่าพี่เขาถามเรื่องอะไร พี่วุฒิกระชากแขนจนผมให้เข้าไปหา ผมสะบัดเต็มแรงอย่างที่ไม่เคยทำ
“ ทำไมจุม ทำไม!?” คราวนี้พี่วุฒิตะโกน
ผมสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัว นึกถึงพี่วุฒิจับหัวใจ
พี่วุฒิ!?
“… ……….………” มือผมกำสร้อยที่ใส่อยู่แน่นจนเจ็บมือ
พี่วุฒิ ครับ !?
“………….………”
ผมมองไปรอบๆ รอบตัวเงียบกริบ เช้าวันที่2 ของการมาอยู่ที่ห้องพี่แบงค์ จักรที่นอนข้างๆผมขดตัวนอนอยู่เหมือนเมื่อวาน ที่กว่าจะตื่นก็มีคนมาปลุก
ความฝันเมื่อกี้ทำให้ผมนึกถึงพี่วุฒิ อยากเห็นหน้าพี่วุฒิตอนนี้ แต่ถ้าเป็นจริง ผมคงไม่อาจมองหน้าพี่เขาได้ ถึงแม้พี่วุฒิจะอยู่ตรงหน้าผมก็ตาม เพราะพี่วุฒิกำลังโกรธผมที่หนีพี่เขามาอีก ผมไม่กล้าแม้มองหน้า
“………….………”
ผมนั่งบนเตียงพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะลุกเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว
2 วันแล้ว พี่วุฒิไม่ได้มาตามผมที่นี่ พี่เขาคงไม่ตามหาผมแล้ว คงเบื่อแล้ว
ผมเดินออกมานอกห้อง พี่แบงค์อยู่ในครัว แต่ไม่เห็นพี่ชนะ
เรื่องที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดที่มาอยู่ที่คือ พี่ชนะ พี่แบงค์ และจักรเป็นครอบครัวที่เรียกว่า3คนผัวเมีย แต่ผมก็เข้าใจเพราะความรักทำให้ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ แม้แต่เรื่องของผมเองก็ตาม
“ ตื่นเช้าอีกแล้วนะ”
“ ครับ เมื่อก่อนผมไปทำงานต้องตื่นตอนตี5 จนชินไปแล้วครับ ” ผมบอก เข้าไปช่วยพี่แบงค์ที่กำลังล้างจาน ผมจับจานเรียงใส่ชั้นมองหยดน้ำที่ยังเกาะบนผิวจาน บางส่วนมันค่อยๆไหลจากที่สูงลงที่ต่ำอย่างช่วยไม่ได้
“… ……….………”
“ เหม่ออะไร?” พี่แบงค์ล้างจานเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังล้างมือ
“เปล่าครับ”
“ สงสัยเหรอว่าทำไมไอ้วุฒิไม่มาสักที”
“ ไม่ใช่ ครับ”
“… ……….………” พี่แบงค์เงียบ
“ ครับ” ผมยอมรับ แต่ที่สงสัยเพราะความฝันเมื่อกี้ทำให้เป็นห่วงพี่วุฒิโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ใจมันเต้นแปลกๆทำให้กังวล
“ โทรไปมันก็ไม่รับ ตอนนี้พี่ชนะกำลังไปคอนโดไอ้วุฒิว่ามีอะไรหรือเปล่า” พี่แบงค์ว่า ก่อนที่จ้องหน้าผม
“ครับ” ผมก้มหน้าลงและหันหน้าเสไปอีกด้าน เหมือนพี่แบงค์มองออกว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
เสียงครืดๆ ทำให้พี่แบงค์หันไปมองโทรศัพท์พี่เขากำลังสั่นเพราะมีคนโทรเข้า
“ เออ ชนะ?” พี่แบงค์ว่าก่อนที่จะนิ่ง คิ้วเริ่มจะขมวดและส่อแววตึงเครียด
“………….………” ผมมองอย่างสงสัย
