"พี่ครับเป็นแฟนผมนะ"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "พี่ครับเป็นแฟนผมนะ"  (อ่าน 1080196 ครั้ง)

panuwattew

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:  คิดถึงน้องต้น ........ น้องตอง   อีตาแบง ที่สุด


หายไปนานเลยน้า

ออฟไลน์ philophobia

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 945
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +426/-5

ออฟไลน์ philophobia

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 945
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +426/-5
ตอนพิเศษที่ 4 หลวงพระบาง Episode I

“ตองหมวกไปไหนทำไมไม่ใส่” เอาแล้วไงครับ ระหว่างยืนรอเรืออยู่ที่ท่าเรือเชียงของ แค่ตอนนี้เป็นหน้าหนาวแล้วน้ำค้างลงนิดหน่อยเอง ไอ้ตองก็โดนดุแล้วล่ะครับ คงเป็นแบบนี้ทุกคนเนาะมีแฟนแก่เนี่ย อ๊างงงง
“อยู่ในกระเป๋าอ่ะ”
“หมวกอ่ะซื้อให้ก็ใส่ดิ เดี๋ยวน้ำค้างลงก็เป็นหวัดอีก” เห็นไหมครับบ่นยิ่งกว่าแม่กับยายผมรวมกันซะอีก แต่ผมรู้นะครับที่อิลุงมันบ่นอ่ะ เขาไม่อยากให้ผมเป็นหวัด เพราะขี้เกียจมาดูแล ฮ่า ๆ
“มันอยู่ในกระเป๋าอ่ะ ขี้เกียจล้วงมาใส่”
“หันหลังมา อยู่ในกระเป๋าหน้าใช่ไหม”
“ครับ ล้วงไประวังงูกัด เออ พี่แบงค์พาสปอร์ตตองอยู่กับพี่ใช่ไหมอ่ะ” เดินทางไปหลวงพระบางจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเพราะว่าการใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวนั้นใช้ได้เฉพาะแขวงเท่านั้นไม่สามารถข้ามแขวงไปไกลขนาดหลวงพระบางได้
“อ่า ใช่ อ่ะ ใส่ซะหมวกอ่ะ”
“ใส่ให้หน่อย”
“ใส่หมวกก็ขี้เกียจ”
“ขอบคุณครับ ฮ่า ดูดิมีไอออกจากปากเลยอ่ะ พี่แบงค์ทำดิ๊” หน้าหนาวเช้านี้อากาศหนาวมาก จนมีไอออกจากปากไอ้ตองก็หายใจออกทางปากแรง ๆ ให้มันมีไอน้ำขึ้นมา สนุกดีออก
“หึ ปัญญาอ่อน”
“เฮีย พี่ตองหันมาหน่อย” ไอ้บูมตากล้องประจำครอบครัวเรา พอมีอาวุธอยู่ในมือก็ถือส่องนั่นส่องนี้ไปเรื่อย ไอ้ตองไม่เห็นจะอยากได้อาวุธในมือเลย อยากได้อาวุธประจำกายมากกว่า อ๊างงงง
“พี่ตองเรือยังไม่มาอีกเหรอ”
“ไม่รู้อ่ะ พี่เขาบอกเรือมา 7 โมงนี่ ตอนนี้ก็จะ 7 โมงครึ่งแล้วยังไม่เป็นสักลำเลย” เราออกจากบ้านผมที่เชียงรายมาตอนตี 3 ใช้เวลาเดินทางมาถึงท่าเรือเชียงของ 3 ชั่วโมงมาถึงก็เช้าพอดี เมื่อคืนทุกคนนอนก็เหมือนไม่ได้นอน เพราะตีสองก็ต้องตื่นมาเตรียมตัวกันแล้ว ไอ้ตองก็ไม่ได้นอนเพราะโดนกวนทั้งคืน อ๊างงงง
“นู่นเปล่าพี่ตอง”
“อันนั้นมันเรือขนำยนต์ เอาไว้ขนรถสิบล้อ”
“ถ้าได้นั่งเรือลำนั้นไปมีหวังกรอบตาย หลังคาก็ไม่มี โดนแดดเผาตั้งแต่ครึ่งทางแล้วก็ไม่รู้”
“หรือว่าเขาจะให้พายเรือไปเองวะ”
“เฮียพายนะ เดี๋ยวเราสามคนนั่งไป”
“เรื่องไรกูพายให้เมียกูนั่งคนเดียว” อ๊างงง อ๊างงง อ๊างงง อาย เขิน ม้วนต้วน อธิบายไม่ถูกกับประโยคนี้ เหมือนโลกกลายเป็นสีชมพูแล้วก็หยุดหมุนไปในทันทีเมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกมา อ๊างงง กูร้ากเมิงงงง อิลุง
“โห่ ตั้งแต่โดนหลอกว่าพี่ตองมีกิ๊กนี่เอาใจกันใหญ่เลยนะเฮีย”
“อ๋อ งี้นี่เอง เช็คโทรศัพท์พี่เหลือเกิน เล่นอะไรกันไอ้สองคนนี้” ไอ้ตัวน้องมันไปหลอกอิลุงว่าไอ้ตองมีคนเข้ามาเกาะแกะ อิลุงก็เชื่อก็เช็คโทรศัพท์ผมใหญ่เลย ไปรับไปส่งไม่ให้คลาดสายตา ก็ถึงว่าทำไมมันอบอุ่นขึ้นแบบแปลก ๆ ที่แท้เป็นแผนของไอ้ตัวน้องนี่เอง มันน่าลากคอมาหอมแก้มทั้งสองคนจริง ๆ อ๊างงง
“นั่นไง กูว่าแล้ว มันตงิด ๆ ไอ้ตองมันจะไปมีใครได้ มันรักพี่จะตายใช่ไหมตอง”
“ไม่รู้อะไรซะแล้วพี่เขยกู” อ้าว ไอ้ต้นไฟเขากำลังจะมอด ไอ้นี่ก็สาดน้ำมันเข้าไปอีก ขยันหางานให้พี่มึงจริง ๆ รักกูกันจริง ๆ
“หือ ตองจริงอ่ะ”
“ไม่นะตองเรียบร้อย”
“เรียบร้อยโรงเรียนจีนอ่ะเด่ะ ต้องให้เล่าไหมวันนั้นไปกินหมูจุ่มกับใคร” ก็แค่คนรู้จักกันเท่านั้นเอง ไอ้ต้นมันก็ใส่ไฟ อยากให้กูโดนฆ่าตายริมฝั่งแม่น้ำโขงหรือไงฟร่ะ “ดับอนาถนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่บอกว่า ม.ช. ถูกเกย์คู่ขาฆ่าทิ้งริมแม่น้ำโขง ตำรวจสันนิษฐานว่า ฆ่าเพราะหึงหวง เนื่องจากผู้ตายหน้าตาดีมีชายหนุ่มมาติดพันอยู่ตลอดเวลา ทรัพย์สินของผู้ตายก็อยู่ครบทุกรายการ สิบเวรรับเรื่องแล้วก็ลงบันทึกประจำวันเอาไว้”
“เล่าดิ๊ต้น”
“ให้เจ้าของเรื่องเล่าเองดิ”
“ไรวะ ไป ๆ มา ๆ มาลงกับตอง”
“ทุกคนครับ ทยอยลงเรือกันเลยนะครับ ตรวจสองสัมภาระให้ดีนะครับ เดี๋ยวเราจะนั่งเรือข้ามฟากไปท่าเรือบัคฝั่งบ่อแก้วนะครับ” แล้วระฆังช่วยชีวิตก็ดังขึ้น ต้องขอกราบขอบพระคุณพี่ไกด์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วยที่ทำให้ไอ้ตองไม่ต้องตกเป็นจำเลยของการกินหมูจุ่มในครั้งนั้น ว่าแต่ถ้าพี่เขาจีบ ไอ้ตองก็พร้อมจะเก็บไว้เป็นกิ๊กอีกคนนะ อ๊างงงง
“เฮ้ย เรือนี้จริง ๆ เหรอ มันจะไปถึงหลวงพระบางจริง ๆ เหรอเนี่ย” ไอ้บูมมันหมายถึงเรือเร็วข้ามฝากที่นั่งได้ 10 อ่ะครับ เรือยาว ๆ คล้าย ๆ กับเรือที่วิ่งในบางกอกนั่นแหละครับ
“ควายบูมเขาบอกนั่งเรือนี้ข้ามฝากไปนั่งเรือที่ฝั่งลาวนู่น” การเดินทางไปหลวงพระบางเนี่ย มีหลายหนทาง จะเดินทางอีสานก็ได้ หรือจะขึ้นเครื่อง ก็ได้ แต่ครอบครัวเราเลือกนั่งเรือครับ
“ก็กูไม่ได้ฟัง กูถ่ายรูปอยู่ นี่ ๆ มึงเห็นไหม กูถ่ายแคนดิดมึง”
“โห หน้างอชิบหายเลยกู แหวะ กูจะอ้วก ดูรูปนี้เด่ะ ผัวสวมหมวกให้เมีย หวานจนเลี่ยน” เฮ้ย เหมือนรู้สึกว่าโดนพาดพิงยังไงไม่รู้แฮะ เอ๊ะ หรือจะใช่วะ
“น่ารักจะตาย มึงสวมให้กูมั่งดิต้น”
“มึงจะบ้าหรือไง สวมหมวกสองใบ”
“เออ กูลืม ก็อยากหวานเหมือนเขาบ้าง”
“ไปเด็ก ๆ ลงเรือ” พ่อพี่แบงค์มาเรียกให้พวกเราไปลงเรือกันได้แล้วหลังจากที่พวกเราอ้อยอิ่งกันมานาน
“พี่แบงค์ไปประคองยายไป๊”
“ตองดูของด้วยนะ”
“ครับ”
“พี่ตองถ่ายให้หน่อยดิ”
“มา ๆ”
“ไม่นับเลยพี่ตอง”
“หมดยุคนับแล้วว้อย ไปลงเรือ”
“ไม่มีของอะไรเหลือแล้วใช่ไหม”
“ต้นกูกลัว” สงสัยไอ้บูมมันคงจะไม่เคยลงเรือ ไอ้ตองก็ยังไม่ชินหรอกครับ มันโคลงไปโคลงมา น่ากลัวออก
“กลัวเชี่ยไรอีก มีกูอยู่ทั้งคน”
“มึงจะช่วยอะไรกูได้”
“อย่างน้อยกูก็ไม่ยอมให้มึงจากไปต่อหน้าต่อตาหรอกน่า” อ๊างงง อ๊างงง อ๊างงง กูจะบร้าตายยย กับไอ้สองคนนี้
“เอ่อ ขอโทษนะครับคุณน้องทั้งสอง พวกมึงจะสวีทกันอีกนานไหมครับ”
“เหวอ เรือโคลง”
“โห เสียงดังชิบหายเลย หูกูจะดับไหมวะ”
“หูย น้ำโขง”
“กินแล้วจะเมาป่ะวะ”
“มึงลองกินดูดิ รับรองตายตั้งแต่ยังไม่ได้ไปหลวงพระบางเลยคอยดู”
“เย้ย น้ำกระฉอก”
“บูม ถ่ายกูกับพี่ตองให้หน่อยดิ”
“พี่ตองหันมา”
“เฮ้ย ถึงแล้วเหรอหลวงพระบาง ไหงมันใกล้แบบนี้วะ”
“แถวนี้เขาเรียกแขวงบ่อแก้ว อยู่ทางเหนือของหลวงพระบาง”
“โห ข้อมูลเป๊ะ”
“มันก็ต้องศึกษาไว้ก่อนบ้างดิ”
“เห็นไหมพี่กู เจ๋ง” ดีมากไอ้ต้นเราต้องสนันสนุนผลิตภัณฑ์ในครอบครัว อวยกันเข้าไว้ ไทยเจริญ
“พี่กูเจ๋งกว่า”
“เจ๋งกว่ายังไง มึงบอกมาดิ๊”
“อ้าว ไม่เจ๋งกว่ายังไง มึงคิดตามกูนะ มึงบอกว่าพี่มึงเจ๋งใช่ไหมต้น กูว่าพี่กูเจ๋งกว่าว่ะ เพราะเอาพี่มึงทำเมียได้”

พอเรือเข้าเทียบฝั่งบ่อแก้วได้แล้ว ไอ้ตองก็ยืนมองกลับไปยังแผ่นดินแม่อันเป็นแผ่นดินเกิด เมืองไทยอันเป็นพื้นที่ซุกหัวนอน ดินแดนที่มีพระคุณล้นหัวมาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดถ้วนทั่วทุกตัวคน เป็นพื้นที่อิงแอบอาศัยทำกิน เมื่อคราวนี้ต้องระเห็จออกจากแผ่นดินอันเปรียบเสมือนดังอ้อมกอดของแม่ ก็ทำให้รู้สึกเหงาใจอย่างประหลาด ก็บ้านเรานี่นา อย่างไรเสียก็ไม่มีที่ไหนประเสริฐไปกว่าเมืองไทยอันเป็นบ้านเกิดของเราอีกแล้ว พูดแล้วรักเมืองไทยจัง อ๊างงง โหมดไอ้ตองรักชาติ

ขึ้นฝั่งได้พี่ไกด์ที่ดูแลรับผิดชอบพวกเราก็บอกให้เดินขึ้นไปประทับตราเข้าเมืองที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของฝั่งบ่อแก้ว ขอบ่นไว้ ณ ที่นี้หน่อยว่า บันไดจะสูงไปไหนครับพี่เจ้าหน้าที่คร้าบ กลัวน้ำโขงเอ่อขึ้นมาท่วมหรือไงครับ เมืองจีนเขาไม่ปล่อยน้ำมาท่วมหรอก เขาสร้างเขื่อนกักน้ำเอาไว้แล้ว ให้ตายยังไงมันก็ไม่เอ่อมาท่วมแน่นอน อุ้ย ไหงลามไปเรื่องการเมืองได้เนี่ย

เสร็จสรรพจบสิ้นกระบวนความแล้วพวกเราก็ต้องเดินหอบสัมภาระทั้งหลายทั้งมวลเดินขึ้นเนินไปอีกราว 150 เมตร ก็ไกลโขอยู่สำหรับพวกที่ไม่ค่อยเดินไปไหนมาไหนเป็นกิจวัตรอย่างไอ้ตอง พี่ไกด์ที่ทราบชื่อภายหลังว่า “พี่บอย” ก็จัดแจงพวกเราให้นั่งรถสองแถวขนาดเล็กเพื่อต่อรถไปยังท่าเรือบัค ทำไมมันยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ก็ไม่รู้นะแต่ก็เอาวะ นาน ๆ จะได้เที่ยวที แค่นี้ไม่ตาย ระหว่างที่นั่งรถสองแถวไปท่าเรือบัคนั้นก็ผ่านโรงพยาบาลบ่อแก้วแล้วเห็นตราประจำพระองค์ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ

“เจ้าเป็นคนไทยรู้จักพระเทพฯบ่อ” คนขับรถถามผมเมื่อรถกำลังแล่นจากท่าเรือเล็ก ไปยังท่าเรือบัค
“อ๋อ รู้จักครับ พระเทพฯทรงงานหนักมากเลย”
“ทรงงาน อิหยัง” ลุงแกคงไม่เข้าในราชาศัพท์ ก็ผิดที่ไอ้ตองเองแหละครับ
“อ๋อ หมายถึงพระเทพฯทำงานหนักมากเลยอ่ะครับ”
“แม่น คนเมืองหลวงฮักพระเทพฯหลาย” คนที่นั่นเขาจะเรียกตัวเองว่า คนเมืองหลวง หมายถึง คนเมืองหลวงพระบางนั่นเองครับ
“คนไทยก็รักท่านเหมือนกัน”
“ท่านมาเมืองลาวบ่อย คนหลวงพระบางเลยฮักท่าน ท่านสร้างโฮงหมอ สร้างโฮงแต้ม หื้อหมู่เฮา” โฮงหมอ คือ โรงพยาบาล โฮงแต้ม ก็คือ โรงเรียนนะครับ
“แล้วรู้จักในหลวงไหมครับ”
“ฮู้จักอยู่ เจ้าฟ้าเมืองไทย คนเมืองหลวงฮักหมดเลย”
“ผมก็รักในหลวงเหมือนกัน”

แม้จะเป็นแค่บทสนทนาเพียงสั้น ๆ แต่มันก็สื่ออะไรให้เห็นหลาย ๆ อย่าง ความจงรักภักดีที่ฉายออกมาทางแววตาของชายวัยกลางคนผู้นั้นเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้ท่านจะเป็นเจ้าฟ้าต่างด้าวท้าวต่างแดน แต่เขาก็เคารพด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ “คนไทยโชคดีหลายที่มีเจ้าฟ้า” ไอ้ตองโหมดรักในหลวง เมื่อมาถึงท่าเรือบัคพวกเราก็ต้องขนของลงตลิ่งไปอีก มิน่าทางบริษัททัวร์เขาถึงแจ้งมาว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าเอากระเป๋าลากมาด้วย ด้วยเหตุผลเช่นนี้แล ก็ตลิ่งเขาไม่ได้เป็นพื้นคอนกรีตอย่างดีทุกที่นี่ครับ การเดินทางต้องอาศัยความคล่องตัว

“ขนสัมภาระลงใต้ท้องเรือเลยนะครับ เรือของเราธงสีเขียวนะครับ”
“หูย เรือแบบนี้เหรอ นึกว่าเป็นเรือเล็ก ๆ ไม่งั้นดำตาย”
“บูม ลูกป้าบูมชื่ออะไรนะ ไม่ชวนเขามานั่งด้วยอ่ะ” ผมเห็นน้องเขาอยู่กับป้าพี่แบงค์แจไม่ไปไหน คงเบื่อพิลึก
“ชื่อนัท ชวนแล้วพี่แกคงอาย”
“กูหล่อไง เขาเลยอายกู” ไอ้ต้นนี่ก็กล้าพูดเนาะ แต่ด้วยความที่เป็นน้องสุดที่รัก ก็ยกโทษให้ เพราะพี่มันก็หล่อเหมือนกัน อ๊างงงงง
“ถุย กูจะอ้วก”
“เอาของลงแล้วก็นั่งกันได้เลยนะครับ โต๊ะละ 4 ท่าน”
“โห โต๊ะเหมาะกับการเล่นไพ่เหลือเกิน”
“8 โมงแล้วจะไปถึงหลวงพระบางกี่โมงว่ะ”
“ตี 4 พรุ่งนี้แน่เลยกูว่า”
“เอาละนะครับ ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีอย่างเป็นทางการอีกรอบนะครับ ผมบอยนะครับจะดูแลลูกทัวร์ทุกท่านตลอดการเดินทางไปหลวงพระบางในครั้งนี้นะครับ เราจะเดินทางไปกับเรือลำนี้ล่องไปกับแม่น้ำโขงเป็นระยะทาง 800 กว่ากิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ไปถึงหลวงพระบางนะครับ ระหว่างทางไปหลวงพระบางท่านสามารถชมทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามได้ตลอดสองข้างทางซึ่งผมจะแนะนำให้ท่านลูกทัวร์ฟังเป็นระยะ ๆ นะครับ ระหว่างนี้หากท่านใดสนใจจะร้องเพลงคาราโอเกะ ก็เชิญด้านหน้าเลยนะครับ” พี่ไกด์ของเราขึ้นมาแนะนำตัว เมื่อเรือออกไปได้สักระยะหนึ่ง
“เล่นไพ่ได้ไหมค่ะ น้องไกด์” เสียงป้าคนไหนสักคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ก็เป็นธรรมดาแหละครับ การเดินทางที่อาศัยเวลา นาน ๆ ก็ต้องมีกิจกรรมฆ่าเวลากันบ้าง
“ได้ครับ สนใจเดี๋ยวผมเป็นเจ้ามือเองครับ”
“ฮิ้ววววว” เสียงโห่รับกันเกรียวกราว ตอนแรกไอ้ตองก็คิดว่า พี่เขาจะห้ามจะปรามซะอีก ที่ไหนได้เป็นเจ้ามืออีกต่างหาก
“ลูกทัวร์ท่านใดสนใจเข้าคอร์สเรียนคิดเลขเร็ว เชิญด้านหลังเรือเลยนะครับ”
“ยายว่าไงมั่ง” พี่แบงค์หลานรักของยายผม เป็นคนดูแลยายผมอย่างเบ็ดเสร็จงานนี้ไอ้ตองตกกระป๋องครับงานนี้
“ก็ไม่เห็นว่าไง หนาวไหมเรา” มีไอน้ำโผล่ลอยขึ้นมาจากน้ำโขงทำให้มีหมอกลอยอยู่เต็มลำน้ำ ลมเย็นเฉียบปะทะผิวหน้าก็ทำให้หนาวสะท้านเอาง่าย ๆ ได้เหมือนกัน
“ไม่หนาวเท่าไหร่ ก็พอทนได้ เดี๋ยวสาย ๆ ก็คงร้อนแล้วแหละ”
“เดี๋ยวเรือเราจะเล่นผ่านภูชี้ฟ้าด้วยนะครับ เราจะมองเห็นผู้ชี้ฟ้าทางฝั่งลาวกัน เดี๋ยวพอใกล้จะถึงผมจะเรียนให้ทราบอีกทีนะครับ”

เราสองครอบครัวมากัน 12 คน ทั้ง ตา ยาย พ่อแม่พี่แบงค์ พ่อแม่ผม พี่แบงค์ ผม ไอ้ต้น ไอ้บูม แล้วก็ป้าพี่แบงค์และลูกชาย แบ่งกันนั่งได้ 3 โต๊ะพอดี นั่งแบ่งเป็นบ้านใครบ้านมัน พวกเด็ก ๆ ก็มานั่งด้วยกันเว้นเสียก็แต่น้องนัทที่ไม่มานั่งด้วยก็คงอาย เพราะยังไม่สนิทกัน

เรือก็แล่นไปเต็มกำลังเครื่องยนต์ของเรือ ผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามมากมายตามการรังสรรค์ปั้นแต่งของธรรมชาติ ทั้งภูชี้ฟ้าที่ใหญ่เงื้อมง้ำค้ำฟ้า ป่าไม้ที่สวยงามของฝั่งลาวที่ดูเหมือนจะอุดมสมบูรณ์กว่าป่าไม้บ้านเรามาก เมืองที่คนกรุงเรียกเขาว่าบ้านป่าเมืองเถื่อนหากแต่เขาร่ำรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ใช่เหมือนบ้านเรา เมืองที่ขนานนามกันว่า เมืองฟ้าอมรสมเป็นนครมหาธานี แต่กลับยากจนด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันเปรียบเสมือนแก้วมณีมีค่ายิ่งกว่าสมบัติพัสสถานใด ๆ บนโลกนี้

แล้วก็สุดสิ้นด่านแดนเขตเมืองไทยที่แก่งผาได อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย ขณะนี้น้ำโขงได้ไหลเลาะเรื่องเข้าไปในแผ่นดินล้านช้างร่มขาว สัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ทราบว่าได้พ้นเขตประเทศสยามไทยของเราไปแล้วก็คือ ธงชาติลาว และสัญญาณโทรศัพท์ของเมืองไทยที่ค่อย ๆ หายไปพร้อมกับระยะทางที่เราพ้นเขตประเทศไทยมานั่นเอง

ลักษณะภูมิประเทศก็เปลี่ยนไปด้วย จากลำน้ำโขงที่ราบเรียบไม่มีแก่งหินโสโครกใดผุดโผล่ขึ้นกลางลำน้ำ หากแต่เมื่อล่วงล้นพ้นเข้ามายังเขตเมืองล้านช้างแล้วลำน้ำโขงกลับเชี่ยวกรากดุร้าย ด้วยมีแก่งหินผุดโผล่อยู่ตลอดลำน้ำ ดูน่ากลัวและอันตรายยิ่ง แต่ก็ยังประโยชน์ให้แก่ชาวประมงท้องถิ่นได้เป็นที่อิงแอบแนบอาศัยทำกินชาวบ้าน ตลอดสองข้างทางยังอุดมไปด้วยป่าไม้ สลับกับบ้านคนเป็นระยะ พาลทำให้คิดไปว่า เอ ฉันใดหนอ คนบ้านเขานี้อยู่ร่วมกับป่าได้ โดยไม่ต้องเบียดเบียน กับอิงอาศัยเกื้อกูลกันไปอย่างเป็นมิตร แล้วฉันใด บ้านเราไม่เป็นฉันนี้ ตลิ่งทรายที่ถูกน้ำโขงพัดมากองไว้ริมตลิ่งเมื่อถูกคลื่นจากเรือไปกระแทกก็พากันทลายตัวลงมาเหมือนหน้าผาน้ำแข็งในสารคดีธรรมชาติหักแตกลงฉันใดก็ฉันใด ดูตื่นตาและตื่นใจอย่างยิ่ง

ไม่ชั่วแต่ไอ้ตองเท่านั้นที่ตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติที่เห็น ผู้คนในเรือที่มีมากกว่า 40 คนก็มหัศจรรยใจกับธรรมชาติที่เห็นตรงหน้าเช่นเดียวกัน นี่แหละหนาการหย่อนใจได้พบเจอสิ่งที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อนก็ย่อมจะตื่นเต้นเป็นธรรมดา ไอ้บูมล้วงเอาโน้ตบุคที่แบกมาด้วยจากเชียงใหม่ขึ้นมาเล่นเกมฆ่าเวลา ไอ้ต้นก็คว้าเอากล้องไปถ่ายรูปทั้งสองฟากฝั่งเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่ง ได้เคยมาเยือนที่แห่งนี้ พี่แบงค์ก็หยิบเอาเครื่องอำนวยความสะดวกทางด้านเสียงเพลงมาให้ความบันเทิงใจ ลูกทัวร์บางส่วนก็เล่นคิดเลขเร็วอยู่ด้านหลังเรือ 2-3 วง ด้านหน้าเรือก็มีคุณลุงคุณป้าไปขับร้องเพลงอย่างไม่ขาดจังหวะ ต่างคนต่างมีกิจกรรมเป็นของตัวเอง ใบหน้าเจือไปด้วยรอยยิ้มด้วยความสุข คุณตาคุณยายที่ดูจะมีความสุขกับธรรมชาติมากก็ชี้ชวนกันดูธรรมชาติสองข้างทางอยู่ตลอดเวลา

เก้าโมงเช้าอาหารเช้าโดยแม่ครัวชาวลาวก็ถูกเสิร์ฟ เป็นอาหารมื้อแรกของทริปนี้ มีน้ำพริกกะปิ ผักลวก ไข่เจียว แล้วก็ปลาทูทอด ข้าวผัดที่ใส่หอมมันซะเยอะเชียว (อาจไม่เยอะสำหรับคนอื่น แต่เยอะสำหรับไอ้ค้นไม่กินพืชตระกูลหอมอย่างไอ้ตอง) รสชาติอร่อยของอาหารก็ทำให้ไอ้ตองจัดการอาหารที่วางตรงหน้าไปเสียไม่น้อย จนถูกพี่แบงค์แซวว่าทีอาหารไทยไม่เห็นจะกินเยอะขนาดนี้ ไอ้ตองก็ได้แต่เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปว่า นี่ก็อาหารไทยเหมือนกันนี่นา

“ตองดูเด็กสิ”
“หูย น่ากลัวเนอะ ตกมาแล้วจมน้ำแน่เลย” เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบไม่มีอาภรณ์ท่อนล่างปิดพันกาย เดินมาเล่นตรงโขดหินริมลำน้ำโขงจนทำให้หวั่นว่าจะตกลงมาไหม 
“เขาคงชินแล้วมั้งบ้านเขาอยู่แถวนี้นี่นา”
“แต่น้ำเชี่ยวมากเลยนะแถวนี้ มันจะมีปลาเหรอเนี่ย”
“คงมีปลาที่อยู่ตามโขดหินแหละกูว่า” ชาวประมงท้องถิ่นก็หาปลาแถวริมน้ำโขงนี้แหละประทังชีพ ใช้เครื่องมือลักษณะคล้าย กับอวนผูกติดกับปลายไม้ไผ่แล้วก็เอาขวางลำน้ำไว้ ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
“กลางคืนจะมีไฟฟ้าใช่ป่ะว่ะ”
“ไฟฟ้าจะมีแต่ในตัวเมืองแหละ บางเมืองก็จะมีกำหนดปิด อย่างปากแบงก็จะมีปิดตอน 4 ทุ่ม”
“เป๊ะ อีกแล้วพี่กู”
“มากับไกด์ตองไม่ต้องกลัวหลง”
“แต่เรื่องนำทางอย่าไว้ใจไอ้ตอง นำทีไรหลงตลอด”
“เขาบอกว่าไปไหนให้หลงจะได้จำทางได้ไง”
“แต่หลงที่หลวงพระบางไม่ดีนะ เดี๋ยวกลับมาไม่ได้”
“ต้นมึงไปยืนอะไรตรงนู้นว่ะ”
“ควาย นั่นมันมึง” ไอ้สองน้องเริ่มกัดกันเองแล้วไง มันเห็นควายยืนอยู่ริมสวนข้าวโพดที่ปลูกไว้บนหาดทรายริมน้ำโขง ก็ชี้โบ้ยชี้บ้ายโยนให้กันเป็นควาย
“ถ้ากูควายมึงก็ควายเหมือนกันแหละ แล้วนี่ก็พี่ควาย”
“อย่าเอากูไปเกี่ยวกับเรื่องควาย ๆ ของพวกมึง ใช่ไหมตอง”
“อือ คงงั้น เพราะตองเป็นนกยูง”
“ทัวร์นี้มากับคนไข้ศรีธัญญาป่ะว่ะ”
“ง่วงง่ะ”
“เออ เพิ่งสังเกตใส่เสื้อเหมือนกันหมดเลย”
“เออ ใช่ ดูดิโปโลเหมือนกันหมดเลย สี่คนสี่สี ฟ้า ชมพู เขียว เหลือง” พักหลังนี้เหมือนชอบทำอะไรเป็นทีม กลัวเขาไม่รู้ว่ามาด้วยกัน
“ดีนะเว้ย ไม่ใส่กันทั้ง 12 คน 12 สี เอาให้เหมือนสีไม้ตราม้าเลย”
“ไอ้ต้นมึงจะมุดไปทำไมใต้โต๊ะว่ะ”
“ฮ้าว กูง่วงกูจะนอน”
“เออ นอนด้วยคน เจ๋งว่ะที่นอน”
“ตองง่วงไหม”
“ง่วงครับ”
“นอนตักพี่มา”
“เฮ่ย เดี๋ยวคนก็เห็น”
“จุ๊บหน่อยเดียวเอง”
“มาให้ตองจุ๊บคืนเลย”

ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงพ่อปลุกขึ้นมากินข้าว ตากับยายเดินไปคุยกับคุณลุงคนขับเรือ กินข้าวเสร็จก็ไม่รู้จะทำอะไร พวกเราสี่คนออกไปนั่งที่หัวเรือลมโกรกดีแท้อยากจะนั่งตรงนั้นนาน ๆ แต่แดดแรงก็เลยต้องกลับเข้าไปที่เดิม ตอนบ่ายคนแก่ชักจะหมดแรงคนที่ร้องเพลงอยู่กะเช้าก็เรียกพวกเราเข้าไปร้องแทน คราวนี้พอพวกเราได้ครองไมค์ก็เป็นมลพิษทางหูแหละครับ ไอ้สองคนมันร้องเพลงสตริง แต่ไอ้ตองเลือกร้องเพลงเก่า ๆ สุนทราภรณ์บ้าง ผู้ใหญ่ร่วมทริปก็ถูกใจขอเพลงขึ้นมากันเรื่อย ๆ เพลงไหนที่เป็นเพลงคู่ก็ต้องอาศัยคนในครอบครัว ก็จะใครล่ะครับ อิลุงแบงค์ของเรานี่แหละครับ ตั้งแต่คบกันมาเพิ่งเห็นลุงแกร้องเพลงเก่านี่แหละครับ ก็อย่างว่าเพลงเหล่านี้มันก็ต้องผ่านหูมาบ้างอยู่แล้วอาศัยดูเนื้อนิดหน่อยแค่นั้นก็ได้แล้ว มีบ้างที่ป้า ๆ ลุง ๆ ผละจากวงไพ่ขึ้นมา Featuring กับไอ้ตองบ้าง ร้องตั้งแต่บ่ายจนถึง 4 โมงเย็น เต้นเหยง ๆ กันอยู่หน้าเรือจนหมดแรงก็เลยขอตัวพัก

พี่แบงค์นั่งตรงเบาะข้างหน้าเรือไอ้ตองก็ไปนั่งข้างล่างกับพื้น ตรงนั้นเขาจะเปิดระเบียงเอาไว้ให้เสียวเล่น ไอ้ตองก็ไปนั่งตรงนั้นเอามือสัมผัสคลื่นน้ำโขงแล้วก็หนุนตักพี่แบงค์ไปพลางลมเย็นแตะผิวกายจนกระทั่งหลับไปในอ้อมกอดพี่แบงค์อีกรอบ แล้วก็สะดุ้งตื่นมาเพราะได้ยินเสียงชัตเตอร์อยู่ใกล้ ๆ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้ตัวน้องมันกำลังถ่ายรูปเราสองคนที่กำลังนอนจับมือโอบกันอยู่ ตื่นมาก็เย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับยอดเขาไปช่างสวยอะไรเช่นนี้

“ทุกคนครับ ตอนนี้ก็เข้าเขตเมืองหลวงพระบางแล้วนะครับ อีกประมาณ 45 นาที ถ้าท่านเห็นไฟฟ้าระยิบระยับนั่นแหละครับถึงตัวเมืองหลวงพระบางแล้ว ตอนนี้ขอให้ทุกท่านนั่งอยู่กับที่นั่งก่อนนะครับ เพราะน้ำโขงแถวนี้มีหินโสโครกมาก อาจจะครูดกับท้องเรือได้ พอถึงฝั่งขอให้ทุกท่านจัดการสัมภาระของท่านด้วยตัวเองนะครับ จะได้ไม่ต้องจ้างกุลีแบกของที่คอยอยู่ที่ท่าเรือ ขอบคุณครับ”
“โห น่ากลัวว่ะ ได้ยินเสียงท้องเรือไหม ครืด ครืด”
“นู่นไงเห็นไหมไฟลิบ ๆ นู่น เมืองหลวงพระบางของเรา”
“12 ชั่วโมงพอดีสำหรับการเดินทาง”
“เดี๋ยวเรือจะเทียบท่าที่หน้าวัดเชียงทองนะครับ แล้วก็จะนั่งรถต่อไปยังที่พัก คืนนี้ท่านไหนสนใจจะเดินเที่ยวตัวเมืองหลวงพระบางก่อนก็ได้นะครับ จะมีผับชื่อ “ราตรีเมืองซวา” เป็นผับอนุรักษ์ กับผับร่วมสมัย ชื่อ “ดาวฟ้า” ยังไงถ้าสนใจก็สอบถามผมได้นะครับ แต่ท่านไหนต้องการพักผ่อนหลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จก็พักผ่อนที่ห้องพักเลยก็ได้นะครับ”
“เย่ ไปเที่ยว”
“ยังไม่ทันแตะพื้นดินหลวงพระบางเลย คิดเรื่องเที่ยวแล้ว”
“เดี๋ยวยังไงนะ ขึ้นรถไปที่พัก แล้วออกมากินข้าว แล้วถ้าใครจะไปเที่ยวก็ไปใช่ไหม ใครจะเข้าที่พักก็ได้ใช่ไหม”
“อือ ใช่”
“ตองจะไปเที่ยวไหม”
“คิดว่าน่าจะไป”

แล้วเรือก็จอดเทียบท่าที่หน้าวัดเชียงทอง ตอนนี้พวกเราเดินทางมาถึงหลวงพระบาง เมืองที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม เมืองที่เก่าแก่ และสวยงามอุดมด้วยธรรมชาติที่มีอยู่อย่างมากมาย เมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน

“พระนครจันทบุรีศรีสตนาคนหุต อุตมราชธานี ศรีหลวงพระบาง ล้านช้างร่มขาว”


ปอลอ
ทายสิใครเอ่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2010 15:45:35 โดย philophobia »

-N-

  • บุคคลทั่วไป
แปะไว้ก่อนนะคุณน้อง จบงานเจอกัลลลล

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ะ..มาต่อเร็วมากอ่ะ 555+
 :กอด1:

อ๊ากกกกกกก....เพิ่งเข้ามาเห็นรูป~!!!
กรี๊ดร้องงงงง โหยหวนนนน
น่าร๊ากกกก  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2010 17:45:30 โดย pandaๅ123 »

Solar cell

  • บุคคลทั่วไป
วีทหวานกันมาในเรือแบบไม่แคร์สื่อ
แถมมีช่างภาพส่วนตัวคอยเก็บภาพประทับใจให้อีก
อิซชู่ตองอ่ะ :m12:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ทริปหลวงพระบางที่ใฝ่ฝัน 555

เอารูปมาอวดมั้งจิ เค้าอยากไปมั่ง :serius2:

โรแมนติกจังหนอมีคนให้นอนหนุนตักล่องลำน้ำโขง อิจฉาค่ะ  :a14:

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
หวานไม่แคร์สื่อเลย

อยากไปบ้างอะไรบ้าง ชอบอากาศหนาวๆ

แต่คาดว่าได้ไปกับเพื่อนๆน่ะสิ หึหึ

originalprincessaae

  • บุคคลทั่วไป
ฮ่าๆ  ไปเดินขึ้นด้วยเหรอเนี่ย


เดินกลับตั้งแต่ตี3ถึง6โมงยังไม่ถึงครูบาเลย


โค๊ดเมื่อย

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
รูปใครน้อน่าสงสาร ดูหมดสภาพมา คนหน้าดีๆเจอทริปนี้หน้าตากู่ไม่กลับ :m20: :m20: :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12

Aprilkung

  • บุคคลทั่วไป
โรแมนติกสุดๆ พี่ตองขยันจัง ดีใจๆ  :L2:

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51

“เจ้าเป็นคนไทยรู้จักพระเทพฯบ่อ” คนขับรถถามผมเมื่อรถกำลังแล่นจากท่าเรือเล็ก ไปยังท่าเรือบัค
“อ๋อ รู้จักครับ พระเทพฯทรงงานหนักมากเลย”
“ทรงงาน อิหยัง” ลุงแกคงไม่เข้าในราชาศัพท์ ก็ผิดที่ไอ้ตองเองแหละครับ
“อ๋อ หมายถึงพระเทพฯทำงานหนักมากเลยอ่ะครับ”
“แม่น คนเมืองหลวงฮักพระเทพฯหลาย” คนที่นั่นเขาจะเรียกตัวเองว่า คนเมืองหลวง หมายถึง คนเมืองหลวงพระบางนั่นเองครับ
“คนไทยก็รักท่านเหมือนกัน”
“ท่านมาเมืองลาวบ่อย คนหลวงพระบางเลยฮักท่าน ท่านสร้างโฮงหมอ สร้างโฮงแต้ม หื้อหมู่เฮา” โฮงหมอ คือ โรงพยาบาล โฮงแต้ม ก็คือ โรงเรียนนะครับ
“แล้วรู้จักในหลวงไหมครับ”
“ฮู้จักอยู่ เจ้าฟ้าเมืองไทย คนเมืองหลวงฮักหมดเลย”
“ผมก็รักในหลวงเหมือนกัน”

แม้จะเป็นแค่บทสนทนาเพียงสั้น ๆ แต่มันก็สื่ออะไรให้เห็นหลาย ๆ อย่าง ความจงรักภักดีที่ฉายออกมาทางแววตาของชายวัยกลางคนผู้นั้นเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้ท่านจะเป็นเจ้าฟ้าต่างด้าวท้าวต่างแดน แต่เขาก็เคารพด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ “คนไทยโชคดีหลายที่มีเจ้าฟ้า” ไอ้ตองโหมดรักในหลวง

ประทับใจตรงนี้ที่สุด  o13
หลวงพระบาง..น่าไปบ้าง..แต่คงต้องรอไปก่อนละกัน -*-
ชอบพี่ไกด์น่ะ ฮาสุด นอกจากไม่ห้ามปราม ยังเชิญชวนลูกทัวร์เล่นไพ่ด้วยตนเองเลยทีเดียว
ส่วนคุณลุงดูใส่ใจตองดีเนอะ สวีทน่าอิจฉา :-[
ส่วนน้องๆ 2 คน เราก็ยังคงสงสัยในความสัมพันธ์ของน้องเขาต่อไป..
 :กอด1:ตองทีนึง หายไปซะนาน คิดถึงจริง
ปล.รูปใครไม่รู้ รู้แต่โทรม(อย่าโกรธนะ แค่พูดตามที่เห็น :m23:)
เดาว่า ตอง ละกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2010 23:02:36 โดย knightofbabilon »

ออฟไลน์ jaaeyboy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ิอยากไปมั่งอ่ะ หลวงพระบาง

เอารุปมาแปะให้ดูบ้างน่ะจ๊ะ น้องตอง

ออฟไลน์ ♥a2k♥

  • 見えないままだって愛しい
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-2
น่าสนุกจังเลยพี่ตอง
อยากไปหลวงพระบางบ้าง เคยไปแต่ฝั่งเวียงจันทร์ แง่มๆ
ทริปนี้หวานนน อ๊างงงง
น้องต้น น้องบูมน่ารักก ><
ปล.เห็นว่ามีรูป รูปอะไรอ่า ฮือออ
อ่านในมือถือรูปไม่ขึ้น เสียใจจัง

แอบซุ่ม

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งหลุดออกจากกองงานที่ทับตัวเองไว้จนจะไม่เหลือซากอ่านคร่าวๆยังไม่ซึมซับรายละเอียดกะว่าจะอ่านอีกรอบตอนพรุ่งนี้แต่เจอรูปที่น่ารักทั้งสองคนเลยนะ... :-[ มีความสุขมากๆนะครับน้องตองพี่แบงค์ด้วย คิดถึงเสมอ อยากไปหลวงพระบางจัง

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ไม่ได้เข้ามาเม้นท์ซะนาน
แต่ยังตามอ่านอยู่นะ
ได้สิทธิบวกหนึ่งให้ด้วย o18
 

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
โห..ตองบรรยายซะอยากลงเรือไปเที่ยวหลวงพระบางมั่งเลย..
ประทับใจตอนที่ลุงพูดถึงสมเด็จพระเทพฯ กับในหลวงของเรา มากๆ


รออ่านต่อจ้าน้องตอง

ปล...มายกมือตอบ ... น้องตองนอนตาปรือแบบเซ้กซี่เล้กๆหนุนตักที่แข็งแกร่งและอบอุ่นของลุงแบงค์ โดยมีน้องบูมเป็นปาปารัชชี่ และ น้องต้นเป็นกำลังใจ....เหอเหอ....ถูกป่ะ??

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โมโม่ที่รัก

  • ٥ﻻ ﻉ√٥ﺎ ٱu
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 942
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
นั้นใคร??? นั้นพี่ฟิไม่ใช้หรอ
 :กอด1:

ออฟไลน์ philophobia

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 945
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +426/-5

ออฟไลน์ philophobia

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 945
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +426/-5
ตอนพิเศษที่ 4 หลวงพระบาง Episode II

ก้าวแรกที่แตะพื้นแผ่นดินหลวงพระบางล้านช้างร่มขาวไอ้ตองใช้เท้าซ้ายแตะก่อน สองมือไอ้ตองกระชับเป้แบบทหารที่เรียกว่า “ล็อคแซ็ค” เอาไว้ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเล็กหน่อยสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด แววตาฉายความมุ่งมั่น

“เฮ้ย ตองรีบเดินดิ คนอื่นเขารออยู่” แป่ว หมดกัน คนเราอุตส่าห์ทำให้มันดูดีอิลุงก็มาขัดจังหวะการเป็นพระเอกของไอ้ตองหมด
“อ้าวเหรอ แหะ ๆ”
“เดินระวัง ๆ บ้าง เดี๋ยวก็พลัดตกตลิ่งหรอก” พี่แบงค์ชอบคิดว่าไอ้ตองเป็นเด็กอมมือดูแลตัวเองไม่ได้ ดูสิ
“โห พี่แบงค์พูดเหมือนตองเป็นเด็ก เหวออออ”
“นั่นไงเห็นไหม พูดยังไม่ทันจบเลย มานี่มา” พี่แบงค์ก็คว้ามือไปตองไป พร้อมกับเอากระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบเล็กของไอ้ตองไปด้วย กะจะโชว์แมนล่ะสิ
“ยายกับตาล่ะ” ผมก็ต้องเป็นห่วงผู้มีพระคุณของผมก่อนเป็นอันดับแรก ๆ สิใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ไอ้ตองถูกถอดยศจากหลวงจงรักษ์กลายเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง โดยมีพี่แบงค์รั้งตำแหน่งนั้นแทน ฮึ่ย ไอ้ตองก็ได้แต่อิจฉาอยู่ไกล ๆ เชอะ
“ไม่ต้องห่วงหรอก สองคนนั้นไปดูแล้ว”
“หลวงพระบางหนาวเนอะ” เดี๋ยวต้องกอดไอ้ตองแน่ ๆ บ่นว่าหนาวเนี่ย ไม่ปล่อยให้ไอ้ตองยืนหนาวสั่นแน่ ๆ
“เอาเสื้อกันหนาวมาป่ะเนี่ย” โห่ อะไรวะ ไอ้เราก็นึกว่าจะเข้ามากอดให้ความอบอุ่นให้พอคลายหนาว
“เอามาสองตัว”
“โห บันไดชันว่ะ เดินขึ้นไหวไหมตอง” ฮั่นแน่ เห็นไหมเป็นห่วงไอ้ตองอ่ะดิ
“ถ้าตองบอกว่าไม่ไหวล่ะ”
“ไม่ไหวก็ต้องเดินต่อ” โห เป็นแฟนตัวอย่างจริง ๆ โว้ย เดี๋ยวปั๊ดเอาหนุ่มหลวงพระบางทำแฟนแทนอิลุงเลยนี่ อ๊างงง พิมพ์อะไรไปชวดโดนกระทืบจริง ๆ
“อ๊าว ที่ถามนึกว่าจะอุ้ม โด่”
“คิดว่าตัวเล็กนักหรือไง”
“ฮึบ ๆ จะถึงแล้วตอง ยายจะเดินขึ้นไหวไหมวะ” อิลุงคงจะเหนื่อยมาหน่อยนอกจากข้าวของเยอะ ๆ ยังไม่พอยังต้องดึงไอ้ตองขึ้นไปอีกด้วย แข็งแรง ๆ จริง ๆ เดี๋ยวกลับถึงห้องจะจุ๊บให้แรง ๆ เลย
“เดี๋ยวเอาของขึ้นรถแล้วรีบไปรับยายดีกว่า”
“ไหนวะรถ”
“นั่นไงพี่บอยยืนตรงนั้นไง” กว่าไอ้ตองจะฝากฝูงกุลีที่มาคอยยืนสกัดหน้าสกัดหลังแย่งรับจ้างขนของขึ้นมาได้ก็แทบแย่ พอไอ้ตองขึ้นลองมาถึงข้างบนก็แย่งกันขนของขึ้นไปที่รถ แต่ด้วยพลังวัฏเสียงดังของไอ้ตองก็เลยทำให้เหล่ากุลีที่ยื้อแย่งกันอยู่ผละออกไปจากของส่วนตัวไอ้ตองและพี่แบงค์อย่างฉับพลัน ระยะทางจากหัวบันไดไปถึงรถแค่ 3 ก้าวเอง ไอ้ตองไม่ต้องจ้างหรอก ถ้าจ้างก็จ้างตั้งแต่ลงเรือแล้ว งานนี้อดได้เงินไอ้ตอง
“ทางนี้ครับ ๆ คันนี้เลยเอาของไว้เลย”
“เฮ้อ ถึงซะที ตองเฝ้าของตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่ลงไปรับยายก่อน” ไปแล้วไงครับสามีดีเด่นของไอ้ตอง กับหลานดีเด่นของยายลงไปรับยายแล้วไง ขยันทำคะแนนซะจริง ๆ
“พี่บอยที่พักไกลไหมอ่ะ”
“ไม่ไกลครับ คืนนี้น้องตองไปเที่ยวกันไหม” เอาแล้วสิครับมาเหยียบแผ่นดินหลวงพระบางยังไม่ถึง 10 นาทีเลย ชวนเที่ยวซะแล้ว มีหรือที่ไอ้ตองจะปฏิเสธ แต่ต้องแอ๊บเป็นเด็กดีก่อน สร้างภาพเล็ก ๆ อ๊างงง
“จำชื่อตองได้ด้วยเหรอ”
“ก็เห็นชื่อติดหน้าอก” อ๊างงง นี่แอบมองนมไอ้ตองเหรอเนี่ย
“โห่ นึกว่าเก่งจำชื่อลูกทัวร์ได้หมดทุกคน”
“อีกสักวันสองวันก็จำได้หมดแหละ”
“โม้ ป่าวพี่”
“ทางนี้เลยครับ คันละ 10 คนนะครับ”
“พี่ทำทัวร์บ่อยเปล่า”
“ก็มาหลวงพระบางเดือนละ 3-4 ครั้ง” ได้เที่ยวทุกวันแบบนี้คงจะสนุกดีพิลึก หนึ่งในอาชีพในฝันของไอ้ตองเลยนะนี่
“ไม่เบื่อเหรอพี่”
“ไม่เบื่อหรอก หลวงพระบางมีที่เที่ยวเยอะแยะ”
“ฮึบ บันไดชันชิบเลยพี่ตอง” ไอ้บูมมาถึงก็บ่นใหญ่เลย
“ตองป่ะขึ้นรถ”
“ไปเหอะน้องตอง แฟนมาตามแล้ว”
“ถึงซะที ยายเหนื่อยไหม” พอไอ้ตองขึ้นรถได้ก็แวะมาทำคะแนนกับยายก่อนเป็นอันดับแรก หอมแก้มไปสองฟอด สร้างความอิจฉาให้แก่ไอ้ต้นเป็นอันมาก มันก็เลยเลียนแบบทำบ้าง
“ไม่เหนื่อยหรอก สนุกดี”
“ยายตื่นเต้นกว่าพวกเราอีกตอง” แม่ผมหันมาแซวยายเล็ก ๆ ก็คนแก่ได้ออกมาดูอะไรที่ตื่นตาตื่นใจก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา ขนาดคนหนุ่ม ๆ อย่างเรายังตื่นเต้นเลย
“แม่เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแบงค์พาน้องไปเที่ยวต่อนะ”
“โตแล้วก็ดูแลตัวเองละกัน ไปไหนมาไหนก็ระวังที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา” ตอนแรกไอ้ตองคิดว่าคุณนายแม่จะไม่อนุญาตซะอีก ที่ไหนได้คุณนายแม่ไฟเขียวแบบนี้ก็หวานหมูอ่ะสิครับ
“แม่ขอตังค์หน่อย”
“ยังไม่ทันถึงไหนก็ขอตังค์แล้วนะ ดูพี่ตองกับต้นเขาสิ เขายังไม่ขอกันเลย” คุณนายแม่ดุลูกคนเล็ก พร้อมกับหันมาให้เครดิตพวกเราสองคน
“กำลังจะขอครับแม่”
“ฮ่า ๆ” แล้วพวกเราก็หัวเราะครืนกันทั้งรถ เพราะไอ้ต้นดิสเครดิตที่คุณนายแม่อุตส่าห์เมื่อไม่ถึง 5 วินาทีก่อนหน้านี้
“ที่นี่เขาขับรถเลนส์ขวากันเนาะพี่ ถ้าเป็นบ้านเรานี่งงตายเลย” พ่อผมหันไปคุยกับพ่อพี่แบงค์ ได้ยินว่าอายุห่างกันไม่กี่ปีเองก็เลยคุยกันได้สนุกเลย
“ข้ามถนนกันทีเรื่องใหญ่เลยสิเนี่ย”
“เอ่อ ฮัลโหล เทส ๆ ได้ยินนะครับ ขวามือของลูกทัวร์ตอนนี้คือผับชื่อ ราตรีเมืองซวา ก็เป็นผับสบาย ๆ เอาไว้นั่งฟังเพลงหรือจะลุกขึ้นมาเต้นบัดสลบก็ได้นะครับ” พี่บอยพอได้ไมค์ก็เริ่มแนะนำสถานที่เที่ยว คำว่าเมืองซวา หรือเมืองชวา ก็คือชื่อเดิมของเมืองหลวงพระบางที่อยู่ในชาดกนอกนิบาตรเรื่องสุวัณณเกี๋ยงฅำ หรือ เรื่องแสงเมืองหลงถ้ำ ส่วนบัดสลบ (paslop)  ก็เป็นลีลาศของลาวที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสเมื่อครั้งยังปกครองเมืองลาวอยู่ ก็จะมีอยู่หลายจังหวะเมื่อจังหวะใดขึ้น เขราก็จะเต้นท่าเฉพาะจังหวะนั้นกันทั้งงานเลย เหมือนกับที่เรา ๆ เคยเห็นกันในภาพยนตร์เรื่อง สบายดีหลวงพระบาง นั่นแหละครับ
“ที่พักอีกไกลไหมบอย” แม่ผมคงอยากเข้าที่พักอาบน้ำเต็มแก่ เลยถามถึงที่พักเป็นอันดับแรก
“ไม่ไกลครับพี่เดี๋ยวก็ถึง”
“พี่บอยซ้ายมือนี่ใช่ไหมอ่ะที่บอกผับวัยรุ่นอ่ะ”
“อ่า ถูกต้องแล้วน้องบูม ผับดาวฟ้า แห่งรวมวัยรุ่นของหลวงพระบาง”
“ถึงที่พักแล้ว ขนของเข้าห้องพักแล้วเจอกันที่รถเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะพาไปทานมื้อเย็น เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่เอากุญแจมาให้นะครับ พักห้องละสองคนนะครับ”
“โว้ว เขาทำบ้านเป็นหลังแบบนี้เลยเหรอ” บ้านพักที่เราเข้าไปพักเป็นบ้านหลังใหญ่ แล้วเขาซอยแบ่งเป็นห้อง ๆ
“อ่านว่าอะไรวะ”
“เมืองสุวันเกสต์เฮ้าส์”
“ถูกไหมนั่นมึง”
“มึงก็อ่านภาษาอังกฤษดูดิไอ้ควาย”
“ควายสองตัวทะเลาะกันเสร็จก็ขนของเข้าห้องด้วยนะครับ”
“โห่ พี่ตองอ่ะ”
“บ้านนี้หกห้องนะครับ 01 02 03 08 09 10 นะครับ ห้องอยู่ตรงกันข้ามกันเลย” พี่บอยเขาก็เข้าใจแบ่งห้องให้พวกเรา จัดให้อยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนกันดี
“พี่แบงค์พาตากับยายเข้าห้องก่อนไป๊ เดี๋ยวตองขนของเข้าห้องเอง”
“เอางั้นนะ”
“พี่ตองห้อง 01 นะ บูมเอา 08”
“โอเค อย่าเพิ่งเข้าห้องสิ มาช่วยขนของเข้าห้องก่อนหนักเว้ย กระเป๋าเฮียแกอ่ะ”
“ค่าจ้าง 20” ไอ้บูมมันคงหมายถึงจูบ 20 ทีแน่ ๆ เห็นไหมเด็กมันยั่ว อ๊างงงง
“มันจะหน้าเลือดไปไหนวะไอ้เด็กบ้านนี้”
“ต้นเปิดประตูให้หน่อย”
“ไหนกุญแจ”
“ในกระเป๋ากางเกง”
“ข้างไหนวะ”
“ก็ล้วงดูเด่ะ”
“โห ห้องใหญ่ดีว่ะ” พอประตูไม้ที่กั้นอยู่เปิดออกมาให้เห็นสิ่งที่ปกปิดอยู่ภายในก็รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายเหลือเกิน
“ไหนดูห้องน้ำดิ๊” ไอ้สองน้องก็พากันโผล่หน้าเข้าไปดูในห้องน้ำ จะเข้าไปหาอะไรกินหรือไงวะ สงสัยจะหิวจัด อ๊างงงง
“โว้ว เครื่องทำน้ำอุ่นซะด้วย”
“เอาของไปเก็บ รถรออยู่”
“ตองอยู่ห้องนี้เหรอลูก” ไอ้ตองเก็บของปิดห้องเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเจอกับป้าพี่แบงค์พอดีเลย
“ครับ ป้าอยู่ห้องไหนครับ”
“อยู่ 10”
“ตองช่วยไหมครับ”
“ขอบใจจ่ะ” ไอ้ตองก็เลยช่วยป้าถือของไปส่งที่ห้อง หนักเหมือนกันแต่ไอ้ตองทนได้ เคยเจออะไรหนัก ๆ มาก็เยอะ ส่วนใหญ่ก็โดนจากพี่แบงค์นั่นแหละเมื่อไหร่ก็บอกจะจัดหนัก จัดหนัก ทุกคืนเลย ไอ้ตองละเพลีย อ๊างงงง
“ห้องเขาน่าอยู่ดีเนาะ”
“ครับ ห้องใหญ่ดี เอาบ้านทั้งหลังแบ่งเป็นห้องเต็มเลย”
“ป่ะ นัท ล็อคห้องดี ๆ ด้วย”
“อ้าว ตองนึกว่าอยู่ไหน” พี่แบงค์คงตามหาไอ้ตองไม่เจอ ก็ยังงี้แหละน้าอานุภาพแห่งความรัก อ๊างงงงง
“แวะมาช่วยป้าขนของ”
“ป่ะ ไปยัง”
“บูม ต้น รถรออยู่” ผมแวะไปเคาะห้องไอ้สองน้องก็เห็นมันสองคนกำลังเก็บของ เอ๊ะ จะเรียกว่าเก็บของได้เหรอ น่าจะเรียกว่า โยนของมากกว่า
“ตายายขึ้นรถแล้วใช่ไหมพี่แบงค์”
“อือ อยู่บนรถล่ะ เหลือแต่เรา”
“กับข้าวมื้อนี้จะเป็นอะไรน้า”
“ขอให้เป็นเนื้อวัวทุกเมนูเท้ออออ” ไอ้ต้นไอ้น้องเลว มันรักพี่มันจริง ๆ ถ้าเป็นเนื้อวัวไอ้ตองก็กินไม่ได้อ่ะสิ
“พี่ตองก็ไส้แห้งอ่ะดิ”
“ไอ้ต้นเลวว่ะ”
“ได้กินไข่เจียวแน่ ๆ” อิลุงมันจะช่วยปกป้องแฟนมันหน่อยก็ไม่ได้ กระหน่ำซ้ำเติม เฮ้ย นี่พวกมึงทำงานอยู่ศูนย์ซ้ำเติมผู้ประสบภัยหรือไงวะ
“พอกันเลย”
“ถึงแล้วครับ เข้าไปด้านในเลย เราจองโต๊ะไว้แล้ว” พี่บอยก็นำพวกเราลงรถแล้วก็เข้าไปนั่งโต๊ะกินข้าวที่ถูกจัดเอาไว้รอพวกเราก่อนหน้านี้แล้ว
“โว้วว วันนี้กินหรู”
“บูมไปดูดิ๊ ใครลืมอะไรไว้ในรถหรือเปล่า”
“ไม่มีเมื่อกี้ดูแล้ว”
“โห คนเต็มเลย สงสัยมีหลายทัวร์มาลง” ในร้านก็มีคนที่กินอยู่ก่อนแล้วอยู่หลายโต๊ะ แต่สิ่งที่สังเกตก็คือมีแต่คนวัยกลางคนทั้งนั้นเลย ไม่มีอาหารตาสำหรับไอ้ตองเลย หิวว้อยยยย
“ตอง ยายเรียก”
“หวา งานเข้า เคี้ยก ๆ” สิ้นคำแม่เรียกผมไอ้ต้นก็ฉอเลาะเยาะเย้ยใหญ่ น่าเตะแล้วหอมแก้มจริง ๆ
“ครับ ยาย”
“เดี๋ยวดูกับข้าวนะ อันไหนกินไม่ได้ก็บอกให้เขาเปลี่ยน อันไหนเผ็ดก็สั่งใหม่” รู้หรือยังว่าใครเป็นใคร ฮ่า ๆ พอดีไอ้ตองถูกเลี้ยงมาแบบตามใจกินยากคุณยายก็เลยเป็นห่วง กลัวไอ้ตองตายในต่างแดนแล้ววิญญาณจะกลับเมืองไทยไม่ได้
“ครับ”
“ไปเถอะแบงค์ ไปดูน้องเถอะ”
“ครับ”
“งานเข้าป่าวพี่ตอง”
“ไม่อ่ะ ยายกลัวจะกินกับข้าวไม่ได้”
“พี่นัท ๆ ทางนี้มานั่งด้วยกัน” ไอ้บูมก็เรียกน้องนัทผู้ที่ซึ่งตลอดทริปพูดไม่ถึง 3 คำมานั่งด้วยกัน ก็พวกแกไม่คุยกับน้องเขานี่หว่า
“พี่บอยนั่งด้วยกันไหมครับ” พี่บอยเดินดูแลลูกทัวร์เสร็จแล้วก็เดินผ่านโต๊ะพวกเราพอดี พี่แบงค์ก็เลยเรียกพี่บอยมานั่งด้วย
“จะดีเหรอ”
“ที่ว่างอยู่ มานั่งกินด้วยกันดิพี่”
“มีใครไม่กินเนื้อบ้าง”
“ไอ้ตองเลยพี่บอย คนเดียวเลย” โห่อะไรวะ แค่ไม่กินเนื้อทำไมเหมือนมีความผิดเหมือนเป็นอาชญกรเลยวะเนี่ย
“อ้าว ก็ไม่กิน ผิดหรือไง”
“ไม่ผิดหรอกคร้าบบ”
“พี่จะบอกว่าอาหารส่วนใหญ่ที่หลวงพระบางเป็นเนื้อ แล้วอีกอย่างก็คือว่า ใส่ผงชูรสเยอะมาก แต่ใครที่ไม่ทานก็บอกว่าไม่ใส่ก็ได้นะครับ”
“กลับเมืองไทยรอบนี้พี่ตองเหลือแต่กระดูกแน่”
“โว้ ๆ อาหารมาแล้ว” ไอ้บูมเห็นกับข้าวก็ดีใจตีมือแปะ ๆ เหอะ พี่ชายมันว่ากูปัญญาอ่อน หันไปมองน้องมึงมั่งนะลุง
“อะไรเนี่ย น่ากินจัง ๆ” เอ แต่ว่าไปว่ามาน้องเราก็ดูท่าจะไม่เต็มเหมือนกัน
“คะน้าน้ำมันหอยกุ้งน่าอร่อย”
“จะกินแล้วนะคร้าบบบบ” ไอ้บูมถือช้อนกับส้อมในมือสองข้างทำเหมือนจะฆ่ากุ้งในจานให้ตาย แล้วมันก็จิ้ม ๆ กุ้งกิน น่ารักตาย
“อ้าห์ อร่อยที่สุดในโลก เอ้ย อร่อยที่สุดในหลวงพระบางงงงง”

แล้วพวกเราก็จัดการอาหารที่ทยอยมาเสิร์ฟจนหมดเกลี้ยงซะทุกจาน ไม่รู้ว่าเพราะผงชูรสที่กระหน่ำใส่ลงไปในอาหารหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่มันก็อร่อยมาก เมื่อรับประทานอาหารเสร็จสรรพก็ได้เวลานั่งคุยกันสัพเพเหระ ผู้ใหญ่เขาก็คุยกันไปตามประสาอย่างออกรสออกชาติ ไอ้ตองก็เข้าไปกระแซะตาส่วนพี่แบงค์ก็เข้าไปกระแซะยาย อ้อนกันทำคะแนนสุดพลังแรงเกิดเท่าที่จะทำกันได้ ไอ้ต้นกับไอ้บูมก็ผลัดกันเป็นตากล้อง ส่วนน้องนัทกับพี่บอยก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เอ๊ะ หรือว่าเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กัน

ก่อนจะกลับเข้าที่พักอีกรอบพี่บอยบอกลูกทัวร์ทุกคนว่าพรุ่งนี้เวลาตี 5 รถจะมารับไปใส่บาตรข้าวเหนียวก็ขอความร่วมมือให้มาขึ้นรถให้ตรงเวลา ส่วนลูกทัวร์คนไหนไม่ต้องการจะไปใส่บาตรก็แจ้งพี่บอยได้ เดี๋ยวรถก็จะเข้าที่พักเลย ใครจะแวะเที่ยวต่อรถก็จะแวะให้ ส่วนขากลับก็กลับกันเองตามอัธยาศัย พวกเราเด็ก ๆ ก็เลยจะแวะลงระหว่างทางเลย ก่อนจะไปยายก็ยังกำชับไอ้ตองกับอิลุงให้ดูแลกันเองดี ๆ ด้วย ไอ้บูมก็ฝากกล้องกลับห้องเลยจะได้ไม่เป็นภาระ มีคนแวะไปเที่ยวดาวฟ้าต่อกันหลายคนอยู่ แต่ดีหน่อยที่พวกเรามีพี่บอยเป็นคนนำทาง สบายเลยไม่ต้องกลัวจะหลง

“ตื่นเต้น จะได้เข้าผับครั้งแรก”
“เหรอออ แล้วตอนนั้นแอบไปแวร์กับใคร” เรื่องมีอยู่คือว่าไอ้ต้นมันแอบไปเที่ยวผับเมื่อวันกีฬาภายในโรงเรียนมันโทรมาบอกผมว่ามันจะไปแต่ไม่ได้โทรบอกแม่ ถ้าแม่รู้นี่ตายอย่างเขียดแน่เมิงงง
“อันนั้นไม่นับได้ไหม”
“ที่นี่เครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คือ เบียร์ลาว มีแอลกอฮอล์ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ สนใจลองดูได้นะครับ”
“พี่บอยผับปิดกี่โมงอ่ะ”
“ก็ถึงเช้าอ่ะครับ”
“โห ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย”
“ก็มีคนพื้นที่บ้าง แล้วก็ฝรั่งที่มาเที่ยวหลวงพระบาง”
“ไฟแฟลชแสบตาว่ะ”
“ไม่แสบก็บ้าล่ะว่ะ ก็ดูดิ เขาเอาสปอตไลท์ทั้งลูกมาทำเป็นไฟแฟลชดูดิ”
“ถึงว่า เป็นช็อต ๆ เลย”
“ทำไมนักร้องเขาแต่งตัวกันเรียบร้อยจังเลยพี่”
“ที่นี่เป็นเมืองมรดกโลกครับ ก็ต้องทำอะไรให้ดูเรียบร้อยหน่อย”
“เจ๋งดี”
“รับอะไรกันดีพวกเรา”
“ต้นขอเบียร์”
“น้อย ๆ หน่อยman” น้องใครวะแก่แดดแก่ลม ไม่เหมือนพี่มันเรียบร้อย อ๊างงงง
“บูมขอด้วย”
“แบงค์อ่ะ”
“เบียร์ครับ นัทเอาเบียร์ด้วยกันนะ”
“น้องตองอ่ะ”
“ไอ้ตองกินโค้กละกัน มีโค้กไหมพี่”
“มีครับ”
“งั้นเบียร์ 5 โค้ก 1 ละกันพี่”
“โห่ อะไรวะ”
“ฮ่า ๆ พี่ตองอ่อนว่ะ”
“ต้องทำใจพี่ตอง สามีมาคุม”
“เซ็งว่ะ”
“มาแล้ว ๆ สุราเมรัยของพวกเรา ส่วนนี้อ่ะ โค้กของน้องตอง”
“ไอ้ต้นใครน้องเมิง เดี๋ยวจะโดน”
“พี่ตองชิมไหม”
“ไม่ต้องให้มันกินบูม เดี๋ยวมันจะรั่ว”
“ไม่หรอกพี่แบงค์ นิดเดียวเอง”
“เป็นไงแบงค์ใช้ได้ไหม”
“โอเคพี่ ไม่แรงมากถึงว่าอยู่ได้ทั้งคืน”
“สงสารเด็กกินโค้กว่ะ”
“เงียบไปเลย
“ตองห้ามซนนะ”
“ค้าบ”
“พี่บอยถ้าผมจะโทรกลับเมืองไทยทำยังไงอ่ะ”
“อ๋อ ซื้อซิมลาวใช้ครับ ตกอยู่ 40 บาท”
“เอ้ย ผมว่าจะถามตั้งแต่อยู่ในรถแล้วว่า ต้องแลกเงินไหม”
“ไม่ต้องแลกก็ได้ครับ เมืองหลวงรับแบงค์ไทยครับ แต่ไม่รับเหรียญ เพราะที่นี้ไม่มี machine ที่รองรับเหรียญเลย”
“อ้าว แล้วเวลาโทรศัพท์อะไรทำนองนี้อ่ะพี่”
“เขาซื้อเป็นบัตรโทรศัพท์อ่ะต้น”
“อ๋อ แล้วตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่อ่ะพี่”
“บาทนึงก็ 250 กีบ”
“โห ถ้ามีพันนึงก็มีเงินเป็นล้านเลยดิพี่”
“ใช่ทำนองนั้นแหละ”
“เงินเฟ้อสินะ”
“ใช่ เงินเพ้อทำให้ค่าของเงินต่ำลงเรื่อย ๆ ซื้อของชิ้นนึงก็ต้องใช้เงินมาก ๆ สินค้าหลายอย่างนำเข้ามาจากเมืองไทย อย่างน้ำปลา ซีอิ๊ว น้ำมันพืช ขนม อะไรทำนองนี้ก็ขนมาจากเมืองไทยหมดเลย”
“ก็ต้องแพงอ่ะดิพี่”
“ก็แพงหน่อย อย่างโค้กเนี่ยก็กระป๋องละ 5000”
“โห ทำไมแพงอ่ะ”
“5000 กีบ ก็ตก 20 บาท”
“อ๋อ ตกใจนึกว่าแพง แหะ ๆ”
“โห เพลงแดนซ์ ไฟก็แสบตา”
“ต้นไปเต้นกัน”
“ไปดิ”
“ไปด้วยคนดิต้น”
“ป่ะ ไปเต้นกัน”

ไอ้ตองกับไอ้สองน้องก็ออกไปเต้นเสต็ปรั่ว ๆ แบบที่เต้นในเมืองไทย ซึ่งดูผิดกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของเขาเหลือเกิน เจ้าของพื้นที่เขาก็จะออกเสต็ปเบา ๆ อยู่ที่โต๊ะ บางคนที่นุ่งผ้าซิ่นมาเที่ยวด้วยสิ ดูงดงามไปอีกแบบ คนที่ออกไปเต้นหน้าฟลอร์ ส่วนใหญ่ก็จะมีฝรั่งแล้วก็ไอ้สามตัวที่มาจากเมืองไทยเต้นกันอยู่เหยง ๆ อยู่ ระหว่างที่เต้นอยู่ ก็จะมีการ์ดของผับขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บนเวที เผื่อเวลามีอุบัติเหตุชกต่อยกันอะไรทำนองนี้จะได้ห้ามทัน ไอ้ตองเต้นยังไม่ทันจะเหนื่อย พี่แบงค์ก็ตามมาสมทบคงจะอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาเต้นเหยง ๆ กับพวกเราทิ้งให้พี่บอยกับพี่นัทคุยกันไปเรื่อยเปื่อยอยู่สองคน เพลงที่เต้นส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงแดนซ์ที่เปิดทั่ว ๆ ไปในเมืองไทยแต่อาจจะล้าหลังไปสักเดือน สิ่งที่ทำให้การเต้นครั้งนี้สนุกนอกเหนือไปจากเพลงที่เปิดก็คือ ไฟแฟลชดวงเท่ากระด้งนี่แหละครับ ก็เล่นเอาสปอตไลท์มายิงกันซะขนาดนี้ สว่างวาบ ๆ ทำให้เห็นร่างกายขยับเป็นช็อต ๆ บางทีก็เป็นท่าทางแปลก ๆ นั่นแหละครับของสนุกของพวกเรา

ยิ่งดึกผู้คนก็ยิ่งทยอยมากันเรื่อย ๆ จนราวตีสองพวกเราถึงได้กลับออกมาจากดาวฟ้า ด้วยสภาพที่เรียกว่า “ไม่เมา แต่ไม่เหมือนเดิม” จากดาวฟ้าเดินกลับไปที่พักก็ไม่ไกลเท่าไหร่นักเดินสักราว 5 นาทีก็ถึง พวกเรา 6 คนแยกย้ายกันไปนอนเอาแรง เดี๋ยวตอนตีสี่ก็ต้องตื่นไปใส่บาตร

“ฝันดีทุกคน”
“ตีสี่นะเว้ย” พี่แบงค์กำชับก่อนที่พวกเราจะกลับเข้าห้องพักของใครของมัน
“เจอกัน ๆ”
“ตองครับ” พอปิดประตูได้พี่แบงค์ก็ดันไอ้ตองติดประตู ก่อนจะจับหน้าไอ้ตองให้หันหน้าไปสบตาด้วย
“หือ ครับ”
“สนุกไหม” พี่แบงค์กระซิบถามใกล้ ๆ หูของไอ้ตองด้วยเสียงอันแผ่วเบา แล้วก็ไม่ลืมใช้ลิ้นเปียกฉกเข้าไปในรูหูไอ้ตองด้วย ขนลุกซู่เลย
“สนุกดี แปลกดี”
“กินซะเยอะเลย เมาไหมเนี่ย พี่บอกไม่ให้กินก็ไม่ฟัง” ตอนนี้มือพี่แบงค์อยูไม่เป็นสุขแล้ว ปัดป่ายไปทั่วเลย จับนู่นจับที่ทั้งที่ไม่มีให้จับ
“แค่มึน ๆ นิดหน่อย”
“ป่ะอาบน้ำกัน”
“พี่เข้าไปอาบก่อนดิ”
“อือ ไม่เอาอ่ะ อาบด้วยกันดีกว่า”
“อือ พี่แบงค์ไม่เอาตองตัวเหม็น” พี่แบงค์ถอดเสื้อผมออกก่อนจะโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดีทำราวกับมันเป็นสิ่งไร้ค่า ซื้อมาแพงนะว้อย
“ไหน ดมดูหน่อยดิ๊ ไม่เห็นจะเหม็นเลย”
“พี่แบงค์อย่า” ก็พี่แบงค์ซุกจมูกเข้าไปที่ซอกคอก่อนจะเรื่อยมาถึงซอกรักแร้ คงอยากจะพิสูจน์กลิ่นกระมั้ง
“ไหนกลัวอะไร ไม่มีใครอยู่ซักหน่อย”
“อืม พี่แบงค์อ่ะ” พี่แบงค์ใช้ลิ้นฉกไปที่ยอดอกของไอ้ตองเบา ๆ
“งืม อืม อาห์” ตอนนี้ลิ้นใครเป็นลิ้นใครไม่รู้พัลวันพันตูกันไปหมด แยกไม่ออกกันเลยทีเดียว พี่แบงค์ผลักไอ้ตองไปในห้องน้ำโดยที่ก็ยังคงกัดปากกันอยู่ เราสองคนช่วยกันถอดเสื้อผ้าโยนออกมานอกห้องน้ำกันอย่างรวดเร็ว

พี่แบงค์ผละปากออกไปแล้วทิ้งให้ไอ้ตองอารมณ์ค้างเติ่งเหมือนว่าวที่ถูกลมพัดไปลอยติดค้างกิ่งไม้ พี่แบงค์กดไหล่ให้ไอ้ตองนั่งลงกับชักโครก แล้วหันไปหยิบแชมพูมาละเลงหัวก่อนจะค่อย ๆ เกาหนังศีรษะไอ้ตองเบา ๆ อาห์ ช่างเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษและสบายอะไรเช่นนี้ พี่แบงค์จับมือข้างหนึ่งของผมขึ้นไปสัมผัส “ตรงนั้น” ที่ตอนนี้ร่วมแรงแข็งขันชี้หน้าไอ้ตองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ทำให้หน่อยสิ”
ไอ้ตองก็เลยช่วยใช้มือที่ว่างอยู่รูดไปมา บางคราวก็ใช้หัวแม่มือคลึงไปมาตรงส่วนปลายคอดหยัก ช่างสระผมประจำตัวก็ส่งเสียงซี้ดซ้าดเป็นระยะ ก่อนทุกอย่างจะหยุดเมื่อพี่แบงค์หันไปจัดการทำความสะอาดตัวเองและตัวผมจนคิดว่าสะอาดเอี่ยมอ่องแล้ว

แต่เมื่อความปรารถนาที่ยังคุกรุ่นอยู่ยังไม่ดับมอดไปสงครามครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นได้ไม่อยาก พี่แบงค์ผลักผมไปที่อ่างล้างหน้าพร้อมกับอุ้มผมขึ้นไปนั่งข้างบนโดยที่ปากของเราสองคนยังนัวเนียไม่ได้มีเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีที่จะหลุดออกจากกัน ความกลัวจะตกก็ทำให้ผมคว้าคอพี่แบงค์มากอดไว้อย่างช่วยไม่ได้ เราแลกลิ้นนัวเนียกันอยู่นานแสนนาน กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ กรุ่นอยู่ในโพรงปากเร้าอารมณ์ของสองเรา ไอ้ตองปล่อยใจให้ล่องไปกับธารแห่งกามารมณ์ แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีอะไรบางอย่างบุกรุกช่องแคบส่วนตัว

“ไปเอามาจากไหน” ผมตกใจที่เห็นเจลหล่อลื่นในมือของพี่แบงค์
“ก็พกมาด้วยจากเมืองไทย”
“หื่นได้ตลอดเวลานะคนเรา”
“ก็นาน ๆ ออกนอกสถานที่ที ตองพี่ขอนะ”
“อ่ะ ซี้ด เคยขอแล้วไม่ได้เหรอ”
“อึ๊ อ้า” พอมันเข้าไปได้ทั้งลำแล้วก็ต้อง ซี้ดเป็นธรรมดา

ตอนนี้ผมนั่งแหกแข้งแหกขาอยู่หน้ากระจกอ่างล้างหน้าโดยมีพี่แบงค์เอาชนักส่วนตัวเสียบไว้อยู่จะหนีไปไหนก็หนีไม่ได้ แค่อยากถามว่าผิดอะไร ทำไมต้องทำรุนแรงกับตองแบบนี้ ทำไมต้องเอาอาวุธประจำกายมาทำร้ายฟันแทงกันแบบนี้ด้วย พี่แบงค์ขยับร่างกายท่อนล่างเข้าออก แล้วผลักให้ผมเอนตัวไปด้านหลังพิงกระจก เกือบจะตกลงไปในอ่างล้างหน้าอยู่แล้วถ้าไม่มีพี่แบงค์กอดเอาไว้  ท่านี้เอื้ออำนวยให้ออกแรงได้คราวละมาก ๆ คนที่ลำบากก็คือไอ้ตองที่เมื่อถูกพี่แบงค์กระทุ้งเข้าไปแรง ๆ ก็ต้องส่งเสียง อึ๊ อ๊ะ ซี้ด ซ้าด แข่งกับพี่แบงค์ที่มีความสุขกับการเห็นท่อนเนื้อของตัวเองมุดเข้าออกบั้นท้ายไอ้ตองอย่างไม่ลดล่ะ เบื่อเวลาช่วงนี้จริง ๆ ที่พี่แบงค์ทำหน้าหื่นใส่ ไอ้ตองเห็นแล้วของขึ้น

“เหวอ ทำอะไร” พี่แบงค์ลากตัวผมจากอ่างล้างหน้า ผมตกใจก็ต้องคว้าคอพี่แบงค์มากอดไว้
“อึ๊ ก็เมื่อเย็น อึ๊ อ้า ซี้ด ตองบอกอยากให้ อ้า ซี้ด อู้ พี่อุ้มไม่ใช่เหรอ” ตอนนี้เราอยู่ในท่าที่ไอ้ตองเคยใฝ่ฝันไว้มาตลอดชีวิตนั่นก็คือท่า “ลิงอุ้มแตง” แต่ตอนนี้ “แบงค์อุ้มตอง” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังปับ ๆ สะท้อนก้องไปทั่วห้องน้ำ
“อ้า พี่แบงค์ ตองเสียว”
“ชอบไหมตอง” พี่แบงค์หันข้างให้กับกระจกห้องน้ำ ตอนนี้ทำให้เห็นเราทั้งสองคน กำลังเป็นของกันและกันอยู่ พี่แบงค์ก็ยังไม่ลดละที่จะกระแทกท่อนลำอันเขื่องเข้าไปอย่างไม่ขาดจังหวะ
“อื้อ ก็ชอบครับ” แล้วพี่แบงค์ก็ปล่อยให้ผมลงก่อนจะกดไหล่ให้ผมอยู่ในท่าโก้งโค้งเอามือพิงกับผนัง ก่อนจะขยับเอวซอยยิก ๆ ต่ออย่างไม่ลดละ ท่านี้ก็ทำให้เห็นสรีระร่างกายของเราสองคนได้หมดทั้งตัว ผมก็หัวสั่นหัวคลอนแทบจะไม่มีแรงยืน เสียงกระทบกันของหน้าขาและบั้นท้ายก็ยังคงดังอยู่เสมอแล้วก็ดังรัวขึ้น ๆ พร้อม ๆ กับความรุนแรงของแต่ละครั้งที่พี่แบงค์ออกแรงกระแทกเข้ามา เป็นสัญญาณว่าใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว ทุกอย่างก็เงียบเสียงลงเหลือไว้แต่เพียงเสียงหอบของเราสองคน พร้อมกับความรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างเต้นตุบ ๆ อยู่ตรงด้านหลัง ขาสองข้างสั่นระริก เมื่อพี่แบงค์ถอดท่อนลำอันเขื่องออกไป ของเหลวขาวขุ่นที่เพิ่งถูกฉีดเข้าไปเมื่อกี้ก็ไหลย้อนกลับออกมาเปรอะต้นขาไปเสียหมด

พี่แบงค์จับหน้าผมให้หันไปประกบปากอีกครั้งพร้อมกับกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูผมว่า “ขอบคุณนะครับ พี่รักตองนะรู้ไหม” ผมก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าโน้มคอพี่แบงค์ลงมาจูบอย่างเร่าร้อนเพื่อขอบคุณอีกรอบ แล้วก็หอมเข้าไปที่แก้มบอกความรู้สึกผมมีต่อเขาไปว่า “ขอบคุณเหมือนกันครับ ตองก็รักพี่เหมือนกัน รักมากกว่าด้วย” เราสองคนยืนกอดกันอยู่เนิ่นนานจนรู้สึกว่าของเหลวจะไหลเปรอะลงมาเรื่อย ๆแล้ว ผมกับพี่แบงค์ถึงได้ไปล้างตัวกันอีกรอบ ก่อนกลับมาแต่งตัวเพื่อเข้านอนด้วยเวลาอันน้อยนิดก่อนจะตื่นไปใส่บาตรในวันพรุ่งขึ้น

“พี่แบงค์กอดหน่อยสิ”
“หนาวเหรอครับ”
“ก็ไม่หนาวเท่าไหร่แต่อยากให้กอด”
“อ้อนนี่อยากได้อะไร”
“ไม่อยากได้อะไรหรอก ตองมีทุกอย่างหมดแล้ว”
“ถ้าตองไม่ขอ งั้นพี่ของตองได้ไหม”
“ขออะไรครับ ถ้าตองให้ได้ก็รับปากครับ”
“งั้นขออีกทีดิ ได้ไหม”
“ฮ่า ๆ ถ้าไหวก็เอา”
ลองทายกันเล่น ๆ ดูนะครับ ว่า 1. คืนนั้นไอ้ตองเสียอีกประตูให้พี่แบงค์หรือเปล่า และ 2. เราสองคนได้ตื่นไปใส่บาตรข้าวเหนียวกันไหม ทายถูกให้จุ๊บใครก็ได้ 1 ที

leogemini

  • บุคคลทั่วไป

แอบซุ่ม

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ เก็บแรงไว้เที่ยวบ้างปะเนี่ย อยากไปหลวงพระบางบ้างอ่ะทริปในฝันผจญภัยแนวลุยๆและเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นเรียบง่าย แต่ถ้าไปคนเดียวจะเหงามั้ยนะ? ตองน่ารักครอบครัวก็อบอุ่นดีพี่แบงค์เอาไปเลยตำแหน่งเขยขวัญ :กอด1:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
สงสัยจะหมดแรง มาทั้งทีก็ต้องหอบสังขารไปใส่บาตรกันหน่อย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
อ่านช่วงบนรู้สึกเหมือนกำลังตามหลังตองไปเที่ยวด้วย แต่..
ไหงมาอ่านข้างล่างแล้วได้ :m25:

ฮ่าๆๆๆ

ตองเป็นแฟนแบงค์หรือเป็นลูกเนี่ย? (แซวเล่นนะ 55) 
ทำไมรู้สึกเหมือนทั้งแบงค์ทั้งต้นดูแลตองเหมือนเป็นเด็กๆเลย


ตอบคำถาม
1. ตองโดนพี่แบงค์จัดการอีกแน่ๆ
2. คงได้ออกไปใส่บาตรด้วยอาการหมดแรง 55 และจะโดนน้องๆ สองคนแซวกระหน่ำ



 :กอด1:ตองทีนึง มาต่อเร็วกว่าที่คิดนะ

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
ตอบ ว่าได้เสีย.. กับ  ได้ไปตักบาตร  ฮึๆๆๆ

พี่แบงค์พกไปจากไทยเชียวเหรอ?

ชอบทริปไปเที่ยวกันจัง ดูอบอุ่น ^^

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อย่างนี้เค้าเรียกว่า "มาถึง" หลวงพระบางจริง ๆ นะเนี่ย

 :-[

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด