We belong together (Season II) ตอนที่ 7
...คืนนี้เป็นคืนที่ผมนอนหลับอย่างมีความสุขที่สุดในรอบห้าปีที่ผ่านมา...ภายใต้ผ้าห่มหนานุ่มมีร่างสองร่างนอนกอดกันแนบชิด...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของพี่ยอดยามหลับสนิทฟังเพลินเหมือนเพลงกล่อมนอนชั้นดี...ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยภายใต้อ้อมแขนของคนรักนั้นเป็นสิ่งที่ผมต้องการที่สุดมาตลอด...
...คนภายนอกอาจจะมองว่าผมเป็นคนที่เข้มแข็ง สามารถคิดแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง...แต่มันไม่ใช่เลย...บางครั้งสิ่งที่ผมคิดมันก็ไม่ได้ถูกไปทุกเรื่อง ผมต้องการคนที่ช่วยกันคิดยามผมต้องเจอปัญหา...ผมต้องการใครซักคนที่ปลอบใจเมื่อผมผิดหวัง...ผมอยากได้คนที่ให้กำลังใจยามผมอ่อนแอ...
“... พี่ยอดตื่นเถอะ...เดี๋ยวไปทำงานสาย...” ผมเขย่าแขนปลุกพี่ยอดเบา ๆ
“...อืม...” พี่ยอดรับคำงัวเงีย แล้วยืดตัวบิดขี้เกียจ
“...ทีมเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้วนะ...” ผมพูดพลางเดินไปแต่งตัวหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“...อยากกลับไปทำงานโรงแรมแบบเดิมจัง....ตื่นขึ้นมาก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์...” พี่ยอดลุกขึ้นถอดเสื้อออก เผยให้เห็นกล้ามแน่น ๆ ที่มีรอยเล็บผมปรากฏอยู่หลายรอย
“...พี่ยอดอาบน้ำเสร็จแล้วทีมจะทายาให้นะ...” ผมพูดแต่หลบตาไม่กล้ามองพี่ยอด
“...อ๋อ...รอยพวกนี้น่ะเหรอ...ไม่เป็นไรหรอกแค่แสบ ๆ คัน ๆ...เดี๋ยวคืนนี้พี่จะหาถุงมือมาให้ทีมใส่...”
“...จะบ้าเหรอ...” ผมแกล้งพูดเสียงดังข่มความเขิน
“...พี่ล้อเล่น...” พี่ยอดรีบพูด
“...ไม่ต้องหาถุงมือมาหรอก...ทีมตัดเล็บแล้ว เมื่อกี้นี้เอง...” ผมพูดยิ้ม ๆ พี่ยอดทำท่าจะเดินเข้ามา ผมต้องทำหน้าดุ ไล่ให้เค้าไปอาบน้ำ
*
*
...อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆ ตามวิถีชีวิตคนกรุง...ผมโทรสั่งรูมเซอร์วิสให้นำอาหารขึ้นมาส่งสองที...พี่ยอดและผมควรจะมีเวลาได้กินข้าวเช้ากันแบบโรแมนติกสิ...แต่ถ้ามัวกินไปคุยไปเหมือนตอนทำงานโรงแรม ผมคงต้องไปสายตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งใหม่...
“...ถ้าออกสายกว่านี้รถติดแบบไม่ขยับแน่ ๆ...” พี่ยอดพูดเมื่อขับรถพ้นแยกมหาโหดบนถนนสุขุมวิท
“...อืม...ถ้าสายทีมขอกระโดดขึ้นรถไฟฟ้าไปก่อนนะ...ยังไม่พ้นโปรห้ามสายเด็ดขาด...” ผมมองนาฬิกาสลับกับมองสภาพจราจร
“...เมื่อวานกับวันนี้เหมือนคนละคนเลยนะ...” พี่ยอดสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผม
“...ยังไงอ่ะ...”
“...วันนี้แต่งตัวดีผิดปกติ เครื่องประดับ กระเป๋า นาฬิกา โทรศัพท์...ขนมาจากอังกฤษทั้งนั้นเลยสิเนี่ย...”
