We belong together 9
…เช้านั้นผมสีหน้าไม่ค่อยดี ขนาดที่เพื่อนใหม่ของผมยังต้องถามด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนตื่นใหม่ ๆ ผมยังดูสดชื่นดีอยุ่เลย...ผมได้แต่กลบเกลื่อนทำเป็นกังวลเรื่องงานที่วันนี้ต้องวนเข้าปำความรู้จักกับพนักงานแผนกต่าง ๆ แผนกละ 2 ชั่วโมง...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว...แต่พวกมันก็จับความรู้สึกผมได้ ว่ามีอะไรในใจ...เอาวะ...เล่าก็ได้...ผมก็เลยระบายเรื่องเมื่อเช้าให้พวกมันฟังจนหมด....
...มัวแต่เม้าท์เพลิน...พวกเราเดินลงมากินข้าวในเวลาที่แคนทีนเกือบปิด...พวกนั้นโหมสวยกันบนห้องแบบไม่ต้องขึ้นมาซ้ำเหมือนที่พูดไว้ตอนเช้า...มันกลัวเข้าอบรมไม่ทัน...กินข้าวตอนนี้ ดีไปอย่าง เพราะที่แคนทีนไม่มีคนเลย...
“...อ้าว...ยอด...วันนี้นึกยังไงมากินข้าวแต่เช้าล่ะลูก...” เสียงแม่ครัวที่แคนทีนทักพี่ยอดดังมาจนพวกผมต้องหันไปมอง แล้วรีบหันกลับ แต่ก็ยังได้ยินเสียงสนทนาอยู่
“...วันนี้ตื่นเช้าอ่ะครับป้า...” พี่ยอดยิ้มเนือย ๆ
“...หน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอนเลย...หรือว่าไมสบาย...ป้าทำข้าวต้มให้มั้ย...”
“...ไม่เป็นไรครับป้า...มีอะไรผมก็กินอย่างนั้นดีกว่าครับ...”
“...จ้า...” แม่ครัวรับคำ และตักอาหารให้พี่ยอด
*
*
“...แก...พี่ยอดเดินมาทางนี้แล้ว...” อีมิ้นท์ทำเสียงตื่นเต้น
“...อีนี่...ก็ตรงนี้มันเป็นโต๊ะกินข้าว เค้าก็ต้องเดินมาทางนี้สิ...” ผมก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
“...แต่...” แก้วพูดยังไม่ทันขาดคำ พี่ยอดก็นั่งแปะข้าง ๆ ผม
“...ขอนั่งด้วยคนนะครับ...”
“...ได้จ้ะ..ตามสบายเลยพี่...” มิ้นท์ยิ้มร่า
“...อ้าว...ทีม...อิ่มแล้วเหรอ...ทำไมเช้านี้กินน้อยจัง...ไหนบอกอาหารเช้าสำคัญ ต้องกินเยอะ ๆ ไง...” แก้วแกล้งผม
“...กินไม่ลง...” ผมพูดเสียงเรียบ
“...เดี๋ยวก็ไม่มีแรงทำงานหรอก...วันนี้เดินเยอะนะ...” พี่ยอดพูดลอย ๆ
“...พักผ่อนน้อยก็ต้องกินน้ำเยอะ ๆ ด้วย...” ผมก็พูดลอย ๆ เหมือนกัน
“...พี่ยอด...เดี๋ยวช่วยไปดูประตูที่ห้องให้หน่อยได้มั้ยฮะ...คือมันฝืด ๆ ยังไงไม่รู้...” แก้วตัดบท ผมกับมิ้นท์มองหน้ากันงง ๆ
“...อืม...เดี๋ยวกินเสร็จแล้วพี่ไปดูให้เลยก็ได้...แป๊บเดียว...อบรมแปดโมงครึ่งใช่ปะ...” มิ้นท์กับแก้วพยักหน้า
“...อ้าว...ไหนบอกกินไม่ลงไง...” มิ้นท์ถาม เมื่อเห็นผมกินอาหารที่เหลืออีกครั้ง
“...เดี๋ยวไม่มีแรงทำงาน...” ผมตอบพลางมองพี่ยอดด้วยหางตา เห็นเขาอมยิ้มนิด ๆ
*
*
...เมื่อกินข้าวเสร็จ ยังพอมีเวลาเหลือ...สองสาวเดินนำขึ้นไปบนห้อง ทิ้งผมเดินรั้งท้ายกับพี่ยอด...สองคนหน้าเดินคุยกันเสียงดัง...สองคนหลังเดินก้มหน้าก้มตา ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ...
“...ห้องรกหน่อยนะพี่...ยังไม่ได้เก็บเลย...” แก้วพูดขณะเสียบคีย์การ์ด
“...โห...รกจริง ๆ ด้วย...” พี่ยอดยิ้ม เป็นครั้งแรกที่เห็นเขายิ้ม ทำผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หลบตาแทบไม่ทัน เมื่อเขาหันมาทางผม
“...ประตูทางออกไประเบียงอ่ะพี่...มันเปิดยาก...” แก้วเดินนำ ผ่านที่นอนที่วางระเกะระกะ พี่ยอดมองสภาพ มีหมอน 3 ใบ ผ้าห่ม 3 ผืน แล้วอมยิ้มอีกครั้ง
“...คนที่อยู่เดิม เค้าคงไม่ค่อยออกไประเบียงมั้ง มันก็เลยฝืด เดี๋ยวเย็น ๆ พี่เอาน้ำมันมาหยอดให้ก็เรียบร้อยแล้ว...” พี่ยอดพูดพลางขยับประตูเลื่อน
“...พี่ยอดเก่งจังเลย...” อีมิ้นท์ชมเสียงหวาน
“...เค้ายังไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย...” ผมเบรก
“...มีอะไรเสียอีกหรือเปล่า...” พี่ยอดหันมาถามแก้ว ไม่สนใจกับคำพูดผม
“...ไม่มีฮะ...” แก้วตอบ
“...มี...แต่ไม่รู้ว่าของที่เสียอันนี้พี่ซ่อมได้หรือเปล่า...” ผมแทรก
“...คุณจะให้ซ่อมอะไร...ผมซ่อมได้ทุกอย่างแหละ...” พียอดเปลี่ยนสรรพนาม เมื่อพูดกับผม
“...ความรู้สึกไง...” ผมกวน ทุกคนในห้องอึ้ง
“...ไปอบรมกันดีกว่า...ใกล้เวลาแล้ว...เดี๋ยวสาย...” อีมิ้นท์ได้สติก่อนใคร
“...อืม...” ผมเดินนำออกไปก่อน แต่แอบได้ยินแก้วคุยกับพี่ยอดด้านหลัง
“...ทีมมันงอนอ่ะพี่...เมื่อคืนมันนอนที่นี่จริง ๆ ดูที่นอนสิ พวกเราลากกันออกมานอนกองกันตรงนี้...ส่วนนี่ก็เสื้อผ้าของแก้วที่มันยืมใส่...แล้วมันก็จะเอาไปส่งซักให้...”
*
*
...ผมเดินหน้าระรื่นเข้าห้องอบรมคนเดียว อีพวกนั้นคงกำลังเม้าท์แก้ตัวให้เราละสิ...แก้วนี่มันแผนสูงเหลือเกิน...ลากพี่ยอดไปดูให้เห็นกับตา ว่าผมค้างที่ห้องนั้นจริง ๆ...ทีนี้ ไอ้คนที่เข้าใจผิด มองคนอื่นในแง่ร้ายคงหน้าแหกยับเยิน...
“...พี่ยอดล้อออออ...หล่อ...” เสียงอีมิ้นท์ดังมาก่อนตัว
“...แก...เค้ารู้ความจริงแล้ว...ต่อไปก็คุยกันดี ๆ นะ...” แก้วพูดช้า ๆ
“...ถ้าเค้าพูดดี...เราก็พูดดีด้วยนะ...” ผมเถียง
“...จริงเหรอ...ปากแกอ่ะร้ายจะตาย...” อีมิ้นท์เข้าข้างพี่ยอด
“...อีนี่เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนนะมรึง...” ผมพูดขำ ๆ
“...เฮ้ย...น้องไผ่มาแล้ว...โอ๊ย...แพ้ชุดนักศึกษาช่าง...” อีมิ้นท์เพ้อเมื่อเห็นน้องไผ่เดินเข้าห้องในชุดเสื้อขาว กางเกงสีกรมท่าเข้ารูป รับกับช่วงขายาวสมส่วน เดินมานั่งข้างแก้ว
“...กินข้าวเช้ามาหรือยัง...”
“...เรียบร้อยแล้วครับพี่แก้ว...กินที่ตลาด ถึงได้มาสาย...” ไผ่หัวเราะเขิน ๆ
“...กินกับแฟนเหรอ...” อีมิ้นท์สอด
“...ผมยังไม่มีแฟนครับ...” ไผ่ก้มหน้าตอบ ไม่ให้ใครเห็นหน้าแดง
“...อายซะหน้าแดงปี๋เลยนะน้อง...” มิ้นท์แซว
“...แล้วแกยิ้มอะไร...แก้ว...” ผมแกล้งแซวแก้วต่อ
“...บ้าเหรอ...”
*
*
...พวกเราจบการชงแก้วให้น้องไผ่ เพราะพี่แผนกบุคคลเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องใหญ่ในมือ...
“...วันนี้เราต้องจับกลุ่มแยกกันไปแนะนำตัวกับทุกแผนกในโรงแรมนะคะ...เอาเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คนละกัน...เดี๋ยวออกมาจับฉลากกันนะคะ...” พวกเราเดินออกไปหน้าห้อง ล้วงลงไปในกล่องที่พี่เค้าเตรียมมา
...ผมโชคร้ายที่ต้องไปอยู่กับใครก็ไม่รู้อีก 3 คนเป็นผู้หญิงทั้งหมด จำได้ว่า เป็นเด็กฝึกงานแผนกเซลล์ แผนกแม่บ้าน และแผนกจัดเลี้ยง...อีมิ้นท์โชคร้ายกว่า เพราะมันได้อยู่กลุ่มเดียวกับซอนย่า...คงจะแย่งซีนกันน่าดู...แต่คนที่โชคดีที่สุดคือแก้วที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับน้องไผ่...เด็กหนุ่มก็ยืนก้มหน้าเขิน...เพื่อนสาวผมก็ยืนอมยิ้มบิดไปบิดมา...
“...ต่อไป...ก็มาจับฉลากกันต่อว่ากลุ่มไหนต้องไปดูงานที่แผนกอะไรก่อนหลัง...เริ่มจากกลุ่มน้องทีมเลย...มา...น้องทีมมาเป็นตัวแทนจับฉลากได้เลยค่ะ...” ผมขยับไปควาน ๆ เลือกกระดาษในกล่อง แล้วยื่นให้พี่เค้า
“...แหม...เจอกันทุกวันยังไม่เบื่ออีกเหรอ...” พี่แผนกบุคคลถามผมเล่น ๆ
“...อะไรเหรอครับ...”
“...อ่ะ...เอาไปดู...เช้านี้ กลุ่มน้องทีมต้องไปแนะนำตัวที่แผนกช่างเป็นที่แรกนะคะ...” พี่เค้าพูดยิ้ม ๆ ผมทำหน้าไม่ถูก ยืนอ่านกำหนดการที่ต้องปฏิบัติในวันนี้ เช้า แผนกช่าง...บ่าย แม่บ้าน...เย็น เซลล์...ส่วนวันพรุ่งนี้เช้า แผนกต้อนรับ...สาย บัญชี...บ่าย สโตร์ ปิดท้ายด้วยแผนกอาหารและเครื่องดื่ม...วันมะรืน เราก็จะเริ่มฝึกงานจริง ๆ แล้ว...
*
*
...หลังจากแยกย้ายกันออกมาจากห้องอบรม...ผมก็เดินตัวลอย ๆ ไปตามทางเดิน...แผนกช่างอยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรม แยกออกเป็นช่างศิลป์...ช่างไอที...และช่างซ่อมบำรุง...
...เนื่องจากบุคลิกของผม ทำให้ทุกคนลงความเห็นให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม...ผมเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตให้เข้าไปในห้อง จึงเปิดประตูเข้าไป...คนแรกที่ผมเห็นคือ พี่ยอด นั่งหน้าหล่อเถื่อนอยู่บนโต๊ะ รายล้อมด้วยลูกน้องอีกสามคน ที่ทำสายไฟอะไรกันอยู่ยั้วเยี้ยที่พื้นห้อง...
“...สวัสดีครับ...พวกเราเป็นเด็กฝึกงานประจำภาคเรียนที่สอง...สิ้นสุดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า...พวกเราต้องขอฝากตัว และขอให้พวกพี่ชี้แนะด้วยนะครับ...สำหรับผมฝึกงานที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า ชื่อทีมนะครับ...ส่วนคนนี้...” ผมฝืนยิ้ม และแนะนำตัว และเพื่อนในกลุ่มตามสคริปท์ที่ฝ่ายบุคคลให้มา
“...เฮ้ย...นี่มันเด็กที่ยืนด่าพี่ฉอด ๆ เมื่อคืนนั้นที่ร้านอาหารนี่...” เสียงช่างคนนึงพูดขึ้น
“...เด็กมันไม่รู้ว่าเราเป็นใครไง...” อีกคนพูดต่อ
“...แต่พี่ยอดรู้ว่าน้องมันเป็นเด็กฝึกงานที่โรงแรมนี่...” ช่างอีกคนก็พูด คนนี้ผมก็จำได้ว่าเป็นหนึ่งในหกที่ร่วมโต๊ะวันนั้น
“...ซวยแล้วกรู...” ผมบ่นเบา ๆ
“...เออ...ช่างเหอะ...นี่มันรูมเมทกรู...กรูเห็นตั้งแต่วันแรกมานอนผึ่งแดดที่ระเบียงแล้ว...”
“...โห...น้องทีม...ไม่กลัวผิวสวย ๆ เสียหมดเหรอจ๊ะ...นอนตากแดดทำไมล่ะ...” ผมกัดฟัน ก้มหน้า บอกตัวเอง อดทนไว้ ห้ามเถียง ห้ามด่า กรูคนนะ ผึ่งแดดมันดูเหมือนตัวอะไรไม่รู้ เค้าเรียกอาบแดดย่ะ
“...เฮ้ย...เด็กกรู...อย่าแซว...” พี่ยอดพูดเสียงเข้ม พวกนั้นถึงได้หุบปาก ผมเงยหน้ามองพี่ยอดทันทีที่พูดจบ เห็นแววตาขี้เล่นเป็นครั้งแรก ถึงแม้แววตาคู่นั้นจะอิดโรยไปบ้าง แต่ก็ยังน่ามองอยู่
“...มา...ตามพี่มา เดี๋ยวจะพาไปดูแผนกช่าง...มาดูว่าพวกพี่ทำงานกันเหนื่อยแค่ไหน...พวกมรึงด้วย...ตามกรูมา...” พี่ยอดลงจากโต๊ะ แล้วเดินนำทุกคนไปข้างนอก
“...ทีม พักห้องเดียวกับพี่ยอดเหรอ...” ชะนีร่วมกลุ่มถาม
“...อืม...” ผมตอบสั้น ๆ
“...พี่เค้าเท่ดีเนอะ...” ผมยิ้มเจื่อน ๆ
“...พี่เค้ามีแฟนปะ...” อีกคนกระซิบ
“...ไม่รู้สิ...เราไม่ค่อยได้คุยกันอ่ะ...” ผมเลี่ยง
“...พี่ว่า แยกกันดีกว่า...ทีม...มากับพี่...”
“...อะไรนะ...” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อพี่ยอดเรียกแทนตัวเองว่าพี่กับผม
“...เราจะแยกย้ายกันไป...ทีมมากับพี่...ส่วนคนอื่น เดี๋ยวพวกพี่ ๆ เค้าจะพาไปดูส่วนอื่นของแผนกช่างที่เราต้องดูแล...” พี่ยอดพูดเป็นการเป็นงาน
...เอาแล้วกรู...พี่ยอดได้โอกาสเอาคืนแล้วนี่...ซวยแน่...แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละวะ...ซวยตั้งแต่ก่อนมาฝึกงานแล้วนี่...มันจะเลวร้ายซักเท่าไหร่เชียว...สู้โว้ย...
*****************************************************************************
...ขอโทษที่หายไปนาน สองเทศกาลติดกัน คนขียนแRดมากไปหน่อย ป่วยเลย...ตอนนี้อาการค่อยยังชั่วแล้ว กลับมาต่อให้นิดนึงก่อน ตอนหน้าจะมาแบบยาว ๆ นะครับ...
...ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น ทุกกำลังใจ และทุกการรอคอย...ถ้าคุณรู้ว่าผมเคยเขียนเรื่องอะไร รับรองว่าคุณจะมั่นใจว่าผมไม่หนีหายไปไหนแน่นอน...