We belong together 49
...ถ้าเช้านี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ พี่ยอดคงไม่ปล่อยให้ผมลุกจากเตียงง่าย ๆ แน่นอน...หลังจากที่ผมตื่นแล้วลุกไปอาบน้ำด้วยความยากลำบาก พี่ยอดก็รู้สึกตัวและเดินตามไปขออาบน้ำพร้อมกับผม ตอนแรกก็อายแต่คิดไปคิดมา เมื่อคืนเราเหมือนคนเดียวกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องอายนี่นา...พอผมเปิดประตูให้ พี่ยอดก็รีบแทรกตัวเข้ามาเหมือนกลัวผมจะเปลี่ยนใจ...เราผลัดกันถูสบู่ แรก ๆ ก็ใช้มือลูบไล้ฟองจนทั่ว...ผมนึกสนุกขึ้นมาเลยแกล้งเอาตัวถูไถเลื้อยไปกับกล้ามแน่น ๆ ของพี่ยอด...ไม่น่าเลย...แทบคลานออกมาจากห้องน้ำ...
“...พี่ว่าพี่จะไปเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่กับทีมดีกว่า...” พี่ยอดพูดขณะที่เค้าพยุงผมเดินไปทำงาน
“...ไม่เอา...เปลือง...ทีมอยู่อีกที่นี่อีกแค่ไม่กี่เดือนเองนะ...” ผมรีบห้าม
“...โห...พูดอย่างนี้อีกแล้ว...ได้พี่แล้วจะทิ้งกันง่าย ๆ เลยเหรอ...” พี่ยอดโอดครวญ
“...พี่ยอด...เดี๋ยวเหอะ...ใครได้ใคร...” ผมหลบตาวูบ อายจนหน้าร้อนวูบ
“...ก็นั่นแหละ...เราไปหาที่อยู่ด้วยกันเหอะนะ...”
“...ขอคิดดูก่อน...”
*
*
...พี่ยอดพาผมไปกินข้าวเช้าแล้วจูงไปที่ฟร้อนท์ต่อ...ทุกสายตามองมาด้วยความสงสัย...ผมพยายามฝืนตัวเองให้เดินเหมือนคนปกติ แต่มันยังเจ็บจากการโดนพี่ยอดตอกย้ำความเป็นสามีเมื่อเช้า...
“...แกจะแยกกันจริง ๆ เหรอ...ชั้นช่วยพูดให้ได้นะ...แกเป็นแค่เด็กฝึกงาน เค้าอาจจะผ่อนปรนให้...” พี่รุจเดินมากระซิบขณะที่ผมกำลังเก็บเอกสารเช็คเอ้าท์ที่หน้าฟร้อนท์
“...ไม่เป็นไรเจ้...ทีมไปอยู่กับมิ้นท์ก็ได้...เค้าจัดห้องรอไว้แล้ว...”
“...มันไกลนะ...แล้วจะมาทำงานยังไง...”
“...พี่ยอดบอกว่าจะไปรับไปส่งอ่ะ...” ผมพูดเขิน ๆ
“...เฮ้อ...แกก็ไม่น่าวิ่งทะเลอทะล่าไปที่นั่นเลย...”
“...ทีมไม่ได้ตั้งใจนี่นา...ตอนนั้นมันโมโหอ่ะ...”
“...โมโหอะไร...” พี่รุจทำตาโต
“...เปล่าเจ้...เออ...เจ้รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ...พี่ยอดเค้าว่าจะไปเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ข้างนอกแหละ...” ผมทำท่าเม้าท์
“...จริงเหรอ...ข้างบนเค้าไม่ยอมให้ยอดย้ายไปไหนหรอก...เออ...เจ้ลืมไปว่าทำงานค้างอยู่...” พี่รุจรีบตัดบทแล้วเดินเข้าหลังฟร้อนท์ไป
*
*
...พักกลางวัน พี่ยอดเดินยิ้มระรื่นมารับผมไปกินข้าว...ผมสงสัยว่าทำไมถึงดูมีความสุขจัง เมื่อเช้ายังเห็นทำหน้าเครียดอยู่เลย...เรารีบกิน และรีบขึ้นไปขนกระเป๋าของผมมารอฟิลิปที่หน้าโรงแรม...
“...ทีมคงรบกวนมิ้นท์ไม่นานนะ...” พี่ยอดพูดตอนที่เราขนของขึ้นรถจนหมด
“...ไม่รบกวนซักหน่อย...มีเพื่อนมาอยู่ด้วย ดีจะตาย...นี่รอแก้วมันตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่า...ฟิลิปจะกั้นห้องเพิ่มไว้ให้มันเลยนะ...”
“...พี่คิดว่าจะไปหาที่พักแถวโรงแรมกับทีม...”
“...พี่ยอดก็มาอยู่ด้วยกันสิ...ห้องกว้างจะตาย...” มิ้นท์ชวน
“...ไม่เป็นไร...เดือนหน้าพี่ก็ได้โปรโมทแล้ว เงินเดือนขึ้นอีกเยอะเลย...”
“...พี่ยอดเก็บเงินไว้เถอะ...ถ้าเช่าห้องเดือนละห้าพัน สัญญาหกเดือนก็สามหมื่น เสียดายเงิน...อีกอย่างทีมยังไม่รู้เลยว่าจะต้องขึ้นไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่...” ผมห้ามไว้
“...เอ้า...ไปตกลงกันซะให้เรียบร้อย...มิ้นท์เอาของไปเก็บที่บ้านก่อนนะพี่ เดี๋ยวกลับมาทำงานต่อไม่ทัน...” มิ้นท์ขัด เมื่อเห็นพี่ยอดจะเถียงผม
*
*
...พี่รุจนี่แรงจริง ๆ แกไปบอกจีเอ็มเรื่องพี่ยอดจะย้ายออก ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้พี่ยอด และปรับเงินเดือนเพิ่มให้อีก...เป็นการช่วยพี่ยอดทางอ้อมถ้าหากเค้าต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจริง ๆ...และหลังจากที่เถียงกันพักใหญ่ พี่ยอดก็ต้องยอม ที่ผมห้ามไม่ให้เค้าออกไปเช่าห้องข้างนอก แต่มีข้อแม้ว่าพี่ยอดจะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับ ไปส่งผมทุกวัน...ถึงแม้ผมไม่อยากจะให้พี่ยอดเดือนร้อน แต่ก็ดีกว่าให้เค้าเสียเงิน ผมจึงต้องรับข้อเสนอนี้...อีกอย่าง พี่ยอดก็ตื่นเช้าเป็นปกติ ขี่มอเตอร์ไซค์มารับผมแค่สิบห้านาที ไม่น่าจะลำบากมากนัก...
*
*
…เลิกงาน...ผมรู้สึกไม่ดี เมื่อเห็นว่าพี่ยอดต้องห่วงหน้าพะวงหลัง...งานก็ต้องทำ ส่วนผมก็รอให้พี่ยอดไปส่งบ้านที่บ้านมิ้นท์...พี่ยอดเร่งมือจนเสร็จตอนทุ่มนึง เค้าก็มาตามผมที่ห้องแก้ว...รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องออกจากห้องพักแสนสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก...วิวที่ระเบียงสวยเหมือนภาพวาด...อาหารการกินฟรีสามมื้อ...
“...พี่ยอดกลับห้องเถอะ ขี่มอไซค์ตอนดึก ๆ อันตราย...” ผมพูดกับพี่ยอดเมื่อเห็นว่าดึกแล้ว
“...ไม่เอา...พี่รอให้มิ้นท์กลับมาก่อน แล้วค่อยไป...”
“...มิ้นท์มันเลิกงานห้าทุ่มครึ่ง กว่าจะกลับถึงนี่ก็เที่ยงคืนกว่า...”
“...อืม...พี่รอได้...พี่เป็นห่วงทีมอ่ะ...” พี่ยอดพูดพลางปิดปากหาว
“...พี่ยอดกลับดึก ๆ ทีมก็เป็นห่วงนะ...ถ้ากลับตอนนี้ ต่างคนต่างนอนก็จบ...”
“...โอเค...งั้นอีกครึ่งชั่วโมงพี่ค่อยกลับละกัน...” พี่ยอดต่อรอง
*
*
...ผมมัวแต่ยุ่ง ๆ กับการเก็บของใช้ส่วนตัวให้เข้าที่ หันไปอีกที พี่ยอดหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงผมซะแล้ว...ถ้าจะให้ปลุกตอนนี้พี่ยอดคงต้องขี่รถแบบสะลึมสะลือตลอดทางแน่ ๆ...ผมตัดสินใจให้พี่ยอดนอนที่นี่ และเดินไปดูความเรียบร้อย ปิดประตูหน้าต่างบ้าน โชคดีที่เป็นคนไม่กลัวผี ทำให้ผมสามารถเดินในที่มืดและไม่คุ้นเคยอย่างนี้ได้สบาย...
“...ทีมจะนอนแล้วเหรอ...” พี่ยอดตื่นขึ้นมาถามผมด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อเค้ารู้สึกว่าเตียงมันยวบลง
“...อืม...พี่ยอดนอนที่นี่ก็ได้นะ...”
“...ดีเหมือนกัน...ไม่ไหวแล้ว...เดี๋ยวพี่ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะ...” พี่ยอดยันตัวลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ เหมือนจะรู้เลยว่าต้องมาค้างที่นี่ เพราะพี่ยอดแกอาบน้ำมาจากห้องที่โรงแรม และยัดเอาแปรงสีฟัน และของใช้ส่วนตัวใหม่เอี่ยมอีกหลายอย่างลงกระเป๋าผมด้วย
*
*
“...พี่ยอด...ไหนบอกว่าง่วงไง...” ผมถามเสียงสั่น เมื่อพี่ยอดขึ้นเตียงอีกครั้งก็นอนกอด และจู่โจมจุดอ่อนผมทันที
“...ง่วงเป็นเชี่ยน ๆ...” พี่ยอดพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ
“...หื่นว่ะ...”
“...โห...พี่ก็หื่นกับทีมคนเดียวแหละ...” พี่ยอดแก้ตัว แล้วซุกหน้าลงมาที่ซอกคอผมอีกครั้ง
“...วันนี้ไม่ไหวแล้วนะ...” ผมห้ามเบา ๆ
“...พี่รู้ว่าทีมมีวิธี...” พี่ยอดพลิกตัวนอนหงาย ผมมองตาม สงสัยว่าทำไมพี่ยอดถอดเสื้อผ้าไวอย่างนี้หว่า
*
*
…ชีวิตเด็กกรุงเทพฯ ถึงจะเวอร์จิ้นแต่ถ้าบอกว่าไม่รู้เรื่องราวพวกนี้เลยคงไม่มีใครเชื่อ...เราสองคนผ่านคืนนั้นมาได้พร้อมกับการบอกรักแบบเบา ๆ...ดังที่เคยได้ยินว่า บรรยากาศอย่างนี้ มันก็เหมือนข้าวใหม่ปลามัน...พอได้เคยสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อไป และต่อไปเรื่อย ๆ...
*
*
...ตื่นเช้ามากับสถานที่แปลกตา แต่คนบนเตียงคนเดิมที่คุ้นเคยกัน...วันนี้ผมจะทำหน้าที่แฟนที่ดีของพี่ยอดด้วยการลงมาทำอาหารเช้าให้กินเป็นครั้งแรก...อาหารสดที่ผมแวะซื้อเมื่อวาน เป็นการตั้งใจซื้อมาใส่เพื่อตอบแทนน้ำใจมิ้นท์และฟิลิป อาศัยบ้านเค้าอยู่ เราก็ไม่ควรเข้ามามือเปล่า...
...เมื่อผมทำอาหารเช้าง่าย ๆ เสร็จ ก็ขึ้นไปปลุกพี่ยอด...เค้าตื่นแล้วตามที่ผมคาดไว้...บรรยากาศในตอนนี้มันมีความสุขอย่างประหลาด...ตอนอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ผมก็เช่าคอนโดอยู่ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามความพอใจ...แต่ความรู้สึกของการได้อยู่บ้านกับคนที่เรารัก มันมีความสุขยิ่งกว่าการอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ที่แม้ว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน...หรือแม้แต่อยู่ในหอพักของโรงแรม มันก็สบาย แต่บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะอย่างนี้ ผมว่ามันให้ความอบอุ่นแบบบ้านจริง ๆ ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน...
*
*
...ตอนที่ยังอยู่ในหอพักของโรงแรม ผมเคยได้กินขนมแปลก ๆ ที่พวกพี่ ๆ ซื้อมาแบ่งกันกินตอนเช้า...วันนี้ผมได้มีโอกาสช็อปปิ้งเดินซื้อของกินในตลาดสดยามเช้าก่อนไปทำงานกับพี่ยอด...ชีวิตเราจะมีความสุขอะไรเช่นนี้...น่าจะออกมาอยู่ข้างนอกซะตั้งนานแล้ว...
“...โอ้โห...ชั้นนึกว่าแกจะมาไม่ทันซะแล้ว...เป็นไงมั่งเดินทางลำบากมั้ย...” พี่รุจทักหลังรับไหว้ผม
“...ไม่ลำบากจ้ะ...มากับพี่ยอด...”
“...ตัวเองไม่ลำบาก แต่พี่ยอดลำบากอ่ะดิ...” แม็คพูดลอย ๆ
“...ไม่นะ...ก็เมื่อคืนนี้พี่ยอดนอนค้างด้วย...ตื่นเช้ามาเราก็ทำกับข้าวให้กิน...ก่อนมาทำงานก็เดินซื้อขนม...โอ๊ย...มีความสุขจะตาย...” ผมพูดไปยิ้มไปให้แม็คหมั่นไส้เล่น
“...โตขนาดนี้แล้วนอนคนเดียวไม่ได้เหรอ...” แม็คถามเสียงแข็ง
“...เราอ่ะนอนได้...แต่พี่ยอดนี่สิ...นอนคนเดียวไม่ได้อ่ะ...เค้าบอกว่ากลัวพวกโรคจิตจะไปเคาะห้องเค้าตอนดึก ๆ หรือไม่ก็สอดอะไรเข้าไปใต้ประตูอีก...” ผมกัด พลางจ้องหน้าแม็ค
“...มีอย่างนั้นด้วยเหรอ...” พี่รุจถามเสียงจริงจัง
“...ไม่มีหรอกครับ...พี่ยอดเค้าคงเข้าใจอะไรผิดมั้ง...” แม็ครีบตอบ
“...เหรอออออ...” ผมทำเสียงยาน ยิ้มกวน ๆ แล้วเดินไปดูงานอีกด้าน
*
*
...ตอนกลางวัน...ผมนั่งกินข้าวกับแก้วอย่างสงบ แต่ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ที่แคนทีนก็ดังขึ้น...คนที่อยู่ใกล้ที่สุดรับ และตะโกนเรียกผมให้ไปรับสายจากฟร้อนท์...พี่รุจโทรมา บอกให้รีบกินรีบกลับมาออนฟลอร์...ผมค่อนข้างงง เพราะพี่รุจไม่เคยเรียกผมขณะกินข้าวมาก่อน...
“...มีอะไรเหรอเจ้...” ผมถามทันทีที่กลับมาทำงานต่อในช่วงบ่าย
“...ซี้แกอ่ะ...สะบัดตูดลาออกแล้วนะ...ตอนนี้ไปเก็บของอยู่...” พี่รุจพูดเสียงเครียด แล้วเอาใบลาออกของแม็คให้ผมดู
“...แรงนะเนี่ย...” ผมพูดขำ ๆ เมื่ออ่านสาเหตุการลาออกของแม็ค เค้าบอกว่า ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้
“...เออสิ...เดี๋ยวผู้ใหญ่ก็ต้องถามอีกว่าเกิดอะไรขึ้น...ชั้นเบื่อจะอธิบายจังเลย...”
“...ให้ทีมไปอธิบายแทนก็ได้นะ...”
“...อีนี่...ให้แกไปก็เหมือนฆ่าตัวตายสิ...ปากแกอ่ะน่ากลัวที่สุด...”
“...โห...ไม่ถึงขนาดนั้นซักหน่อย...แล้วเจ้จะทำยังไงอ่ะ...”
“...ไม่ต้องห่วง...ชั้นคิดหาทางออกไว้แล้ว...ห่วงก็แต่อีตากรณ์น่ะสิ...จะไปใส่ไฟอะไรกับจีเอ็มไว้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้...เมื่อเช้าพอลับหลังแก แม็คมันก็โทรไปฟูมฟายกับกรณ์ตั้งนานสองนาน...”
*
*
…พี่รุจเดินยิ้มลงมาจากห้องประชุม แสดงว่าไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น...อยากจะถาม แต่แกก็เข้าห้องไปเคลียร์งานที่ค้างไว้...ส่วนผมก็ต้องออกมารับเช็คเอ้าท์กรุ๊ปของต้า ที่ได้สิทธิ Late check out ในตอนบ่ายอย่างนี้...
“...ขอบคุณที่มาพักที่นี่...ทางโรงแรมหวังว่าพวกพี่จะกลับมาพักอีกนะครับ...แล้วก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพด้วยนะครับ...” ผมยกมือไหว้ และพูดตามที่เคยได้รับการอบรมมา ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงพูดได้จริงใจกว่านี้
“...ขอให้ทำงานที่นี่คนเดียวอย่างมีความสุขนะ...” ต้าพูดกับผมเบา ๆ
“...ความสุขที่แท้จริงของชั้นคือตอนที่ไม่มีแกมาอยู่ใกล้ ๆ...ไม่ต้องห่วงหรอก...ชั้นไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว...ส่วนแกอ่ะ...ขอให้มีความสุขกับภาพที่สร้างไว้นะ...เฟคจนเป็นสันดานแล้วนี่...” ผมพูดเบา ๆ พร้อมยิ้มให้ เพราะกล้องจับอยู่
“...คุณครับ มีใบคอมเม้นท์โรงแรมมั้ยครับ...” ต้าโกรธจนหน้าแดง แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงหันไปขอแบบฟอร์มคำแนะนำจากพี่อีกคนที่กำลังเดินเข้ามา
“...เขียนให้ดี ๆ ละกัน...อย่าลืมนะว่าชั้นไม่มีอะไรจะเสีย...ส่วนแกอ่ะ...ระวังคลิปเสียงแสดงตัวตนที่แท้จริงล่ะ...ละครยังไม่ออนแอร์ ระวังจะร่วงก่อนรุ่งนะ...” ผมหัวเราะ ต้าชะงัก หยุดมือที่กำลังเขียนคอมเพลนผม ก่อนจะขย้ำกระดาษส่งให้ผมทิ้ง แล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปรวมกลุ่มกับทีมงานที่กำลังรอรถหน้าโรงแรม
*
*
...หมดศัตรูไปสองคน...เหนื่อยเหลือเกินกับการต้องมาทำอะไรไร้สาระกับคนพวกนี้...ยังดีที่วันนี้พี่ยอดเลิกงานเร็ว เค้าขึ้นไปอาบน้ำบนห้อง และเตรียมเสื้อผ้าไปค้างกับผมอีกตามเคย...ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่ยอดที่ขี่ช้า ๆ ให้ผมได้มองวิวข้างทางที่แสนจะโรแมนติก...ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศสองข้างทาง พี่ยอดก็เบรกรถกะทันหัน รถเกือบล้ม แต่ถึงจะระวังแล้ว รถก็ยังไถลไปโดนท้ายรถคันหน้าอยู่ดี...ผมมองไปเห็นแว๊บเดียวก็รู้ว่ารถที่ปาดหน้าเราคือรถของใคร...
“...เฮ้ย...ขับรถยังไงวะ...” พี่ยอดเอาขาตั้งลง และถามคุณกรณ์ที่ลงจากรถ
“...ทีมจะไปตัวเมืองเหรอ...ทางผ่านผมพอดี...ให้ผมไปส่งก็ได้นะ...นั่งมอเตอร์ไซค์อันตรายจะตาย...” คุณกรณ์ถามผม ไม่สนใจพี่ยอดที่ยืนข้าง ๆ
“...ทีมรู้สึกว่า อยู่กับพี่ยอดจะปลอดภัยกว่านะ...” ผมพูดเสียงเรียบ
“...กลัวผมเหรอ....”
“...ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ...” ผมจับมือพี่ยอดที่ทำท่าจะพุ่งไปหาคุณกรณ์
“...พี่กรณ์...อย่าไปยุ่งกับมันเลย...เสียเวลา...” แม็คเดินตามลงมา
“...เออ...อย่ามายุ่งกับเราเลย...ยังไงก็แยกเราไม่ได้หรอก...” ผมคล้องแขนพี่ยอดโชว์ คนทั่วไปคงนึกว่าเป็นการคล้องแขนห้ามไม่ให้มีเรื่อง แต่แม็คคงทนมองภาพตรงหน้าไม่ได้
“...ผมไม่ได้ยุ่ง แต่ยอดขี่มอเตอร์ไซค์ชนรถผม เป็นรอยเลยเนี่ย...จะชดใช้ยังไง...ผมจะไปส่งแม็คขึ้นเครื่อง รอประกันไม่ได้หรอกนะ...ได้ข่าวว่าเงินเดือนขึ้นนี่ยอด...เดี๋ยวผมไปทำสีแล้วจะเอาบิลมาเรียกเก็บละกัน...” คุณกรณ์พูดพูดอย่างคนที่เหนือกว่า
“...ไม่ต้องเรียกเก็บทีหลังหรอก...ค่าเสียหายเท่าไหร่...บอกมาเลยดีกว่า...” ผมถาม คุณกรณ์อึ้งกับท่าทางเชิด ๆ ของผมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“...เรียกไปเต็มที่เลยพี่...”
“...อืม...เรียกมาเลย...”
“...อ้าว...น้องทีม...พี่ยังไม่มีเวลาไปหาเลย...มีอะไรกันหรือเปล่า...” ผมหันไปตามเสียง แล้วก็ยกมือไหว้พี่สิทธิ์ นายตำรวจที่ขับรถผ่านมาพอดี พี่ยอดมองผมกับพี่เค้าสลับกัน
“...ไม่มีอะไรครับ...อุบัติเหตุนิดหน่อย...” คุณกรณ์รีบปฏิเสธ
“...ไหนบอกจะเรียกเต็มที่เลยไง...เท่าไหร่ว่ามาสิ มีปัญญาจ่าย...” ผมถามเสียงดัง
“...แผลแค่นี้ไม่กี่บาทหรอก...ขัดเอาหน่อยก็หลุดแล้ว...” พี่สิทธิ์เดินไปดูรอยใกล้ ๆ
“...เค้าขับปาดหน้าทีมอ่ะพี่...” ผมได้ที รีบฟ้องเลย
“...ผมไม่ได้ตั้งใจ...ผมรีบไปส่งน้องขึ้นเครื่องอ่ะครับ...”
“...แล้วจะเอายังไงกันล่ะ...ไปโรงพักมั้ย...” พี่สิทธิ์ถาม
“...ไปสิ...ไม่ไป...” ผมบอกให้ไป ขณะที่คุณกรณ์บอกไม่ไปพร้อมกัน
“...ปล่อยเค้าไปเหอะทีม...เราไม่ได้เป็นอะไรนี่...” พี่ยอดพูดพลางเดินไปที่มอเตอร์ไซค์
“...โอเค...งั้นเราแยกย้ายกันก็ได้พี่...เดี๋ยวน้องเค้าตกเครื่องแล้วต้องอยู่ที่นี่ต่อมันจะวุ่นวาย น่ากลัวกว่า...” ผมพูดยิ้ม ๆ แม็คเม้มปากแน่น เพราะรู้ว่าผมแอบกัด
*
*
...เราแยกย้ายกันด้วยดี...ผมกับพี่ยอดแวะกินข้าวกันที่ตลาด...ท่าทีของพี่ยอดเปลี่ยนเป็นขรึม ไม่คุยเล่นเหมือนเดิม ผมเข้าใจว่าเค้ายังโมโหกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่...
“...ทีมไปรู้จักกับเค้าได้ยังไง...” พี่ยอดทำลายความเงียบ
“...พี่สิทธิ์น่ะเหรอ...ก็ทีมพาแขกไปแจ้งความที่โดนกระชากกระเป๋าอ่ะ...”
“...แล้วทำไมดูสนิทกันขนาดนั้น...ต้องไปมาหาสู่กันด้วย...”
“...โห...พี่ยอด...เค้าหมายถึงเค้าจะมากินข้าวที่โรงแรมเฉย ๆ...ไม่มีอะไรกันเลย...” ผมพูดยิ้ม ๆ
“...ท่าทางพี่ต้องย้ายออกมาอยู่กับทีมที่บ้านมิ้นท์ซะแล้ว...”
****************************************************************************
...ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกความเห็น และต้องขอโทษที่ทำให้รอนานนะครับ...กว่าจะเข้าเนตได้ อุปสรรคมันเยอะเหลือเกิน...เมื่อกี้แถวบ้านผมก็ไฟตกสองรอบ ดีนะว่าใช้โน้ตบุ้คพิมพ์ มันยังใช้แบตสำรอง ถ้าใช้พีซี คงต้องนั่งพิมพ์ใหม่...
...ตอนหน้าจบแล้วนะครับ...ตอนที่ 50 พอดี รอลุ้นกันต่อไปว่าจะจบยังไง...แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้ครับ...
...เป้...