เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  (อ่าน 191646 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าตาภูคงไม่โดนจับตัวไปหรอกนะ  :haun5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อย่ามายุ่งกะตาภูลูกชายอิฉันนะเคอะ

แต่ยังไงก็ไม่เชียร์แซมหรอกนะเพราะว่าเจ้หวง....จอม...ของเจ้

แล้วก็เคืองพี่เสือ :angry2:    ไมต้องมาพูดหนับหนุนตาแซมด้วยอะ  ไม่นะ  เจ้มะยอม!!  :serius2:


ปล.  เรื่องนี้ยิงกัน "น้ำเจี๊ยวไหล-ไฟดับเลย" อิอิ  :kikkik:

ปลล.  เขียนได้เป็นภาษไทยมากขึ้นแล้วเคอะ นู๋จ๋อม...(...จะให้เจ้เรียกป๋า  แต่สาวแตก ซะงั้น  เจ้เซ็ง!!)

Andreas

  • บุคคลทั่วไป

แปดโมงเช้าของวันใหม่.....

ละอองน้ำค้างยังคงติดอยู่ตามยอดไม้ แม้ว่าบางส่วนจะเหือดแห้งไป แต่ที่เหลืออยู่ก็กำลังสะท้อนแสงนวลของดวงอาทิตย์.......เกิดเป็นประกายสีรุ้งสวยงาม....น่ามอง

 ศิวะและจอมยุทธ์เลือกที่จะนั่งสบายๆรับแสงอรุณบนชุดเก้าอี้หวายกลางสวนสวยข้างสระว่ายน้ำ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นปกติหลายอย่าง แต่สองหนุ่มยังคงทำตัวตามสบายและชื่นชมไปกับบรรยากาศในตอนเช้าที่สดชื่น ท่ามกลางแสงแดดรำไรที่ส่องผ่านลงมาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นแผ่ร่มเงาอยู่

สองหนุ่มกำลังสาระวนอยู่กับการอ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อติดตามเรื่องราวข่าวสาร การลงทุน และเรื่องราวน่ารู้ทั่วๆไป รวมถึงจิบกาแฟพร้อมกับขนมปังแผ่นเล็กๆพอดีคำที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ 

“อรุณสวัสดิ์ครับ พ่อเสือ...อาจอม” เสียงใสๆของภูฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดอ่านหนังสือชั่วคราว หันหน้าไปทางต้นเสียง พร้อมส่งรอยยิ้มและประโยคทักทายไปยังเจ้าของเสียง ที่บัดนี้อาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบร้อย อยู่ในชุดเสื้อสีเหลืองสดมีลายการ์ตูนน่ารักพิมพ์อยู่บนเสื้อ และกางเกงขาสั้นสีขาวสะอาดตา

“อรุณสวัสดิ์ครับ.....ภู” ศิวะทักทายลูกชาย พร้อมรอยยิ้มกว้าง

“Bonjour!!! ” คุณอาหนุ่มเลือกที่จะทักทายหลานรักด้วยคำทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส

“Comment allez vous?” สบายดีมั้ยครับ คือประโยคที่คุณอาหนุ่มถามต่อมา

“Je vais bien” ภูฟ้าตอบกลับด้วยความรวดเร็วเพราะความเคยชินที่ได้พูดภาษานี้กับผู้เป็นอาบ่อยๆ

"Tr?s bien!!! Embrassez-moi"  สิ้นประโยค....หลานชายตัวน้อยก็เดินเข้าสู่อ้อมกอดของจอมยุทธ์ที่ตั้งท่ารอรับอยู่เต็มที่ แก้มทั้งสองข้างของหลานรักถูกหอมอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ร่างเล็กๆของภูฟ้าจะถูกอุ้มขึ้นไปนั่งบนตักของคุณอาหนุ่มผู้ใจดี

“Avez-vous faim, mon neveu ?” จอมยุทธ์ถามหลานชายต่อด้วยความเป็นห่วง เพราะได้เวลาอาหารเช้าแล้ว

“Oui, j'ai faim maintenant, mon cher” ภูฟ้าตอบเสียงใส พร้อมกับลูบท้องบอกเป็นสัญญาณมือแสดงความหมายเช่นเดียวกับคำตอบว่าหิวแล้ว

“ภูจะทานอะไรครับ....จะทานข้าวต้มหรือขนมปังไส้กรอกครับ” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นมาบ้างหลังจากนั่งฟังสองอา-หลานสนทนากัน.... รอยยิ้มอบอุ่นฉายชัดบนใบหน้าของศิวะเสมอยามเมื่อพูดคุยกับลูกชายตัวน้อย

“ทานข้าวต้มครับพ่อเสือ” ภูฟ้าตอบคำถามของบิดา โดยที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของคุณอาหนุ่ม ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยหลานชายที่รักลงเป็นอิสระอย่างง่ายๆ

“ทำไมหลานชายอาตัวหอมจังเลยครับ...ใช้แป้งที่อาซื้อมาให้ใหม่หรือเปล่าครับ” จอมยุทธ์ไม่พูดเปล่า แต่กลับหอมแก้มใสๆของภูฟ้าอีกหลายที

จอมยุทธ์เป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆโดยเฉพาะสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับภูฟ้า ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องแต่งกายและของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ เมื่อใดที่มีเวลาว่างจากการทำงาน จอมยุทธ์ก็มักจะไปเดินเลือกซื้อของใช้ต่างๆให้กับภูฟ้าด้วยตัวเอง สิ่งของเครื่องใช้ที่จอมยุทธ์เลือกซื้อนั้นจะเป็นของมีคุณภาพทั้งสิ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเป็นของแบรนด์เนมแต่อย่างใด ขอเพียงแต่เป็นสิ่งของที่ทำให้หลานชายสุดที่รักของเขามอบรอยยิ้มที่หวานที่สุดในโลกมาให้ก็เพียงพอ

 “ครับผม” ภูฟ้าตอบสั้นๆ พร้อมหัวเราะเบาๆ เพราะรู้สึกจักจี้กับไรหนวดบางๆของคุณอาสุดหล่อที่ถูไถอยู่ข้างๆแก้ม เจ้าตัวน้อยเลยพยายามเอามือบางๆของตนปิดหน้าตัวเอง เพื่อไม่ให้ไรหนวดของคุณอาสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของตน

“งั้นเดี๋ยวภูอยู่กับอาจอมก่อนนะครับ พ่อเสือไปเอาข้าวต้มมาให้ทาน” ศิวะได้จังหวะเอ่ยบอก หลังจากที่นั่งดูสองอาหลานหยอกล้อกันอย่างเป็นปกติในตอนเช้า

“ขอบคุณครับพ่อเสือ”

ศิวะเดินหายเข้าไปในบ้านราวห้านาที ก็กลับมาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มปลาร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน.... ภูฟ้ายังคงนั่งอยู่บนตักของจอมยุทธ์ และกำลังอ่านออกเสียงบทความภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ โดยที่จอมยุทธ์คอยช่วยอ่านคำศัพท์ยากๆที่เด็กน้อยไม่ทราบให้เป็นตัวอย่างหลังจากนั้นจึงให้ภูฟ้าออกเสียงตามให้ถูกต้อง

“Excuse me my dear, may I interrupt?” เสียงภาษาอังกฤษที่ฟังชัดเจนราวกับเจ้าของภาษาจากบิดา ทำให้ภูฟ้าต้องหยุดอ่านหนังสือชั่วคราว และเงยหน้าขึ้นมามองบิดาที่กำลังถือถ้วยข้าวต้มร้อนๆอยู่ในมือ
 
“พ่อเสือว่าพักก่อนดีกว่ามั้ยครับ.....ภูทานข้าวก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะไม่อร่อย” ศิวะพูดพร้อมวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ

ภูฟ้าเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเสมอ เมื่อบิดาเสนอให้หยุด เด็กน้อยจึงหยุดตามข้อเสนอโดยไม่ลืมที่จะพับเก็บหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ให้เรียบร้อย

“เดี๋ยวอาจอมป้อนให้ดีกว่านะครับ ข้าวต้มร้อน เดี๋ยวจะลวกเอา” โดยปกติแล้วสองหนุ่มจะให้ภูฟ้ารับประทานอาหารด้วยตนเอง โดยจะมีการช่วยเหลือเป็นบางครั้งเช่นในกรณีที่อาหารยังคงร้อนจัดอยู่ หรือในกรณีที่ภูฟ้าไม่สะดวกที่จะรับประทานอาหารด้วยตนเอง

จอมยุทธ์ใช้ช้อนคนเบาๆลงไปในถ้วยข้าวต้ม พยายามพลิกข้าวให้ขึ้นมาสัมผัสกับอากาศเพื่อลดความอุณหภูมิความร้อนลง หลังจากนั้นจึงตักขึ้นมา พ่นลมเบาๆ เพื่อไล่ความร้อน ก่อนที่จะป้อนไปที่ริมฝีปากบางๆของภูฟ้า ที่ตอนนี้สลับที่นั่งไปนั่งบนตักของบิดาชั่วคราวเพื่อให้คุณอาป้อนข้าวได้ถนัด

จอมยุทธ์ค่อยๆป้อนข้าวต้มให้ภูฟ้ารับประทานอย่างช้าๆ....... ทุกๆช้อนที่ตักขึ้นมา จอมยุทธ์ใส่ความรักลงไปด้วยทุกครั้ง ก่อนที่จะป้อนไปสู่ริมฝีปากบางของหลานชาย

ขณะที่ลูกชายกำลังรับประทานอาหาร ศิวะก็เลือกที่หยิบเอาเรื่องราวของธรรมชาติรอบตัวที่น่าสนใจมาเล่าให้ภูฟ้าฟัง  ด้วยน้ำเสียงที่นุ่ม....ทุ้มกังวานของศิวะ จึงตรึงความสนใจของภูฟ้าไว้กับเรื่องราวนั้นๆ ภูฟ้าตั้งใจฟังเรื่องที่บิดาเล่าให้ฟัง และถามปัญหาต่างๆ ที่สนใจใคร่อยากรู้คำตอบ

หลังรับประทานอาหารเสร็จ จอมยุทธ์จึงรินน้ำจากเหยือกแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใส่แก้วใบเล็กๆให้ภูฟ้าดื่ม และตามด้วยของหวานซึ่งเป็นขนมอบชิ้นๆเล็กๆที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า

“วันนี้พ่อเสือกับอาจอมจะไปโรงแรมหรือเปล่าครับ” ภูฟ้าเคียงคอ เงยหน้าขึ้นถามบิดาที่นั่งอยู่ด้านหลัง

“วันนี้พ่อเสือกับอาจอมจะอยู่บ้านครับ...เสาร์อาทิตย์นี้ ทั้งอาจอม พ่อเสือ และตัวภูเองคงต้องอยู่แต่ในบ้านชั่วคราวก่อนนะครับ....” ศิวะเป็นฝ่ายตอบลูกชายตัวเล็ก

“ตอนสายๆ หรืออาจจะเป็นตอนบ่ายๆ อาจอมกับพ่อเสือคงต้องต้อนรับแขกหลายคน ภูก็ต้องอยู่ในบ้าน......อย่าเดินออกมานอกบ้านคนเดียวนะครับ” จอมยุทธ์พูดต่อ

“ครับผม....แต่วันนี้อาแซมจะมาที่บ้านเรามั้ยครับ” ภูฟ้าถาม เพราะเริ่มจะติดคุณอาคนใหม่เข้าเสียแล้ว

ศิวะยิ้มน้อยๆกับความช่างถามและความสนใจของภูฟ้าที่มีต่อสหายใหม่ของเขาอย่างนายพันตำรวจตรียุทธจักร....ชายหนุ่มที่ภูฟ้าเรียกว่าอาแซมจนติดปาก ....และเป็นชายหนุ่มที่อาจหาญจะมาเปิดประตูหัวใจของ บุคคลที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา

“พ่อเสือว่าเดี๋ยวอาแซมคงจะเข้ามาตอนบ่ายๆ พร้อมลุงเอมั้งครับ”

“อืม...ภูครับ วันนี้พ่อเสือกับอาจอมคงจะวุ่นทั้งวันเลยนะครับ.........ภูต้องเป็นเด็กดี เล่นอยู่แต่ในบ้านกับคุณภานะครับ” ศิวะย้ำกับภูฟ้าอีกครั้ง

“ครับพ่อเสือ....ภูจะอยู่แต่ในบ้านครับ” ภูฟ้าให้คำสัญญา

“โอเค.....ลูกพ่อน่ารักจังเลย.... เดี๋ยววันนี้พ่อจะมีของขวัญให้ภูด้วย...รอให้พ่อกับอาจอมเสร็จธุระก่อนนะครับ....ส่วนตอนนี้พ่อของคุยธุระกับอาจอมก่อนซักพักนะครับ...ภูเข้าไปดูการ์ตูนในบ้านก่อนได้มั้ยครับ” ศิวะพูด พร้อมทั้งเอามือทั้งสองข้างจับลำตัวของบุตรชายให้ลงจากตักของตน....

ภูฟ้าปฏิบัติตามคำสั่งของบิดาอย่างว่าง่าย โดยหลังจากกล่าวลาบิดาและคุณอา เด็กน้อยจึงเดินเข้าในบ้าน

“จอมโทรศัพท์คุยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับคุณพ่อหรือยัง” ศิวะถามภายหลังที่ภูฟ้าเดินเข้าบ้านไปได้ไม่นานนัก

บุคคลที่ศิวะเรียกว่า “คุณพ่อ” คือ คุณวิศรุต....บิดาของจอมยุทธ์ ผู้ที่ตอนนี้ผันตัวเองไปทำธุรกิจการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพื่อส่งออกและบริโภคภายในประเทศ ธุรกิจใหม่ของคุณวิศรุตนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องวางมือจากงานบริหารโรงเบียร์ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจต้นกำเนิดของครอบครัว โดยมอบหมายให้จอมยุทธ์มาบริหารอย่างเต็มตัว และไม่ลืมที่จะทิ้งลูกน้องคนสำคัญๆไว้บางส่วนเพื่อให้อยู่ช่วย

ในครอบครัวใหญ่ที่มีภูฟ้าเป็น “ศูนย์รวมของดวงใจ” นั้นประกอบด้วยสมาชิกหลายคน แน่นอนจำเป็นต้องมีศิวะและจอมยุทธ์ รวมถึงเหล่าคุณปู่ คุณย่า คุณทวด ซึ่งก็คือ บิดา-มารดาของศิวะ  บิดา-มารดาของจอมยุทธ์  และท้ายสุด บิดา-มารดา-คุณยาย ของบิดาที่แท้จริงทั้งสองของภูฟ้า

ทั้งสี่ครอบครัวสนิทสนมกันเป็นอย่างดี.....บรรดาเหล่าคุณปู่ คุณย่าและคุณทวด ต่างหลงรักและเอ็นดูภูฟ้าด้วยกันทั้งสิ้น ประมุขของแค่ละครอบครัวมีอัธยาศัยไมตรีซึ่งกันและกัน และไปมาหาสู่กันโดยสม่ำเสมอ ถึงขนาดเชื่อมโยงไปสู่การตัดสินใจรวมหุ้นทำธุรกิจร่วมกันทั้งสี่ตระกูล โดยงานนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหมดต่างเสนอตัวบริหารงานเองทั้งหมด เพราะต่างฝ่ายก็ได้มิตรแท้มาแนบกาย โดยปล่อยให้ธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวให้ลูกๆ ดูแลกันไป

ดังนั้นจึงไม่แปลกว่า ผู้อาวุโสทั้งหมดจะเห็นว่าศิวะและจอมยุทธ์เป็น “ลูกชาย” และภูฟ้าเป็น “หลานชาย” เสมอมา....และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้ศิวะและจอมยุทธ์เรียกบิดา-มารดาของทุกคนว่า “คุณพ่อ” และ “คุณแม่” โดยไม่เคยแยกว่าใครเป็นใคร

“ผมคิดว่าจะโทรบอกท่านตอนได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่เอครับ” จอมยุทธ์ตอบคำถาม

“ก็ดีเหมือนกัน อย่าเพิ่งทำให้ท่านเป็นกังวลดีกว่า รอเราได้ข้อมูลว่าใครเป็นตัวการแล้ว ค่อยบอกท่านทีเดียวเลย” ศิวะสนับสนุนและกล่าวเพิ่มเติมตามความคิดของตน

“เดี๋ยวอ่านหนังสือเสร็จแล้ว....จะเข้าไปหาข้อมูลที่ห้องทำงานซักพัก และก็โทรสั่งงานที่โรงแรม รวมกับจัดการเรื่องบอดีการ์ดให้” ศิวะบอกงานที่เขาจะต้องทำให้เสร็จภายในเช้านี้ให้จอมยุทธ์ได้รับฟัง

“ครับ....ผมจะเข้าไปเซตระบบเหมือนกันครับ...พี่เสือเตรียมนาฬิกาไว้หรือยังครับ” จอมยุทธ์ถามเพราะต้องใช้นาฬิกาเรือนดังกล่าว

“อยู่ในห้องทำงาน..เดี๋ยวพี่เอาให้”

“ครับ”

ทั้งสองหนุ่มใช้เวลาอีกเพียงเล็กน้อยในการจัดการกับอาหารเช้ารวมถึงกาแฟให้หมด และตามด้วยนมสดอีกคนละแก้วเต็มเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย จากนั้นจึงเดินตรงเข้าไปในบ้านและมุ่งหน้าเข้าสู่ห้องทำงานชั้นใต้ดิน ทั้งศิวะและจอมยุทธ์ต่างเริ่มลงมือทำงานของตนอย่างรวดเร็ว...จนกระทั่งงานส่วนตัวเสร็จสิ้น ทั้งสองหนุ่มจึงมีเวลาทบทวนความรู้และความเข้าใจทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับ “ระบบ” ตลอดจนพิจารณางานต่างๆ ที่ได้รับการติดต่อเข้ามา 

ศิวะและจอมยุทธ์ใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานจนกระทั่งถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยง แล้วจึงเดินขึ้นมาจากห้องทำงานเพื่อไปยังห้องครัวและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับภูฟ้า หลังจากนั้นจึงอยู่รอนครินทร์ที่โทรศัพท์มาบอกตั้งแต่ตอนสายๆ ว่าจะพานายตำรวจผู้รับผิดชอบคดีเข้ามาพบในตอนบ่าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2007 12:55:52 โดย Andreas »

abcd

  • บุคคลทั่วไป
มีห้องลับใต้ดินด้วย นาฬิกาที่ว่านี่ คล้ายๆกะของเจมส์ บอนด์007อ๊ะป่าว
ชักจาเริ่มลุ้นระทึกขึ้นเรื่อยๆแย้วสิ
 :angry2:

นู๋ภูของเจ้สองน่ารักจัง เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
 :give2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
...............ตานู๋ภูฟ้าน่ารักจังเลย........... :give2: :give2:

........................อ่าแล้วชักอยากจะมีลุกเป็นของตัวเองแล้วดิ.......... :impress3: :impress3:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ตาภูโตเป็นหนุ่มเร็วๆจังอิๆ ดูซิว่าจะหล่อขนาดไหน  :รักจัง11:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ภูฟ้าน่ารักจัง . . . แต่อยากรู้ว่าโตขึ้นจะชอบผู้หญิงรึผู้ชายหว่า :confuse:


ปล.รักพี่เสือที่ซู๊ดดดดดด

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :give2: :give2: :give2: :give2:

สู้ๆ นะทุกคน  :loveu: :loveu: :loveu:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :impress: :impress: ภูฟ้า น่ารักจัง อิอิ

ถ้าบอกว่าชอบน้องภู นี่เค้าจะหาว่าเรา โชตะคอนเป่าเนี่ย  :monkeysad:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
รักเดะ ๆ อยากกิงเดะ ๆ กันใหญ่เลยยยยย  รักน้องภูด้วยคน  โตมาเป็นเฟอร์เฟกต์แมน  สงสัยจาชอบผู้ชายนา :give2:

จอมกับพี่เสือเก่งเนอะ  ตั้งระบบเป็นด้วย  ยิงปืนก็เก่ง ทำได้ไงอะ จาเก่งเกินละพระเอกของจ๋อม  :o

ต่ออ่านต่อน้า  หนุกดี ๆ ชอบ  :loveu:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ มีห้องลับใต้ดินด้วย
เรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ  :laugh3:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
ภูฟ้าน่าร๊ากก
ตอนนี้ลงน้อยไปป่าวอะ  หุหุ.. :fox2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
เรื่องนี้นี่ท่าทางจะน้องๆ เจมส์บอนด์แน่ๆ เลย :kikkik:

ลุ้นๆ

น้องหนูภูน้อยก็น่ารักเจรงๆ  :5555:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
Dear All,

As question about Bhufa has been raise for this sexual preference, though his smart daddy and friendly uncle are gay….. but somehow he will be only one straight in this lovely and warm family.

I dare not to make my little prince Phufa to be gay ….. if so, his father’s families will be ended eventually.  That will be sad for sure!!!!

I have planed to write the special chapter for Phufa and his girlfriend who is a medical doctor, in the near future after I finished the next story where his daddy and uncle will be there…. This mentioned story will reflect the sadly but successfully political movement of Shaikh Ashmal, as his attempt to seize out the extraordinary force that tries to colonize his small country in the Middle East. The story involves international politics, human right, democracy and finally the real bond of love between Shaikh Ashmal and the person he has given all his heart to….Vayu, a Thai pediatrician.

Anyway, let’s see how Phufa manages his love,…… and remember!!! He hates hospital the most!!!!!.....

By the way, this present story will be long way to go…..

Hope you all enjoy reading it….and walking along with the characters until everything reveals……

Regards

Andreas
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2007 08:47:26 โดย Andreas »

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
จะรออ่านนะค้าบบบบ  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

ปล. คนเขียนสู้ๆ นะค้าบบบ  :loveu: :loveu: :loveu:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Phufa and his girlfriend who is a medical doctor
 :give2:
จริงเย๋อออออออ
 :รักจัง11:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
จะรออ่านนะ :loveu:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :รักจัง11: โอ้ว ภูฟ้า จะมีเมียยยยย อิอิ ดีคับๆ ไม่ว่าเค้าจะเป็นแบบไหน ถ้าได้อยู่ในครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก มันก็ดีทั้งนั้นแหละคับ  :impress:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เอิ้กๆ แววแห่งความเจ็บปวดมาแว้ว ตาภูฟ้า
 :เฮ้อ:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ล่วงเข้าบ่ายกว่าๆ นครินทร์และยุทธจักรจึงเดินทางมาถึงพร้อมด้วยนายตำรวจระดับสารวัตรสองคนคือ พันตำรวจตรีอลงกรณ์ สารวัตรสืบสวนฯ และนายพันตำรวจตรีชาติตะวัน ตำแหน่งสารวัตรปราบปรามฯ ทั้งสองคนเป็นนายตำรวจผู้ควบคุมคดีนี้

หลังกล่าวคำทักทายและแนะนำตัวกันเสร็จสิ้นแล้ว นายตำรวจทั้งสองคนจึงถือโอกาสรายงานความคืบหน้าของคดีในเบื้องต้นให้จอมยุทธ์และศิวะได้รับฟัง

“เมื่อคืนนี้ผมนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคดีได้เกือบทุกคนครับ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานทั้งสิ้น รวมถึงผู้จัดการฝ่ายขนส่งครับ” พันตำรวจตรีชาติตะวัน......สารวัตรปราบปรามเป็นฝ่ายรายงานให้ฟังเป็นคนแรก

“พนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลว่า การขนถ่ายยาบ้าเกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าครั้งครับโดยใช้รถขนเบียร์เป็นพาหนะ .....ตัวการคนสำคัญที่จัดการเรื่องนี้คือหัวหน้าฝ่ายขนส่งครับ โดยได้รับสารภาพว่าร่วมกับลูกน้องอีกห้าคนรับจ้างขนส่งยาบ้าจากชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้พนันบอลไปส่งอีกที่หนึ่งตามที่ชายคนนั้นต้องการ” พันตำรวจตรีอลงกรณ์....สารวัตรสอบสวนฯรายงานต่อทันที

“เนื่องจากในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การซัดทอดไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คุณจอมยุทธ์ .......และผมได้ปรึกษากับท่านรองฯ แล้ว ผมขออนุญาตนำคุณจอมยุทธ์เจ้าสู่คดีในฐานะพยานครับ” พันตำรวจตรีอลงกรณ์ยังคงพูดต่อ

“ไม่มีปัญหาครับ” จอมยุทธ์ตอบ

“ทางชุดสอบสวนจะทำสำนวนคดีและส่งเรื่องฟ้องศาลโดยมีผู้ที่ถูกจับกุมเมื่อคืนที่ให้การรับสารภาพแล้ว เป็นจำเลย และมีคุณจอมยุทธ์เป็นพยาน และทางฝ่ายผมเป็นฝ่ายโจทก์ครับ...ขณะที่ดำเนินการฟ้องศาล ทางตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องหลักของยาบ้าชุดนี้ และทำการเพิ่มเข้าไปในสำนวนคดีในตอนหลังครับ.....ไม่ทราบว่าคุณจอมยุทธ์มีคำถามอะไรไหมครับ” สารวัตรสอบสวนฯหยุดพักการรายงานคดีชั่วคราว และทิ้งท้ายประโยคคำถามเอาไว้ 

“ผมพอจะทราบได้มั้ยครับ ว่ายาบ้าพวกนี้ถูกผลิตที่ไหนครับ” จอมยุทธ์ตั้งคำถามสั้นๆตรงไปตรงมา

สารวัตรทั้งสองคนหันหน้ามาสบตานครินทร์ในฐานะผู้บังคับบัญชาในทันที ก่อนจะได้รับสัญญาณอนุญาตให้ตอบคำถามได้ตามแต่เห็นสมควร

ดังนั้นสารวัตรปราบปรามฯจึงเป็นฝ่ายตอบคำถาม

“ดูจากชนิดและรูปแบบสัญลักษณ์ที่ปั้มบนเม็ดยาบ้า.....สามารถระบุได้ว่ายาบ้าชุดนี้ถูกผลิตโดยชนกลุ่มน้อยที่มีฐานที่ตั้งหรือโรงงานผลิตอยู่บริเวณเขตรอยต่อของประเทศไทย จีน และพม่าครับ ......”

“สารวัตรพอจะระบุได้ชัดเจนมั้ยครับว่าชนกลุ่มน้อยที่ผลิตยาบ้าชุดนี้คือกลุ่มไหนกันแน่ครับ” จอมยุทธ์ถามต่อเพราะคำตอบที่ได้รับกว้างมาก เนื่องจากชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ตามชายแดนดังกล่าวมีหลายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีศักยภาพต่างกัน

“จากข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้ ก็น่าจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มกระเหรี่ยงแดง ภายใต้การนำของนายพล “ลู่เซอ” ครับ....ส่วนรายละเอียดการขนถ่ายและค้ายาในเมืองไทยนั้น ทางฝ่ายเรามีข้อมูลน้อยมากครับ เนื่องจากพวกนี้มีการทำงานที่รอบคอบและรัดกุมมาก ทางสายของตำรวจเองยังไม่สามารถเจาะเข้าไปในกลุ่มนี้ได้ครับ....”พันตำรวจตรีชาติตะวันพยายามตอบคำถามของจอมยุทธ์

“ข้อมูลที่เราได้จากตำรวจสากลคือพวกมันมักจะใช้ประเทศไทย ลาว และจีน เป็นแหล่งระบายยาบ้าและฟอกเงินกลับคืนไปสู่ฐานที่ตั้งครับ” สารวัตรสอบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 “ลักษณะของพวกมันเป็นกลุ่มใหญ่มั้ยครับ...และวัตถุประสงค์ในการฟอกเงินกลับไปคืออะไรครับ” ศิวะที่นั่งฟังเงียบๆอยู่ตั้งแต่ต้นถามขึ้นมาบ้าง

“ผมสันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควรครับ...แต่ในเรื่องการฟอกเงินนั้น ข้อมูลที่ผมมีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะตอบคำถามนี้ได้ครับ...เราคงต้องรอข้อมูลจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเพิ่มเติมครับ” สารวัตรสอบสวนเป็นฝ่ายตอบคำถามของศิวะ

“อืม....ครับ อย่างนั้นก็คงต้องรอกันซักพักมั้งครับ....ผมก็แค่สงสัยว่า กลุ่มกระเหรี่ยงแดงนี้คงจะมีเป้าหมายหลายอย่าง ทั้งการผลิตยาบ้าเพื่อจำหน่าย และการฟอกเงินกลับไปเพื่อเป็นทุนในการค้าและผลิตอาวุธสงคราม....โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากลุ่มนี้เกี่ยวพันกับพวกกองกำลังแบ่งแยกดินแดนหรือกลุ่มก่อการร้าย.....ถ้าผมเดาไม่ผิด กลุ่มคนที่บุกเค้ามาในโรงงานคงเป็นพวกกระเหรี่ยงแดง.... ที่น่าสนใจก็คือพวกมันใช้อาวุธสงครามที่ยังคงใหม่มากและมีประสิทธิภาพสูง รวมถึงลักษณะการทำงานเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง” ศิวะพูดเปรยๆออกมา โดยประมวลข้อมูลเท่าที่ตนเองจะสังเกตเห็นเมื่อคืน

“ผมอาจคิดมากไปเองก็ได้ครับ....อย่าสนใจความคิดผมเลยครับ” ศิวะต้องรีบพูดต่อ เพราะสังเกตว่านายตำรวจที่นั่งฟังอยู่นั้นเริ่มชักสีหน้าแสดงอาการประหลาดใจ

ข้อสันนิษฐานที่ศิวะเปรยว่าเขาอาจจะคิดมากไปนั้น ฟังดูเผินๆอาจจะเกินจริง แต่กลับเป็นสิ่งที่ได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนหน้า....โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสันนิษฐานในทำนองเดียวกันโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เก็บได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่สำหรับศิวะซึ่งเป็นพลเรือนสามารถสันนิษฐานได้ละเอียดพอๆกับฝ่ายตำรวจ ทั้งๆที่ไม่ได้รับข้อมูลอะไรมาก่อนหน้านี้ สิ่งที่ศิวะรับรู้มีเพียงแต่ข้อมูลที่สังเกตได้จากเมื่อคืนวานเท่านั้น

ยุทธจักรที่นั่งฟังอยู่เงียบๆนั้นยอมรับว่าเขารู้สึกทึ่งในความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ของศิวะเป็นอย่างมาก และรู้สึกติดใจกับความสามารถพิเศษครั้งนี้

นครินทร์มีความรู้สึกเช่นเดียวกับยุทธจักร เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเพื่อนสนิทที่คบหามายาวนานต่อหน้านายตำรวจทั้งสาม

“ถ้าข้าไม่รู้จักแกมาก่อนนะเสือ...ข้าคิดว่าแกต้องเป็นนายตำรวจระดับเสธฯ แน่เลยว่ะ....แกวิเคราะห์สถานการณ์อย่างกับมืออาชีพ”

“ขอบใจว่ะ....ข้าแค่คิดเล่นๆ...อย่าชมข้าเลย” ศิวะรับโดยไม่คิดเป็นจริงเป็นจัง

 “จริงๆแล้วที่คุณศิวะกล่าวมาก็นับว่าน่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์จริงครับ......แม้ว่าทางข้อมูลที่ผมมีอยู่จะยังฟันธงไม่ได้ว่ากลุ่มกระเหรี่ยงแดงนี้เชื่อมโยงกับขบวนการอะไรบ้าง....แต่ก็ดูเหมือนจะมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่าพวกมันอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มค้าอาวุธสงครามก็ได้ครับ...ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และชนิดของอาวุธสงครามที่พวกมันใช้อย่างคุณศิวะกล่าวมาตั้งแต่ตอนแรกครับ” สารวัตรปราบปรามได้โอกาสจึงกล่าวสนับสนุนข้สันนิษฐานดังกล่าว
หลังจากนั้นนายพันตำรวจตรีอลงกรณ์จึงอธิบายเพิ่มเติม

“แต่ในส่วนที่ว่ากองกำลังเมื่อคืนเป็นพวกกระเหรี่ยงแดงหรือไม่ ผมกำลังรอข้อมูลทางพันธุกรรมจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อยู่ครับ ถ้าพบว่าข้อมูลของรหัสพันธุกรรมตรงกับข้อมูลที่ฝ่ายมั่นคงเก็บรวบรวมไว้..เราก็ฟันธงได้เลยว่ากลุ่มคนเมื่อคืนเป็นกองกำลังของนายพลลู่เซอจริงครับ”

“ถ้าข้อมูลสรุปได้ว่ากองกำลังชุดเมื่อคืนเป็นกลุ่มกระเหรี่ยงแดงจริง.... ก็หมายความว่า จอมยุทธ์.....น้องชายของผมซึ่งเป็นพยานในคดีนี้....กำลังตกเป็นเป้าของพวกกองกำลังต่างสัญชาติ......ที่เราแทบไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพวกมันเลยหรือครับ” ศิวะตั้งคำถามอีกครั้ง

สารวัตรทั้งสองต่างลอบถอนหายใจพร้อมๆ กัน เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่ศิวะพูดออกมานั้นถูกทุกประการ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาข้อมูลต่างๆที่ได้รับมาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาบ้าชุดนี้แล้ว พบว่าพยานและผู้เกี่ยวข้องในคดีก่อนๆ มีเหตุต้องหายตัวไปก่อนคดีจะสิ้นสุดทุกครั้งไป แน่นอนว่าทางตำรวจไม่สามารถจับสืบสาวไปถึงตัวการได้ ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการค้ายาบ้านี้จึงยังคลุมเครืออยู่มาก

“ก็อาจเป็นเช่นคุณศิวะสันนิษฐานครับ.....แต่ว่าในตอนนี้ท่านรองนครินทร์ได้ประสานไปยังหน่วยกำลังพลเพื่อขอตัวนายตำรวจติดตาม มาคุ้มครองคุณจอมยุทธ์จนกว่าคดีจะสิ้นสุดครับ...” ในที่สุดสารวัตรปราบปรามก็ต้องเอ่ยยอมรับ

“ในส่วนของคดีความนะครับ....ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกผมคงต้องเข้าพบคุณจอมยุทธ์บ่อยมากขึ้นเพื่อสอบถามข้อมูลบางประการในเรื่องของรูปคดี หวังว่าคุณจอมยุทธ์คงไม่ขัดข้องนะครับ”   พันตำรวจตรีอลงกรณ์กล่าวต่อมาเพื่อให้จอมยุท์ได้รับทราบและจัดสรรเวลาได้อย่างเต็มที่

“ครับผม เชิญพบผมตามแต่สะดวกได้เลยครับ”

“ขอบคุณมากครับ” สารวัตรทั้งสองกล่าวขึ้นพร้อมกัน
 
“ถ้าไม่มีข้อสงสัยแล้ว.....ผมสองคนลาก่อนนะครับ...” สารวัตรหันหน้าไปสบตาทุกๆคนที่นั่งอยู่ หลังจากไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ ทั้งสองจึงลุกขึ้นยืนและกล่าวลาเจ้าของบ้านอย่างศิวะและจอมยุทธ์ โดยไม่ลืมที่จะหันมาทำความเคารพผู้บังคับบัญชาโดยตรงอย่างนครินทร์เป็นการส่งท้าย
 
จอมยุทธ์รับอาสาเดินไปส่งสารวัตรทั้งสองขึ้นรถส่วนตัวที่หน้าบ้าน เขาปล่อยให้ศิวะนั่งคุยกับนครินทร์และยุทธจักรในห้องรับแขกต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Andreas

  • บุคคลทั่วไป
“เสือ....บอกตามตรง....ข้าว่าจอมต้องระวังตัวให้มากว่ะ....อาจรวมถึงคนรอบข้างอย่างแกด้วย....งานนี้ ไอ้พวกฝ่ายโน้นมันมีฝีมือไม่ใช่เล่น ที่สำคัญข้าพอมีข้อมูลว่า พวกมันร้ายกาจพอควร.....” นครินทร์เลือกที่พูดสิ่งที่กังวลอยู่ให้ศิวะทราบตามความจริง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการดีที่ศิวะจะรับรู้ไว้และคอยเป็นหูเป็นตาให้จอมยุทธ์ได้

“ผมก็คิดเหมือนพี่เอครับ..... ผมพอรู้มาบ้างเรื่องกองกำลังของนายพลลู่เซอ เพราะกองกำลังนี้กำลังถูกจับตามองอยู่โดยสภาความมั่นคงฯของเราและตำรวจสากลครับ...แต่ว่าข้อมูลที่เราได้มามีน้อยมาก...จนไม่สามารถระบุหรือติดตามความเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียดครับ.....ข้อมูลส่วนใหญ่ ผมคิดว่าน่าจะอยู่ที่สำนักงานตำรวจสากลครับ และน่าจะเป็นข้อมูลที่ละเอียดว่าที่เรามีอยู่มาก เนื่องจากเก็บรวบรวมจากหลายประเทศครับ” ยุทธจักรพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากเป็นผู้ฟังที่ดีมาตลอด

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยุทธจักรต้องเป็นเพียงแต่ผู้ฟังเพราะเนื่องจากเขาไม่มีขอบเขตหน้าที่ในคดีนี้ และตามระเบียบปฏิบัติแล้วนายตำรวจนอกพื้นที่อย่างเขาไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆได้ในคดีท้องถิ่น จนกว่าจะได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ในคดีนั้นๆ

แต่ในกรณีนี้เป็นการพูดคุยเป็นแบบฉันท์มิตรสหาย ยุทธจักรจึงสามารถให้คำแนะนำได้อย่างเต็มที่ เพราะถือว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีความแต่อย่างใด

“ผมมองว่าเราต้องวิเคราะห์ประเด็นสถานการณ์ออกเป็นส่วนๆให้ละเอียดครับ.....ส่วนแรก....แน่นอนว่ายาเสพติดเหล่านี้คงมาจากกลุ่มนายพลลู่เซอจริง แต่มีคำถามที่น่าสนใจว่าพวกขบวนการค้ายาและสายยาในเมืองไทยนั้นมีความผูกพันลึกซึ้งกับกลุ่มกระเหรี่ยงแดงมากขนาดไหน.....ถ้าลึกซึ้งมากถึงขนาดสามารถขอกำลังคุ้มครองโดยตรงจากนายพลลู่เซอได้.....ก็หมายความว่าเรากำลังเจองานหนัก.....คำตอบของคำถามข้อนี้เราจะรู้ได้ทันทีที่ข้อมูลรหัสทางพันธุกรรมส่งมาถึง.....แล้วถ้าข้อมูลระบุว่ากองกำลังพวกนี้เป็นกองกำลังต่างสัญชาติจริง ก็หมายความว่า เรากำลังเผชิญอยู่กับกลุ่มก่อการร้ายแน่นอน......ซึ่งเราอาจต้องขอความร่วมมือจากตำรวจสากลในการสืบหาข้อมูลรวมถึงการปฏิบัติการอื่นๆ  แต่ถ้าพบว่ากลุ่มที่บุกเข้าไปในโรงงานเมื่อคืนเป็นกลุ่มคนไทย......ก็น่าจะสันนิษฐานได้ว่า พวกขบวนการค้ายาเสพติดในเมืองไทยนั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกลุ่มกระเหรี่ยงแดง...ซึ่งในกรณีนี้เราอาจจะพอรับมือได้ง่ายกว่าเพราะน่าจะสืบหาต้นตอได้ไม่ยากและไม่ต้องพึ่งตำรวจสากลครับ” ยุทธจักรเริ่มพูดประโยคยาวๆ 

“ส่วนที่สอง........ผมคิดว่าคนที่เราจับตัวได้นั้นเป็นแค่พวกสายยาธรรมดาครับ โดยที่ตัวการใหญ่ของขบวนการยังคงไม่ถูกจับกุม..... คนๆนี้ต้องอยู่ระดับสูงพอสมควรที่สามารถสั่งกำลังติดอาวุธเข้าไปในโรงงานเมื่อคืนนี้ครับ........ลักษณะการทำงานของพวกมันคงมีสายคอยตรวจสอบการขนส่งยาอยู่ตลอดเวลา...โดยที่พวกคนที่รับหน้าที่ขนส่งยานั้นไม่ทราบเลยว่ากำลังถูกจับตามองอยู่ด้วย....ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดต่างๆเกิดขึ้น คนพวกนี้จะส่งสัญญาณไปยังคนที่อยู่ตำแหน่งสูงกว่าเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว....สาเหตุที่ผมคิดเช่นนั้นเพราะพี่เอบอกผมตั้งแต่ตอนเช้าว่า คนที่ถูกจับนั้นไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงงานและไม่มีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มคนติดอาวุธที่เข้าไปในโรงงานเลยครับ.........ดังนั้นถ้าเป็นอย่างที่ผมสันนิษฐานจริงๆ......คนที่เกี่ยวข้องจริงๆกับยาชุดนี้ยังคงลอยนวลอยู่พร้อมด้วยลูกสมุนอีกมากครับ.....และจอมน่าจะกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะผมว่าพวกมันคงไม่รามือแค่นี้แน่ๆ เนื่องจากมันไม่ได้เสียแค่ยาบ้าอย่างเดียว” ยุทธจักรพูดจบประโยคห้วนๆ ก่อนจะหันไปสบตากับนายตำรวจรุ่นพี่ ให้จัดการอธิบายต่อในเรื่องที่ทิ้งปมไว้

“อืม....ลุกน้องข้าตรวจดูแล้วว่ะ เสือ..... ว่าของกลางไม่ได้มียาบ้าอย่างเดียว มันมีผงขาวพวงมาด้วย เกือบสิบกิโล.....ตอนแรกข้าก็เพียงแต่คิดว่ามันส่งคนมาเอาของคืนเพราะเป็นยาบ้าลอตใหญ่ พวกมันไม่อยากขาดทุน แต่พอตรวจดูของกลางอย่างละเอียดแล้วพบผงขาว ซึ่งตีราคาแล้วสูงถึงห้าสิบล้าน ถ้ามันนำออกจากเมืองไทยได้  ค่ามันจะสูงกว่านี้อีก”

“แล้วทำไมสารวัตรสอบสวนฯไม่ได้เล่ารายละเอียดเรื่องผงขาวให้ข้ากับจอมฟังวะ” ศิวะติดใจกับประเด็นนี้จึงต้องรีบตั้งคำถาม

“เพราะว่าคดีมันจะซับซ้อนขึ้น และก็พวกฝ่ายสอบสวนเอง คงต้องการข้อมูลให้มากกว่านี้ซักหน่อย แล้วคงจะบอกในตอนหลัง....แต่ข้าคุยกับแซมมันก่อนหน้านี้ แซมมันเสนอให้ข้าบอกแก เพราะว่าจะทำให้แกเข้าใจสถานการณ์ได้ดีมากขึ้นและจะได้ระมัดระวังตัวได้ถูก” นครินทร์เป็นฝ่ายตอบ

 “แกพอจะมีข้อมูลของกองกำลังกระเหรี่ยงแดงนี้มั้ยเอ...เอาเท่าที่แกจะบอกข้าได้น่ะ” ศิวะเข้าใจถึงความอึดอัดของนครินทร์เป็นอย่างดีในเรื่องการให้ข้อมูลที่อาจเป็นความลับทางราชการแก่บุคคลภายนอก ดังนั้นเขาจึงออกตัวให้บอกเฉพาะข้อมูลที่บอกได้

“ข้อมูลส่วนใหญ่มันอยู่ที่กระทรวงกลาโหม และสำนักงานสภาความมั่นคงฯ เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกองกำลังติดอาวุธ แต่ทางกรมตำรวจเองก็พอจะมีข้อมูลบ้าง ในส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะกองกำลังนี้จะดูแลการผลิตและขนถ่ายของที่แนวตะเข็บชายแดนมาส่งให้กับคนจ่ายของ....หลังจากนั้นคนจ่ายของจะจ่ายของไปตามแต่ละสายที่มีอยู่ทั่วประเทศ......คนจ่ายของอาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกลุ่มกระเหรี่ยงแดงโดยตรงหรือไม่ก็ได้....แต่ว่าการจัดลำดับความสำคัญของคนจ่ายของนั้นเป็นขบวนการและเป็นระบบแบบร่างแห.......ที่น่าสนใจก็คือผู้ซื้อของและผู้ส่งของจะไม่มีส่วนรู้เห็นกับคนจ่ายของในระดับสูงๆเลย .....ดังนั้นในคดีที่ผ่านๆมา ตำรวจมักจะจับผู้ซื้อหรือผู้ส่งของได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถสาวไปถึงผู้จ่ายของได้ซักที รู้เพียงแต่ว่ามันผลิตที่ไหนและใครน่าจะเป็นตัวการสำคัญ ซึ่งข้อมูลพวกนี้เราได้มาจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลเพื่อนบ้านและ Interpol ด้วย” นครินทร์อธิบายอย่างชัดเจน 

“คนจ่ายของแหละที่สำคัญ เพราะน่าจะมีทั้งกำลังคุ้มครองและสั่งการทุกอย่างได้เต็มที่ โดยเฉพาะถ้ามันใกล้ชิดกับนายพลลู่เซอโดยตรง” นครินทร์พูดต่อเป็นประโยคสุดท้าย

“อืม...” ศิวะได้แต่พยักหน้าเบาๆ ภายหลังได้รับข้อมูลจากนครินทร์ 
 
“เป็นไปได้มั้ยครับที่คนที่โทรมาหาผมเมื่อคืนคือคนจ่ายของที่น่าจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอสมควร” เสียงของจอมยุทธ์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นชั่วคราวของการสนทนา

ทั้งสามหนุ่มหันหน้าไปทางต้นเสียง  เห็นจอมยุทธ์เดินเข้ามาในห้อง และทิ้งตัวลงนั่งสบายๆบนเก้าอี้ข้างๆศิวะ .....

สีหน้าของจอมยุทธ์ยังคงเรียบเฉยไร้แววตกใจ แม้ว่าจะเดาได้โดยไม่ยากว่าจอมยุทธ์คงได้ยินรายละเอียดต่างๆของการสนทนาก่อนหน้านี้พอสมควร

“เป็นไปได้เลยทีเดียว...จอม” นครินทร์ตอบคำถาม

“พี่เอสนใจคนจ่ายของคนนี้ขนาดไหนครับ” จอมยุทธ์ถามกลับภายหลังใช้เวลาไม่นานในการครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“บอกตามตรงจอม...พี่สนใจมาก เพราะคาดว่าคนคนนี้น่าจะเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในขบวนการค้ายา และอาจจะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเกี่ยวข้องกับกองกำลังกระเหรี่ยงแดงอีกด้วย อีกอย่างไม่ใช่แค่กรมตำรวจอย่างเดียวที่จะได้ประโยชน์ ทางฝ่ายสภาความมั่นคงฯก็น่าจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจเนื่องกับการใช้อาวุธสงครามตามแนวชายแดนเช่นกัน” นครินทร์ตอบคำถาม

“แต่ว่าจอมถามทำไมหรือครับ” นครินทร์ย้อนถามกลับมา เพราะค่อนข้างแปลกใจในคำถามนี้

“ผมเพียงแค่อยากเสนอแนะอะไรบางอย่างครับ....ว่าตอนนี้เรามีโอกาสที่จะบังคับให้คนที่อยู่ในมุมมืดที่เรามองไม่เห็นตัว ออกมาอยู่ในที่สว่างๆซักหน่อย ให้เราเห็นตัวได้ง่าย เราจะได้ทำงานกันได้สะดวกมากขึ้น” จอมยุทธ์พูด

“จอมจะใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อหรือครับ” ยุทธจักรที่จับความคิดของจอมยุทธ์ได้เร็วพอๆกับศิวะถามออกมาอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับศิวะที่ยังคงนิ่งเฉยแต่ก็หันไปสบตาจอมยุทธ์

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อันตรายอ่ะ อย่าใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล้อเลย

ถ้าเป็นอะไรไปแล้วพี่แซมจะอยู่ได้ไง :sad4:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :o อย่าทำไรเสี่ยงมากนะจอม

ขอให้ปลอดภัยนะทุกคน  :call: :call: :call: :call:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
หั้ยพี่แซมไปคุ้มกันด่วน..... :13223: :13223:

.............จอมจะได้เปิดใจมากกว่านี้..... :5555: :5555:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ใช้ตัวเองเปงเหยื่อล่อ วิธีนี้ใช้ได้ผลดีแต่เสี่ยงง่ะ   :serius2:
แต่ไม่แน่วิธิอาจจะทำให้แซมได้กลายเป็นฮีโร่ เผื่อจอมพลาดพลั้ง คิคิ :kikkik:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อืม  รออ่านต่อแล้วกัน  แผนการให้จอมเป็นเหยื่อล่อ
ขอให้ปลอดภัย  แต่มันคงมีเหตุการณ์อะไรตามมาอีกละสิ  เผชิญหน้ากับความน่ากลัวซะแล้นน

รออ่านต่อจ้า  :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ  :laugh3:
เป็นโอกาสดีของแซมที่จะทำคะแนน ปกป้องจอมด้วยชีวิต  :give2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารออ่านจ้า :yeb:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:... เครียด!
สู้ๆนะงับ จอมยุทธ์ พี่แซมด้วย :impress:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
จอมจะใช้ตัวเข้าล่อ...

เอ่อ....เอาใหม่ๆ

จอมจะใช้ตัวเป็นเหยื่อล่อ...

คราวนี้พี่แซมมีโอกาสทำคะแนนแล้วเว้ย :yeb:

แต่หวังว่าคงไม่เกิดอะไรที่เลวร้ายหรอกนะ :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด