เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  (อ่าน 191648 ครั้ง)

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ทุกๆคนแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างแข็งขันเพื่อเตรียมการเฝ้าระวังและคุ้มกันของกลางจนกว่ากำลังเสริมจะเข้ามาในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น.....

หน่วยรักษาความปลอดภัยบางคนที่พิทักษ์ไว้ใจได้ ถูกเรียกมาเพื่อช่วยศิวะ จอมยุทธ์ และยุทธจักร ขนย้ายยาบ้ามูลค่ามหาศาลเหล่านั้น เข้าสู่โกดังเก็บของหลังหนึ่ง และวางกำลังเฝ้าตรึงอย่างแน่นหนา ในขณะที่นครินทร์กำลังวางแผนงานสำหรับคืนนี้รวมถึงมอบหมายหน้าที่ให้ลูกน้องของเขาปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

คนขับรถถูกสอบสวนต่อภายหลังการวางกำลังเสร็จสิ้นลง ในเบื้องต้นนครินทร์ทราบชื่อและที่อยู่คร่าวๆของคนขับรถอีกคนหนึ่งที่เคยมอบยาบ้าให้คนขับรถคนนี้

หลังจากตรวจสอบว่าคนขับรถที่ถูกซัดทอดไม่มีตารางการปฏิบัติหน้าที่ขับรถขนของในคืนนี้ นครินทร์คาดว่าน่าจะยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ระบุมา

วินาทีนี้นครินทร์เปลี่ยนใจ ไม่รอให้ถึงเช้าอีกต่อไป เขาต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็จะทำให้เกิดข้อได้เปรียบมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้ สารวัตรปราบปรามฯ และสารวัตรสืบสวนฯ ที่เตรียมพร้อมรับคำสั่งอยู่ที่กองกำกับการฯ นำกำลังเข้าไปตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องสงสัยที่บเนดังกล่าวในทันที 

เนื่องจากคดียาเสพติดเป็นคดีอาญาที่มีโทษร้ายแรงและจัดเป็นคดีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ประกอบกับมีหลักฐานเพียงพอจากจำเลยที่หนึ่ง ซึ่งก็คือคนขับรถที่ถูกจับกุมอยู่ในโรงงานให้การซัดทอดถึงบุคคลต้องสงสัยรายอื่นๆ  และที่สำคัญที่สุดในกรณีเร่งด่วนเช่นนี้ เจ้าพนักงานไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นและหมายจับจากศาล เพียงแต่การนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมต้องเป็นการนำโดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในท้องที่นั้นๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นครินทร์จำเป็นต้องใช้นายตำรวจผู้ใหญ่ระดับสารวัตรทั้งสองคน

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป นครินทร์ได้รับรายงานจากหนึ่งในสองสารวัตรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้ว และพนักงานสอบสวนที่ตามไปด้วยกำลังสอบสวนขยายผล เพื่อหาบุคคลต้องสงสัยที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นจึงส่งข้อมูลให้สารวัตรปราบปรามฯ นำกำลังเข้าจู่โจมจับกุม

ดังนั้นในเวลานี้การทำงานจึงแบ่งออกเป็นสองสายอย่างชัดเจนตามการวางแผนเบื้องต้นของนครินทร์ โดยสายที่หนึ่งซึ่งควบคุมโดยเขาเอง ทำหน้าที่ป้องกันและคุ้มครองวัตถุของกลาง และอีกสายหนึ่งนำโดยสารวัตรปราบปรามฯ และ สารวัตรสืบสวนฯ ทำการสืบสวนขยายผลและนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ให้การซัดทอดต่อๆกันมา

การจับกุมผู้ต้องสงสัยต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและฉับไว เนื่องจากเป็นการใช้กำลังจู่โจมเป็นจำนวนน้อยและกระทำการอย่างรวดเร็ว จึงสามารถหลบหลีกการรับรู้ของผู้บงการระดับสูงที่มีสายข่าวเป็นจำนวนพอๆกับตำรวจได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ผู้บงการระดับสูงเหล่านั้นไม่อาจระแคะระคายว่าขณะนี้ตำรวจได้สอดมือเข้ามารองรับสถานการณ์นี้แล้ว   

ด้วยความชะล่าใจเนื่องจากคิดว่าฝ่ายของตนกำลังได้เปรียบ....หรือเพราะความใจร้อนของเจ้าของยาบ้ามูลค่ามหาศาล สัญญาณการจู่โจมเพื่อต้องการของคืนจึงถูกปล่อยออกมาทันที

ภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง กองกำลังติดอาวุธที่เตรียมไว้ ก็เดินทางมาถึงหน้าประตูใหญ่ของโรงเบียร์อย่างเงียบเชียบ โดยใช้ความมืดสงัดของเวลากลางคืนเป็นเกราะกำบัง เพื่อเตรียมปฏิบัติการเอายาบ้าทั้งหมดคืน

นครินทร์ได้รับรายงานจากนายตำรวจที่เฝ้าอยู่ที่ห้องควบคุมโทรทัศน์วงจรปิดว่า มีกองกำลังติดอาวุธประมาณสิบนาย ทั้งหมดสวมเสื้อผ้าชุดดำพรางตัวและพกพาอาวุธสงคราม  กำลังแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งกำลังบุกรุกเข้ามาในโรงงานโดยใช้ประตูหน้า และอีกกองกำลังหนึ่งใช้เส้นทางประตูด้านข้าง

ในตอนแรกนครินทร์ไม่คิดว่าพวกมันจะเลือกจู่โจมอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เรียกกำลังพลเสริมมาในทันที เพราะคิดว่าการปฏิบัติการในคืนนี้เป็นแค่การเฝ้าระวังเท่านั้น

แต่เนื่องจากการบุกรุกเกิดขึ้นแล้ว นครินทร์จึงต้องรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างช่วยไม่ได้.....ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ทุกฝ่ายทำการซ่อนตัวและคอยสังเกตการณ์จนกว่า ผู้บุกรุกเหล่านั้นจะเข้ามาในโรงงานให้หมด  หลังจากนั้นจึงปิดล้อมผู้บุกรุกเหล่านั้น

แผนการดังกล่าวเป็นยุทธวิธีตีกระหนาบ เพื่อลดข้อเสียเปรียบเรื่องอาวุธ เพราะทีมของนครินทร์นั้นทุกคนมีเพียงแต่ปืนสั้นอัตโนมัติ เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้บุกรุกที่มีกำลังเท่ากัน แต่มีอาวุธปืนสงครามแบบเอ็มสิบหกครบมือ...

เสียงปืนรัวเป็นคำตอบกลับมาทันที ภายหลังนครินทร์สั่งให้วางอาวุธ ในขณะเดียวกันชายชุดดำทุกคนที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ต่างวิ่งเข้าหาที่กำบังและหมอบราบเพื่อหลบวิถีกระสุนที่กลุ่มตำรวจระดมยิงสวนกลับไป

ยุทธจักรตามประกบทั้งศิวะและจอมยุทธ์อย่างไม่ให้คลาดสายตา มือข้างที่ถนัดของเขาบัดนี้ถือปืนสั้นอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถบรรจุกระสุนขนาด 9 mm ได้ถึง 30 นัด สายตาของเขาจับจ้องไปที่กลุ่มชายชุดดำสลับกับจอมยุทธ์และศิวะ เพื่อคอยดูท่าทีและคอยระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งสองหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทีตกใจกับเสียงปืนที่กำลังรัวกระหน่ำราวกับห่าฝน หากแต่ก็หลบอยู่ที่กำบังบริเวณโรงอาหาร ตามคำสั่งของนครินทร์โดยมียุทธจักรคอยดูแลความปลอดภัย

สถานการณ์ของตำรวจที่เป็นฝ่ายได้เปรียบในตอนแรก กลับกลายเป็นเสียเปรียบเนื่องจากกลุ่มชายชุดดำได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ประกอบกับอาวุธที่ใช้เป็นอาวุธสงครามที่มีวิถีกระสุนยิงไกลและสามารถยิงรัวกระสุนได้ ในขณะที่ฝ่ายตำรวจสามารถทำได้แค่หลบกระสุนที่ยิงมาเป็นชุดและยิงสวนกลับได้เป็นบางครั้ง

สมองของนครินทร์รวบรวมความคิดและวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อคิดหาวิธีโต้กลับอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในเวลานี้ คือ อาวุธและกำลังเสริม เนื่องจากกระสุนปืนของฝ่ายตำรวจเริ่มหมดลงทุกที กระสุนทุกนัดที่จะยิงต่อไปต้องยิงแบบหวังผลเท่านั้น

ยุทธจักรสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกพื้นที่อันตราย เขามองเห็นจุดอ่อนของทีมชุดดำอย่างชัดเจนในเรื่องของพื้นที่กำบัง เพราะถ้าหากว่าฝ่ายตำรวจสามารถขึ้นไปอยู่บนที่สูง เช่นอาคารสำนักงาน หรือหลังคาโรงงาน ก็จะสามารถยิงสวนมาแบบหวังผล โดยที่ฝ่ายที่หลบอยู่พื้นที่ต่ำกว่าอย่างกลุ่มผู้บุกรุก จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที

ขณะที่ยุทธจักรคิดประมวลสถานการณ์ด้วยความเคยชินเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เขาหันกลับมาเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของสองหนุ่มที่เคยหลบอยู่ในบริเวณที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่ทว่าเขากลับพบแต่ความว่างเปล่า จอมยุทธ์และศิวะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ด้วยความเป็นห่วง ยุทธจักรจึงออกค้นหาสองหนุ่มในทันที แม้ว่าไฟทุกดวงในโรงงานจะเปิดสว่างเพื่อช่วยฝ่ายตำรวจที่โอบล้อมอยู่มองเห็นผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน แต่สมองของเขากลับมืดแปดด้าน เขาไม่ทราบว่าจะไปตามหาสองหนุ่มได้ที่ใด โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ยุทธจักรก็รู้สึกเป็นห่วงสองคนนั่นมากขึ้นตามลำดับ ขณะเดียวกันก็พยายามคิดว่าศิวะคงพาจอมยุทธ์หลบออกไปในบริเวณที่ปลอดภัยกว่าพื้นที่โรงอาหารซึ่งเป็นพื้นที่เปิด ง่ายต่อการที่กระสุนปืนจะแทรกเข้ามา

หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่นาที ไฟในโรงงานทุกดวงก็ดับลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้พื้นที่ปะทะกลายเป็นทะเลความมืดในทันที ทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายผู้บุกรุกต่างหยุดยิงโดยพร้อมกัน เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป....ต่างฝ่ายจึงต่างซุ่มลองเชิงกันอยู่

ในความมืดมิดนั้น เสียงร้องอย่างแผ่วเบาดังออกมาจากกลุ่มชายชุดดำผู้บุกรุก พร้อมกับร่างที่ทรุดฮวบลงไปกับพื้น บางคนที่ได้ยินเสียงร้องผิดปกติของพรรคพวกของตน แทนที่จะก้มหมอบลงให้แนบลงกับพื้นหน้าวัสดุที่ใช้เป็นเกราะกำบังกระสุน กลับลุกขึ้นยืนและยิงกราดออกมาอย่างไร้ทิศทาง ยิ่งทำให้ตกเป็นเป้านิ่งของกระสุนปืนเก็บเสียงลึกลับที่กำลังโจมตีอยู่โดยที่ไม่ทราบว่าต้นกำเนิดกระสุนนั้นมาจากบริเวณใด

ถ้าพื้นที่ปะทะนั้นสว่างไสวราวกลับกลางวัน นายตำรวจที่ล้อมอยู่รวมถึงผู้เชี่ยวชาญการตอบโต้อาชญากรรมอย่างยุทธจักร คงสังเกตเห็นวิถีการยิงที่เยี่ยมยอดของเจ้าของปืนเก็บเสียงลึกลับนั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ประจักษ์ได้ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็สิ้นชีวิตอย่างกะทันหันของกลุ่มชายชุดดำที่ตกเป็นเป้านิ่งอยู่ตลอดเวลา

และคงไม่เป็นการยากลำบากสำหรับนครินทร์และยุทธจักรที่จะคาดคะเนว่าตำแหน่งที่มาของกระสุนปืนลึกลับนั้น ต้องมาจากที่สูงเป็นแน่

ด้วยวิถีกระสุนที่แม่นยำของมือปืนลึกลับ ทำให้กลุ่มผู้บุกรุกถูกลดกำลังลงกว่าครึ่งอย่างรวดเร็ว ในเวลาผ่านไปแค่ไม่ถึงห้านาที จำนวนชายชุดดำทั้งหมดก็ลดลงเหลือแค่สี่คนเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2007 10:22:54 โดย Andreas »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :โหลๆ: ยิงกันสนั่นแล้วค้าบ  :โหลๆ: ใครหลงเข้ามารีบหลบด่วน

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตามมาช่วยลุ้น  : 222222: : 222222: : 222222:

ฆ่ามานนนนนนน  :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ่า.. เจ้าของปืนเก็บเสียงลึกลับ  จอมกับพี่เสือป่าว  ทำตัวหายไป  พระเอกจ๋อมเก่งเสมออะ
แต่ถ้าใช่จริง  ๆนี่เก่งกว่าตำรวจอีกแย้วววว 

รอพี่แซมแสดงฝีมือน้า  ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก  ฆ่ามานนนนนนนนนนนนนนนน (เลียนแบบ ๆ)  :angry2:  :angry2:

เข้าไปหลบหลัง shell ดีก่า อิอิ  :give2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
สถานะการณ์สร้างวีรบุรุษคับพี่แซม.... :impress: :impress:

.....รีบทำคะแนนเร็ว....อย่างนิ่ง.....เด๋วไม่ได้ใจจอมยุทธนะ... :loveu: :loveu:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :13223:  หนุกหนานมากตอนนี้  ชอบๆ  ขอตัวไปหลบกระสุนก่อนละ  แว้บบ!

abcd

  • บุคคลทั่วไป
พี่เสือกับจอมสู้ๆ เล็งม่ายพลาดเป้าขนาดนี้ต้องใช่แน่ๆๆ  :angry2:  :angry2:   :angry2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เข้ามาลุ้นด้วยคน  :13223: :13223: :13223:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2: ฆ่ามานนนนนน พวกบ่อนทำลายชาติบ้านเมืองงงงงงงงงง

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ด้วยวิถีกระสุนที่แม่นยำของมือปืนลึกลับ ทำให้กลุ่มผู้บุกรุกถูกลดกำลังลงกว่าครึ่งอย่างรวดเร็ว ในเวลาผ่านไปแค่ไม่ถึงห้านาที จำนวนชายชุดดำทั้งหมดก็ลดลงเหลือแค่สี่คนเท่านั้น

ความสว่างไสวปรากฏขึ้นมาอีกครั้งเพราะสะพานไฟที่ควบคุมหลอดไฟทุกดวงในโรงงานถูกยกขึ้น ในจังหวะเดียวกับเสียงปืนจากผู้บุกรุกที่เหลืออยู่ก็ระดมยิงสวนกลับมาอย่างไรทิศทาง และเริ่มควบคุมไม่ได้อย่างเช่นตอนแรก เนื่องจากได้เห็นภาพพรรคพวกตนนอนนิ่งอยู่บนพื้นไร้สภาพการต่อสู้

ภาพดังกล่าวถูกโยงไปสู่คำถามที่ว่า เกิดอะไรขึ้นขณะไฟดับ เพราะว่าบัดนี้ผู้บุกรุกหลายคนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่สามารถจับอาวุธยิงสวนมาได้ดังเช่นแต่ก่อน

สถานการณ์พลิกผันดังกล่าว ส่งผลให้ฝ่ายตำรวจมีข้อได้ในเรื่องกำลังพล แม้อาวุธยังตกเป็นรอง แต่ก็ดีกว่าตอนแรกปะทะมากนัก นครินทร์จึงสั่งให้ผู้บุกรุกวางอาวุธอีกครั้ง เพียงเพราะต้องการจับเป็น แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับกลายมาเป็นกระสุนปืนหลายสิบนัดที่ยิงตอบโต้กลับมาเหมือนครั้งก่อน

ด้วยสถานการณ์ที่เหนือกว่าและกำลังใจที่มีมากขึ้น นายตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงยิงสวนออกไปอย่างหวังผลมากขึ้น

ในที่สุดก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้...... ผู้บุกรุกทุกคนล้มลงกลับพื้น บ้างก็สิ้นลมหายใจ บ้างก็บาดเจ็บสาหัสไม่สามารถขยับตัวได้

นครินทร์ให้รหัสมือเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวัง เนื่องจากไม่แน่ใจกว่าอาจมีบางคนออกอุบายล้มลงและรอจังหวะเผลอของตำรวจยิงสวนกลับมา

นายตำรวจชุดแรกเคลื่อนกำลังเข้าประชิดกลุ่มผู้บุกรุกที่นอนแน่นิ่งอยู่ พลางใช้สายตาตรวจสอบความผิดปกติและประเมินสถานการณ์ ภายหลังแน่ใจว่าชายชุดดำทุกคนไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีก สัญญาณเคลียร์จึงส่งออกมาจากหัวหน้าชุดทันที

หลังได้รับสัญญาณดังกล่าว นครินทร์พร้อมด้วยนายตำรวจที่เหลือจึงเดินตรงไปยังบริเวณนั้น และเริ่มตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาหลักฐานที่จะช่วยตอบปัญหาที่ยังคาใจเรื่องกำลังพลที่ลดลงอย่างรวดเร็วของกลุ่มชายชุดดำขณะที่เกิดไฟดับชั่วคราว

หลักฐานที่พบมีเพียงกระสุนปืนขนาดใกล้เคียงกันสองกระสุนที่ถูกส่งต่อมายังนครินทร์ ในขณะที่เขากำลังเดินสำรวจร่างที่สิ้นลมหายใจของกลุ่มผู้บุกรุก พร้อมกับออกคำสั่งให้เรียกรถพยาบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่เสริมเพื่อจัดการกับคนที่บาดเจ็บและร่างที่สิ้นลมหายใจที่นอนเรียงรายอยู่

หนึ่งในสองกระสุนนั้น นครินทร์ทราบว่าเป็นกระสุนของปืนไรเฟิลที่ชื่อว่า Colt Autometic Rifle ซึ่งเป็นปืนระบบยิงอัตโนมัติแบบทันสมัยโดยมีระยะหวังผลคือ 600 เมตร ปืนชนิดนี้ราคาแพงมากและอนุญาตให้ใช้ในกองทัพเท่านั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเคลียร์พื้นที่อยู่นั้น ยุทธจักรก็ยังคงเดินตามหาศิวะกับจอมยุทธ์ จนกระทั่งถึงบริเวณที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานมาชุมนุมกันตามคำสั่งของนครินทร์ก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกันกับกลุ่มผู้บุกรุกดังกล่าว เพราะนครินทร์เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน เนื่องจากหลายคนไม่มีอาวุธปืนป้องกันตัวและไม่มีประสบการณ์การต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธ ยกเว้นพิทักษ์ซึ่งเคยเป็นอดีตตำรวจตระเวนชายแดนมาก่อน

ยุทธจักรรู้สึกโล่งใจทันทีที่เห็นจอมยุทธ์และศิวะยืนอยู่กับพิทักษ์ ล้อมรอบด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยกะดึกทั้งหมดประมาณสิบกว่าคน

“ขอโทษที่ออกมาโดยไม่บอกนะครับคุณแซม...ผมไม่สบายใจที่เห็นคุณแซมตามประกบพวกผมแทนที่จะเข้าไปช่วยนายตำรวจคนอื่นๆครับ...ผมกับจอมเลยตัดสินใจถอยออกมา เผื่อว่าคุณแซมจะคล่องตัวมากขึ้น...” ศิวะรีบอธิบายทันทีที่ยุทธจักรเดินก้าวยาวๆ อย่างรวดเร็วมาหยุดตรงหน้า สีหน้าของนายตำรวจหนุ่มมีความเรียบเฉย แต่ดวงตาทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยคำถามที่ศิวะจะต้องรีบตอบและอธิบายให้เข้าใจ

“ครับ” ยุทธจักรต้องพยักหน้ารับคำเบาๆ แม้ว่าจะรู้สึกเป็นห่วงและค่อนข้างหงุดหงิดที่สองหนุ่มออกมาโดยไม่บอกกล่าว แต่เหตุผลที่ศิวะบอกมาก็ทำให้ยุทธจักรเถียงกลับไม่ได้ซักคำ เขาคงทำได้แต่รีบปรับอารมณ์และเอ่ยปากบอกให้เดินไปสมทบกับฝ่ายของนครินทร์ เพราะก่อนที่จะเดินมายังบริเวณนี้ ยุทธจักรเห็นชุดปฏิบัติการของนครินทร์เข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งก็หมายความว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว

“ผมว่าน่าจะไปสบทบกับพี่เอได้แล้วครับ...เพราะว่าตำรวจควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดแล้วครับ”

“ครับ..จอมยุทธ์เป็นฝ่ายรับคำ และกล่าวบอกทุกๆคนให้เดินมุ่งตรงไปยังบริเวณที่นายตำรวจทั้งสิบนายกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของพื้นที่อยู่

นครินทร์เรียกยุทธจักรให้เข้าไปคุยด้วยหลังจากเห็นเขาเดินมาพร้อมกับจอมยุทธ์และศิวะ ในขณะที่สองหนุ่มหยุดอยู่ภายนอกบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติงาน

“แซม...แกเคยเห็นกระสุนปืนอันนี้หรือเปล่าว๊ะ” นครินทร์ถาม พร้อมกับยื่นกระสุนปืนหนึ่งในสองที่เขาไม่สามารถบอกแหล่งที่มาให้นายตำรวจรุ่นน้องดู

ยุทธจักรรับกระสุนไปพิจารณาชั่วครู่ก่อนจะบอกคำตอบออกมา

“น่าจะเป็นกระสุนพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะกับปืน Colt’s M203 Grenade Launcher ครับ”

“เป็นปืนอัตโนมัติ รุ่นใหม่ครับ......ระยะหวังผล 400 เมตร” ยุทธจักรอธิบายต่อ

“แต่ว่าพี่เอเอากระสุนนี้มาจากไหนครับ.......”ยุทธจักรถาม เพราะเท่าที่สังเกตกลุ่มคนร้ายใช้ปืนเอ็มสิบหก ซึ่งหัวกระสุนจะแตกต่างกับที่นครินทร์ยื่นมาให้ดู

 “ตอนที่ไฟดับ ข้าคิดว่าคงมีคนซุ่มอยู่และคอยยิงช่วยพวกเรา...ผลก็คือไอ้พวกนั้นล้มไปหกคน”

“อืม....แต่ว่าเค้าคงต้องใช้แว่นตาพิเศษสำหรับส่องกลางคืนโดยเฉพาะคู่กับปืนที่เค้าใช้อยู่ครับ...ไม่อย่างนั้นเค้าคงยิงไม่ถูกใคร” ยุทธจักรตั้งข้อสังเกตจากประสบการณ์ตรง

“ข้าก็คิดอย่างนั้น แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่มาช่วยเรา ทั้งอาวุธปืนที่ใช้ รวมถึงอุปกรณ์ทันสมัยที่แน่ๆคือแว่นตาส่องกลางคืน ทั้งๆที่ของเหล่านี้ใช้ได้เฉพาะในกองทัพและสำนักงานกองบัญชาการ(ร่วมพิเศษ)ต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมรุนแรง” ประโยคหลังนครินทร์ตั้งคำถาม ก่อนจะหันไปสั่งการให้นายตำรวจทุกคนช่วยกันเคลียร์พื้นที่ เพื่อรอรับชุดเจ้าหน้าที่เสริมที่จะเข้ามาขนย้ายศพและผู้บาดเจ็บ ตลอดจนขนย้ายยาบ้าไปไว้ยังบริเวณสำนักงานตำรวจภาคห้า โดยไม่ลืมที่จะย้ำให้การปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย  แม้ว่าขณะนี้เจ้าพนักงานท้องที่บางคนอาจจะได้รับรายงานจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆโรงงานถึงเสียงปืนที่ยิงติดต่อกันมานาน และเจ้าหน้าที่เหล่านั้นคงจะทยอยมาพร้อมกับนักข่าวอย่างแน่นอน

“จอมครับ...สั่งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าประจำตำแหน่งได้เลยครับ...แล้วถ้าเจ้าหน้าที่สายตรวจมา ก็บอกให้รออยู่ที่หน้าประตูนะครับ แล้วให้คนใดคนหนึ่งมาตามพี่.... เดี๋ยวพี่ไปคุยให้เอง” นครินทร์บอกจอมยุทธ์ และไม่ลืมรักษาสัญญาที่จะจัดการเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด เพื่อป้องกันภาพพจน์ของโรงเบียร์แห่งนี้

“ส่วนกำลังเสริมที่พี่เรียกมา ขอให้พนักงานที่เฝ้าหน้าประตูฟังคำสั่งของ ผู้กองศตวรรษนะครับ...ผู้กองจะเป็นคนบอกอนุญาตให้เปิดประตูนำกำลังเข้ามาครับ” นครินทร์บอกต่อ

“ครับ” จอมยุทธ์รับคำ ก่อนจะผ่านคำสั่งของนครินทร์ต่อไปยังพิทักษ์ ให้รับผิดชอบกระจายคำสั่งนั้นสู่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ ต่อไป

และเป็นไปอย่างที่คาดหมาย เจ้าหน้าที่สายตรวจหลายนายได้รับแจ้งถึงเสียงปืนที่เกิดขึ้นในโรงงาน และเดินทางมาถึงประตูโรงงานพร้อมด้วยนักข่าวท้องถิ่นและนักข่าวยักษ์ใหญ่สองฉบับ

นครินทร์ถูกตามตัวไปเจรจากับชุดนายตำรวจสายตรวจโดยทันที ด้วยความที่เป็นนายตำรวจชั้นรองผู้กำกับการ ซึ่งสูงกว่าชุดสายตรวจมาก รวมถึงผู้ติดตามของนครินทร์ที่มียศระดับร้อยตำรวจเอก ทำให้การเจรจากับเจ้าหน้าที่ประจำท้องที่เป็นไปด้วยความสะดวก โดยที่เจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งหมดตัดสินใจถอนกำลังกลับทันทีที่นครินทร์ชี้แจงว่า นายตำรวจจากกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคห้าได้เข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเรียบร้อย และไม่จำเป็นต้องขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจท้องที่แต่อย่างใด

แม้ว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจจะถอนกำลังกลับ แต่นักข่าวทั้งหลายยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าโรงงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรายงานสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น

ภายหลังเจ้าหน้าที่สายตรวจกลับไปไม่กี่นาที พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ได้รับสัญญาณจากร้อยตำรวจเอกศตวรรษให้เปิดประตูอนุญาตให้ชุดกำลังสนับสนุนที่ประกอบด้วย รถพยาบาลสองคัน รถขนส่งสองคัน และรถตู้สามคัน ทยอยเข้ามาในโรงงานอย่างรวดเร็ว

การทำงานของชุดกำลังเสริมทุกนายเป็นไปด้วยความรวดเร็วและระเอียดรอบคอบ หลักฐานทุกชิ้นถูกเก็บรักษาอย่างดี มีระบบเพื่อรองรับการสืบสวนขยายผล

ขบวนรถชุดเดิมขับออกไปจากโรงงานทันทีที่ปฏิบัติหน้าที่ขนย้ายเสร็จ แม้นักข่าวทั้งหมดจะแสดงทีท่าสนใจกับขบวนรถที่เข้ามาและออกไป แต่สิ่งที่เห็นก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้เท่าที่ควร

การปฏิบัติการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในเวลาอันสั้น.... ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน นครินทร์วางกำลังชุดคุ้มครองไว้ที่โรงงานส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นจึงขับรถตามหลังรถของศิวะ จอมยุทธ์ และยุทธจักร ที่โดยสารมาด้วยกันออกมาจากโรงงาน โดยไม่สนใจขบวนนักขาวที่รอทำข่าวอยู่ที่หน้าโรงงานแต่อย่างใด

แม้เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ทว่าความยุ่งยากและอันตรายกำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ และรอจังหวะโหมกระหน่ำอย่างเต็มที่ในอนาคตอันใกล้......สติปัญญาและความกล้าแกร่งของดวงใจเท่านั้นที่จะพาทุกชีวิตหลุดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายดังกล่าว....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Andreas

  • บุคคลทั่วไป
:serius2:         นู๋ชักกลัว....นักอ่านบอร์ดนี้แล้วจิ....


วิเคราะห์มาแต่ละที.....นู๋ละกลัว  :monkeycry4:

เอ่อ......นู๋ม่ายบอกดีกว่า.... :-[

ว่าครายเดาถูก..... :เฮ้อ:

เดี๋ยวมันไม่หนุก...... :laugh3:

ไปแล้วคร๊าบบบบบบบบ

Andreas

ปล. เนื้อเรื่องผ่านไปสามสิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับ....

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh5:  กลัวรายจ๊ะจ๋อมมมม มีแต่คนน่ารักๆๆทั้งนั้นอ่าบอร์ดเนี๊ยะ  :5555:


อ้างถึง
แม้เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ทว่าความยุ่งยากและอันตรายกำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ และรอจังหวะโหมกระหน่ำอย่างเต็มที่ในอนาคตอันใกล้......สติปัญญาและความกล้าแกร่งของดวงใจเท่านั้นที่จะพาทุกชีวิตหลุดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายดังกล่าว....


 :โหลๆ: ทิ้งท้ายไว้น่าติดตามมากๆๆๆ  :โหลๆ:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
:laugh5:  กลัวรายจ๊ะจ๋อมมมม มีแต่คนน่ารักๆๆทั้งนั้นอ่าบอร์ดเนี๊ยะ  :5555:

พี่แน๋วพูดถูกคับ....น่ารักทั้งบอร์ด... :laugh5: :laugh5:

ป.ล.  ต่อด่วน.....กะลังหนุกเลย... :serius2: :serius2:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออย่างด่วนๆ เลยค๊าบบบบบบบบบบ

 :yeb: รักคนแต่งมากมาย อิอิ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
จามีอารายเลวร้ายอีกเนี่ย  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด   รอไว้ก่อน  หุหุ

คราวนี้ข้อมูลดีนะ ทำการบ้านมาดีจัง  :give2:

แต่มันเป็นความจริงนา  ที่ว่าคนในเล้ามีแต่น่ารัก ๆ อิอิ  :loveu:  :loveu:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
แม้เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ทว่าความยุ่งยากและอันตรายกำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ และรอจังหวะโหมกระหน่ำอย่างเต็มที่ในอนาคตอันใกล้......สติปัญญาและความกล้าแกร่งของดวงใจเท่านั้นที่จะพาทุกชีวิตหลุดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายดังกล่าว....

อืม อย่าบอกนะว่ายิงกันคราวนี้แค่น้ำจิ้ม ยังมีโหดกว่านี้อีก  :laugh3:
เดี๋ยวไปซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนมาก่อนดีกว่า เวลาอ่านเผื่อโดนลูกหลง  :laugh5:  :laugh5:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารออ่านต่อ :yeb: :yeb: :yeb:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ปูเสื่อใส่เสื่อเกราะนั่งรออ่านอยู่ในหลุมหลบภัยครับ :yeb:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
ทิ้งท้ายแบบนี้อีกแล้ววว... โอย ไม่อยากคิดไปก่อน เพราะคิดได้แต่เรื่องไม่ดี  :monkeycry2:
รอตอนต่อไปงับ  :เศร้า1:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 6 สายป่านที่หลุดลอย

ประตูเชื่อมเข้าห้องของภูฟ้าค่อยๆเปิดออกอย่างแผ่วเบาพร้อมกันทั้งสองบาน ศิวะและจอมยุทธ์ก้าวเท้าลงบนพื้นพรมหนาหนุ่มที่ปูตลอดทั้งห้อง ทั้งคู่เดินช้าๆมุ่งตรงมาบรรจบกันที่เตียงนอนของภูฟ้ากลางห้อง

โคมไฟทั้งสองดวงบนหัวเตียงส่องแสงนวลตา ส่งให้เห็นใบหน้าของหนูน้อยยามหลับใหลอย่างเป็นสุข ทุกอย่างที่รวมกันเป็นภูฟ้านั้นงดงามยิ่งนัก สังเกตจากเรือนผมค่อนข้างยาวที่ดำสนิท ตัดกับผิวสีขาวอมชมพูของใบหน้าหวาน สอดรับกับริมฝีปากสวยได้รูปที่ยามคลี่ยิ้มแล้วโลกทั้งใบจะกลายเป็นสีชมพูสดใส และสุดท้ายคิ้วเข้มที่ถอดแบบมาจากหนึ่งในสองบิดาที่จากไป

คงไม่ต้องบอกว่าภูฟ้ามีค่ามากขนาดไหนต่อสองหนุ่มวัยใกล้เคียงกันที่ยืนสงบนิ่ง ทอดสายตาอ่อนโยนมายังร่างที่หลับสนิท...สำหรับศิวะและจอมยุทธ์แล้ว ภูฟ้าคือดวงใจของตน... คือสิ่งมีค่าที่สุดที่พระผู้สร้างโลกประทานมาให้ ภายหลังที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปกับความรักบริสุทธิ์ที่บิดาทั้งสองคนของภูฟ้าเป็นผู้สร้าง...และพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของรักแท้นั้น

ความรักที่ศิวะและจอมยุทธ์มอบให้ภูฟ้านั้นจะไม่มีวันสูญสลายและหมดสิ้นไป ทว่ากลับจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันภูฟ้าก็รักพ่อเสือและอาจอมมากกว่าใครๆ ดังนั้นรอยยิ้มที่ภูฟ้ามอบให้กับคุณพ่อและคุณอาจึงเป็นรอยยิ้มหวาน...ที่หวานที่สุดในโลก

เพราะภูฟ้าคือบุคคลสำคัญยิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่สองหนุ่มมอบให้จึงถูกคัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การกีฬา ของเล่น และอุปกรณ์อื่นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งคู่ก็เฝ้าสอนให้ภูฟ้าเป็นเด็กมีเหตุผล ไม่ฟุ้งเฟ้อ และที่สำคัญต้องรู้จักเสียสละและมีความรับผิดชอบ ซึ่งภูฟ้าก็เข้าใจและปฏิบัติตามคำสอนได้เป็นอย่างดีเสมอมา

สายตาที่อ่อนโยนของจอมยุทธ์ที่ทอดมายังร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียงนั้นเจือปนความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด จนศิวะต้องเดินอ้อมมายังตำแหน่งที่จอมยุทธ์ยืนอยู่ ก่อนจะโอบบ่าและใช้ฝ่ามือนุ่มของตนตบลงไปเบาๆบนหัวไหล่ที่แข็งแรงนั้น

จอมยุทธ์สัมผัสได้ถึงความห่วงใยและความเข้าใจที่ถูกถ่ายทอดมาจากร่างสูงใหญ่ ทุกสัมผัสที่ได้รับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี.....สัมผัสของพี่ชายที่ห่วงน้องชาย.....และพร้อมจะช่วยแบ่งเบาภาระทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

แม้เวลาจะผ่านไปเพียงแค่ช่วงไม่ถึงนาที แต่การสื่อสารผ่านการสัมผัสที่อ่อนโยนนั้นกลับดูยาวนานอย่างยิ่งนัก..... กำลังใจที่ถ่ายทอดเข้าหากัน เป็นพลังที่จะดำเนินชีวิตให้ก้าวต่อไป แม้ในช่วงที่พบอุปสรรคที่หนักหนา....ดังเช่นในเวลานี้

สองหนุ่มหมุนร่างกลับ เดินไปสู่ประตู ปล่อยให้ภูฟ้ายอดดวงใจหลับอย่างเป็นสุขในห้วงนิทราแห่งคืนนี้.....แม้สถานการณ์รอบตัวจะเปลี่ยนแปลงไป.....อันตรายอาจย่างกลายเข้ามาโดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับศูนย์รวมความรักของครอบครัวอย่างภูฟ้าแล้ว....จะต้องปลอดภัยอย่างที่สุด

**********

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Andreas

  • บุคคลทั่วไป
สายลมเอื่อยๆพัดผ่านผิวน้ำในสระว่ายน้ำ โคมไฟแสงสีนวลหลายอันที่ตั้งเรียงรายเปล่งแสงไม่สว่างมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของทัศนียภาพยามค่ำคืนของบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าท่ามกลางสวนสวย

เสียงถอนหายใจเบาๆดังออกมาจากจอมยุทธ์ขณะที่ยืนรับลมเย็นๆอยู่ในบริเวณมุมพักผ่อนข้างสระ..... สีหน้าและแววตาของจอมยุทธ์เต็มไปด้วยความกังวล

แม้มันจะไม่ดังมา แต่ศิวะที่เดินตามออกมาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจนั้นอย่างชัดเจน

“ผมห่วงตาภูครับพี่เสือ......ผมกลัวว่าพวกมันจะเล่นไม่ซื่อ.....หันเป้ามาทางตาภู.....เพราะพวกมันน่าจะรู้ดีว่าตาภูสำคัญกับผมมาก.....” จอมยุทธ์เป็นผู้เริ่มบทสนทนา โดยบอกความกังวลที่เกิดขึ้นในใจให้ผู้เป็นเปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆให้รับฟัง

“อืม....เราก็ต้องป้องกันไว้ก่อน....แต่จอมเองก็ต้องระวังตัวด้วย....เรื่องตาภูปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เอง...ไม่ต้องห่วงหรอก” ศิวะรับอาสา ด้วยไม่ต้องการให้จอมยุทธ์มีภาระรับผิดชอบมากจนเกินไป

จอมยุทธ์หันหน้ามาทางศิวะที่กำลังหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้  มือทั้งสองข้างของเขายังคงล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม......เขาถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนที่จะเอ่ยประโยคคำถามที่เจือปนความรู้สึกสับสนออกมา

“ผมไม่มีทางเลือกอื่นแล้วใช่มั้ยครับ....พี่เสือ.....” จอมยุทธ์รู้สึกกังวลในการตัดสินใจของตนเองจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่คนใกล้ชิดในครอบครัว

ศิวะส่ายหน้า......

“เราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว....เราไม่อาจเฉยเมยต่อยาบ้าเหล่านั้น....ที่อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออีกหลายๆคนในสังคม”

“แต่มันอาจนำอันตรายมาสู่ครอบครัวของเรานะครับ....” จอมยุทธ์ยังถามต่อพร้อมด้วยสายตาแฝงแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

ศิวะพยักหน้า

“อย่าห่วงไปเลยจอม....ถ้าเรารับมือกับสถานการณ์แบบนี้อย่างรอบคอบ....เราทุกคนจะปลอดภัย.....แต่จอมต้องสัญญาว่า...จอมจะไม่ประมาท...และต้องรับกับสถานการณ์นี้อย่างชาญฉลาดอย่างที่จอมเคยทำมาตลอด” คำพูดที่หนักแน่นของศิวะกระตุ้นความมั่นใจในตนเองของจอมยุทธ์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง

“ผมสัญญาครับ....พี่เสือ” จอมยุทธ์ให้คำสัญญา

“แต่ว่า.......จอมอย่าลืมนะว่าจอมไม่ได้กำลังสู้อยู่ตัวคนเดียว...อย่างน้อยก็มีพี่.....และอีกหลายๆคนที่พร้อมจะช่วยจอมเสมอ....รวมถึงแซมด้วยถ้าจอมเปิดโอกาสให้เค้า”

แต่ทว่า...เสียงถอนหายใจกลับดังขึ้นอีกครั้งจากจอมยุทธ์

“ผมทราบดีครับเรื่องพี่แซม.....ผมรู้ว่าเค้าชอบผม.....แต่ผมไม่พร้อมครับ....ไม่พร้อมที่จะรักใครในเวลานี้ รวมถึงไม่คิดจะนำเอาความรักที่ใครๆมอบให้ผมมาเป็นเครื่องมือเอื้อประโยชน์ต่อตัวผมเองหรอกครับ”

สายตาที่เหม่อลอยของจอมยุทธ์ยามที่เอ่ยถึงเรื่องความรักนั้นเศร้าสร้อย และกระตุ้นความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในดวงใจของศิวะให้กลับมาอีกครั้ง.....แผลแห่งหัวใจที่ไม่เคยห่างหายไปจากร่างกายที่มีลมหายใจนี้  เขาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะข่มความรู้สึกเจ็บปวดนั้น ผลักมันลงไปยังก้นลึกของหัวใจอีกครั้ง เพราะตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญที่ต้องคิดมากกว่า ความรักที่สิ้นหวังของตนเอง

“พี่อยากให้จอมเปิดโอกาสให้กับตัวเอง.....รวมถึงให้โอกาสแซมเค้าบ้าง....บางทีอะไรที่เราคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ มันอาจเป็นไปได้”

ศิวะหยุดชั่วคราว ก่อนจะเอ่ยต่อเมื่อเห็นว่าจอมยุทธ์กำลังตั้งใจรับฟังอยู่

“แซมเค้าเป็นคนดี และที่สำคัญพี่คิดว่าเค้ารักจอม....และพร้อมจะปกป้องจอมเสมอ” 

“พี่เสือคิดว่าผมปกป้องตนเองไม่ได้หรือครับ” จอมยุทธ์ถาม.....ประกายตาของเขากร้าวแกร่งขึ้นมาทันใด

“แต่หลายหัวก็ย่อมดีกว่าหัวเดียว...ใช่มั้ยจอม” ประโยคแย้งที่สั้นๆแต่มีน้ำหนักที่ทำให้ผู้ฟังอย่างจอมยุทธ์ต้องคล้อยตาม ยากที่จะหาประโยคใดๆมาโต้แย้ง

“ที่สำคัญ....ตลอดเวลาเดือนกว่าๆที่ผ่านมา แซมเค้าก็เสมอต้นเสมอปลายและแสดงความจริงใจให้เราเห็นอยู่หลายครั้ง พี่ค่อนข้างมั่นใจว่า ในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ แซมจะช่วยจอมได้เป็นอย่างดี”

“ผมอาจจะไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องที่ว่าพี่แซมคือหนึ่งในบุคคลที่เหมาะสมที่จะขอความช่วยเหลือในเวลานี้ แต่พี่เสือจะให้ผมขอความช่วยเหลือจากพี่แซมในลักษณะไหนหรือครับ....ในลักษณะของนายตำรวจกับเจ้าทุกข์ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ผมว่า พี่เอน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบพื้นที่โดยตรง .....หรือจะให้ผมขอความช่วยเหลือจากพี่แซมในฐานะคนสนิท” ประโยคที่พูดไปฟังดูคล้ายคำถาม แต่ศิวะกลับรับรู้ว่าเป็นเพียงการระบายความในใจเท่านั้น

“ผมทราบว่าพี่แซมชอบผม...ทราบตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ผมก็พยายามสร้างระยะห่างเอาไว้ เพราะผมไม่พร้อมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นอย่างอื่น....... พอในเวลานี้ ในเวลาที่ผมมีปัญหา ผมกลับพยายามลดระยะห่างนั้นโดยไปขอความช่วยเหลือจากเค้า พี่เสือคิดว่า พี่แซมจะคิดว่าผมกำลังเอาเปรียบเค้าอยู่มั้ยครับ....เพราะว่าผมกำลังใช้ความรู้สึกของเค้าที่มีต่อผมมาเป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ของตัวผมเอง” จอมยุทธ์ยังคงระบายความในใจออกมา

“ที่พี่เสือพูดมาตั้งแต่ต้นเรื่องการเปิดโอกาสให้พี่แซม......จริงๆแล้ว สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ฝ่ายผมหรอกครับที่จะเปิดโอกาสให้ แต่..................” จอมยุทธ์ตัดสินใจไม่พูดประโยคถัดไป โดยเลือกที่จะนิ่งเสีย พร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น

ศิวะที่นั่งฟังอยู่ตั้งแต่ต้นนั้นเข้าใจความรู้สึกของจอมยุทธ์ได้เป็นอย่างดี เขาจึงพูดต่อประโยคนั้นออกมาราวกลับจอมยุทธ์เป็นฝ่ายพูดเสียเอง

“แต่ขึ้นอยู่กับแซมจะเปิดโอกาสให้กับตนเองได้หรือไม่ต่างหาก”

ศิวะทราบดีมาตลอดว่า ภายใต้บุคลิกที่ง่ายๆและดูสนุกสนานเป็นกันเองของจอมยุทธ์นั้น กลับปกปิดความเข้มแข็งและความทระนงในศักดิ์ศรีของตนที่มีอย่างล้นเหลือเอาไว้อย่างดี

ตัวของเขาเองก็เช่นกัน ความทระนงในศักดิ์ศรีนั้นมีมากเหลือเกินจนแทบจะเรียกว่าสูสีกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงเข้าใจเป็นอย่างดีว่า จอมยุทธ์จะลำบากใจขนาดไหน ถ้าจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากยุทธจักร เพราะว่าไม่ต้องการจะใช้ความรู้สึกพิเศษที่แซมมอบให้มานั้นเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของการร้องขอใดๆ

วิธีเดียวที่จะลดความลำบากใจที่เกิดขึ้นต่อจอมยุทธ์ คือ ยุทธจักรต้องหาโอกาสยื่นมือเข้ามาเอง และจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขชนิดที่จอมยุทธ์ไม่สามารถปฏิเสธได้ มิเช่นนั้นแล้วแค่เอ่ยปากเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ จอมยุทธ์คงบอกปฎิเสธไปอย่างรวดเร็ว

“อย่างนี้คงต้องยื่นมือเข้าช่วยอีกซักหน่อยแล้ว...ไม่งั้นแซมมันคงหาทางเจาะประตูใจไม่เจอแน่นอน” ศิวะคิดในใจ

“เอาเป็นว่าตอนนี้เราระมัดระวังและป้องกันตัวเองก่อนดีกว่า เอาไว้ถึงสถานการณ์ขับคันจริงๆ เราคงมีทางออกที่ดีในเรื่องความช่วยเหลือต่างๆ” ศิวะตัดบทเปลี่ยนเรื่องการสนทนา เพราะเขากำลังจะปรึกษากับจอมยุทธ์ในเรื่องที่คิดอยู่ตั้งแต่ก่อนเดินมาที่สระว่ายน้ำ

“พรุ่งนี้พี่จะเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่ให้ตาภู พี่อยากให้จอมเตรียมระบบให้พี่ด้วย...จอมมีเวลาหรือเปล่า”

จอมยุทธ์รับทราบในความนัยของคำว่า “เตรียมระบบ” โดยทันที เพราะหมายความว่าศิวะกำลังเริ่มต้นเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์อันไม่ปลอดภัยให้แก่ภูฟ้าอย่างทันทีทันใด

“มีครับ......พรุ่งนี้วันเสาร์ ผมคาดว่าจะไม่ออกไปไหนครับ....ผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้เราทุกคนน่าจะเก็บตัวอยู่ที่บ้านก่อนดีกว่าครับ” จอมยุทธ์พูดต่อ เพราะความระมัดระวังเนื่องจากคำขู่จากฝ่ายตรงข้ามยังดังก้องในความทรงจำ

“อืม พี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน.....เราคงต้องระวังตัวให้มาก” ศิวะกล่าวสนับสนุน

“พี่มองดูสถานการณ์แล้ว จอมเองน่าจะตกเป็นเป้าของไอ้พวกค้ายาเหล่านี้โดยตรง ไอ้เรื่องที่ฝ่ายโน้นรู้เบอร์มือถือของจอม พี่มองว่าไม่แปลก เพราะน่าจะหามาได้ไม่ยาก แต่การที่พวกมันสามารถส่งคนไปเอาของคืนอย่างรวดเร็วนั้น พี่มองว่า.....มันน่าจะทำเป็นรูปแบบขบวนการและมีเส้นสายหรือสายข่าวที่มากมาย....ขบวนการนี้อาจเป็นกลุ่มของพวกมีอิทธิพล หรือเผลอๆ เราอาจกำลังเผชิญหน้ากับองค์กรค้ายาข้ามชาติ รวมถึงอาจเชื่อมโยงกับการค้าอาวุธสงครามก็ได้ ดูจากอาวุธที่พวกมันใช้ซิ เป็นอาวุธสงครามที่มีประสิทธิภาพสูงและยังใหม่อยู่มาก”

ศิวะพูดต่อ

“ยิ่งตอนนี้พวกมันคงโกรธจอมมาก เพราะนอกจากจะไม่ได้ของคืนแล้ว พวกลูกน้องที่ส่งมือก็ถูกเก็บหมด พี่ว่ามันคงไม่ลามือง่ายๆ”

จอมยุทธ์ฟังเรื่องราวที่ศิวะวิเคราะห์มาอย่างตั้งใจ และเห็นด้วยกับสิ่งที่ศิวะพูดมาทั้งหมด เพราะเขาก็สังเกตตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความรวดเร็วในการเตรียมกำลังจากฝั่งตรงข้ามรวมถึงอาวุธปืนที่พวกนั้นนำมาใช้  ส่วนนี้เองที่ทำให้จอมยุทธ์กังวลใจตั้งแต่แรกว่าจะนำครอบครัวไปสู่ความเดือดร้อน

“พี่เสือคิดว่าผมควรทำอย่างไรต่อครับ”

“พี่ว่าเพื่อความปลอดภัยสำหรับตัวจอมเอง พี่จะหาบอดีการ์ดให้กับจอม น่าจะประมาณซัก สี่ห้าคน” ศิวะตอบคำถาม ก่อนจะเห็นสีหน้ากระอักกระอวนของจอมยุทธ์ เพราะปกติจอมยุทธ์เป็นคนง่ายๆสบายๆ ไม่ชอบมีใครคอยติดตามและชอบไปไหนมาไหนเพียงคนเดียวหากไม่ได้ไปกับหลานชายหรือคนในครอบครัว ดังนั้นการที่จะต้องมีบอดีการ์ดติดตาม จึงน่าจะเป็นเรื่องน่ารำคาญที่สุดสำหรับหนุ่มโสดเช่นจอมยุทธ์

“เฮ้ย....อย่าทำหน้าอย่างนั้นซิ....เอาแค่ช่วงนี้ก่อน อยู่ในความคุ้มกันของบอดีการ์ดซักพัก...คงไม่นานหรอก” ศิวะปลอบใจ

“ครับ....” จอมยุทธ์รับปากเสียงอ่อย

“ถ้าพี่เสือเห็นอย่างนั้น ผมก็ไม่ขัดครับ...แต่พี่เสือและตาภูล่ะครับ จะต้องมีบอดีการ์ดด้วยมั้ยครับ”

“พี่ว่ายังไม่จำเป็นเท่าไหร่ในเรื่องของคนคุ้มกัน แต่ก็จะระมัดระวังตัว......พี่อยากดูสถานการณ์ก่อน.....ที่สำคัญพี่กำลังรอดูข้อมูลว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับองค์กรค้ายาระดับไหน ก่อนที่จะวางแผนรับมือต่อไป”

“ครับ...” จอมยุทธ์ได้แต่รับปาก ไม่คิดจะโต้แย้งแต่อย่างใด เพราะเชื่อมั่นในการวิเคราะห์และวางแผนต่างๆของศิวะ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา ศิวะไม่เคยแสดงให้เห็นถึงแผนการที่มีข้อผิดพลาดเลยซักครั้ง

เมื่อการพูดคุยดูเหมือนจะเสร็จสิ้นประกอบกับเวลาที่เลยเที่ยงคืนมากว่าสองชั่วโมง ศิวะจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่ง เดินมาโอบไหล่จอมยุทธ์

“พี่ว่า..... เราไปนอนกันก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจ้าเอคงมารายงานว่าการสอบสวนคืบหน้าไปถึงไหน แล้วจอมต้องทำอะไรบ้าง”

“ครับ” จอมยุทธ์พยักหน้ารับคำอีกครั้ง พร้อมกับเดินตามศิวะเข้าไปในบ้าน เพื่อเตรียมตัวพักผ่อน



gobgab

  • บุคคลทั่วไป
วีรบุรุษสุดหล่อยังไม่มีบทบาทซักที :5555: :5555:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :impress: แซมจะเปิดประตูหัวใจที่ถูกล๊อกได้เป่าเนี่ยยยยยยยย

kYos

  • บุคคลทั่วไป
“แต่ขึ้นอยู่กับแซมจะเปิดโอกาสให้กับตนเองได้หรือไม่ต่างหาก”   มันต้องได้แน่นอน  :fox2: 55+
เชียร์พี่แซม  พี่แซมสู้ๆ  พี่เสือเปิดทาง ช่วยสุดๆแล้ว

ปล. เป็นกำลังใจให้กั๊บ  :5555:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
พี่เสือก้อเปงตัวเชื่อมต่อความสัมพันธ์ให้แล้ว อยู่ที่พี่แซมแล้วสินะ ที่จะต้องเจาะเข้าไปให้ถึงแกนใจกลางของหัวใจจอม  :give2:  รักระหว่างรบนี่มานมีเสน่ห์จริงๆ  :จ้อบจัง1:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :give2: :give2: :give2: :give2:

" รักระหว่างรบนี่มานมีเสน่ห์จริงๆ  "

เห็นด้วยคับพี่แน๋ว  :fox2: :fox2: :fox2:



meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เอาพี่แซมมาเป็นบอดี้การ์ดจิ :interest:

เพราะจะได้ปกป้องทั้งร่างกายและหัวใจ :-[



ปล.รักพี่เสือจัง :give2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ รักระหว่างรบ  :give2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
พี่แซมสู้สู้  โอกาสนะมีแล้ว  รักเค้าต้องใจกล้า ๆ หน่อย  เปิดหัวใจจอมให้ได้เลย  :loveu: :loveu:
รักแท้  รักจริง  ทุ่มสุดตัว  เด๋วจอมคงหันมามองบ้าง

ว่าแต่เรื่องอะไรจะเลวร้ายเหรอเนี่ย  น่ากัว ๆ  :call:  :call:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
 :เฮ้อ:เฮ้อ ในที่สุดก็อ่านทันสักที
หลังจากใช้เวลาอยู่หลายวันตั้งแต่ภาคแรก

เรื่องนี้นี่ท่าทางจะยิงกันกระจายแน่ๆ เลย
ต้องเตรียมหาเสื้อเกราะมาใส่ พร้อมขุดหลุมหลบ :fox2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด