เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)  (อ่าน 269686 ครั้ง)

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
^^^
^^
^ เห็นด้วยกับรีบนเรื่องพี่เจค่ะ คงจั่วแล้วจ๊ะเอ๋


ส่วนหมอชาลีก้อเริ่มใจอ่อนรึไงคะ ปกติเห็นมุ่งมั่นจะเอาคืนกับศัตรูหมายเลขหนึ่งมาตอนนี้มีลังเล :m16:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

มารอหมอเอ-ชาลี คะ


เจ้สอง  :bye2:

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
 :z2:เพลิงรัก บทที่ 20

ชาลีกระแทกแผ่นหลังเข้ากับเบาะรถสีเบจของ Volvo XC90 ของกัณต์อย่างอารมณ์เสีย เขารู้ว่ากัณต์จงใจถ่วงเวลา ขณะนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้ว และกว่าจะกลับถึงกรุงเทพฯ ก็คงค่ำ นาวินไปทานอาหารเย็นกับเอกภพและจะกลับบ้านไปรอเขา แต่เมื่อไม่นาน น้องชายของเขาขอไปนอนค้างกับเอกภพด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือ 'ติดใจ'
สามวันที่ผ่านมา เอกภพมานอนค้างที่บ้านเขาเพื่อดูแลนาวินขณะที่เขาไประยองกับเจตริน นาวินบอกว่าอยู่กับเอกภพแล้ว 'อิ่มอร่อย' เป็นที่สุด ของกินไม่เคยขาดปาก ส่วนเอกภพเองบอกว่า มาเป็นพี่เลี้ยงนาวินแค่สามวัน เสียเงินไปเกือบสี่พันบาท จากที่เคยแค่พูดว่า นาวินกำลังโต อยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน เอกภพบ่นว่า น้องชายของเขาเป็นประเภทกินล้างกินผลาญ
นึกถึงนาวินกับเอกภพแล้วทำให้ต้องอมยิ้ม แต่เมื่อนึกถึงกัณต์เขากลับต้องหงุดหงิด ตอนนี้เรื่องของเอ็กซ์จะมาทำอะไรนาวินนั้นเขาไมต้องห่วงแล้วเพราะฝ่ายนั้นแสดงให้เห็นว่าสนใจเขา จึงไม่ได้เป็นตัวอันตรายสำหรับนาวิน
...แต่กัณต์ล่ะ กัณต์เคยบอกให้เขาระวังว่านาวินจะโดนคาบไปกิน ในเมื่อไม่ใช่เอ็กซ์ และคนอื่นๆ ในยิมก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร ผู้ต้องสงสัยก็เหลือกัณต์คนเดียว  จะว่าไป กัณต์ก็มีประวัติชอบเด็ก เขายังจำหนุ่มหน้าใสคนนั้นได้ ท่าทางหลงไหลกัณต์มาก แม้กัณต์จะทำท่านิ่งๆ แต่พวกนิ่งๆ แบบนี้ล่ะตัวดี เผลอแป๊บเดียว จะกลายเป็นเสือคาบสมันน้อยไปกินเอง เพราะอย่างนี้ไง เขาถึงได้เข้าไปยุ่งกับกัณต์เพื่อดึงความสนใจของเสือร้ายมาจากน้องชาย...
...แต่จู่ๆ ก็เจอเจตริน...
...เขาจึงเริ่มการแก้แค้นเจตรินเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ทั้งที่ตั้งใจจะจัดการกับพี่ทศก่อนเป็นรายแรก...
...แล้วนี่เจตรินกับเอ็กซ์รู้จักกัน...
...กัณต์ก็ทำเป็นเหมือนจะจีบเขา...
...โอย ปวดหัวจริงๆ เลย อะไรนักหนา...
“กลับกันเถอะครับคุณหมอชาลี" เสียงของกัณต์ดังขึ้นแว่วๆ
...ทำไมเขาต้องมาติดอยู่กับกัณต์ เย็นนี้เขาควรไปทานข้าวกับเจตรินสิ ทำให้เจตรินตายใจ ทำให้แม่ของเจตรินชื่นชอบและวางใจเขา...
“รัดเข็มขัดด้วยครับ เดี๋ยวตำรวจจับ"
...ถ้าไม่ใช่งานบวชของพายัพ เขาไม่มากับกัณต์เด็ดขาด กัณต์ทำเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มกับเขาอยู่ได้ทั้งวัน ไม่อายคนบ้างเลย ทำเหมือนเป็นแฟนกันยังไงยังงั้น แล้วนี่ ทำท่านั้นท่านี้อยู่ได้ จะได้กลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ท้องฟ้าก็ครึ้ม ฝนจะก็ใกล้จะตก...
“เหม่อซะแล้ว"
“ใครว่าผมเหม่อ" ชาลีรู้สึกตัว
“รัดเข็มขัดด้วยครับ กฎหมายเขาบังคับใช้แล้ว คุณชอบให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรือ"
“ไม่ต้องมาประชด" ชาลีกระแทกเสียง "ศักดิ์สิทธิ์กับผมจบกันไปแล้ว"
“ผมขอโทษ" กัณต์พูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่สีหน้านั้นไม่ไปกับคำพูดเลยแม้แต่นิด
“ขอโทษเรื่องกฏหมาย หรือเรื่องศักดิ์สิทธิ์"
“ทั้งสองครับ" กัณต์ตอบแล้วแอบเบือนหน้าไปอมยิ้ม รู้สึกสบายใจขึ้นทันใดที่ได้ยั่วชาลี
“ผมว่าคุณแกล้งขอโทษเฉยๆ ฟังก็รู้ว่าคุณไม่ได้คิดจะขอโทษหรอก คุณกระทบกระเทียบผม"
“ผมขอโทษจริงๆ" กัณต์ยืนยัน นาทีนี้รู้สึกว่าตัวเอ็งใจเย็นอย่างประหลาด
“คงเชื่อได้หรอก" ชาลียังพูดเสียงแข็ง
“ไม่เชื่อก็ตามใจ" กัณต์อมยิ้ม แล้วแตะเบรก ลดความเร็วของรถลงมาจนเกือบจะหยุดนิ่งเมื่อรถคันที่อยู่ข้างหน้าเปิดไฟสัญญาณเลี้ยวขวา
“ขับแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงกรุงเทพฯ" ชาลีถอนหายใจ ตามองตรงไปข้างหน้า
“รถเขาจะเลี้ยว ไม่เห็นหรือครับ หรือจะให้แทรงซ้ายไป ผมเป็นตำรวจ ผมต้องเคารพกฎจราจร" กัณต์พูดแล้วเลิกคิ้ว หันไปมองชาลี อดยั่วชายหนุ่มไม่ได้ "ทำไมหรือครับ คุณรีบกลับ เพราะว่า...”
“ผมไม่ต้องรีบกลับไปรับเด็กก็แล้วกัน ว่าแต่คุณเถอะ เด็กคุณอาจจะรออยู่ก็ได้นะ" ชาลีพูดพร้อมยิ้มเยาะ
“หม่อมหลวงชายชล ลูกชายคนโปรดของหม่อมราชวงศ์รังสิมันต์ ผมตีสนิทกับเขาเพื่อเข้าถึงตัวคุณชายเพราะกำลังสืบคดีเพชรซีเรีย" กัณต์ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าใดนักว่าทำไมจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา "แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย เสียเวลาเปล่่า"
“เพื่องาน ถึงกับต้องเอาตัวเข้าแลก" ชาลีเบ้ปาก
“คุณพูดแรงไปหรือเปล่าคุณหมอ" กัณต์ยังใจเย็น
“ไม่แรงไปหรอก เทียบกับที่คุณพูดกับผมมันก็พอๆ กัน"
“ผมพูดอะไร"
“คุณคิด"
“ผมยังไม่ได้พูด"
“แต่คุณคิดว่าจะพูด ถ้าผมไม่ดักคอเอาไว้ คุณก็คงจะพูดออกมา"
“ถ้ายังงัั้น คุณคิดว่าผมจะพูดอะไร"
“คุณจะพูดว่า ผมก็เอาตัวเข้าแลกเหมือนกัน เพื่อการแก้แค้น ผมถึงกับต้องทุ่มทั้งตัว"
“คิดไปเองทั้งน๊าน" กัณต์ลากเสียงยาว ส่ายหน้า
“จริงหรือเปล่าครับ" ชาลีหันไปถาม
“ก็ได้" กัณต์เสียงเข้ม เมื่อครู่เขายังใจเย็น แต่ถึงตอนนี้ หลังจากที่โดนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ 'หาเรื่อง' เขาก็ชักจะเริ่มฉุน จึงเปิดไฟสัญญาณแล้วเบี่ยงรถลงไหล่ถนน
“จะทำอะไร" ชาลีโวย
“จอดรถคุยกันให้มันรู้เรื่องไปเลยไงครับ" กัณต์จอดรถข้างถนน "ก็ได้ ผมยอมรับก็ได้ว่าผมคิดแบบนั้น แต่เมื่อกี้ ผมไม่ได้ว่าจะพูด แต่ตอนนี้ผมจะพูด เพราะคุณทำให้ผมต้องพูด"
“งั้นพูดมาเลย ลงไปพูดกันนอกรถไหมล่ะ เผื่อเราตะโกน จะได้ไม่หูอื้อเพระาอยู่ในที่แคบ" ชาลีท้า
“ไม่ต้องครับ ผมไม่ชอบทะเลาะ ไม่ชอบใช้เสียงดัง" กัณต์เหยียดยิ้มมุมปาก มองชาลีินิ่งแล้วพูดเสียงราบเรียบอย่างพยายามสะกดอารมณ์ "ผมว่าคุณทำเกินไป"
ชาลีไม่ตอบเพราะต้องการรอฟังว่ากัณต์จะพูดอะไรต่อไป แตทว่า ฝ่่ายนั้นกลับนิ่งเงียบไปเช่นกัน จนในที่สุด เขาก็พูดขึ้นมา
“ไม่เกินไปหรอก ไหนๆ คุณก็รู้จักผมแล้วจากการแอบไปค้นข้อมูลผม แม้จะเป็นแค่ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของตำรวจ ก็คือว่าคุณได้เห็นได้รู้อะไรมาพอสมควร ทีนี้ตอบผมหน่อย ถ้าเป็นผม คุณจะทำยังไงเมื่อเจอเจตรินอีก หลังจากที่คุณกลับมาเข้มแข็งและมีศักยภาพพอที่จะทำอะไรต่ออะไรได้ คุณเป็นตำรวจ มีปืนอยู่ในมือ มีอำนาจ มีความเข้มแข็ง"
“คุณจะเอาให้ถึงตายเลยหรือ" กัณต์กัดฟัน
“ผมจะทำอะไรขนาดนั้นได้" ชาลียักไหล่
“ผมว่าคุณทำได้"
“คุณคิดว่าผมโหดร้ายมากหรือยังไง" ชาลีถลึงตา "หรือคุณจะบอกว่า เอาเลย ชาลร ถ้าคุณไปไกลถึงขั้นนั้น ผมจะเป็นคนจับคุณเข้าคุกเอง คราวนี้ผมจะจัดการให้คุณได้รับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต หรือไม่ก็ประหาร"
กัณต์ถอนหายใจ
“อ้อ แต่ไม่สิ คุณทำไม่ได้ คุณเป็นตำรวจ คุณไม่ใช่ศาล" ชาลีกระทบกระเทียบ
“ชาลี ผมไม่อยากให้คุณหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งนี้" กัณต์เสียงอ่อนลง
“ผมไม่ได้หมกมุ่น"
“งั้นหรือ คุณไม่ได้หมกมุ่น ถ้ายังงั้นบอกผมสิว่าผมพูดอะไรกับคุณบ้างตอนผมขึ้นมานั่งบนรถและปิดประตู สตาร์ถรถ ขับออกมาจากบ้านพายัพ จึงเลี้ยวเข้าถนนใหญ่"
“ผมไม่ได้จำ"
“คุณมัวแต่มองไปทางเดียว จนไม่ได้มองข้างๆ เลยว่ามีอะไรอื่นอีก" กัณต์เสียงเข้มขึ้น ไม่กล้าใช้คำว่า 'ใครอื่นอีก' 
...ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองคิดอย่างไรกับชาลี แต่เขายังไม่ค่อย 'มั่นใจ' เท่าใดนัก พอๆ กับที่ไม่ค่อย 'เข้าใจ' ตัวเองว่าทำไมรู้สึกแบบนี้กับชาลี...
“ที่จริงคุณจะพูดว่า ใคร แทนที่จะพูดว่า อะไร" ชาลีพูดเสียงเย็น ทว่า นัยน์ตาลุกวาบ "ใครคนนั้น คงไม่ใช่คุณหรอกใช่ไหม สารวัตรกัณต์"
กัณต์ไม่ตอบ มือดึงคันเกียร์ลงมาช้าๆ พลางถอนหายใจเบาๆ แล้วออกรถ
...ชาลี เขาจะทำยังไงกับหมอชาลีดี ใจที่แข็งกร้าวถึงจะอ่อนลง...
...แล้วนี่มันอะไรกัน เขาไมเคยคิดว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้ให้กับใคร ชีวิตเขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลย เขาสนุกชั่วครั้งชั่วคราว เบื่อในเวลาอันสั้น แล้วก็หาใหม่ไปเรื่อย แต่ตอนนี้ ต้องมานั่งปวดหัวกับคนร้ายๆ อย่างหมอชาลี...
...บทที่ 'ใจ' จะมา 'รู้สึก' ทำไมจะต้องมาเป็นชาลีด้วยนะ...
...แตะเนื้อต้องตัวกันก็ยังไม่เคย...
...เดี๋ยวก่อน! เขาเคยถามตัวเองว่า หาก 'ได้' ชาลีแล้ว เขายังจะรู้สึกอยากจะ 'ได้' อยู่อีกหรือเปล่า...
“ฝนกำลังจะตกนะครับสารวัตร มัวแต่ขับรถช้าๆ แบบนี้ คงถึงกรุงเทพฯ เที่ยงคืนพอดี" เสียงของนายแพทย์หนุ่มดังขึ้นมาแทรกในภวังค์ของนายตำรวจ
...ประชดอีกแล้ว มันน่าจริงๆ เลย...
...ปากแดงๆ ชอบพูดจากระทบกระเทียบเขาดีนัก...
...ปากแดงๆ ที่ชอบเม้มปากอยู่บ่อยๆ...
...ปากแดงๆ ของชาลีน่าจูบจริงๆ...

“ผมขอแวะปั๊มหน่อยนะครับ ผมอยากเข้าห้องน้ำ" กัณต์พูดขึ้นมาแล้วชะลอรถเมื่อเห็นสถานีบริการน้ำมัน ชาลีถอนหายใจแรงๆ แล้วยกมือขึ้นกอดอกประหนึ่งว่าเอือมระอากัณต์เต็มที
“เดี๋ยวได้ติดฝนอยู่ที่บ้านไร่กาแฟในปั๊มกันพอดี" ชาลีกระแทกเสียง
กัณต์หันไปมองอีกฝ่าย ความคิดบางอย่างแวบขึ้นมาในหัว
...ติดฝนงั้นหรือ...
...บ้านไร่...
...เขารู้จักคนในสุพรรณบุรีหลายคน...

กัณต์เดินออกมาจากห้องน้ำและหยุดยืนมองตัวเองในกระจกชั่วครู่ก่อนจะเปิดน้ำล้างมือ ในใจยังคิดถึงคำพูดปะชดเมื่อครู่ของนายแพทย์ชาลี
...จริงสิ ติดฝนอยู่ที่สุพรรณบุรีก็ไม่เลยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ที่ร้านบ้านไร่กาแฟในปั๊มน้ำมันหรอกนะ...
...ถ้ามีกระท่อมก็ดีสิ จะได้ติดฝนกันซักคืนเหมือนในหนัง สองคนเปียกปอน ฝนเทกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา เขากับชาลีนั่งอยู่บนแคร่ในกระท่อม มองตากันและกัน...
...บรรยากาศโรแมนติก คู่ไหนคู่นั้น ลองได้ติดฝนอยู่ในกระท่อมกลางป่าด้วยกัน ไม่มีรอดซักราย..
กัณต์ยิ้มมุมปาก นึกอะไรออกได้ทันที

“ผมลืมปืนไว้ที่บ้านพายัพ" กัณต์พูดเมื่อขึ้นนั่งบนรถ
“สารวัตรกัณต์ เวโรจน์" ชาลีเรียกอีกฝ่ายเหมือนเสียงของคุณครูดุๆ เรียกชื่อเต็มของนักเรียน "คุณเป็นตำรวจยังไง ลืมปืนเอาไว้ แล้วนี่อย่าบอกผมนะว่าคุณต้อง...”
“ตำรวจไม่มีปืน จะให้จับผู้ร้ายยังไงล่ะครับ คงต้องกลับไปเอา" กัณต์รีบแทรก
“คุณไม่ได้โกหกผมใช่ไหม" ชาลีพูดพลางหรี่ตามองนายตำรวจขี้ลืม
“คุณค้นรถผมสิครัับว่าจะเจอปืนหรือเปล่า" กัณต์ท้า อดใจเต้นไม่ได้ 
“ผมจะนั่งรอคุณที่ร้านกาแฟนี่ล่ะ คุณรีบกลับไปเอาปืนแล้วกลับมารับผม ถ้าช้า ผมจะจะหารถรับจ้างกลับกรุงเทพฯ เอง ครึ่งชั่วโมงพอไหมครับ"
“แล้วทำไมต้องนั่งคอยที่นี่ กลับไปด้วยกัน คุณไม่ได้ทำอะไร แค่นั่งอยู่เฉยๆ ในรถ" กัณต์ 'เสี่ยง' ที่จะพูดกับชาลีแบบนี้ ความจริงเขาต้องการเวลาซักครึ่งชั่วโมงเพื่อ 'วางแผน' และการที่ชาลีบอกว่าจะนั่งคอยอยู่ที่นี่ก็เป็นการสะดวกต่อเขาอย่างยิ่ง แต่เขาก็ต้องแน่ใจว่านายแพทย์หนุ่มไม่สงสัย
“ผมง่วงนอน ผมอยากดื่มกาแฟ" ชาลีเปิดประตูรถ
“ตามใจ" กัณต์ยักไหล่ ในใจแทบจะตะโกนออกมาดังๆ ด้วยความดีใจ
...เข้าล๊อค อะไรจะง่ายขนาดนี้ โชคดีจริงๆ...
...เฮ้อ อายุจนขนาดนี้แล้ว ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ชีวิตนี้ขอสนุกเหมือนเด็กหนุ่มซักครั้งเถอะนะ...

ชาลีเดินกระแทกเท้าออกมาจากร้านกาแฟอย่างโกรธๆ เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงกัณต์ก็ยังไม่โผล่หน้ากลับมารับเขา หนำซ้ำ ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถของกัณต์อีกต่างหาก เขาจึงคิดว่าจะเหมารถรับจ้างเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ให้สิ้นเรื่อง
“อย่าบอกนะว่าหนีกลับกรุงเทพฯ คนเดียว ไม่งั้น จะเอาเลือดหัวตำรวจออกให้ดู" ชาลีบ่น กัดฟันกรอดๆ ตามองไปรอบๆ เพื่อหาดูว่าจะมีรถคันไหนที่น่าจะพอว่าจ้างได้หรือไม่
“สารวัตรกัณต์ เจ็บใจนัก จงใจหลอกให้เราคอย กะอีแค่กลับไปที่บ้านพายัพ ครึ่งชั่วโมงก็ถือว่านานเกินไปแล้ว ลืมปืนยังงั้นหรือ บ้าจริงๆ คนบ้า" ชาลีบ่นอยู่คนเดียว จากนั้นจึงเดินไปถามพนักงานของสถานีบริการน้ำมันเรื่องการหารถรับจ้าง แต่ไม่มีใครตอบคำถามได้แม้แต่คนเดียว พนักงานร้านสะดวกซื้อก็ช่วยไม่ได้ ใครๆ ที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมันก็ช่วยไม่ได้ ชาลียิ่งรู้สึกอารมณ์เสียมากกว่าเดิม
อยากจะโทรศัพท์ไปโวยวายกัณต์ก็ทำไม่ได้เพราะเขาจำหมายเลขของนายตำรวจ 'ขี้เก๊ก' คนนี้ไม่ได้
ทันใด ชาลีก็นึกอะไรบางอย่างได้จึงเดินย้อนกลับไปที่ร้านกาแฟ ตั้งใจจะขอใช้โทรศัพท์เพื่อสอบถามหมายเลขของสถานีตำรวจซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของกัณต์ หากถามร้อยเวร เขาก็จะได้เบอร์โทรศัพท์ของกัณต์ จากนั้น เขาจะโทรศัพท์ไป  'เอาเรื่อง'
แต่เมื่อใกล้จะถึงร้านกาแฟ ชาลีก็เหลือบไปเห็นรถของนายตำรวจแล่นเข้ามาในสถานี้บริการน้ำมัน เขาอยากจะเดินไปยืนกางขา เท้าสะเอว ขวางหน้ารถ แล้วเอะอะโวยวาย แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเพราะคิดได้ว่า กัณต์คงจะจงใจยั่วโมโหเขา และคงรู้สึกสนุกที่จะเห็นเขา 'ออกท่าออกทางแบบนี้'
ชาลีทำเป็นไม่สนใจ เดินเข้าไปในร้านกาแฟแล้วสั่งเอสเปรสโซหนึ่งถ้วย ทำทีเป็นใจเย็น หยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านรอพนักงานน้ำกาแฟมาเสริฟ
และรอกัณต์เดินเข้ามาในร้าน เพื่อตามเขาไปขึ้นรถ!

“ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน" กัณต์พูดขึ้นเมื่อขับรถออกจากสถานีบริการน้ำมัน หลังจากที่ 'รอ' เขาดื่มกาแฟถ้วยนั้นจนหมดด้วยท่าทางไม่รีบร้อน
“ไม่นานหรอกครับ ชั่วโมงเดียวเอง" ชาลียักไหล่
“ประชดอีกแล้ว" กัณต์พูด "ผมท้องไม่ค่อยดี สงสัยเป็นเพราะอาหารที่งานบวช"
“อย่าบอกนะว่าคุณต้องแวะทุกปั๊มก่อนจะถึงกรุงเทพฯ"
...ประชดได้ประชดดี หมอชาลีนี่ยิ่งรู้จักยิ่งร้าย...
“คงไม่ถึงขนาดนั้น" กัณต์อ้าปากหาว "แต่คงต้องแวะร้านกาแฟบ่อยหน่อยเพราะผมเพลียมาก ขับรถทั้งขามาขากลับ สองสามวันมานี่ผมตามคดีสำคัญอยู่ แทบไม่ได้พัก"
ชาลีนิ่ง หันไปมองนอกหน้าต่างด้านข้าง กัณต์เล่าเรื่องงานของตัวเองให้ฟังต่อ ชาลีทำเป็นไม่สนใจฟัง แต่เมื่อได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารรายงานเกี่ยวกับเรื่องพยานของคดีสำคัญที่กัณต์สืบสวนอยู่ถูกฆ่าเขาจึงหันไปมอง
“ตอนนี้ศพอยู่โรงพยาบาล...ครับ ส่วนอีกคนรอดมาได้ ตอนนี้หลบไปอยู่ที่บ้านไร่ของกำนันกำธร ไม่น่าจะมีอะไร แต่ผมว่าวางใจไม่ได้ ถ้ามันเก็บพยานคนที่สองได้ เราก็จะไม่เหลือใครเลย เปลี่ยน" เสียงของคนที่กัณต์เรียกว่าผู้กองภุชงค์รายงาน
“ส่งคนมารับตัวเข้ากรุงเทพฯ เอาไปเก็บไว้ที่เซฟเฮาส์ของผู้การ เปลี่ยน" กัณต์สั่ง
“ทางผ่านอยู่แล้ว จะให้ลูกน้องถ่อจากกรุงเทพฯ มาถึงนี่ทำไม" ชาลีพูดขึ้นมาเบาๆ หลังจากที่กัณต์จบการใช้วิทยุสื่อสารกับลูกน้อง
กัณต์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ มองเสี้ยวหน้าด้านข้างของนายแพทย์ชาลีด้วยสายตายิ้มๆ ที่แผนการของเขากำลังจะสำเร็จโดยมีคนที่กำลังจะถูกหลอกเอง 'ช่่วย' ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
“คุณรีบเข้ากรุงเทพฯ" กัณต์แย้ง
“ผมเป็นคนมีเหตุผล" ชาลีพูดเสียงเย็น ตามองเม็ดฝนที่ตกลงมากระทบกับกระจกรถ "อยู่ใกล้แค่นี้เอง คุณแวะไปรับพยานคนนั้นไปด้วยซะก็สิ้นเรื่อง
“ที่จริง ผมอยากจะไปดูศพพยานคนที่ถูกฆ่า"
“ตามใจ" ชาลียักไหล่
“แต่ไม่เป็นไรครับ ถึงกรุงเทพฯ แล้วผมค่อยย้อนกลับมาอีกทีก็ได้ เพราะคงต้องสอบสวนกันอีกยาว เผลอๆ คืนนี้อาจจะไม่ได้นอน" กัณต์เร่งความเร็วรถ พูดกับชาลีในใจว่า ที่จริง กำลังจะขอแวะรับพยานติดรถไปด้วยอยู่พอดี แต่เมื่อชาลีพูดขึ้นมาเอง ทุกอย่างก็ 'ลงล๊อค'
“นี่สารวัตรกัณต์ ฝนตก ถนนลื่น คุณขับรถเร็วเกินไปในสภาพแบบนี้มันอันตราย"
“ผมรีบ" กัณต์ตอบเสียงเรียบ "คุณก็รีบ"
“ผมไม่คิดจะรีบจนต้องเสี่ยงตายหรอก" ชาลีถอนหายใจ "ตกลงคุณจะแวะรับพยานหรือเปล่า"
กัณต์ส่ายหน้า ตามองถนนอย่างพยายามใช้สมาธิในการขับรถ
“แล้วคุณจะกลับมาดูศพพยานเลยยังงั้นหรือ"
กัณต์พยักหน้าและยังคงตั้งใจขับรถ ชักรู้สึกสนุกที่จะรู้ว่าชาลีจะพูดและทำอะไรต่อไป นายแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจแล้วเสียงกระแทกกระทั้นว่า
“คุณประชดผมใช่เหรือเปล่า"
“อะไรครับ ผมนะหรือประชด" กัณต์ถามเสียงสูง ไม่อยากจะเชื่อว่าชาลีจะหาเรื่องเขาดื้อๆ
“ไม่ประชดจะเรียกว่าอะไร" ชาลีเบ้ปาก "ฟังนะหมวด ผมอยากจะถึงกรุงเทพฯ เร็วๆ ก็จริง แต่ถ้าคุนต้องแวะเรื่องงานเพราะมันเป็นทางผ่าน ผมก็ไม่เห็นแก่ตัวไม่ยอมให้คุณแวะขนาดนั้นหรอก เป็นใครก็ต้องมีเหตุผล รู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควรทั้งนั้น เลิกมองผมแบบนั้นได้แล้ว"
“คุณนี่จริงๆ เลย" กัณต์โคลงศีรษะแล้วหัวเราะเบาๆ "ช่างกล้าคิดนะวาผมจะประชด"
“ทำไมผมจะมองไม่ออก เราสองคนน่ะมองกันออก ยอมรับซะเถอะว่าผมรู้ทันคุณ" ชาลียักไหล่แล้วปรับเบาะเอนลงเล็กน้อย ก่อนจะกอดอกและหลับตาลง "ขับรถดีๆ นะ ผมจะงีบซะหน่อย"
...รู้ทันผมงั้นหรือ งั้นก็เสียเวลาอยู่สุพรรณบุรีซักคืนก็แล้วกันนะคุณหมอ...
กัณต์ปรายตามองชาลียิ้มๆ แล้วลดความเร็วรถ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารเพื่อเรียกผู้กองภุชงค์ลูกน้องคนสนิทที่ช่วยเขาเล่นละครเรื่องพยานคดีสำคัญถูกฆ่าตาย
...เขาต้องการเปลี่ยนแผนแวะไปรับพยานที่บ้านใร่ของกำนันกำธร...

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
แผนของกัณต์สุดยอด เเต่ชาลีจะยอมง่ายเหรอ

รีบมาต่อเร็วนะ อยากอ่านมากๆ
 :-[

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
เริ่ดมาก ก
ได้เวลา ป่าม ป๊าม กัยซักทีสิค่ะ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: น้องนาวีของคนอ่านอยู่รีดไถ่พี่หมอเอกภพให้ล้มจมก่อนนะลูก กร๊าก

ส่วนอิคุณตำรวจแหม........สุพรรณกับกรุงเทพมันไกลมวกมากถึงได้จอดแวะมันทุกปั้ม
จะวางแผนปล้ำสาว เอ้ยอยู่กับหนุ่มถึงขั้นต้องพูดมุสาเลยรึคะ อะไรกันคาสโนวาฟันแล้วทิ้งนี่
ตอนนี้เป็นเพียงเสือเชื่องๆรึคะเนี่ย ชิส์ แม่ชาลีจัดการอ่อยให้ถึงใจเลยนะคะ  :o8: :impress2:
+1คะ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
ยังตามไม่ทันเลยครับ
เพิ่งอ่านได้นิดเดียวเอง
สนุกครับบบบบบบบบ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






cipher

  • บุคคลทั่วไป
สารวัตรเจ้าเล่ห์น่าดู o18
หมอชาลีอย่ายอมแพ้ง่าย ๆ นะ o13

~~GigaBYTE~~

  • บุคคลทั่วไป
กำลังดีใจเชียว ว่าอ่านทันแล้ว  :z10:

แต่คุณนายเอาตอนใหม่ต่อแล้ว....

ถ้างั้น ขอไปอ่านต่อก่อนละกันน๊าคุณนาย

 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
งานนี้มีได้เีสียกันแน่ๆ
ฮ่าๆๆๆ
แต่เหมือนจะง่ายไป มันต้องมีอะไรแน่ๆ  :z3:

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ก่อนมาเป็นสารวัตรนี่เคยเป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นมาก่อนป่ะเนี่ย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

RomeO_C_Leng

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แล้วใครจะได้กะใครละคุณนาย

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
ต๊ายยยยย อิคุณสารวัตรค่ะ

ช่างคิดจังเลยเนอะ แบบว่าจะพูดไงดีหล่ะ

"กระท่อมกลางสายฝน กับเราสอง" แต่ว่าลืมอะไรไปมั๊ยค่ะ ว่าอีกฝ่ายคือชาลี

มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั๊งค่ะคุณตำรวจ



ส่วนนาวินผู้น่ารัก ก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยิ่งมาอยู่กับหมอเอกด้วยนี้ จะยิ่งพากันน่ารักเข้าไปใหญ่


 :L2: ให้พี่นายค่ะ เพราะยังกด+ ให้ไม่ได้ ^^

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ให้คนเขียนเรื่อง



สนุกมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
นั่งเกาะขอบเตียง รอชม  :z1:

มีลุ้นไหม ศาลาวัดดดดดด

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
อืม~~~!!! มุขที่ใช้โบราณมากเลยนะนั่น เหอๆๆ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
นายเอกท่าทางจะไม่เบาเลยนะ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ใครจะเสร็จใครก้อช่าง :angry2:

แต่่ให้มันเสร็จกันและกันพอ ฮ่าๆ :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2010 21:10:34 โดย IIMisssoMII »

ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0

morrian

  • บุคคลทั่วไป
หูยย สุดยอดเลยคับสารวัตร

งานนี้ อย่าตายตอนจบล่ะ  :z1:

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
หักเหลี่ยมเฉือนคมแบบกินกันไม่ลงเลยจริง ๆ ค่ะทั้งสารวัตร ทั้งหมอชาลี  :m4:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
สารวัตร แอคติ้งชนะเลิศๆๆๆๆ  :impress2:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หึ หึ หึ
อีตาสารวัตรกัณนี่เจ้าเล่ห์ชะมัดเลยอ่ะ

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไม่ทันนนน
จะรีบอ่านนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด