
โล่งครับ ผลตรวจชิ้นเนื้อตับไม่ใช่มะเร็ง และมีเรื่องดีๆมาเล่าด้วยครับ หลังจากป่วยมานานหลายเดือน หุหุ ก่อนอื่นมาติดตามกันต่อดีกว่าครับ
กีตาร์ ตัวแม่ ตอนที่ 26 – 3
“ มึงไม่ต้องมาช่วยรับน้อง ” วันรุ่งขึ้นที่สโมสรฯของคณะ ไอนุมันพูดเสียงดังใส่อารมณ์ครับ เมื่อคืนนี้มันไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย มันคงจะโมโหจนพูดไม่ออก หรือไม่อาจกลัวจะกลายเป็นปะทะคารมกับผม
“ มีเรื่องอะไรน้องนุ ใจเย็นๆค่อยๆนั่งคุยกัน แค่นี้เราแทบจะไม่มีทีมงานแล้วนะน้องเอ้ย ” พี่จอมพยายามช่วยไกล่เกลี่ย มันหันซ้ายหันขวา แล้วดึงพี่จอมหายเข้าไปในมุมมืด หุหุ
“ น้องชายของพี่ มีเรื่องอะไรกันคะ ” พี่ดอกท้อเดินมาหาผมครับ ช่วงนี้สงบศึกรักร้าวกับพี่กรได้โดยสมบูรณ์ อารมณ์ดีเชียว
“ ปล่าวครับ แค่เจอแฟนเก่า ”
“ อุ๊ย ไหนว่าไม่เคยมีแฟนไง นายต้านี่คนที่สองเหรอ ” ไอนุคงเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพี่ดอกท้อ ผมไม่โทษมันหรอกครับที่ต้องหาคนช่วยบ้าง เพราะมันรับรู้เรื่องของพวกเราทุกคน การที่มันจะผ่อนคลายด้วยวิธีนี้ก็ไม่เป็นอะไร
“ ถ้าผู้ชายน่ะคนแรกครับ ”
“ ที่พูดมาเนี่ยผู้หญิงเหรอ ” ผมพยักหน้า พี่ดอกท้อกับผมที่จริงแล้วค่อนข้างสนิทกันครับ ก็พี่เขาเป็นหัวหน้าลีดเดอร์นี่
“ เรื่องนี้ พี่คงไม่กล้าพูดน่ะ แต่มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ ”
“ ขอบคุณครับ ” ขณะเดียวกันก็มีโทรศัพท์โทรมาถึงผมครับ
“ สวัสดีครับ ”
“ กีเหรอ ทำไมวันนี้ไม่โทรมาหาล่ะ ... ไม่สิของกีต้องเมื่อคืน ติดธุระเหรอ ” ไอต้านี่เอง เสียงมันเป็นห่วงเป็นใยผมเหลือเกิน เฮ้อ ไอต้า ทำไมเวลานี้มึงถึงไม่อยู่ข้างๆกูนะ
“ ไม่มี แล้วต้าล่ะเป็นไงบ้าง ”
“ แม่เข้ารักษาแล้ว เป็นไปได้ว่าต้องผ่าตัด เนี่ยกำลังจะเดินกลับที่พัก ” อาการของท่านคงหนักอย่างที่เดากันครับ
“ ต้า ... มึงเคยมีแฟนไหม ก่อนที่จะคบกันน่ะ ”
“ หืม ทำไมถึงถามขึ้นมาล่ะ ” เพื่อนเก่าของผมรู้หมดทุกคนและพวกมันไม่เคยเอามาล้อผมครับ ต้ามันคงไม่รู้หรอกนะว่า ผมเคยมีแฟนคนหนึ่ง
“ แบบว่า มีคนถามมาน่ะ ” ขอโทษนะเว้ย ขืนผมเล่าไปว่าเป็นเรื่องของผม ไอต้าได้คิดมากตายเลย
“ มีสิ ”
“ ถ้ามึงเลิกกับเขา แล้วจู่ๆต้องมาเจอกันอีก มึงจะทำยังไง ” ต้าเงียบไปครู่หนึ่ง
“ โทษที ขึ้นรถเมล์น่ะ ... ถามว่าทำยังไงเหรอ ต้าจะต้องทำอะไรล่ะ ในเมื่อต้าไม่ได้รักเขาแล้ว ” เออแฮะ สถานการณ์มันต่างกัน มันทิ้งคนอื่น ส่วนของผมนั่นถูกทิ้ง
“ ไม่มีอะไรแน่นะกี ”
“ ไม่มีๆ อะไรเนี่ย สงสัยเหรอห๊ะ ” ผมต้องแกล้งดัดเสียงขู่ ไอต้าหัวเราะชอบใจ มันบอกว่าดึกแล้วเกรงใจคนในรถโดยสาร ขอวางสายก่อน ก่อนวางสายยังย้ำให้ผมอ่านจดหมายที่ฝากไว้ต่อไปด้วย
“ มึงมีเรียนกี่โมง ” ไอนุเดินออกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมดเลยครับ
“ สิบโมงครึ่ง ... ทำไม ” มันเอากระดาษใบเล็กๆยื่นให้ผม
“ ไปร้านถ่ายเอกสารให้หน่อย ” เออ จะใช้ก็ไม่บอกตรงๆ ผมรับมาอย่างว่าง่ายแล้วเดินออกไปที่ร้ายถ่ายเอกสาร พอเดินออกมาเจอกับพวกปีหนึ่งหลายคนครับ ส่วนมากมันเคารพผมมากขึ้น หึหึหึ ไอรับน้องมันดีแบบนี้เอง
“ พี่กีตาร์ครับ ” ไอหมีควายเจ้าเก่าทักผม
“ เออ เรียกพี่กีก็ได้ มีอะไร ”
“ วันนี้พี่ว่างไหมครับ ” มาแปลกว่ะ
“ มีอะไรล่ะ ”
“ คืออยากให้ช่วยแนะนำการเรียนหน่อยน่ะครับ ” หน้ามึงไม่เข้ากับเรื่องที่พูดออกมาเลยนะ เหอะๆ
“ เรียนภาคอะไรล่ะ ”
“ บัญชีครับ ” ภาคเดียวกับกูอีก
“ อืมๆ คงแนะได้เท่าที่รู้นะ เพราะไม่เก่งอะไร ” น่าจะไปถามไอนุมากกว่า
“ ปุ๋ยบอกว่าพี่เก่งมาก แบบนี้แหละ คนเก่งชอบถ่อมตัว ” อึ่ก !!!
“ ผมเรียนคนละที่กับพี่ แต่เคยไปดูงานกีฬาของโรงเรียนพี่ ผมจำตอนพี่เต้นลีดเดอร์ได้ด้วย ” ไอหมีนี่มันคุยดีออกครับ เสียงก็น่าฟัง หน้าตาก็ เอ่อ ... มันจะไม่ดีแล้วล่ะ เริ่มคิดอะไรอกุศล
“ งั้นเย็นๆสักบ่ายสามครึ่ง ผมมารอที่นี่นะครับ หรือพี่สะดวกที่อื่น ”
“ หน้าร้านหนังสือดีกว่า ซื้อหนังสือก่อน เรื่องแนะนำไว้ทีหลัง ไปล่ะ มีธุระ ” ผมเอาเอกสารที่คณะฝากถ่ายกลับมาที่สโมสรฯ ปกติถ้าไม่ฝากเอาไว้ต้องยืนรอนานมากๆ (ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเป็นแบบนั้นไหม เหอะๆ)
“ นุเว้ย กูไปรอเรียนเลยนะ ”
“ เออ เย็นๆเจอกัน ”
“ ลิงๆ กูว่าจะไปช่วยรุ่นร้องเลือกหนังสือ ” มันหันมาหาผมทันที
“ รุ่นน้องท้องติดกันของมึงหรือปล่าว ”
“ บ้าดิ ไม่ใช่ปุ๋ย ไอท็อปน่ะ ” มันยิ่งทำหน้าเป็นลิงช่างสงสัยกว่าเดิม
“ เดี๋ยวนะ ไหนว่าไม่ชอบหน้ามัน แล้วจะไปทำไม ” ถามมีเหตุผล
“ มันเรียนภาคเดียวกับกู เลยว่าจะไปเป็นเพื่อน ”
“ คล้ายๆสมัยมึงกับไอต้า ก่อนจะคบกันเลย ว่าไหม ” อ้าวๆ ไอนี่มันจะพาลไปเรื่องไอต้าจนได้
“ ไม่มีหรอกน่า มึงอะคิดมาก ไปนะเว้ย ”
ผมเดินไปเรียน พอหมดคาบ ผมเดินไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกลาง นึกขึ้นได้ว่ากลุ่มเพื่อนๆน่าจะว่างด้วย เลยโทรหากันครับ
“ แกมาโรงอาหารคณะวิทย์ได้ไหมอะ เราอยู่นี่กัน ” จูนบอกว่าอย่างนั้นครับ
“ ได้ๆ รอเดี๋ยวนะ ”
“ พี่กี !!! ” ใครเรียกกูวะ
“ ไอท็อป ไม่มีเรียนเหรอ ... ” คนที่เดินตามมาไม่ใช่ใครครับ คือปุ๋ยนั่นเอง
“ กูมีธุระกับเพื่อนว่ะ เจอกันตอนเย็นนะ ”
“ พี่ ! ” ไอท็อปพยายามเรียกผม แต่ไม่แล้วครับ ผมไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนี้ เวลาอยู่ใกล้ทีไร พาลให้ผมนึกไปต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะความชอบของผม การที่ได้คบกับไอต้า และที่สำคัญที่สุดผมกลัวใจตัวเองครับ กลัวว่าผมจะยังมีความรู้สึกกับปุ๋ยอยู่
“ กีจัง เป็นอะไร ทำไมนั่งเงียบ ” ยัยจูนถามผม หลังจากที่มาถึงโรงอาหารคณะวิทย์แล้ว
“ นั่งเงียบนี่ผิดเหรอ ”
“ ก็ปกติเธอไม่ยอมหุบปากเลยนี่ พูดตลอดอะ ” ไม่น่าถามเลย กัดผมประจำ
“ คิดถึงต้าเหรอ ” ซองถามผมครับ
“ คิดก็คิดน่ะ แต่ไม่ได้กลุ้มเรื่องนั้น ” ไอพลหูผึ่งทันที มันวางช้อนวางส้อม
“ มีอะไรคิดมาก เล่าให้เพื่อนฟังดิ ”
“ กูเจอแฟนเก่าว่ะ เขาเป็นรุ่นน้องเรานี่แหละ ”
“ คนเมื่อคืนแน่นอน ใช่ไหมมึง ” มันรู้ครับ
“ สวัสดีคร้าบ เพื่อนๆ ... กีตาร์ !!! ” ไอเบสมาอีกคน ตอนนี้อยู่กันครบแล้วครับ
“ มึงมาช่วยแก้ปัญหาหัวใจของเพื่อนที ” คนที่มาใหม่ เปลี่ยนรูปลักษณ์เยอะเลยครับ การแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม อย่างว่าแหละ ศิลปินอะนะ
“ ปัญหาอะไรล่ะ ”
“ เจอแฟนเก่าแล้ว เกิดหวั่นไหว ” ไอพลพูดให้เสร็จสรรพ
“ ไม่ใช่เว้ย ไม่ได้หวั่นไหว ” แต่มันพูดไม่ถูกตรงที่ว่าหวั่นไหว
“ โกหกๆ ไม่หวั่นไหว มึงไม่นั่งหม่นหมองแบบนี้หรอก ไอต้าไม่อยู่ด้วย มึงกลัวจะเขวไปชอบคนเก่าใช่ไหมล่ะ ”
“ อีพล อีบ้า พูดระวังปากหน่อยสิยะ ” มันพูดเป็นชุดๆ ตรงเข้าทิ่มแทงหัวใจผมอย่างจัง
“ ถูกของมันอะจูน ” ผมบอกจูน ถึงตอนนี้ผมต้องยอมรับความจริงได้แล้ว จูนส่งสายตาเห็นใจให้ ผมยิ้มตอบ
“ มึงว่าไอตัวใหญ่ๆนั่นอะ เป็นยังไง ” ไอพลว่าต่อ
“ ไอท็อปน่ะเหรอ ”
“ ใช่ กูว่าสองคนนั้นตั้งใจทำบางอย่างกับมึงนะ ” มันพูดให้ผมสงสัยมาก ไอท็อปนั่นจะมีอะไรได้
“ ฉันเห็นด้วยนะกี ปกติเพื่อนหญิงชายไม่ชวนกันไปดูหนังสองต่อสองหรอก ”
“ นี่กะจะรู้เรื่องกันแค่สามคนใช่ไหมเนี่ย ” ไอเบสนั่งฟังอยู่นาน บ่นออกมา เหอะๆ
“ มึงฟังเอาสิวะ แม่งไม่ยอมไปดูหนัง เอาแต่ซ้อมดนตรี ” ไอพลพูดกับเบส
“ เออพูดถึงซ้อมดนตรี ไอกี มีรุ่นน้องโรงเรียนแกคนหนึ่ง คณะเศรษฐศาสตร์ มันถามถึงไอนุว่ะ ”
“ ไอกลหรือปล่าว ” ไอเบสพยักหน้า เท่านั้นแหละผมนั่งหัวเราะท้องขดท้องแข็ง
“ มึงเป็นอะไรวะ ”
“ ฮ่าๆ น้องมันชอบไอนุอะ ตามรังควานไอนุตั้งแต่สอบเข้าแล้ว มึงจำพี่บอลได้มะ พี่แกเลยบอกว่าถ้าจับได้ว่าแอบคุยกัน จะลงโทษมัน ” วิธีลงโทษอย่าให้พูดถึงเลยครับ
“ เลยหนีหน้าว่างั้นเถอะ ” ไอซองคุยบ้าง
“ ใช่ ... แต่มึงมีเบอร์ของมันไหมเบส ” ผมมีเรื่องจะถามไอกลนิดหน่อยครับ ไอคนนี้เป็นอดีตประธานนักเรียนรุ่นน้องผมด้วย หน้าตาน่ารักผสมกับเข้มนิดๆ แต่ดันต้องมนต์สะกดของไอลิงซะได้ เหอะๆ
“ มึงไปกับกูเลยดิ กำลังจะขึ้นไปหาพี่ๆพอดี ” มันหมายถึงชมรมของมันน่ะครับ ผมนั่งกินข้าวกับคุยกันอีกนิดหน่อย ก่อนจะไปที่ชมรมกับไอเบส
“ ... สวัสดีครับ ” ไอกลกำลังนั่งจับกีตาร์ พอเห็นหน้าผมสองคนก็รีบยกมือไหว้ มันอาจจะจำผมไม่ได้หรอกครับ แต่คงเห็นว่ามาด้วยกับไอเบส
“ รุ่นพี่มึงน่ะ มีอะไรจะคุยด้วย ” ผมเดินไปนั่งข้างๆไอกล ส่วนไอเบสคงไปทำธุระของมัน
“ พี่ชื่อกี เป็นเพื่อนไอนุ ”
“ พี่เป็นลีดใช่ปะ ” มันจำได้ด้วยแหละ ฮ่าๆ ใครว่ากูไม่ดัง
“ อืม มีอะไรจะถามหน่อยว่ะ ว่างไหม ”
“ ว่างพี่ ถามมาเลย ... แต่พี่ต้องบอกผมเรื่องพี่นุด้วย ” มีแลกเปลี่ยนอีกไอนี่
“ โอเคๆ มึงรู้จักผู้หญิงชื่อปุ๋ยของโรงเรียนหญิงล้วนไหม ”
“ โห มันหลายคนนะพี่ อีกอย่างถ้าไม่ทำกิจกรรม ไม่ได้เจอกันหรอก ” ผมนึกไว้แล้วว่ามันต้องพูดทำนองนี้ ผมหยิบรูปที่เคยถ่ายด้วยกันเมื่อประมาณสามปีที่แล้วให้ไอกลดู รูปที่ผมเก็บไว้กับตัว
“ อ๋อๆ เด็กศิลป์คำนวณทับเก้าพี่ ... ไปถ่ายรูปด้วยกันได้ไง เป็นพี่น้องกันเหรอครับ ” มันซื่อหรือว่าโง่วะเนี่ย
“ แฟนเก่าพี่เอง ”
“ พี่จะกลับไปคบกันเหรอ ” ไอนี่ไม่รู้เรื่องผมกับไอต้านี่หว่า ไอนุมันไม่ได้เล่าให้ฟังแน่เลย
“ ไม่ว่ะ แค่อยากรู้ว่าเขาทำตัวยังไง หลังจากเลิกกัน ” ไอกลวางกีตาร์ลง แสดงว่ามันมีอะไรเล่าให้ผมฟังเยอะครับ
“ มะรืนนี้จะมีเลี้ยงน้องจังหวัด พี่ไปรอถามจากคนอื่นก็ได้ ”
“ เลี้ยงน้องอะไร กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย ”
“ ถามพี่นุสิพี่ อ่อ แล้วอย่าลืมเรื่องพี่นุนะพี่ ” มันยิ้ม
“ ขอบใจมาก กูไปนะ ” ผมตบไหล่มันสองสามทีแล้วออกมา
ไอลิงตัวนี้ไม่ยอมเล่าเรื่องเลี้ยงน้องจังหวัดครับ น่าโมโหจริงๆ ช่วยบ่ายผมมีเรียนถึงบ่ายสามโมงครับ เลยยังไม่โทรหาไอนุ ผมรอจนเรียนเสร็จถึงเดินกลับมาที่คณะ ไอลิงนุนั่งหลับอยู่ตรงโซฟาครับ
“ ไอนุๆ ตื่นๆๆ ” มันสะลึมสะลือ
“ อะไร ”
“ จะมีเลี้ยงน้องจังหวัดเหรอ ทำไมไม่บอกกูเลยอะ ” ไอนุมองซ้ายมองขวา
“ ที่ไม่บอก เพราะไม่อยากบอก ”
“ พูดจาอะ เร็วๆบอกมา ”
“ ตอนแรกว่าจะบอกวันนี้แหละ แต่ตอนนี้กูไม่อยากให้มึงไปเจอปุ๋ย เหตุผลมีแค่นี้ ” งอนมันนะครับที่ไม่ยอมบอก แต่ว่ามันทำไปเพราะเป็นห่วง ไม่รู้จะพูดยังไง
“ วันนี้กูเจอไอกลด้วย ”
“ ว่าไงนะ ! ” โอ้โห ตกใจขนาดนี้เลย เหอะๆๆ
“ กูไม่ได้บอกอะไรมันเลย ไม่ต้องห่วง ” พอพูดไป ผมเพิ่งนึกได้ว่า มันมีข้อแลกเปลี่ยนกับผม เหอะๆ ขอให้มันลืมๆไปเหอะ ไม่อยากทำให้ไอลิงไม่สบายใจ
“ ... รอคุยกับพี่จัสก่อน ถ้าพี่เขาไปด้วย มึงก็ไปกับกูได้ ” ไอนุพูด
“ ทำไมต้องพี่จัสล่ะ ”
“ เผื่อมึงแอบทำอะไรไม่ดี เขาจะได้เตือน ” มันนี่ชอบวางแผนจริงๆ
“ เออนุ กูไปซื้อหนังสือก่อนนะ ” มันพยักหน้า แล้วหลับต่อ
พอถึงเวลาที่นัดกัน ผมเดินมาที่ร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย ไอท็อปยืนรออยู่แล้วครับ ผมสองคนเดินเข้าไปในร้านเพื่อดูหนังสือกัน
“ พี่ พี่ติววิชานี้ให้ผมหน่อย ” ไอท็อปหยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง วิชาคือวิชาที่ผมเกือบตกตอนปีหนึ่งครับ ช่วงที่มีปัญหาชีวิตนั่นแหละครับ
“ เกือบตกๆ ไปหาคนอื่นเหอะ ”
“ อาจารย์เล่าให้ผมฟังว่าพี่ทำคะแนนปลายภาคสูงมาก ทำไมชอบถ่อมตัวจังอะพี่ ” อะไรวะ
“ อาจารย์บอกเรื่องกูเหรอ ”
“ ไม่ครับ แกเล่าถึงนิสิตคนหนึ่ง ผมเลยไปถาม ” สอดรู้จริงๆไอนี่
“ เนี่ย มึงลองเอาไปทำดู ฟังที่อาจารย์เขาเน้นด้วย แล้วไม่ต้องไปเรียนพิเศษนะ เดี๋ยวเคยตัว ” เพื่อนผมคนหนึ่งครับ มันชอบไปติวกับพวกรุ่นพี่ ติวแบบเสียเงิน จนเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นคนทำอะไรเองไม่เป็นเลยครับ
“ พี่ช่วยผมติวดิ แล้วจะไม่ไปเรียน ”
“ ตามใจเหอะงั้น ”
“ ไม่เอาใจใส่น้องเลย ” ผมหันกลับมา มันยืนยิ้มหัวเราะผม น่าเตะนะมึงเนี่ย
“ ไปจ่ายเงินได้แล้ว ” มันรีบไปจ่ายเงิน และเดินมารอข้างนอก ไม่นานมันก็ตามออกมา
“ พี่เลิกกับปุ๋ยได้ยังไงครับ ”
“ อะไรนะ ” มันถามคำถามนี้ แสดงว่ามันรู้เรื่องนี้ดี ปุ๋ยคงบอกกับมัน
“ มึงอย่ารู้ดีกว่า ”
“ ทำไมล่ะครับ ” มันนี่นะ
“ ฟังนะ กูเป็นแฟนกัน พอกูไม่ค่อยว่าง เขาก็เลิกกับกู ” ถ้าไม่เล่า เดี๋ยวมันก็เซ้าซี้ผม
“ พี่ห่างเหินกับเขา มันไม่ต่างกับคำขอบอกเลิกนะครับ ” มันพูดให้ผมคิดเลยครับ ช่วงนั้นผมห่างกับปุ๋ยไปเอง โดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ
“ ถ้าพี่อยากปรับความเข้าใจ ... พี่เอาเบอร์ของปุ๋ยไป แล้วคุยกัน ” มันยื่นกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์จดไว้ให้ผม
“ ขอบคุณเรื่องหนังสือครับ แล้วจะมาให้ช่วยติว ” ผมไม่ทันได้ถามว่า ทำไมมันถึงต้องช่วยกันขนาดนี้ มันก็ไปซะก่อน ผมควรโทรไปหาเขาไหมนะ เราควรจะปรับความเข้าใจกันหรือปล่าว ทุกอย่างจะเหมือนเดิมไหม จากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เฮ้อ