มาแล้วค่ะ...ตอนใหม่..
ตอนนี้จูนอยากขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนิดหน่อย ในฐานะที่เป็นคนนอก..แต่ก้อเป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกันกะนายแทน
นายแทน...โดยพื้นฐานก้อเป็นหนุ่มต่างจังหวัดแถมยังต่างอำเภอด้วย..ตอนแรกเรียนจบแค่ ปวส.ทำงานเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซด์ โดยรวมก้อเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีอะไรโดดเด่น
พอมีแฟน ...แฟนก้อมีเหนือกว่าทุกอย่าง ไม่ว่าฐานะ หน้าที่การงาน พื้นฐานครอบครัว
ไอ้รักกันมันก้อรักแหละนะคะ แฟนก้อไม่เคยดูถูก ครอบครัวแฟนก้อไม่เคยดูถูก มันก้อดูน่าจะมีความสุขดี
แต่บางครั้ง.....แทนเค้าอาจจะรู้สึกว่ายังขาดอะไรไปบางอย่าง..
บางอย่างที่แม้แต่เจ้าตัวเองอาจจะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
ต่อมา..เมื่อแทนเรียนจบ...กลายเป็นวิศวกรหนุ่ม..ใครๆก้อชื่นชม..เริ่มไม่ได้เป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาๆแล้ว
แฟนก้อยังคงรักเหมือนเดิม ชีวิตก้อยังดูเพรียบพร้อมเหมือนเดิม
แต่ในใจลึกๆเค้าก้ออาจจะรู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่างอยู่เหมือนเดิม
แต่พอมีผู้หญิงคนนึงเข้ามา แสดงความชื่นชม แสดงความอ่อนแอ.......ให้เรามีโอกาสได้ช่วยเหลือ
แสดงความปลาบปลื้มชื่นชมในสิ่งที่เรามี เราเป็น ส่วนนี้มันคงไปกระทบ บางสิ่งที่ฝังอยู่ในใจลึกๆของแทน
บางสิ่งที่ว่า มันคงเป็นความรู้สึกภูมิใจ ว่าเราได้เป็นผู้ให้ เราได้เป็นผู้ปกป้อง เราได้เป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า
และความรู้สึกของการได้เป็นพระเอก ซึ่งน่าจะเป็นความรู้สึกลึกๆของผู้ชายทุกคน....
ทำให้แทนหลงติดอยู่กับความรู้สึกนี้ชั่วขณะ โดยที่แทนอาจจะไม่ได้คิดอะไรในทางชู้สาวกับผู้หญิงคนนั้นเลยก้อได้
อยู่ที่ว่าความหลงในความรู้สึกนี้..จะอยู่นานแค่ไหน...แค่นั้นเอง

อ่านแล้ว..งง..งง..กันมั้ยคะ..จูนก้อ..งงค่ะ
เอาเป็นว่าไปอ่านตอนใหม่กันดีกว่าคะ ...จะได้หายงง 555
++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 49 ...แค่เพื่อน...จริงๆครับ
จากวันนั้น ก้อยก้อติดรถผมไปกลับเกือบทุกวัน แต่เฉพาะวันที่ผมเข้ากะเช้านะครับ
แต่ถ้าวันไหนผมขึ้นกะบ่ายก้อต่างคนต่างไปครับ
วันแรกๆที่ไปด้วยกันก้อมีคนมองๆบ้างแต่ผมไม่สนใจครับ ผมถือว่าผมไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้ามีคนถามว่าผมกับก้อยเป็นอะไรกัน ผมก้อยินดีตอบครับ ว่าผมกับก้อยเป็นแค่เพื่อนกัน ที่มาด้วยกัน ก้อเพราะก้อยขอติดรถผมมาแค่นั้นเองครับ
เรื่องที่ก้อยขอติดรถไปกับผม ผมก้อเล่าให้คุณกรฟังนะครับ ไม่อยากปิดบังอะไร เพราะผมคิดว่ามันไม่มีอะไร
คุณกรก้อบอกว่า .....ดีแล้ว ผมจะได้มีคนนั่งไปเป็นเพื่อน ไม่อย่างนั้น ถ้าบางวันผมล้าๆผมอาจจะเผลอหลับในได้
เห็นมั๊ยครับ ว่าแฟนผมใจดีและมีเหตุผลแค่ไหน เรื่องแค่นี้คุณกรไม่เอามาคิดมากให้เสียเวลาหรอกครับ
แต่ตอนท้ายคุณกรก้อยังไม่วายทิ้งท้ายไว้ให้ผมสะดุ้งเล็กๆครับว่า
ถ้าแค่เพื่อนขอติดรถไปด้วยก้อไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอะไรมากกว่านั้น................ตายทั้งคู่ .......
.หงะ....ตอนแรกก้อดูเหมือนใจดีมีเหตุผล..แต่ตอนท้ายไหงมันดูโหดๆวะ
ตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่เราไปกลับด้วยกัน ผมกับก้อยก้อได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น
ผมรู้สึกว่าก้อยเป็นผู้หญิงที่เก่งมากเลยครับ
ผู้หญิงตัวคนเดียวต้องดูแลแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรงกับน้องที่ยังเรียนอยู่ เป็นภาระที่หนักเอาการครับ
แต่ก้อยก้อยังไม่ท้อ ยังหัวเราะ และยิ้มได้ เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
ทำให้ผมรู้สึกทึ่งกับผู้หญิงคนนี้มากครับ
เราคุยกันเรื่องแฟน......ก้อยเล่าให้ฟังว่าก้อยเคยมีแฟน และรักกันมาก แต่แม่ของแฟนไม่ชอบที่ก้อยไม่ใช่คนร่ำรวย
แถมยังมีแม่กับน้องเป็นภาระอีก แม่ของแฟนที่เป็นคนจีนฐานะดีก้อเลยไม่ชอบก้อย และแสดงอาการรังเกียจอยู่บ่อยๆ
จนสุดท้ายก้อยกับแฟนก้อต้องเลิกกันครับ
ผมก้อเลยเล่าให้ก้อยฟังเรื่องคุณกร แต่ยังไม่ได่บอกว่าคุณกรเป็นผู้ชายนะครับ
ก้อยก้อบอกว่าดีแล้วที่ผมไม่คิดมากเรื่องที่แฟนเก่งกว่า ฐานะดีกว่า มีทุกอย่างเหนือกว่า
มีผู้ชายน้อยคนที่จะยอมรับได้แบบนี้
ผมฟังก้อยพูดแบบนี้ผมก้ออดถามตัวเองไม่ได้ครับว่าผมทำใจยอมรับได้จริงๆงั้นเหรอ...
ผมเริ่มสนิทกับก้อยมากขึ้น บางวันที่คุณกรขึ้นเวรบ่าย ก้อยก้อชวนผมให้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยที่บ้าน แรกๆผมปฏิเสธครับ
แต่หลังๆผมก้อตกลงครับ เพราะคิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย และอีกอย่างถึงกลับบ้านไปก้อต้องทานข้าวคนเดียวอยู่ดี
แต่ผมกับก้อยคงสนิทกันมากเกินไป เพราะวันหนึ่งไอ้กันมันตัดสินใจพูดกับผมครับ
“แทน..กูถามมึงจริงๆเถอะ...มึงกับก้อยเป็นไรกันวะ...... ...”
“ก้อเป็นเพื่อน..ทำไม..มีอะไร...... ...”
“ปล๊าว..ถามดู..เห็นนั่งรถมาด้วยกันทุกวัน ...... ...”
“ก้อเค้าขอติดรถมา..กูเคยบอกแล้วงัย...... ...”
“ถ้ามันแค่นั้นกูก้อคงไม่ต้องมาถามมึงซ้ำหรอก...แล้วนี่พี่หมอเค้ารู้เรื่องนี้มั๊ยวะ...... ...”
“รู้..กูบอกเค้าตั้งแต่ตอนแรกๆแล้ว...... ...”
“แล้วเค้าไม่ว่างัยเหรอวะ...... ...”
“ไม่นี่......เค้าไม่คิดเล็กคิดน้อยแบบมึงหรอก...... ...”
“เออ...กูมันคิดเล็กคิดน้อย..แต่ก้อดีกว่าไม่คิดอะไรเลยแบบมึงหรอก. ...... ...”
“.เดี๋ยวก้อโดนผู้หญิงจับทำผัวไม่รู้ตัว………....... ...”
ประโยคหลังมันพูดเบาๆ แต่ผมก้อพอจับใจความได้ครับ
“ทำไม..มีอะไรวะ...กัน..ทำไมมึงดูคิดมากเรื่องนี้จัง ดูก้อยเค้าปกติไม่เห็นมีทีท่าอะไรกับกูเลย...... ...”
“ไม่มี..หรือมึงโง่ดูไม่ออก. ...... ...”
“.มึงรู้มั๊ย..วันก่อนกูขึ้นไปธุรการ เจอสาวๆเค้ากำลังแซวก้อยเรื่องมีแฟนเป็นวิศวกรหนุ่มหล่อ...... ...”
“มีรถหรูๆนั่งมาทำงาน กูก้อไม่เห็นก้อยเค้าปฏิเสธเพื่อนเลยนะเว่ย ...... ...”
“เค้ากลับทำหน้ายิ้มๆอายๆแล้วยังบอกอีกนะ ว่าเวลาเจอก้อยกับแฟนห้ามแซวแบบนี้นะ
เพราะแทนแฟนก้อยหนะขี้อาย...... ...”
“จริงเหรอวะ..ไม่มั้ง..มึงฟังผิดรึปล่าว กูก้อดูเค้าปกติดีนี่นา..ไม่เห็นว่าจะมีท่าทางอะไรกับกูเลย...... ...”
“ไม่เชื่อก้อเรื่องของมึง..กูเตือนไว้แค่นั้นแหละ ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวจะหาว่านินทาผู้หญิง...... ...”
พูดจบไอ้กันมันก้อเดินหนีไปเลยครับ..
ผมเก็บเอาคำพูดของกันมานั่งคิด ...หรือว่าก้อยจะคิดอะไรกับผม..แต่ไม่น่าจะใช่นะ
เพราะเท่าที่ดูเค้าก้อเป็นผู้หญิงค่อนข้างเรียบร้อย ..ไม่เคยมีท่าทีอะไรกับผม เวลาพูดคุยก้อดูเป็นแบบเพื่อนกัน
ดูไม่น่ามีอะไรเลยครับ
ผมยอมรับนะครับว่าก้อยเป็นผู้หญิงน่ารัก ในแบบที่ผมเคยชอบ
แถมเป็นผู้หญิงแกร่งตัวเล็กๆที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรคในชีวิตด้วยครับ
เวลาที่ผมช่วยเค้า เวลาที่เค้ามีปัญหา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อย เค้าก้อจะดูดีใจมากที่มีผมคอยช่วย
มันทำให้ผมอดรู้สึกปลื้มไม่ได้ครับ ที่เราสามารถเป็นที่พึ่งของคนๆนึงได้
ผมอยากมีโอกาสช่วยเหลือคุณกร เป็นที่พึ่งให้คุณกรบ้าง..............
แต่ก้อคงยากครับ เพราะคุณกรเค้าเก่งและเพียบพร้อมทุกอย่าง จนผมแทบจะไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลืออะไรเค้าเลยครับ
วันนี้ผมตัดสินใจจะลองถามก้อยดูเรื่องที่มีคนแซวว่าเราเป็นแฟนกัน..ดูซิว่าเธอจะตอบว่ายังงัยครับ
แต่ระหว่างขับรถกลับจากโรงงาน..คุณกรก้อโทรเข้าเบอร์ผมครับ
“........................................... ...”
“ครับ.....ที่รัก..... ...... ...” ขอหวานโชว์ก้อยหน่อยเถอะครับ..
“แทน...วันนี้เลิกกี่โมง..... ...... ...”
“เลิกแล้วครับ..กำลังจะกลับแล้ว..คุณมีอะไรครับ...... ...”
“ปล่าว ..พอดี วันนี้ชั้นต้องไปขึ้นเวรที่โรงบาล...ด่วนหนะ..มีเคสคอนซัลท์ใหม่เข้ามา...
เลยโทรมาบอกก่อนไม่อยากให้แทนรอ...... ...”
“ว้า..ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมก้อทานข้าวคนเดียวสิ... ...... ...”
“....แหมทำยังกะไม่เคยนะ.... ...... ...”
“เคยหนะเคยครับ..แต่ก้อยังอยากทานกับคุณมากกว่า...... ...”
“เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกัน.....อยากทานอะไรคิดไว้แล้วกัน เดี๋ยวเราไปทานข้าวข้างนอกกัน...... ...”
“ครับ........ ...... ...”
“งั้นชั้นไปทำงานก่อนนะ... ...... ...”
“ครับ..อย่าลืมทานข้าวนะครับ... ...... ...”
“ครับ.......... ...”
พอผมวางหู ก้อยก้อพูดขึ้นมาเบาๆครับ..
“ดูแทนรักแฟนมากเลยนะ ...... ...”
“ครับ..รักมาก...... ...”
“น่าอิจฉาแฟนแทนจังเลยนะ ทั้งเก่ง ทั้งรวย แล้วมีแฟน แฟนก้อรักมากขนาดนี้...... ...”
“อย่าอิจฉาเลยครับ ถ้าจะอิจฉา ควรอิจฉาผมมากกว่า..ที่โชคดี ได้เค้ามาเป็นแฟน...... ...”
“แทนดูให้เกียรติแฟนมากเลยนะ เรียกคุณทุกคำเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ดูห่างเหินกันเหรอ...... ...”
“ไม่นะครับ ก้อเป็นปกติ ผมก้อเรียกเค้าคุณ....แบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แต่ส่วนมากผมจะเรียกเค้าว่าที่รัก..มากกว่า 555...... ...”
“เหรอ..แล้วเค้าเรียกแทนว่าอะไร.... ...... ...”
“ส่วนมากก้อจะเรียกแทน..เฉยๆ
ถ้าบางครั้งเวลาผมทำอะไรให้เค้าโกรธ เค้าก้อจะเรียกไอ้บ้า..บ้าง..ไอ้ดำ..บ้าง..555...... ...”
“เหรอ...ฟังดูแปลกๆเนอะ ..แล้วแทนไม่โกรธเหรอ.. ...... ...”
“โกรธทำไม..ผมชอบจะตายเวลาที่เค้าเรียกผมแบบนี้.. ..เค้าเรียกแบบไหนผมก้อชอบทั้งนั้นแหละ.... ...”
“เหรอ..เป็นแฟนที่แปลกจังเลยนะ...... ...”
.......................................
…………………..
พอก้อยเห็นผมเงียบไปเธอก้อเปลี่ยนเรื่องคุยครับ
“ถ้าวันนี้แทนต้องทานข้าวคนเดียว..งั้นแทนไปทานข้าวเย็นบ้านก้อยแล้วกัน...... ...”
“ไม่เป็นไร.. อย่าดีกว่า ผมว่าผมไปทำอะไรง่ายๆทานดีกว่า...”
“ทำไมหละ...ไปทานด้วยกันดีกว่า..แม่กับยายกิ๊กบอกแล้วบอกอีกว่าให้ชวนแทนมาทานข้าวด้วย...”
"ไว้วันหลังดีกว่าครับ..วันนี้ผมอยากอยู่บ้านมากกว่า"
“อืมมม...งั้นตามใจแทนแล้วกัน...... ...”
+++++++++++++++++++++