เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  (อ่าน 191683 ครั้ง)

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
“แล้วเราจะต้องเจอกันอีกครับ คุณจอมยุทธ์....ผมสัญญา”

จอมยุทธ์เจอดีเข้าจนได้.... :laugh: :laugh:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
แม๋ๆๆได้ทีเลยนะตายุทธจักร  :impress2: อาวเรื่องงานมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวเยยนะ  :3063:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
หน้าที่การงานดี มีชัยไปกว่าครึ่ง :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ อย่างนี้เขาเรียกว่า "ใช้อำนาจหน้าที่ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน" ใช่ปะ  :kikkik:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดประวัติและข้อมูลต่างๆของจอมยุทธ์ก็ถูกส่งเข้าระบบเครือข่ายส่วนตัวของยุทธจักรภายหลังผ่านไปเพียงแค่สองวัน ซึ่งทำให้เขาอดชื่นชมความสามารถของลูกน้องคนสนิทเสียไม่ได้ เพราะมิใช่แค่รวดเร็วเท่านั้นแต่ประวัติที่ส่งมานั้นมีรายละเอียดนับสิบแผ่น โดยรวมเรื่องราวส่วนตัวทุกอย่างแบบไม่ขาดตกบกพร่องแม้กระทั่งรสนิยมทางเพศที่ต้องได้รับมาจากสายข่าวคนใกล้ชิดก็สรรหามาได้

รสนิยมทางเพศของจอมยุทธ์ที่ระบุมาในเอกสารว่า “สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทั้งหญิงและชาย” นั้นถูกอกถูกใจพันตรีหนุ่มยิ่งนัก เพราะถือว่าประสิทธิภาพในการอ่านคนของเขายังไม่เสื่อมถอย

ตอนแรกยุทธจักรก็ไม่แน่ใจนักว่าจอมยุทธ์จะมีรสนิยมทางเพศที่ชอบผู้ชายหรือไม่..แต่เมื่อสังเกตกริยาท่าทาง ความนุ่มนวลและแววตาที่สะท้อนออกมาอย่างละอียด ยุทธจักรเริ่มชักจะแน่ในขึ้นมาบ้างว่าจอมยุทธ์อาจจะเป็นผู้ชายที่สามารถมีความสัมพันธ์กับผู้ชายเหมือนกับตน จนถึงขนาดยอมลงทุนใช้หน้าที่การงานเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องลึกมาจนพิสูจน์ความคิดของเขาจนได้

ยิ่งอ่านประวัติส่วนตัวของจอมยุทธ์...ยุทธจักรก็รู้สึกว่าเขาเริ่มพึงพอใจชายหนุ่มหน้ากึ่งหวานคนนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที...และปรารถนาที่จะทำความรู้จักให้มากขึ้น ในแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนกับผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนที่ผ่านๆมาในชีวิต

ข้อมูลทุกอย่างที่ร้อยตำรวจเอกกิตติศักดิ์จัดหามานั้นละเอียดมากจนแทบจะเห็นจอมยุทธ์ปรากฏขึ้นทั้งตัวอยู่บนหน้ากระดาษเลยทีเดียว

ด้วยประวัติการศึกษาที่ดีเด่น เพราะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สาขาวิชาชีวเคมีและชีวเคมีเทคโนโลยี่ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยในความโอบล้อมของขุนเขาและป่าสักแห่งเชียงใหม่ รวมถึงปริญญาโทสาขาการจัดการระบบอุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัย Oxford แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ แถมพ่วงท้ายด้วยประกาศนียบัตรชั้นสูงสาขาบริหารธุรกิจ....นั้นทำให้ยุทธจักรไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสื่อต่างๆถึงยกย่องจอมยุทธ์ให้เป็นหนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้

ส่วนเรื่องครอบครัว ยุทธจักรพบว่าจอมยุทธ์ยังเป็นโสดและไม่มีสัมพันธ์ระยะยาวกับชายและหญิงใด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาจอมยุทธ์ให้เวลาแทบทั้งหมดให้แก่การเลี้ยงดู เด็กชายภูฟ้า ภัทรโภคิน ศรีสิริโชคชัย ร่วมกับ ดร. ศิวะ รัตนพงศ์คิรี อดีตวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมปฐพีแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้ผันตัวมาเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับที่จอมยุทธ์จบมาในระดับปริญญาตรี โดยข้อมูลระบุว่าทั้งสามอาศัยอยู่บ้านเดียวกันภายหลังเดินทางกลับสู่มาตุภูมิประเทศไทยพร้อมกันเมื่อสี่ปีก่อน แต่ข้อมูลกลับไม่มีรายละเอียดที่กล่าวถึงมารดาของเด็กชายภูฟ้าแต่อย่างใด....

สายตาของยุทธจักรไล่เลียงอ่านประวัติต่างๆลงมาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการศึกษา เรื่องพื้นฐานครอบครัว เรื่องพี่น้อง เรื่องธุรกิจ และความสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัวที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกันในปัจจุบัน...สุดท้ายจึงมาหยุดอยู่กับเรื่องงานอดิเรกและการกีฬา

ยุทธจักรทราบว่าจอมยุทธ์ชอบเล่นกีฬาเทนนิสและว่ายน้ำเป็นอย่างมาก โดยมักจะไปออกกำลังกายพร้อม ดร. ศิวะด้วยเป็นประจำ โดยไม่ลืมที่จะเอาหัวใจของครอบครัวคือ ภูฟ้าไปด้วยทุกครั้ง

นอกจากนั้นข้อมูลยังระบุด้วยอีกว่า จอมยุทธ์ยังถนัดการยิงปืนและศิลปะการต่อสู้แบบประชิดตัวที่เรียกว่า คาราเต้โด และสามารถสอบผ่านการจัดลำดับชั้นจนสามารถได้สายดำมาครอบครอง

สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งไปกว่านั้น ตามที่ร้อยตำรวจเอกกิตติศักดิ์ ได้ทำเครื่องหมายเอาไว้ ....ยุทธจักรพบว่า ดร.ศิวะ ก็มีความสามารถในการยิงปืนและการศิลปะการต่อสู้แบบประชิดตัวเช่นเดียวกัน เพียงแต่ ดร. ศิวะเน้นศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า เทควันโด เนื่องเพราะรูปร่างที่แข็งแรงและความสูงที่มีมากกว่านั่นเอง รวมทั้ง ดร. ศิวะก็สามารถสอบได้สายดำเช่นกัน

ยุทธจักรสันนิษฐานว่า เพราะทั้งคู่หลงใหลในกีฬายิงปืนและศิลปะป้องกันตัวจึงเป็นสาเหตุให้มีการฝึกปฏิบัติสองสิ่งนี้อยู่เป็นประจำ....แต่สิ่งที่เขายังไม่สามารถหาเหตุผลมารองรับได้กลับเป็นเล็กๆน้อย เช่นเรื่องตารางการเดินทางออกนอกประเทศ เพราะพบว่านอกจากจอมยุทธ์จะเดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศคู่ค้าในระบบธุรกิจของตนแล้ว ยังมีตารางการไปเยือนประเทศอื่นๆปีละสองถึงสามครั้ง นอกจากนั้น ดร.ศิวะก็มีกำหนดการเดินทางปีละสองถึงสามครั้งเช่นกัน โดยที่แต่ละครั้งจะมีกำหนดอยู่ไม่เกินสามอาทิตย์ และมีบางครั้งทีทั้งคู่ต้องเดินทางออกนอกประเทศไปพร้อมกัน ซึ่งเกิดในช่วงปีหลังๆที่ผ่านมานั่นเอง

ยุทธจักรไม่ใส่ใจกับข้อสงสัยเพราะคิดว่ามิใช่เรื่องใหญ่อะไร ทั้งคู่อาจชอบการเดินทางไปเยือนประเทศเหล่านั้นเพื่อพักผ่อนก็ได้.....แต่ข้อสงสัยข้อใหญ่เกิดขึ้นภายในใจนี้ต่างหากเล่าที่ต้องรีบหาคำตอบโดยเร็ววัน

“ทำไมจอมยุทธ์ถึงสนิทกับ ดร.ศิวะ และอาศัยอยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่ไม่ใช่บุคคลในครอบครัวเดียวกันตั้งแต่ต้น” 

เนื่องจากข้อมูลที่ระบุว่าทั้งจอมยุทธ์และ ดร.ศิวะ มาจากคนละครอบครัวกัน แม้ว่าทั้งสองตระกูลจะเป็นนักธุรกิจที่กว้างขวางด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่น่าจะสนิทกันในระดับที่ให้ลูกหลานมาอาศัยอยู่รวมชายคาเดียวกันอย่างนี้

“หรือว่าจอมยุทธ์กับศิวะเป็นคู่รักกัน” แค่คิด ยุทธจักรก็เกิดความกังวลใจขึ้นมา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ สนามรักที่เขากำลังจะก้าวลงไปนั้น ดูเหมือนว่าอาจจะแพ้ตั้งแต่ยังมิได้สู้ด้วยซ้ำไป

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
สู้เขายุทธจักร... :angellaugh2:

ไล่ล่าจอมยุทธ์หั้ยได้....เสน่ห์แรงดีนัก... :laugh: :laugh:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
หลายปีที่ผ่านมา ไม่มีเลยซักครั้งที่ยุทธจักรจะหลงใหลใครซักคนเมื่อแรกพบอย่างเช่นกรณีจอมยุทธ์.....ยิ่งไปกว่านั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา ด้วยเสน่ห์และรูปร่างที่กำยำของเขา ล้วนนำพาให้ผู้ชายและผู้หญิงเข้ามาพัวพันอยู่อย่างไม่ขาดสาย โดยทุกครั้งคนเหล่านั้นต่างเป็นผู้เริ่มต้นก่อนทั้งสิ้น...

