เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะว่ารักแท้......เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  (อ่าน 204762 ครั้ง)

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
จบบทที่ 9 แล้วครับ....

ต่อไปก็ตอนอวสาน.....

เมื่อก่อนเวปจะล่ม....กะว่าจะโพสต์บอกว่า....แต่งตอนอวสานเสร็จแล้วครับ.... และกะจะโพสต์ให้อ่านเลย....

แต่ตอนนี้กำลังเซ็ง.....กะว่าจะเล่นตัวซักหน่อยแล้ว......

ยังหงุดหงิดไม่หายน่ะครับ....อุตสาห์เร่งเขียน.....

เฮ้อ...... :serius2:

ไปล่ะครับ.... ไปทำใจก่อนครับ....

บายครับ

Andreas

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

...............เอาใขช่วยนะคับพี่จ๋อม.........สู้ๆ........ :give2: :give2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อืม  เสียดายความเห็นต่าง ๆ ด้วยอะ แงแง ขนาดไม่ใช่เจ้าของกระทู้นะเนี่ย  :monkeycry4:  :monkeycry4:

เอาใจช่วยจ๋อมคนเก่งจ้า  สู้สู้  :yeb:

KevinKung

  • บุคคลทั่วไป
รอเว็ปแก้เสร็จ อย่างใจจดใจจ่อ  :monkeysad:
หวังว่า จะได้อ่านตอนใหม่ ซะอีก  :monkeycry4:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
จ๋อมสู้สู้จ้า... :yeb:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
Kevin Kung ครับ....

ไอ้ที่โพสต์ตอนสุดท้ายนี่....มันก็ตอนใหม่นะครับ....

Andreas

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารออ่านต่อ มาให้กำลังใจคนเขียนด้วย  :loveu: :loveu: :loveu:



wee

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อก่อนเวปจะล่ม....กะว่าจะโพสต์บอกว่า....แต่งตอนอวสานเสร็จแล้วครับ.... และกะจะโพสต์ให้อ่านเลย....

แต่ตอนนี้กำลังเซ็ง.....กะว่าจะเล่นตัวซักหน่อยแล้ว......

ยังหงุดหงิดไม่หายน่ะครับ....อุตสาห์เร่งเขียน.....

 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
เข้ามาเป็นเพื่อนหงุดหงิดด้วยคนครับ ....เฮ้อ 
 แต่ อย่าพึ่งเล่นตัวน่ะครับ  อยากอ่านต่อ ตอนอวสาน ขอแบบหวานเจี๊ยบบบบ.... :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
มารอด้วยคนคับ  :yeb: :yeb:

สู้ๆ ค้าบบบ  :loveu: :loveu:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2: :angry2: :angry2:
อยากฆ่าพวกโรคจิต มาแฮกเวป

พี่จ๋อมสู้ๆคับผมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 :yeb: :yeb: :yeb: :yeb: :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
มานั่งรอตอนอวสานด้วยคน  :dont2:
อย่าว่าแต่คนแต่งเซ็งเลย คนอ่านก็เซ็งเหมือนกันล่ะ  :serius2:  :serius2:
กำลังตามอ่านเพลิน ๆ ก็ต้องมาขาดตอนซะงั้น  :angry2: 

เสียดายความคิดเห็นต่างๆ เนอะ  :dont2:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
I don't know what's happened…….

But I could not access this page yesterday.... that is why there is no new post....

How am I going to trust if I post and then everything’s gone with the wind again?....

Regards

Andreas

 :monkeysad: :monkeysad2: :monkeycry2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:  รอ และ ให้กำลังใจคนเขียน  :yeb:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
รอ ร้อ รอ อย่างใจจดใจจ่อ  :impress:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารอเหมือนกัน  :loveu: :loveu: :loveu:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :loveu: :loveu:

รอ ร๊อ รอ

รอความรักของแซมกะจอมมมมม

แล้วของพ่อเสือจะเจอใครมาเปิดประตูหัวใจที่ปิดตายมะเนี่ยยย

 :myeye: :myeye: :myeye:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
มารอด้วยคน  :เชิป2: :110011: :เชิป2: :110011:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อ้าว...งงๆ
ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันเพราะไม่มีเวลาว่างเลย
ยังกลัวอยู่เลยว่าสงสัยเรื่องคงจบแล้วแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าหายหมดซะงั้น
...
...
แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่ได้อ่านอยู่ดี
แค่เข้ามาให้กำลังใจคนแต่งและบอกให้รู้ว่ายังติดตามอยู่เหมือนเดิมนะจ๊า :yeb:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 10 บทสรุปของรักแท้

ข่าวคราวการจับกุมตัวพ่อเลี้ยงมงคลถูกนำขึ้นหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ตามมาด้วยการจับกุมผู้โยงใยในขบวนค้ายาเสพติดในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โดยมีรัฐมนตรี นายตำรวจ
ข้าราชการ และนายทหาร ติดร่างแหไปด้วยหลายคน

คดีดังนี้เริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบๆและเน้นการปฏิบัติการที่รวดเร็วประดุจสายฟ้า โดยกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดที่ควบคุมโดยนครินทร์ และการสนับสนุนจากทีมชุดปฏิบัติการที่สองของสำนักงานกองกำลัง (ร่วมพิเศษ)ฯ รวมถึงมีพันตำรวจโทหญิง (Lt. Col.) Maria K. Hertz และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญอีกสามคนเป็นผู้คอยประสานงานเรื่องการข่าว การดักฟังและติดตามสัญญาณทางโทรศัพท์ ตลอดจนการแปลความหมายของสัญญาณภาพถ่ายดาวเทียมต่างๆ 

ด้วยสาเหตุที่พ่อเลี้ยงมงคลสามารถปิดบังฐานะของเขาได้เป็นอย่างดีถึงหลายปี จึงทำให้นครินทร์สันนิษฐานว่า พ่อเลี้ยงมงคลคงมีเส้นสายทางการเมืองและทางตำรวจอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะกระจายข่าวการจู่โจมบุกเข้าจับกุมตัวในวงแคบที่สุด โดยมีการรับทราบกันในระดับสูงสุดขององค์กรเท่านั้น

ในวันเดียวกับการปฏิบัติการบุกชิงตัวประกันและการสลายกลุ่มนายพลลู่เซอ นครินทร์และผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนิทและไว้ใจได้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในชุดปฏิบัติการที่สอง ได้ร่วมมือกับมาเรียและเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษอีกสามคน ทำการฝังตัวในพื้นที่รอบคฤหาสน์ของพ่อเลี้ยงมงคล พร้อมทั้งดักฟังสัญญาณโทรศัพท์และวิทยุต่างๆ

เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ ณ. เวลาประมาณเกือบเจ็ดนาฬิกาตรง ข่าวเรื่องค่ายถูกโจมตีก็ถูกส่งผ่านมายังพ่อเลี้ยงมงคล หลังจากนั้นการติดต่อบุคคลระดับสูงในขบวนการก็เริ่มต้นขึ้น

สัญญาณการสื่อสารทั้งหมดถูกดักฟังและทำการบันทึก ตลอดจนค้นหาเป้าหมายผ่านดาวเทียมสื่อสาร โดยความร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารจากชุดปฏิบัติการที่สอง ทั้งหมดทำงานประสานกันอย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาชื่อและตำแหน่งของบุคคลที่พ่อเลี้ยงมงคลติดต่อทุกคน

จนกระทั่งการส่งข่าวทั้งหมดเสร็จสิ้น นครินทร์ได้รับข้อมูลที่เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานมัดตัวพ่อเลี้ยงมงคลได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงสั่งบุกจู่โจมเข้าจับกุมโดยทันที

พ่อเลี้ยงมงคลเดินลงมาจากเรือนไม้สักทองด้วยใบหน้าและกิริยาแสดงอาการเกรี้ยวกราดเต็มที่ เนื่องจากบ้านพักถูกบุกรุกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสีกากีและชุดคอมมานโดสีดำสนิท รวมถึงเห็นว่าลูกน้องถูกจับตาไว้หมดทุกคน

“คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร....ผมเป็นนักการเมืองท้องถิ่นนะ....คุณจะมาบุกรุกสถานที่ของผมโดยไม่มีหมายค้นและไม่แจ้งล่วงหน้าแบบนี้....พวกคุณเป็นใคร....แม้แต่ผู้กำกับนิพนธ์ยังต้องเกรงใจผม” พ่อเลี้ยงมงคลโวยวายใส่นครินทร์ โดยอ้างถึงผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่....พันตำรวจเอกนิพนธ์ กันสุระ

“อย่าโวยวายดีกว่าครับ....สงบสติอารมณ์ไว้ดีกว่า.... คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้การใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะถึงเวลาสอบสวน” นครินทร์กล่าวน้ำเสียงเย็น ไม่ใส่ใจกับท่าทีเกรี้ยวกราดและการยกตนข่มท่านของชายวัยกลางคนตรงหน้า

“ผมนายพันตำรวจโท นครินทร์ รองผู้กำกับการงานสืบสวนและปราบปรามยาเสพติด ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามคดียาเสพติดแห่งชาติ ให้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ประพฤติผิดฐานครอบครองและจำหน่ายวัตถุเสพติดร้ายแรง....... ในเวลานี้คุณคือผู้ต้องสงสัย...ส่วนจะเลื่อนขึ้นเป็นผู้ต้องหาหรือไม่....รออีกซักพักคงจะทราบเอง” นครินทร์อธิบายสั้น ไร้อาการนอบน้อมต่อนักการเมืองท้องถิ่นหน้าไหว้หลังหลอกคนนี้

นครินทร์ให้สัญญาณการปูพรมตรวจค้น โดยให้เจ้าหน้าที่สื่อสารขึ้นสืบหาหลักฐานเกี่ยวกับกับยาเสพติดในห้องทำงานของพ่อเลี้ยงมงคล รวมถึงให้เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งหาทางเปิดห้องใต้ดินบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านให้ได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของพ่อเลี้ยงถูกเรียกตัวมารวมกันในบริเวณด้านหนึ่งของสนามหน้าบ้าน แม้ว่านครินทร์จะทราบว่าพวกเขาต้องสมรู้ร่วมคิดกับพ่อเลี้ยงมงคลกระทำความผิดมาโดยตลอด แต่เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดหรือการสารภาพผิด ดังนั้นเขาจึงยังไม่สามารถสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแจมือพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งยี่สิบกว่าคนได้ จนกระทั่งเขาจะพบของกลางและแจ้งข้อหามีความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534

พ่อเลี้ยงมงคลยังคงเกรี้ยวกราดเพราะว่าคำขู่ไม่ได้ผล เขาเริ่มแสดงอาการวิตกกังวลมากขึ้น เนื่องจากดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้จะทราบว่าเขาและพวกได้ซุกซ่อนอะไรไว้ตรงไหนเป็นอย่างดี

“ผมจะโทรศัพท์เรียนผู้กำกับนิพนธ์....ให้ทราบว่ามีตำรวจบุกรุกเข้าบ้านผมโดยไม่มีหมายค้นและทำการดูหมิ่นศักดิศรีผม” พ่อเลี้ยงมงคลตะโกนบอกนครินทร์

“เชิญตามสบายครับ....ฝากเรียนท่านผู้กำกับด้วยว่า....ผมนายพันตำรวจโทนครินทร์เป็นคนนำกำลังมาเองครับ” นครินทร์พักจากการฟังรายงานทางเครื่องรับส่งวิทยุ หันหน้ามาบอกพ่อเลี้ยงพร้อมทั้งพยักหน้าให้นายตำรวจติดตามยื่นโทรศัพท์มือถือให้พ่อเลี้ยงเพื่อทำการติดต่อผู้กำกับนิพนธ์ ผู้ที่นครินทร์ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่ามีส่วนร่วมกับขบวนการค้ายาเสพติดนี้

นครินทร์เลิกใส่ใจกับพ่อเลี้ยงมงคล... เขามอบหมายให้นายตำรวจสองคนดูแลอย่างใกล้ชิดโดยไม่ให้เคลื่อนที่ไปไหนมาไหน แต่ก็ให้สามารถโทรศัพท์ติดต่อทนายความหรือคนที่ต้องการได้....

ตอนนี้นครินทร์ต้องหันมาให้ความสำคัญกับข้อมูลต่างๆ ที่ส่งผ่านเข้ามาทางวิทยุสื่อสาร ทั้งเรื่องการถอดรหัสคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผู้ต้องสงสัย การค้นพบห้องใต้ดินขนาดใหญ่บริเวณกลางสวน และความพยายามในการเปิดห้องลับดังกล่าว

มาเรียทำงานประสานกับนครินทร์ เธออยู่ข้างตัวนครินทร์ตลอดเวลา โดยรับฟังข้อมูลต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นเธอจึงให้ข้อแนะนำ เพื่อช่วยการค้นหาและเก็บหลักฐานต่างๆ

ในที่สุดด้วยความพยายามและการร่วมมือกันของหลายๆฝ่าย ห้องลับใต้ดินก็ถูกเปิดออก พร้อมกับอาการกระสับกระส่ายของพ่อเลี้ยงมงคล....รวมถึงกิริยาแปลกๆของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ถูกควบคุมตัวไว้.... มาเรียสังเกตเห็นสัญญาณร่างกายต่างๆ ถูกส่งผ่านถึงกัน

ผู้พันสาวสวยจับตามองดูอยู่โดยตลอด จนกระทั่ง...

“หมอบลง” มาเรียร้องบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนประจำอยู่กลางสนาม พร้อมกับฉุดนครินทร์ให้นอนราบลงกับพื้น ก่อนกระสุนปืนจะถูกยิงตรงมา โดยมีจุดเริ่มต้นคือจากกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นั่งรวมกันอยู่บริเวณด้านหนึ่งของสนาม

ลูกน้องของนครินทร์ที่เฝ้าอยู่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่ชายฉกรรจ์ทั้งหมดเกือบยี่สิบคนนั้น ในตอนนี้ต่างมีอาวุธปืนสั้นอยู่ในครอบครอง พวกเขาวิ่งเข้าหาที่กำบังและพยายามยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการหลบหนีออกจากการจับกุม เนื่องจากพอจะทราบแล้วว่าหลักฐานทั้งหมดถูกเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ได้แล้ว... ทางเดียวที่จะพ้นคุกคือต้องพยายามหลบหนีออกไปให้ได้

มาเรียจับตามองพ่อเลี้ยงมงคลที่ยังอยู่ในความคุ้มครองของนายตำรวจอีกสองคน แต่บริเวณดังกล่าวก็ยังเสี่ยงต่อการถูกกระสุนลูกหลง เธอและนครินทร์หันหน้าหากันเพื่อส่งสัญญาณ หลังจากนั้นจึงวิ่งตรงไปยังบริเวณที่พ่อเลี้ยงมงคลหลบอยู่ เพื่อคุ้มกันและพาออกมายังที่ปลอดภัยมากขึ้น

“Lt. Col. ดิฉันมีข้อเสนอ ในการจัดการสถานการณ์นี้ค่ะ.....” มาเรียกรอกเสียงลงไปในเครื่องรับส่งวิทยุติดตามตัวหลังจากพาพ่อเลี้ยงมงคลออกมาจากบริเวณอันตรายได้แล้ว

“เชิญครับ... Lt. Col.”

“ดิฉันเสนอให้หยุดยิงก่อนค่ะ......ดิฉันคิดว่าพวกเขาคงต้องการจะหลบหนีออกไปทางด้านหลังของบ้านซึ่งเป็นทุ่งนากว้าง.....ดิฉันมีแผนรับมือสำหรับสถานการณ์นี้ค่ะ” มาเรียบอกข้อเสนอไปอย่างรวดเร็วเพื่อแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่อันน้อยนิด

“ครับ....เชิญ Lt. Col. จัดการได้เลยครับ” นครินทร์ค่อนข้างจะไว้ใจในความคิดของมาเรีย ประกอบกับการที่เธอสามารถก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษขององค์การสหประชาชาติได้นั้น...พันตำรวจโทสาวสวยคนนี้คงมีคุณสมบัติพิเศษมากพอสมควร

“ทุกหน่วย....กรุณาหยุดยิง.....เข้าประจำที่รอคำสั่ง” สิ้นคำสั่งของมาเรีย เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงลดอาวุธลงทันที

“Carolina....... Steven และ Xavier เชิญพบดิฉันที่รถด่วนค่ะ....ดิฉันขออาสาสมัครนักแม่นปืนจากชุดปฏิบัติการที่สอง จำนวนสามนาย สแตนบายพร้อมรับคำสั่งค่ะ”

เจ้าหน้าที่ทั้งสามนายพร้อมทั้งมาเรียวิ่งออกจากจุดที่มั่น มุ่งตรงไปยังรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ศิวะให้ยืมมาใช้ตั้งแต่เมื่อวานทันที

มาเรียเปิดประตูท้ายรถออก พร้อมทั้งปลดล็อกบริเวณพื้นรถ เผยให้เห็นปืนยาวอัตโนมัติยิงไกลจำนวนทั้งสิ้นห้ากระบอกซุกซ่อนไว้อย่างมิดชิด เจ้าหน้าที่ทุกนายจัดการประกอบปืนและบรรจุลูกกระสุนลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรอรับคำสั่งอีกครั้ง

“เราจะเล่นเกมส์ล่าหนูกันเล็กน้อย” มาเรียบอกรหัสภารกิจสั้นๆ เป็นอันที่เข้าใจกัน

“หน่วยเฝ้าระวังกรุณารายงานสถานการณ์ด้วยค่ะ” มาเรียออกคำสั่งอีกครั้ง

“คนร้ายได้หลบหนีออกไปทางด้านหลังบ้านหมดแล้วครับ....” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตอบกลับมา....

“ขอบคุณค่ะ....เอาล่ะ.....เรามีเวลาไม่มาก....เราต้องล้มพวกที่อยู่ในทุ่งนาให้หมด ภายในห้านาที.....โอเคมั้ย” ประโยคหลังมาเรียหันมาพยักหน้ากับเพื่อนๆทั้งสามคน

“เจ้าหน้าที่อาสาสมัครชุดปฏิบัติการที่สอง...กรุณาเคลื่อนประชิดกำแพงบ้านด้านหลัง.....เรามีเวลาไม่เกินห้านาทีในการจัดการหยุดการเคลื่อนที่พวกหลบหนี” พันตำรวจโทหญิงออกคำสั่งอีกครั้ง ก่อนที่เธอและพวกอีกสามคนวิ่งตรงไปยังกำแพงหลังบ้าน เพื่อเข้าประจำตำแหน่งด้วยเช่นกัน

ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที เจ้าหน้าที่ทั้งเจ็ดคน พร้อมด้วยอาวุธปีนยาวอัตโนมัติครบมือ เข้าประจำที่จุดยิง และเริ่มทำการยิงไกลโดยมีเป้าคือชายฉกรรจ์ที่กำลังวิ่งหลบหนี อย่างกระจัดกระจายไปตามทุ่งนากว้าง ด้านหลังบ้าน

ก่อนเริ่มทำการยิง มาเรียกำหนดให้เจ้าหน้าที่ทุกคนยิงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่า Immobilization เท่านั้น โดยหลีกเลี่ยงการวิสามัญฆาตกรรมให้น้อยที่สุด

เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับตัวเลขถูกนับขึ้นทุกครั้งที่กระสุนถูกเป้าหมาย แม้ว่าชายฉกรรจ์เหล่านั้นจะพยายามทิ้งตัวลงนอนราบกับพื้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจากระยะห่างของพวกเขากับจุดที่นักแม่นปืนทั้งเจ็ดคนประจำที่อยู่นั้นอยู่ในวิถีกระสุนพอดี รวมถึงความสูงของรั้วกำแพง ก็ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเห็นคนที่หมอบอยู่ได้ค่อนข้างชัดเจน.... เว้นเสียแต่ว่า มีบางบริเวณที่ต้นหญ้าขึ้นปกคลุมหนาแน่น ซึ่งอาจช่วยให้การกำบังมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“สิบสาม” เสียงของมาเรียดังขึ้นหลังจากกระสุนสัมผัสเป้าหมาย

“สิบสี่.....สิบห้า.....” ตัวเลขอื่นๆ ถูกนับดังต่อมา

“เหลืออีกเท่าไหร่” มาเรียถาม

“สี่คนครับ” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่สองรายงาน

“โอเค....ตาม” มาเรียออกคำสั่งสั้นๆ ก่อนจะกระโดดลงจากกำแพงที่สูงกว่าสามเมตร ลงไปบนพื้นดิน

เจ้าหน้าที่อีกหกคนที่เหลือจึงกระโดดตาม และเข้าประจำตำแหน่งระนาบเพื่อปูพรมค้นหา คนที่ยังหลบหนีอยู่

“Lt. Col. ดิชั้นต้องการแบคอัพ.....ในระยะสองร้อยเมตร เพื่อเตรียมขนย้ายผู้บาดเจ็บค่ะ” มาเรียเรียกไปยังนครินทร์ที่กำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บางส่วนในการหาทางเปิดห้องลับใต้ดิน

“ครับ...Lt. Col. ผมจะส่งกำลังเสริมเข้าประจำตามที่ต้องการครับ”

นครินทร์ประสานงานงานต่อไปยังผู้ช่วยของเขาเพื่อจัดหากำลังพลดังกล่าว พร้อมทั้งหน่วยแพทย์และพยายาบาลเคลื่อนที่เพื่อเตรียมทำการเคลื่อนย้ายและปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเข้าสู่การรักษา ก่อนจะเตรียมทำการแจ้งข้อหาและสอบสวนขยายผลต่อไป

ภารกิจล่าหนูเสร็จสิ้นลงภายในเวลาไม่นาน มาเรียและเจ้าหน้าที่อีกหกคนปล่อยให้เจ้าหน้าที่สนับสนุนจัดการงานที่เหลือ ก่อนจะกลับมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการค้นหาหลักฐานอีกครั้ง...

ประตูห้องลับใต้ดินก็ถูกเปิดออกในที่สุดหลังจากที่ต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการพยายามดังกล่าว โดยภายในมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่หลายรายการ ทั้งยาบ้า เฮโรอีน และอาวุธสงครามต่างๆ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวก็สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเครือข่ายบุคคลที่กระทำความผิดร่วมกับพ่อเลี้ยงมงคลจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกซุกซ่อนไว้อย่างดีในห้องทำงาน

เวลานี้ด้วยหลักฐานที่มัดตัวอย่างแน่นหนา นครินทร์จึงแจ้งข้อหาพ่อเลี้ยงมงคลทันที

“คุณถูกจับในข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด และอาวุธสงคราม....ผมจำเป็นต้องนำตัวคุณเข้าระบบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”

สิ้นเสียงของนครินทร์...พ่อเลี้ยงมงคลจึงถูกใส่กุญแจมือ และถูกควบคุมตัวไว้

การโยกย้ายกำลังพลเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ภาระหลักๆเสร็จสิ้นไป นครินทร์สั่งการให้สารวัตรสืบสวนฯและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เริ่มทำการสอบสวนสมาชิกที่เหลือภายในบ้าน และทำงานร่วมกับสารวัตรปราบปรามเพื่อกำหนดเขตพื้นที่เกิดเหตุและเรียกกำลังเสริม โดยไม่อนุญาตให้มีการเข้าออกบ้านหลังนี้จนกว่าจะได้รับคำสั่งเปลี่ยนแปลง

หลังจากได้รับข้อมูลทั้งหมด.....นครินทร์ต้องทำงานแข่งกับเวลาอีกครั้ง เพราะข้อมูลที่ได้มาเป็นรายชื่อของผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในบ้านเมืองพอสมควร ทั้งนายทหาร ตำรวจ และข้าราชการการเมืองระดับรัฐมนตรี.... เขาต้องเร่งส่งผ่านข้อมูลดังกล่าวไปยังรองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อประสานงานกับหน่วยพิเศษเพื่อติดตามและจับการเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ หรือทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญๆ ต่างๆ

แม้ว่าจะมีหลักฐานเบื้องต้นอย่างแน่ชัด ทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลอย่างพ่อเลี้ยงมงคล แต่นครินทร์ก็ระลึกไว้เสมอว่า คนใหญ่คนโตเหล่านั้นมีเส้นมีสายพอสมควร ที่จะทำให้หลุดออกจากคดีนี้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมหาหลักฐานเพิ่มเติม.....เพื่อไม่ให้คนชั่วเหล่านั้นลอยนวล

ด้วยความช่วยเหลือจากมาเรียในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและเพื่อนอีกสามคน โดยใช้ระบบฐานข้อมูลของตำรวจสากลเข้าสืบค้นข้อมูลหมายเลขบัญชีและการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินในธนาคารต่างประเทศของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีตำแหน่งใหญ่โตในสังคม รวมถึงขออนุญาตธนาคารต้นสังกัดเป็นการเร่งด่วนนำข้อมูลดังกล่าวเพื่อประกอบการพิจารณาคดีความ ทำให้นครินทร์ได้หลักฐานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาไม่ถึงสองวัน พร้อมกันนั้นก็ได้รับข้อมูลการร่ำรวยผิดปกติที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของสำนักงานกองบัญชาการ(ร่วมพิเศษ)ที่จัดหามาให้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ข้อมูลทุกอย่างตรวจสอบและทำการประติดประต่อเข้าด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของศิวะและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนถูกร้องขอมาเป็นการเฉพาะเพื่อช่วยให้หลักฐานที่ได้รับมาทั้งหมด มีความหนักแน่นและนำไปสู่ชัยชนะบนศาล

ตลอดการทำงานวิเคราะห์และเชื่อมโยงหลักฐานทั้งสิ้นสองวันเต็ม นครินทร์รับรู้ถึงความฉลาดรอบคอบ....ความเอาใจใส่ต่อหน้าที่ และระเบียบวินัยของศิวะได้เป็นอย่างดี ไม่รวมถึงการจัดการข้อมูลที่เป็นขั้นเป็นตอน และทำการแจกจ่ายงานให้เจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อดำเนินงานนี้โดยเฉพาะ ตลอดจนการให้ข้อสรุปที่ตรงประเด็นและมีน้ำหนัก

นครินทร์รับทราบโดยปราศจากข้อสงสัยเลยว่าเหตุใดศิวะถึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษและสามารถเชื่อมโยงความสามารถของเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สัญญาณไฟเขียวจากท่านผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดให้ดำเนินหน้าที่ตามที่เห็นชอบและเหมาะสมถูกส่งผ่านมายังนครินทร์โดยตรงและผู้บังคับบัญชาระดับสูงถัดๆขึ้นไป เพื่อให้การจัดการคดีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปราศจากการแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพลในเครื่องแบบสีเดียวกัน นอกจากนั้นผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังเรียกตัวนครินทร์ให้เข้าพบเพื่อรายงานความก้าวหน้าและหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ เป็นระยะเวลาถึงสองชั่วโมงเต็ม

นครินทร์เรียนผู้บัญชาการฯไปตามตรงว่าเขาไม่สามารถจัดการเรื่องข้อมูลต่างๆได้รวดเร็วขนาดนี้ถ้ามิได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลรวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยรบพิเศษจากสำนักงานองค์การสหประชาชาติที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลระดับนานาชาติได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถอ้างถึงชื่อของศิวะได้ แต่เขาคิดว่าท่านผู้บัญชาการฯคงพอจะทราบแล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังแห่งข้อมูลที่หนักแน่นนี้คือใคร

“ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะโชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากสำนักงานตำรวจสากลรวมถึงหน่วยรบพิเศษจากองค์การสหประชาชาติ.....ผมทราบดีว่าพวกหน่วยรบพิเศษปฏิบัติตัวโลว์โพรไฟล์มาโดยตลอด จนกระทั่งผมไม่กล้าแม้เพียงจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณ....เพราะคิดว่าพวกเขาคงตอบปฏิเสธ...... ผมคิดว่าผมคงต้องฝากขอบคุณผ่านคุณไป ไม่นับรวมที่ผมจะทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปอีกที....ผมฝากเรียนหัวหน้าหน่วยรบพิเศษด้วยว่า....ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน....ผมชื่นชมเขามาก..ชื่นชมจากใจจริง.....และภูมิใจในผลงานของเขาทุกๆด้าน” ท่านผู้บัญชาการกล่าวฝากนครินทร์ก่อนที่การพบปะจะสิ้นสุดลง

หลังจากการเข้าชี้แจงท่านผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด การจับกุมตัวผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจึงถูกเร่งรัดออกมาเป็นรูปธรรมภายในวันเดียวกัน

นครินทร์สิ้นสุดหน้าที่ภายในระยะเวลาไม่นานภายหลังที่หลักฐานและผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการตัดสินของศาลสถิตยุติธรรม

การปฏิบัติการครั้งนี้....นครินทร์ไม่ได้หวังว่าคนชั่วเหล่านั้นจะถูกตัดสินตามความผิดที่ก่อขึ้น....แต่เขากลับมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซนต์ว่า.....ทุกอย่างไร้ช่องโหว่ใดๆ..... คนชั่วเหล่านั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
กวาดล้างให้สิ้นซาก  :โหลๆ:
ยาเสพติด คนติดตาย คนขายก็ตายด้วย  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

 :yeb:

KevinKung

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะค้าบ ที่มาโพสให้อ่าน  :yeb:

(ปูเสื่อ นั่งรอตอนต่อไป)  :laugh3:

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
ฐานทัพเรือสัตหีบ...ชลบุรี

จอมยุทธ์มีอาการดีขึ้นตามลำดับหลังเวลาผ่านไปเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ของการพักฟื้นภายในเซฟเฮ้าส์ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ติดชายทะเลของกองทัพเรือ โดยมีลักษณะเป็นบ้านหลังบ้านหลังใหญ่สีขาวสะอาดตา แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่น้อย และแยกออกมาเป็นสัดส่วนจากบ้านพักของทหารเรือ แต่ก็มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันระหว่างกองทัพเรือและสำนักงานกองบัญชาการ (ร่วมพิเศษ)ฯ

กิจวัตรประจำวันของจอมยุทธ์ในช่วงแรกๆ คือการนั่งรถเข็นออกรับชมทัศนียภาพในตอนเช้าและตอนเย็น โดยที่คริสเป็นคนจัดตารางและรับผิดชอบการเข็นรถด้วยตนเอง ไม่รวมถึงการทำกายภาพบำบัด.....ทำจิตให้ให้ปลอดโปร่ง และโทรศัพท์หาหลานชายตัวน้อยทุกวัน

แม้ว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยโดยทหารเรือ แต่พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ก็ยังคงมอบหมายให้ยุทธจักรและเจ้าหน้าที่อีกสี่คนอยู่ประจำเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกต่างๆให้จอมยุทธ์ คริส และเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดและพยาบาลที่ตามมาปฏิบัติหน้าที่

ยุทธจักรดูจะเงียบขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เขากำลังรอเวลาและจังหวะสำคัญที่จะบอกความในใจให้จอมยุทธ์ได้รับรู้

“ผมสมควรจะเดินหน้าต่อไปใช่มั้ยครับ.....เพื่อความรักของผม.....เพื่อคนที่ผมรัก...ใช่มั้ยครับ.......” ยุทธจักรมักถามขึ้นลอยๆ ในใจหลายครั้ง...... และทุกครั้งจิตใต้สำนึกของเขาก็จะถ่ายทอดเสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่ง..... ที่คอยย้ำเสมอว่า....

“อย่าท้อนะครับ......ไม่มีอะไรสำคัญไปว่า....ความรักที่คุณมอบให้จอมหรอกครับ......”

ยุทธจักรจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า....ช่วงขณะที่เขาหลับลึกเพราะการเหนี่ยวนำอุณหภูมิของร่างกายเพื่อให้เลือดได้มากกว่าปกตินั้น เขาได้เดินทางไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง..... ที่มีสายลมเย็น.....กลิ่นหอมจางๆของดอกไม้นานาพันธ์..... ทัศนียภาพที่งดงาม.....และชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่ากำลังรอคอยการปรากฏตัวของเขา

ทุกอย่างเหมือนภาพฉายต่อเนื่อง.....เรียบง่าย....แต่ก็ซาบซึ้งไปทั้งหัวใจ.........

“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มผมยาว...... เครื่องหน้าคมเข้ม...แต่ถูกตัดด้วยความหวานของดวงตา......ความหวานที่เขาเหมือนจะเคยได้สัมผัสมาก่อนล่วงหน้า..... แต่งกายในชุดสีขาวเอ่ยทัก

“สวัสดีครับ.....ที่นี่ที่ไหนครับ....” ยุทธจักรจำได้ว่าเขาทักกลับไป รวมถึงถามคำถามต่อมา

“อยู่ที่ไหนอาจจะไม่สำคัญเท่ากับว่า....เรากำลังจะคุยกันในเรื่องของหัวใจกระมังครับ.....”หนุ่มผมยาวเลือกที่จะยื่นคำถามกลับไป

ผู้รับฟังเช่นยุทธจักรถอนหายใจ..... เป็นดังเช่นชายหนุ่มคนตรงหน้าพูดมาจริง..... เรื่องของหัวใจเขาสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด....โดยเฉพาะเมื่อความเชื่อมั่นทุกอย่างกำลังถูกสั่นคลอน....ความท้อแท้กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ.....

“ท้อหรือครับ.....” ชายหนุ่มเอ่ยถามประโยคต่อมาอีกครั้ง......หนุ่มผมยาวที่แม้แปลกหน้า....แต่ความรู้สึกของยุทธจักรบอกว่าคุ้นเคย....เขามั่นใจว่าเขาเคยเห็นดวงตาหวาน...สวยคู่นั้นมาก่อน....

ยุทธจักรแปลกใจในคำถามนั้น.....คำถามที่ตรงกับความเป็นจริงทุกประการ

“ครับ......” ยุทธ์จักรตอบกลับไป.....เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกไว้ใจชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งนัก จนกระทั่งนำไปสู่ประโยคสนทนาต่อมา

“ความมั่นใจของผมกำลังถูกสั่นคลอนด้วยความจริงที่ว่า....คนที่ผมรักนั้นอาจอยู่สูงส่งเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมถึงครับ.....เขามีทุกอย่างที่เหนือกว่าผม” 

“ผิดแล้วครับ......ทุกอย่างเป็นภาพลวงตาทั้งสิ้น.....ลึกลงไปในหัวใจต่างหากครับ.....คือความเป็นจริง.....” หนุ่มผมยาวแย้ง ก่อนจะพูดประโยคถัดมาที่ทำให้คนฟังอย่างยุทธจักรต้องแปลกใจอีกครั้ง

“จอม......น้องชายของผม......ไม่ได้อยู่สูงเกินไปหรอกครับ....ในทางตรงกันข้าม......เขากลับอยู่ลึกลงไปในหุบเหวแห่งความอ้างว้างและเดียวดาย......มันเป็นโศกนาฏกรรมที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น....จอมปิดประตูหัวใจมานานเหลือเกินครับ.....นานจนกระทั่ง.....ความเย็นชากำลังจะกลืนกินไปทั้งหมด...... โดยปกติจอมเป็นคนเข้มแข็ง.....แต่ในเรื่องของหัวใจ.....เขาอ่อนแอเหลือเกิน.....” หนุ่มผมยาวทิ้งจังหวะนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ

“จนกระทั่ง....พวกเราพบคุณ......ดวงอาทิตย์แห่งรัก......คือคำนิยามของความอบอุ่นที่คุณนำมาพร้อมกับหัวใจของคุณ....รวมถึงความแข็งแกร่งของสองมือ....ที่อาจจะช่วยฉุดน้องชายที่ผมรักยิ่ง....ขึ้นมาจากหุบเหวนั้นได้....... ขอเพียงแค่คุณอย่าท้อ.....จอมไม่ได้เก่งไปหมดทุกเรื่องหรอกครับ.....โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ...เขาต้องการคนที่มั่นคง.....คนที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะอยู่เคียงข้างเขา....และสร้างความเชื่อมั่นให้เขาทราบอีกครั้งว่า......ดวงอาทิตย์แห่งรักนั้นอบอุ่นเพียงใด......” หนุ่มผมยาวพูดจบประโยค

“ทำไมถึงทราบว่าคนที่ผมรักคือจอมล่ะครับ” ยุทธจักรตั้งคำถาม.....

“เพราะผมทราบว่าคุณคือพันตำรวจตรียุทธจักร ประภาภูวดล.......งัยครับ....” หนุ่มผมยาวตอบไม่ตรงคำถามอีกตามเคย

“ผมยังไม่เข้าใจครับ....ทำไมคุณถึงบอกว่าจอมกำลังอยู่ในหุบเหวแห่งความอ้างว้างล่ะครับ.....อะไรคือโศกนาฏกรรมรักที่เกิดขึ้นครับ.....” ยุทธจักรตั้งคำถามอีกครั้ง

“เมื่อคุณพร้อม.....เมื่อใดก็ตามที่คุณลุกขึ้นสู้กับความสั่นคลอนในหัวใจอีกครั้ง.....ถามคำถามนี้แก่จอมนะครับ.....ผมมั่นใจว่าคุณจะได้คำตอบที่คุณต้องการ...... แต่ถ้าคุณถอยหนีเสียตั้งแต่วันนี้....คุณจะไม่มีวันได้รับคำตอบใดๆ....รวมถึงหนทางรักของคุณกับจอมคงจบสิ้นลงไปพร้อมๆกัน.....

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมดครับ.....อย่าท้อนะครับ....ไม่มีอะไรสำคัญไปว่า....ความรักที่คุณมอบให้จอมหรอกครับ......มันจะเป็นตัวผลักดันให้ชีวิตของคุณก้าวต่อไปอย่างมีความสุข......และมันอาจจะช่วยเปลี่ยนความโศกเศร้าในใจของจอม...ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง.....เหมือนในอดีตที่ผ่านมา.....ผมขอร้องนะครับ.....ช่วยจอมด้วย.....” ในชั่วขณะหนึ่งยุทธจักรเห็นแววตาเศร้าคู่นั้น เขารู้สึกเจ็บหัวใจอย่างประหลาด ถ้าความเศร้าที่จอมยุทธ์กำลังเผชิญอยู่นั้น มีความเจ็บปวดเท่ากับที่เขากำลังรับรู้อยู่ในตอนนี้....เขาก็พร้อมที่จะช่วยกำจัดมันให้หมดสิ้นไป.....

“ผมจะพยายามครับ......จอมคือรักแรกของผม...และคิดว่าจะเป็นรักครั้งสุดท้ายครับ..... ขอบคุณครับ.....ขอบคุณที่ช่วยให้ผมระลึกถึงความเป็นจริงข้อนี้..... “หัวใจของยุทธจักรเข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง.... ความสั่นคลอนในหัวใจที่เกิดขึ้นมันเริ่มจางหายไป....... ความภูมิใจในตนเอง....ความรู้สึกอยากปกป้องคนสำคัญของดวงใจ....ย้อนกลับมาหาเขาอีกครั้ง......

ยุทธจักรสูดลมหายใจเข้ายาวๆ...... เรียกความมั่นใจทั้งหมดกลับคืนมา

“ดวงอาทิตย์แห่งรัก......” นายตำรวจหนุ่มคิดถึงคำนี้ในใจ เขาจะไม่ท้ออีกแล้ว..... เขาต้องสู้....

“หน้าที่ของผมคงหมดลงเพียงเท่านี้แล้วครับ.....ขอบคุณครับ....ขอบคุณที่ช่วยตอกย้ำว่า.....เรามองคุณไม่ผิด......คุณคือคนที่เหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจของน้องชายของผม......”หนุ่มผมยาวพูดเป็นนัยอีกครั้ง..... 

“เหนือสิ่งอื่นใด....ขอบคุณที่ให้ชีวิตของจอมครับ....ถ้าไม่ได้คุณ....จอมคงแย่......” หนุ่มผมยาวกล่าวจบประโยค ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังค่อยๆเลือนหายไป....คงเหลือแต่ประโยคสนทนาที่ตราตรึงลงไปในหัวใจของยุทธจักร.... ความรู้สึกอิ่มเอิบใจถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างช้าๆ เป็นละลอกคล้ายกับจะพัดพาเอาความสุขทั้งมวลเข้าสู่หัวใจของเขา.....ยุทธจักรรับรู้ได้โดยจิตใต้สำนึกว่า....นี่คือความรู้สึกของคำว่า...ขอบคุณ....ที่ชายคนนั้นส่งผ่านมา.....



ยุทธจักรเฝ้ามองพัฒนาการทางร่างกายของจอมยุทธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังการทำกายภาพบำบัดเพียงแค่กว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ในตอนนี้จอมยุทธ์สามารถลงไปเดินเล่นบนชายหาดด้วยตนเอง โดยมีเขาและคุณหมอคริสตามประกบอยู่โดยตลอด

จอมยุทธ์ดูจะร่าเริงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะว่าหลานชายตัวน้อยปลอดภัยแล้ว รวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับยุทธจักรก็ดูเหมือนจะคืบหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ....กำแพงที่เขาสร้างไว้ในตอนแรกเริ่มหายไป.....ระยะห่างระหว่างเขากับนายตำรวจหนุ่มหดสั้นลงทุกที....จนกระทั่งยุทธจักรไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเขาอีกต่อไป....

เพราะอย่างน้อย...จอมยุทธ์ก็ตระหนักดีว่า....เลือดที่กำลังไหลเวียนผ่านหัวใจของเขา....ส่วนหนึ่งมาจากชายหนุ่มหน้าเข้มร่างสูงคนที่กำลังดูแลความปลอดภัยของเขาอยู่

คริสที่รับทราบมาตั้งแต่ต้นว่านายตำรวจหนุ่มหลงรักจอมยุทธ์ ดังนั้นเขาจึงมักเปิดโอกาสให้ทั้งสองหนุ่มอยู่ด้วยกันตามลำพังเสมอๆ เพื่อให้ทั้งสองหนุ่มมีโอกาสเรียนรู้กันให้มากขึ้น

ในช่วงนี้ยุทธจักรต้องคอยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษที่เดินทางมาเยี่ยมจอมยุทธ์ก่อนจะกลับไปประจำหน้าที่อีกครั้งตามประเทศต้นสังกัด เพราะศิวะและอเล็กซ์สั่งสลายกำลังหลังจากที่ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัว รวมถึงนายพลลูเซอที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมขณะหลบหนีไปตามเส้นทางตอนใต้ของแม่น้ำสาละวิน

เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษเดินทางมาเป็นกลุ่มๆ เพื่อไม่ให้เกิดความลำบากในการประสานงานมากนัก เจ้าหน้าที่บางคนหากติดภารกิจเร่งด่วนก็จะใช้วิธีเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ในการล่ำลาและสอบถามความคืบหน้ากับจอมยุทธ์โดยตรง ซึ่งก็ทำให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น

หลังจากนี้เป็นต้นไป จอมยุทธ์จะมีเวลาฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายทั้งสิ้นสามเดือน หลังจากนั้นต้องเข้ารับการทดสอบจากเจ้าหน้าทีที่ได้รับมอบหมายจากพันเอก (Col.) Benjamin W. Stutz  ผู้รั้งตำแหน่ง 2nd  in Command to the Detachment Commander ก่อนจะกลับเข้าประจำตำแหน่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการบราโว่อีกครั้ง ... การทดสอบดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญยิ่งและทรหดพอสมควร ดังนั้นจอมยุทธ์จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด
 
ศิวะพาภูฟ้ามาเยี่ยมในตอนปลายสัปดาห์ที่สามของการพักฟื้น เนื่องจากโรงเรียนของภูฟ้าหยุดในช่วงคริสมาสจนกระทั่งถึงปีใหม่ คุณพ่อหนุ่มจึงได้จังหวะพาภูฟ้ามาจากเชียงใหม่ได้ 

หลานชายตัวน้อยดูจะดีใจมากเป็นพิเศษที่ได้พบอาจอมที่รัก ภูฟ้าอยู่ติดกับจอมยุทธ์ไม่ห่าง รวมถึงคอยเอาอกเอาใจสารพัด

ยุทธจักรและคนอื่นๆรับรู้ถึงสายสัมพันธ์รักที่แน่นแฟ้นยิ่งของครอบครัวนี้....ครอบครัวที่มีเด็กน้อยน่ารักอย่างภูฟ้าเป็นศูนย์รวมของดวงใจ.... ศิวะ...จอมยุทธ์...และคริส.....ได้แสดงออกถึงความรักที่ไม่มีขีดกำจัดให้กับภูฟ้า.....

ความเป็นจริงทุกอย่างยังคงคลุมเครือสำหรับยุทธจักร ทั้งเรื่องนามสกุลของภูฟ้าที่มาจากสองครอบครัว....เรื่องที่ศิวะเป็นบิดาของภูฟ้าทั้งๆที่คุณปู่และคุณย่าของภูฟ้ายังมีชีวิตอยู่.....ไม่นับความรู้ใหม่ที่ว่าคริสคือ god father ของภูฟ้า...... ทุกสิ่งนั้นดูน่าสนใจสำหรับเขาไม่น้อย.....

การปรากฏตัวของศิวะและภูฟ้าช่วยทำให้บรรยากาศของเซฟเฮ้าส์สดชื่นและแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา รวมถึงช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจอมยุทธ์กับยุทธจักรให้ดีขึ้นไปอีกขั้น แต่กระนั้นยุทธจักรก็ยังไม่มีจังหวะที่เอ่ยบอกความในใจของเขาให้จอมยุทธ์ได้รับรู้....

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
เวลาผ่านไปหลายวัน.....จนกระทั่งยุทธจักรได้มีโอกาสอยู่ตามลำพังกับจอมยุทธ์ในตอนสาย หลังจากที่ศิวะและ
คริสพาภูฟ้าออกไปชมพิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเล

จอมยุทธ์แต่งกายในชุดสบายๆประกอบด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เดินลงจากบ้านพักมุ่งหน้าสู่หาดทรายสวยริมทะเล โดยมียุทธจักรในชุดคล้ายๆกันตามลงไปด้วย

ทั้งสองหนุ่มเดินคู่กันไปเรื่อยๆ ผ่านสายลมเอื่อยๆที่พัดเขาหาฝั่งโดยตลอด

“จอมครับ....ผมมีเรื่องจะบอกกับจอมครับ” ในที่สุดยุทธจักรก็ได้เวลาเอ่ยความในใจของเขา

“ครับ....มีอะไรหรือครับ....” จอมยุทธ์ที่เดินนำหน้าอยู่หันหน้ากลับมา

“ผมรักจอมครับ....” ประโยคสั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งหลุดออกไปจากนายตำรวจหน้าเข้มในทันที....แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็กระแสเสียงก็มั่นคง.....

แม้จะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า....แต่พอถึงคราวที่ได้ฟังประโยคนี้จริงๆ กลับใจหาย..... จอมยุทธ์ประสานสายตาของเขาเข้ากับสายตาของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า....คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้.....และถอนหายใจเบาๆ

“ขอบคุณครับพี่แซม.....” จอมยุทธ์หยุดพักนาน....หันหน้าออกไปทางทะเลกว้าง.....ก่อนพรั่งพรูประโยคต่อมา

“พี่แซม....เคยมีอดีตที่สวยงาม....แสนหวาน.....แต่จบลงด้วยความเศร้าจนหัวใจแทบสลายมั้ยครับ....” จอมยุทธ์ยังคงหันหน้าออกทะเล....รับสายลมเย็น.....ที่แสนจะเดียวดาย....

“ไม่เคยครับ....”คำตอบดังออกมาจากยุทธจักร

“แต่ผมมีครับพี่แซม.....อดีตของผมงดงาม....แต่ก็เจ็บปวดจนแทบขาดใจ.....มันเป็นความหลังที่ผมไม่สามารถกำจัดมันออกจากหัวใจที่ด้านชาของผมได้.....”

“ครึ่งหนึ่งของหัวใจของผม...ถูกครอบครองโดยอดีตที่เกิดขึ้น....ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยความรักของครอบครัวและส่วนที่ผมมอบให้ตาภู.....หลานชายของผม.....ผมไม่มีที่ว่างในหัวใจเหลืออีกแล้วครับ.....”ริมฝีปากของจอมยุทธ์กระตุกยิ้มเล็กน้อยยามเอ่ยถึงภูฟ้า

“จอมครับ.....พื้นที่ของหัวใจของเรา....ของความคิดของเรา....มันไม่มีขีดจำกัดหรอกครับ....ตราบใดที่เราเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน.....” ยุทธจักรแย้งอย่างนุ่มนวล

“อาจจะใช่ครับ....แต่หากว่าประตูของหัวใจถูกปิดลงเสียแล้ว.......พื้นที่ที่ไร้ขีดจำกัดก็คงไม่มีประโยชน์อันใด....ใช่มั้ยครับ.....”

ยุทธจักรพยายามหาเหตุผลมาแย้งประโยคของจอมยุทธ์.....แต่ทว่าก็ไม่อาจคิดได้.....เขาจำเป็นต้องยอมรับในความจริงดังกล่าว.....

“สำหรับผม.....ประตูหัวใจบานนั้นมันปิดตายเสียแล้วครับ....และยากที่จะเปิดออกมาอีกครั้ง......” จอมยุทธ์พูดช้า....ชัด....และขมขื่น

“ยากขนาดไหนครับ....”แม้จะดูเป็นคำถามที่ไม่ฉลาดนัก แต่ยุทธจักรก็เลือกที่จะเอ่ยถาม เขาพยายามหาช่องทางที่จะเจาะกำแพงน้ำแข็งของจอมยุทธ์ให้ได้

“ผมไม่ทราบครับ......” จอมยุทธ์ตอบเบาๆ พลางนึกถึงคำพูดที่ผ่านมาของภูผา....ในความฝันอันแสนหวานนั้น....


“ขอผมลองเปิดประตูหัวใจของจอมได้มั้ยครับ.....”

“ทำไมถึงเลือกผมล่ะครับ.....” แทนที่จะตอบคำถาม จอมยุทธ์กลับยื่นคำถามกลับไป

“ผมบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วนี่ครับ......เพราะผมรักจอมงัยครับ.....ผมไม่สนว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน....ขอเพียงแต่จอมให้โอกาสผม.....ผมจะทำอย่างสุดหัวใจ.....ในเมื่อหัวใจของผมเลือกที่จะรักจอมแล้ว.....มันก็จะรักคนอื่นไม่ได้แล้วครับ......” ความมั่นคงในน้ำเสียงและแววตาเกิดขึ้นอีกครั้ง....ยุทธจักรพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสดงให้จอมยุทธ์ทราบว่าเขาจริงจังในคำพูดมากเพียงใด

ความรู้สึกแปลกๆ ย้อนกลับมาหาจอมยุทธ์อีกครั้ง.....หัวใจที่หนาวเย็นของเขากำลังถูกล้อมรอบด้วยความอบอุ่นครั้นได้ยินประโยคดังกล่าว....ราวกลับว่า....เลือดที่ไหลวนอยู่ในร่างกายของเขากำลังตอบสนองต่อความรู้สึกของเจ้าของเดิมของมัน.....และแปรเปลี่ยนความหมายของประโยคเหล่านั้นออกมาเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้

“พี่แซมเชื่อมั้ยครับ.....ถ้าเป็นเมื่อก่อน.....ผมคงตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว.....” จอมยุทธ์กระหวัดคิดถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ชาย......ก่อนจะพูดประโยคถัดมาที่ทำให้หัวใจของคนฟังพองโตด้วยความหวังอีกครั้ง

“แต่ในตอนนี้.....ผมต้องพยายามปฏิบัติตามสัญญา....สัญญาที่ผมให้ไว้กับคนที่ผมรักที่สุด....รักมาก....แทบไม่ต่างไรกับตาภู.....เขาคนนั้นขอคำมั่นสัญญากับผม....ให้ผมลุกขึ้น....อย่าอ่อนแอ....และพยายามเปิดประตูหัวใจออกมาอีกครั้ง..” จอมยุทธ์ผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อย.... น้ำเสียงของเขาไม่หนักแน่นเหมือนเมื่อก่อน....คงเพราะความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้น....ว่าเขาจะทำตามสัญญานั้นได้หรือไม่

“นอกจากนั้น......ผมกำลังรอคอย....เฝ้ารอบางอย่างที่จะช่วยหยุดยั้งการล่องลอยภายใต้.....” จอมยุทธ์ยังพูดไม่จบประโยค ชายหนุ่มตรงหน้าก็ต่อคำพูดให้

“ภายใต้หุบเหวแห่งความอ้างว้างและเดียวดายใช่มั้ยครับ.....” ประกายตาของจอมยุทธ์ฉายวับขึ้นมาทันที เขารู้สึกแปลกใจกับคำพูดนี้

“พี่แซมทราบได้อย่างไรครับ.....” จอมยุทธ์หันหน้ากลับมาตั้งประโยคคำถามทันที

“เพราะผมเคยคิดว่าจอม....อยู่สูงเกินกว่าที่ผมจะไขว่คว้า.....จนกระทั่งผมพบคนคนหนึ่งในฝัน.....ชายหนุ่มผมยาว....คนนั้นบอกผมว่า.....จอมเลือกที่จะอยู่ในหุบเหวแห่งความอ้างว้างและเดียวดาย.....ปิดประตูหัวใจ.....และปฏิเสธที่จะขึ้นมารับรู้ถึงไออุ่นของดวงอาทิตย์แห่งรักอีกครั้ง” 

จอมยุทธ์ยิ้มเล็กน้อย ภายหลังรับฟังประโยคดังกล่าว.... เขาพอจะประติดประต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน....และพอจะเดาได้ว่าหนุ่มหน้าเข้มคนตรงหน้าพบกับใครมา โดยเฉพาะเมื่อเขาเพิ่งรับรู้ได้มาไม่นานว่า....ยุทธจักรถ่ายเลือดให้เขาจนหมดสติไปถึงหนึ่งวันเต็มๆ 

“ผมไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่องของครับพี่แซม.....พี่ฟ้าลั่นพูดถูกแล้วครับ.....ผมอ่อนแอเกินกว่าที่จะขึ้นมาจากหุบเหวอันนั้น....ประสบการณ์ในอดีตที่แสนหวานแต่เจ็บปวดนั้น.....มันแทบทำให้ผมสิ้นลมหายใจ..... คงมีแต่ตาภูเท่านั้น...ที่ช่วยฉุดรั้งการมีตัวตนของผมไว้ได้......” น้ำเสียงของจอมยุทธ์มีแววขมขื่น

“ที่ผ่านมาผมแทบไม่เคยคิดเลยว่า....ผมจะสามารถมีความสุขได้ในอนาคตเท่ากับความสุขในอดีตที่ผมได้รับมา....นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมปฏิเสธที่จะเปิดหัวใจของผมมาโดยตลอด” จอมยุทธ์พูดต่อ

“โศกนาฏกรรมรักในอดีตใช่มั้ยครับ....ที่ทำให้จอมเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้” ยุทธจักรเลือกที่จะเอ่ยถึง.....แทนที่จะถามว่ามันคืออะไร

“ใช่ครับ.....พวกเราสูญเสียหัวใจพร้อมๆกันถึงสองดวง....ในขณะที่ความรักและความผูกพันยังคงอยู่....ไม่เคยจางหายไปจากใจของผมและพี่เสือ.....มันงดงามมากครับพี่แซมและมีค่ามากเหลือเกิน.....” จอมยุทธ์นิ่งเงียบไป ดวงตาพร่าด้วยน้ำตาที่รื้นขึ้นมา...เขาเงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้ากว้าง...... และส่งรอยยิ้มแสนหวานไปให้คนที่อยู่บนฟากฟ้านั้น...พี่ชายทั้งคู่ของเขา.....

“มันคงเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความสุขและจบด้วยความเศร้ามากใช่มั้ยครับ.....” ยุทธจักรถาม

“ใช่ครับ”

“จอมครับ....ถ้าอดีตมันมีคุณค่ามากขนาดนั้น....ก็สมควรแล้วที่จะเก็บมันไว้ภายในใจ.....แต่อย่าปิดประตูหัวใจอีกต่อไปเลยครับ.....อนุญาตให้ผมพยายามเปิดมันออกอีกครั้งนะครับ..... ผมจะเปิดมันด้วยความรักของผม.....ขอเพียงแค่ไม่รังเกียจที่จะให้มันอยู่รอบๆหัวใจของจอม.....ผมเลือกจะเป็นฝ่ายให้.....ให้โดยปราศจากข้อสงสัย.....ผมจะอยู่ตรงนี้...ตลอดไป.....ไม่ไปไหน....ผมสัญญา” ยุทธจักรพูดเสียงนุ่ม เขาเอ่ยคำขอของเขาอีกครั้ง......และรอเพียงแค่การตัดสินใจของคนตรงหน้า

จอมยุทธ์หยุดคิดนาน.....เขาหันกลับมามองหน้าเข้มของยุทธจักรอีกครั้ง.....มองลึกลงไปในนัยน์ตาคู่งาม.....เขาคงต้องลองเสี่ยงอย่างที่ภูผาบอก

“ขอบคุณครับพี่แซม.....ขอบคุณที่เข้าใจผม.....ผมยังไม่อาจบอกได้ว่า...ผมจะเข้มแข็งขึ้นได้เมื่อไหร่....และหัวใจของผมจะเปิดรับความรักของพี่แซมได้เมื่อไหร่.....แต่ผมจะพยายามครับ.....” จอมยุทธ์ตอบช้าๆ

“เอ่อ.....หมายความว่า....จอมอนุญาตให้ผมรักจอมได้ใช่มั้ยครับ.....ให้ผมอยู่ข้างๆจอมใช่มั้ยครับ.....” รอยยิ้มปรากฏบนหน้าเข้ม....ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก

“ในประวัติผมไม่ได้เขียนบอกหรือครับ.....ว่าถ้าผมปฏิเสธ...ผมมักจะเลือกบอกคำว่า...ขอบคุณ.....แต่ถ้าผมยอมรับ.....ผมจะบอกว่า.....จะพยายาม”

“เอ่อ.....”ยุทธจักรหน้าแดง...เขาพูดอะไรไม่ออก

“จอมทราบด้วยหรือครับ.....”

“ทุกครั้งที่ประวัติของผม...พี่เสือ...และตาภูถูกค้นในระบบฐานข้อมูล....มันจะแจ้งมาที่พี่เสือเสมอครับ.....นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เราทราบว่า....เรากำลังถูกติดตาม.....” จอมยุทธ์ตอบ.....

“เฮ้อ.....ผมคงต้องทำใจกระมังครับ....รักคนฉลาดและแสนเก่งแบบนี้......แต่ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ...ที่แอบสืบประวัติของจอม....ตอนนั้นผมสนใจจอมมาก....มากจนกระทั่งต้องใช้หน้าที่การงานมาอำนวยความสะดวก....ผมเพิ่งมาทราบและเข้าใจแจ่มแจ้งเมื่อไม่นานมานี้เองครับว่า....ทุกอย่างที่เกิดขึ้น....มันเกิดจากความสมยอมของจอมและพี่เสือเองทั้งหมด.....”

“แต่....เอ....ผมไม่เข้าใจอยู่ดี.....ในกรณีนี้....จอมบอกทั้งขอบคุณ...และจะพยายาม......จะให้ผมตีความอย่างใรดีครับ” ยุทธจักรตั้งคำถาม เจือด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ขึ้นอยู่กับพี่แซม.....ซิครับ....จะเลือกเอาข้อสรุปอันไหน.....”

“ผมเอาข้อสรุปของคำว่า....จะพยายามครับ...... ขอบคุณนะครับจอม....ขอบคุณที่เห็นคุณค่าของความรักของผม....”

จอมยุทธ์เลือกที่จะยิ้มตอบ.....เขาค่อนข้างเขินกับสถานการณ์เช่นนี้อยู่พอสมควร....

“พี่แซมครับ..... ในเวลานี้เราพูดกันเฉพาะเรื่องความรู้สึกใช่มั้ยครับ.....” ประโยคคล้ายคำถาม....แต่ยุทธจักรทราบดีว่ามันคือการตอกย้ำความจริงบางอย่าง

“ใช่ครับจอม......ผมทราบดีว่าจอมมีข้อจำกัดในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย.....ถ้าจอมไว้ใจผม....ให้ผมอยู่เคียงข้างจอมเสมอ.....ให้ผมได้รักจอม.....และสร้างความอบอุ่นให้กับจอมได้บ้าง...... ก็เท่ากับว่า....เรามีเวลาทั้งชีวิตที่จะหาบทสรุปในเรื่องประเด็นอื่นๆ .....ผมไม่คิดจะเร่งรัดหรือเอาเปรียบจอมเด็ดขาดครับ....ผมมั่นใจว่าเราทั้งสองคนน่าจะหาจุดยืนของความสัมพันธ์ของเราได้...... โดยไม่กระทบกับเกียรติและศักดิ์ศรีของเราทั้งสองคน.......” ยุทธจักรพูดยาว เขาเข้าใจความเป็นตัวตนของจอมยุทธ์เสมอ......

“แต่ขอผมกอดกับหอมแก้มจอมได้เป็นบางครั้งก็พอครับ....” ไม่พูดเปล่า...ยุทธจักรเข้าประชิดตัวจอมยุทธ์เขาโอบกอดคนที่เขารักและก้มลงไปหอมแก้มใสๆของจอมยุทธ์ ก่อนจะพละออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อตั้งรับการจู่โจม...แต่ก็ไม่ทันปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วของคนที่ครอบครองหัวใจของเขาทุกห้อง

เท้าข้างหนึ่งของจอมยุทธ์เหยียบลงบนบนสันเท้าของยุทธจักร หนุ่มหน้ากึ่งหวานพลิกตัวและส่งศอกเข้ากระแทก
ทรวงอกของคนตัวสูงกว่า แม้จะไม่เข้าเป้ามากนักเพราะยุทธจักรก็ระวังตัวอยู่.... แต่ก็ทำให้เกิดอาการจุกพอสมควร

“เฮ้อ.....มีแฟนเก่งแบบนี้.....ผมคงต้องทำใจเสียแล้ว......” ยุทธจักรแกล้งบ่นพึมพำ เขาถอยห่างจากจอมยุทธ์พอสมควร พร้อมกับตั้งการ์ดรอการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

“คราวหลังก็ขอดีๆซิครับ.....จะได้ไม่เจ็บตัว” จอมยุทธ์ตอบ

“ขอดีๆ แล้วจะได้มั้ยครับ.....”

จอมยุทธ์ส่ายหน้า......พร้อมรอยยิ้ม..... อาการดังกล่าวเรียกเสียงหัวเราะเบาๆได้จากยุทธจักร

“กลับกันดีกว่าครับ.....แดดแรงแล้วครับ.....จอมต้องมีตารางทำกายภาพบำบัดต่อนะครับ....” ยุทธจักรพูดเป็นการเป็นงานอีกครั้ง....

“ครับ....” จอมยุทธ์ตอบสั้นๆ เขาปรับอารมณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก่อนจะเดินมุ่งหน้ากลับเข้าไปยังเซฟเฮ้าส์เพื่อเตรียมตัวทำกายภาพบำบัดอีกครั้ง





ศิวะและคริสพาภูฟ้ากลับมาก่อนได้เวลาอาหารเที่ยงเล็กน้อย ทั้งสองหนุ่มซื้ออาหารกลางวันกลับมายังเซฟเฮาส์ด้วยกันหลายอย่างเพื่อเตรียมรับประทานอาหารด้วยกัน

ในช่วงบ่าย...คริสรับผิดชอบในการดูแลภูฟ้า....เขาสอนให้ลูกชายตัวน้อยของเขาวาดรูปพร้อมลงสีที่เตรียมมา ในขณะที่ศิวะและจอมยุทธ์ กำลังปรึกษาหารือกันเรื่องการเตรียมสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อเข้ารับการทดสอบ
รวมถึงกำหนดการถอนตัวออกจากเซฟเฮ้าส์แห่งนี้

หลังจากที่ตกลงกันเสร็จสิ้น จอมยุทธ์จึงบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสายให้ศิวะได้รับทราบ รวมถึงเรื่องที่เขาพบภูผากับฟ้าลั่นในความฝันที่งดงามนั้น

“จอมแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่า....จะพยายาม” ศิวะถามหลังจากที่รับฟังมาจนจบ

“ผมให้คำสัญญาแก่พี่หมอกไปแล้วครับ......แต่ผมก็ไม่ทราบว่าความพยายามของผมมันจะบรรลุผลเมื่อไหร่นะครับ....มันคงต้องใช้เวลามากพอสมควร......”

“อืม......ถ้าแซมเขาเข้าใจ.....มันก็ไม่น่าจะมีปัญหา.....พี่หวังแค่เพียงว่า....เขาจะมั่นคงอย่างนี้ตลอดไป.....ในขณะเดียวกัน...จอมก็ต้องพยายามรักษาคุณค่าของความรักที่แซมให้มาให้ดี..... พี่ไม่ทราบว่าบทสรุปของความสัมพันธ์จะเป็นในรูปไหน.....เพราะทั้งจอมและแซม....ก็มีรสนิยมในเรื่องนั้นคล้ายกัน.....คงต้องหาข้อสรุปด้วยกันเอง........” ศิวะให้ข้อคิด

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับพี่เสือ..... ผมก็ไม่แน่ใจครับ....ว่าจะลงเอยในแบบใด.....แต่ที่แน่ๆ คงจะไม่เหมือนพี่หมอกกับพี่ฟ้าลั่นแน่นอนครับ...... ผมกับพี่แซมเราน่าจะเรียกว่า.....หุ้นส่วนของชีวิต.....มากกว่าครับ....ถ้าความพยายามของผมประสบผลสำเร็จ”

“อืม...... ถือเป็นข้อสรุปที่ดีนะ....สมเหตุสมผลดี...... แต่ว่า.....ถ้าจอมยอมรับการมีตัวตนของความรักของแซมแล้ว....เราคงต้องบอกความจริงทั้งหมดให้แซมรับรู้.....ทั้งเรื่องอดีตของพวกเรา.....รวมถึงตาภู...... เพราะอย่างน้อย...เขาก็จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราในไม่ช้า.....”

“ผมกำลังจะปรึกษาเรื่องนี้กับพี่เสืออยู่พอดีเลยครับ..... ผมกำลังสองจิตสองใจว่า...เราสมควรจะบอกพี่แซมหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องอดีตของเรา.....”จอมยุทธ์เปรย

“ถ้าจอมเปิดใจ....ยอมรับการมีตัวตนของเขาข้างๆจอม......เราคงต้องบอกครับ”

จอมยุทธ์ถอนหายใจช้าๆ...... เพียงแค่การตัดสินที่ว่า....จะพยายามปีนป่ายขึ้นมารับไออุ่นของดวงอาทิตย์แห่งรัก....ทำให้เขาต้องเริ่มต้นกระทำบางสิ่งบางอย่างให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น......เขาจะนิ่งเฉยและเย็นชาต่อไปไม่ได้แล้ว....

“ผมยังไม่ชินน่ะครับ...พี่เสือ....” จอมยุทธ์บอกไปตามตรง

“โอเค..... งั้นพี่จัดการให้...เอามั้ย” ศิวะยื่นข้อเสนอ

“ขอบคุณล่วงหน้าครับ”

ศิวะแยกออกมาจากจอมยุทธ์ เขาเดินไปทักทายภูฟ้าที่กำลังตั้งอกตั้งใจลงสีตามที่คริสสอน....หลังจากนั้นจึงตามหายุทธจักรเพื่อพูดคุยเรื่องที่คิดเอาไว้ เขาพบว่ายุทธจักรกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หน้าบ้าน....ข้างต้นไม้ใหญ่....ที่สายลมเย็นๆ พัดพลิ้วอยู่ตลอดเวลา.....

“แซมครับ....ผมมีเรื่องจะคุยกับแซมหน่อยนะครับ...ไม่ทราบว่าตอนนี้จะสะดวกมั้ยครับ” ศิวะเอ่ยถาม

“เชิญครับพี่เสือ” ยุทธจักรลดหนังสือลง ก่อนจะเชื้อเชิญให้ศิวะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ

“ผมทราบเรื่องเมื่อตอนสายแล้วครับ...จอมเล่าให้ผมฟังเอง.....เราสองคนมักจะไม่มีความลับต่อกันครับ....” ศิวะเกริ่น

“ครับ...พี่เสือ”

“ผมอยากจะถามคำถามแซมบางอย่างครับ....ขอโทษด้วยนะครับ....ที่อาจจะต้องละเมิดความเป็นส่วนตัวบ้าง”

“เชิญตามสบายครับพี่เสือ.....” ยุทธจักรไม่ปฏิเสธคำขอ

“ก่อนอื่น....ผมคงต้องเสียมารยาทถามว่า.....ข้อจำกัดต่างๆที่จอมมีในเรื่องความรัก....ไม่ทำให้แซมเปลี่ยนใจเลิกรักเขาหรือครับ.....”

ยุทธจักรยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว.....คำถามที่เขาครอบครองคำตอบอยู่ตลอดเวลา.....

“ไม่ครับ.... ในทางตรงกันข้าม.....ผมอยากจะทำให้จอมมีความสุขครับ.......และตราบใดที่จอมยังเห็นคุณค่าของความรักของผม....ยอมให้ผมอยู่เคียงข้างเขา....ด้วยสถานะอะไรก็ตาม.....ผมก็จะมีความสุขเสมอ....แม้ว่าผมจะต้องใช้เวลานาน....ที่ทำให้จอมหลงรักผมบ้าง.....ผมก็ยินดีครับ.... สิ่งใดก็ตามที่ผมตัดสินใจแล้ว....ผมจะทำอย่างสุดความสามารถครับ......” ยุทธจักรบอกคำตอบออกมาเป็นประโยคง่ายๆ ที่มีความหมายลึกซึ้งเพียงพอที่จะให้ชายหนุ่มตรงหน้าเห็นว่า...เขาจริงจังกับการตัดสินใจของเขาเพียงใด

“เพียงแค่จอมรับรู้การมีตัวตนของความรักของผม.....ให้โอกาสที่จะเรียนรู้มัน.....ผมก็มีความสุขแล้วครับ....เพราะอย่างน้อย....ผมคือคนเดียว.....ที่จอมให้โอกาสอันนั้น.....” ยุทธจักรพูดจนจบประโยค

“แต่ถ้าแซมเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น....ความรักของแซมไม่เพียงจะถูกรับรู้....และยังถูกตอบแทนในเวลาอันสั้น...มันน่าจะมีความสุขมากกว่ามิใช่หรือครับ” ศิวะถามต่อ

“จอมคือคนที่หัวใจผมเลือกที่จะรักครับ.....และหัวใจของผมมันจะรักได้เพียงแค่จอมเท่านั้น....” ยุทธจักรตอบสั้นๆ อีกครั้งแต่ทว่ากินใจ

คำตอบของนายตำรวจหนุ่มทำให้ศิวะนึกถึงตนเอง......เขาเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน....แม้กระทั่งในตอนนี้...... เขารักได้เพียงแค่ภูผาและ.....ทายาทของภูผากับฟ้าลั่นเท่านั้น.....

“ผมไม่มีคำถามแล้วครับ......เมื่อจอมตัดสินใจที่จะเรียนรู้ความรักของแซม....แซมก็ถือเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา......มีบางอย่างที่ผมคิดว่า....แซมน่าจะรับรู้.....เพื่อเข้าใจความสัมพันธ์ของครอบครัวของเราให้มากขึ้น.....” ศิวะเริ่มเปลี่ยนประเด็นการสนทนา

“เรื่องโศกนาฏกรรมรักในอดีตใช่มั้ยครับ....”

“ใช่ครับ..... สิบปีที่ผ่านมา.....ผม.....จอม....หมอก...และฟ้าลั่น....เราทั้งสี่คนสนิทสนมกันมาโดยตลอด....”

ก่อนจะบอกประโยคถัดไป....ศิวะหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา หยิบเอารูปถ่ายขนาดเล็กที่เก็บไว้อย่างดี ส่งให้ยุทธจักร

ชายหนุ่มผมยาวในรูปนั้นทำให้ยุทธจักรระลึกถึงบุคคลแปลกหน้าในฝัน....บุคคลที่ช่วยชี้ทางให้กับเขาและขอร้องให้ช่วยฉุดจอมยุทธ์ให้ขึ้นจากหุบเหวแห่งความอ้างว้าง....เดียวดาย

“คนผมสั้น....คือหมอก.....คนที่ผมและจอมรัก.....ชายหนุ่มผมยาว....คือคนที่หมอกรักและเขาก็รักหมอกมากเช่นกัน.....เราทั้งสี่คนใช้เวลาอยู่ด้วยกัน....สร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนและงดงามด้วยกันมาหลายปี....จนกระทั่งอุบัติเหตุได้พรากเอาชีวิตของฟ้าลั่นไปจากพวกเราในวันคริสมาสที่ประเทศอังกฤษ...... และหมอกได้ตัดสินใจท้าทายหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า.....เพื่อสร้างชีวิตน้อยๆให้ลืมตาดูโลก.....ทายาทของเขากับฟ้าลั่น......”

“โดยใช้กระบวนการวิทยาศาสตร์ที่หมอกร่ำเรียนมา และโดยความร่วมมือของคริส....ภูฟ้าได้ถือกำเนิดในวันเดียวกับที่พระผู้สร้างโลกได้นำชีวิตของหมอกไปอีกคนเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน.....หัวใจของผมและจอมแทบสลายไปพร้อมกับการจากไปของคนที่เรารัก......หากแต่การกำเนิดขึ้นของภูฟ้า....คือสายใยเส้นเล็กๆ แต่มั่นคง.....ที่ช่วยพันธนาการหัวใจของเราทั้งคู่ให้ยังคงอยู่ต่อไป.......” ศิวะผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อย....หัวใจของเขาเริ่มเจ็บปวด...

“หลังจากนั้นเป็นต้นมา....ผมและจอมก็เลี้ยงตาภูมาด้วยกันโดยมีคริสให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วย เมื่อครั้งที่เราทั้งสามคนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ.....เราสัญญาว่าจะเลี้ยงตาภูให้ดีที่สุด....ให้สมกับที่หมอกมอบความไว้วางใจให้ผมและจอมดูแล...และเฝ้ามองพัฒนาการของตาภู.......ดวงใจดวงน้อยๆของพวกเรา.....”

“ครึ่งหนึ่งของหัวใจผมและจอมคือความรักที่มอบตาภู....อีกครึ่งหนึ่ง...คือที่เก็บมิตรภาพอันงดงามและอดีตที่เจ็บปวดของเราทั้งสี่คน......” ศิวะอธิบายจนจบ

ยุทธจักรนิ่งไปซักพักหลังจากได้รับทราบความจริง.....ความคลุมเครือต่างๆอันตรธานหายไปจนสิ้น.....เขารู้สึกเสียใจกับความจริงดังกล่าว....ความตายดูเหมือนจะไม่ได้นำเอาแค่ชีวิตของบิดาทั้งสองของภูฟ้าไป....หากแต่นำชีวิตบางส่วนของศิวะและจอมยุทธ์ติดไปด้วย.....

ขึ้นชื่อว่าความรัก....มันน่าจดจำทั้งสิ้น....ยิ่งหากเป็นรักแท้ด้วยแล้ว....คงยากที่จะลืมเลือน....

“ผมเสียใจด้วยครับพี่เสือ.....ผมไม่แปลกใจเลยว่า...ทำไมตาภูถึงมีความสำคัญกับพี่เสือและจอมมากขนาดนี้....ภูฟ้าน่ารักมากครับ.....เขากำเนิดมาด้วยความรักที่มั่นคง....และถูกโอบล้อมด้วยความรักที่อบอุ่นของพี่เสือ...
จอม....คริส......และทุกๆคน.....”

“เรื่องการกำเนิดของตาภูนั้นเป็นความลับมาโดยตลอด.....มีเพียงคนในครอบครัวเดียวกันเท่านั้นที่รับทราบ.....คือทางผม จอม คริส และคุณปู่คุณย่า...คุณทวดตามสายเลือดของตาภูครับ...... ข้อมูลที่คุณแซมค้นอย่างไรก็ไม่มีทางพบเจอโดยเด็ดขาด”

ยุทธจักรมีสีหน้าระเรื่ออีกครั้งหลังจากได้ยินประโยคท้ายของศิวะ

“ผมขอโทษครับ....พี่เสือ....จุดใต้ตำตอแท้เชียวครับ....” ยุทธจักรเอ่ย

“ไม่เป็นไรครับ....เพราะผมเป็นคนอนุญาตให้มีการคัดลอกข้อมูลบางส่วนไปเองครับ....มิเช่นนั้นแล้วคงจะแถมไวรัสลงไปด้วยครับ.....พอผมทราบต้นตอว่ามาจากไหน......ผมกับจอมก็แค่ติดตามเฝ้าดูก็นั้นเองครับ....”

“สุดท้ายแล้ว....ผมอยากจะบอกแซมไว้ว่า.....เส้นทางความรักของจอมกับแซม....มันอาจจะไม่เหมือนกับคู่อื่นๆทั่วๆไป..... มันน่าจะเป็นความรักที่เฉพาะตัวมากเลยทีเดียวครับ..... เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมดในตอนนี้” ศิวะเผยรอยยิ้มจริงใจ...

“ยินดีต้อนรับ.....เข้าสู่ครอบครัวของเราครับ...” ศิวะกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะลุกขึ้นยืนและยื่นมือออกไปสัมผัสกับยุทธจักรที่ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ทั้งคู่จับมือเพื่อให้เกียรติซึ่งกันและกัน......

“ขอบคุณครับ....พี่เสือ”

“พอผมทราบเรื่องทั้งหมดแบบนี้....มันกลับช่วยตอกย้ำว่า......หัวใจของผมเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ ครับ.....”

ศิวะยิ้มให้กับสมาชิกใหม่ของครอบครัว ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเพื่อรับช่วงต่อจากคริสในการดูแลลูกชายตัวน้อย....

ยุทธจักรยังคงนั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม....ก่อนจะตัดสินใจเดินตามหาจอมยุทธ์เมื่อได้ข้อสรุปเพิ่มเติมของหัวใจ.... เขาพบว่าจอมยุทธ์เพิ่งทำกายภาพบำบัดเสร็จสิ้น....และกำลังอยู่ในห้องส่วนตัว

“จอมครับ....ขอผมเข้าไปหน่อยได้มั้ยครับ” ยุทธจักรเคาะประตูห้อง และเอ่ยขออนุญาต

“เชิญครับ....”

“มีอะไรหรือครับพี่แซม” จอมยุทธ์เอ่ยทักทาย หลังจากที่ยุทธจักรเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูลง

“ผมมีเรื่องจะคุยกับจอมนิดหนึ่งครับ.....”

“เชิญครับ.....”

“เอ่อ......ขอผมกอดจอมได้มั้ยครับ....” ใบหน้าของยุทธจักรมีสีเข้มแดงระเรื่อยามเอ่ยคำขอ แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะชำนาญในการเกี้ยวพาราสีขนาดไหน....หากเมื่ออยู่ตรงหน้าคนที่เขารักอย่างจอมยุทธ์แล้ว....ปฏิกิริยาของเขาแทบไม่แตกต่างอะไรกับคนช่างเขินอายคนหนึ่ง

“ทำไมหรือครับ” จอมยุทธ์ยังคงตั้งคำถาม

นายตำรวจหน้าเข้มเลือกที่จะยังไม่ตอบคำถามแต่ก็สืบเท้าเข้ามาใกล้จอมยุทธ์......เขาเปลี่ยนใจ.....เพราะดูเหมือนคำขอของเขามันจะเร็วเกินไปสำหรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น..... ตอนนี้ยุทธจักรเลือกที่จะจับมือข้างหนึ่งของคนที่เขารักขึ้นมาแทน..... เขากดริมฝีปากลงบนหลังมือนุ่มนั้น....

“ผมอยากจะบอกจอมว่า.....ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตของจอมและพี่เสือ...... ความผูกพันในอดีตของจอมนั้นมีคุณค่ามากที่ไม่อาจลืมได้.....ผมไม่ขออะไรทั้งนั้น....ไม่ปรารถนาจะแทนที่ใครในหัวใจของจอม.....อดีตของจอมจะอยู่กับจอมเสมอ.....ผมจะเป็นปัจจุบันของจอมเอง.....และจะเป็นอนาคตด้วย..... ผมจะก้าวเดินไปพร้อมๆกับจอม...ตาภู....พี่เสือ.....และทุกคนในครอบครัว...... ” น้ำเสียงของยุทธจักรนุ่มทุ้ม.....ยามกล่าวคำสัญญาที่กลั่นออกมาจากใจ.....

“ขอบคุณครับพี่แซม....ขอบคุณที่เข้าใจครับว่า....อดีตของผม....จะเดินไปพร้อมกับปัจจุบันเสมอ.....ในตอนนี้ภูฟ้าคือครึ่งหนึ่งของหัวใจของผม.... และพี่แซม.....ก็คือหุ้นส่วนชีวิตที่ผมเลือก.....อย่าโกรธผมนะครับ...ที่ท้ายที่สุดแล้ว...ผมก็ยังไม่สามารถรักใครได้มากกว่าภูฟ้า....ยอดดวงใจของผม.....เพราะเขาคือทายาทของมิตรภาพ....ของรักแท้....ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในอดีตของผม.....”

“ผมไม่โกรธครับ.....ผมดีใจเสียอีกที่...ผมจะเป็นหุ้นส่วนชีวิตของจอม.....เดินไปพร้อมๆกับความรักที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรา.....ท้ายที่สุดแล้ว.....จอมจะรักผมหรือไม่....นั้นไม่สำคัญ....ขอเพียงให้ผมเป็นคนเดียวที่จอมยอมรับในปัจจุบัน....ก็เพียงพอแล้วครับ.....” ยุทธจักรพูดจบประโยคและโอบกอดคนที่เขารัก

“ครับ” จอมยุทธ์รับคำสั้นๆ หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาภายใต้อ้อมกอดของคนที่รักเขา.... คนที่เขาเลือกที่จะเดินไปด้วยกัน....เขาไม่ทราบว่าอีกนานเท่าไหร่เขาจะรักบุคคลคนนี้....แต่เขาทราบว่า...เขาจะพยายาม.....

นับจากนี้.....ยุทธจักรและจอมยุทธ์คงต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน.........เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน....เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน.....

แม้ความสัมพันธ์ทางร่างกายจะไม่อาจเกิดขึ้นได้ภายในอนาคตอันใกล้.....เพราะข้อจำกัดที่มี....แต่ทั้งคู่ก็ยังมีเวลาเกือบทั้งชีวิตที่จะหาบทสรุปด้วยกัน.....

บทสรุปที่เฉพาะตัว....ของความรักระหว่าง.....จอมยุทธ์.....ผู้มีรักแท้ในอดีตฝังอยู่ในหัวใจ......และยุทธจักร........ผู้ที่รักแท้กำลังเกิดขึ้น....และดำเนินต่อไป.....

เพราะว่ารักแท้....เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว.....

จบบริบูรณ์......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2007 11:26:15 โดย Andreas »

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ....

ในที่สุดก็จบแล้วครับ....นิยายเรื่องนี้ของผม.....

ผมใช้เวลาเขียนนิยายเรื่องนี้ทั้งสิ้นหนึ่งปีกว่าครับ.....นานมาก....และก็สนุกมากครับ.....

ผมตั้งใจเขียนและค้นคว้าข้อมูลเพื่ออยากให้นิยายเรื่องนี้ประทับใจคนอ่านเหมือนเรื่องแรกครับ.....

ตอนนี้รู้สึกใจหายเล็กน้อยครับ....เพราะหลังจากอวสานแล้ว....ผมคงไม่มีโอกาสคุยกับนักอ่านที่น่ารักของผมทุกคน..... เพราะกว่าที่ผมจะมีเวลามาแต่งเรื่องใหม่ ก็คงกลางๆปีนั่นเลยครับ.....

แต่ถ้าโชคดี....ผมสามารถแบ่งเวลาได้มีประสิทธิภาพ....ผมอาจจะโพสต์เรื่องใหม่โดยเร็วก็ได้ครับ.....

สุดท้ายนี้....ผมขอขอบคุณกำลังใจจากนักอ่านทุกท่านนะครับ....ที่ติดตามกันมาตั้งแต่โพสต์ครั้งแรก....ขอบคุณจากใจจริงครับ.....

นอกจากจะเป็นกำลังใจให้ผมแล้ว......ยังช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผมอีกว่า.....สิ่งที่ผมเลือกจะเขียนนั้น....อย่างน้อยก็มีคนอ่านครับ....แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ ก็ตามครับ.....

ขอบคุณอีกครั้งครับ...

Andreas

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
จบแล้วววว  :loveu: :loveu:

ประทับใจมากๆ คับ  :impress: :impress: :impress:

ขอบคุณคนแต่งมากนะคับ มีเอาเรื่องดีๆ มาให้อ่านกัน  :myeye: :myeye:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
อ่าาาาา

อ่านนิยายเรื่องนี้ ได้ครบทุกรสชาติจิงๆ ความสุข ความเศร้า ความหลัง และอนาคต

ครบทั้งสาระ และบันเทิง อย่างที่คุณแอนดี้ต้องการนำเสนอจริงๆคับ

ชอบมากๆ เรย อิอิ

ชอบมากๆเรยตรงที่จอมกะแซมบอกว่า คบกันด้วยใจ และความรู้สึก

ไม่ได้เกี่ยวกะเรื่อง sex (อันนี้อนุมานเอาเอง แหะๆ) ว่าแต่ถ้าเค้าจะมีฉาก

หวานหวาน กันเนี่ย ยัง งง ว่าใครจะ on top วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :laugh5:

ปล. สุดท้่ายใครจะมาเปิดประตูหัวใจพ่อเสือได้ละเนี่ยยยย

ขอภาคพิเศษได้มะค๊าบบบบบบบบบบบบบบบ

..............

แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไปของคุณแอนดี้อย่างใจจดจ่อคับผม :yeb:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

................และแล้วนิยายเรื่องนี้ก็จบลง..........

.......................แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงชีวิตของทั้งคู่มันก็คงเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น........

.................................แต่คงเป็นการเริ่มต้นที่สวยงาม..... :impress3: :impress3:

...............ขอบคุณพี่จ๋อมนะคับ......ที่เขียนนิยายดีๆมาหั้ยอ่าน........ :110011: :เชิป2:

...........................เรื่องหน้าขอเป็นเรื่องของพี่เสือบ้างนะครับ..... :yeb: :yeb:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อดีตของผม....จะเดินไปพร้อมกับปัจจุบันเสมอ  :impress3:
จบลงอย่างประทับใจ  :impress3:  :impress3:
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ
ขอบคุณคนแต่ง
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ  :myeye:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
จบลงอย่างสวยงามจริง ๆ สำหรับความรักที่กำลังจะก่อตัวระหว่างจอมยุทธิ์และยุทธจักร 
บทสรุปสำหรับความรักที่ไม่ต้องเพ้อฝัน  เวลาและความผูกพันจะพาทั้งสองไปสู่จุดที่เรียกว่า หุ้นส่วนของชีวิต

ขอบคุณจ๋อม สำหรับเรื่องราวดีๆ อยากจะบอกว่าชอบเรื่องนี้มากเลย    น่าติดตามมากค่ะ
แล้วก็ชื่นชมสำหรับการเป็นนักเขียนที่พยายามที่จะนำเสนอแต่สิ่งที่ดีสำหรับผู้อ่านตลอดมา  ติดตามผลงานการเขียนทั้งสองเรื่องของจ๋อม  ชอบมากทั้งสองเรื่อง  แต่ละเรื่องผู้เขียนพยายามที่จะนำเสนอแนวทางและโครงเรื่องที่แปลกใหม่และสอดแทรกความรู้ตลอดเวลา  เรื่องแรกติดตามและประทับใจเพราะภาษาที่สวยงาม เนื้อเรื่องอ่อนหวาน กินใจ  มาเรื่องที่สองในแนวสืบสวน ข้อมูลแน่น โครงเรื่องดี ความประทับใจก็ยังคงอยู่และมีมากขึ้นเรื่อย ๆ   ขอเป็นกำลังใจให้จ๋อมสำหรับเรื่องที่สาม (ที่คาดว่าจะเป็นแนวใหม่อีกเช่นเคย อิอิ) จะติดตามและรอคอยผลงานชิ้นต่อไปของจ๋อมเสมอนะ (ขอให้แต่งเสร็จเร็วๆ) ไม่อยากบอกว่าก็ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย  แงแง  ก็มาเล่นทู้อื่นจิ อย่าหายไปนา

สุดท้าย ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่อ่านแล้วก็แสดงความเห็นมาด้วยกันจ้า   :give2:

ปล  อยากอ่านเรื่องพี่เสือเหมือนกันแหละ 
รักทุกคนเยยย   :loveu:  :loveu:  :loveu:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด