Chapter 20“น้ำ.. เป็นอะไรน่ะ วันนี้ดูไม่มีสมาธิเลย ร้องเพลงผิดเนื้อด้วย เมื่อวานซ้อมก็ไม่มีปัญหาหนิ เป็นอะไรหืม? หน้าซีดๆด้วยนะ ไม่สบายรึเปล่า” เมื่อกลับเข้าห้องพักหลังจบคอนเสิรต์ พีมก็รีบถามน้ำเชี่ยวถึงอาการที่ดูเนือยๆไป
“ไม่เป็นอะไรหรอก คงจะนอนไม่พอมั้ง..หึ แล้วพี่ล่ะเมื่อคืนนอนเต็มที่เลยสิ ถึงได้มีแรงเหลือเฟือขนาดนี้” ใบหน้าคมเข้าที่เก็บเอาความอึดอัดไว้เงยขึ้น ดวงตาโตคู่หวานที่วันนี้ดูหมองเศร้าไปถนัด ได้แต่เพ่งจับจ้องไปที่แววตาใสๆ ของคู่สนทนาราวกับต้องการไถ่ถามอะไรบางอย่าง
“อืม ก็นอนเต็มที่สิ ไม่มีเจ้าตัวแสบคอยโทรมากวนด้วย” หากแต่พีมนั้นกลับไม่ได้นึกเอะใจอะไรถึงคำถามแกมประชดนั่น จึงตอบยียวนกลับไป โดยหารู้ไม่ว่าคำพูดนั้นช่างเชือดเฉือนใจคนฟังยิ่งนัก
“น้องพีม..มีดอกไม้มาส่งค๊า ช่อพิเศษจากแฟนคลับที่ชื่อ.....
จีจี้” และก็เหมือนกับผีซ้ำด้ามพลอยเข้าไปอีกสำหรับน้ำเชี่ยว เมื่ออยู่ๆเจ๊ไก่ช่างแต่งหน้าขาเม้าท์ ดันรับอาสาจากทีมงานถือเอาดอกไม้ช่องามมาให้พีมถึงในห้อง แล้วยังไม่วายปากดี ส่งต่อข้อความจากการ์ดใบเล็กซะลั่นห้อง ทำเอาร็อคเกอร์หนุ่มแทบทนไม่ไหว นึกอยากจะระเบิดอารมณ์ออกมาซะเดี๋ยวนั้นถ้าไม่มีพี่ๆทีมงานเวียนเข้าออกกันอยู่
“ไปเถอะพี่! กลับกัน ผมเหนื่อย” น้ำเสียงตึงบอกส่งๆออกไป เด็กหนุ่มพยามอย่างที่สุดให้ตัวเองคิดในแง่ดีให้เข้าไว้ ..บางทีพี่พีมอาจมีความจำเป็นอะไรบางอย่าง น้ำจะทน จะไม่ถามพี่ให้วุ่นวาย จะรอจนพี่อยากจะบอกกับน้ำเอง คนเป็นแฟนกัน ก็ต้องมีความเชื่อใจ ไว้ใจให้กัน น้ำจะทำอย่างนั้น เพราะน้ำเป็นคนสำคัญที่สุดของพี่ น้ำเชื่ออย่างนั้น น้ำท่องมันทุกวันอย่างที่พี่เคยบอก
..ดึกเต็มทีกว่าทั้งสองจะล่ำลาทีมงานและแขกบรรดาแฟนๆเสร็จ กระทั่งเกือบล่วงเข้าวันใหม่ บนลานจอดรถของห้างดัง รถทุกคันหายไปหมดแทบจะไม่เหลือ อากาศเย็นลงเพราะลมพัดผ่าน เงียบจนได้ยินแม้กระทั่งฝีเท้าของสองร่างที่เก้าย่างมาตามๆกัน
---
ครืดดดดๆ ---
[ สายเรียกเข้า จีจี้(ที่บ้าน) ]
...เมื่อเห็นสายเรียกเข้าจากบ้านของจีจี้ พีมก็ชะงักไปเหมือนว่ากลัวอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มลังเลอยู่พักหนึ่งว่าจะกดรับดีหรือไม่ แต่ทว่ากลับไม่มีท่าที่เจ้าเครื่องสื่อสารสุดหรูจะหยุดสั่นลงได้เลย
“แป็บนึงนะน้ำเชี่ยว” สุดท้ายพีมจึงต้องปลีกตัวออกจากอีกคนที่เดินตามมาอย่างช่วยไม่ได้
"ครับป้าพิม"
'....'
“ครับ เดี๋ยวพีมรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” จะเอายังไงดี.. พีมมีเวลาครุ่นคิดไม่นานว่าจะบอกกับน้ำเชี่ยวอย่างไร ตอนนี้จีจี้ไข้ขึ้นหนักมากๆซะด้วย พ่อกับแม่เธอก็ไม่อยู่
“น้ำ.. คือ พี่ขอโทษด้วยนะ วันนี้น้ำเชี่ยวคงต้องกลับคอนโดไปก่อน พอดีพี่มีเรื่องด่วนน่ะ”
“....” หึ..
"เอ่อ.. ธุระสำคัญน่ะ"
"..." เมื่อคืนยังเสพสุขกันไม่พออีกเหรอไง
“เดี๋ยวพี่ไปส่งน้ำที่คอนโดก่อน..” ยิ่งเห็นท่าทีและแววตาร้อนรนจากคนตรงหน้า ก็ทำเอาบางอย่างในสมองของเด็กหนุ่มขาดผึ่ง
“เรื่องด่วนเกี่ยวกับเจ้าของดอกไม้ช่อนี้ล่ะสิ” ยิ่งเห็นท่าทีและแววตาร้อนรนจากคนตรงหน้า ก็ทำเอาบางอย่างในสมองของเด็กหนุ่มขาดผึ่ง ..น้ำเชี่ยวเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แววตาหวานๆแทบไม่เหลือเค้าเดิม มีแต่ประกายตาที่ดุดันเชือดเฉือน ขณะที่มือหนาก็เอื้อมไปแย่งเอาดอกไม้ช่อโตในอ้อมแขนของพีมมา
“คือ..จีจี้เค้า มะ..” แทบไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบประโยค เพราะอย่างไรใจความสำคัญของข้อความนั้นก็คือ
ผิดสัญญา..
“
ทำไม!! เค้าทำไมห๊ะ!! รึเค้าอยากให้พี่รีบแล่นไปหา จะได้อยู่อ้อนออเซาะ
พอดรักกันทั้งคืนอีกห๊ะ!!!”
ในที่สุดน้ำเชี่ยวก็ระเบิดอารมณ์ที่เก็บมาตลอดวันด้วยการตวาดลั่นใส่คนตรงหน้า พร้อมกับยื้อขว้างดอกไม้ช่องามลงกับพื้นแล้วตามบดขยี้มันด้วยสองเท้าจนไม่เหลือซากอย่างไม่แยแสคนร่างเล็กที่ยืนตลึงอยู่
"น้ำ.."
“น้ำ! นายเป็นอะไรน่ะ
หยุดเดี๋ยวนี้นะน้ำ!!” ไม่ใช่เพราะโกรธกับสิ่งที่เห็น แต่ทนไม่ได้กับความไม่มีเหตุผลของคนตรงหน้า แล้วยังกิริยาห่ามๆที่อีกฝ่ายทำต่อหน้าเขานั่นอีก
“
น้ำ! จะบ้าเหรอ พี่บอกให้หยุดไงเล่า น้ำ!” ดูท่าว่าเจ้าเด็กแสนซื่อที่กลายร่างเป็นปีศาจร้ายจะไม่หยุดอาละวาดเอาง่ายๆ แม้ว่าเขาจะพยามเข้าไปห้ามสักเท่าไหร่
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยื้อยุดกันอยู่นั้น ด้วยความที่น้ำเชี่ยวจ้องแต่จะลงความโกรธแค้นทุกอย่างลงกับดอกไม้ของคนเจ้าปัญหา ทำให้ไม่ทันยั้งตัวให้มั่นจึงถูกแรงฉุดยื้อจากพีม จนล้มขมำ ข้อศอกกระแทกไปกับซีเมนต์หยาบ
---พลั่ก!!!---และด้วยสติยั้งคิดที่มีเหลืออยู่น้อยนิดทำให้เด็กหนุ่มเข้าใจว่า ถูกอีกฝ่ายจงใจผลักให้ล้มเพราะอารมณ์โกรธที่เขาไปทำกับของขวัญชิ้นสำคัญ
“
น้ำ เลิกบ้าสักที!!”
เด็กหนุ่มเลือดร้อนพยุงตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก และยิ่งเพิ่มโทสะระคนกับความน้อยเนื้อต่ำใจเข้าไปอีก เมื่อพบว่าแขนของตัวเองถูกครูดจนเป็นรอยยาวกระทั่งมีเลือดสดๆไหลเป็นทาง น้ำเชี่ยวได้แต่สบถในลำคอ แล้วเหลือบขึ้นมองอีกคนที่ยืนโกรธจัดจนตัวสั่น แขนและมือเรียวคู่นั้นที่เขาชอบจับเล่น มือที่เคยลูบมาบนใบหน้าเขาอย่าแผ่วเบา บัดนี้กูกกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงโกรธจัด และภาพของพีมตอนนี้กลับยิ่งทำให้น้ำเชี่ยวบันดาลโทสะหนักขึ้นไปอีก
“หึ..บ้างั้นเหรอ
ทำไม!! หวงมันมานักรึไง อีแค่ดอกไม้ช่อเดียว!!” อารมณ์เก็บกดที่ถูกสั่งสมมาข้ามวันข้ามคืนของน้ำเชี่ยวดูท่าจะไม่มีวันสงบลงง่ายๆ รู้สึกอยากจะตอบโต้กับที่สิ่งที่ตัวเองได้รับมา ยิ่งคนตรงหน้าแสดงสีหน้าและท่าทางว่าโกรธตนออกมามากแค่ไหน เขาก็ยิ่งอยากจะตอบโต้ไปให้หนักกว่าอีกหลายสิบเท่า
..หึ พี่โกรธ โกรธมากนักใช่มั้ย..
“
เออ! นี่ไง!! ---เพี้ยะ!!!--- ”
---ปึง!--- มือหนาของน้ำเชี่ยวฟาดตอบไปที่ใบหน้าของอีกคนจนเซถลาไปอัดกับรถเข้าโครมใหญ่
“
เออ!! บ้าก็บ้าว่ะ แต่อย่าคิดว่าพี่จะมาทำอะไรกับน้ำได้ฝ่ายเดียวนะ!”
.. รักมากก็โกรธมาก
“
จะไปหายัยนั่นเหรอ อย่าหวังเลย!! พี่ต้องอยู่นี่ ตรงนี้ น้ำไม่ให้พี่ไปไหนทั้งนั้น!!” อยากจะหยุดการกระทำตามอารมณ์ของตัวเองแต่ดูเหมือนจะยากยิ่งนัก จนกว่าคนตรงหน้าคนนี้จะกลับมามีสายตาอ่อนโยนให้เขาเหมือนก่อน
“
บ้า!! นายมันบ้า!! พี่ก็ไม่ใช่ของๆใคร นายไม่มีทางจะ
อ่ะ..!!!” แรงโมโหและน้ำเสียงตวาดกร้าวที่อีกฝายตอบกลับมา ราวกับเกลียวคลื่นที่ถูกผืนดินใตน้ำซัดให้ผุดขึ้นสูงกว่าเดิม ..น้ำเชี่ยวผลักพีมจนหลังนาบติดไปกับรถ ฝ่ามือหนาพุ่งเข้ากดไปบนลำคอระหงของอีกคน จนใบหน้าที่เคยขาวใสขึ้นสีแดงกล่ำมีเส้นเลือดผุดขึ้นตามขมับยาวไปถึงดวงตา เด็กหนุ่มระงับอารมณ์และสติของตัวเองไม่ได้ ทุ่มเรี่ยวแรงและโทสะสำนึกทั้งหมดใส่ร่างของอีกฝ่ายจนสองขาของลอยไม่ติดพื้น
..พีมดิ้นทุรนทุรายอย่างไรก็ยังไม่มีทีท่าว่ามือหนาคู่นี้จะคลายลง เห็นแต่ดวงตาคู่โตที่เบิกโพลง น่ากลัวและดุดัน อารมณ์โกรธจัด สีหน้าแดงกล่ำ กับกำลังข้อมือมหาศาล บวกกับลมหายใจติดๆขัดๆของเขาทำให้ไม่อาจฝืนสู้เด็กหนุ่มอีกต่อไปได้
“
ปะ ปล่อยยย อะ.. พี่ หะ..หายใจ
มะ..ไม่ อะ
ออก” สองมือเรียวได้แต่ปัดป่ายไปที่ลำแขนแกร่ง รู้สึกราวกับจะจนหมดลม เรี่ยวแรงหายไปจนหมดสิ้น
"ป..ปล่อยยย
อะ.."
..กระทั่งร่างที่ดิ้นขลุกขลักในตอนแรก อยู่ๆก็สงบ อ่อนแรงลง สองตาเรียวปิดแต่ไม่สนิท น้ำใสไหลนองแก้ม ภาพตรงหน้า ทำให้น้ำเชี่ยวถึงกับชะงักงัน ด้วยสิ่งที่ทำอาจจะกำลังปริดชีวิตคนที่เขารักหรือเปล่า
เรี่ยวแรงมหาศาลของเขามันมาได้ยังไง? เขาทำอะไรลงไป??
“ฮะ..
ฮาๆๆๆ..
แค่กๆๆ” เด็กหนุ่มก้มมองคนที่ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น มือเรียวข้างหนึ่งคลำอยู่ที่ลำคอแดงช้ำจนเป็นปื้นยาว
..พี่ พี่พีม น้ำ น้ำเชี่ยวขอโทษ น้ำไม่ตั้งใจ
“
พ..พี่ ต้องไป
พี่..ขอร้อง”
...ไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง นาทีอย่างนี้ แม้กำลังจะตายยังจะนึกถึงยัยนั่นอยู่อีกงั้นเหรอ แล้วน้ำล่ะ
ไอ้คนเลวๆ คนนี้มันเคยมีความหมายสำหรับพี่บ้างมั้ย ..
คำว่าน้ำรักพี่ มันมีความหมายในใจพี่บ้างมั้ย “
ฮึก.. ขนาดนี้แล้ว ขนาดนี้แล้ว.. พี่ยังจะ..” เวลาอย่างนี้พี่ยังจะเลือกที่จะไป โดยปล่อยทิ้งน้ำไว้
น้ำมีค่ากับพี่แค่ไหนกัน? ..เด็กหนุ่มเก็บคำพูดคำถามนั้นไว้กับใจ ด้วยรู้สึกสมเพชตัวเองที่สุด ที่ตลอดเวลาก็เป็นฝ่ายตามตื้อ พูดๆแต่ว่ารัก รัก แม้กระทั่งตัวเองยังหน้าด้าน ร่านเอาไปเสนอเค้าถึงบ้าน น่ากลัวว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิงก็คงไม่พ้นเป็นพวกอีตัวชั้นต่ำ ที่ไม่รู้จักเจียมตัวเองเสียบ้าง ก็ถูกแล้วที่จะได้รับผลตอบแทนมาอย่างนี้ใช่มั้ย?
“ถ้าพี่ไป เราก็จบกัน..
เลือกเอา” ประโยคสุดท้ายที่เอ่ยออกไป เด็กหนุ่มกลั้นใจฝืนบังคับน้ำตาอย่างที่สุด ที่จะไม่แสดงความเสียใจออกมา แม้ว่าร่างกายจะทรยศเขาอยู่ก็ตาม
.
.
.
สองขาก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ความรู้สึกของคนอกหัก คนโดนทิ้งมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ทั้งเจ็บ จุก อึดอัดตรงหน้าอกเหมือนกำลังจะขาดใจ แต่กลับไม่ตายซักที หยดน้ำใสๆที่กำลังไหลอาบแก้มเหมือนไม่มีวันเหือดจาง ..จะรีดเอาจนน้ำหมดตัวไปเลยหรือไง ในสมองว่างเปล่าของน้ำเชี่ยวตอนนี้มีแต่ประโยคเดิมๆ ที่เล่นวนซ้ำไปซ้ำมา
‘ไม่!! น้ำจะถามพี่ครั้งสุดท้าย พี่จะไปให้ได้ใช่มั้ย’
‘พี่ ต้อง ไป’
‘งั้นเราก็จบกันตรงนี้ วันนี้.... ฮึกๆ..นี่เหรอสิ่งที่พี่ให้กับน้ำ คำว่าน้ำรักพี่ ไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย ที่ผ่านมาน้ำมันก็เป็นแค่ควายตัวนึงอย่างนั้นใช่มั้ย ไปเลย! ไป!”
‘น้ำเกลียดพี่! ไอ้คนไม่มีหัวใจ! ไอ้คนหลอกหลวง! ไป ไปเลย!! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!!!’“ฮึก..พี่ไม่เคยท่องมันเลยใช่มั้ย คำว่า..น้ำรักพี่.. ไม่เลยใช่มั้ย ใช่มั้ย!”
“
ใช่มั้ย....ไอ้คนเลว!!!!!!! .....ไอ้คนไม่มีหัวใจ!!!!!!!!” ร่างไร้สติราวกับคนบ้า แผดเสียงตะโกนกร้าวขึ้นไปบนฟ้า ดังก้องกังวานแข่งกับเสียงรถราบนท้องถนน เดินปัดป่ายไปตามไหล่ทาง หน้าตามอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
.
.
.
“คุณหมอครับ เธอไปยังไงบ้างครับ” พีมมองไปยังสาวร่างเล็กใบหน้าขาวสูบซีดที่นอนหลับสนิทบนเตียงคนไข้
“ค่อยยังชั่วแล้วครับ เดี๋ยวไข้คงเริ่มลดแล้วล่ะ เธอพักผ่อนน้อยและคงจะทานอาหารไม่ค่อยเป็นเวลา พอช่วงไหนที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ โรคมันก็แทรกซ้อนง่ายครับ แก้ไม่ยากหรอก พักผ่อนออกกำลังกายมากๆทานอาหารครบสามมื้อแค่นั้นเองครับ”
“ครับๆ แล้วจะกลับบ้านได้วันไหนครับ”
“นอนพักซักวันสองวันก็กลับได้แล้วครับ”
“ขอบคุณครับ คุณหมอ”
.
.
‘ถ้าพี่ไป เราก็จบกัน.. เลือกเอา’
‘เค้าไม่สบาย น้ำเชี่ยว..ให้พี่ไปเถอะนะ เค้ากำลังรอพี่อยู่’
‘ถ้าพี่ไป เราก็จบกัน!!!’
‘ทำไม น้ำ ทำไมต้องให้พี่เลือก .. มันไม่มีอะไร .. ไปรอพี่ที่คอนโดก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง นะน้ำเชี่ยว’
‘.. กับเค้าพี่ต้องไปให้ได้ แล้วกับน้ำล่ะ พี่โกหก พี่ผิดสัญญา ทำไม!’
‘ก็เพราะน้ำเป็นอย่างนี้ซิ! จะให้พี่บอกยังไง’
‘ไม่!! พี่สัญญากับน้ำแล้ว วันนี้เราต้องอยู่ด้วยกัน’
‘น้ำเชี่ยว!!’
‘ตอนนี้.. น้ำก็ไม่สบายเหมือนกัน มันเจ็บ ตรงนี้ ข้างในหัวใจ ตรงนี้ มันต้องการพี่.. น้ำเชี่ยวก็ต้องการพี่..เหมือนกัน น้ำเองก็เจ็บเหมือนกัน ฮึก.’
‘พี่ขอโทษนะน้ำ พี่จำเป็นต้องไป’
‘หมายความว่าพี่จะเลิกใช่มั้ย’
‘น้ำเชี่ยว!อย่าบังคับพี่ กลับไปรอพี่ที่คอนโดก่อน นะน้ำ’
‘ไม่!! น้ำจะถามพี่ครั้งสุดท้าย พี่จะไปให้ได้ใช่มั้ย’
‘พี่ ต้อง ไป’
‘งั้นเราก็จบกันตรงนี้ วันนี้.... ฮึกๆ..นี่เหรอสิ่งที่พี่ให้กับน้ำ คำว่าน้ำรักพี่ ไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย ที่ผ่านมาน้ำมันก็เป็นแค่ควายตัวนึงอย่างนั้นใช่มั้ย ไปเลย! ไป!”
‘น้ำเกลียดพี่! ไอ้คนไม่มีหัวใจ! ไอ้คนหลอกหลวง! ไป ไปเลย!! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!!!’.
.
.
.
แสงแดดอ่อนยามเช้ากับสายลมเบาๆที่พัดผ่าน ร่างโปร่งนั่งทอดสายตามองลอดไปตามช่องของระเบียง เปลือกตาบางค่อยๆปิดคลุมดวงตาคู่โตที่เต็มไปด้วยแววหมอง เศร้า และความบอบช้ำจากคราบน้ำอุ่นๆ หวังว่าสายลมบางเบาที่กำลังพัดมากระทบ อาจทำให้จิตใจที่กำลังถูกอัดแน่น หนักอึ้ง ได้ผ่อนคลายลงได้บ้าง .. มาอยู่ที่คอนโดหลังนี้เป็นปีๆ แทบไม่เคยสังเกตุสิ่งรอบๆข้าง กิจกรรมมากมายของผู้คนยามเช้า นักเรียนขึ้นรถโรงเรียน สามีภรรยาไปทำงานด้วยรถคันเดียวกัน รถคันแล้วคันเล่าที่ทยอยออกไปจากลานจอดจนเหลือแต่เพียงพื้นที่ว่าง
“ฮัลโหล พี่ฝนครับ น้ำเองครับ.. วันนี้น้ำไม่ค่อยสบาย คงไม่เข้าออฟฟิศนะครับ อยากนอนพักสักหน่อย”
“...”
“ครับ ทานแล้วครับ”
“...”
“ครับ ฝากบอกพี่ยีนส์ด้วยนะครับ”
“...”
“อ้อ..พี่ฝน คือเรื่องงานถ่ายนิตยสารฉบับนั้น น้ำคิดดูแล้ว น้ำตกลงถ่ายก็ได้ครับ”
“....”
“ครับได้ครับ.. บายครับ”
.
.
************************
To b con ครับ
B a l l o o n