“...ก็ต้องแต่งตัวให้เกียรติกับตำแหน่งใหม่หน่อย...” ผมอธิบาย
“...ตกลงจะบอกพี่ได้หรือยังว่าจะย้ายไปทำงานในตำแหน่งอะไร...” พี่ยอดถามยิ้ม ๆ
“...ตำแหน่งเลขาเอ็มดี...” ผมตอบ พี่ยอดทำหน้าประหลาดใจ
“...บริษัทที่ทีมทำอยู่มีเอ็มดีสองคน...ทีมจะไปทำให้คนไหน...” พี่ยอดถาม
“...อ้าว...ทำไมพี่ยอดถึงรู้ว่ามีสองคนล่ะ...”
“...พี่เคยเป็นลูกค้าของบริษัททีม...ตอนที่พี่สร้างโรงงาน พี่ก็จ้างบริษัททีมดูแลเรื่องระบบไฟ...”
*
*
...พี่ยอดบอกว่ามิสเตอร์วาดะเป็นคนที่ทำงานจริงจังมาก...พนักงานที่ทำงานใกล้ชิดเค้าทุกคนอยู่ได้ไม่นานก็ต้องออกหมด...ทั้งเลขา และคนขับรถ...ส่วนมากจะทนไม่ไหวเพราะงานหนัก และเหนื่อยมาก...พูดไปพี่ยอดก็อมยิ้มเพราะคิดว่าเมื่อผมทำไม่ไหว ก็จะต้องไปทำงานกับเค้าแน่นอน...
“...ยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ...นึกว่าถอดใจไปซะแล้ว...เมื่อวานเห็นเก็บของกลับบ้านหมดโต๊ะ...ก็นี่แหละนะ...งานการมันหายาก...ทนอายเอาหน่อย คุณวาดะแกไม่ค่อยขึ้นไปแผนกบัญชีหรอก...ทน ๆ ทำไปละกัน...ชั้นก็สงสารเธออ่ะนะ...” ชัชลอยหน้าลอยตาถากถางผมทันทีที่เห็นผมมารูดบัตรเข้างาน
“...รู้สึกว่าชัชจะเข้าใจผิดนะ...เราเก็บของกลับบ้านไม่ได้หมายความว่าเราจะลาออกนี่...”
“...อ๋อเหรอ...ก็เห็นคู่หูทำท่าอาลัยอาวรณ์ซะขนาดนั้น...”
“...เราต้องเจอกันอีกนาน...ไม่แน่นะ...เราอาจจะใกล้กันมากขึ้นด้วยก็ได้...” ผมยิ้มมุมปากให้ชัช และเดินขึ้นแผนกบัญชี
*
*
...ไม่มีใครรู้ว่าผมจะต้องไปรับตำแหน่งใหม่ในวันนี้แม้แต่คิม...เพราะเมื่อวานผมเดินหน้าเครียดมาเก็บของ เป็นใครก็ต้องคิดไปแบบนั้น...เพื่อนสาวคิม และพี่ ๆ ในแผนกเข้ามาพูดคุยกับผมเฮฮาเหมือนสองวันก่อน...ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อวาน พวกเค้ายังคิดว่าผมลาออกแล้ว มาที่นี่เพื่อคืนบัตร และมาเยี่ยมเยียนเฉย ๆ เพราะไม่เห็นผมจะนั่งประจำที่ทำงานเลย เรายื่นคุยกันที่หน้าแผนกอยู่นาน...
“...แผนกบัญชีนี่ครึกครื้นจริง ๆ เลยนะ...” ชัชยังตามขึ้นมาก่อกวน
“...มีธุระอะไรกับพวกเราเหรอ...” คิมถามเสียงแข็ง
“...ไม่มีอะไรเธอหรอกคิม...นี่...ทีม...ได้ยินว่าพี่เค้าเรียกพบตอนเก้าโมงนี่...ไม่ไปรอล่ะ...ไปนั่งทำใจดี ๆ ซักพักก่อน...” ชัชหันมาพูดเชิด ๆ กับผม
“...โอเค...เดี๋ยวไป...” ผมมองนาฬิกาข้อมือ
“...ตายแล้ว...ก๊อปเหมือนมาก...ซื้อที่สีลมหรือประตูน้ำล่ะ...” ชัชถลาเข้ามาจับมือผมเพื่อดูนาฬิกา แต่เมื่อเห็นใกล้ ๆ เค้าก็ชะงัก
“...ถ้าดูเป็นคงรู้ว่ามันไม่ใช่ของก็อปอ่ะนะ...” ผมพูดเสียงเรียบ
“...ว๊ายยยยยย...เพิ่งสังเกต...เพื่อนชั้นอลังการอ่ะ...อย่าไปถือสาคนบางคนเลยนะทีม...เท่าที่ประเมินราคาด้วยตาเปล่าได้ในตอนนี้เหรอ...เงินเดือนคนบางคนทั้งเดือนยังซื้อเข็มนาฬิกาทีมไม่ได้เลยมั้ง...” คิมกัดชัชที่ยืนกัดฟันอยู่
“...ถ้าไม่มีงานทำก็คงขายกินไปได้หลายเดือนนะ...” ชัชเบะปาก
“...อย่าไปอะไรกับเค้าเลย...เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะไม่มีงานทำกันแน่...” ผมปรามคิมที่จะเถียงแทน ก่อนจะเดินออกไปห้องประชุมเล็ก
*
*
...ผมนั่งคุยกับฝ่ายบุคคล ตกลงเรื่องฐานเงินเดือน และสวัสดิการใหม่ หน้าที่รับผิดชอบใหม่ โทรศัพท์เครื่องใหม่พร้อมเบอร์ใหม่สำหรับเรื่องงานที่บริษัทจ่ายค่าโทรให้...คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คส่วนตัวใหม่เอี่ยม...และสิทธิพิเศษที่ได้รับในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของเอ็มดี...เค้าบอกว่าคุณวาดะไม่ชอบให้ใช้คำว่าเลขา แต่ให้ใช้คำว่าผู้ช่วยแทน...ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องรูดบัตรลงเวลาเข้าออก...มีสิทธิ์ที่จะใช้รถพร้อมพนักงานขับรถของบริษัทตามความจำเป็น...และที่ผมชอบที่สุดคือ ตำแหน่งของผมขึ้นอยู่กับคุณวาดะคนเดียว เพราะบางครั้งผมต้องทำหน้าที่ประสานงานแทนเค้าในเวลาที่เค้าไม่อยู่...
...สิทธิพิเศษแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัว...พี่เค้าเตือนไว้ว่า คุณวาดะเป็นคนที่ทำงานหนัก...ผู้ช่วยอย่างผมจึงต้องทำงานหนักตามไปด้วย...ที่เค้าเลือกผมเพราะมั่นใจว่าผมน่าจะทำงานได้เรียบร้อย ละเอียดถี่ถ้วนเหมือนผู้หญิง แต่ทำงานเข้มงวด และตัดสินใจได้เด็ดเดี่ยวเหมือนผู้ชาย...
“...ชัช...มาช่วยจัดโต๊ะให้คุณทีมหน่อย...” พี่ผ่ายบุคคลเดินออกมาเรียกชัชที่เค้าท์เตอร์
“...อะไรนะพี่...” ชัชถามเสียงดัง
“...มาช่วยจัดโต๊ะทำงานใหม่ให้คุณทีมผู้ช่วยคุณวาดะหน่อย...”
“...ทีมผ่านสัมภาษณ์เหรอ...”
“...นี่ชัช...ต่อไปต้องเรียกคุณทีมนะ...ตามตำแหน่งแล้ว เธอต้องเรียกคุณนำหน้าชื่อ...”
“...ทำไมอ่ะพี่...” ชัชตวัดเสียงถาม
“...ทำงานกับคนญี่ปุ่น เค้าถือเรื่องตำแหน่ง เธอไม่รู้เหรอ...ถ้าคุณวาดะมาได้ยินเธอเรียกทีมเฉย ๆ เธอโดนตำหนิแน่ ๆ...”
“...ครับ...” ชัชรับคำเสียงสลดลง
*
*
...โต๊ะทำงานใหม่ของผมอยู่หน้าห้องคุณวาดะ...มีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ชุดใหญ่...มีกองเอกสาร และแฟ้มวางให้ผมต้องศึกษางานเยอะมาก...ชัชชักสีหน้าวางของบนโต๊ะโครมคราม...ผมเหลือบตามองนิดนึงก่อนจะนั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักสูง และชี้นิ้วสั่งให้ยกโน่นยกนี่ ย้ายของไปมา...ตอนแรกชีก็กระแทกกระทั้น หลัง ๆ คงเหนื่อยเลยทำดี ๆ เหมือนจะรู้ว่า ยิ่งกระฟัดกระเฟียด ผมยิ่งแกล้ง...พอผมเห็นชัชเริ่มทำดีแล้ว จึงปล่อยให้ไปทำงานอย่างอื่นได้...ชีสะบัดบ๊อบออกไป แบบไม่หันมามองอีกเลย...
“...คุณทีม...ยินดีด้วยนะ...ดีใจจังเลยที่ยังอยู่บริษัทเดียวกันอีก...” คิมเดินมาคุยด้วยตอนก่อนเที่ยง
“...เรียกทีมเฉย ๆ ก็ได้...”
“...ไม่ได้หรอก...ตามตำแหน่งแล้ว ทีมอยู่ในส่วนผู้บริหารเลยนะ...”
“...ก็เรียกคุณเฉพาะอยู่ต่อหน้าคนอื่นไง...เวลาอยู่กันสองคนอย่าเรียกคุณเลย มันดูห่างเหินยังไงไม่รู้...” ผมพูดยิ้ม ๆ
“...โอเค...แล้วนี่คุณวาดะอยู่ป่าว...เดี๋ยวเค้าเห็นเรามาเม้าท์จะโดนดุเอา...”
“...วันนี้คุณวาดะเข้าช่วงบ่าย...”
“...โล่งอก...วันนี้ทีมกินข้าวที่ไหนอ่ะ...”
“...ไม่รู้สิ...พี่ยอดบอกว่าจะมารับอ่ะ...”
*
*
...พี่ยอดมารับผมกับคิมไปกินบุฟเฟ่กลางวันในโรงแรมหรูแถวตึกที่เราทำงานอยู่...จริง ๆ แล้วเดินไปก็ได้ แต่อากาศตอนเที่ยงมันร้อนมาก แดดก็แรง...พี่ยอดให้คนขับรถพาไปกิน คิมดูท่าทางเกรงใจจนพี่ยอดต้องบอกว่าเป็นการฉลองตำแหน่งใหม่ให้ทีม มันถึงเดินไปเลือกตักอาหารกินได้อย่างสบายใจ...
...ขากลับ พวกเราเห็นว่า ถ้านั่งรถอ้อมกลับคงใช้เวลานาน จึงพากันเดินกลับตึกกัน...คิมเม้าท์ไม่หยุดถึงความหรูหราของสถานที่ และอาหาร ถึงกับบอกว่าชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปนั่งกินอย่างนี้ได้...และด้วยความที่ถูกใจ คิมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้หลายรูป...มันบอกว่าจะเอาไปโชว์ไว้กระแทกหน้านังชัช...”
*
*
...เรากลับมาทันบ่ายพอดี...คุณวาดะเรียกผมเข้าไปบรีฟงานในห้องตั้งแต่บ่ายสองถึงหกโมงเย็น...ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าบอกว่าหิว คุณวาดะก็หิวเช่นกัน ผมโทรสั่งให้ชัชไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์กับน้ำมากินรองท้องกับคุณวาดะระหว่างคุยงานกัน...การทำงานในรูปแบบของอเมริกัน เค้าไม่ค่อยถือสาเรื่องนี้ เพียงแต่พนักงานคนไทยที่ผ่านมากังวลไปเอง หิวก็หาอะไรกินกัน ปวดฉี่ก็ไปเข้าห้องน้ำ...คุณวาดะไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คนอื่นพูดซักหน่อย...ใจดี แถมแฟร์ด้วยซ้ำ...เรากินไป คุยกันไป แทบไม่หมือนลูกน้องกับเจ้านายคุยกันเลย...
…ถึงเค้าจะใจดี แต่ผมก็รู้ว่าอะไรควร ไม่ควร ดังนั้นผมจึงปิดโทรศัพท์ ทั้ง ๆ ที่กระวนกระวาย กลัวว่าพี่ยอดจะรอกลับบ้าน แต่เรื่องงานต้องมาก่อน...ตอนนี้ท้องอิ่ม เราก็วางระบบงานกันต่อ...เงยหน้ามาอีกทีเกือบสามทุ่ม...คุณวาดะค่อนข้างพอใจที่ผมช่วยงานได้เยอะ...ไม่ใช่แค่พยักหน้ารับคำ แต่ผมใช้ความรู้ และประสบการณ์บางอย่างเสนอความเห็นด้วย...แรก ๆ ผมก็เกร็งพราะรู้ว่าเค้าเป็นนายจ้าง แต่ไป ๆ มา ๆ เริ่มสนุกกับการได้ทำงานโดยใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์...
“...พรุ่งนี้ผมจะเข้าออฟฟิศสิบโมง แล้วตอนบ่ายผมจะไปดูโรงงานที่ชลบุรี...คุณต้องไปด้วยนะ...อ่ะ...นี่เป็นตารางงานของผมในสัปดาห์นี้...ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของคุณนะที่ต้องจัดเวลาให้ผมอย่างเหมาะสม...” คุณวาดะยื่นเอกสารให้ผมดู
“...ได้ครับ... “
“...ดึกแล้ว คุณกลับบ้านเถอะ ผมคิดว่าจะทำงานต่ออีกนิดนึง...เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งนะ...”
“...ไม่เป็นไรครับ...ผมกลับเองได้...”
“...ไม่ต้องเกรงใจ...พวกเค้าชอบทำโอทีกันเยอะ ๆ...”
“...โอเค...แต่ขอทีมเช็คดูก่อนว่ามีคนมารอรับทีมหรือเปล่า...”
“...ขอโทษนะทีม...คุณมีแฟนหรือยัง...”
“...เอ่อ...มีแล้วครับ...”
“...แล้วมันจะมีผลกระทบกับงานหรือเปล่า...คุณต้องเคลียร์เรื่องเวลาของคุณด้วยนะ...”
“...เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ เพราะเค้าก็งานเยอะเหมือนกัน...”
*
*
...ผมเปิดโทรศัพท์ ในจอโชว์ว่าหลังห้าโมงเย็น พี่ยอดโทรตามแค่ชั่วโมงละครั้ง...ผมโทรกลับ พี่ยอดยังรอผมอยู่ที่ออฟฟิศของเค้า...คุณวาดะเมื่อรู้ว่าผมมีคนรอรับกลับบ้านแล้ว เค้าก็ไม่ว่าอะไร แต่จะเดินไปส่งผมที่ลิฟท์...บรรยากาศบนฟลอร์นี้น่ากลัว ต่างจากตอนกลางวันมาก...มันอึมครึม ทั้งชั้นมีแค่ไฟเปิดอยู่ไม่กี่ดวง...ผมใช้เวลาล้างหน้า ล้างมือซักพัก...ยังไม่ทันที่ผมจะเดินออกจากออฟฟิศพร้อมคุณวาดะ พี่ยอดก็มายืนรอหน้าลิฟท์แล้ว...
“...สวัสดีตอนเย็นครับคุณยอด...” คุณวาดะทัก พร้อมโค้งแบบคนญี่ปุ่น เค้าพยักหน้าให้ผมโค้งตาม ผมก็ต้องโค้งอย่างเสียไม่ได้
“...สวัสดีครับคุณวาดะ...” พี่ยอดตอบกลับ
“...มีอะไรให้เรารับใช้เหรอครับ...”
“...เอ่อ...ผมมารับทีมกลับบ้านครับ...” พี่ยอดพูดเขิน ๆ
“...อ๋ออออออ...” คุณวาดะลากเสียง
“...ขอตัวกลับก่อนนะครับคุณวาดะ...ราตรีสวัสดิ์ครับ...” ผมรีบลากพี่ยอดเข้าลิฟท์ กลัวว่าคุณวาดะจะถามอะไรต่ออีก
*
*
...พี่ยอดมองผมยิ้ม ๆ เมื่อเราอยู่ในลิฟท์กันสองต่อสอง...เค้าค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ ผมก็เขยิบหนี พี่ยอดก็ยังตามมาไล่ต้อน...ไม่ทันได้ตั้งตัว พี่ยอดก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่...
“...เฮ้ย...”
“...ไม่ต้องกลัว...มุมนี้ไม่เข้ากล้องหรอก...” พี่ยอดกระซิบ
“...เขยิบออกไปหน่อย...อึดอัด...” ผมดันอกพี่ยอดออก
“...วันแรกก็เลิกงานสามทุ่มกว่า...จะไหวมั้ยเนี่ยเมียเรา...” พี่ยอดพูดยิ้ม ๆ
“...ไหวสิ...ทีมต้องตั้งตัวให้ได้...เงินเดือนทีมต่อรองได้อยู่นะ...พอพ้นโปรก็จะได้เพิ่มอีกเยอะเลยด้วย...” ผมพยายามพูดเสียงแข็งเพื่อข่มความเขินที่พี่ยอดยังยืนเบียดผมอยู่ในตอนนี้
*
*
...ผมชวนพี่ยอดไปกินข้าวที่เยาวราช...ร้านค้าต่าง ๆ ยังเหมือนเดิม มีแต่ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น...ถึงจะเหนื่อยกับงาน แต่พอเห็นของกินแล้วอดใจไม่ไหว เดินกินทีละร้านเหมือนไปกับเพื่อนตอนเรียนหนังสือ...พี่ยอดก็สนุกกับการที่ผมพาชิมตามร้านต่าง ๆ...เค้าบอกว่าเค้าแทบไม่ได้กินข้าวนอกบ้าน เพราะไม่มีคนกินด้วย และไม่มีเวลาสรรหาของกินแบบนี้...ถ้าไม่ออกมากินกับลูกค้า หรือตามงานสังสรรค์ พี่ยอดก็ได้แต่ฝากท้องกับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา...
“...พี่ยอด...ถ้าทีมต้องทำงานดึก ๆ พี่ยอดหิวก็กินข้าวเลยนะ...ไม่ต้องรอ...” ผมพูดเมื่อเห็นพี่ยอดกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย คงเป็นเพราะความหิวที่เค้ารอกินข้าวพร้อมผม
“...พี่ก็ทำงานเพลิน ตอนเย็น ๆ ไม่ค่อยหิว...”
“...พรุ่งนี้ทีมต้องไปชลบุรีกับคุณวาดะ...ไม่รู้จะได้กลับกี่โมง...”
“...พี่ก็มีนัดลูกค้าที่ระยองเหมือนกัน...”
“...อ้าว...งั้นรีบกินรีบกลับเหอะ...” ผมไม่อยากให้พี่ยอดเสียเวลาพักผ่อน
“...รีบกลับก็ดีเหมือนกัน อยากจะพิสูจน์ว่าทีมตัดเล็บแล้วจะทำให้พี่เป็นแผลได้อีกหรือเปล่า...”
“...อะไรเนี่ยพี่ยอด...ที่ทีมบอกให้รีบกลับหมายถึง รีบกลับไปนอนพักผ่อนต่างหาก...”
*
*
...ใครจะใจแข็งห้ามได้ เมื่อคนที่เรายินยอมพร้อมใจที่จะให้เค้าได้ตอกย้ำความเป็นเจ้าของ ขออาบน้ำพร้อมกันเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาพักผ่อน...เราแทบจะกลายเป็นคนเดียวกันในอ่างอาบน้ำ...ผมนอนเอนหลังพิงอกเปลือยเปล่าของพี่ยอด...น้ำอุ่นที่เราสองคนแช่อยู่ ผมว่ามันคงอุ่นไม่เท่ากับอ้อมกอดของพี่ยอด...เสียงพูดทุ้ม ๆ ข้างหูบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาตลอดห้าปีฟังเพลินจนผมหลับตาเคลิ้ม แต่ต้องสะดุ้งเมื่อพี่ยอดเริ่มใช้ปากเม้มเบา ๆ ที่ใบหูของผม...จะดิ้นหนีก็ไม่ได้เพราะตอนนี้ผมอยู่ในวงแขนเค้า...ยิ่งผมขยับตัว...ร่างกายด้านล่างของเราก็ยิ่งเสียดสีกัน...น้ำอุ่นกำลังจะกลายเป็นน้ำร้อน...นี่ผมกำลังจะได้รับประสบการณ์ใหม่เหรอ...ที่เคยเห็นในหนังเค้ามีฉากอย่างว่าในห้องน้ำ...ดีเหมือนกัน...ไม่เลอะเทอะ...ไม่ต้องเสียเวลาถอดเสื้อผ้าด้วย...
****************************************************************************
...ขอบคุณสำหรับคำติชม ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณที่เป็นห่วง และขอบคุณที่รออ่านนะครับ...วันนี้มาต่อให้นิดนึงก่อน เป็นการปูเรื่องในออฟฟิศใหม่...อะไรจะเกิดขึ้น...ติดตามได้เร็ว ๆ นี้...
...กินยา พักผ่อนเยอะ ๆ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว...น้ำหนักลดลงนิดนึงด้วย...ต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส...เจ็บคอก็กินแต่ข้าวต้มหมูหยอง กินของเบา ๆ แต่พอหาย วันนี้ล่อไป 4 มื้อแล้ว...ต้องควบคุมตัวเองดี ๆ...บางทีพิมพ์เรื่องนี้ไปด้วย ก็หาอะไรกินไปด้วย...
...แล้วเจอกันครับ...
...เป้...