ยุทธจักรไม่ใช่บุคคลที่ไร้การตอบสนองจากการสัมผัส ดังนั้นเมื่อหลายคนเสนอตัวและเข้ามาสัมผัสเรือนร่างของเขา ยุทธจักรก็พร้อมจะสนองอารมณ์และราคะของคนเหล่านั้นให้มอดหมดไป..... แต่ไม่มีเลยซักครั้งที่ยุทธจักรจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน....เพราะหัวใจมันบอกว่า “ยังไม่ใช่คนที่ตามหาอยู่” ...แต่กระนั้นเขาก็มิใช่ลูกไก่ในกำมือใครที่จะยอมอยู่ใต้อำนาจราคะของคนเพียงคนเดียว...สัญชาติการเป็นนักล่าของยุทธจักรไม่เคยบกพร่อง...แต่จะหมดไปก็ต่อเมื่อได้หัวใจคนที่ใช่....มาครอบครอง

ดังนั้นยุทธจักรจึงต้องตามหาคนที่เขาคิดว่า “สำคัญต่อหัวใจของตน” มาตลอด แต่ครั้นเมื่อหัวใจบอกว่า “คนนี้แหละที่ใช่” ถ้ากลับกลายเป็นว่าเขามีเจ้าของแล้ว.....ยุทธจักรก็ยังคิดไม่ตกอยู่เหมือนกันว่าจะทำอย่างไร....

“ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่า..คุณยังโสดหรือมีเจ้าของแล้ว...คุณจอมยุทธ์” ยุทธจักรพูดกับตนเองเบาๆ ขณะยกมือประสานกันที่ท้ายทอยและทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่พนักพิงของเก้าอี้อยู่ในท่าสบายๆ.....เขากำลังวางแผนหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในเวลานี้ยุทธจักรพร้อมแล้วที่จะหาทางพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับหัวใจของจอมยุทธ์.....ถ้าเขาพบว่าจอมยุทธ์ยังคงเป็นอิสระ.....เขาก็จะฝ่าฝันลงไปในสนามรักเพื่อช่วงชิงหัวใจของจอมยุทธ์มาครอง....แม้ว่ามันอาจจะดูรวดเร็วเกินไปซักนิด......แต่เขาบอกกับตนเองว่า

“สำหรับคำว่า รักแรกพบนั้น ......แค่วินาทีเดียวยังอาจคิดว่าช้าไป”

ยุทธจักรหยุดหัวใจตนเองมานาน....นานพอที่จะรู้ว่าถึงเวลาที่จะเริ่มต้นคำว่ารักอีกครั้ง.....ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาจจะได้มายากลำบาก...แต่เขาก็จะไม่ท้อ เพราะนี่คือรักครั้งสุดท้าย...ที่จะเอาหัวใจเป็นเดิมพัน......ถ้าจอมยุทธ์คือคนที่ “ใช่”.....หัวใจของยุทธจักรจะไม่หยุดนิ่งอีกต่อไป...แต่มันกลับจะพองโต บรรจุด้วยความรัก อยู่อย่างไม่มีวันหมด

ด้วยความรอบคอบของผู้กองต้น....และสอดคล้องกับหลักสูตรการติดตามผู้ต้องสงสัยที่ยุทธจักรถ่ายทอดให้เมื่อหลายปีก่อน...รายงานระบุกิจกรรมประจำวันตลอดเจ็ดวันของจอมยุทธ์และ ดร. ศิวะ จึงแนบท้ายมาในเอกสารประวัติส่วนตัวฉบับนี้ด้วย

ยุทธจักรจึงทราบว่าทุกวันศุกร์ตอนเย็น จอมยุทธ์จะพาหลานชายไปเดินเล่นที่อ่างแก้วภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมกับอยู่รอคอย ดร. ศิวะตามมาสบทบหลังเลิกสอนนักศึกษา....หลังจากนั้นทั้งสามจึงเดินทางกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ของตน โดยจะแวะรับประทานอาหารเย็นตามร้านอาหารต่างๆ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ เป็นบางครั้ง

“เราต้องได้เจอกันวันศุกร์นี้แน่นอนครับ....คุณจอมยุทธ์ของผม” ยุทธจักรบอกกับตนเองอย่างมาดมั่น

ยุทธจักรนั่งคิดถึงแผนการที่จะเข้าถึงตัวจอมยุทธ์อยู่นาน จนกระทั่งรู้สึกว่าปลายเท้าที่เปลือยเปล่าของเขาถูกรุกล้ำด้วยลิ้นเพื่อประทังความหิวโหยจากเจ้าลูกสุนัขตัวอ้วนกลมที่แซมเอากลับมาบ้านด้วยภายหลังการเกิดอุบัติเหตุครั้งที่แล้ว

ขนของเจ้าลูกหมาน้อยไม่ได้เป็นสีน้ำตาลเปื้อนฝุ่นอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์บ่งบอกสายพันธ์ชั้นดีของสุนัขพันธุ์ไทยพันธ์ขนยาวสวยงาม เพราะยุทธจักรอาบน้ำให้อย่างหมดจดรวมถึงซื้อสายกระดิ่งห้อยคอสีแดงสดให้สวมคออีกด้วย

“หิวแล้วเหรอเรา....เจ้าไข่ขาว” ยุทธจักรตั้งชื่อลูกสุนัขเพศผู้นี้ว่าเจ้าไข่ขาว เพราะหลังอาบน้ำแล้วขนของมันกลับขาวราวกับไข่ขาวเลยทีเดียว

ไข่ขาวเงยหน้าขึ้นเอียงคอมองเจ้านายคนแรกของตน พลางใช้ขาหน้ายกขึ้นแสดงความประจบ ก่อนจะส่งสายตาแสดงความหิวโหยให้เจ้านายใหม่ทราบ

“มา....เดี๋ยวจะพาไปกินนม” ยุทธจักรอุ้มเจ้าหมาน้อยขึ้นมาและเดินออกจากห้องทำงานส่วนตัวออกไปยังห้องครัวของบ้าน และจัดการเอานมและขนมปังออกจากตู้เย็นให้เจ้าไข่ขาว และเฝ้ามองดูมันกินอย่างเอร็ดอร่อย

ยุทธจักรไม่เคยคิดจะเลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร.....ไม่ใช่เพราะไม่ชอบ แต่เป็นเพราะหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางอยู่เสมอรวมถึงเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายแทบทั้งสิ้น จึงไม่อยากจะเลี้ยงเพราะกลัวว่าจะไม่สามารถหาอาหารเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นได้เวลาต้องไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด แต่ในกรณีเจ้าไข่ขาวคงเป็นข้อยกเว้น เพราะลุงพลผู้ดูแลบ้านหลังนี้ให้กับเขาบ่นเสมอว่า อยากได้สุนัขซักตัวเอาไว้ช่วยเฝ้าบ้านและอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา เนื่องจากนานๆยุทธจักรจะแวะมาพักที่เชียงใหม่ซักที

ดังนั้นเขาจึงต้องจึงพยายามจะหาซื้อลูกสุนัขมาให้ลุงพล แต่สุดท้ายก็ได้เจ้าไข่ขาวมาฟรีๆ.......ยุทธจักรรักและเคารพลุงพลมาก....แม้ตอนนี้ลุงพลจะเป็นเพียงแค่คนดูแลบ้านหลังนี้ มิได้จับงานธุรกิจเหมือนแต่ก่อน....แต่ลุงพลก็ดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก

สิบห้าปีก่อน.....ภายหลังบิดามารดาของยุทธจักรเสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบสังหารเนื่องจากปมการขัดแย้งทางธุรกิจ เขาก็ได้ลุงพลเป็นคนพาหนีออกมาจากบ้านหลังใหญ่ เพื่อหลบหนีการฆ่าล้างตระกูล....หลังจากระหกระเหินซ่อนตัวอยู่นาน สุดท้ายจึงมาปลักหลักอยู่ที่บ้านหลังเล็กในอำเภอแม่ริมแห่งนี้

แม้ลุงพลจะเป็นเพียงคนดูแลบ้าน แต่ก็ไม่ใช่คนไร้การศึกษา เพราะก่อนหน้านี้ลุงพลคือคนสนิทของบิดาของยุทธจักร โดยมีหน้าที่ช่วยดูแลธุรกิจต่างๆให้ส่วนหนึ่ง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนั้น ลุงพลดูเหมือนจะเริ่มวางมือจากธุรกิจเพื่อหันมาดูแลเขาอย่างจริงจัง

เพราะด้วยความที่ยังมีเส้นสายอยู่ในวงการธุรกิจ ความมีฝีมือและความเด็ดเดี่ยวลุงพลทำให้ธุรกิจที่ตอนแรกเกือบจะถูกครอบงำจากฝ่ายตรงข้ามกลับสามารถผงาดขึ้นมาได้เหมือนเดิม หลังจากนั้นลุงพลจึงวางตำแหน่งคนรับผิดชอบงานธุรกิจต่างๆในเครือประภาภูวดลโดยยึดหลักความไว้วางใจและการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างครบถ้วน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทรัพย์สินของยุทธจักรมีเทียบเท่ากับมหาเศรษฐีเลยทีเดียว

นอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว ลุงพลยังวางแผนการศึกษาไว้ให้กับยุทธจักรตั้งแต่ต้นอีกด้วย เพราะปีถัดจากที่บิดามารดาของยุทธจักรเสียชีวิต ลุงพลก็ส่งยุทธจักรไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทันทีโดยใช้เงินเก็บในธนาคารของครอบครัวประภาภูวดลที่ดูแลอยู่ พร้อมกันนั้นได้ส่งลูกชายคนเดียวไปอยู่เป็นเพื่อนเพื่อคอยช่วยเหลืออีกด้วย

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ว่ายุทธจักรจึงสนิทสนมกับคมกริช...บุตรชายโทนของลุงพลเป็นอย่างมาก และตอนนี้คมกริชก็กลายเป็นประธานกรรมการผู้จัดการธุรกิจในเครือประภาภูวดลทั้งหมด โดยยุทธจักรเป็นผู้มอบหมายงานให้ด้วยตัวเอง เพราะไม่ชอบงานธุรกิจแต่ชอบการเป็นตำรวจมากกว่า.....

ตลอดสิบปีที่ผ่านมาคมกริชได้พิสูจน์ให้ยุทธจักรและลุงพลผู้เป็นบิดาให้เห็นแล้วว่า เขารักและภักดีต่อตระกูลประภาภูวดลเพียงใดและสามารถพาธรุกิจในเครือฯ ก้าวขึ้นสู่เวทีการค้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ขณะที่ยุทธจักรกำลังมองดูเจ้าไข่ขาวกินนมอยู่อย่างเอร็ดอร่อยนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา....เขาทราบแล้วว่าจะเข้าหาจอมยุทธ์ด้วยวิธีใด

“ไข่ขาว....คงต้องอาศัยเจ้าช่วยซะแล้ว” ยุทธจักรเอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าไข่ขาวอย่างเอ็นดู พร้อมทั้งฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่สุนัขที่คาดว่าน่าจะฉลาดแสนรู้ของตน

******************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจะให้เจ้าไข่ขาวไปเป็นเพื่อนกับภูฟ้าแน่เลย... :angellaugh2: :angellaugh2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
น้องหมาสื่อรัก  :angellaugh2:


ข้อมูลที่ได้มานี่ละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ร้อยตำรวจเอกกิตติศักดิ์นี่ทำงานดีจัง จ้าง 50 ทำงาน 50,000 :kikkik:

kYos

  • บุคคลทั่วไป

“สำหรับคำว่า รักแรกพบนั้น ......แค่วินาทีเดียวยังอาจคิดว่าช้าไป”

ชอบคำนี้จัง  :impress2:
เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิม  :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เลียนแบบฟ.ฟัน  ชอบประโยคนี้เหมือนกัน  “สำหรับคำว่า รักแรกพบนั้น ......แค่วินาทีเดียวยังอาจคิดว่าช้าไป”
สู้ว้อยยยย ยุทธจักร  ลุยเลยเพ่ ยังไม่ช้ากว่าใครหรอกน่า :laugh:
ปล ภาคแรกศิวะเป็นนายกสโมสรคณะวิทยาศาสตร์  แล้วภาคสองเปลี่ยนมาเป็นวิศวกรแล้วเหรอ  :confuse:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
“สำหรับคำว่า รักแรกพบนั้น ......แค่วินาทีเดียวยังอาจคิดว่าช้าไป”
ชอบประโยคนี้ด้วยคน  :like2:  :like2:
ข้อมูลละเอียดยิบแบบนี้ จอมยุทธหนีไม่รอดแน่  :like2:  :like2:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: จ๋งจั๋ยเจ้าไข่ขาวจาได้คู่กะเจ้าเบนจิ :laugh:



“สำหรับคำว่า รักแรกพบนั้น ......แค่วินาทีเดียวยังอาจคิดว่าช้าไป”

อ่า..ชอบประโยคนี้เหมือนกานเรยย  :-[

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586


อ่านมาถึงตอนนี้ตั้งนานแล้วจ้ายัยจ๋อม

แต่ทำไมเรื่องนี้จ๋อมให้พรรณาโวหาร (อิอิ เลียนแบบคำจ๋อม) เยอะจัง  หรือว่ากำลังปูพื้นเคอะ  :kikkik:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ....

แวะมาคุยด้วยครับ.....เนื่องจากว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นอยู่ครับ...จึงไม่มีอะไรคุยมากมายนัก....เพียงแต่จะแวะเข้ามาบอกว่า....เรื่องนี้จะเน้นการใช้พรรณาโวหารค่อยข้างเยอะนะครับ...เพราะว่าช่วยแรกๆ ต้องปูพื้นฐานตัวละคร....และพื้นฐานเรื่องให้ผู้อ่านเข้าใจก่อนน่ะครับ....

ตอนแรกๆ นี้คงน่าเบื่อหน่อยนะครับ....เพราะไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยครับ....ตัวละครก็จะดำเนินเรื่องราวไปเรื่อยๆ ..... ตามวิสัยที่ควรจะเป็น.....

ชื่อเรื่องบอกไว้แล้วว่า...."เพราะว่ารักแท้....เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว"...... ความรักที่เป็น true love คงมีความหมายและคุณค่ามาก....จนไม่อาจลืมได้ใช่มั้ยครับ....ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องนี้...มีมุมมอง...และประสบการณ์ความรักที่แตกต่างกันครับ..... แต่ว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร...คงต้องติดตามอ่านเอาเองครับ....

เรื่องนี้ผมใช้เวลาเขียนหนึ่งปีเต็มครับ....และค้นคว้าข้อมูลมาประกอบการเขียนนิยายมากพอสมควรครับ....เนื่องจากว่านิยายนี้ไม่ได้มีส่วนเน้นในเรื่องรักหวานแหววเหมือนเรื่องที่แล้ว....เพราะตัวละครเกือบทุกคนเป็นผู้ใหญ่....มุมมองของความรักจึงเปลี่ยนไปตามอายุ...และประสบการณ์ของตัวละครครับ....

ดังนั้น...ถ้าใครหวังจะได้อ่านฉากหวานๆ โรแมนติก....ผมคงต้องแสดงความเสียใจด้วยครับ...เพราะเรื่องนี้จะไม่มีฉากเหล่านี้แต่อย่างใด.....

โทนของนิยายเรื่องนี้เป็นแนว "อาชญนิยาย" ที่ผสมผสานกับ......นิยามรักที่แตกต่างกัน.... ลักษณะการเขียนจึงผิดแปลกไปจากเรื่องเดิมมากพอสมควรครับ....

ตอนแรกๆ ของนิยายเรื่องนี้อาจจะน่าเบื่อซักหน่อยครับ...เพราะต้องปูพื้นฐานข้อมูลให้คนอ่าน.... นิยายเรื่องนี้ที่ผมแต่งมีกว่า 200 หน้าเอสี่แล้วครับ (ยังไม่รวมตอนอวสาน)... ดังนั้นจึงเหลือเนื้อเรื่องอีกถึงเก้าสิบเปอร์เซนต์ที่ยังไม่ได้โพสต์ครับ....

อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะครับ....ทนอ่าน....ไปซักนิด....รับรองว่า....พอถึงจุดที่เป็นไคลแมกแล้ว....ความคิด...และความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันจะไม่ขัด....หรือ..พากันตั้งคำถามว่า "เป็นไปได้อย่างไร" ....

สัญญาได้มั้ยครับ.....ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน....ให้โอกาสแนวเรื่องแปลกๆ แบบนี้หน่อยเถอะครับ....


**********
นู๋บลู....นู๋พูห์....jammy และ Basatlas.....ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคร๊าบ....

GobGab เดาเก่งจังเลยแฮะ....น่ากลัวแล้วจิ....มีคนอ่านเดาเก่งๆ แบบนี้....

หมีแอ๊บแบ้วครับ....ก็ร้อยตำรวจเอกกิตติศักดิ์น่ะ...เค้าทำงานอยู่ในสำนักงานกองบัญชาการ(ร่วมพิเศษ)ต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญกรรมรุนแรง...ดังนั้นเรื่องข้อมูลบุคคลต้องแม่นยำมากครับ.... ฟังค์ชั่นการทำงานของหน่วยนี้เป็นอย่างไร...คงต้องตามอ่านนะครับ...

Shell, แน๋ว, และ ฟ.ฟัน..... คาดว่าบทต่อๆ ไป คงไม่มีประโยคประทับใจแล้วล่ะครับ...เพราะว่าเรื่องนี้เขียนแบบไม่เน้นความสวยงามของภาษาเลยครับ...เน้นการดำเนินเรื่องราวโดยเฉพาะครับ...

เจ้มูมู่.....เรื่องที่แล้วน่ะ...ผมบอกว่าศิวะไปเรียนต่อโท-เอกที่เมกา....แล้วก็มีส่วนขยายว่าศิวะเป็นวิศวกรปฐพี ในตอนอวสานงัยครับ....ที่ศิวะต้องลางานมาอยู่เป็นเพื่อนภูผา....เจ้กลับไปอ่านอีกทีจิ....

เจ้สองครับ.....ผมกำลังปูพื้นครับ....เรื่องนี้เป็นการปูพื้นแบบก่ออิฐถือปูนนะครับ....เพราะมีข้อมูลมากเหลือเกิน....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2007 10:04:03 โดย Andreas »

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
เย็นวันศุกร์ที่รอคอย.......

ยุทธจักรขับรถออกมาจากบ้านพักพร้อมด้วยเจ้าไข่ขาว....เขาอยู่ในชุดลำลองสบายๆ กางเกงขาสั้นสีดำและเสื้อยืดสีขาวสด.....เจ้าไข่ขาวมีเครื่องประดับใหม่นอกจากปลอกคอสีแดงสดแล้วยังมีกระดิ่งลูกเล็กๆประดับอยู่ที่ปลอกคออีกด้วย

เขากะเวลาให้มาถึงศาลาธรรม ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากจอมยุทธ์ประมาณยี่สิบนาที เพื่อจัดฉากให้เหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจมารอใคร แต่มาพบกับจอมยุทธ์โดยบังเอิญ

ดังนั้นขณะเลี้ยวรถเข้าจอดที่ถนนข้างศาลาธรรม ยุทธจักรจึงพบบุคคลที่เขาเฝ้ารอ ปรากฏตัวอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว.....

จอมยุทธ์อยู่ในชุดลำลอง กางเกงขาสั้นและเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ขับสีผิวให้ขาวอยู่แล้วโดดเด่นขึ้นมา.... น่ามองยิ่งนัก

เจ้าหนูภูฟ้า หลานชายในดวงใจ อยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดหลากสีสดใส ในมือของเจ้าหนูถือสายโซ่เล็กๆที่เชื่อมกับปลอกคอของสุนัขพันธ์โกลเดนรีทรีพเวอร์สีทองตัวใหญ่ท่าทางฉลาดแสนรู้และใจดี....ทั้งสามชีวิตเดินเล่นอยู่ในบริเวณลานกว้างสีเขียวสดของศาลาธรรม

ยุทธจักรจอดรถ ก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมด้วยเจ้าไข่ขาว....แต่ยังไม่เข้าไปทักทายทั้งสามชีวิตในทันที....เขากลับพาเจ้าไข่ขาวเดินเล่นไปอีกทางหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับบริเวณที่จอมยุทธ์อยู่ .....ยุทธจักรคาดว่าจอมยุทธ์คงสังเกตเห็นแล้ว และน่าจะคิดว่าเป็นเหตุบังเอิญที่เขามาเดินเล่นที่ศาลาธรรมเช่นกัน

หลังจากเดินเล่นกับเจ้าไข่ขาวซักพัก..ยุทธจักรจึงเดินเข้าไปทักทายจอมยุทธ์ โดยทำทีเป็นเพิ่งสังเกตเห็นจอมยุทธ์และภูฟ้าที่เดินเล่นอยู่

“สวัสดีครับคุณจอมยุทธ์.... ขอโทษครับ เผอิญผมเพิ่งเห็นคุณ เลยเข้ามาทักทายช้าครับ.......มาเดินเล่นนานแล้วเหรอครับ....” ยุทธจักรทักทายด้วยคำพูดสุภาพและรอยยิ้ม

“สวัสดีครับ...คุณยุทธจักร.....ผมอยู่ที่นี่ประมาณยี่สิบนาทีแล้วครับ” จอมยุทธ์ตอบ

“คุณจอมยุทธ์ความจำดีจังเลยนะครับ จำชื่อผมได้ด้วยครับ”

“ต้องได้ซิครับ ผมไม่เคยขับรถชนท้ายใคร...กรณีคุณเป็นครั้งแรกนี่ครับ” จอมยุทธ์พูดตามความจริง

“ว้า.....อย่างนั้นก็คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเลยนะครับ....ผมว่าเราน่าจะเจอกันในสถานการณ์ที่ดีกว่านั้นซักหน่อย” สายตาของหนุ่มหน้าเข้มส่งประกายแวววับขึ้นมาทันใด แต่ก็พยายามปรับให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้จอมยุทธ์สังเกตเห็น หลังจากนั้นจึงหันมาทักทายเด็กชายวัยห้าขวบครึ่งที่ยืนดูผู้ใหญ่สองคนทักทายกันอยู่ เขาทรุดตัวลงข้างหน้าเด็กน้อยน่ารัก และเอ่ยถามถึงชื่ออย่างอ่อนโยน

“สวัสดีครับ......หนุ่มน้อยชื่ออะไรครับ”

“สวัสดีครับ ผมชื่อภูฟ้าครับ ชื่อเล่นชื่อภูครับ”

“ภูฟ้าอายุกี่ขวบแล้วครับ” ยุทธจักรถามต่อ

“ห้าขวบครึ่งครับ อีกไม่กี่เดือนก็หกขวบแล้วครับ” เด็กน้อยตอบเสียงใส...ปราศจากกิริยาเกรงกลัวต่อบุคคลแปลกหน้าแต่อย่างใด

 “เหรอครับ......อาชื่อแซมนะครับ...และก็นี่เจ้าไข่ขาว” ยุทธจักรแนะนำตนเองและสุนัขสีขาวปลอดที่อุ้มอยู่เนื่องจากยังไม่แน่ใจปฏิกิริยาของสุนัขตัวใหญ่กว่าที่ยืนอยู่ข้างๆเด็กน้อยว่าจะเป็นมิตรกับเจ้าไข่ขาวหรือไม่....

เจ้าไข่ขาวสบตาภูฟ้าด้วยแววตาเป็นมิตรอย่างเต็มที่

“เจ้าไข่ขาวอยากเล่นกับน้องภูและสุนัขน้องภูน่ะครับ....น้องภูอนุญาตให้ไข่ขาวเล่นด้วยได้มั้ยครับ” ยุทธจักรถามเด็กน้อยอย่างสุภาพ

ภูฟ้าหันมามองหน้าคุณอาหนุ่มเป็นเชิงขออนุญาต...หลังจากจอมยุทธ์พยักหน้า รอยยิ้มหวานก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กน้อยทันที....เป็นรอยยิ้มที่ถอดแบบมาจากบิดามาอย่างไม่ผิดเพี้ยน

“ได้ครับ....แต่ต้องแนะนำไข่ขาวให้รู้จักเบนก่อนครับคุณอา.....” ภูฟ้าพูดกับยุทธจักร ก่อนจะหันไปบอกเจ้าเบน สุนัขแสนรู้ของตนให้รู้จักเพื่อนใหม่ต่างวัยตัวใหม่

“เบน..นี่เพื่อนใหม่ภูนะครับ...ชื่อไข่ขาว”

ยุทธจักรวางเจ้าไข่ขาวลงพบพื้นหญ้าอย่างช้าๆ ....ไข่ขาวนั่งนิ่งรอการทักทายจากสุนัขตัวใหญ่กว่า....จนกระทั่งเจ้าเบนเดินมาดมสำรวจตัวลำตัวของไข่ขาวอย่างนุ่มนวล โดยไม่มีการส่งเสียงขู่หรือทำให้เจ้าไข่ขาวตกใจ

หลังจากนั้นซักพัก...สุนัขต่างวัยทั้งคู่ก็ตกลงเป็นมิตร วิ่งเล่นกันพร้อมด้วยเจ้านายตัวน้อยอย่างร่าเริง

แม้ตอนนี้เจ้าไข่ขาวจะสามารถผูกมิตรกับภูฟ้าและเจ้าเบนได้เรียบร้อยแล้ว..แต่พันตรีหนุ่มก็ยังไม่สามารถสร้างความเป็นมิตรกับจอมยุทธ์ได้อย่างที่ตนเองหวัง จอมยุทธ์ยังคงยืนนิ่งเงียบ ดวงตาบนใบหน้ากึ่งหวานที่ยุทธจักรให้คำนิยามไว้ จับจ้องไปที่หลานชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นอยู่กับสุนัขต่างวัยและต่างขนาดสองตัวอย่างสนุกสนาน....ริมฝีปากบางมีรอยยิ้มกว้างทุกครั้ง ยามที่หลานชายหันมาสบตา

“เฮ้ย....สงสัยเสน่ห์เราท่าจะฝืดเสียแล้ว.....” ยุทธจักรพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนจะพยายามชวนจอมยุทธ์สนทนาอีกครั้ง

“คุณจอมยุทธ์ชอบเล่นกีฬาหรือเปล่าครับ.....แต่เห็นหุ่นดีอย่างนี้น่าจะเล่นกีฬาเป็นประจำนะครับ”

“เรียกผมว่าจอมเฉยๆ ก็ได้ครับ” สุดท้ายด้วยมารยาท จอมยุทธ์จึงต้องสนทนาด้วย....
 
ปกติจอมยุทธ์เป็นคนเข้ากับผู้อื่นได้ดี...แต่กรณีชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ตรงหน้านี้......สัญชาติญาณบางอย่างกำลังร้องบอกว่าเขาจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ...ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งในอนาคตอันใกล้

ดังนั้นระยะห่างและเกราะกำบังจึงถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว....เพื่อป้องกันตนเองจากการเข้ามาใกล้ชิดเกินไปของชายหนุ่มหน้าเข้ม ร่างสูงคนนี้.....แม้ว่าลักษณะการแสดงออกของเขาโดยรวมจะบ่งบอกความจริงใจโดยผ่านทั้งแววตาและรอยยิ้มของริมฝีปากคู่สวยนั้น....แต่มีบางอย่างที่ดูไม่ชอบมาพากลในสายตาคู่นั้น...โดยเฉพาะยามที่จ้องมองมาที่ตนเอง....บางครั้งมันแปลกๆ... แต่แปลกอย่างไรจอมยุทธ์ก็ยากที่จะคาดเดา

ที่ผ่านมาจอมยุทธ์ค้นเคยกับแววตาของนักธุรกิจที่จ้องจะฉกฉวยหาผลประโยชน์กับธุรกิจของตน...แววตาของชายหนุ่มฝ่ายรับที่ร้องขอให้ตนเองเป็นผู้ปลดเปลื้องอารมณ์ร้อนแรงที่ครุกรุ่นอยู่ในใจให้มอดดับลงบนเตียงนุ่ม รวมถึงแววตาของชายหนุ่มและหญิงสาวที่มาหลงใหลในใบหน้าหล่อเหลาและร่างกายที่สมส่วนแข็งแรงของตน ตลอดจนปรารถนาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ด้วยหวังจะได้รับรสสิเน่หาแห่งกลกามที่จอมยุทธ์จะเป็นฝ่ายมอบให้

แต่ในกรณีของยุทธจักร...แววตาที่เคลือบแฝงอะไรบางอย่างนั้น...เป็นสิ่งที่จอมยุทธ์ไม่คุ้นเคยและไม่เคยมีชายคนใดมองตนด้วยสายตาอย่างนี้มาก่อน.....เพราะมันเป็นแววตาของคนที่ปรารถนาจะเป็นผู้ปกป้องคุ้มครอง....และปรารถนาจะเป็นผู้มอบรสรักลึกซึ้งให้อย่างเต็มหัวใจ...แววตาที่จอมยุทธ์ไม่มีวันเข้าใจ......เพราะไม่เคยได้รับมาก่อนนั่นเอง

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
“ขอบคุณครับ....งั้นเรียกผมว่าแซมก็ได้นะครับ” ยุทธจักรพยายามสร้างความเป็นกันเองกับจอมยุทธ์ให้มากที่สุด แม้มันจะไม่ค่อยได้รับความสำเร็จก็ตาม

“ครับคุณแซม”

“เอ่อ...คุณจอมยังไม่ได้ตอบคำถามของของผมเลยนะครับ” ยุทธจักรพยายามชวนคุยอีกครั้ง

“ครับ....ผมชอบเล่นเทนนิสและว่ายน้ำครับ”

“คุณแซมล่ะครับ” จอมยุทธ์พยายามพูดให้มากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าเขารังเกียจที่จะพูดคุยด้วย

“ผมเล่นเทนนิสเหมือนกันครับ....แต่ไม่รู้ว่าจะมีวาสนาได้เล่นกับคุณจอมหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ” ประโยคสุดท้ายผู้พูดพยายามหาช่องทางและเชิญชวนเป็นนัยๆ

จอมยุทธ์ยังไม่ตอบคำถามนั้นโดยทันที เพียงแต่หันมาสบตายุทธจักร พยายามมองเข้าไปในดวงตาสดใสคู่นั้น เพื่อค้นหาวัตถุประสงค์ของประโยคดังกล่าว.....แม้เป็นเวลาแค่สองสามวินาที....แต่ก็นานพอที่จะทำให้จอมยุทธ์เห็นแต่ความจริงใจที่แสดงออกมา .......สุดท้ายจอมยุทธ์จึงมีคำตอบให้กับหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าได้แล้ว....

แม้สัญชาติญาณจะคอยเตือนว่าตนเองอาจจะต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ....แต่ด้วยสุภาษิตที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ก็ทำให้จอมยุทธ์ตัดสินใจที่จะเรียนรู้ถึงตัวตนของชายหนุ่มผู้มีดวงตาหวานคนนี้.....เพราะอย่างน้อยเขาจะได้หาวิธีป้องกันความเสียเปรียบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้

อีกอย่างจอมยุทธ์ถือคติที่ว่า....ถ้าเขามาเป็นศัตรู  เราก็ต้องรู้จักเค้าในฐานะศัตรู ถ้าเขามาอย่างมิตร เราก็ต้องรู้จักเขาอย่างมิตร การอยู่ห่างจากศัตรูคือหนทางแห่งความพ่ายแพ้ เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าศัตรูจะลงมือทำร้ายเราเมื่อไร....ดังนั้นจอมยุทธ์จึงเปิดโอกาสที่จะศึกษาชายหนุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างๆคนนี้

“อย่างน้อยผมก็จะได้รู้ว่าคุณจะมาไม้ไหน” จอมยุทธ์คิดในใจ ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา

“ได้ซิครับ ถ้าคุณแซมมีเวลา เพราะคุณพ่อของหลานผมก็เล่นเทนนิสเหมือนกันครับ”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผู้ฟังทันทีที่จอมยุทธ์พูดจบ....ยุทธจักรดีใจเพราะคิดว่าอย่างน้อยความพยายามขั้นแรกก็ประสบความสำเร็จ

ก่อนที่ยุทธจักรจะชวนจอมยุทธ์คุยถึงเรื่องอื่นๆ....เสียงตะโกนเรียกบิดาที่ดังขึ้นจากหลานชาย ทำให้ทั้งคู่หันไปมองที่ต้นเสียง และเห็นการมาเยือนของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง

“พ่อเสือครับ” เสียงภูฟ้าเรียกชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทนสวยงาม ใบหน้าคมคาย อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดกับกางเกงแสลกสีดำ ที่กำลังเดินมุ่งมายังสนามหญ้าข้างศาลาธรรมแห่งนี้

ภูฟ้าวิ่งเข้าไปกอดบิดาของตน ก่อนจะโดนบิดาหอมแก้มซ้ายและขวาอย่างรักใคร่

“ตาภูเป็นเด็กดีหรือป่าวครับวันนี้” คุณพ่อหนุ่มทักทายลูกชายตัวน้อย..น้ำเสียงของศิวะอ่อนโยนและนุ่มนวลเสมอยามพูดกับลูกชายของตน

“ภูเป็นเด็กดีครับ” เด็กน้อยตอบ

“พ่อเสือครับ..วันนี้ภูมีเพื่อนเล่นใหม่ ชื่อไข่ขาวครับ....เป็นสุนัขของอาแซมครับ”

“ใครคืออาแซมเหรอครับ” ศิวะตั้งคำถาม

“คนที่คุยกับอาจอมอยู่งัยครับ......เดี๋ยวภูพาพ่อเสือไปรู้จักครับ” ภูฟ้าเดินจูงมือใหญ่ของบิดานำไปหาอาจอมและคุณอาคนใหม่ท่าทางเป็นมิตรคนนั้น

“คุณแซมครับ นี่ ดร.ศิวะ หรือพี่เสือ.....บิดาของตาภูครับ..พี่เสือครับ นี่คุณแซม” จอมยุทธ์แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน ภายหลังหลานชายเดินจูงมือพาศิวะเข้ามาหา

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ยุทธจักรทักทายด้วยประโยคสุภาพ เผยรอยยิ้มและแววตาแสดงความจริงใจให้ศิวะได้รับรู้

“สวัสดีครับ...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณแซม” ศิวะทักทายกลับ พร้อมกับหันไปมองหน้าจอมยุทธ์คล้ายส่งคำถามกลายๆถึงชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้

“เอ่อ...พี่เสือครับ คุณแซม คือคนที่ผมขับรถชนท้ายเมื่อสามวันก่อนครับ”

“อ๋อ.....รถซ่อมเสร็จแล้วเหรอครับ....” ศิวะถาม เพราะจำได้ถึงอุบัติเหตุที่จอมยุทธ์เล่าให้ฟังเมื่อสามวันก่อน

“ซ่อมเสร็จแล้วครับ.......วันนี้ผมเลยพาเจ้าไข่ขาวมาเดินเล่นที่มอชอนี่....และพบกับคุณจอมยุทธ์โดยบังเอิญครับ” ยุทธจักรจำเป็นต้องโกหกเพราะไม่ต้องการให้ทราบว่า เขาวางแผนมาพบจอมยุทธ์ในครั้งนี้

“ครับ” ศิวะรับทราบ

“ได้ข่าวว่าคุณศิวะชอบเล่นเทนนิสหรือครับ ผมเองก็ชอบเล่นเทนนิสเช่นกัน....ไม่ทราบว่าผมจะมีโอกาสได้เล่นกับคุณศิวะและคุณจอมยุทธ์บ้างหรือไม่ครับ....พอดีช่วงนี้ผมลางานเพื่อพักผ่อน.....และอยากออกกำลังกายเต็มทนครับ” ยุทธจักรรุกต่อทันที ด้วยต้องการหาโอกาสที่จะทำความรู้จักทั้งศิวะและจอมยุทธ์อย่างละเอียดโดยรวดเร็ว เพราะในอีกไม่ช้า การพักร้อนของเขาก็จะสิ้นสุดลง และจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง

ศิวะหันไปสบตากับจอมยุทธ์เล็กน้อยคล้ายจะขอความเห็น และภายหลังจอมยุทธ์แสดงท่าทีไม่ขัดข้อง...ศิวะจึงรับไมตรีที่ยื่นมา

“ยินดีครับ...วันเสาร์นี้เลยก็ได้ครับ .....ผมกับจอมออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วครับ.....อีกอย่างพวกเราจะได้รู้จักกันเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ” แม้จะตอบรับตามคำขอ...แต่ศิวะก็อดสงสัยถึงจุดหมายอื่นๆที่อาจซ่อนอยู่ในประโยคดังกล่าวเสียไม่ได้....เขาหวังว่าวันเสาร์นี้ เขาคงจะได้คำตอบว่า การก้าวเข้ามาของชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มีวัตถุประสงค์อะไร และหวังว่าจะทราบประวัติส่วนตัวของหนุ่มคนนี้ด้วยเช่นกัน

ฟังเผินๆ ประโยคสุดท้ายของศิวะดูเหมือนเป็นประโยคธรรมดา แต่สำหรับยุทธจักรแล้วพบว่ามันเป็นการส่งสัญญาณท้าทายเลยทีเดียว....เพราะหมายความว่าการรู้จักกันในครั้งนี้เขาจะพลาดที่จะสร้างความประทับใจแก่สองหนุ่มนี้ไม่ได้

การที่ศิวะและจอมยุทธ์เปิดโอกาสที่จะเรียนรู้และทำความรู้จักคนแปลกหน้าเช่นตนเอง แทนที่จะปฏิเสธไม่คบค้าสมาคมด้วย....ยุทธจักรจึงพอสรุปได้ว่า ทั้งสองคนเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองอย่างสูง  และพร้อมเสมอที่จะต้อนรับทั้งมิตรและศัตรูในเวลาเดียวกัน

“ขอบคุณครับผม.....ดีเลยครับ...เพราะเวลาพักร้อนผมใกล้หมดแล้วครับ....หลังจากนั้นคงต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพต่อครับ”

“งั้นเราเจอกันวันเสาร์นี้ตอนสี่โมงเย็นที่สปอร์ตคลับของโรงแรม Royal Chiang Mai Health & Spa นะครับ....คุณแซมรู้จักมั้ยครับ” ศิวะนัดหมายยุทธจักรให้ไปพบกันที่โรงแรมที่เขาเข้าไปช่วยบริหารงานอยู่

“ทราบครับ” ยุทธจักรบอก

“คุณแซมเอาเพื่อนมาด้วยก็ดีนะครับ จะได้เล่นคู่ได้ครับ” จอมยุทธ์ให้ข้อเสนอ เพราะไม่ได้เล่นเทนนิสประเภทคู่มานานแล้ว และเขาก็คันไม่คันมืออยากเล่นเทนนิสประเภทคู่เต็มทน

“ขอบคุณครับ อย่างนั้นผมต้องขออนุญาตชวนเพื่อนรุ่นพี่ผมมาเล่นด้วยดีกว่าครับ น่าจะสนุกดีครับ”

“เชิญตามสบายครับ...แต่ตอนนี้ผมขอตัวคุยกับลูกชายก่อนนะครับ” ศิวะตอบก่อนจะหันไปพูดคุยกับลูกชาย ที่กำลังเล่นกับสุนัขทั้งสองตัวอยู่ข้างๆ

“ภูหิวหรือยังครับลูก”

“หิวแล้วครับ” เด็กน้อยตอบ

“งั้นพ่อเสือว่าเรากลับบ้านกันดีกว่าครับ เอาเบนกลับบ้านก่อน แล้วเราไปกินข้าวเย็นกันดีมั้ยครับ”

“เชิญคุณแซมด้วยนะครับ ถ้าไม่ติดธุระอื่นใด” ประโยคหลังศิวะหันมาถามยุทธจักร

“ผมคงต้องขอตัวครับ” ยุทธจักรจำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอ เพราะไม่ต้องการให้ศิวะและจอมยุทธ์เห็นว่าตนเองรุกมากจนเกินไป....ยิ่งในกรณีนี้ การปฏิเสธคำเชิญชวนน่าจะส่งผลดีมากกว่าผลเสีย

“ครับผม...อย่างนั้นเราเจอกันวันพรุ่งนี้เลยนะครับ” ศิวะไม่เซ้าซี้เพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นใดๆ

“ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องลาก่อนนะครับ.....แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้นะครับ สวัสดีครับคุณศิวะ สวัสดีครับคุณจอมยุทธ์” ยุทธจักรกล่าวอำลา ก่อนจะเดินไปหาภูฟ้า ย่อตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะบอกเด็กน้อยอย่างสุภาพว่า

“อาแซมขออนุญาตเอาเจ้าไข่ขาวกลับบ้านนะครับน้องภู...ไข่ขาวคงหิวแล้ว”

“ครับ” เด็กน้อยรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะอุ้มลูกสุนัขยื่นให้คุณอาหนุ่มร่างสูงคนตรงหน้า

“เอาไว้อาว่างๆ จะพาไข่ขาวมาเล่นกับภูอีกนะครับ”

“ครับผม ภูจะรอ....ภูชอบไข่ขาวครับ” เด็กน้อยตอบอย่างจริงใจ

“ครับผม....อาแซมต้องไปแล้ว....เป็นเด็กดีนะครับ” ด้วยความน่ารักของภูฟ้า ยุทธจักรจึงยื่นมือไปลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างแผ่วเบา เขาสัมผัสได้กับเส้นผมที่นิ่มนวลของภูฟ้า

การสนทนาระหว่างยุทธจักรและภูฟ้าถูกจับตามองโดยศิวะและจอมยุทธ์โดยตลอด ทั้งคู่ต่างประเมินความจริงใจในการแสดงออกทั้งสีหน้าและแววตาของยุทธจักร และสุดท้ายพบว่าไม่มีความเคลือบแคลงใดๆแฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น.....ยุทธจักรแสดงความเป็นมิตรอย่างแท้จริงกับภูฟ้า นั่นจึงเป็นเหตุให้ทั้งศิวะและจอมยุทธ์เริ่มเปิดใจให้กว้างขึ้นอีกนิดกับการก้าวเข้ามาของหนุ่มร่างสูงคนนี้

ภายหลังการล่ำลา...ยุทธจักรขับรถกลับบ้านด้วยหัวใจพองโต เพราะคิดว่าแผนการที่วางไว้อย่างแยบยลนั้นประสบความสำเร็จ

หากแต่ยุทธจักรไม่มีวันทราบได้เลยว่า เพราะศิวะและจอมยุทธ์เปิดโอกาสให้มีการนัดหมายในวันพรุ่งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะเรียนรู้ว่า เขาจะเข้ามาในฐานะศัตรูหรือมิตรแท้ต่างหาก หาใช่ความสำเร็จของแผนการของเขาแต่อย่างใด

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านต่อแล้วคับ.... :try2:

หนุกคับ.....ร้ายกันทั้ง 2 ฝ่ายเลยนะเนี่ย... :laugh: :laugh:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
200 หน้าเอสี่ โหท่าจะมีให้อ่านกันจุใจเลยนะครับจ๋อม  เป็นกำลังใจให้ทำสำเหร็จเพื่อเป็นเเบบอย่างให้คนเขียนนิยายคนอื่นๆบ้าง  ให้เล้าของเราเป็นที่รวมนิยายดีๆเเปลกๆใหม่ๆไม่เหมือนใครในอนาคตนะครับ วู้!เล้าเป็ดจงเจริญ อิๆๆ  :110011: :110011: :110011:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ่าน ๆ ไป นึกว่าอ่านตำราพิชัยยุทธอยู่นะนี่   :kikkik:
ถ้าเขามาเป็นศัตรู  เราก็ต้องรู้จักเค้าในฐานะศัตรู ถ้าเขามาอย่างมิตร เราก็ต้องรู้จักเขาอย่างมิตร การอยู่ห่างจากศัตรูคือหนทางแห่งความพ่ายแพ้ เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าศัตรูจะลงมือทำร้ายเราเมื่อไร.
ตอนนี้ถ้าเป็นการรบกัน ยุทธจักรก็อยู่ฝ่ายรุก กำลังวางแผนกลยุทธสารพัดวิธีที่จะตีค่ายให้แตก
ส่วนจอมยุทธก็วางแผนตั้งรับ ไม่ให้เสียเปรียบมากเกินไป รบกันคราวนี้รางวัลจะเป็นอะไรน้อ .... อาจจะเป็นรักแท้ ที่ทั้งสองรอคอยก็เป็นได้  :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






kYos

  • บุคคลทั่วไป
ชักเห็นใจยุทธจักร เห็นทีจะไม่ได้พิชิตใจจอมยุทธ์แค่คนเดียวแล้วล่ะ ต้องเพิ่มภูฟ้า กับ ศิวะ เข้าไปด้วย
3 ต่อ 1 งี้ จะรับมือไหวมั๊ยเนี่ย? แค่จอมยุทธ์คนเดียวก็ร้ายใช่ย่อย

เป็นกำลังใจ ให้กับตอนต่อไปเหมือนเดิม  :yeb:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 3 เริ่มเกมรัก

หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ.....ยุทธจักรออกมานั่งรับลมเย็นอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน โดยมีเจ้าไข่ขาวนอนหลับสบายอยู่บนตักกว้างของเขา

รอบๆบ้านหลังเล็กของเขาแวดล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้เมืองเหนือหลากชนิด หน้าระเบียงคือลำธารที่สร้างขึ้นเป็นทางเชื่อมระหว่างน้ำตกจำลองขนาดใหญ่กับสระน้ำที่เป็นแหล่งอาศัยของปลาสวยงามนานาพันธุ์ที่ลุงพลเป็นผู้ลงมือเพาะเลี้ยงเอง โดยส่วนหนึ่งของสระน้ำขนาดใหญ่นั้น กินอาณาบริเวณใต้พื้นบ้านของยุทธจักรไปเกือบครึ่ง

ทางเดินรอบสวนสวยกว้างใหญ่ ถูกปูด้วยหินกรวดสีขาวสลับกับแผ่นหินศิลาแลงขนาดพอเหมาะ สองข้างทางปลูกต้นเทียนทองเป็นแนวรั้วยาวทอดไปตามทางเดิน สู่เรือนต่างๆ ที่มีทั้งหมดสี่หลังด้วยกัน

จริงๆแล้วอาณาบริเวณบ้านของยุทธจักรไม่ได้สมกับคำว่าบ้านหลังเล็กที่เขาชอบเรียกยามอ้างถึงกับคนทั่วไป แต่กลับประกอบด้วยบ้านทั้งหมดสี่หลัง ที่สร้างอยู่บนอาณาเขตส่วนตัวที่เงียบสงบและปลอดภัยที่สุด ในพื้นที่โอบล้อมด้วยขุนเขาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

บ้านทั้งสี่หลัง ถูกออกแบบและสร้างให้เป็นลักษณะบ้านชั้นเดียว มีสถาปัตยกรรมสอดรับกัน บนอาณาบริเวณพื้นที่กว้างของเชิงเขาลูกเตี้ยๆ....

บ้านแต่ละหลังจะมีชื่อเรียกอย่างไพเราะ โดยเริ่มตั้งแต่  “เรือนคำ”.....ซึ่งเป็นเรือนไม้สักโบราณแบบล้านนาแท้ๆ โดยเป็นบ้านที่ลุงพลอาศัยอยู่   

เรือนหลังที่สองคือ “เรือนสัก”...ซึ่งเป็นบ้านไม้สักทองทั้งหลังที่ยุทธจักรสร้างให้เป็นที่พักของคมกริช โดยแยกออกมาจากเรือนคำของลุงพล เพื่อรองรับครอบครัวเล็กๆของคมกริชที่จะมีขึ้นในอนาคต

เรือนหลังที่สาม “เรือนแก้ว”....บ้านของยุทธจักร ที่พื้นบริเวณห้องรับแขกถูกปูด้วยแผ่นกระจกหนา มองลงไปเห็นปลาสวยงามหลากสีว่ายวนอยู่ในบ่อเลี้ยงปลาต่างระดับที่เป็นส่วนหนึ่งของสระน้ำขนาดใหญ่ และสุดท้าย “เรือนใหญ่”.... ซึ่งเป็นที่อาศัยของแม่บ้าน คนสวน และพนักงานรักษาความปลอดภัยรวมทั้งสิ้นสิบกว่าชีวิต ดังนั้นเรือนหลังนี้จึงเป็นเรือนหลังใหญ่ที่สุดในบรรดาเรือนทั้งสี่หลัง นั้นจึงเป็นสาเหตุให้ทั้งลุงพล คมกริชและยุทธจักร เรียกบ้านของตนเองว่าเรือนเล็ก เมื่อยามเปรียบเทียบกับเรือนใหญ่นั่นเอง

บ้านทั้งสี่หลังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สวยงาม ตามลักษณะและโทนสีของบ้านแต่ละหลัง ไม่เว้นแม้แต่ในเรือนใหญ่ รอบๆบ้านทั้งสี่ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับตามฤดูกาล ดูสดชื่นและสร้างความสำราญใจแก่ผู้พักอาศัยทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทุกคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณอาณาเขตบ้านแห่งนี้จะมีความสุข อารมณ์ดี และรักใคร่สามัคคีปรองดองกันอย่างมาก

ยุทธจักรนั่งรับลมเย็นๆที่พัดผ่านลำธารเล็กๆหน้าบ้าน พลางคิดถึงเพื่อนที่จะชวนไปเล่นเทนนิสด้วยกันในวันพรุ่งนี้กับศิวะและจอมยุทธ์

จริงๆแล้วเขามีเพื่อนฝูงไม่น้อย แต่สำหรับคนที่จะพาไปในวันพรุ่งนี้ จะต้องเป็นคนที่กว้างขวางพอสมควร และต้องสร้างความน่าเชื่อถือแก่ตัวเขาไม่มากก็น้อย และถ้าคนนั้นรู้จักศิวะหรือจอมยุทธ์ด้วยแล้ว แผนการตีสนิทของแซมในครั้งนี้จะง่ายขึ้นไปอีกขั้น อย่างน้อยก็จะมีคนช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอีกสองหนุ่มได้รวดเร็วมากขึ้น

หลังจากนั่งคิดอยู่นานจนเจ้าไข่ขาวตื่นขึ้นมาสบตาเจ้านายอ้อนวอนบอกความหิวอีกครั้ง ในที่สุดยุทธจักรก็เลือกบุคคลที่จะชวนไปเล่นเทนนิสด้วยในวันพรุ่งนี้ได้สำเร็จ

พันตำรวจโท นครินทร์ รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 สังกัดกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด จึงถูกใช้เป็นหนึ่งในหมากกระดานนี้....กระดานหมากแห่งหัวใจ

ด้วยนามสกุลที่เก่าแก่ของท่านรองฯ นครินทร์  ยุทธจักรค่อนข้างจะมั่นใจว่า นายตำรวจรุ่นพี่ของเขาจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ศิวะและจอมยุทธ์ได้พอสมควร ประกอบกับท่านรองฯ ก็มีอายุไล่เลี่ยกับศิวะ แซมจึงคิดว่าทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี
 
ไม่รอช้า...ยุทธจักรจึงโทรหาท่านรองฯนครินทร์ หรือพี่เอ..... ในทันที

“สวัสดีครับท่านรอง” ยุทธจักรทักทายภายหลังได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย

“ว่างัย ไอ้แซม...ร้อยวันวันปีไม่เคยโทรหา.....ได้ข่าวว่ามาพักร้อนที่เชียงใหม่....ทำไมไม่มาคุยกันบ้างว๊ะ” นายตำรวจรุ่นพี่เอ่ยทักทาย พร้อมส่งคำถาม

“ก็กำลังจะไปหาพี่เองัยครับ.....” ยุทธจักรเปลี่ยนสรรพนามเรียกเพื่อนรุ่นพี่ของตน

“ไม่ต้องมาแก้ตัว.... ข้ารู้..........ถ้าเอ็งไม่มีธุระ เอ็งไม่มาหาข้าหรอก” ท่านรองฯพูดดักคอ

“แหมพี่เอก็....ทำเป็นรู้ใจไปได้”

“อ้าว.......แล้วมีธุระอะไรว่ามา....” คนปลายสายถามหลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ

“พรุ่งนี้พี่ว่างหรือเปล่าครับ.....”

“นั่นงัยข้านึกแล้วไม่ผิด...มันต้องมีธุระ ไม่งั้นเอ็งไม่โทรหาข้าแน่ๆ”

แซมหัวเราะกับความรู้ทันของท่านรองฯ นครินทร์ แต่เขาก็แกล้งพูดกลบเกลื่อนว่า

“ผมจะชวนพี่ไปเล่นเทนนิสต่างหากครับ...ไม่ใช่ธุระ”

“อะไรว๊ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนไปเล่นเทนนิส.....ว่าแต่ไปตีกับสาวหรือหนุ่มว๊ะ” ประโยคหลังนครินทร์ ถามตรงๆเพราะทราบดีถึงรสนิยมของนายตำรวจหนุ่มรุ่นน้องที่สนิทกันมาก นับตั้งแต่ร่วมงานกันเมื่อเกือบสิบปีก่อน ก่อนที่เขาจะได้รับการเลื่อนขั้นให้มาเป็นรองผู้กำกับการงานสืบสวนคดียาเสพติด กองกำกับการ 2 ของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคห้าทั้งหมด

ด้วยความสนิทสนมเพราะต้องร่วมงานและร่วมรบกับพวกอาชญากรมานาน  ทำให้นครินทร์ทราบว่า นายตำรวจหนุ่มรุ่นน้องที่ชื่อยุทธจักรคนนี้มีรสนิยมทางเพศที่ชอบได้ทั้งชายและหญิง .....

แม้ว่านครินทร์จะเป็นชายแท้ แต่ก็เปิดกว้างกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะกับรุ่นน้องที่สนิทด้วย  แต่ถึงกระนั้นก็ต้องช่วยปิดเป็นความลับ เพื่อไม่ให้กระทบต่อหน้าที่การงาน.... เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่ทราบว่ายุทธจักรสามารถมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายได้ และเขาก็รับได้กับพฤติกรรมดังกล่าวโดยไม่เคยแสดงความรังเกียจแต่อย่างใด

“ผู้ชายครับ.....”ยุทธจักรตอบไปตามจริง

“แสดงว่าสำคัญมากหรือ” นครินทร์ถาม เพราะปกติยุทธจักรไม่เคยเป็นฝ่ายเดินหน้ากับความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน เนื่องจากมีคนมาเสนอให้โดยตลอด

“ตามนั้นครับ....ผมว่า......เสน่ห์ผมฝืดกับคนคนนี้ครับ....ดูเหมือนเค้าไม่ค่อยไว้ใจผมซะเท่าไหร่ครับ”

“ก็เลยต้องให้ข้าช่วยว่างั้น” ท่านรองฯ กล่าวออกมาอย่างรู้ทัน

“ครับ”

“แล้วหนุ่มคนนั้นเป็นใครล่ะ”

“ชื่อจอมยุทธ์ พัฒนประสาทศิลป์ครับ”

“ว๊ะ........ไอ้นี่เล่นคนดังซะด้วย....แกนี่เล่นทายาทตระกูลนักธุรกิจดังของเชียงใหม่เลยนะโว้ย....มิน่าล่ะแกจึงต้องเป็นคนตาม....ดีๆ แกจะได้รู้เสียบ้างว่าเป็นคนตามนี่มันลำบากขนาดไหน” นครินทร์หัวเราะเบาๆเพื่อความสะใจ กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น



Andreas

  • บุคคลทั่วไป
“แหม..พี่เอก็....คงไม่ลำบากขนาดนั้นมั้ง” ยุทธจักรทำใจดีสู้เสือ ทั้งๆที่หวั่นไหวอยู่ไม่น้อย

“แล้วเอ็งไปนัดกับเค้าสองต่อสอง หรือว่า ดร.ศิวะ ไปด้วย” นายตำรวจรุ่นพี่ถามต่อ

“พี่รู้จัก ดร.ศิวะ ด้วยหรือครับ” คนถามมีน้ำเสียงตื่นเต้นด้วยความหวัง

“รู้จักสิ ก็เรียนมาด้วยกัน....ไอ้เสือมันเป็นเพื่อนสนิทข้าโว้ย” ข้อความที่นครินทร์เฉลยออกมา สร้างความยินดีแก่คนฟังอย่างยุทธจักร เพราะแสดงว่าเขาตัดสินใจถูกที่เลือกนายตำรวจผู้รุ่นพี่คนนี้

“ดีใจละซิ ไอ้แซม....” ประโยคล้อเบาๆจากปลายสาย

“ครับ.....แต่สรุปว่าพี่เอว่างหรือเปล่าละครับ......พรุ่งนี้ตอนสี่โมงเย็นที่โรงแรม Royal Chiang Mai Health & Spa”

“ว่างพอดี......อืม......ไอ้เสือมันนัดที่โรงแรมมันเองเลยนี่....” ท่านรองฯพูด

“จะให้ผมไปรับหรือว่าพี่จะขับรถมาเองครับ”

“ข้าขับไปเองดีกว่า มันอยู่ใกล้บ้านพอดี ....เฮ้ยแต่งานนี้ไม่ฟรีนะโว้ย....ขอเป็นรถป้ายแดงซักคันดีกว่า....รับรองขนหน้าแข้งผู้อำนวยการธุรกิจในเครือประภาภูวดลคงไม่ร่วงหรอก” นครินทร์แกล้งทำเป็นเสนอขอของสมนาคุณ

“แน่นอนครับพี่ ถ้างานนี้สำเร็จ ผมจะส่งเบนซ์ป้ายแดงไปให้ บวกกับสาวๆในสังกัดผมอีกซีกสี่ห้าคน...เอาไว้คลายเครียดตลอดทั้งอาทิตย์ดีมั้ยครับ.....” ด้วยความดีใจ ยุทธจักรจึงติดสนบนทันที

“ว๊ะ..ไอ้นี่ท่าทางเอาจริงว่ะ.....รับปากแล้วน๊ะโว้ย.....”

“ขึ้นอยู่กับผลงานครับพี่....”ยุทธจักรดักคอ

“เออ.......ก็ได้ว๊ะ....”

“ว่าแต่ข้าต้องไปนอนแล้ว...ต้องเตรียมเก็บแรงไว้เล่นเทนนิสดีกว่า ถ้าแพ้เค้ามากๆเพราะหมดแรง อายเค้าว่ะ” นครินทร์รีบขอตัว

“ครับ..งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ เจอกันพรุ่งนี้สี่โมงเย็นครับ....สวัสดีครับ”

ยุทธจักรวางสายด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นพิเศษ เพราะอย่างน้อยพรุ่งนี้เขาก็จะได้หมากชั้นดีเอาไว้เดินในเกมรัก..ที่เขาคาดหวังว่าจะไม่มีทางแพ้อย่างเด็ดขาด

“ไข่ขาวเอ้ย...ช่วยเป็นกำลังใจกับเจ้านายแกด้วย....ให้เอาหัวใจคนคนนั้นมาให้ได้” แซมลูบหัวเจ้าไข่ขาวเบาๆ

ไข่ขาวคล้ายจะพยักหน้า รับทราบคำขอร้องของเจ้านาย ก่อนจะส่งแววตาหิวโหยอีกครั้งไปที่เจ้านายผู้ใจดีของมัน

“หิวอีกแล้วเหรอ...กินจุจังเรา....งั้นไปกินนมกันดีกว่า.....แล้วจะได้นอน” แซมก้มลงพูดกับไข่ขาว ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมาเพื่อพาเข้าไปในห้องครัว เขาจัดการเอานมและขนมปังออกจากตู้เย็น...ทั้งคู่ดื่มนมก่อนนอนจนหมด...เจ้าไข่ขาวได้ของแถมเป็นขนมปังแสนอร่อย.....

ทั้งสองชีวิตเข้านอนหลังจากนั้นไม่นาน และหลับไปอย่างมีความสุข



ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
มาให้กำลังใจคนเก่งครับ

หายงอนไวไว นะครับ

 :impress: :impress: :impress:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
กระดานหมากแห่งหัวใจจาเริ่มแล้ว.............. :angellaugh2: :angellaugh2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
กินขนมปังก่อนนอนด้วยเหรอ?
นมอย่างเดียวก็อิ่มแล้วม้าง  อิอิ..
เป็นกำลังใจ รอตอนต่อไปเหมือนเดิมกั๊บ  :yeb:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
หึๆ จะพิชิตใจจอมยุทธได้หรือเปล่าน้า อิๆ :kikkik:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
งานนี้สงสัยต้องวางหมากหลายชั้นหน่อย ถึงมีลุ้นชนะ  :kikkik:  :kikkik:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แซมสู้ๆๆ เผด็จศึกเลย
 :pandalaugh:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แซมจะชนะใจจอมได้มั้ยเน้อ  :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด