มาแล้วค่า
อ่านตอนที่แล้วไป หลายคนคงรักน้องบิวตี้กันมากขึ้นเนอะ...
แต่มีหลายคนแอบเคืองน้องเลิฟที่ตอบน้องบิวตี้ไปว่าพี่เซฟเป็นแค่รุ่นพี่...
อ่านตอนนี้แล้วจะเข้าใจอารมณ์น้องมันนะคะ...
สองคนนี้เค้าชอบคิดเผื่อกันและกัน มันก็เลยทำให้บางครั้งมันสวนทางกันเอง...
ตอนนี้หลายๆ อย่างคงเคลียร์กันบ้างแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกๆ เม้นท์ ทุกๆ คนที่อ่านนะคะ เป็นกำลังใจมากมายค่ะ+++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 34 ปล้ำก่อนค่อยเคลียร์ วันนี้มันเป็นวันอภิมหาตัวปัญหาป่วนเมืองหรือไงกันฮะ!!!
ฝนก็ไม่ตกขี้หมูก็ไม่ไหลนะครับ คน...อะไร มันถึงได้มารวมตัวกันวุ่นวายกับชีวิตผมได้ทีเดียวพร้อมกันขนาดนี้....เริ่มจากน้องบิวตี้ ตอนที่เธอมาประกาศตัวว่าจะเป็นแฟนผม ผมก็งงๆ ปนขำๆ คิดแค่ว่า น้องมันคงพูดเล่นเอาฮาตอนรับน้อง อาจจะอยากเด่นๆ หน่อย เลยหา Gimmick ให้ตัวเองเป็นที่จดจำจากเพื่อนๆ พี่ๆ
แต่เปล่าเลย...ผมคิดผิด น้องบิวตี้เธอบุกถึงที่เลยฮะ มาถึงก็สาธยายความสนิทชิดเชื้อ งัดเรื่องเก่า ความทรงจำครั้งอดีตมาเล่าใหม่ให้คิดถึงกันอีกครั้ง...ผมน่ะไม่ได้คิดถึงหรอกฮะ บอกตามตรงลืมไปหมดแล้วจริงๆ แต่ผมน่ะสงสัยเรื่องของขวัญ และโปสการ์ดที่เธอพูดถึง...ผมไปส่งให้เธอตอนไหนกันล่ะ...แต่ผมว่าเรื่องนี้ป๊ากับม๊าดูเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด หม่าม๊าพูดเหมือนจะรู้เรื่องของขวัญอะไรนั่น ผมว่างานนี้มีเคลียร์ยาวแน่ครับ
อีกคนที่ผมต้องเคลียร์ก็คือแฟนผมนั่นแหละฮะ...ผมสงสารพี่เซฟนะครับ พี่เค้าไม่ได้มารู้เรื่องอะไรด้วยเลย อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาอ้างว่าจะมาเป็นแฟนของแฟนตัวเอง...แถมยังพูดข่ม ส่งสายตาเขม่นใส่ตลอดเวลา...ผมรู้นะครับ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าน้องบิวตี้เธอไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่เซฟ
จริงๆ ผมไม่ชอบใจนักหรอกครับที่จะมีใครมาว่าแฟนผม...ผมรักของผม ใครก็ห้ามมาแตะครับ แต่ที่ผมไม่สามารถออกฤทธิ์ออกเดชใส่น้องบิวตี้เธอก็เพราะว่าผมยังมีหลายๆ เรื่องที่ยังไม่เคลียร์ ผมยังไม่แน่ใจอะไรหลายๆ อย่าง ผมขอไปหาคำตอบ ไปเคลียร์กับป๊ากับม๊าก่อน เสร็จแล้วผมไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลแน่ฮะ...โทษฐานที่มาทำให้แฟนสุดเลิฟของผมอึดอัดใจ...
ผมว่าจริงๆ แล้วบิวตี้รู้ว่าผมกับพี่เซฟเป็นอะไรกันนะ...ก็ตัวติดกันซะขนาดนี้ แถมยังเดินคลอเคลีย กุ๊กกิ๊ก กันลงมาจากห้องนอนอีกต่างหาก...แต่ที่น้องบิวตี้เลือกมาถามเพราะคงคิดมาแล้วล่ะครับว่าผมกับพี่เซฟอาจจะไม่กล้าเปิดเผยตัวเองว่าคบผู้ชาย...
ตัวผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอกฮะ...ผมกังวลก็แต่พี่เซฟ ผมกลัวว่าพี่เซฟอาจยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยฐานะของเราสองคนต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน หรือคนคุ้นเคย ยิ่งสังคมในมหา’ลัย มันก็ไม่ได้กว้างเท่าไหร่ ผมก็กลัวว่าพี่เซฟอาจจะอายก็ได้ แต่เมื่อก่อนที่เราไปเที่ยวหัวหินแล้วเจอเพื่อนผม พี่เซฟก็กล้าบอกเพื่อนผมนะครับว่าพี่เขาเป็นแฟนผม หรือว่าเพราะเป็นเพื่อนผม ไม่ใช่คนรู้จักของพี่เขานะ เขาเลยกล้า
จะว่าไปเรื่องผมกับพี่เซฟก็มีรู้กันไม่กี่คนเท่านั้นนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ พี่น้องทางฝั่งผมซะมากกว่า...ผมเลยเลือกที่จะตอบน้องบิวตี้ไปว่าเราเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกัน อาจจะเพราะผมเห็นท่าทางอึกอักของพี่เซฟด้วยมั้งฮะ ผมว่าพี่เค้าคงลำบากใจพอควรที่จะตอบ ผมก็เลยตอบให้...
ก็น้อยใจนิดๆ เหมือนกันนะ ทั้งๆ ที่ผมเองไม่เคยคิดจะปิดบังใคร ไม่เคยคิดจะอายเลยครับที่มีพี่เซฟเป็นแฟน...แต่หลายครั้งก็ทำให้ผมคิดมากนะครับ อาจจะเพราะบาดแผลก่อนที่เราจะมาคบกันมันลึกและใหญ่พอที่จะทำให้นึกถึงทีไรก็อดจะแปล๊บๆ ไม่ได้เหมือนกัน...ก็เมื่อก่อนพี่เซฟไม่ได้ชอบผู้ชายนี่ฮะ กว่าที่พี่เค้าจะมาลงเอยกับผมได้ ก็แทบจะแตกหักกันไปอยู่แล้ว....เฮ้ออออ คิดแล้วเหนื่อยใจ
“เลิฟ...เลิฟ....ไอ้เชี้ยเลิฟ...”
“ไอ้เชี้ยน๊อต เสียงดังหาตั่วเฮียมึงเหรอ เดี๋ยวป้าเพ็ญศรีก็หันมาด่ายกโคตรหรอกมึง” ไอ้ห่าน๊อต เรียกซะตกอกตกใจหมดฮะ...
“ไอ้บ้า มึงแหกตาดูดิ๊ อาจารย์แกสอนจบ เดินกลับไปจิบยาหอมที่ห้องพักแล้วมั้ง เพื่อนๆ คนอื่นก็ทยอยออกจนจะหมดห้องอยู่แล้ว แกนั่นแหละ เป็นอะไร นั่งเรียนก็เหม่อ เรียกก็ไม่หือไม่อือ...เมนส์มาหรือไง” เดี๋ยวพ่อตบปากฉีก ถ้ากรูเมนส์มาป่านนี้กูท้องไปแล้ว เหอะๆๆ
“อ้าว...เหรอ แหะๆ เผอิญว่าคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ แล้วเดี๋ยวไปเรียนรวมวงใช่ไหมวะ” ผมพูดไปเก็บข้าวของไป รีบย้ายไปเรียนอีกวิชา
“กูว่าวันนี้มึงเมนส์ไม่ได้มาหรอก แต่มึงอาจเมายาคุม กูบอกมึงแล้วว่าให้พี่เซฟเขาใส่ถุงๆ ดูซิต้องเดือดร้อนมาให้เพื่อนกูกินยาคุมจนมึน...” ผลั่ว!!!! “โอ๊ย ไอ้เชี่ย ตบซะสมองกูสะเทือนเลย เจ็บนะมึงมือตีนหนักเล่น SM กันบ่อยอะดิคู่มึงอ่ะ” สงสัยอยากแดกตีนจริงๆ ไอ้เชี้ยน๊อต
“นอนลงดิ กูจะได้ SM กับมึงได้สะดวกหน่อย ลองดูไหม แต่กับมึงเนี่ย กระทืบล้วนๆ นะ sex ไม่เกี่ยว เดี๋ยวกูก็เหยียบปากเลยนี่ปากดีนัก... อ้าวไอ้ตาลมึงจะยืนขำอีกนานไหม ไปๆๆ เร็ว เดี๋ยวเข้าห้องไม่ทันเช็คชื่อนะมึง” ไอ้ห่าตาลก็อีกคน หน้าตาน่ารักซะเปล่า หัวเราะเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน ใครเขาจะมาเอามึงไปทำเมียล่ะเนี่ย
“เลิฟเอ๊ย!!! เมื่อเช้าอาจารย์พลก็เข้ามาแจ้งแล้วนี่ว่าวันนี้แกยกเลิกคลาส นี่แกเมายาคุมอย่างที่ไอ้น๊อตมันว่าจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” อ้าวเหรอ...สงสัยจะเมาจริงหวะกรู
“เออ...กูลืม งั้นก็ดี เดี๋ยวกูไปก่อนนะ มีสอนไอ้น้องเซย์ตอนบ่าย อ้าว ไอ้แชมป์มันไปแล้วเหรอวะ กูโทรตามก็ได้วะ” แม่งเร็วเลยนะพอมีแฟนมานั่งเฝ้าเนี่ย ไม่รู้ว่ามันปล่อยน้องเซย์ไว้ตรงส่วนไหนของคณะนะฮะ เดี๋ยวต้องออกไปตามหาซะหน่อย ถ้าน้องเซย์ไม่ติดอะไร จะได้สอนกันที่นี่เลยได้ไม่เสียเวลาไปๆ มาๆ
“แล้วข้าวปลาจะไม่แดกก่อนเหรอ หรือว่ารอไปกินพร้อมพี่เซฟ...แล้วโทรศัพท์มึงเป็นอะไร พี่เซฟโทรหากูสามรอบแล้ว แต่กูไม่กล้ารับ อาจารย์ป้าแกจ้องอยู่” หืมม!!! ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาดู ก็เห็นสายไม่รับ 40 สาย...กับอีก 5 ข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน...
‘พี่เชื่อใจเลิฟนะครับ พี่ขอโทษนะ อย่าโกรธพี่เลยนะครับ รักเลิฟนะ’
‘หายงอนรึยังที่รัก กับน้องบูมพี่ไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ ไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่ได้โกหกนะ เดี๋ยวพี่ไปรอที่คณะนะครับ รักเลิฟคนเดียวจริงๆ’
‘ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่เลยครับ เรียนอยู่เหรอ...รับแล้วฟังอย่างเดียวก็ได้นะ พี่อยากพูดด้วยใจจะขาดแล้ว ไอ้บอมมันเป็นคนเอาเค้กมาให้พี่ มันไม่ได้บอกว่าเป็นของบูมพี่ไม่รู้จริงๆ นะครับ รักเลิฟนะครับ’
‘อยากโดดเรียนไปหาตอนนี้จังเลยครับ แต่อาจารย์มีเทสย่อย...หายงอนพี่รึยัง พี่ให้ทำโทษพี่ยังไงก็ได้นะๆๆๆ แต่อย่างอนพี่เลยนะ รักเลิฟมากที่สุดในโลก’
‘อยากกอดเมียจัง รักนะครับ’
ไอ้บ้าพี่เซฟ...ข้อความสุดท้ายนี่เกี่ยวอะไรกันวะ...แม่ง!!! ใจอ่อนเลย หายงอนก็ได้วะ แต่ว่าขอแกล้งหน่อยเถอะนะ มาทำเขาคิดมาก โมโห หงุดหงิด แถมร้องไห้ด้วย วันนี้กลับบ้านคนเดียวไปแล้วกันนะพี่เซฟ ไม่อยู่รอแล้วครับ เพราะยังไงพี่เซฟก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าผมงดคลาส เดี๋ยวรีบไปสอนไอ้น้องเซย์แล้วรีบหนีกลับบ้านดีกว่า
“มึงป่วยแน่เลยหวะเลิฟ เดี๋ยวหน้าแดง เดี๋ยวก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วสรุปว่าไง หรือว่าทะเลาะกัน” แหม เรื่องชาวบ้านนี่มึงหู ตา จมูก ไวนักนะ
“เออ...นิดหน่อย ถ้ามึงเจอเค้า มึงห้ามบอกนะว่ากูไปไหน กูงอนเค้าอยู่ ยังไม่อยากเจอตอนนี้ อย่าให้กูรู้ว่าตัวไหนมันแอบบอกพี่เซฟนะ” ผมชี้หน้าคาดโทษพวกมันสองตัว เพราะรู้ว่าพวกมันน่ะเป็นฐานกำลังของพี่เซฟครับ...ไอ้น๊อตจะอ้าปากเถียงแต่ผมชิงเดินหนีมันสองตัวซะก่อนครับ
“ฮัลโหลเซย์ อยู่ไหนครับเนี่ย พี่เลิกเรียนแล้วเดี๋ยววันนี้เราเริ่มเรียนกันเร็วหน่อยแล้วกันเนอะ”
“พี่เลิฟ...เออ...คือ...เซย์...วันนี้เซย์...ขออนุญาต...งดเรียนได้เปล่าฮะ”
“อ้าวทำไมครับ ติดธุระอะไรเหรอ”
“เอ่อ...คือ...เอาไปคุยเลยพี่แชมป์ ขออนุญาตให้เซย์ด้วยเลย ตัวเองเป็นคนชวนเขาโดดเองนะ” เสียงไอ้น้องเซย์มันหันไปบังคับแฟนมันให้มาคุยกับผมแทน อะไรของพวกมันวะ
“เลิฟ...คือวันนี้เราขออนุญาตยืมตัวลูกศิษย์เลิฟไปหน่อยได้ไหม...คือ พรุ่งนี้เซย์ไม่มีโปรแกรมอะไรได้หยุดน่ะ วันนี้ก็เลยว่าจะไปเที่ยวหัวหินกัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าโรงเรียนเซย์มันก็จะเปิดเทอมแล้ว...นะเลิฟ ขอวันนึงนะ” แหม นี่พวกมึงกะไปสร้างตำนานรักหัวหินซ้ำรอยคู่กรูอะดิ เชอะ หมั่นไส้คนมีความรักเว้ย....
“เออๆๆๆ ก็ได้ๆ ถ้าพี่คิวด่ากรูไม่รับรู้นะเว้ย จะถือว่าพวกมึงสมรู้ร่วมคิดกันหนีกรูไปเอง” ไม่รอให้มันตอบอะไร ผมกดตัดสายเลย เชอะ อิจฉา...ขอเหวี่ยงหน่อยเหอะ
“หม่าม๊า อยู่ไหน...อยู่เวิ้งฯ หรือว่า เซ็นทรัลเวิลด์” ผู้ต้องหาของผมครับ ต้องตามไปสอบปากคำกันซะหน่อย
“อยู่ที่เวิ้งฯ ลูก จะเข้ามาเหรอ”
“ฮะ...รอเลิฟอยู่ที่นั่นนะม๊า...อ่อถ้าพี่เซฟโทรหา ม๊าห้ามบอกว่าเลิฟจะไปหาม๊านะ แค่นี้นะม๊า เดี๋ยวเจอกัน รักม๊านะ” ผมรีบเดินไปเรียกแท็กซี่ไปหาหม่าม๊าที่ร้านอย่างด่วนครับ อึดอัดใจมาก....
.
.
.
.
.
.
.
.
“ม๊า...สรุปว่าเรื่องน้องบิวตี้เนี่ย ม๊ามีอะไรจะเล่าให้เลิฟฟังไหม” พอผมมาถึงก็รีบเข้าไปหาหม่าม๊าในห้องทำงานทันที จัดแจงล็อคห้องสอบสวน คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าครับตอนนี้
“แหะๆ หม่าม๊ากะแล้วว่าเลิฟจะต้องสงสัยม๊า...สงสัยถูกคนซะด้วย”
“ม๊าอะ...บอกเร็วๆ เลิฟอกจะแตกตายอยู่แล้วเนี่ย”
“จ้าๆ นี่ไงม๊าก็กำลังจะบอก หนูน่ะแหละใจร้อน...คือเรื่องมันมีอยู่ว่า...น้าพรน่ะลูกที่เป็นคุณแม่ของน้องบิวตี้ เขาเป็นเพื่อนสนิทแม่จ้ะ แล้วเขาก็เห็นเลิฟกับโรสมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงแม้ช่วงหลังๆ เราจะไม่ได้ไปมาหาสู่เขาแล้ว แม่ก็หมั่นโทรไปถามไถ่เขาอยู่ตลอด....”
“น้าพรเขาก็เอ็นดูเลิฟมากนะลูก เพราะปกติยายหนูบิวตี้เป็นเด็กที่เข้ากับคนอื่นยาก แต่ตอนเด็กๆ กลับติดเลิฟแจเลย ขนาดโรสที่หน้าตาเหมือนเราน้องยังไม่ยอมเล่นด้วยเลย วิ่งหาแต่เราตลอด...แล้วก็เพราะความคิดแบบผู้ใหญ่ๆ ที่อยากให้ลูกๆ ของเราโตขึ้น ได้ลองคบหา หรือมีคู่ครองที่ดี”
“น้าพรเขาก็เลยโทรมาคุยกับแม่ เมื่อนานมาแล้วว่า...อยากให้เรากับน้องบิวตี้ยังคงติดต่อกันอยู่ เผื่อโตขึ้นเด็กๆ จะได้ไม่ลืมกัน หรือถ้าหากโตแล้วเด็กๆ มาได้เจอกันอีกครั้ง อาจจะได้ลองคบหากันได้...หม่าม๊าเองก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน ในใจหม่าม๊าน่ะ ไม่ได้คิดว่าจะให้เราคลุมถุงชนหรอกนะ แค่อยากให้นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเลิฟเท่านั้น ถ้าไม่ได้ชอบไม่ได้รักกัน หม่าม๊าก็ไม่ได้ว่า ไม่ได้บังคับ...”
“อย่าขมวดคิ้วอย่างนี้สิลูก...เดี๋ยวหน้าย่นก่อนวัยนะ ถ้าไม่น่ารักแล้วเดี๋ยวพี่เซฟทิ้งหม่าม๊าไม่รู้ด้วยนะ” ยังมีกะจิตกะใจมาล้อผมอีก ผมเลยย่นจมูกใส่หม่าม๊า จนหม่าม๊าอดหัวเราะออกมาไม่ได้ แถมยังเอามือมาบีบจมูกผมอีก ชอบทำเหมือนพี่เซฟอ่ะหม่าม๊า
ฟอดดดด!!!....”เล่าต่อสิฮะ” ผมหอมแก้มหม่าม๊าเป็นการลงโทษ แม่ใครเนี่ยแก้มหอมจังวุ้ย
“ขี้อ้อนแบบนี้สิน้า ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวถึงติดลูกชายหม่าม๊ากันเกรียวเลย” ของมันแน่อยู่แล้วล่ะม๊า...คนมันหล่อด้วย น่ารักด้วย เก่งด้วย โหะๆๆ เอาพอๆๆๆ มาเข้าเรื่องๆๆ
“ทีนี้ เรื่องของขวัญกับพวกการ์ดต่างๆ เนี่ย ม๊าเป็นคนส่งไปเองแหละ...ก็มาคิดๆ กับน้าพรไงว่าจะทำยังไงให้น้องบิวตี้ยังจำพี่เลิฟของเขาได้อยู่ ม๊าก็เลยจัดการส่งรูป ของขวัญ กับการ์ดอวยพรเทศกาลต่างๆ ไป แต่ข้อความหม่าม๊าก็เขียนกลางๆ เองนะ แต่แค่ม๊าลงท้ายว่าเป็นเลิฟน่ะจ้ะ แหะๆ อย่าโกรธหม่าม๊านะ ก็ตอนนั้นเลิฟเลิฟของหม่าม๊า ยังไม่มีแฟน หนุ่มๆ ที่ไหนมาจับจองหัวใจนี่จ๊ะ ม๊าก็คิดว่าลูกชายม๊ายังว่าง...” ใครจะไปโกรธแม่ตัวเองลงล่ะฮะ ผมก็พอเค้าใจครับว่าหม่าม๊าน่ะหวังดี อาจจะงงๆ กับวิธีการของม๊าไปบ้างเท่านั้นเอง
“แล้วฝั่งน้องบิวตี้เธอไม่ส่งรูป หรืออะไรมาให้เราบ้างเหรอฮะม๊า” อันนี้แอบสงสัย ไม่ได้งกของนะฮะ คือถ้าอยากจะให้สองคนรู้จักกัน อีกฝ่ายก็น่าจะทำวิธีการเดียวกันด้วยนี่
“เป็นความผิดพลาดของหม่าม๊าเองอีกแล้วล่ะ...คือตอนนั้นที่บ้านเราต่อเติมแล้วก็ซ่อมบ้านครั้งใหญ่น่ะ แล้วเราก็ย้ายไปอยู่บ้านอาม่ากัน หม่าม๊าก็เลยให้ที่อยู่บ้านอาม่าไป แล้วหม่าม๊าดันลืมบอกน้าพรไปว่าเราย้ายกลับมาที่เดิมเมื่อไหร่ ไม่เคยได้บอกที่อยู่ของบ้านเราให้น้าพรไปเลย ทั้งของทั้งการ์ด ก็อยู่ที่บ้านอาม่านั่นแหละ เวลาเราไปเยี่ยมอาม่า อาม่าก็ลืมว่ามีของส่งมาให้เรา หม่าม๊าก็เลยลืมทวงไปด้วยน่ะสิ”
“อ้าว แต่หม่าม๊าก็ไม่ลืมส่งของให้น้องบิวตี้นี่ฮะ แล้วทำไมหม่าม๊าลืมของที่เขาส่งมาให้เราล่ะ” สงสัยอีกแล้วครับ ไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไรนะฮะ
“ก็...จริงๆ แล้ว แหะๆ หม่าม๊าน่ะมอบหมายหน้าที่นี้ให้น้าดวงเป็นคนส่งให้น่ะสิ น้าดวงเขาก็จะมีรอบส่งของเขาทำไว้เป็นไทม์ไลน์ ถึงเวลาก็จัดหาของแล้วก็จัดส่งไปให้ รวมถึงข้อความในโปสการ์ดด้วย แม่แค่บอกไกด์ไลน์คร่าวๆ ไปว่าให้เขียนประมาณไหน” น้าดวงนี่เป็นเลขาส่วนตัวของหม่าม๊าครับ ทำงานกับม๊าผมมาตั้งแต่ผมยังไม่เกิดนะครับ ถือว่าเป็นมือขวาคนสนิท
“ม๊าก็ลืมบอกพรว่า ลูกชายหม่าม๊ามีแฟนแล้ว ออกเรือนไปแล้ว ฮ่าๆ” ม๊าอ่ะ ชอบล้ออยู่เรื่อย...
“นี่ไม่ใช่ว่าน้าดวงเขียนอะไรหวานๆ ไปให้น้องบิวตี้นะฮะ น้องเลยมาประกาศตัวว่าจะเป็นแฟนผมเนี่ย” ผมเล่าเรื่องที่น้องบิวตี้เธอไปประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่าผมกับน้องจะเป็นแฟนกัน
“ไม่หรอกมั้ง ดวงคงไม่เขียนอะไรนอกเหนือไปกว่าที่ม๊าสั่งหรอก แต่น้องบิวตี้เธอบินมาแบบแม่ไม่รู้ตัวเลยนะ แม่เองก็ลืมๆ ไปแล้วด้วย ไม่ได้คุยกับพรนานแล้วเหมือนกัน พรก็ไม่โทรมาบอกกันก่อนเลย...ทีนี้จะทำยังไงล่ะลูก บอกน้องไปสิว่าเรามีแฟนแล้ว เดี๋ยวพี่เซฟของเราเขาก็งอนเรากันพอดี” งอนกันไปเรียบร้อยแล้วล่ะหม่าม๊า
“ไม่เป็นไรฮะม๊าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเลิฟจัดการเรื่องนี้เอง แค่เลิฟรู้ต้นสายปลายเหตุก็พอแล้ว เลิฟว่าม๊าเองโทรไปเคลียร์กับน้าพรดีกว่านะฮะ ส่วนน้องบิวตี้เนี่ย เดี๋ยวเลิฟเคลียร์เอง...งั้นเดี๋ยวเลิฟกลับบ้านก่อนนะม๊า แล้วเจอกันตอนเย็นฮะ ฟอดดดดดด...รักม๊านะ” กลับไปนอนคิดแผนสำหรับขับไล่ เอ๊ย อธิบายให้น้องบิวตี้เธอเลิกตื๊อผมดีกว่าฮะ
.
.
.
.
.
.
.
.
บางทีไม่ต้องขับรถ แล้วนั่งแท็กซี่ก็สบายดีเหมือนกันนะฮะ ได้นั่งคิดอะไรมาเรื่อยเปื่อย ตอนนั่งอยู่บนแท็กซี่ผมก็ลองเปิดโทรศัพท์มือถือตัวเอง พอสัญญาณขึ้น สายเรียกเข้าก็มาแบบทันทีเลยฮะ ไม่ต้องเดาก็รู้ใช่ไหมว่าใคร...แฟนผมเองแหละครับ แต่ไม่รับ...เห็นพี่เซฟลุกลี้ลุกลนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ แอบรู้สึกว่าตัวเองถูกรักมากๆ นั่งยิ้มเป็นคนบ้านไปตลอดทางเลยผม
บ้านผมช่วงบ่ายๆ แบบนี้ไม่มีใครอยู่หรอกฮะ มีก็แต่แม่บ้าน แม่ครัว ยาม คนสวน ป๊าผมคงจะไปร้านที่เซ็นทรัลเวิลด์ ม๊าก็อยู่ที่เวิ้งฯ ไอ้โรสคงอยู่กับพี่คิว....เฮ้ออออ จะว่าไปก็คิดถึงพี่เซฟเหมือนกันน้า เดี๋ยวไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยโทรหา ไปอาบน้ำดีกว่าฮะ เมืองไทยมันร้อนจริงๆ หน้าฝน ๆ ก็ไม่ค่อยตก
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!
เสียงผมเองแหละครับ อุทานดังลั่นบ้านเลย จะไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะครับ...ก็
“ทำไมไม่เปิดมือถือครับ...แล้วหนีพี่ออกมาก่อนทำไม” พี่เซฟเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง โผล่มาจากไหนเนี่ยตกใจหมดเลย...เอาไงดีล่ะไอ้เลิฟ จะดราม่าต่อไหมเนี่ย
“ก็ยังไม่อยากเจอตอนนี้...มาทำไมอ่ะ” เอาวะ ไหนๆ ก็งอนมาตั้งแต่เช้าแล้ว เล่นต่อไปก่อนดีกว่า จะดูซิว่าคนอย่างพี่เซฟจะง้อแฟนยังไง...รีบๆ ง้อดิ...เขาอยากคืนดีจะแย่แล้วนะ
“ใจร้ายยยยยยอ่ะ...ก็เมียพี่หายมาแบบงอนๆ ทั้งคน พี่ก็ต้องมาตามหาดิครับ” บ้า...มามุขนี้ตลอด ทำไงดีครับๆ ผมจะกลั้นยิ้มไม่อยู่แล้วอ่ะ อั้นไว้ก่อนๆ แต่ไอ้อาการเลือดลมสูบฉีดขึ้นหน้านี่จะกลั้นยังไงดีฮะ ช่วยผมด้วยทำไงดีๆ
“อ๊ะ...ห้ามพูดว่า ใครเป็นเมียพี่นะ...ไม่งั้นพี่จะทบทวนให้จำขึ้นใจตอนนี้เลย” แหม เค้าไม่ได้จะพูดอย่างนั้นซะหน่อย แค่อ้าปากจะถามว่าใครงอน ไม่ได้ปฏิเสธซะหน่อยว่าไม่ได้เป็นเมียพี่น่ะ อิอิ
“.........................................” เงียบครับ ที่เงียบเนี่ยไม่ได้โกรธไม่ได้อะไรนะ แต่ว่าขืนพูดตอนนี้ หลุดแน่ๆ เลยฮะ
ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!
“อ้าาาาาาาา....ชื่นใจที่สุดเลย ฟอดดดด ฟอดดดดด” พี่เซฟมันเล่นวิธีนี้อีกแล้วครับ ขี้โกงๆๆๆๆๆๆๆ โอบผมจากด้านหลัง แต่ชะโงกหน้ามาฟัดแก้มผมซ้ายขวาแบบไม่มียั้ง....แถมมือที่โอบล็อคเอวผมดันลูบวนรอบๆ เอว เรื่อยเลยไปแถวท้องน้อย ก่อนจะหายวับเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตนักศึกษาของผม ลูบไล้ผิวเนื้อจริงๆ อย่างย่ามใจ...
“อ๊ะ!! ...ปล่อยก่อนพี่เซฟ...อ๊ะ บอกให้พอ อืมม...ตรงนั้นไม่ได้นะ อื๊อ อ๊ะ...หันมาคุยกัน อ๊าาาาา...ก่อน” จากรอบเอวไต่วนขึ้นไปจนถึงยอดอกผมแล้วครับ...
“ไม่ปล่อย...ปล้ำก่อนแล้วค่อยคุย....อืมม หอมจังเลย....เค้าว่าผัวเมียทะเลาะกันเนี่ย ต้องเคลียร์กันบนเตียงถึงจะเข้าใจกันไวๆ” ไปเอามาจากไหนเนี่ยทฤษฏีแบบนี้ หื่นตลอด!!!! จะปล้ำกันเลยเหรอ บอกดีๆ เค้าก็ยอมหรอก ชิส์...แต่ว่า...แบบนี้ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันเนอะ อุ๊บส์!!! คิดไรออกไปวะเนี่ยกรู...
“อ๊ะ...หยุดลูบ...อึ๊!!!...ตรงนั้น...ไม่...อืมม!!!” พี่เซฟเป็นคนที่แยกประสาทได้ดีเยี่ยมจริงๆ น่าจับไปตีกลอง...มือซ้ายลูบวนเขี่ยยอดอกของผม มือขวายกลูบแก้มก่อนที่จะโน้มให้หันไปรับจูบร้อนกับลิ้นอุ่นนุ่มจากพี่เซฟ จากที่ผมขัดขืนช่วงแรก ก็เปลี่ยนมายอมจำนนแต่โดยดี...ยิ่งขัดยิ่งขืนพี่เซฟก็ยิ่งรุก รบเร้า...พี่เซฟหลอกล่อลิ้นอุ่นของผมให้โผล่ออกมา ก่อนที่พี่เค้าจะดูดดุนเกี่ยวกระหวัดอย่างคุ้นเคย
มือขวาละจากข้างแก้มผม ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกอย่างรวดเร็ว ปลดกระดุมเสร็จ พี่เซฟแหวกสาบเสื้อออกกว้าง แต่ไม่ถอดเสื้อออกจากร่างผม สองมือพร้อมใจกันขย้ำ บีบบี้ คลึงเคล้า ตุ่มไตของผมที่แข็งหดเกร็งสู้กับสภาวะเสียดสีของนิ้วมือพี่เซฟ...ผมแอ่นตัวสอดรับอย่างอัตโนมัติ...
มือซ้ายยังคงคลอเคลียยอดเม็ดของผม มือขวาละจากหน้าที่เดิมเลื่อนลงสู่แก่นกายเบื่องล่าง ลูบไล้ผ่านเนื้อผ้าของกางเกงสแล็ค ก่อนจะค่อยๆ ปลดเข็มขัดและตะขอ รูดซิบ แล้วรูดกางเกงลงโดยที่ผมไม่รู้ตัวสักนิด...มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มืออุ่นกระชับเข้ากับส่วนไวต่อสัมผัสกึ่งกลาง ถูไถ วนฝ่ามือลงบนเนินเนื้อของผมที่ค่อยๆ ชูชันขึ้นมาทีละนิด...แต่ของคนบางคนที่โอบผมอยู่ทางด้านหลังนี่สิฮะ แข็งขึงดันดุนก้นผมอยู่อย่างน่าไม่อาย แถมยังขยับตัวถูไถ ให้ตรงกับร่องหลืบด้านหลังของผมพร้อมกับส่งเสียงฮึมฮัม อือ อาครางต่ำในลำคอ....
“อืมมม...”
พี่เซฟเร่งมือที่ลูบผ่านกางเกงเนื้อบางที่ห่อหุ้มส่วนสำคัญของผมไว้ จนขาผมอ่อนแรง ดีที่พี่เซฟคอยพยุงไว้ข้างหลัง ผมต้องซบหัวลงบนบ่าพี่เซฟพิงหลังไหล่แนบชิดตัวพี่เซฟเอาไว้....
“อ๊ะ...พะ...พี่เซฟ...อย่า...อย่าแกล้ง...เลิฟ” พี่เซฟใช้ปลายเล็บสะกิดยอดท่อนเนื้อแข็งของผมอย่างหยอกเย้า กรีดเบาๆ ตามความยาวจนถึงโคน ทำซ้ำสลับกันไปมา จนขนกายผมลุกเกรียวทั่วร่าง
“คนเก่ง...อยากให้พี่ทำอะไรให้ครับ หืมม์...บอกพี่สิครับ” พี่เซฟกระซิบข้างหู เสียงพี่เขากระเส่า พึมพำเบาๆ ก่อนจะขบเม้มใบหูผมเล่น สอดลิ้นไล้เลียถ้วนทั่ว...
“อ๊ะ...เลิฟ...อื๊อ...เลิฟ...อยากได้...พี่เซฟ อ๊าห์...เข้ามาในตัวเลิฟ...เดี๋ยวนี้...อืมม...ได้ไหม...” ไม่สนแล้วฮะ ไม่อายแล้วด้วย ไม่ไหวแล้วครับ เรื่องอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ผมต้องการพี่เซฟที่สุดแล้วครับ
“ได้ตามบัญชาเลยครับ...” แล้วผมกับพี่เค้าก็ขึ้นไปเคลียร์กันบนเตียงจนได้
พี่เซฟทำให้ผมเสียนิสัย ทำให้ผมเสพติดพี่เค้า แค่พี่เซฟสัมผัส ผมก็แทบคลั่งตายอยู่แล้วฮะ เมื่อคืนเราก็พึ่งจะ....กันไป ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย เราก็ต้องการกันและกันอีกแล้ว...
คงจะเป็นจริงอย่างที่พี่เซฟว่านะฮะ...ผัวเมียทะเลาะกันต้องเคลียร์กันบนเตียงถึงจะหายโกรธกันไว ก็เหมือนโบราณบอกไง...ผัวเมียยิ่งทะเลาะกันลูกยิ่งดก...
งั้นถ้าเราทำลูก...เอ๊ย!!! ทำรักกันเสร็จแล้ว ค่อยมาเคลียร์เรื่องอื่นก็แล้วกันเนอะที่รัก!!!
“รักนะครับ”
“รักเหมือนกันฮะ”