“ ตอนนี้ไอ้วุฒิอยู่โรง-บาลไหน?” พี่แบงค์ถามหันมาสบตากับผม
พี่วุฒิอยู่โรงพยาบาล เกิดอะไรขึ้นกับพี่วุฒิ!? ผมใจคอไม่ดีเลย
พี่วุฒิเป็นอะไร อยากจะถามซะเดี๋ยวนี้ แต่พี่แบงค์ก็ยังนิ่งเงียบฟังพี่ชนะอยู่
พี่แบงค์กดโทรศัพท์หยุดการคุย
ผมถามทันที
“ พี่วุฒิเป็นอะไรครับ!?” ผมถามด้วยความร้อนใจ
“ ไอ้วุฒิ มันฝ่าไปไฟแดงทำให้ชนกับรถที่วิ่งมาอีดเลน รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่รู้” พี่แบงค์บอก ผมเซ ขาทรงตัวไม่ได้ พี่เขาเข้ามากอดพยุงผม
“………….……พี่ วุ ฒิ…”เสียงสั่น ยิ่งหัวใจด้วยแล้วยิ่งสั่นไหวเหมือนจะหยุดเต้น
“ ไอ้วุฒิไม่เป็นไรมาก เดี๋ยวเราไปหามันที่โรงพยาบาลกัน” พี่แบงค์บอกลูบหลังผมเบาๆ
“ เพราะผมใช่ไหมครับ?พี่วุฒิขับรถมาหาผมที่นี่ใช่ไหมครับ?” ผมถาม
“………….………” พี่แบงค์เงียบ
ผมคงพูดถูก
“ เพราะผม เพราะผม เพราะผม ถ้าไม่ใช่เพราะผม พี่วุฒิก็คงไม่….……… ” ผมว่า น้ำตาคลอ
“ ถ้าเพราะจุม ก็เพราะพี่ด้วยที่พาจุมมาที่นี่” ผมส่ายหน้าว่าไม่ใช่เพราะพี่แบงค์ หรือใคร แต่เพราะผมเอง ถ้าผมไม่มากับพี่แบงค์ พี่วุฒิก็คงไม่ประสบอุบัติเหตุแบบนี้
“…….…ฮือๆ ” พี่ครับอย่าเป็นอะไรนะครับ
อย่าเป็นอะไร
ผมรักพี่ อย่าเป็นอะไร ผมรักพี่
ผมรักพี่คนเดียว
ต่อไปนี้ผมจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว แม้ว่าพี่จะทำอะไรกับผมก็ตาม
“…….…ฮือๆ…….…”
# . #
ผมวิ่งไปยังห้องด้านในสุด พี่ชนะยืนอยู่หน้าห้อง
“ พี่ครับ พี่วุฒิเป็นยังไงบ้างครับ?!” ผมถาม ตัวยืนติดกับกับประตูแล้ว ผมมองเข้าไปในด้านผ่านช่องกระจกกรอบสีขาว มองเห็นคนที่นอนอยู่ด้านในชัดเจน
พี่วุฒินอนหลับตา ใบหน้าซีดจนคล้ำ หัวพันด้วยผ้สีขาว ลมหายใจที่วุฒิแผ่วเบาผ่านหน้ากากออกซิเจน ถุงสีใสบรรจุเลือด และอีกถุงเป็นน้ำสีใสกำลังหยด เชื่อมต่อกับพี่วุฒิด้วยสายยางเล็กๆ
“…………….” พี่ครับ อย่าเป็นอะไรนะครับ ผมอยู่ที่นี่กับพี่แล้ว ผมจะหนีไปไหนแล้ว
พี่อย่าเป็นอะไรนะครับ
“ อาการคงที่แล้ว แผลภายนอกภายในไม่ได้หนักอย่างที่เห็น แต่เสียเลือดมาก” พี่ชนะบอก ผมหันหน้าไปมองพี่ชนะเชื่อที่พี่ชนะพูด แต่ทำไมพี่วุฒิถึงยังนอนอยู่
“ แล้วคุณพ่อคุณแม่ไอ้วุฒิล่ะ?” พี่แบงค์ถาม
“ แม่ไอ้วุฒินี่เพิ่งออกจากโรง-บาลเพราะซ็อค หลังรู้เรื่อง และยิ่งมาเห็นสภาพไอ้วุฒิแล้วด้วย” พี่ชนะตอบ
“ แล้วเรื่องเป็นไง?”
“ ตำรวจตรวจสอบแล้ว รถไอ้วุฒิมันโดนตัดสายเบรก พอไฟแดงรถมันก็หยุดไม่ได้ ก็เลยชนกับรถที่วิ่งมา และมันก็ขับรถเร็วอย่างที่รู้ๆกัน ”
รถพี่วุฒิโดนตัดสายเบรก!?นี่จะเล่นกันถึงตายเลยหรือไง!?
“ ตำรวจกำลังตรวจสอบ นี่กรูยังโดนสอบไปด้วย ศัตรูไอ้วุฒิมีเป็นร้อย ใครก็น่าสงสัยหมดแหละ” พี่ชนะว่าดูหงุดหงิด
“ อย่าให้กรูว่าใครทำเพื่อนกรู จะเอาให้ตายไม่ตายก็ไม่แก่คอยดู ” พี่ชนะว่า พี่แบงค์ตบไหล่พี่ชนะเบาๆ
หูผมฟังพี่ชนะ สายตาจ้องมองเข้าไปด้าน ผมมองพี่วุฒิ…………
“…………พี่ ครับ….” ผมเรียกพี่วุฒิถึงม้ว่าพี่เขาจะไม่ได้ยินก็ตาม มือผมลูบกระจกครั้งแล้วครั้งเล่า หากมองจากมุมของผม ผมกำลังลูบหน้าพี่เขา
“…………….”
พี่ครับ พี่วุฒิ หายเร็วๆนะครับ
แล้วอยู่ในห้องก็วุ่นวายขึ้นมา พยาบาลวิ่งมาที่เตียงพี่วุฒิและอีกหลายคน ม่านถูกดึงปิดช่องกระจกโดยทันที
“ พี่ครับ!?” ผมร้องจะเปิดประตูให้ได้ แต่ประตูถูกล็อคไว้
“ จุม อย่า” พี่แบงค์ว่าลากตัวผมห่างจากประตู
“ พี่วุฒิครับพี่แบงค์ พี่วุฒิแย่แล้ว” ผมว่าน้ำตาไหลทะลัก พยายามจะไปที่ประตูอีกครั้ง อย่างน้อยผมก็อยู่ใกล้พี่วุฒิมากกว่านี้
“ จุมสงบสติอารมณ์ก่อน”
“ แต่พี่วุฒิ พี่วุฒิ”( ผมส่ายหน้า)
“ หมอก็บอกแล้วว่าไอ้วุฒิมันไม่เป็นอะไร”
“………….………” ผมส่ายหน้าไม่เชื่อที่พี่แบงค์พูด ถ้าพี่วุฒิไม่เป็นอะไรแล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่วุฒิ
“ แต่พี่วุฒิ!...... ”
“ เชื่อพี่! เชื่อพี่! พี่ไม่เคยโกหกจุม!” พี่แบงค์บอก จับไหล่ผม แล้วมองหน้าตรงๆ
“………….………”(พี่ชนะ)
“………….………คะครับ” คำพูดพี่แบงค์หนักแน่นในใจผม พี่แบงค์ไม่โกหกผมแน่นอน ผมเชื่อพี่แบงค์ว่าพี่วุฒิจะต้องไม่เป็นไร
“ ไอ้วุฒิมันไม่ตายง่ายๆหรอก” พี่ชนะว่ายิ้ม แต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม พี่เขาเป็นห่วงพี่วุฒิไม่ต่างจากผม
“ ครับ” ครับพี่ชนะ
พี่วุฒิบอกผมว่า ‘เราต้องอยู่ด้วยกัน’ เพราะงั้นพี่วุฒิต้องไม่เป็นไร
แต่ใจผมกลับไม่สงบเลย ผมหันกลับมองประตูที่ปิดสนิท ภายในนั้นไม่ส่งเสียงใดๆออกมา
“………….………”
.
.
.
.
พี่แบงค์จอดรถนานแล้ว แต่ผมยังนั่งจ้องบ้านตัวเองเหมือนไม่เคยเห็น
แม่
“………….………”
“ จุม” (พี่ชนะ)
“คะครับ” ผมหันไป (เบาะด้านหลัง)
“ มีอะไรให้พวกพี่ช่วยไหม?”
“ ไม่มีครับ ขอบคุณพี่ชนะและพี่แบงค์มากครับที่มาส่งผม”
“ พรุ่งนี้ไปหาไอ้วุฒิใช่ไหม?” พี่ชนะถาม
“ครับ”
“ เดี๋ยวพี่มารับ”
“ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไม่เอง” ผมรีบบอก พี่เขามาสงผมแล้วยังจะต้องมารับผมอีก ผไม่ได้เป็นอะไรไปเองได้
“ ไม่ต้องเกรงใจพี่ไม่ได้ลำบากอะไร”
“ แต่..”
“ ไม่มีแต่ เดี๋ยวพี่มารับ” พี่แบงค์พูดแทรกจริงจังจนผมไม่กล้าปฏิเสธ
“ครับ” ผมบอกพี่แบงค์ยิ้มเบาบาง
ผมขอบคุณพี่แบงค์กับพี่ชนะอีกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูรถออกมายืนหน้าบ้านตัวเองที่ไม่ได้กลับมา 3 ปี
รถญี่ปุ่นสีขาวจอดอยู่ในรั้วบ้าน แม่ก็คงอยู่ในบ้านด้วย ผมเอามือกดกริ่ง
กริ่ง กริ่ง
2 ครั้งแล้วยืนนิ่ง แต่ใจกลับว้าวุ่นที่จะได้เจอแม่
เจอหน้าแม่ผมจะพูดคำแรกว่าอะไรดี แล้วแม่จะพูดกับผมว่ายังไง จะโกรธผมไหม? จะคิดว่าผมเป็นลูกหรือเปล่า? ผมทำให้แม่ผิดหวัง
แม่ครับ
“………….………”
รั้วไม้พอมองเห็นคนที่กำลังเดินมาเปิดประตู
แม่ชะงักที่เห็นผม ก่อนที่จะวิ่งมาเปิดประตู ตัวผมเย็นน้ำตาเหมือนจะไหล
“………….………” แต่พอเปิดประตู แม่กลับยืนอยู่เฉยๆ ตาแม่จ้องผมไม่กระพริบ
“………….………” แค่ 3 ปีไม่คิดว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แม่ดูแก่ขึ้นมากกว่าที่ผมเคยเห็น สาเหตุนั้นมาจากผมอย่างแน่นอน
“ แม่ครับ” แม่ยังคงไม่พูดอะไรออกมา แล้วหน้าซีดๆของแม่ก็ค่อยมีน้ำตาไหลอาบลงมา
“ แม่ จุมขอโทษ” ผมว่าโผเข้าไปกอดแม่
“ จะจุม กลับมาแล้วเหรอลูก” แม่กอดผมไม่แน่นอย่างที่ผมต้องการ ผมจึงกอดแม่แน่นกว่าเดิม แม่ที่ตัวเล็กอยู่แล้ว ยิ่งผอมแบบนี้ ตัวแม่ราวกับแหลกไปกับตัวผม
“ ขอโทษครับ” ผมว่าร้องไห้จริงจัง
“ ขอโทษครับ ฮือๆ”
“………….………” ผมกับแม่กอดกันร้องไห้ไม่หยุด เหมือนร้องไห้เผื่อสามปีก่อนหน้านี้
ผมได้ทำร้ายคนคนหนึ่งที่รักและหวังดีกับผมที่สุด.…
# . # . #
7 วันแล้วทว่าพี่วุฒิยังไม่ฟื้น แต่ก็ออกมาอยู่ห้องผู้ป่วยปกติตั้งแต่ 3 วันที่ พี่วุฒินอนนิ่งเหมือนหลับปกติ
“…………………..”
ผมเปิดประตูระเบียงออกแล้วปิดม่านสีฟ้าอ่อนแทน ตอนเช้าๆแบบนี้อากาสดี ให้พี่วุฒิได้รู้ว่าเช้าจะได้ตื่นสักที
ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาอย่างที่ต้องการ
“ พี่ครับ อากาศดีมากเลยครับ” ผมบอกพี่วุฒิที่ยังนอนนิ่งอยู่ เดินไปติดขอบเตียง มองพี่เขาเงียบๆ
“…………………..” รีบตื่นขึ้นมาเถอะครับ อย่าใจร้ายกับผมมากกว่านี้เลย
รีบฟื้นขึ้นมาเถอะครับ คุณพ่อคุณแม่พี่ ท่านเป็นห่วงพี่มาก จนคุณแม่พี่จะไม่สบายตามอีกคน เมื่อวานพี่ชนะ พี่แบงค์ และจักรก็มาเยื่ยมพี่ พี่เอสก็มาก่อนที่จะกลับไปอังกฤษเมื่อเย็นวาน ผมก็อยู่ด้วยนะครับ
ผมจะอยู่กับพี่จะไม่ไปไหนจนกว่าพี่จะไล่ผมและไม่ต้องการผมแล้ว
# . # . #